ตอนที่ 15 : คนนอก (ตอนสุดท้าย)
ซิสเทมยังมีฟังก์ชันอื่นอีกหรอ? เขาไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?!
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดถึงเรื่องนี้
ถังหยูเปิดแผงควบคุมขึ้นมา เห็นข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้จากระบบ
เขาเห็นชื่อของผู้รอดชีวิตสองคนกำลังอยู่ในอันตรายและกำลังไตร่ตรอง เขาจำได้ว่าพวกเขาถูกส่งออกไปด้านตะวันออกของรีสอร์ทเมื่อเช้านี้เพื่อค้นหาทรัพยากร
แต่ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย?
ซิสเทมไม่สามารถอธิบายได้ละเอียดกว่านี้
ถังหยูยังคงพยายามถามซิสเทมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การตอบกลับมายังเหมือนเดิมซ้ำๆ
เขาคาดว่าสองคนนี้ยังไม่ได้ปะทะกับปิศาจตัวใด อย่างที่รู้ดีว่าปิศาจบริเวณรอบๆของรีสอร์ทนี้ได้ถูกเก็บกวาดไปหมดแล้ว ถ้ามันเป็นปิศาจจริงๆ สองคนนั้นคงจะโดนสังหารทันทีและคงจะไม่มีการแจ้งเตือนส่งมา เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้น่าจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ก็ถูกจับตัว
ถังหยูรีบส่งข้อความผ่านพลังของเขา เขาส่งไปให้อีไลน์ โรเจอร์ และหมายเลขสองให้ออกเดินทางในทันที
.....
ฮั่นจิงรวบรวมสมาชิกทีมของเขาไปที่รีสอร์ท และแน่นอน เขาเห็นร่องรอยของมนุษย์อยู่ตามเส้นทาง
เมื่อมาถึงหวังโจว เขาไม่เชื่อคำพูดของตัวเองแม้แต่น้อย... หัวหน้ามอบหมายงานนี้ให้เขา ไม่ใช่เพราะเขาแข็งแกร่งที่สุด แต่เพราะเขาทำงานให้หัวหน้ามาเป็นเวลาหลายปีและได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ผลก็คือฮั่นจิงควบคุมปัจจัยทุกอย่างที่จะเข้ามาขัดขวางการลุล่วงของภารกิจด้วยความระมัดระวัง
ฮั่นจิงสำรวจบริเวณรอบๆระหว่างการเดินทางด้วยความระมัดระวัง เขารู้สึกตลกอยู่ในใจ
มีซากศพของพวกปิศาจอยู่มากมายทั่วพื้นที่ของรีสอร์ท หลายศพถูกทิ้งเอาไว้จากกองกำลังของเหล่ามนุษย์เมื่อตอนที่ฝูงปิศาจบุกเข้ามาโจมตีฐานที่มั่น แต่ถึงอย่างนั้นฮั่นจิงก็สำรวจด้วยความระวังเป็นพิเศษ เขาพบว่ามันมีบางศพของพวกปิศาจที่เพิ่งจะถูกสังหารไปไม่นาน ปิศาจพวกนี้มันไม่ได้ถูกสังหารในวันที่พวกมันบุกเข้ามา
มันแสดงให้เห็นว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่ผู้รอดชีวิตธรรมดาๆอย่างที่หวังโจวเคยพูดเอาไว้ บางทีทีมอื่นๆอาจจะหวังว่าคนเหล่านี้ที่เป็นผู้ปลุกพลังจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้
ฮั่นจิงคิดว่ามันตลกดี
นอกจากเขาแล้ว ยังมีผู้ปลุกพลังขั้นสามอีกสองคนและผู้ปลุกพลังขั้นสองอีกสองคนในทีม ยิ่งกว่านั้นยังมีปืนและกระสุนทุกประเภท หรือแม้แต่ปืนที่มีอาณุภาพสูง มันคงไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงถ้าจะบอกว่าแม้แต่ฐานที่มั่นขนาดเล็กๆก็คงต้องยอมให้แก่ทีมของเขา พวกเขามีกำลังอาวุธอยู่มากกว่าฐานที่มั่นส่วนใหญ่อย่างแน่นอน
มันคือความต่างชั้นระหว่างกองกำลังขาดใหญ่และขนาดเล็กที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยมุมมองแคบๆที่มีให้กับโลกใบนี้
“แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าพวกคนเหล่านั้นเข้ามาหาเราเองด้วยความสมัครใจ มันก็จะช่วยประหวัดเวลาของพวกเราในการค้นหาคนพวกนั้น เราไม่สามารถล้มเหลวในภารกิจนี้ได้ ใครก็ตามที่ทำข่าวนี้รั่วไหลออกไปจะต้องเจอกับผลของการกระทำนั้นเพียงอย่างเดียว”
จากตอนแรกเริ่ม ฮั่นจิได้กำหนดเอาไว้แล้วว่าผู้รอดชีวิตจะต้องตาย แม้ว่าเขาจะรู้ดีอยู่แล้วว่าคนพวกนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหมืองคริสตัลต้นกำเนิด แต่โชคร้ายที่ภารกิจนี้มันต้องเก็บเป็นความลับ และพวกเขาเองก็เข้าใกล้เหมืองคริสตัลต้นกำเนิดมากแล้วด้วย เพื่อที่จะป้องกันการค้นพบของเหมืองคริสตัลต้นกำเนิดในอนาคตนั้น ฮั่นจิงจึงต้องหยุดทุกความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น พวกผู้รอดชีวิตทำได้แค่พวกโทษความโชคร้ายของพวกเขาเองก็เท่านั้น...
เขาชำเลืองมองไปที่หวังไทที่เป็นคนเดินนำทาง มันมีบางสิ่งสะดุดที่ปลายตาของเขา
“กัปตันฮั่น ด้านหน้าของเราเป็นบริเวณวิลล่าซึ่งมันเป็นจุดศูนย์กลางของรีสอร์ท ตลอดทางที่ผ่านมาเรายังไม่พบผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว อาจจะเป็นไปได้ที่พวกมันที่เหลือจะอยู่ที่นั่น”
หวังไทยังไม่รู้ว่าฮั่นจิงเตรียมอะไรไว้ให้เขา
เขาคิดเพียงว่าหลังจากเสร็จสิ้นการเดินทาง เขาจะเอาของที่เขาซ่อนเอาไว้กลับไปและติดต่อกับหัวหน้าใหญ่ เขาคิดเอาไว้ว่าเขาจะไปที่หลินตงและสามารถสร้างที่อยู่ในอาศัยที่สามารถกันลมและฝนให้เขาได้
ฮั่นจิงตอบสนองอย่างช้าๆ ทันทีที่เดินไปด้านหน้าของสมาชิกทีมเขาเห็นว่าสมาชิกคนอื่นๆกำลังมองขึ้นไปที่วิลล่า
เขาเห็นคนอยู่สองคนที่นั่น ยืนอยู่ครึ่งทางของทางขึ้นภูเขา มองลงมาที่พวกเขาด้วยความเย็นยะเยือกมีแสงอาทิตย์ส่งลงมาจากด้านหลัง
ฮั่นจิงยิ้ม
เขาเชื่อว่าเหล่าผู้รอดชีวิตคิดว่าพวกเขาสูงส่ง
เขาสัมผัสได้ว่าในสองคนนั้น มีเพียงคนเดียวที่เป็นผู้ปลุกพลัง
เขาสงสัยว่าถ้าสองคนนั้นรู้สึกได้ถึงออร่าของเขา สองคนนั้นจะกลัวจนสติแตกเลยหรือเปล่า?
“กัปตัน ดูการแต่งตัวของพวกนั้นแล้ว อาจจะคิดว่าเป็นพวกซุปเปอร์ฮีโร่”
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากสมาชิกทีมดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา
ฮั่นจิงรู้สึกรังเกียจจากก้นบึ้งของหัวใจ
ครึ่งทางบนภูเขา มีสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งเป็นผู้ชาย ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิง คนหนึ่งใส่ชุดเกราะและอีกคนสวมผ้าคลุมเวทย์ ทั้งคู่ดูงดงาม เขาไม่เข้าใจว่าพวกนั้นคิดอะไร คนพวกนั้นคิดว่าจะกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ถ้าใส่ชุดสวยๆพวกนี้เหรอ?
อุปกรณ์ที่ดีมันมีประโยชน์แค่ตอนใช้งานจริงเท่านั้น
ชุดต่อสู้ที่เขาใส่ รวมไปถึงเสื้อเกราะ เกราะแขน รองเท้าบูท หมวกเกราะ เกราะขาและอื่นๆ มันไม่ได้ดูโดดเด่นนัก แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในฐานที่มั่นหลินตง
นี่คืออุปกรณ์ที่จะรักษาชีวิตได้จริงๆ ไม่ใช่ชุดที่เน้นไปที่ความสวยงาม
ฮั่นจิงโบกมือและพูดว่า “ทีมหนึ่ง ขึ้นไปจับสองคนนั้นไว้”
ผู้ปลุกพลังหลายคนก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปด้วยความเร็ว
ระยะทางขนาดนี้มันไม่ไกลเลยสำหรับผู้ปลุกพลัง
ครึ่งทางขึ้นภูเขามันเหมือนยืนอยู่บนหญ้า
ถังหยูส่ายหัวส่งสัญญาณบอกอีไลน์ว่าอย่าโจมตีก่อน
พวกผู้ปลุกพลังค่อยๆเข้าใกล้มาเรื่อยๆ
ในมุมมองของคนพวกนั้น เห็นสองคนนี้เป็นเพียงปลาสองตัวที่อยู่บนเขียงรอเชือดแล้ว
แต่มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ?
ถังหยูยิ้มเช่นกัน
แน่นอนอยู่แล้ว เขารู้ดีว่ากลุ่มคนพวกนี้มีความสามารถอยู่ระดับไหน
ด้วยออร่าและจำนวนคน ทั้งคู่รวมกันมันดูทรงพลัง นี่คือกลุ่มของผู้ปลุกพลังที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยต่อสู้ด้วยตั้งแต่วันโลกาวินาศได้เกิดขึ้น
บางทีคนพวกนี้อาจจะมาจากสถานที่ๆไม่ธรรมดา
หรือบางทีพวกเขาอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่
สิ่งพวกนี้มันไม่ได้มีความหมายอะไร สิ่งที่สำคัญจริงๆก็คือเขาเห็นคนของเขาสองคนอยู่ในสถานะ “ถูกจับ” และไม่ได้อยู่ในสภาพที่ปกติ
ฮั่นจิงเล็งไปที่ถังหยู เขาอยากจะดูว่าสองคนนั้นจะตอบโต้อย่างไร
ในตอนนี้ สมาชิกทีมของเขาได้เข้าไปเกินครึ่งของระยะทางแล้ว แต่สองคนนั้นยังคงยืนซื่อบื้ออยู่ ไม่มีการโจมตีหรือหนีแต่อย่างใด…
พวกเขาจะกลัวจนสติหลุดไปแล้วงั้นหรือ?
หรือว่าสองคนนี้จะสิ้นหวังในสถานการณ์แบบนี้?
“ตู้มมม!!”
มันเหมือนมีอะไรระเบิดอยู่ทางด้านขวามือ เศษหินปลิวว่อนไปทั่ว มีเงาๆหนึ่งพุ่งลงมาที่พื้นเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ พุ่งไปด้วยความเร็ว!
ความเร็วของเงาๆนี้มันเร็วมาก สมาชิกในทีมพวกนี้ไม่สามารถตอบโต้การโจมตีได้ทันในขณะที่พวกเขากำลังโฟกัสไปที่ด้านข้างของภูเขา มันเหมือนกับโดนรถบรรทุกชนเข้าอย่างจัง ร่างกายของคนๆหนึ่งถูกกระแทกปลิวไปข้างหลังและที่หน้าอกของชายคนนั้นเป็นรูเปิดกว้างให้ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจน เลือดของชายคนนี้สาดกระจายไปทั่วพื้นในขณะที่ตัวยังลอยปลิวอยู่บนอากาศ
ฮั่นจิงตกใจมาก
คนๆนั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งและเร็วที่สุดในทีมของเขา แต่มันก็ยังช้าเกินไปที่จะตอบโต้ได้ทัน
เงาๆนั้นเร็วมาก ทำให้เขามองเห็นได้เพียงลางๆว่าเงาๆนั้นเป็นคนที่สวมชุดเกราะสีฟ้าปนสีขาว
มันคือชุดเกราะหรือ?
ฮั่นจิงยังคงสงสัยในสิ่งที่เขาเห็น!
เงานั้นพุ่งมาเป็นเส้นตรง กระแทกสมาชิกในทีมอีกสองคนกระเด็นออกไปและเงาๆนั้นก็ไปหยุดลงตรงด้านหน้าของผู้รอดชีวิตสองคนที่ถูกมัดอยู่
ในตอนนี้เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันคือคนที่ใส่ชุดเกราะสีฟ้าขาว หอกยาวที่ร่ายรำและฟันลงไปที่เชือก เชือกที่มัดตัวของทั้งสองได้ขาดออก ปลดปลดสองคนนั้นให้เป็นอิสระ
นี่คือผู้ที่แข็งแกร่ง
ฮั่นจิงคิดได้ในทันที
ไม่แปลกใจเลยที่ผู้รอดชีวิตสองคนนั้นมั่นใจมาก เขาไม่ได้มีแผนที่จะมาต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่ว่าคนๆนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอาวุธที่มีอานุภาพสูงได้ บางทีท่านผู้นี้อาจจะสามารถหลบลูกกระสุนจำนวนหนึ่งได้
ฮั่นจิงสนุกกับการที่ได้มองดูผู้คนจมลงไปในนรกเหมือนกับว่าเขายืนอยู่บนความเร็จ
“ยิง!”