ตอนที่ 17 ฉินโม่

เซี่ยซูหรงอยู่ด้วยจนถึง1ทุ่ม แล้วก็กลับไป หลี่ชางอวี๋ดื่มชาถ้วยหนึ่ง และพักผ่อนสักนิด ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์และเข้าเกม เขาเพิ่งจะล็อกอินเข้าตัวละครชอบกินปลาตุ๋นก็เห็นข้อความส่วนตัวจากหลัวเซียวลั่วที่มุมซ้ายของหน้าจอ

[สวัสดีพี่ปลา เราอยากชวนพี่กับเพื่อนๆของพี่มาเข้ากิลด์ไทม์!]

[กิลด์ไทม์ของเราถือว่าเป็นหนึ่งในกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเซิฟเวอร์ใหม่นี้ พี่ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะขาดคนเข้าดันเจี้ยน หรือสนามประลอง พี่แค่แชทในช่องสนทนากิลด์ของเรา ก็จะเจอทีมอย่างง่ายดาย!]

[พอพี่เลเวลตันแล้ว พี่ก็สามารถเข้ากลุ่มลงดันเจี้ยนระดับหัวกระทิของกิลด์ไทม์ได้ ผมกล้าการันตีเลยว่าพี่จะได้รับเครื่องสวมใส่ครบเซ็ทภายในหนึ่งเดือน!]

[หัวหน้ากิลด์ยังบอกอีกว่า เขาจะหาลายเซ็นของท่านเทพเฉิงเว่ยมาให้ ถ้าพี่เข้ากิลด์เรา ลายเซ็นอันนี้จะเป็นของพี่ทันที!]

หลี่ชางอวี๋ “...”

แคทก็อดเห็นข้อความนี้แล้วก็แทบจะพ่นน้ำชาออกจากปาก

อันที่จริง การใช้ลายเซ็นของเฉิงเว่ยในการดึงเข้ากิลด์แบบนี้ ดูเหมือนว่ากิลด์ไทม์กำลังนำสิ่งที่คนอื่นหาได้ยากให้กลายมาเป็นข้อได้เปรียบของตัวเอง

โชคร้ายที่พวกเขาไม่รู้ว่าเทพเฉิงเว่ยของพวกเขาอยากได้ลายเซ็นของแคทก็อดมาตลอด

หลี่ชางอวี๋ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเด็กหนุ่มที่มักจะไล่ตามเขาเพื่อขอลายเซ็น

เฉิงเว่ยและเซี่ยซูหรงเป็นผู้เล่นที่เปิดตัวในลีกฤดูกาลที่สาม รูปแบบการเล่นของเซี่ยซูหรงจะดุดันมากกว่า และเขาก็มีจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าของนักดาบ ออกจะเน้นไปทางกดดันด้วยพละกำลัง ส่วนเฉิงเว่ยนั้นเล่นไวท์เมจิกเชี่ยน การควบคุมคู่ต่อสู้จากระยะไกล และการเคลื่อนไหวของเขาละเอียดมากทำให้เกมการเล่นของเด็กหนุ่มเฉียบคม และยืดหยุ่น

หลังจากที่ทั้งสองได้รับรางวัลหน้าใหม่ รองกัปตันของทีมไทม์ก็ถอนตัวไป ทำให้เฉิงเว่ยได้รับการแต่งตั้งเป็นรองกัปตัน

เฉิงเว่ยที่เพิ่งจะเปิดตัวเมื่ออายุ16ปี ในตอนนี้อายุ19ปีแล้ว และอยู่ในจุดสูงสุดของนักกีฬาอีสปอร์ต เด็กหนุ่มเป็นคนสดใสร่าเริง เขาดูน่ารักและเจิดจ้าในตอนที่หัวเราะ ความนิยมในตัวของเด็กหนุ่มในลีกมิราเคิลค่อยๆสูงขึ้น สูงขึ้น และมีแฟนคลับอยู่เป็นจำนวนมาก

แต่ผู้เล่นหน้าเก่าเกือบทุกคนรู้ดีว่าจริงๆแล้ว เฉิงเว่ยเป็นแฟนบอยของแคทก็อด

เมื่อไหร่ที่พวกเขาได้ลงเล่นด้วยกัน เฉิงเว่ยมักจะชวนแคทก็อดไปกินข้าวอย่างกระตือรือร้นเสมอ

หลังจากที่ทีมเอฟทีดียุบไป และหลี่ชางอวี๋ย้ายไปเล่นอีกเกม เฉิงเว่ยพยายามชวนให้ชายหนุ่มไปอยู่ด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธ หนุ่มน้อยยังคงเสียใจกับเรื่องนี้มาตลอด

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาซูเติบโตขึ้นมาก และเสี่ยวเฉิงเองก็กลายเป็นผู้ใหญ่แล้วเช่นกัน

หลี่ชางอวี๋อายุ23แล้ว สำหรับวงการนักกีฬาอีสปอร์ต อายุขนาดนี้ถือว่าแก่ และควรจะคิดเรื่องถอนตัวได้แล้ว

มันยังไม่สายที่จะกลับไปในตอนนี้ แต่หลี่ชางอวี๋รู้ดีว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว

หากเขาไม่ชนะในรอบนี้ เขาคงจะต้องพลาดมันไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน

ดังนั้น เขาจึงต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้

***

[พี่ปลาออนไลน์แล้ว!] ในขณะที่หลี่ชางอวี๋กำลังคิดอยู่ ข้อความส่วนตัวก็ถูกส่งมาอีก แน่นอนว่ามาจากหลัวเซียวลั่ว โฆษกประจำกิลด์นั่นเอง [พี่คิดดูแล้วหรือยัง? พี่จะเข้ากิลด์ไทม์ไหม? ผมจะส่งลายเซ็นไปให้พี่ทางไปรษณีย์แบบด่วนพิเศษเลย!]

[…] หลี่ชางอวี๋หัวเราะ [นายเก็บลายเซ็นรองกัปตันเฉิงเอาไว้เถอะ ฉันไม่เข้ากิลด์ไทม์หรอก]

หลัวเซียวลั่วตกใจ [พี่ไม่ใช่แฟนบอยของท่านเทพเฉิงเว่ยหรอกเหรอ?]

หลี่ชางอวี๋ [ไม่]

หลัวเซียวลั่ว [...] หน้าแตกยับเยิน!

หลี่ชางอวี๋ไม่อยากเข้ากิลด์ไทม์ แต่เขาก็มีความรู้สึกที่ดีให้กับกิลด์เพราะเฉิงเว่ย ยิ่งไปกว่านั้น หัวหน้ากิลด์ไทม์ยังเลือกที่จะยอมแพ้ในภารกิจครั้งนั้น หลี่ชางอวี๋รู้สึกชื่นชมการเข้าหาที่ชาญฉลาดแบบนี้

[ฝากขอบคุณหัวหน้ากิลด์ด้วยนะที่ตั้งใจชวน แต่ฉันไม่เข้ากิลด์ไทม์ แล้วก็จะไม่เข้ากิลด์อื่นๆด้วย ฉันจะหาทางขอความช่วยเหลือเองแล้วกัน] หลี่ชางอวี๋ส่งข้อความหาหลัวเซียวลั่ว นิสัยของเขาเป็นแบบนี้มาตลอด ถ้ามีใครให้ความเคารพกับเขาก่อน เขาก็จะให้ความเคารพคืน แต่ถ้าใครมาหาที่ตาย เขาก็แค่ลงมือมันก็เท่านั้น

หลัวเซียวลั่วส่งรูปภาพหน้าจอข้อความตอบกลับของชอบกินปลาตุ๋นให้กับหัวหน้ากิลด์ และถามต่อว่า [หัวหน้า เราจะทำยังไงต่อไปดี?]

ไทม์แมชชีนคิดสักพักก่อนจะรีบตัดสินใจ [ในเมื่อเขาไม่อยากเข้ากิลด์ เราก็ไม่บังคับ ฉันคิดว่าคนคนนี้ทะเยอทะยาน และอยากสร้างกิลด์ของตัวเอง เป็นพันธมิตรกับเขาน่าจะดีกว่าเป็นศัตรูล่ะนะ รอดูต่อไปอีกสักหน่อยแล้วกัน]

หลัวเซียวลั่วหดหู่ [ผมไม่คิดว่าเขาจะไม่ใช่แฟนบอยของรองกัปตันเฉิง]

ไทม์แมชชีนหัวเราะ [มีนักกีฬาฝีมือดีตั้งหลายคนในลีก ความนิยมของรองกัปตันเฉิงสูงมากก็จริง แต่เขาก็มีแอนตี้เยอะเหมือนกัน เจ้าชอบกินปลาตุ๋นคนนี้อาจจะแค่ได้ยินชื่อของรองกัปตันเฉยๆก็ได้]

หลัวเซียวลั่วส่งไอค่อนรูปตาเป็นประกายไปรัวๆ [งั้นผมขอลายเซ็นของรองกัปตันเฉิงอันนั้นได้ไหมครับ?]

ไทม์แมชชีนปวดหัวขึ้นมาทันที [โอเค ฉันจะส่งให้นายแบบด่วนพิเศษเลย!]

***

หลังจากนั้นไม่นานนัก เซี่ยซูหรงกลับถึงคลับก็ตรงเข้าเกมทันที เขาส่งข้อความไป [แคทก็อด เราจะทำภารกิจต่อเลยไหม?]

หลี่ชางอวี๋ [รอเสี่ยวกู่เข้ามาก่อน ฉันจะได้แนะนำให้นายรู้จัก]

เขาเพิ่งพูดไป สักพักข้อความจากระบบด้านซ้ายล่างก็เด้งขึ้นมาทันที [ผู้เล่น “ชื่อตามคำแนะนำ” ออนไลน์แล้ว]

เสี่ยวกู่ถูกหลี่ชางอวี๋บังคับให้ไปนอนตอนตี1 เด็กหนุ่มตื่นมาตอน8โมง และรีบเปิดคอมอย่างตื่นเต้น หลังจากที่เขาเข้าเกมมาก็พบเรื่องน่าตกใจ! ชอบกินปลาตุ๋นกับชอบกินหมูสองไฟเลเวล31กันแล้ว เขาเพิ่งจะเลเวล20เอง ห่างกันตั้ง 11 เลเวล

กู่สือหมิงส่งหน้าร้องไห้มาให้ [กัปตัน คุณเก็บเลเวลไวเกินไป แถมยังไม่รอผมอีก!]

หลี่ชางอวี๋ยิ้ม และเพิ่มเขาเข้ามาในทีม [ฉันขอแนะนำนะ นักดาบเผ่ามนุษย์คนนี้เป็นเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ ส่วนเด็กคนนี้ชื่อเสี่ยวกู่ อายุ17ปี และเป็นแท้งค์หลักของทีมเรา]

เซี่ยซูหรงพิมพ์ต่อ [นายจะเรียกฉันว่าอาซูก็ได้]

[สวัสดีอาซู!] กู่สือหมิงประหลาดใจ [หาสมาชิกในทีมหนึ่งคนได้ภายในคืนเดียว กัปตันสุดยอด!]

เซี่ยซูหรงได้ยินมาจากแคทก็อดว่าทีมมีพาลาดินฝีมือดีอยู่ แต่เขาไม่คิดว่าจะเด็กขนาดนี้ จนอดสงสัยกับตัวเองไม่ได้ว่า เด็กคนนี้จะสามารถพึ่งพาได้จริงหรือ?

ไป๋เซวียนดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของเขา จึงได้ส่งข้อความส่วนตัวมาหา [เสี่ยวกู่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ฝีมือดีของค่ายฝึกฝนดราก้อนซอง เขาไม่ได้เล่นเกมมานานมากก็จริง และยังคงอ่อนแออยู่ แต่เขามีศักยภาพที่ดีมาก เขาฉลาดด้วย ถ้าพวกเราฝึกเขาให้ดี เขาจะต้องกลายเป็นสมาชิกในทีมที่แข็งแกร่งได้แน่]

เซี่ยซูหรงปัดความคิดสงสัยออกไปจากหัว ในตอนที่เขาและเฉิงเว่ยได้รางวัลหน้าใหม่ เขาเพิ่งจะอายุ18 ส่วนเฉิงเว่ยเพิ่งจะอายุ16 การนำเอาอายุมาเป็นตัวประเมินไม่ได้หมายความว่าจะเชื่อถือได้ เสี่ยวกูเพิ่งจะอายุ17 และเมื่อฤดูกาลหน้าเริ่มต้นเขาก็จะอายุ18 อันที่จริง ก็ไม่ได้อายุน้อยเลย มีนักกีฬาฝีมือดีและโดดเด่นหลายคนที่ยังเป็นเด็กอยู่

เซี่ยซูหรงคิดถึงตรงนี้ พร้อมกับตอบไป๋เซวียนไป [ขอบคุณสำหรับคำอธิบายครับ ผมเข้าใจแล้ว]

ไป๋เซวียน [ไม่เป็นไร มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำอยู่แล้ว]

เซี่ยซูหรงยิ้มไม่หยุด ไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นจะพูดว่ารองกัปตันไป๋อ่อนโยนและใส่ใจ ผู้ชายคนนี้เอาใจใส่จริงๆ เขารู้ว่าเซี่ยวซูหรงจะต้องสงสัยในความสามารถของเสี่ยวกู่ ก็เลยเลือกที่จะอธิบายให้ชัดเจนเพื่อที่สมาชิกในทีมจะได้เข้าใจกัน

ในขณะที่อธิบายให้กับเซี่ยซูหรง ไป๋เซวียนก็ส่งข้อความให้กับกู่สือหมิงด้วย [อาซูเป็นยอดฝีมือ ฉันจะค่อยๆเล่าประวัติของเขาให้นายฟังช้าๆอีกที ตอนนี้นายลองดูว่าจะตามจังหวะการเล่นของเขาได้ไหม]

นักดาบยอดฝีมือ? ชายคนนี้มาจากไหนกัน?

กู่สือหมิงเก็บความสงสัยของตัวเองเอาไว้ก่อน พร้อมกับตอบกลับไป [เข้าใจแล้วครับ!]

[มานี่ มาทำภารกิจด้วยกัน] หลี่ชางอวี๋พิมพ์ในช่องแชททีม ก่อนจะดึงสมาชิกในทีมเข้าห้องแชทเสียง

กู่สือหมิงใส่หูฟังพร้อมกับพูดว่า “กัปตัน ผมเลเวลแค่20เอง จะไม่ถ่วงทีมเหรอถ้าจะให้ผมทำภารกิจด้วยกันน่ะ?”

“ไม่ต้องกลัว พวกเราจะระวังให้นายเอง รีบเก็บเลเวลก่อน” หลี่ชางอวี๋อธิบาย “ถ้านายทำภารกิจรับรางวัลไปเรื่อยๆ นายน่าจะเลเวล27ภายในเที่ยงคืนนี้ แล้วพอพวกเราไปนอน นายก็ต้องไปเก็บเลเวลคนเดียว ตอนที่เราเจอกันอีกทีพรุ่งนี้นายน่าจะเลเวล35แล้ว และเราค่อยมาลงดันเจี้ยนกัน”

“ผมต้องเพิ่มถึง 15 เลเวลภายในวันเดียว?” กู่สือหมิงถามอย่างรู้สึกกดดัน

“ใช่ ฉันกำลังทดสอบนายอยู่” หลี่ฉางอวี๋ตอบ

กู่สือหมิงพยักหน้าทันที “กัปตัน ผมเข้าใจแล้ว! ผมจะทำมันให้สำเร็จ!”

หลี่ชางอวี๋ยิ้ม “ดีมาก”

กู่สือหมิงกำลังใจลุกโชนเมื่อได้รับคำชมจากแคทก็อด

ทั้งสี่คนมารวมตัวกันที่จุดรับภารกิจ และหลังจากนั้นก็รับภารกิจคุ้มกันเอ็นพีซีมา

ในกรณีที่ไม่มีใครมาก่อกวนภารกิจ ภารกิจรับรางวัลนี้จะสบายกว่าการไปต่อสู้กับบอสในดันเจี้ยน พอถึงเวลา2ทุ่มครึ่ง หลี่ชางอวี๋เลเวลเพิ่มมาเป็น 32 ในขณะที่เสี่ยวกู่เองก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 22 เช่นกัน

ทุกคนพูดคุยกันขณะทำภารกิจ และไม่รู้สึกเบื่อเลย

หลังจากที่รับภารกิจมา ไป๋เซวียนก็โพล่งถามขึ้น “รอบนี้ก็ยังไม่มีใครมาก่อกวนอีกงั้นเหรอ?”

เขาเพิ่งพูดจบ กลุ่มคนก็ปรากฎขึ้นไม่ไกลมากนัก พวกเขายืนรออยู่อย่างเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องดี

เหลือเชื่อที่อีกฝ่ายคือทีมหัวกระทิที่นำโดยหัวหน้ากิลด์วินคัลเลอร์ที่ชื่อว่าที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์!

เซี่ยซูหรงประหลาดใจ “พวกเขาแพ้ไปแล้วสองกลุ่ม แต่ยังจะส่งมาอีกกลุ่มนึงงั้นเหรอ? ดึงดันมาก!”

หลี่ชางอวี๋ยิ้ม “ฉันคิดว่าพวกเขามีตัวช่วยมาด้วยนะ”

***

ณ ออฟฟิศประจำกิลด์วินคัลเลอร์

เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาติดจะเย็นชานั่งเบื้องหน้าคอมพิวเตอร์ นิ้วมือเรียวยาวของเขากดเม้าส์อย่างไวเพื่อฉายวิดิโอซ้ำ

หลังจากที่ดูวิดิโอจนจบ เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดว่า “วิดิโอมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่คุณถ่ายมามันไม่ชัดเจน เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”

ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์ หัวหน้ากิลด์วินคัลเลอร์เกาหัวเบาๆด้วยความอับอาย “เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อคืนก่อน ผมพาทีมไปก่อกวนภารกิจรับเงินรางวัล เจอกับทีมผู้เล่นสามคน แล้วก็ถูกพวกเขาฆ่า อาโจวถ่ายวิดิโอเอาไว้ ก็เลยอยากให้เทพฉินโม่ดูให้สักหน่อย”

ฉินโม่หันกลับไปมองอย่างประหลาดใจ “คุณหมายความว่าทีมหกคนถูกฆ่าโดยผู้เล่นแค่สามคนเนี่ยนะ? แถมยังแพ้ทั้งหมด?”

“ใช่” ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์ปาดเหงื่อ “ทีมแพ้ไปสองรอบ...”

ฉินโม่เบิกตากว้าง “ทีมถูกทำลายสองครั้ง?”

“...” ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้แต่ทำสีหน้าอึดอัด

อันที่จริง ข่าวเรื่องทีมหัวกระทิทั้งหกคนของกิลด์วินคัลเลอร์แพ้ทั้งสองรอบถูกกระจายออกไปทั่วทั้งเซิฟเวอร์ใหม่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เขามาหาฉินโม่ก็เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในทีมแข่ง และพวกเขาก็สนิทกับเด็กหนุ่มที่สุดในฝั่งนักกีฬาลีกแล้ว

สำหรับกัปตันหลิงนั้น...

พวกเขาไม่กล้ารบกวนหรอก! มันน่าอับอายเกินไป!

ฉินโม่ขมวดคิ้ว “ทางที่ดีก็อย่าให้อาจารย์รู้เรื่องนี้เลย ขายหน้าวินคัลเลอร์เสียเปล่าๆ”

ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์รีบเห็นด้วย “ใช่ ใช่ เราจะพยายามปิดเรื่องกับกัปตันหลิง”

พวกเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้ากัปตันหลิงรู้เข้าแล้วจะเกิดอะไรขึ้น...

“ขอบัญชีที่มีซัมมอนเนอร์เผ่าโลหิตมาให้หน่อย ฉันจะไปดูเองว่าพวกเขาเป็นใคร”

รองหัวหน้ากิลด์เรือลำเดียวกันใต้ลมฝนรีบยื่นให้ทันที

***

ภายในเกม หลี่ชางอวี๋เห็นว่าคนทั้งหกที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่มีการเคลื่อนไหว เขาเลยพิมพ์ลงไปบนช่องสนทนาพื้นที่ [หัวหน้ากิลด์ คุณมาก่อกวนภารกิจอีกแล้วเหรอ?]

ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์มองฉินโม่ด้วยความอาย

ฉินโม่มุ่งมั่นมาก เขาไม่ได้พูดอะไร และตรงเข้าไปกดปุ่มพีเคทันที

[ผู้เล่น เรือลำเดียวกันใต้ลมฝน เผ่าพันธุ์โลหิต อาชีพซัมมอนเนอร์ เลเวล 32 ได้ส่งคำขอร้องที่จะเรียนรู้จากคุณ]

หลี่ชางอวี๋ตกลง

ซัมมอนเนอร์เผ่าโลหิตตรงหน้าเริ่มด้วยการเรียกแมงมุมออกมาอย่างรวดเร็ว และสั่งให้มันตรงเข้ามากัดหลี่ชางอวี๋!

เมื่อเซี่ยซูหรงเห็นเช่นนั้น เขาก็พูดออกมาที่ช่องแชทเสียงเลยว่า “เขาคือฉินโม่”

ไป๋เซวียนประหลาดใจ และถามว่า “เขาคือเด็กอัจฉริยะจากทีมวินคัลเลอร์?”

“ใช่” เซี่ยซูหรงพูด “ผมดูการแข่งของทีมวินคัลเลอร์มาหลายเกม เขาชอบเริ่มด้วยการอัญเชิญแมงมุมจนกลายเป็นนิสัย ก็เหมือนที่แคทก็อดพูด ในเมื่อกิลด์วินคัลเลอร์กล้ามาหาพวกเราถึงที่ ก็แสดงว่าพวกเขาต้องมีคนช่วย คนที่บังคับตัวละครซัมมอนเนอร์เผ่าโลหิตของอีกฝ่ายจะต้องเป็นฉินโม่อย่างแน่นอน”

หลี่ชางอวี๋ฟังสองคนพูดกันในช่องแชทเสียงเลยรู้สึกสงสัยขึ้นมา “ใครคือฉินโม่?”

กู่สือหมิงเริ่มอธิบายอย่างกระตือรือร้น “กัปตันครับ ฉินโม่อายุน้อยกว่าผมหนึ่งปี! เขาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ภายใต้ทีมวินคัลเลอร์ เขาเล่นซัมมอนเนอร์เผ่าโลหิต และเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของกัปตันหลิงเสวียเฟิง! เขายังเป็นที่รู้จักกันในนามของเจ้าชายน้อยทีมวินคัลเลอร์อีกด้วย!”

หลี่ชางอวี๋เงียบไปพักหนึ่ง “ในเมื่อเขาเป็นลูกศิษย์ของหลิงเสวียเฟิง เขาก็นับว่าเป็นลูกศิษย์ของฉันด้วย ไม่จำเป็นต้องดูแลเด็กคนนี้ให้มากนัก เดี๋ยวฉันจะสั่งสอนเขาสักหน่อย”

ทุกคน “...”

กู่สือหมิงได้จุดไฟกองโตให้กับฉินโม่ซะแล้ว