ตอนที่แล้วตอนที่ 6 การปรากฎตัวครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 เมืองอี๋ซือยามค่ำคืน (1)

ตอนที่ 7 สมาชิกใหม่


ความไวในการเก็บเลเวลของไป๋เซวียนช้ากว่าหลี่ชางอวี๋อย่างเห็นได้ชัด ยังไงเสียเขาก็เล่นฮีลเลอร์ ถ้าไม่ตั้งทีมกับคนอื่น คงเก็บเลเวลช้ากว่านี้เสียอีก ในขณะที่กำลังสู้กับมอนสเตอร์อย่างช้าๆ จู่ๆหลี่ชางอวี๋ก็เข้ามาหาพร้อมกับถามว่า “นายเลเวลอะไรแล้ว?”

“เลเวล7” ไป๋เซวียนหันหลังไปมองอีกคนอย่างประหลาดใจ “นายเลเวล10แล้วเหรอ ไวขนาดนี้เชียว?”

“มีผู้เล่นทำภารกิจเยอะเกินไป ฉันเลยออกไปฆ่ามอนสเตอร์เก็บเลเวล” หลี่ชางอวี๋ลากเก้าอี้มา และนั่งลงข้างๆไป๋เสวียน “พี่ฉันซื้อผลไม้มาอยู่ในตู้เย็น นายควรกินสักหน่อยนะ เดี๋ยวฉันช่วยนายทำภารกิจเอง พอตัวนายถึงเลเวล10แล้วเราค่อยไปลงดันเจี้ยนด้วยกัน”

“โอเค” ไป๋เซวียนไม่เกรงใจ ก่อนจะนำจานที่ภายในมีผลไม้ปอกแล้วอยู่

หลี่ชางอวี๋หยิบแอปเปิ้ลที่ถูกตัดเป็นชิ้นขึ้นมายัดใส่ปาก ไป๋เซวียนเห็นเข้าถึงได้เข้าใจขึ้นมาทันที “เป็นนายสินะที่อยากกินผลไม้น่ะ?”

หลี่ชางอวี๋หัวเราะ แต่ไม่ได้พูดอะไร

“...” ไป๋เซวียนพูดไม่ออก เขามองหน้าจอและพบว่าพรีสตัวน้อยของเขาเลเวล10แล้วทำให้เขาพูดชมออกไป “นายเก็บเลเวลไวอย่างกับติดจรวด ฉันเลเวล10แล้ว เราไปเมืองอี๋ซือเลยไหม?”

“ไปกันเถอะ”

ทั้งสองตกลงกันว่าจะเจอกันที่หน้าประตูเมืองอี๋ซือในขณะที่บางอย่างเด้งขึ้นมาบนโปรแกรมแชทQQของหลี่ชางอวี๋ มันเป็นคำร้องขอการสนทนาผ่านกล้องจากไห่หนา ไป๋ฉวน ไอดีที่เขาคาดไม่ถึงซึ่งก็คือไอดีของเจ้าของคลับดราก้อนซองคนปัจจุบัน หลิวชวน

เขาเพิ่งจะเซ็นสัญญาไปได้ไม่กี่วัน ดังนั้นหลิวฉวนคงจะโทรหาเขาเกี่ยวกับเรื่องทีมใหม่ หลี่ชางอวี๋กดรับวิดิโอคอลอย่างรวดเร็วก่อนจะสวมหูฟังและเป็นฝ่ายถามก่อน “บอส มีอะไรเหรอครับ?”

“ฉันเพิ่งจะถึงฉางซา แล้วก็มีเรื่องจะบอกกับนายเกี่ยวกับสถานการณ์ของคลับ” หลิวฉวนเห็นว่าวิดิโอถูกเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้วก็พูดขึ้นมาทันที “ผู้เล่นคนเก่าๆหลายคนของทีมดราก้อนซองเตรียมจะถอนตัวในฤดูกาลหน้าแล้ว ทีมงานของฉันค่อนข้างจะกดดัน และผู้เล่นคนใหม่ที่อยู่ในค่ายฝึกฝนก็จะเล่นลีกเกมอู๋หลินในเดือนกันยานี้ เพราะฉะนั้นก็เลยจะไม่ค่อยมีหน้าใหม่ที่โดดเด่นเหลือสักเท่าไหร่ ฉันจะให้เจ๋อเวินพูดกับนายนะ”

เขาพูดพลางเปลี่ยนมุมกล้อง ผู้ชายใส่แว่นกรอบดำปรากฎขึ้นบนหน้าจอของหลี่ชางอวี๋อย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มดูอ่อนโยน แต่ก็คล้ายจะเป็นหนอนหนังสือ เขาดูเป็นนักวิจัยมากกว่าที่จะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต คนคนนี้คือกัปตันของทีมดราก้อนซอง อู๋เจ๋อเวิน

อู๋เจ๋อเวินเป็นที่รู้จักกันในนามเทพแห่งข้อมูลด้านอีสปอร์ต ในช่วงที่ยังเล่นอู๋หลินอยู่ หลี่ชางอวี๋มักจะแพ้ให้กันคนคนนี้ แต่เขาไม่สนใจเรื่องในอดีตแล้ว อีกอย่าง หลี่ชางอวี๋ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองฝีมือแย่อะไรเมื่อเทียบกับอู๋เจ๋อเวิน ทั้งทีมมิราเคิล และทีมอู๋หลินสังกัดอยู่ในคลับเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาคงจะกลายเป็นเพื่อนที่แชร์ข้อมูลร่วมกันในอนาคต

หลี่ชางอวี๋ยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายทักอู๋เจ๋อเวินก่อน “กัปตันอู๋ ไม่ได้เจอกันนานนะ”

“สวัสดี แคทก็อด” อู๋เจ๋อเวินปรับแว่นตาของตัวเอง พร้อมกับพูดน้ำเสียงจริงจังกับกล้อง “ในตอนนี้เรามีผู้เล่นฝีมือดีสามคนในค่ายฝึกฝีมือของดราก้อนซอง สองคนมีแผนจะลงแข่งพร้อมกับฉันในฤดูกาลหน้าแล้ว ส่วนอีกคนนึงยังไม่แน่นอน ตอนที่หลิวฉวนพูดว่าอยากจะสร้างทีมในเกมมิราเคิล ฉันเลยให้เด็กคนนี้เล่นมิราเคิลมาได้หลายเดือนแล้ว นายลองดูระดับฝีมือเขาดูก็แล้วกัน ถ้านายเห็นว่าเขามีคุณสมบัติ ฉันก็จะส่งเขาให้นาย”

ชายหนุ่มกวักมือเรียกบางคน และพูดว่า “เสี่ยวกู่ มานี่ แล้วทักทายแคทก็อดหน่อย”

เด็กหนุ่มรีบตะโกนขึ้นมาทันที “สวัสดีครับ แคทก็อด!”

เด็กคนนี้น่ารักมาก เขามีแก้มกลมบนใบหน้า ดวงตาโตพร้อมกับขนตายาวและหนา ผมสีดำที่ม้วนเบาๆข้างหู ดูเป็นเด็กดี และเชื่อฟัง

หลี่ชางอวี๋มองดูเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างประหลาดใจ “เขาเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเหรอ?”

“ชอบเขาไหม?” หลิวฉวนยิ้ม ก่อนจะลูบหัวเด็กหนุ่ม “เขาชื่อว่ากู่สือหมิง เพิ่งจะอายุครบ 17 ปีนี้ เขาดูขี้อายก็จริง แต่ว่าพอเล่นเกมแล้วจะกลายเป็นเจ้าคลั่งน้อยเลยล่ะ เขามีศักยภาพที่ดี แถมยังทำงานหนัก และมีพัฒนาเร็วมาก เขาเป็นคู่ซ้อมของเจ๋อเวิน พื้นฐานแน่น ฉันถึงได้กล้าแนะนำให้นายไง”

เด็กหนุ่มรู้สึกเขินเมื่อได้รับคำชมอย่างนี้ เขายิ้มอายๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัว

หลี่ชางอวี๋สังเกตมือของเด็กหนุ่มทันที นิ้วของเด็กคนนี้เรียวยาว และยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการเล่นเกมจริงๆนั่นล่ะ

“เสี่ยวกู่ฝึกหลายๆอาชีพของมิราเคิลในค่ายฝึกฝน แต่ยังไม่ได้ตัดสินว่าจะเล่นอะไร ความสามารถของเขายังไม่แสดงออกมาอย่างเต็มที่ ดังนั้นฉันเลยอยากจะยกเขาให้นาย บางทีเขาอาจจะพร้อมในมิราเคิลลีกฤดูหน้าก็ได้” หลิวฉวนยิ้มพลางอธิบาย “ผู้เล่นคนอื่นๆนายคงต้องหาดูในเกมเอา ทางฝั่งฉันเองก็จะดูๆให้ แล้วเราค่อยมาคุยกันอีกทีหลังจากที่เจอต้นกล้าฝีมือดี”

“ไม่มีปัญหา” หลี่ชางอวี๋พยักหน้า

หลิวฉวนไม่ใช่คนที่จะเมินไม่สนใจคนอื่นหลังจากเซ็นสัญญาเสร็จ เขารักในอีสปอร์ต และเห็นได้ชัดว่าเขาพร้อมที่จะตั้งทีมที่แข็งแกร่งในมิราเคิลแล้ว

ค่ายฝึกฝนของดราก้อนซองเข้มงวดมาก และผู้เล่นฝีมือดีที่หลิวฉวนเป็นคนเลือกกับมือย่อมไม่แย่

กู่สือหมิงดูยังเด็ก แต่ในเมื่อหลิวฉวนกล้าแนะนำมาอย่างนี้ เด็กน้อยคนนี้น่าจะมีอะไรบางอย่างที่พิเศษ

แต่การจะลับฝีมืออย่างไรนั้น หน้าที่นี้ถูกมอบหมายให้กัปตันคนใหม่เป็นผู้ดูแล

หลี่ฉางอวี๋ยิ้มบางๆในขณะที่คิดกับตัวเองก่อนจะพูดขึ้นมา “เสี่ยวกู่สร้างบัญชีเกมมิราเคิล แล้วไปเจอฉันที่เซิฟเวอร์ป่าแสงจันทร์”

ดวงตาของกู่สือหมิงเปล่งประกาย เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารัวๆเหมือนกับไก่ที่จิกข้าวสาร “ครับ!”

หลิวฉวนตบบ่าเด็กหนุ่ม และกระซิบบอกเขาว่า “แคทก็อดเป็นกัปตันทีมมิราเคิลของเรา ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมิราเคิลจะให้เขาจัดการ รวมถึงตารางการฝึกของนายด้วย ฟังคำสั่งของเขาให้ดีๆล่ะ ฉันไม่จำเป็นต้องพูดถึงฝีมือของเขาเลย นายจะรู้เองหลังจากที่ได้ติดตามเขา อ้อ ถ้านายเจอฮีลเลอร์ที่อยู่ข้างๆเขา ตัวละครนั้นน่าจะเป็นรองกัปตันไป๋เซวียนของทีมชางหลันนะ พยายามสนิทกับไป๋เซวียนเข้าไว้ล่ะ เข้าใจไหม?”

กู่สือหมิงพยักหน้า “เข้าใจครับ!”

หลิวฉวนกลับไปมองหลี่ชางอวี๋อีกครั้ง “แคทก็อด นายรู้เรื่องมิราเคิลดีกว่าฉัน ดังนั้นฉันจะให้นายเป็นคนกำหนดรูปแบบทีม นายสามารถจัดหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้เสี่ยวกู่ได้เลยนะ”

หลี่ชางอวี๋พยักหน้า “ครับ”

หลิวฉวนพูดอีกครั้งว่า “ฉันจะไปดูสถานการณ์ทีมอู๋หลินกับเจ๋อเวินก่อน ถ้ามีอะไรก็ติดต่อหาฉันได้นะ!”

หลี่ชางอวี๋หัวเราะ “ครับ ไปเถอะครับคุณดูยุ่งๆ”

“สวัสดีครับบอส! แล้วก็บายครับกัปตันอู๋!” กู่สือหมิงบอกลาทั้งสองอย่างสุภาพ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง เขาเปิดตัวเกมมิราเคิลที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ขึ้นมา หลังจากที่ตั้งค่าบัญชีเรียบร้อยแล้ว เขาก็แอดตัวละครของหลี่ชาวอวี๋เข้าไปในรายชื่อเพื่อน

[ผู้เล่น “ชื่อตามคำแนะนำ” เลเวล 1 ได้ส่งคำร้องเพิ่มเพื่อนกับคุณ]

หลี่ชางอวี๋ประหลาดใจที่เห็นประโยคนี้ของระบบ “นายสร้างตัวละครแล้วเหรอ? ดีนี่”

“ครับ!” กู่สือหมิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “กัปตัน ผมสร้างตัวละครเผ่าสัตว์ป่า”

“...” หลี่ชางอวี๋เกือบสำลักน้ำลายตัวเอง

เด็กน้อยคนนี้ผอม และตัวไม่สูงเลย เขามีใบหน้าเหมือนเด็กน้อยทั่วไป แต่กลับสร้างตัวละครเผ่าสัตว์ป่าที่ทั้งสูงแล้วก็กล้ามล่ำบึ้ก!

ความแตกต่างช่างใหญ่โตยิ่งนัก เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?

“ผมชอบเล่นไนท์มากๆ” กู่สือหมิงถามต่อ “กัปตัน ให้ผมเล่นแท้งค์หลักได้ไหม”

วิดิโอคอลยังคงเปิดกล้องอยู่ ดังนั้นหลี่ชงอวี๋ถึงได้เห็นดวงตาใสที่รอคอยคำตอบ ราวกับเด็กเล็กที่ถามลุงว่า “ลุงครับ ผมอยากกินลูกอม ให้ลูกอมผมได้ไหม?”

หลี่ชางอวี๋ใจอ่อน เขากระแอมก่อนจะตอบกลับไป “เอาสิ ทีมเราขาดแท้งค์หลักพอดี”

แท้งค์หลักมักจะถูกเรียกว่าโล่เนื้อ อาชีพพาลาดินในมิราเคิลมักจะอยู่แนวหน้าสุด รับบทบาทในการปกป้องทีมของตัวเอง มันอาจจะดูกระอั่กกระอ่วนที่กู่สือหมิงเล่นพาลาดิน แต่หลี่ชางอวี๋ไม่ได้ปฏิเสธเด็กหนุ่ม เขาจะค่อยๆค้นหาความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มตรงหน้าไปเรื่อยๆ

หลี่ชางอวี๋ดึงไป๋เซวียนกับกู่สือหมิงเข้ามาด้วยกัน ก่อนจะพิมพ์ว่า “เรามีแท้ง พ่อนม และตัวทำดาเมจแล้ว เหมาะสำหรับลงดันเจี้ยนมาก”

ไป๋เซวียนมองมาด้วยความประหลาดใจ “ใครคือ ชื่อตามคำแนะนำ?”

“เขาคือกู่สือหมิง เด็กอายุ 17 ปี” หลี่ชางอวี๋ใส่หูฟังในขณะที่คุยกับหลิวฉวนและคนอื่นๆ ดังนั้นไป๋เซวียนจึงไม่ได้ยินบทสนทนาทั้งหมด ชายหนุ่มอธิบายให้ไป๋เซวียนว่า “เขาเป็นต้นอ่อนในค่ายฝึกฝนที่หลิวฉวนส่งให้เรา”

“ค่ายฝึกฝนของดราก้อนซอง? ฝีมือของเขาไม่น่าจะแย่แน่ๆ” ไป๋เซียนหยุด และพูดต่อว่า “หลังจากที่เขาเลเวล 10 เราค่อยลงดันเจี้ยนกัน”

วิดิโอคอลใช้ความเร็วเน็ตค่อนข้างเยอะ ดังนั้นหลี่ชางอวี๋จึงวางสายไป เขาสร้างห้องแชทแบบออกเสียงในเกม และเชิญไป๋เซวียนกับกู่สือหมิงเข้ามา พร้อมกับตั้งรหัสล็อกไว้ จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “เสี่ยวกู่ นายรู้จักมิราเคิลดีแค่ไหน?”

น้ำเสียงนุ่มตอบกลับมา “กัปตัน ผมเพิ่งจะเข้าค่ายฝึกฝนของดราก้อนซองเมื่อต้นปีนี้เอง ผมทดสอบหลายๆอย่างในระหว่างที่อยู่ในค่าย  จากนั้นบอสและกัปตันอู๋ก็ให้ผมเล่นมิราเคิล ผมเล่นมาประมาณครึ่งปีแล้ว”

เห็นได้ชัดว่าหลิวฉวนมีความคิดที่จะขยายฐานไปมิราเคิลมานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้า เด็กคนนี้คงจะเป็นผู้เล่นที่เขาเตรียมเอาไว้สำหรับทีมใหม่

“นายเคยเล่นอาชีพ แล้วก็เผ่าอะไรบ้างในมิราเคิล?” หลี่ชางอวี๋อยากรู้เกี่ยวกับพื้นฐานของเด็กหนุ่มก่อน

“ผมเคยเล่นแค่พาลาดินเผ่าสัตว์ป่า อิลูชั่นนิสเผ่าเทวดา แล้วก็ฮันเตอร์เผ่าเอลฟ์ครับ ผมชอบเล่นพาลาดินนะ แต่ผมสามารถเล่นอาชีพอื่นๆได้ถ้าทีมต้องการ”

เด็กหนุ่มตอบคำถามด้วยน้ำเสียงซื่อๆ เสียงนุ่มๆของเขาเองก็น่าฟังด้วย

หลี่ชางอว่ยิ้มออกมา และอธิบายอย่างใจเย็น “มิราเคิลมีเผ่าเริ่มต้นทั้งหมดหกเผ่า และมีอาชีพท้ายเกมทั้งหมดสิบสองอาชีพ ด้วยสิ่งนี้ทำให้ก่อเกิดสิ่งที่ไม่ซ้ำกันได้มากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นที่มีอาชีพและเผ่าพันธุ์เดียวกันก็อาจจะมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันเพราะการเพิ่มแต้มสถานะและแต้มสกิลของแต่ละคน หลังจากที่เข้าลีกระดับมืออาชีพแล้ว นายจะได้เจอผู้เล่นหลากหลาย ตอนนี้นายเคยเล่นมาแค่สามแบบ ดังนั้นนายยังคงขาดความเข้าใจเกี่ยวกับมิราเคิลอยู่”

คำพูดของชายหนุ่มฟังดูสมเหตุสมผล กู่สือหมิงรีบพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ครับ ผมรู้เกี่ยวกับมิราเคิลน้อยมาก ตัวเกมมีรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย และผมยังเล่นได้ไม่หลากหลายพอ ความเข้าใจของผมยังไม่เพียงพอ!”

“ไม่ต้องห่วง นายจะค่อยๆเข้าใจไปเอง ในเมื่อนายอยากเล่นพาลาดิน งั้นก็เล่นอาชีพนี้ก่อนแล้วกัน” เสียงหลี่ชางอวี๋นุ่ม และอ่อนโยนราวกับเขากำลังสอนน้องชายตัวเองอยู่ เขาไม่อยากจริงจังเกินไปจนทำให้เด็ก17ปีคนนี้แตกตื่น

“ครับ ผมจะรีบเก็บเลเวลให้ถึง 10 แล้วค่อยไปหาคุณที่ดันเจี้ยน!” กู่สือหมิงควบคุมตัวละคร “ชื่อตามคำแนะนำ” ออกไปทำภารกิจ

“ชอบกินปลาตุ๋น” กับ “ชอบกินหมูสองไฟ” เด่นหราอยู่บนรายชื่อทีม ถ้าเดาไม่ผิด “ชอบกินปลาตุ๋น” จะต้องเป็นบัญชีของแคทก็อด ส่วนชอบกินหมูสองไฟจะต้องเป็นไป๋เซวียน คู่หูที่ดีที่สุดของชายหนุ่มพ่วงตำแหน่งรองกัปตันทีมชางหลัน

กู่สือหมิงรู้สึกกดดันเมื่อมีเทพทั้งสองอยู่ในทีม ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกตื่นเต้นด้วยเช่นกัน ความเร็วในการทำภารกิจของเด็กหนุ่มเร็วมากเพราะเขาไม่อยากให้เทพทั้งสองต้องรอเขาเป็นเวลานาน!

การเพิ่มเลเวลในช่วงเลเวลต่ำกว่า 10 สามารถทำได้อย่างรวดเร็วในเกมมิราเคิล และกู่สือหมิงเองก็มีประสบการณ์การเล่นมาแล้วถึงสามอาชีพ ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงสามารถเก็บเลเวลให้ถึงเลเวล 10 ได้ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที เขารีบออกจากอาณาเขตสัตว์ป่า และมุ่งหน้าไปยังอาณาเขตของมนุษย์ทันที

เมืองอี๋ซือเป็นหนึ่งในสถานที่รวมพลของเผ่าพันธุ์มนุษย์ และเป็นหนึ่งในเมืองหลักที่มีข้อจำกัดในการเข้าเมืองด้วยเลเวลที่ต่ำเพียงแค่ 10 เท่านั้น

หลังจากที่เขาเดินทางมาถึง ก็พบว่าผู้คนต่างเดินเข้าๆออกๆที่ถนนหลักอย่างวุ่นวาย ที่นี่รวบรวมผู้เล่นจากทั้งหกเผ่าไม่ว่าจะเป็นเผ่าเทวดาที่มีปีกสีขาว เอลฟ์ที่ทั้งสง่างามและปราดเปรียว สัตว์ป่าที่สูงและทรงภูมิ เผ่าปีศาจปีกสีดำ เผ่าโลหิตที่ผิวซีด และมนุษย์ที่หน้าตาตามมาตรฐาน

ผู้เล่นใหม่หลายคนเดินดูรอบๆตัวเมืองอย่างสนอกสนใจในขณะที่เจ้าคลั่งน้อยกลับรีบพุ่งตัวออกไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นเขตชานเมืองของเมืองอี๋ซือทันที

ที่นั่นเป็นสถานที่ตั้งของ “เมืองอี๋ซือยามค่ำคืน” ดันเจี้ยนแห่งแรกของมิราเคิล

กู่สือหมิงวิ่งไปที่ทางเข้าดันเจี้ยน ก่อนจะเห็นเอลฟ์ชายชื่อว่า “ชอบกินปลาตุ๋น” และเทวดาชายชื่อว่า “ชอบกินหมูสองไฟ” รออยู่ก่อนหน้านี้นานแล้ว เขาข่มความรู้สึกหิวของตัวเองเอาไว้ เขารีบวิ่งเข้าไปทั้งทีที่เห็นชื่อไอดีทั้งสอง [กัปตัน ผมมาแล้วครับ!]

[อืม] หลี่ชางอวี๋ตอบกลับไปสั้นๆ [เข้าดันเจี้ยนกันเถอะ]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด