30 เธอมันอวดดี
30 เธอมันอวดดี
“ซุน ครูซุนครับ คุณกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?” หลี่เย้ารู้สึกสับสนและงุนงง เขาเดินเข้าไปตั้งใจที่จะช่วยพยุงซุนเปียว แต่เขากลับไม่คิดว่า ชายชราจะโค้งคำนับอยู่อย่างนั้น โดยไม่ขยับเขยื้อนราวกับหุ่นเหล็ก ไม่ว่าหลี่เย้าจะพยายามมากแค่ไหน ซุนเปียวก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
ซุนเปียวยังคงโค้งคำนับอยู่เช่นเดิม และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “โรงเรียนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อมีไว้เสาะหาผู้มีพรสวรรค์และเป็นสถานที่สำหรับอุ้มชูพวกเขา ความแข็งแกร่งของเธออาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่สัญชาตญาณในการต่อสู้ของเธอนั้นไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่มีความเฉลียวฉลาดเลย และประสบการณ์ในการต่อสู้จริงของเธอก็เช่นกัน เธอคือต้นกล้าที่เหมาะสมที่จะนำมาบ่มเพาะอย่างแม้จริง แต่โรงเรียนของเรากลับไม่สามารถค้นพบตัวตนของเธอออกมาจากคลาสสามัญได้เร็วกว่านี้ ทำให้ช่วงเวลาอันเยาว์วัยของเธอต้องเสียเปล่าและถูกทำร้าย และทั้งหมด ก็คือความสะเพร่าของครูและเจ้าหน้าที่ทุกคนของทางโรงเรียน ดังนั้น ฉันจึงทำได้เพียง เป็นตัวแทนของทางโรงเรียนกล่าวคำขอโทษต่อคุณ นักเรียนหลี่เย้า ฉันขอโทษด้วยจริงๆ”
หลี่เย้าอ้าปากค้าง เขาไม่รู้ว่าควรจะแสดงท่าทีแบบไหนออกไป และเกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจ
“นี่คือ ‘ครู’ ที่แท้จริงสินะ?”
หลี่เย้าไม่เคยได้พบเจอกับครูแบบซันเปียวมาก่อนเลยในชีวิต เขาไม่แปลกใจเลย ที่ซุนเปียวจะเป็นคนที่สามารถค้นพบดาบปีศาจเผิงห่ายได้!
“ต่อไปก็...” ในที่สุด ซุนเปียวก็ยืดตัวขึ้นมาและแสดงสีหน้าที่ดูไม่ใส่ใจออกมาอีกครั้ง และมีเปลวไฟของความคลั่งไคล้ลุกขึ้นอยู่ภายในดวงตาของเขา “ไอ้หนู นายเคยได้ชินการแข่งขันท้าทายขีดจำกัดเยาวชนของทางสหพันธรัฐบ้างไหม?”
หลี่เย้าเบิกตากว้างและพยักหน้าในทันที พร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวเร็วของเขา
แน่นอนว่า เขาเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน การแข่งขันท้าทายขีดจำกัดเยาวชนของทางสหพันธรัฐนั้น เกิดจากการร่วมมือกันของทางกองทัพแห่งสหพันธรัฐและเก้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ มันเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ ที่จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาอัจฉริยะ การแข่งขันจะถูกจัดขึ้นทุกปีในช่วงเวลาประมาณสองเดือนก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเปิดรับนักเรียนทั่วทั้งสหพันธรัฐ สำหรับสนามที่ใช้ในการแข่งขันจะมีอยู่หลายร้อยสนามที่จะถูกจัดการแข่งขันขึ้นพร้อมๆกัน และนั่นก็คือธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมานานของการแข่งขันนี้
พูดกันว่า สนามแข่งขันแต่ละแห่งนั้นคล้ายกับเกาะร้าง และถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไม่ให้ใครสามารถหลบหนี้ออกไปได้ ทางกองทัพจะปล่อยสัตว์อสูรเอาไว้บนเกาะร้าง และผู้เข้าแข่งขันจะต้องอยู่รอดบนเหาะแห่งนั้นให้ได้นานห้าวัน โดยที่ไม่มีอาวุธและเครื่องป้องกันใดๆทั้งสิ้น นอกจากการที่ต้องเอาตัวรอดจากสัตว์อสูรแล้ว ผู้เข้าแข่งขันก็จะต้องทำภารกิจที่ยากเย็นแสนเข็ญให้สำเร็จอีกด้วย ซึ่งเป็นภารกิจที่เรียกได้ว่า เป็น “การต่อสู้จำลองแบบ 100%” ในระดับความยากสูง
ผู้เข้าแข่งขันจะถูกสถานการณ์เหล่านี้บังคับให้ต้องใช้ร่างกายและจิตใจจนถึงขีดจำกัด และนั่นก็คือหนที่ทางจะทำให้พวกเขาโดดเด่นออกมาจากเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายได้
ทางผู้สังเกตการณ์ของทั้งเก้ามหาวิทยาลัยชั้นยอด จะเฝ้าจับตาดูผู้ที่ประสบความสำเร็จและรับพวกเขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยตรงจุดนั้น โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำข้อสอบเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกต่อไป
และแม้ว่าในการแข่งขัน บางคนอาจจะทำได้ไม่ดีมากนัก แต่ขอแค่ได้แสดงความสามารถพิเศษออกมา ก็มีโอกาสสูงที่จะเข้าไปอยู่ในรายชื่อของคนที่ได้รับคะแนนพิเศษจากทางเก้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ หากสามารถได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มมา 10-20 คะแนนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย พวกเขาก็กำจัดคู่แข่งในการสอบไปได้หลายร้อยหลายพันคนแล้ว!
ผลประโยชน์นี้ ทำให้เหล่านักเรียนชั้นปีที่สามพุ่งตัวสมัครเข้าแข่งขันรายการนี้กันอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาขัดเกลาจิตใจของพวกเขาเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันนี้ และหลี่เย้าก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
แต่นี่คือการแข่งขันที่สำคัญ ที่ใครก็สามารถลงแข่งได้
ในทุกๆปี ผู้จัดการแข่งขันจะส่งบัตรเชิญไปยังโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ทุกโรงเรียนในสหพันธรัฐ และจำนวนของ “บัตรเข้าร่วมการแข่งขัน” ที่แต่ละโรงเรียนจะได้รับนั้น จะถูกพิจารณาจากอันดับและความแข็งแกร่งของแต่ละโรงเรียน
ในปีนี้ โรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สองได้รับมาทั้งหมด 10 บัตร!
การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นในอีก 40 วันข้างหน้า โรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สองจะอยู่ในสนามแข่งที่ 0571 สนามแข่งนี้จะถูกจุเอาไว้ด้วยเหล่านักเรียนชั้นยอดกว่าสามพันคน จากเมืองฝูเกอและอีกสิบสามเมืองที่อยู่ติดกัน นักเรียนทั้งหมดจะได้มาอยู่ภายใต้ชายสนามแข่งเดียวกัน!
ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า โรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สองจะจัดการแข่งขันต่อสู้ ที่นักเรียนชั้นปีสามทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ยุติธรรม สำหรับการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะได้รับบัตรเชิญทั้ง 10 ใบ!
ซุนเปียวมองดูหลี่เย้าที่ใจเต้นแรงและแสดงสีหน้าคลั่งไคล้ จึงได้พูดออกมาว่า “ไอ้หนู ฉันรู้ว่าเธอไปสร้างปัญญาบางอย่างขึ้นในโรงเรียน แต่มันมีวิธีที่หนีโทษให้พ้นได้อยู่! ทั้งหมดที่เธอต้องทำก็คือพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเอง ด้วยการต่อสู้แย่งบัตรเชิญนั้นมาให้ได้ จากนั้น เฮ่อเหลียนเลี่ยก็จะทำอะไรเธอไม่ได้อีกต่อไป!”
หลี่เย้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และถามขึ้นมาว่า “นักเรียนปีสามมีพันกว่าคน และมีบัตรเชิญแค่ 10 ใบเท่านั้น ความสามารถของผมก็ต้องสูงติดท็อป 10 เลยยังงั้นเหรอ?”
ซุนเปียวส่ายหน้า แล้วพูดว่า “เมื่อเป็นเรื่องของการแข่งขันที่รวมเอาคนที่มีความสามารถทุกระดับเอาไว้นั้น บางที มันก็ต้องมีเรื่องของโชคเข้ามาเกี่ยวด้วย ถ้าดูจากการแข่งขันของปีที่แล้ว คนที่มีความสามารถติดอยู่ในระดับท็อป 20 ต่างก็มีหวังที่จะคว้าบัตรเชิญมาได้”
หลี่เย้าคิดย้อนกลับไปในตอนนั้น นักเรียนที่ติดท็อป 20 ต่างก็เป็นอัจฉริยะที่มีอัตราการตื่นของรากวิญญาณไม่ต่ำกว่า 65%
แต่อัตราการตื่นของรากวิญญาณของเขามีแค่ 58% เท่านั้น ตอนที่สู้กับอันดับสุดท้ายของคลาสพิเศษ เขายังไม่สามารถได้ชัยชนะอย่างขาดรอยด้วยซ้ำ จ้าวเหลียงมีอัตราการตื่นของรากวิญญาณอยู่ที่ 60% และหลี่เย้าก็จำเป็นต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมถึงจะสามารถเอาชนะเขามาได้
อีกไม่นาน วิดีโอการต่อสู้ระหว่างเขากับจ้าวเหลียงก็คงจะกระจายออกไปจนทั่วโรงเรียน ทุกคนก็จะเริ่มระวังตัวกันมากขึ้น และคงจะไม่ยอมปล่อยให้เขาเอาชนะได้ง่ายๆอีกต่อไป
หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน เขาจะสามารถต่อสู้กับคนที่มีอัตราการตื่นของรากวิญญาณ 65% ขึ้นไปได้ไหม?
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ และมันก็เขียนอยู่บนหน้าของเขาด้วย ซุนเปียวหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพูดว่า “ไอ้หนู ดูจากความแข็งแกร่งของเธอในเวลานี้แล้ว อย่าแม้แต่จะคิดสู้กับท็อป 20 ของโรงเรียนเลย แม้แต่ท็อป 50 ก็อาจจะสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ! แต่ ถ้าเธอได้รับการฝึกฝนพิเศษจากฉันที่นี่เดือนหนึ่ง หลังจากนั้น มันก็อาจจะพอมีโอกาสอยู่!”
“อะไรนะ?” ดวงตาของหลี่เย้าเป็นประกายขึ้นมา เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาและถามออกไปอย่างกระตือรือร้นว่า “ครูซุน คุณตั้งใจที่จะสอนผมด้วยตัวเองงั้นเหรอ?”
ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา คือชายที่ยอดเยี่ยมและยังเป็นคนค้นพบดาบปีศาจเผิงห่าย แล้วชายคนนี้ก็ยังตั้งใจที่จะมอบการฝึกพิเศษให้แก่เขาอีกด้วย! จุ๊ๆๆๆ แค่เขาสามารถแข็งแกร่งใส่เท่านิ้วก้อนของเผิงห่าย มันก็มากพอที่เขาจะเดินวางท่าอวดดีอยู่ในโรงเรียนนี้ได้แล้ว!
ซุนเปียวหัวเราะออกมาเต็มเสียง เผยให้เห็นด้านในปากที่มีฟันหายไปหลายซี่ “ตาแก่คนนี้ทำงานอยู่ในโรงเก็บของเก่าๆหลังนี้มานานหลายปี จนกระดูกในร่างกายของฉันมันขึ้นสนิมไปหมดแล้ว การได้ของเล่นที่น่าสนใจแบบนี้มา เป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก เวลาว่างก็มีเยอะแยะ ฉันจะเล่นเท่าไหร่ก็ได้! แต่ถ้าจะฉลองมันก็ยังเร็วเกินไปหน่อย การพิเศษจากตาแก่คนนี้ ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาทั่วไปจะทนไหวได้ มาสิ ไอ้หนู มาดูการฝึกพิเศษที่ราวกับตกนรกของตาแก่คนนี้กัน”
ซุนเปียวสะบัดแขน ทำให้เครื่องไมโครคริสตัลโพรเซสเซอร์ฉายหน้าจอโฮโลแกรมขึ้นมา ซึ่งได้ฉายโปรแกรมการฝึกที่ยาวเป็นตับ
“วันที่หนึ่ง 4 โมงเช้า วิ่ง 20,000 เมตรเพื่อเป็นการวอร์มร่างกาย”
“5 โมง สควอซ 10 เซต พร้อมกับยกน้ำหนักไปด้วย 500 กิโล ต้องทำเสร็จภายในครึ่งชั่วโมง”
“6 โมง กินอาหารเช้า พร้อมกับศึกษา 13 เทคนิคสัตว์อสูรสงคราม ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทางกองทัพใช้ มันจะถูกลบสิ่งที่ไม่จำเป็น และลดให้เหลือเพียงแค่ส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เพิ่มความสามารถในการฆ่าในเทคนิคนี้ให้สูงขึ้น มันเป็นเทคนิคที่แตกต่างไปจากเทคนิคที่ใช้กันในหมู่นักเรียนมัธยมปลาย”
“7 โมง กระโดดกบ 5 กิโลพร้อมกับแบกน้ำหนัก 100 กิโล”
“8 โมง......”
“9 โมง จบการฝึกพิเศษของวันแรก!”
“วันที่ 2......”
ซุนเปียวแสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายและพูดว่า “เป็นอะไรไป? ถ้าเธอไม่สามารถทนการฝึนนี้ได้ ก็ยกเลิกตอนนี้ก็ยังทันนะ! ไม่ต้องอายหรอก เมื่อก่อนน่ะ มีอัจฉริยะตั้งหลายคนที่รับการฝึกพิเศษจากตาแก่คนนี้ จนกลายเป็นหมาตายไปแล้วก็หลายคน แล้วพวกเขาก็ต้องยอมแพ้ไป ตลอด 90 ปีที่ผ่านมา มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละ ที่สามารถผ่านการฝึกตลอดทั้งเดือนไปได้!”
หลี่เย้าอ่านดูโปรแกรมการฝึกอย่างรวดเร็ว แล้วอ่านจบในเวลาแค่ไม่นาน เขาถามออกมาด้วยท่าทีที่ดูสับสนเล็กน้อยว่า “มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยนี่นา มันดูธรรมดา ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก แล้วก็ไม่เห็นจะพิเศษตรงไหนเลย...”
ภายในห้วงฝันอันยิ่งใหญ่นั้น เขาอยู่ในบทบาทของชนชั้นแรงงานระดับล่างสุดของนิกายป่ายเลี่ยน เขาต้องผ่านการฝึกฝนที่เจ็บปวดและขมขื่นกว่านี้หลายร้อยเท่า ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำลายจิตใจของผู้ฝึกได้อย่างง่ายดาย จากนั้น ผู้ฝึกทุกคนก็ถูบีบเค้นเข้าด้วยกัน และพังลง จากนั้นก็ถูกบีบเค้นเข้าด้วยกัน มีเพียงการทำแบบนี้ซ้ำๆหลายร้อยครั้งเท่านั้น จึงจะสามารถยกระดับจากล่างสุดขึ้นไปเป็นแรงงานตีเหล็กได้
การฝึกพิเศษของซุนเปียวนั้น อยู่แค่ในระดับของนักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น ในสายตาของหลี่เย้า มันไม่ได้ดูรุนแรงอะไรเลย
“นักเรียนหลี่เย้า เธอมันอวดดีจริงๆ!”
การฝึกพิเศษนี้ ถูกสร้างขึ้นมาด้วยหัวใจและเลือดเนื้อตลอดทั้ง 90 ปีของซุนเปียว อัจฉริยะนับไม่ถ้วนที่ได้เห็นโปรแกรมการฝึกพิเศษของเขา ต่างก็ต้องเผยสีหน้าตกตะลึงและพรั่นพรึงออกมา แต่เมื่อดูจากสีหน้าที่สงบของหลี่เย้าแล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่คิดว่า โปรแกรมการฝึกนี้มันหนักหนาอะไรเลย
ซุนเปียวไม่สามารถปกปิดประกายจากแววตาของเขาได้ และมันก็ได้เผยออกไปจากส่วนลึกในดวงตาของเขา ใบหน้าของซุนเปียวเริ่มยับย่น จากนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นร้ายกาจในทันที