บทที่ 181 - พลังของฮีโร่ (5) [02-06-2020]
บทที่ 181 - พลังของฮีโร่ (5)
”
เพื่อเป็นการแลกเปลื่ยนที่ฉันเป็นพ่อสื่อให้กับเธอ โซฟีจะลืมทุกๆอย่างที่ฉันทำกับโจชัว บริทแมนและได้ทำสัญญาวิญญาณอย่างมีความสุข จากนั้นเธอก็ได้เป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่สามภายใต้สิทธิ์ของวอรี์คเกอร์ แน่นอนว่าเธอก็ยังได้รับพลังของบริทแมนและทำหน้าที่เป็นผู้ป้องกันอังกฤษแทนด้วย เมื่อถึงคราวจำเป็นเธอก็จะยังเข้าร่วมกิลด์รีไวเวิร์ลในฐานะสมาชิก ในท้ายที่สุดแล้วทุกๆอย่างจบลงด้วยดี
ในขณะที่เรากำลังเดินทางไปที่จีน วอร์คเกอร์ก็ได้โกรธราวกับว่าเขาจะกระโดดมากัดฉัน
"คังชิน นายมัน...!"
"นายควรจะทำตัวซื่อตรงมากกว่านี้นะวอร์คเกอร์ มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน"
"เธอสมควรจะได้ในสิ่งที่ดีกว่า"
"นายก็ไม่ได้แย่นี่วอร์คเกอร์"
"นายมัน...น่ารำคาญจริง!"
"เอาเถอะมันถึงเวลาที่จะไปประเทศจีรแล้ว มีอีกหลายคนที่เราต้องจัดการที่นั่น"
"ไม่เหมือนกับที่อังกฤษและอิตาลีองกรเงาฮีโร่นั้นแพร่ขยายมากในประเทศจีน และแบบนี้มันมีแนวโน้มอย่างมากว่าผู้พิทักษ์ของจีนอาจจะมีส่วนเอี่ยวด้วย ฉันรู้สึกมีความสุขกับมันมาก มันเป็นความรู้สึกจะได้เติมเต็มมากขึ้นถ้าหากได้ทำลายมากกว่านี้
ในขณะที่พวกเราเข้าส่วนน่านฟ้าของจีนเครื่องบินเจ็ทหลายลำก็ได้มาล้อมเราไว้ ฉันรู้อยู่แล้วว่าจีนไม่ได้มองฉันในแง่ดี เมื่อฉันเห็นเครื่องบินเจ็ทยิงมา ฉันก็พูดขึ้นอย่างน่าเศร้า
"ล็อทเต้จมพวกนั้นซะ"
[เข้าใจแล้ว]
พวกเราได้กวาดทุกสิ่งที่ข้างทางของเรา เราได้ไปหาสมาชิกของกลุ่มเงาฮีโร่ในรายชื่อที่เราได้มาจากพลังของเดซี่และดึงพลังของผู้ใช้พลังเหล่านั้นมา
สถานการณ์ของจีนได้ตารปัดลงและสื่อต่างๆก็ลุมประนามฉัน แต่ว่าฉันไม่สนใจแม้แต่นิด กลับกันหลังจากที่ได้รับข้อมูลไปจากฉันฮวาหยาก็ได้เปิดเผยในทุกๆอย่างเกี่ยวกับกลุ่มเงาฮีโร่และสิ่งที่พวกนั้นทำ โลกได้สั่นสะเทือนไปอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่เราได้ตระเวนไปทั่วจีนสามชั่วโมงในที่สุดพวกเราก็ได้พบกับผู้ใช้พลังระดับ SS ของจีนซิน เฉาเหม่ย พวกเราตกใจมากที่พบว่าเธอกำลังหลับอยู่ในบ้านพร้อมกับสาวสวยในอ้อมแขนของเธแ
แม้ว่าเราจะสร้างความวุ่นวายในช่วงจัดการผู้ใช้พลังที่ป้องกันด้านนอกอยู่ซิน เฉาเหม่ยและหญิงสาวที่เหมือนตุ๊กตาก็ยังคงหลับสนิท มันรู้สึกอึดอัดมากจากการที่พวกเธอทั้งสองคนนั้นเปลื่อยเปล่า ฉันได้หันไปถามวอร์คเกอร์
"วอร์คเกอร์ทำไมพวกเธอหลับกันแบบนี้ล่ะ"
"ฉันไม่รู้ บางทีพวกเธออาจจะเป็นครอบครัว?"
ใบหน้าของเราได้กลายเป็นสีแดงและเราไม่สามารถจะมองไปตรงๆได้ จากนั้นเดซี่ก็ได้ขัดจับงหวะขึ้น
"ผู้หญิงคนนี้หื่นหลังจาก.... อะ อุ๊บ!"
ฉันได้รีบปิดปากของเธอในทันที
"ฉันเข้าใจแล้ว เธอไม่ต้องพูดก็ได้"
"...มนุษย์นี่แปลกจริงๆ"
เดซี่ดูเหมือนจะพูดในสิ่งที่คิดออกมากำลังเราซึ่งถูกขัดไว้เธอจึงพองแก้มออกมาอย่างโกรธเคือง
เพราะว่าฉันมีสิ่งที่ต้องทำอีกฉันเลยเรียกไพก้าออกมา
"ไพก้าเผาพวกเธอ"
"นายกล้ามากคังชิน!"
"แต่ว่าพวกเธอก็ยังเป็นศัตรูของเราใช่ไหม?"
ซิน เฉาเหม่ยอยู่ในลิสต์รายชื่อของลูก้า บรูโน่แลละในความทรงจำของโจชัว บริทแมน สมาชิกของเงาฮีโร่ส่วนใหญ่ในประเทศจีนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลสูงมาก มันทำให้รู้ว่าจะต้องจัดการพวกเขาให้เรียบร้อย
"นายนี่...."
[พวกเธอทั้งคู่?]
"อ่าเดี๋ยวก่อนนะ เดซี่เธอตรวจสอบได้ไหม?"
"ฉันไม่สามารถจะอ่านใจคนที่หลับได้"
"ถ้างั้นไพก้าก่อนอื่นปลุกพวกเธอ"
[อื้อ]
สายฟ้าของไพก้าได้ย้อมห้องจนเป็นสีท้อง จากนั้นเสียงกรีดร้องสองเสียงก็ดังขึ้นมาในทันที
"กรี๊ดดด!"
"โอ๊ย!"
"ทั้งสองคนเป็นสมาชิกของเงาฮีโร่"
"ไพก้าเผาพวกเธอทั้งคู่"
[อื้อ]
ไพก้าได้ขดตัวรอบๆพกเธอและปล่อยสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ซิน เฉาเหม่ยดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยการที่ไพก้ารัดเธออยู่เธอจึงทำอะไรไม่ได้
"อะ อัศวินสายฟ้า!? ได้ยังไงกัน!?"
"ไพก้า"
[อื้อ]
"กรี๊ดดดดดดดดดด!"
หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของซิน เฉาเหม่ยได้หมดสติไปนานและในขณะที่ซิน เฉาเหม่ยได้ปล่อยมานามาใส่ฉันอย่างหมดท่า ฉันรู้สึกได้ถึงออร่าดีบัพที่แข็งแกร่งของเธอ แต่ว่าฉันไม่แปลกใจนักเพราะฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นจอมเวทย์คำสาป แม้ว่าฉันจะไม่คิดว่าเธอจะใช้มันได้รวดเร็วแบบนี้น แต่ก็มันก็ยังคงต้องโดนเป้าหมายเพื่อใช้งาน ในอีกความหมายถึงคือหากฉันหลบมันได้ มันก็จะไม่มีค่าอะไรเลย
"ทำไมเธอถึงไม่ทำให้ไพก้าอ่อนแอลงล่ะ?"
[นายท่านมันไม่มีทางที่จะทำให้ภูติธาตุอ่อนแอลง!]
"อาาาา....."
ซิน เฉาเหม่ยได้ถูกปลอดหลังจากที่เธอหายใจไม่ออกจนเกือบตาย ยังไงก็ตามเนื่องจากว่าความผิดของเธอนั้นน้อยกว่าลูก้า บรูโน่หรือโจชัว บริทแมน ฉันเลยตัดสินใจที่ฉันหยุดแค่นี้ แม้ว่าเธอจะต้องหารความช่วยเหลือตลอดชีวิตที่เหลือของเธอ แต่ว่าอย่างน้อยก็ก็ได้เดินด้วยขาของตัวเอง
ฉันได้ถึงพลังออกมาจากซิน เฉาเหม่ยในทันที ก่อนที่เธอจะเป็นลมฉันก็ได้ถามออกไป
"เธอได้เข้าร่วมเงาฮีโร่เพราะว่าไม่พอใจอะไรฉันงั้นหรอ?"
"เพราะว่า...! ฉันเพียงแค่ต้องการฮวาหยา มัสติฟอร์ดมาเพื่อตัวฉะ.... กรี๊ดดดดดด"
จากนั้นฉันก็ทำให้เธอเป็นเหมือนกับโจชัว ทันใดันั้นฉันก็ได้รู้สึกถึงกลิ่นบุหรี่ดูเหมือนมันจะมาจากวอร์คเกอร์ หลังจากพ่นควันออกมาเขาก็พูดขึ้น
"มันดูเหมือนว่าคังชินนายจะมีหลายบุคลิกนะ...."
"ใช่ ฉันก็พึ่งจะรู้มันในวันนี้...."
ฉันได้เอาพลังของเธอมาให้วอร์คเกอร์ แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใช้การระยะประชิด เขาก็ทึ่งมากที่พลังของเธอใช้ได้ดี เนื่องจากว่าวิธีการโจมตีหลักของเขาจะเป็นการโจมตีที่ร้ายแรงหลังจากออกมาจากการซ่อนตัวพลังดีบัพของซิน เฉาเหม่ยจะเชี่ยวเขาได้เป็นอย่างมาก ในกรณีนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าประเทศจีนได้สูญเสียผู้ใช้พลังระดับ SS
ในวันนั้นเดซี่ วอร์คเกอร์และฉันก็ได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อไปหาตัวของสมาชิกเงาฮีโร่ด้วยการอ่านความทรงจำของพวกเขา เพราะว่าพวกเราได้เดินทางกันอย่างรวดเร็ว กลางวันและกลางคืนได้เปลื่ยนไปเมื่อเราย้ายสถานที่ ผลลัพธ์ก็คือเราไม่ได้รู้เลยว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว
ด้วยผู้ใช้พลังและองค์กรของพวกเขาที่หายไปจากโลกทำให้ทั้งโลกต่างจับตามองมาที่ฉัน มีแม้แต่ข่าวลือที่ว่ากิลด์รีไวเวิร์ลกำลังต่อต้านผู้ใช้พลังทั้งหมด
หลังจากที่ฉันได้ยืนยันว่ารากฐานของเงาฮีโร่ได้ถูกถอนออกหมดแล้ว ฉันก็ได้กลับมาที่เกาหลีโดยที่ไม่เสียใจเลย ฉันได้โยนเลนท์แห่งความลับไว้ในช่องเก็บของ อย่างน้อยที่สุดบนโลกนี้ฉันรู้ว่าฉันไม่จำเป็นจะต้องใช้มันอีกแล้ว
ฉันได้ทำให้ทุกคนที่ต่อต้านฉันจ่ายในสิ่งที่พวกเขาทำแล้ว ฉันได้ถล่มพวกเขา ยึดพลังของพวกเราและทำให้พวกเขามีปัญหาในการที่จะใช้ชีวิตปกติแบบคนธรรมดา ถ้าหากว่ามีคนที่พยายามจะยุ่งกับฉันอีกแม้ว่าจะเกิดเหตุการแบบนี้ ฉันก็จะไม่ปล่อยเขาคนนั้นไปง่ายๆแน่
ฉันได้ประกาศออกไปอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้และเปิดเผยชื่อของฉัน ฉันได้ประกาศว่าให้ผู้ใช้พลังทั้งหมดได้ยินทั่วกัน
"แม้ว่าถ้าพวกนายมาหาฉันด้วยนาย นายก็ไม่สามารถแม้แต่จะทิ้งแม้แต่รอยขีดข่วนบนนิ้วของฉันได้ ในวันนี้นายคงจะได้เห็นราคาที่ต้องจ่ายสำหรับคนที่กล้ามายุ่งกับฉันแล้วสินะ ฉันนั้นเป็นศัตรูของมอนสเตอร์ กวาดล้างดันเจี้ยนและเพื่อนของมนุษยชาติ ตราบใดที่ไม่มีใครมายั่วยุฉัน ศัตรูของพวกนายก็ยังมอนสเตอร์ ตรายยใดที่นายยังต้องการจะทำลายดันเจี้ยน ฉันก็จะยังเป็นพันธมิตรกับพวกนายอยู่"
การได้ออกทีวีด้วยใบหน้าจริงมันรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย ไม่ว่ายังไงก็ตามมันไม่ใช่เรื่องที่น่าขึกเลยในเมื่อชื่อ ใบหน้า และตัวตนของฉันที่กำลังถูกพูดถึงนั้นเป็นคนที่ไปจัดการผู้ใช้พลังระดับ SS สามคนในช่วงเวลาชั่วข้ามคืนหนึ่ง
แม้ว่าโซฟีจะเข้ามาแทนทีโจชัว บริทแมนในอังกฤษ แต่ว่าจีนและอิตาลีได้สูญเสียผู้ใช้พลังระดับ SS และผู้ใช้พลังไปอีกหลายคนแล้ว แม้ว่าพวกเขาอาจจะต้องการจะฆ่าฉันแต่ว่าพวกเขาก็ไม่สามารถจะทำได้ เหตุการณ์นี้มันได้แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมาหาเรื่องฉัน
ฉันได้กลายเป็นตัวตนที่ไม่สามารถจะถูกแตะต้องได้ ฉันได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
"เจ้าลูกชายมีคลื่นกลุ่มคนกำลังของพวกเราอยู่ที่ทางเขาโรงฝึก"
"ปฏิเสธพวกเขาเถอะ ยังไงพวกเราก็รับเพียงแค่ศิษย์ที่เป็นทายาท พวกเราเรียกมันว่าโรงฝึก แต่จริงๆแล้วมันเป็นที่ไว้ใช้ฝึกซ้อมทำนั้น"
"พ่อควรจะเผยแพร่เทคนิคหอกออกไปดีไหม? ถ้าพ่อได้รวบรวมทุกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการต่อสุ้กับมอนสเตอร์ พ่อจะสามารถสร้างเทคนิคหอกที่ไม่ใช่ไว้สำหรับต่อสู้กับคน แต่เป็นสำหรับต่อสู้กับมอนสเตอร์"
"หืมม มันก็มีวิธีแบบนั้นเหมือนกันสินะ... ถ้าพวกเราทำวิธีสร้างมานาและกระจายออกไป ก็จะทำให้ผู้คนสามารถใช้พลังได้เหมือนกัน"
"...แกต้องการจะลองไหมล่ะ?"
"นั่นมันก็ฟังดูดีนี่พ่อ"
พวกเราได้ไปซื้อวิธีการสร้างมานาทั้งหมดในทันทีที่ร้านขายของและเริ่มวิเคราะห์พวกมัน ไม่ว่าฉันจะมีเลเวลของวงจรเพรูต้าได้มากแค่ไหนมันก็ยังเป็นเทคนิคเฉพาะตัวซึ่งยากที่จะถ่ายทอดให้กับคนอื่น เหมือนกันพ่อ พ่อก็ไม่ได้มีวิธีสร้างมานาที่เหมาะสม มันเป็นผลให้พวกเขาจะต้องตรวจสอบวิธีสร้างมานาหลายๆแบบและเลือกในวิธีทีสอนง่ายที่สุดในการสอนและถ่ายทอดให้คนอื่น
มันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ฉันกับพ่อไม่ได้เข้าดันเจี้ยน พวกเราได้ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างวิธีการสร้างมานา แต่ในท้ายที่สุดพวกเราก็ทำไม่สำเร็จ แต่ว่ายังดีที่พวกเราก็ได้มีความรู้ในเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับมานา
"ดูเหมือนว่าเราจะต้องใช้เวลามากกว่านี้"
"ไว้พวกเรามาทำวิจัยด้วยกันและคุยกันที่หลังเถอะ ผมจะต้องไปบียอนแล้ว"
ฉันได้ออกไปจากโรงฝึกและมุ่งหน้าไปที่บ้าน ในตอนที่ออกมาฉันก็ได้คุ้นเคยกับการเดินข้างนอกและสามารถจะเมินเด็กสาวนักเรียนจากการพากันขอลายเซ็น เมื่อฉันเดินเข้าไปในบ้านฉันก็ได้เจอกับฉากแปลกๆซึ่งก็คือเดซี่กำลังอยู่ที่โต๊ะอาหาร
"โอ้มาแล้วหรอลูก?"
"งั่มๆ"
"กลืนสิ่งที่อยู่ในปากของเธอก่อนที่จะพูดสิ"
"นายมาแล้วชิน หุหุ"
ฉันเคยชินกับรูเดียที่ทักฉันทุกครังที่มาที่บ้านนานแล้ว แต่ว่าเดซี่ล่ะ? เดี๋ยวนะ... ฉันยุ่งทั้งสัปดาห์เรื่องการวิเคราะห์การสร้างมานาและจัดการขยี้บอสประจำชั้น เดซี่ได้อยู่ที่บ้านฉันตลอดเวลาเลยงั้นหรอ...?
"เธอยังไม่ได้กลับไปดันเจี้ยนเลยหรอ?"
"งั่ม งั่ม... ฉันกลับไปแล้ว แต่ว่าอาหารที่นี่มันอร่อยกว่า"
"เธอกลับมาที่นี่เพียงแค่กินเนี่ยนะ!?"
นักสำรวจที่สูญเสียโลกและกลายมาเป็นนักสำรวจอิสระสามารถจะไปโลกอื่นๆได้ผ่านทักษะย้อนกลัย เมื่อพวกเขาได้มาในโลกใหม่นี้พวกเขาก็จะสามารถกลับมาได้หลังจากเข้าดันเจี้ยน นั่นก็เป็นวิธีการที่เดซั่ใช้ไปกลับระหว่างดันเจี้ยนกับโลก ไม่ว่ายังไงก็ตามการที่เธอได้นั่งอย่างสบายใจบนโต๊ะนั่นมันไม่ปกติ เธอดูจะเป็นธรรมชาติยิ่งกว่ารูเดียซะอีก!
"ใครสน? มันไม่ใช่ว่าการกินให้มากเท่าความหิวมันดีหรอ นอกจากนี้เธอก็ยังเป็นเด็กน่ารักอีกด้วย!"
"เด็กสาว?"
แม่เธอมีอายุอย่างน้อยก็มากกว่าแม่ 5 เท่าแล้วนะ! ฉันรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าจากเดซี่ฉันจึงไม่พูดมันออกมา มันดูเหมือนว่าเดซี่ก็อยากจะเชื่อว่าเธออายุ 17 เหมือนโรเล็ตต้าสินะ
"พี่ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม? หนูจะไปเตรียมอาหารให้พี่นะ"
"อ่า ขอบคุณ"
ยุยได้ยิ้มอย่างบางๆและหยิบเกาอี้มาให้ฉัน จากนั้นเธอก็เดินไปในห้องครัวขณะที่ฮัมเพลง หลังจากที่เธอได้พลัง ยุยได้เลิกงอนและกลับไปเป็นนางฟ้าตามเดิม เธอนี่น่ารักจริงๆเลยน่า
ด้วยการใช้มานาของผู้ใช้พลังระดับ SS ยุยได้ไต่มาถึงชั้นที่ 20 ในเวลาหนึ่งสัปดาห์และได้กลายมาเป็นสมาชิกของกิลด์รีไวเวิร์ลอย่างเป็นทางการ
พลังของยุยก็คือเสน่ห์ แม่ว่ายุยจะสามารถทำให้มอนสเตอร์หลงเสน่ห์และโจมตีพวกมันในตอนสับสน แต่ว่าพลังของเธอนั้นเหมาะสมที่สุดในการควบคุมมอนสเตอร์ หรือก็คือธรรมชาติของเธอคือผู้ฝึกมอนสเตอร์ เพราะว่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนไม่สามารถฝึกได้ฉันจึงบอกเธอว่าฉันสามารถจะหามอนสเตอร์ฝึกให้เธอได้ แต่ว่าฉันได้ลืมเรื่องนี้ไปหลังจากคิดค้นคว้าเรื่องการสร้างมานา
แต่ว่าจากสิ่งที่เธอพูดในระหว่างกินอาหารมันดูเหมือนว่าเธอจะได้เรียนรู้วิธีใช้แส่จากเดซี่และผ่านมันมาแล้ว
แม้ว่าพลังของเธอจะเป็นเสนาห์ แต่ว่าเนื่องจากพลังมานาที่มีมหาศาลของเธอมันก็เป็นที่เข้าใจได้ที่เธอจะสามารถฝ่าชั้นที่ 20 มาได้ด้วยเพียงแค่เทคนิคแส้ของเธอ ตามที่เดซี่บอกมา ยุยมีพรสวรรค์ในการใช้แส้
แส้นั้นเหมาะกับผู้ฝึกสัตว์อย่างแน่นอน แต่ว่าไม่ใช่ว่าแส้ก็เป็นเครื่องมือทรมานรด้วยหรอ? การใช้แส้ทำให้ยุยซาดิสต์! นั่นมันไม่ดีเลย... เดี๋ยวก่อนนะ ไม่!
"เมื่อพวกเราพูดเรื่องนี้แล้ว เราก็ควรจะหามอนสเตอร์มาให้ยุย เธอไม่สามารถจะพึ่งแส้ไปได้ตลอดไป"
"ใช่หนูก็อยากจะถามพี่เรื่องนี้เหมือนกัน"
"ก่อนหน้านั้นเดซี่มันมีซากศพที่ฉันลืมจะให้เธอไปด้วย"
"จริงหรอ!?"
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เดซี่มีเครื่องหมายคำถามขึ้นมา ดวงตาสีแดงของเธอได้กระพริบ คงจะเป็นเพราะว่ามันตื่นเต้นจนเธออดใจรอไม่ได้และพยายามจะอ่านใจฉัน ฉันได้ยิ้มออกมาและตักข้าวขึ้นมา
"เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วไปที่บ้านกิลด์ มันใหญ่มากดังนั้นฉันเอามันออกมาที่นี่ไม่ได้
"ใหญ่...เยี่ยมสำหรับเหตุการการจู่โจมฉันต้องการอันเดตตัวใหญ่ๆ"
ในขณะที่ดวงตาเดซี่ได้เป็นประกาย รูเดียได้พึมพัมออกมา
"นายไม่มีอะไรให้ฉันเลย"
"เธอจะทำอะไรกับศพหรอ?"
"ฮึ่ม"
...ฉันได้ตัดสินใจที่จะเตรียมของขวัญให้กับรูเดียเร็วๆนี้
เมื่อเราได้ไปถึงบ้านกิลด์และฉันก็ได้หยิบเอาราชินีตั๊กแตนปีศาจออกมา ซึ่งคนที่แสดงท่าทางออกมาไม่ใช่เดซี่แต่กับเป็นยุย"
"พะ พี่ หนู..."
"ว่าไง?"
"หนู...รู้สึกดีจริงๆ"
ยุยได้เข้าไปหาศพของราชินีตั๊กแตนปีศาจอย่างตื่นเต้น เธอต้องการจะทอดมันและกินมันหรอ? หากเป็นแบบนั้นฉันก็คงจะต้องขอโทษเดซี่ เมื่อคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะบอกเดซี่เรื่องนี้ฉันก็ได้ตามยุยไป ยังไงก็ตามที่ๆยุยหยุดลงก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากถุงไข่ที่ติดมากับเธอ
"อึก! เมื่อไหร่กันที่มันใหญ่ขนาดนี้...? พวกมันตายแล้วใช่ไหม?"
"พี่ เด็กเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่!"
เยี่ยมฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้น ไม่สิ! พวกนั้นสามารถจะรอดได้อยู่ในช่องเก็บของงั้นหรอ?
"โอ้ นั่นมันน่าสนใจมาก"
ด้วยแบบนั้นฉันได้เริ่มเปิดใช้งานไต้ฝุ่นคลั่ง แต่ว่ายุยได้ตะโกนออกมาและหยุดฉัน
"ไม่หนูสามารถเลี้ยงดูพวกเขาได้"
"แต่ว่ายุยถ้าหากมีอะไรผิดพลาด...!"
"มันไม่เป็นไร พวกเขายังไม่เกิดเลย พวกเขายังอยู่ในสถานะบริสุทธิ์"
เธอไม่ได้พูดผิด พวกเราไม่ควรเชื่อมโยงความผิดบาปของเด็กกับพ่อแม่ ถ้ายุยสามารถจะควบคุมพวกนเขาได้พวกเขาก็จะกลายมาเป็นพรรคพวกของเขา เนื่องจากว่าเรามีวิธีในการควบคุมดังนั้นจึงไม่จำเป็นจะต้องมีการฆ่ากันที่สูญเปล่าเกิดขึ้น
"ยุย ถ้ามันดูเหมือนว่ายุยไม่สามารถควบคุมได้ก็บอกพี่นะ"
"แน่นอนค่ะพี่"
ยุยได้ยิ้มออกมาและบอกกับฉันสบายๆ จากนั้นก็ใส่มานาลงไปในถุงไขของราชินีตั๊กแตนปีศาจ ทนันที่หลังจากนั้นถุงไข่ก็เริ่มขยับและถูกฉีกเป็นชิ้นๆ และตั๊กแตนสีขาวนับร้อยก็โผล่ออกมา
"ฮี้"
"ทำไมพวกนี้ถึงเป็นสีขาว? มันเป็นเพราะหัวใจนางฟ้าของยุยหรอ?"
"ตัวอ่อน เพิ่งเกิดนะ"
อะไร ฉันไม่ได้เล่นมุขนะ แน่นอนแม้ว่าฉันจะเล่นมุข ฉันก็ได้เตรียมหอกของฉันในการจัดการพกนี้ ยังไงก็ตามฉันไม่จำเป็นต้องกังวลเลย ตั๊กแตนที่มีขนาดเท่ากับลูกวัวได้ยืนอยู่หน้ายุยราวกับว่าพวกมันรู้ว่าใครเป็นคนช่วยนำทางชีวิตพวกมัน
"ว้าว พวกนี้ทั้งหมดน่ารักมากเลยพี่"
"อ่า ใช่..."
บางทีหลังจากได้รับพลัง ยุยได้เปลื่ยนไปจากน้องสาวที่ฉันรู้จัก แม้ว่าในขณะที่ฉันหยักหน้าก็ยังมีตั๊กแนกระโดดออกมาจากถึงไข่และยืนอยู่หน้ายุย เธอดูเหมือนจะมีความสุขในขณะที่เหวี่ยงแส้และตะโกนออกมา
"เอาล่ะ ตามแม่มา! ไปกินอาหารกันทุกคน!"
[กี้]
[กี้]
ตั๊กแตนกว่าสามร้อยตัวได้ร้องออกมาพร้อมๆกัน แบบนั้นน้องสาวที่น่ารักของฉันได้สั่งการกองทัพตั๊กแตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้ว มันเป็นการเริ่มต้นตำนานของราชินีมอนสเตอร์