ตอนที่ 24 วินคัลเลอร์ปะทะไทม์

วัดเยือกแข็งตั้งอยู่ในโลกดีไวน์ของเกม เป็นสถานที่ที่เหล่าเทวดาจะบูชาเทพแห่งแสง อาคารสีฟ้าขาวตั้งตระหง่านท่ามกลางกลุ่มก้อนเมฆ ภายในวัดกว้างขวางพอที่จะบรรจุผู้คนได้เป็นพันๆคน ดูอลังการมาก

แผนที่วัดเยือกแข็งที่ใช้ในการแข่งขันถูกย่อส่วนลงมา และเหล่าการ์ดของเผ่าเทวดาก็ถูกนำออกไป ภายในโล่งมาก มีเพียงแค่คริสตัลสีแดง น้ำเงิน และขาวเท่านั้นที่ปรากฎตัวขึ้นภายในห้องที่เชื่อมติดกัน

การที่คริสตัลอยู่ใกล้กันอย่างนี้ถือว่ายากมากที่สุด ถานสือเทียนเลือกแผนที่นี้ แสดงให้เห็นว่าเขามั่นใจในความสามารถแบบทีมของไทม์

กรรมการกดปุ่มให้สัญญาณ และการแข่งขันแบบทีมก็เริ่มต้นขึ้น

แผนที่วัดเยือกแข็งคล้ายกับนาฬิกา จุดที่12นาฬิกาคือจุดเกิดขึ้นทีมวินคัลเลอร์ จุดที่1นาฬิกาเป็นจุดของคริสตัลสีแดง จุดที่2นาฬิกาเป็นจุดของคริสตัลสีขาว และจุดที่3นาฬิกาเป็นจุดของคริสตัลสีฟ้า ส่วนจุดที่4นาฬิกาเป็นจุดเกิดของทีมไทม์ พูดอีกอย่างก็คือ ทั้ง5 จุดที่กล่าวมาข้างต้นมีรูปร่างเหมือนกับพัด และคริสตัลถูกทั้งสองทีมประกบอยู่ตรงกลาง

ตามกฎของลีกมิราเคิล คริสตัลสีแดงและสีฟ้าจะปรากฎตัวขึ้นในเวลาเดียวกันคือ 30 วินาทีหลังจากที่เกมเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่คริสตัลสีฟ้าและสีแดงถูกยึดครองไป คริสตัลสีขาวถึงจะปรากฎตัวขึ้นในรูปแบบของลาสบอส

การยึดครองคริสตัลสีแดงและสีฟ้าจะง่ายกว่ามากเนื่องจากผู้เล่นที่ทำการโจมตีจะเสียแค่เลือด หรือมานาเท่านั้น แต่คริสตัลสีขาวจะยุ่งยากกว่านั้น มันจะสุ่มสถานะดีบัพให้กับผู้เล่นที่ทำการโจมตีมัน เช่น สถานะอ่อนแอ กลัว สับสน เป็นต้น

***

ในตอนเริ่มต้นเกม ทีมวินคัลเลอร์ที่นำโดยกัปตันหลิงเสวี่ยเฟิงซุ่มดักรออยู่ด้านหลังเสาขนาดใหญ่ที่ตำแหน่ง2นาฬิกา ความคิดของหลิงเสวี่ยเฟิงชัดเจนมาก ทีมวินคัลเลอร์แพ้การแข่งแบบเดี่ยว และตามอยู่ 0ต่อ3คะแนน พวกเขาต้องเอาชนะการแข่งแบบทีมเพื่อให้ได้แต้ม

ถ้าถานสือเทียนเดินไปห้องที่ใกล้ที่สุดเพื่อยึดคริสตัลสีฟ้า พวกเขาก็จะต้องผ่านทางแยกเพื่อขนคริสตัลกลับฐานอย่างแน่นอน หลิงเสวี่ยเฟิงจัดการดักซุ่มโจมตีเอาไว้แต่เนิ่นๆเพื่อทำการก่อกวนการขนส่งคริสตัล

ใช่แล้วล่ะ ในเกมมิราเคิล คริสตัลจะต้องถูกย้ายกลับไปที่ฐานเพื่อรับแต้ม การขนย้ายสามารถถูกก่อกวนระหว่างทางได้ และความพยายามก่อนหน้าของผู้คุ้มกันก็จะหายไป เช่นเดียวกับภารกิจรับเงินรางวัล

ความคิดของถานสือเทียนเรียบง่ายมาก ในสถานการณ์ที่ทีมเขาเป็นต่ออยู่ 3 คะแนน เขาจะไม่เสียแต้ม ตราบใดที่เขายึดครองคริสตัลสีฟ้าได้ ดังนั้นเขาจึงนำทีมไทม์มุ่งหน้าไปที่จุดปรากฎของคริสตัลสีฟ้าที่จุด3นาฬิกา

อวี๋ปิงดูรูปเกมในมุมมองแบบพระเจ้า* และอดพูดขึ้นมาไม่ได้ “จุดดักซุ่มโจมตีของทีมวินคัลเลอร์อยู่นอกมุมการมองเห็นของทีมไทม์พอดี ดูเหมือนว่าการต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้าแล้วค่ะ” (*มุมมองที่สามารถเห็นแผนที่โดยรอบทั้งหมด เห็นว่าผู้เล่นคนไหนทำอะไรอยู่ตรงไหน)

“ในแผนที่แบบนี้ ถ้าทีมวินคัลเลอร์ยึดคริสตัลสีแดง และทีมไทม์ยึดคริสตัลสีฟ้า ทั้งสองฝ่ายก็จะได้แต้มเท่าๆกันที่ 2 คะแนน” โข่วหงอี้หยุดสักพัก “การกระทำของกัปตันหลิง...หรือว่าเขาต้องการทั้ง6แต้มเลย?”

“มีความเป็นไปได้ค่ะ” อวี๋ปิงอธิบายอย่างสงบนิ่ง “รูปแบบการเล่นของกัปตันหลิงมักจะเน้นด้านโจมตีมากกว่าป้องกัน เขาอาจจะตามอยู่ในด้านของคะแนน แต่เขาจะไม่เล่นแบบป้องกันมากจนเกินไป ยังไงก็ตาม นี่เป็นเพียงรอบแรกของฤดูกาลปกติเท่านั้น ถ้าเขาแพ้ ผลกระทบก็ไม่ได้มากนัก”

6 คะแนนเป็นสิ่งที่ได้ยากมากในการแข่งขันแบบทีม

ในลีกมิราเคิล ส่วนใหญ่แล้วการแข่งขันมักจะอยู่ในสถานการณ์ที่ทั้งสองทีมต่างก็ยึดคริสตัลสีแดงหรือสีฟ้าได้ทีมละ1ก้อน จากนั้นพวกเขาก็จะต่อสู้อย่างดุเดือนเพื่อแย่งชิงคริสตัลสีขาว การจะยึดคริสตัลทั้ง3ก้อนในครั้งเดียว จำเป็นจะต้องมีการจัดการทางเทคนิที่ดี บวกโชคอีกนิดหน่อย

ทีมวินคัลเลอร์โชคดีที่จุดซุ่มโจมตีของพวกเขาไม่ถูกเปิดเผย

สมาชิกทีมไทม์โจมตีคริสตัลสีฟ้าเงียบๆ

ทีมไทม์เคลื่อนไหวรวดเร็ว ทุกคนระเบิดความเร็วมือออกมา และเลือดของคริสตัลสีฟ้าก็หมดเกลี้ยงภายใน1นาที คริสตัลสีฟ้าเปลี่ยนสถานะเป็น “ขนย้ายได้” และรถขนย้ายสีขาวสวยงามก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าทุกคน คริสตัลสีฟ้าถูกบรรจุเอาไว้ด้านใน ที่พวกเขาต้องทำก็แค่คลิกรถขนส่ง และค่อยๆขนย้ายมันกลับไปยังฐานของตัวเอง

ทีมไทม์กำลังคุ้มกันคริสตัลสีฟ้าออกนอกประตู จู่ๆอีกากลุ่มใหญ่ก็ปรากฎตัวขึ้นทำให้ทุกคนติดสถานะมึนงง!

“กัปตันหลิงแน่วแน่มากครับ!” โข่วหงอี้พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “สกิลปกคลุมท้องฟ้า เป็นสกิลใหญ่ของซัมมอนเนอร์เผ่าปีศาจที่ได้มาจากการอัญเชิญอีกาดำ สัตว์เลี้ยงบินได้ก่อเหตุรบกวนขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ทีมไทม์สูญเสียการมองเห็นของตัวเอง!”

“สกิลปกคลุมท้องฟ้า” สกิลของอีกาดำสัตว์เลี้ยงของซัมมอนเนอร์เผ่าปีศาจเป็นสกิลที่ทำให้หลี่ชางอวี๋หงุดหงิดที่สุด

ชายหนุ่มอดทำสีหน้าเกลียดออกมาไม่ได้ “กลุ่มอีกาสีดำเต็มหน้าจอทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัด”

ไป๋เซวียนยิ้ม “ผู้เล่นคนอื่นในลีกต่างก็กลัวกัปตันหลิง และไม่กล้าพูดอย่างนี้แน่ แต่อีกาดำของซัมมอนเนอร์เผ่าปีศาจมันน่ารำคาญจริงๆนั่นแหล่ะ”

“ใช่เลย” เซี่ยซูหรงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว

กู่สือหมิงร้องด้วยความตื่นเต้น “อีกาดำเท่มาก! กัปตันหลิงก็คูลสุดๆ!”

แฟนบอยนี่มันน่ากลัวจริงๆ ไป๋เซวียนอดคิดไม่ได้

***

ทีมไทม์ยังคงเงียบอยู่ อีกาดำไม่มีพลังโจมตีสูงอะไรแต่พวกมันน่ารำคาญมากเนื่องจากมันบังช่วงการมองเห็นไปจนหมด สกิลปกคลุมท้องฟ้าสร้างกลุ่มอีกาปีศาจจำนวนมากให้บินไปปิดสายตาของคนอื่นๆด้วยสีดำสนิท

แต่สิ่งที่น่ารำคาญยิ่งกว่าอีกาดำของซัมมอนเนอร์เผ่าปีศาจของทีมวินคัลเลอร์ก็คือค้างคาวโลหิตของเผ่าโลหิต

หลังจากที่ท่าใหญ่ของหลิงเสวี่ยเฟิงจำกัดการเคลื่อนไหวแล้ว สวีเฟยฟานสมาชิกทีมของวินคัลเลอร์ก็ตามด้วยการโจมตีที่หนักหน่วงทันที “เทศกาลค้างคาวเลือด!”

ค้างคาวดูดเลือดจำนวนมากบินไปบนท้องฟ้า มันเป็นการโจมตีแบบกลุ่มขนาดใหญ่ และเลือดของสมาชิกในทีมไทม์ก็ลดลงอย่างมาก

สถานะดีบัพที่ค้างคาวดูดเลือดนำมานั้นรุนแรงมาก ถ้าหน่วยฮีลเลอร์ตามไม่ทัน สถานการณ์จะยิ่งอันตรายมากขึ้น

ฮีลเลอร์ทีมไทม์อยากจะใช้สกิลวงเวทรักษา แต่จู่ๆหลิงเสวี่ยเฟิงก็อัญเชิญสัตว์เลี้ยงปีศาจอีกตัวนึงออกมา นั่นคือแบนชี สกิลยั่วยวนของแบนชีถูกใช้เพื่อดึงตัวฮีลเลอร์เข้ามาหาอย่างรวดเร็ว!

สกิลยั่วยวน เป็นเวทมนตร์ของแบนชีที่จะบังคับดึงเป้าหมายเข้ามาหาตัวเอง

เมื่ออีกฝ่ายถูกดึงเข้ามาหาตัวเองแล้ว หลิงเสวี่ยเฟิงก็เปลี่ยนสัตว์เลี้ยงเป็นพลทหารโครงกระดูก ก่อนจะใช้สกิลการกักขังแห่งความตายเพื่อปิดผนึกอีกฝ่ายให้อยู่ในอาณาเขตของทีมวินคัลเลอร์

สมาชิกคนอื่นของวินคัลเลอร์ก็ไม่รอช้า เมื่อกัปตันดึงฮีลเลอร์เข้ามา ทุกคนต่างก็ซัดสกิลใส่ฮีลเลอร์ ตัวดาเมจทั้งสี่คนมุ่งเป้าไปที่ฮีลเลอร์ จากนั้นไม่นานฮีลเลอร์ก็ถูกฆ่า

อวี๋ปิงเห็นอย่างนั้นก็ถึงกับถอนหายใจ “กัปตันหลิงทั้งรวดเร็วแล้วก็โหดร้ายมากค่ะ! เขาเรียกใช้อีกาเพื่อควบคุมการมองเห็นของอีกฝ่าย พร้อมกับเรียกแบนชีเพื่อดึงตัวฮีลเลอร์ออกไป จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นพลทหารโครงกระดูกขังไม่ให้ฮีลเลอร์หนี...ในเวลาแค่5วินาที เขาเปลี่ยนสัตว์เลี้ยงทั้งหมด3ชนิด และยังใช้สกิลทั้งสามอย่างเหมาะเจาะด้วยค่ะ ความเร็วมือนี้เป็นหนึ่งในความเร็วมือที่ดีที่สุดในลีกแล้ว มีเพียง...”

เสียงของอวี๋ปิงขาดหายไป

-มีเพียงแค่ความเร็วมือของหลี่ชางอวี๋เท่านั้นที่จะเทียบเคียงได้

เพียงแต่ว่าคนคนนี้ออกจากลีกมิราเคิลไปนานแล้ว

ในปีนั้น ซัมมอนเนอร์เผ่าปีศาจของหลิงเสวี่ยเฟิงใช้สัตว์เลี้ยงสี่ประเภทนั่นคือ อีกาดำ แบนชี พลทหารโครงกระดูก และปีศาจเพื่อต่อสู้กับภูติน้ำ ภูติไฟ ภูติลม และภูติสายฟ้าของหลี่ชางอวี๋ การโจมตีที่ดุดัน และการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วทำให้ทุกการปะทะในการแข่งขันแบบทีมระหว่างเอฟทีดีและวินคัลเลอร์น่าตื่นตามาก

พวกเขาทั้งสองเหมาะสมที่จะเป็นซัมมอนเนอร์ที่ดีที่สุดในประเทศจีนของลีกมิราเคิล!

ในตอนนั้น อวี๋ปิงยังคงเป็นกัปตันทีมเรดฟ็อกอยู่ ทีมวินคัลเลอร์ชนะการแข่งขันในฤดูกาลที่สองในขณะที่ทีมเอฟทีดีไม่ได้เข้าแม้แต่สี่ทีมสุดท้าย แต่เธอยังรู้สึกได้ว่าคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดของหลิงเสวี่ยเฟิงก็คือหลี่ชางอวี๋

พวกเขาทั้งคู่เป็นซัมมอนเนอร์ด้วยกัน และรู้จักกันและกันเป็นอย่างดี สกิลของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวก็สมดุลย์ เกมการแข่งขันที่ทั้งคู่มาปะทะกันเองก็น่าตื่นเต้น

ถ้าทั้งสองคนได้ต่อสู้กันในการแข่งแบบเดี่ยวล่ะก็ มันอาจจะเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมในลีกประเทศจีน... ไม่สิ ในระดับโลกเลยล่ะ

ในขณะที่อวี๋ปิงสติหลุดเล็กน้อย ทางฝั่งวินคัลเลอร์ก็ฆ่าฮีลเลอร์ของทีมฝั่งตรงข้ามตายไปภายในเวลาไม่กี่วินาที

สกิลควบคุมการมองเห็นของอีกาหมดลงแล้ว ถานสือเทียนรีบออกคำสั่งทันที “ถอย!”

ไม่ใช่ว่าเขาไม่มั่นใจที่จะต่อสู้กับวินคัลเลอร์ แต่พวกเขาถูกลอบโจมตี แถมฮีลเลอร์ยังตายไปแล้ว พวกเขาแทบไม่มีโอกาสชนะเลยถ้าสู้กับวินคัลเลอร์ในตอนนี้ ถ้าทีมไทม์ถูกฆ่าจนหมด หลังจากนี้ก็จะยิ่งต่อสู้ลำบากขึ้นไปอีก

สมาชิกในทีมทำตามคำสั่งของกัปตันถาน รีบถอยอย่างรวดเร็ว

แต่เฉิงเว่ยเหมือนกับไม่ได้ยินคำสั่งของถานสือเทียน และยังคงโจมตีอยู่ หลิงเสวี่ยเฟิงรีบคว้าโอกาสนี้ใช้สกิลการกักขังแห่งความตายของพลทหารโครงกระดูกตรึงเฉิงเว่ยไว้กับที่ สวีเฟยฟานรีบสั่งให้งูโลหิตตรงเข้ากัดเฉิงเว่ย ส่วนเหยียนรุ่ยเหวินก็ตามด้วยเวทมนตร์ดำที่มีชื่อว่า กาฬโรคสีดำ กั่วเซวียนเองก็ไม่รอช้ารีบใช้สกิลไฟนรกใส่เฉิงเว่ยทันที!

“นี่เป็นความสามารถที่เลวร้ายที่สุดของทีมวินคัลเลอร์!” โข่วหงอี้อดถอนหายใจไม่ได้

หลิงเสวี่ยเฟิงไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งกับตัวทำดาเมจทั้งสามของทีมวินคัลเลอร์เพื่อให้ตามจังหวะของตัวเอง นี่เป็นความเข้าใจกันและกันที่ถูกสร้างมาจากการฝึกฝนด้วยกันมาอย่างยาวนานของทั้งสี่คน ผู้เล่นคนที่ถูกกัปตันควบคุมจะต้องรับการโจมตีของคนอื่นๆต่อ

***

ถานสือเทียนรู้สังหรณ์ใจไม่ดีในจังหวะที่เฉิงเว่ยถูกฆ่า

วันนี้อารมณ์ของเสี่ยวเว่ยไม่ค่อยจะดีนัก ในอารีน่าเขาก็ปล่อยให้ตัวเองเลือดลดไปถึง 50% ตอนเริ่มแข่ง โชคดีที่ฉินโม่เองก็แย่พอๆกัน ถานสือเทียนถึงได้เก็บ3คะแนนมาได้

ตอนนี้เสี่ยวเว่ยไม่มีสมาธิกับคำสั่งของเขา และถูกกัปตันหลิงจับตัวเอาไว้ได้

ถานสือเทียนหันไปมอง และพบว่าเฉิงเว่ยหน้าซีดอย่างไม่ปกติ

เขาเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน และสั่งอย่างสงบนิ่งว่า “กลับไปฟื้นเลือดกับมานาที่ฐานก่อน จากนั้นเราค่อยไปยึดคริสตัลสีแดงกัน”

คริสตัลสีฟ้าถูกทีมวินคัลเลอร์ก่อกวนไปแล้ว ดังนั้ยพวกเขาจึงได้แต่รอเพื่อคว้าโอกาสในการยึดครองคริสตัลสีแดง

เฉิงเว่ยทำพลาด แต่หลิงเสวี่ยเฟิงไม่ได้ทำอะไรพลาด

ในฐานะทีมที่มีอัตราการทำพลาดน้อยที่สุดในลีก ทีมวินคัลเลอร์สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ภายในชั่วพริบตาตราบใดที่เปิดโอกาสให้พวกเขาสวนกลับได้!

ในการต่อสู้เพื่อยึดครองคริสตัลสีแดง หลิงเสวี่ยเฟิงก็เอาแต่เรียกแบนชีออกมา และใช้สกิลดึงตัวเฉิงเว่ยเข้ามาหา!

หลิงเสวี่ยเฟิงกระทั่งฆ่าไปสามคน และได้รับโบนัสให้โจมตีแรงขึ้นอีก 15%

หลังจากที่ได้ชัยเหนือคริสตัลสีแดง ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงคริสตัลสีขาวซึ่งเป็นคริสตัลอันสุดท้าย หลิงเสวี่ยเฟิงที่มีโบนัสโจมตีแรงก็เหมือนกับคนที่ควบคุมความตาย!

[ผู้เล่นปีศาจไร้ชีวิตสังหารผู้เล่นอุทิศเพียงหนึ่ง ฆ่าติดต่อกันครั้งที่สี่!]

[ผู้เล่นปีศาจไร้ชีวิตสังหารผู้เล่นแฮปปี้ ฆ่าติดต่อกันครั้งที่ห้า!]

[ผู้เล่นปีศาจไร้ชีวิตสังหารผู้เล่นเท็นเดย์ ฆ่าติดต่อกันครั้งที่หก!]

...

หลิงเสวี่ยเฟิงเป็นผู้เล่นที่เยือกเย็นและน่ากลัวมาก

ในสนามประลอง ไม่ว่าจะได้เปรียบหรือไม่ก็ตาม แต่ตราบใดที่อีกฝั่งประมาทเพียงเล็กน้อย เขาก็จะนำเอาข้อผิดพลาดเล็กๆเหล่านั้นมาแผ่ขยาย และตรงเข้าบดขยี้รูปแบบการเล่นของคู่ต่อสู้ รวมถึงทำลายเกราะป้องกันของอีกฝ่าย!

นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้คนส่วนใหญ่ถึงเป็นแฟนคลับของทีมวินคัลเลอร์

รูปแบบการเล่นอย่างนี้คนดูสามารถสนุกไปด้วยได้ วินคัลเลอร์อาจจะเสียเปรียบมาตลอดจนกระทั่งพลิกกระดานได้ช่วง10วินาทีสุดท้าย และปลุกใจผู้ชมทั้งหมด

วันนี้พวกเขาแสดงให้เห็นถึงการพลิกกลับมาอย่างสวยงามอีกครั้ง พวกเขาเสีย3คะแนนไปในการประลองก็จริง แต่พวกเขาก็ได้กลับมา6คะแนนจากการแข่งแบบทีม!

อวี๋ปิงรู้สึกเหลือเชื่อมาก “ระยะห่างระหว่าไทม์กับวินคัลเลอร์ไม่ได้ใหญ่มาก แต่คาดไม่ถึงจริงๆที่มีการสูญเสียขนาดนี้ในการแข่งแบบทีม แต่อย่างไรก็ตาม กัปตันหลิงลงแข่งมาแล้วถึง6ฤดูกาล ประสบการณ์ของเขาจะต้องมีมากกว่ากัปตันถานอย่างแน่นอน เขามีเทคนิคการเล่นมากกว่า ความคิดของกัปตันถานไม่ได้ผิด เพียงแต่ว่าสมาชิกในทีมตามไม่ทัน และถูกกัปตันหลิงคว้าโอกาสไปได้...”

อวี๋ปิงมองสีหน้าซีดเผือดของเฉิงเว่ย ก่อนจะกลืนคำพูดของตัวเองลงไป

จุดสำคัญในการพ่ายแพ้การแข่งแบบทีมในครั้งนี้คือเฉิงเว่ย เขาไม่สามารถตามจังหวะของถานสือเทียนได้ และถูกหลิงเสวี่ยเฟิงจับได้ถึง2ครั้ง ในการแข่งขันแบบทีมของมิราเคิล การฆ่าคน1คนจะได้รับค่าโบนัส5% ในกรณีของกัปตันหลิงที่ฆ่าไป3คน และได้รับโบนัสถึง 15% ย่อมไม่มีทางถ่อมตัวกับฝ่ายศัตรูอย่างเด็ดขาด

ถานสือเทียนจนหนทาง ในการต่อสู้ครั้งแรกที่คริสตัลสีฟ้า เขาก็พอจะมีลางสังหรณ์อยู่แล้ว ความแข็งแกร่งของทั้งสองทีมใกล้เคียงกันมาก และย่อมเป็นธรรมดาที่ทีมวินคัลเลอร์จะเอาชนะเมื่อสมาชิกทีมไทม์ไม่ปกติแบบนี้

เขารู้สึกโกรธนิดหน่อย แต่พอเห็นสีหน้าซีดเผือดของคนตัวเล็กแล้ว...เขากลับไม่อยากดุเฉิงเว่ย

ถานสือเทียนถอนหายใจ และลูบหัวเฉิงเว่ยอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรนะ มันก็แค่เกมเดียวในฤดูกาลปกติ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรถ้าจะเสียไปบางแต้ม วันนี้เราทำคะแนนได้3คะแนน ดังนั้นอันดับของเรายังคงอยู่ในท็อปสาม”

จากคำพูดของถานสือเทียน การแข่งในครั้งนี้จบลงที่ 6ต่อ3 โดยที่วินคัลเลอร์เป็นฝ่ายได้ชัยชนะ อันดับของทีมอัพเดทตามเวลาจริง ดังนั้นตอนนี้วินคัลเลอร์อยู่อันดับ1 ฟลายอิ้งเฟเธอร์อยู่อันดับ2 และไทม์อยู่ในอันดับ3

ถานสือเทียนพยายามลบบรรยากาศรอบๆตัวออก แต่เฉิงเว่ยดูจะไม่สนใจอะไรเลย เขาได้แต่มองหน้าจออย่างเหม่อลอย

***

ต่อมาไม่นานนัก กัปตันของทั้งสองทีมได้รับสัญญาณให้ไปหากรรมการเพื่อยืนยันคะแนน จากนั้นหลิงเสวี่ยเฟิงก็นำสมาชิกในทีมไปเพื่อจับมือกับอีกฝ่าย

ถานสือเทียนยืนขึ้น และยื่นมือออกไปอย่างสุภาพ “กัปตันหลิง คุณเล่นได้ดีมากครับวันนี้”

หลิงเสวี่ยเฟิงจับมือเขา และยิ้ม “กัปตันถานสุภาพมาก”

ไม่ว่าจะในแง่ไหน หลิงเสวี่ยเฟิงเดบิ้วในฤดูกาลที่1 ส่วนถานสือเทียนเดบิ้วในฤดูกาลที่ 4 เขาเป็นกัปตันคนใหม่ที่รับหน้าที่ดูแลทีมไทม์ในฤดูกาลที่5เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงแสดงความเคารพให้กับกัปตันหลิง

กัปตันจับมือกัน แต่รองกัปตันเฉิงเว่ยกลับนั่งนิ่งๆอยู่ตรงนั้น ไม่พูดไม่จา...

หลิงเสวี่ยเฟิงเดินไปหาเฉิงเว่ย และกระซิบด้วยเสียงเบาที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่ได้ยิน “เป็นเพราะข่าวของทีมชางหลันเหรอ?”

แม้ว่าจะดูเหมือนคำถาม แต่น้ำเสียงของเขากลับมั่นใจมาก

เฉิงเว่ยเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นแววตาซับซ้อนในดวงตา

หลิงเสวี่ยเฟิงตบบ่าเฉิงเว่ยเบาๆ “คนบางคนไม่ต้องการความช่วยเหลือของนายในตอนที่ล้มหรอกนะ นายควรจะเชื่อในความสามารถของเขา หลังจากที่ล้มเหลวในครั้งนี้ เขาจะต้องกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่”

“...” เฉิงเว่ยตะลึง พอสติกลับมาอีกครั้ง หลิงเสวี่ยเฟิงก็จากไปแล้ว

ชายหนุ่มคนนี้ทั้งสูง และดูดี กระดูกสันหลังของเขาเหยียดตรงเสียยิ่งกว่าต้นสน

เขามักจะทำหน้าเรียบเฉย และมุ่งมั่น นิสัยของชายหนุ่มไม่เปลี่ยนไปเลยแม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้ว เขาใช้ร่างกายตัวเองเพื่อประคองทีมวินคัลเลอร์ที่น่าหวาดกลัวที่สุดของลีกมิราเคิลเอาไว้ วันนี้มีการลงตำแหน่งที่ผิดพลาด แต่ชายหนุ่มก็ยังสามารถคว้าโอกาสเอาไว้ได้ ในทางกลับกัน ทีมไทม์พ่ายแพ้...

เฉิงเว่ยอาจจะเพิ่งพ่ายแพ้มา แต่เขายังคงมุ่งมั่น

เฉิงเว่ยเห็นแคทก็อดเป็นอาจารย์ และความสัมพันธ์ของเขากับแคทก็อดก็สนิทกันมาก แต่เขาก็ชื่นชมหลิงเสวี่ยเฟิงด้วย ผู้เล่นที่สามารถต่อกรกับแคทก็อดได้

ชายคนนี้มีดวงตาเฉียบคมที่สามารถมองผ่านความคิดของคนอื่นได้เพียงแค่ปรายตามอง

เมื่อกี้ชายหนุ่มกำลังจะบอกเฉิงเว่ยว่า หลี่ชางอวี๋จะต้องแข็งแกร่งขึ้น และเขาไม่จำเป็นต้องกังวล ใช่ไหมนะ?