บทที่ 176 - สิ่งที่เธอไม่ได้รับอนุญาต (7) [23-05-2020]
บทที่ 176 - สิ่งที่เธอไม่ได้รับอนุญาต (7)
”
ฮวาหยาได้ยืนอยู่ข้างๆรูเดียและมองมาที่โรเล็ตต้า มันเป็นเพราะว่าโรเล็ตต้ายืนอยู่ข้างๆฉัน เยอึนก็ยังตกอยู่ในอากาศตกใจในขณะที่เดซี่ก็ยังคงยุ่งอยู่กับการเคลื่อนย้ายศพโดยไม่สนว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่
"ชินผู้หญิงนั่นเป็นใคร?"
"เธอคือโรเล็ตต้าเจ้าของร้ายขายของประจำฉันและเป็นหัวหน้ากิลดืผู้ดูแลคนหนึ่งในดันเจี้ยนที่หนึ่ง"
"สวัสดี ฉันชื่อโรเล็ตต้า เธอเป็นสมาชิกกิลด์ของชินใช่ไหม? ยินดีที่ได้พบนะทุกคน"
"หัวหน้ากิลด์ผู้ดูแล...? เธอไม่ใช่นักสำรวจ?"
ฮวาหยาได้ผงะไป จากนั้นก็ถามด้วยเสียงที่ผ่อนคลายมากขึ้น
"ฉันเข้าใจผิดสินะ มันดูเหมือนว่าสัญชาตญาณของฉันมันจะผิดไป"
"และฉันก็ยังเป็นภรรยาของชินในอนาคต"
"ฉันรู้แล้ว!"
"ศัตรู...!"
ด้วยคำประกาศสถานะของโรเล็ตต้า รูเดียและฮวาหยาได้เข้าสู่โหมดต่อสู้ในทันที โรเล็ตต้ามีแนวโนมว่าจะชั่งใจเอาไว้ แต่มันดูเหมือนว่าฮวาหยาและรูเดียจะเปิดก่อน บอลเพลิงได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศและพื้นดินในส่วนก็เริ่มแตกออก ฉันได้กลัวว่าพวกเธอจะเปลื่ยนคฤหาสน์นี้เป็นสนามรบล้าง ดังนั้นฉันจึงหยุดพวกเธอด้วยเสียงถอนหายใจ
"โรเล็ตต้าอย่าโกหกสิ พวกเธอก็ด้วยช่วยใช้พลังของพวกเธอเพื่อสิ่งไร้ประโยชน์สิ"
"โกหก? จริงๆหรอ?"
"มันไม่ได้ไร้ประโยชน์ มันเพื่อความยุติธรรม"
"ยะ อย่าโกรธเลยนะชิน ฉันขอโทษ"
มันเป็นปกติที่โรเล็ตต้าจะทำเมื่อเจอกับคนอื่นๆและฉันก็รู้ว่าฮวาหยาและรูเดียก็จะทำแบบนี้ แต่ว่าถ้าพวกเธอต่อสู้กันจริงๆมันก็จะจบลงด้วยการที่ฮวาหยาและรูเดียถูกลงโทษโดยกิลด์ผู้ดูแลโดยที่ไม่สนว่าโรเล็ตต้าจะเป็นคนยั่วยุหรือไม่ ดังนั้นฉันจึงเตือนพวกเธอ
"โรเล็ตต้า ฉันแน่ใจนะว่าเธอล้อเล่น แต่ว่าอย่าได้ก่อปัญหา เข้าใจไหม?"
"ตะ แต่ฉันไม่ได้ล้อเล่น... ฉันพูดจริง... ชินโกรธฉัน ชิน...."
โรเล็ตต้าได้ห้อยหูลงมา มันดูเหมือนว่าเธอจะตกใจมากที่เดียวในขณะที่ตาของเธอเริ่มมีน้ำตา ฉันอาจจะกอดเธอไว้ แต่ว่าฉันก็ไม่ได้พูดอะไร ฉันได้หันไปหาฮวาหยาและรูเดีย
"ฮวาหยา รูเดีย โรเล็ตต้าเธอไม่ใช่ศัตรู เธอเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยฉันมาเป็นเวลานานน พวกเธอกำลังหยาบคายกับเธอนะ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเธอเพียงแค่ล้อเล่น นอกจากนี้นฉันควรจะเป็นคนโกรธกับมุขของเธอ ไม่ใช่เธอ"
"ชิน ฉันบอกความรู้สึกของฉันกับชินแล้ว มันเป็นปกติที่ฉันจะโกรธ"
"ฉะ ฉันด้วย! ฉันจะลำบากนะถ้าชินไปหาคนอื่น!"
"ให้ฉันพูดให้เคลียร์เลยนะ"
ฉันได้สูดหายใจเข้าและออก จากนั้นฉันก็พูดต่อไป
"จนกว่าฉันจะแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ได้ ฉันจะไม่คบกับใคร"
บรรกาศได้ผ่อนคลายลง แต่ว่าฉันไม่ได้หยุด
"ฉันคิดว่าฉันจะพูดมาก่อนเหมือนกัน แต่ว่าฉันไม่มีโอกาศ ฉันยุ่งอยู่แล้วกับการเคลียร์ดันเจี้ยนและต่อสู้กับมอนสเตอร์ แล้วฉันจะหาเวลามายุ่งกับเรื่องความสัมพันธ์ได้ยังไง? แม้ว่าถ้าฉันมีเวลา ฉันก็อยากจะได้ความสงบในจิตใจเหมือนกัน แม้ว่าตอนนี้ฉันจะสับสนเพราะพวกเธอทุกคน พวกเธอทุกคนต่างก็มีเสน่ห์ แต่ว่าทุกคนกลับบอกว่าชอบฉัน ฉันไม่สามารถเพียงแค่เลือกพวกเธอคนหนึ่งเหมือนกับเลือกมหาลัยได้นะ ฉันจะต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ว่าในตอนนี้ฉันไม่มีเวลาเหลือแล้ว! แม้ว่าฉันจะต้องพลาดโอกาสทองที่จะไม่กลับมาอีกในช่วงชีวิตของฉันและทุกคนไม่ชอบฉันแล้ว แม้ว่าฉันจะต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตก็ตาม! ฉันยังไม่สามารถตัดสินใจได้! ความรักมันไม่ได้อนุญาตให้ฉันมีมันได้ในตอนนี้ เข้าใจไหม?"
"ฮ่าๆๆๆ เจ้าลูกชายพูดมันแล้ว"
"ยะ ยอดเลย โอกาสทอง ฮ่าๆๆ"
"...อื้อ"
พ่อและวอร์เกอร์ได้ระเบิดหัวเราะออกมาในขณะที่ฮวาหยาได้หยักหน้าและคนอื่นๆก้มหัวของ แก้มของฮวาหยาได้แดงขึ้น
"นั่นมันเป็นการพยายามที่ดีเลย ฉันไม่สามารถจะพูดได้ว่าฉันมีความสุขที่ชินตัดสินใจไม่ได้ แต่ว่าฉันจะปล่อยมันไว้"
"เธอแน่ใจกับความมั่นใจนั้นนะ"
"แน่นอน ฉันคือผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก แต่ว่าเพราะเธอไม่ได้มาจากโลกขอพวกเรา ฉันก็จะปล่อยให้ชินได้มีเวลาในการพิจารณา"
"ฉันชอบชินเหมือนกัน... ฉันเป็นคนแรกที่สารภาพอีกด้วย... ฉันเกลียดพี่สาว"
"แต่จำไว้นะ ฉันจะไม่ปล่อยชินไปจนกว่าชินจะตกหลุมรักฉัน ฉันบอกชินไปแล้วใช่ไหม? สิ่งสำคัญคือฉันชอบนายดังนั้นจงเตรียมตัวให้ดี ไอน่ากลับกันเถอะ"
"โอเคค่ะแม่"
"อ่า พี่สาว ฉันด้วย"
ฮวาหยาได้เก็บบอลเพลิงของเธอกลับไป จากนั้นด้วยท่าทางไม่สบายใจเล็กน้อยเธอได้เอาไอน่าไปจากฉันและเข้าไปในคฤหาสน์ สุมิเระก็ได้มองมาที่ฉันครู่หนึ่งแล้ววิ่งตามฮวาหยาไป
ในขณะที่ฉันกำลังชั่งน้ำหนักของคำพูดฮวาหยาในหู โรเล็ตต้าก็กระพือหูของเธอและตะโกนออกมา
"ฉะ ฉันก็จะรอเหมือนกัน!"
"เธอพูดแบบนั้น แต่ว่าช่วยเก็บขวานไปได้ไหม"
"นะ นั่นมัน...ขอโทษ ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรทำ แต่ว่าฉันกังวลเรื่องแมวขโมย วันนี้ฉันขออโทษนะ ฉันจะกลับไปและคิดเกี่ยวกับมัน ดังนั้นมาปลอบฉันภายหลังด้วยนะ"
"ฉันไม่คิดว่าเธอจะพูดว่าเธอจะกลับไปคิดในเมื่อเธอบอกให้ฉันไปปลอบเธอ..."
"ถ้างั้นไว้เจอกันนะคะคุณพ่อ"
หลังจากบอกลาพ่ออย่างสุภาพโรเล็ตต้าก็หายตัวไปจากสวนมาเรียเน่ ฮวาหยาและรูเดียพายุทั้งสองได้พัดผ่านไปแล้วอย่างปลอดภัยทำให้ฉันอดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้
จากนั้นเดซี่ก็เดินเข้ามาหาฉัน เธอดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรกับทุกๆสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นไปเลย เธอเพียงแค่แสดงออกมาอย่างร่าเริงกับการได้ศพใหม่ๆของเธอ
"ฉันได้ใช้ทักษะของฉัน เป็นครั้งแรกหลังจากไม่ได้ใช้ ฉันหิว"
"เดซี่ทำไมเธอถึงมาถามฉันแท....เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้นกับศพทั้งหมด?"
"ช่องเก็บของ ฉันจะจ่ายเงินไหม?"
"ไว้ทีหลัง สำหรับตอนนี้เราไปที่คฤหาสน์กันเถอะ ฉันจะต้องแนะนำเธออย่างถูกต้องกับทุกๆคน นอกจากนี้....ฉันจะทำซาซิมิทูน่าที่ยอดเยี่ยมให้เธอได้กิน"
หลังจากที่ได้ยินคำว่า 'ซาซิมิทูน่า' พ่อและวอร์คเกอร์ก็ได้ลุกขึ้นอย่างช้าๆและเดินเข้าไปในคฤหาสน์ เมื่อฉันกำลังจะชวนคนอื่นๆเข้าไป ฉันก็สังเกตุเห็นว่ารูเดียหายไป
"เยอึน รูเดียไปไหนล่ะ?"
"เธออพาชูน่าไปดันเจี้ยนแล้ว เธอดูเหมือนจะลำบากมากๆ ฉันกังวลว่า..."
"...ฉันจะส่งข้อความไปหาเธอทีหลัง สำหรับตอนนี้ไปกันเถอะ"
สิ่งที่ฉันพูดไปอาจจะทำให้รูเดียตกใจ เธอจะต้องพึ่งพาฉัน แต่ว่าสิ่งที่ฉันพูดไปในวันนี้มันไม่ต่างกับการบอกว่าสถานะเดิมจะเปลื่ยนไป บางทีเธอก็อาจจะจินตนาการถึงอนาคตที่ไม่มีฉัน
ฟู่... นี่มันซับซ้อนจริงๆ
"อืม ชิน"
"หืม?"
ก่อนที่ฉันจะรู้ตัวเยอึนได้เข้ามาหาฉัน ดวงตาของเธอได้สั่นไปอย่างฉับพลัน
"เป็นฉันไม่ได้หรอ? ฉันไม่มีเสน่ห์ต่อชินสักนิดเลยหรอ?"
"แน่นอนว่าไม่ได้ อย่าพูดเรื่องเหลวไหลเลย"
"แต่ว่าฉันเป็นเพียงแค่เด็กสาวปกติ..."
"ปกติ? เธอนั้นมีเสน่ห์และไม่เหมือนใครนะ"
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอต่อสู้กับมอนสเตอร์ เพราะการที่ฉันไม่ได้เพิ่มส่วนสุดท้ายไปทำให้เยอึนดูจะรู้สึกดีขึ้นมา
"ฮิฮิ ขอบคุณนะ ฉันชอบชินมาก"
"ใช่ๆ ฉันก็ชอบเธอเหมือนกัน"
"ถ้างั้นวันนี้เป็นวันของเราใช่ไหม?"
"คำตอบของฉันยังคงเหมือนเดิม"
"ชิ"
"เอาล่ะไปกันเถอะทุคนกำลังรออยู่ ฉันไม่อยากเห็นสภาพพ่อตอนโมโหหิวนะ"
"อื้อ"
"น้ำตาลในเลือด...ต่ำ เดินไม่ได้"
ในขณะที่ฉันล้อเล่นกับเยอึน ฉันก็ได้ลากเดซี่ที่ง่วงมากๆหลักจากเล่นกับศพเข้าไปในคฤหาสน์ ในเวลานี้พวกเราได้จัดการเคลียร์ทูน่าละลายได้สี่ส่วนจากที่เหลือแล้ว
ในระหว่างช่วงอาหารค่ำฉันก็ได้แยกตัวออกมาจากบ้านกิลด์ แม้ว่ามันจะดีถ้าฉันใช้เวลาร่วมกับพวกเขา แต่ว่ายังมีสิ่งสำคัญที่ฉันจะต้องทำอยู่นั้นก็คือการเอาของจากโอเกอร์สองหัวมาให้หมด ถ้าฉันเผลอผ่อนปลนไปและมันจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ฉันไม่เต็มใจนักที่ปฏิเสธคำชวนดื่มของพ่อและหนีมาลงดันเจี้ยน
แต่เพราะว่าวอร์คเกอร์ก็อยู่ที่นั่นพ่อก็คงจะไม่เหงา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สนิทกันในตอนแรก แต่ว่าเขาก็ได้สนิทกันหลังจากที่ได้ดื่มด้วยกัน ฉันต้องการจะให้วอร์คเกอร์เข้าร่วมกิจกรรมของกิลด์ด้วยตัวเองโดยไม่ใช่เพราะสัญญา ดังนั้นมันเป็นการดีที่สุดที่เขาได้สนิทกับคนในกิลด์
วอร์คเกอร์นั้นไม่ได้เป็นนักบุญ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นปีศาจเหมือนกัน เขาเป็นเพียงคนที่ขวางโลก แต่พอได้คุยกับเขาฉันก็ตระหนักได้ว่าเขาได้ใช้ชีวิตมาแต่ในกรงขังเท่านั้น เพราะอย่างนั้นเขาจึงมีความคิดที่เอนเอียงไปทางด้านที่มืดมิด จึงทำให้เขาเป็นคนที่เย็นชาและเห็นแก่ตัว
แต่ยังไงก็ตามนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป นั้นมันไม่ใช่วิถีชีวิตที่เหมาะสมและปกติ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถบอกได้ว่าของฉันปกติก็ตาม
ดูเหมือนว่าเขาจะค่อนๆเปลื่ยนไปที่ละขั้นในตอนที่ทำงานร่วมกับพวกเรา ฉันสามารถบอกได้เลยว่าเขากำลังเปิดใจให้กับคนในกิลด์ เขาได้ล้อเล่นกับฉันแม้ว่าฉันจะตีเขาไปหลายครั้งและบังคัยเขาทำสัญญา
ฉันมั่นใจว่ามันจะต้องมีสักวันที่สัญญานั่นมันจะไม่ใช่สิ่งจำเป็น ฉันอยากให้วันนั้นมันมาถึง
****
ฉันมีความคิดว่าอิลิเซอร์ซักชนิดจะดรอปจากโอเกอร์สองหัว ในเมื่อตอนที่ฉันต่อสู้กับหมาป่ายักษ์ที่ชั้น 45 มมันก็ยังมีการดรอปอิลิเซอร์ที่เพิ่มพลังให้กับรอยสัก เมื่อฉันได้คุยกับเร็นเขาก็ยังได้บอกว่ากำลังล่าอิลิเซอร์ในชั้นที่ 55 ดังนั้นฉันจึงมั่นใจ
[เลือกรางวัลของคุณ]
[1.อิลิเซอร์เสริมพลังรอยสักโอเกอร์
2.เข็มขัดหนังโอเกอร์สองหัว]
ในสายตาของฉันอิลิเซอร์มันเหมือนกับของจากพระเจ้า ฉันได้เลือกมันมาและดื่มลงไปในปาก ทันทีหลังจากนั้นรอยสักบนแขนของฉันก็เรืองแสงสีแดง อิลิกเซอร์นี้จะต้องมีผลที่เหมือนกับรอยสักหมาป่า...
[รอยสักโอเกอร์สองหัวของคุณได้ถูกเสริมพลัง ความแข็งแกร่งเพิ่ม 0.5% และความอดทนเพิ่มขึ้น 1 ในฐานะที่คุณมีรอยสักโอเกอร์ยักษ์สองหัวความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอีก 0.5% และความอดทนเพิ่มอีก 1]
ในขณะที่ฉันคิด มันก็ได้มีโบนัสเพิ่มเติม! ฉันได้งอแขนและแทงหอกออกไปในอากาศหลายครั้ง ไม่มีนักสำรวจคนอื่นที่มีรอยสักนี้ ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่มีมัน
มันได้ให้โบนัสที่เสริมจากรอยสักโอเกอร์ตามปกติถึงเท่าตัวนี้
'ครั้งแรก นเป็นคำที่หอมหวานจริงๆ ชั้นที่ 55 เยี่ยมที่สุด'
"เอาล่ะ ถ้างงั้นก็ได้เวลาไปลุยกันต่ออีกครั้งแล้ว"
[ค่ะเจ้านาย ถ้ามันเพียงแค่นี้ ฉันสามารถจะไปได้เป็น 100 ครั้งโดยไม่เหนื่อยเลย]
"ฉันก็อยากจะทำ..."
มานาของดันเจี้ยน ผลของนักสำรวจคนอื่นและอะไรพวกนี้ มันดูเหมือนว่าระบบของดันเจี้ยนจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก แม้ว่าตั๋วนี้มันจะดูเหมือนกระดาษธรรมดาๆ มันก็ยังเต็มไปด้วยการจัดเรียงของมานาที่ซับซ้อนมากจนแทบจะไม่สามารถเข้าใจได้ นอกจากนี้มันยังทำมาจากวัสดุที่พิเศษอีกด้วย ฉันมั่นใจได้เลยว่าราคาที่ฉันซื้อมามันเป็นราคาที่ลดลงไปมากแล้ว
ด้วยความคิดแบบนั้น ฉันได้ออกมาจากห้องบอส เมื่อโรเล็ตต้าได้เห็นฉันมาหูของเธอได้กระพือด้วยรอยยิ้มเบิกบาน จากนั้นหูของเธอก็ตกลงมันดูเหมือนกับว่าเธอจะจำได้ว่าฉันดุเธอ
"มาแล้วหรอชิน?"
"ใช่ถึงอย่างนั้นฉันจะกลับไปอีกรอบ"
แม้ว่าฉันจะไม่ตั้งใจตอบกลับไปอย่างฉับพลับ แต่โรเล็ตต้าก็ได้หดตัวเล็กน้อยและถามออกมาอย่างระวัง
"ชิน..ยังโกรธหรอ?"
"ไม่ ฉันไม่ได้โกรธแต่แรกแล้ว มันเป็นเพียงแค่ฉันไม่ชอบการที่เธอโกหกเพื่อยั่วยุคนอื่นๆนะ"
ด้วยแบบนี้โรเล็ตต้าก็คงจะไม่ล้อเล่นแบบนั้นแล้ว เมื่อฉันได้มองไปที่เธอด้วยความคิดแบบนั้น โรเล็ตต้าก็ได้เริ่มน้ำตาไหล ไม่สิเธอร้องไห้
"....ฮิค ฮิค ฉันเหงา ฮิค ฉันไม่อยากให้ชินเกลียดฉัน"
"โรเล็ตต้า"
"ฉะ ฉันจะไม่ทำมันอีกแล้ว ฉันจะไม่ล้อเล่นแบบนั้นอีก ดังนั้นอย่าเกลียดฉันนะ ฮิค ฉันเหงา ฉันเหงา...!"
ฉันต้องอยู่ที่นี่อีกครึ่งชั่วโมงเพื่อปลอบใจโรเล็ตต้าที่ร้องไห้ ผู้หญิงที่มีอายุกว่า 2000 ปีมาร้องไห้เหมือนกับเด็กวัยรุ่นได้ยังไงกัน!? มันน่ารักไปแล้ว!