ตอนที่ 15 กระโดดข้ามขั้นอย่างรวดเร็ว
หลี่ชางอวี๋กับเซี่ยซูหรงรวมมือกันเพื่อจัดการกับสัตว์เลี้ยงของซัมมอนเนอร์ฝั่งตรงข้ามซึ่งถือเป็นการจำกัดพลังโจมตีของซัมมอนเนอร์ทั้งสองคนไปโดยปริยาย
แน่นอนว่าหลี่ชางอวี๋ถูกแบล็กเมจิกเชี่ยนของอีกทีมโจมตีจนเลือดลดลงไปมากเช่นกัน
แต่เขาไม่ได้เป็นกังวล ตอนนี้เลือดเขาอยู่ที่ประมาณ 40% และมันเพียงพอที่จะจัดการกับซัมมอนเนอร์ฝั่งตรงข้าม
-ไฟร์บอล ไฟร์บอล อัญเชิญภูติสายฟ้า แล้วก็ใช้สกิลสายฟ้าพิโรธ!
เปลวไฟสว่างจ้าระเบิดออกมาเหมือนกับดอกไม้ไฟ ตามมาด้วยสายฟ้าสีม่วงที่ผ่าลงมาจนเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นทำให้ตัวละครที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์ และเรือลำเดียวกันใต้ลมฝนล้มลงกับพื้น!
[ผู้เล่นชอบกินปลาตุ๋นได้สังหารผู้เล่นที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์]
[ผู้เล่นชอบกินปลาตุ๋นได้สังหารผู้เล่นเรือลำเดียวกันใต้ลมฝน]
สมาชิกทีมวินคัลเลอร์ “...”
การต่อสู้เพิ่งจะเริ่ม แต่หัวหน้ากับรองหัวหน้ากิลด์ดันมาตายซะแล้ว โชคดีที่ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์ยังคงสงบ และไม่หงุดหงิดกับการตายของตัวเอง เขารีบพูดขึ้นมาทันที “เขาเหลือเลือดไม่มากแล้ว รีบฆ่าเขาเร็ว!”
หลี่ชางอวี๋ยอมรับผลที่ตามมาการจากฆ่าซัมมอนเนอร์สองตัว ตอนนี้ตัวละครของเขาอยู่ในสถานะวิกฤตจากคาถาของแบล็กเมจิกเชี่ยน
เลือดเขาเหลือเพียง 15% เท่านั้น!
ในตอนนั้นเอง จู่ๆเซี่ยซูหรงกลับทิ้งแนวหน้าของอีกทีม และวกกลับมาหาฮีลเลอร์ เขาใช้สกิลล็อกจิตวิญญาณเพื่อตรึงเบอร์เซิกเกอร์เอาไว้กับที่!
ก่อนหน้านี้ ไป๋เซวียนถูกเบอร์เซิกเกอร์ไล่ตามและทำได้เพียงป้องกันตัวเท่านั้น แต่เมื่อเซี่ยซูหรงควบคุมอีกฝ่ายได้แล้ว ไป๋เซวียนจึงรีบหนีออกไปทันที และใช้สกิลรักษาระดับต่ำใส่หลี่ชางอวี๋เพื่อฟื้นฟูให้เลือดของแคทก็อดกลับมาเป็น 30%!
แคทก็อดรีบใช้จังหวะที่เลือดของเขาฟื้นกลับมาเล็กน้อยนี้ ถือโอกาสใช้ความได้เปรียบของเอลฟ์ในด้านความว่องไวกดใช้งานสกิลก้าวเท้าดุจนกทันที เขาพุ่งไปหาฮีลเลอร์ของอีกทีม พร้อมกับใช้สกิลของภูติน้ำตรึงอีกฝ่ายให้อยู่กับที่ และตามด้วยการอัญเชิญภูติไฟออกมาปล่อยไฟร์บอลอย่างต่อเนื่อง
[ผู้เล่นชอบกินปลาตุ๋นได้สังหารผู้เล่นสายลมพัดใบไม้]
[นายจัดการแบล็กเมจิกก็แล้วกัน] หลี่ชางอวี๋ยังว่างพอมีเวลาเหลือมาพิมพ์ลงในแชททีมในขณะที่กดสกิลฆ่าอีกฝ่ายไปด้วย
[โอเค] เซี่ยซูหรงพิมพ์ตอบกลับไปสองคำ ก่อนจะใช้สกิลใหญ่ของตัวเองแสงและเงาหมุนวน ดาบสีขาวฟาดฟันไปมาบนอากาศคร่าชีวิตของแบล็กเมจิกเชี่ยนทั้งสองคนลงในพริบตา
ในตอนสุดท้าย มีเพียงแค่เบอร์เซิกเกอร์น่าสงสารเหลืออยู่คนเดียว เขาถูกทั้งสองคนร่วมมือกันโจมตีจนตายไปอย่างน่าอนาถ
[ทีมของที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์ล้มเหลวในการก่อกวนภารกิจ เงิน300เหรียญและค่าประสบการณ์3,000แต้มของแต่ละคนจะถูกหักลบออก]
[รางวัลของภารกิจเพิ่มขึ้นเป็น 10,600เหรียญ และค่าประสบการณ์ 106,000แต้ม]
[ทีมชอบกินปลาตุ๋นดำเนินภารกิจต่อไป]
ประโยคแจ้งเตือนจากระบบสามประโยคนี้เกือบทำให้ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์กระอั่กเลือด!
มันมีอะไรผิดพลาดงั้นเหรอ?
เขานำสมาชิกกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาเพื่อก่อกวนภารกิจในครั้งนี้ รวมถึงสั่งสอนสามคนนี้ด้วย ผลก็คือแพ้ยับเยินจากน้ำมือของผู้เล่นเพียงแค่สามคน แถมยังเอาเงินกับค่าประสบการณ์ไปให้อีกฝ่ายด้วย
หลังจากที่ทุกคนออกจากมิติแยกเรียบร้อยแล้ว หลี่ชางอวี๋ไม่พูดมาก รีบเดินพาเอ็นพีซีไปยังจุดเป้าหมายทันที
เอ็นพีซีถูกคุ้มกันจนมาถึงจุดหมาย และภารกิจก็สำเร็จในที่สุด!
[ขอแสดงความยินดีกับทีมของผู้เล่นชอบกินปลาตุ๋นในการทำภารกิจรับรางวัลได้สำเร็จ!]
ทั้งสามได้รับค่าประสบการณ์ 106,000แต้มทำให้ตัวละครของพวกเขาเรืองแสงสีขาวติดต่อกันเนื่องจากเลเวลเพิ่มขึ้นถึง 2 เลเวล ทำให้ตอนนี้พวกเขาเลเวล 22 กันแล้ว
เงินรางวัลถูกแบ่งออกเท่าๆกัน ได้คนละ 3,533 เหรียญ
หลี่ชางอวี๋เปิดช่องเก็บของขึ้นมาดู และพบว่าจากตอนแรกที่สุดแสนจะจนมีเงินแค่300เหรียญ แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 3,833เหรียญเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มอารมณ์ดีสุดๆ [มาทำภารกิจอีกรอบกัน]
[โอเค!] ทั้งไป๋เซวียและเซี่ยซูหรงตอบรับ
***
ผู้เล่นหลายคนมองดูแผ่นหลังของคนสามคนเดินจากไปพร้อมกับมองหน้ากันเอง
ใครคือคนพวกนี้กัน? ทำไมพวกเขาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
หัวหน้ากิลด์ฟลายอิ้งเฟเธอร์ที่กำลังเตรียมพร้อมเข้าก่อกวนภารกิจได้แต่มองดูกลุ่มวินคัลเลอร์ด้วยสีหน้าซับซ้อน หลังจากที่เงียบไปช่วงหนึ่ง เขาก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ถอย! พวกเราถอยกันก่อน!”
ฟลายอิ้งเฟเธอร์เอเรสทำหน้าบูด “ทำไมเราไม่สู้ล่ะ?”
หัวหน้ากิลด์ฟลายอิ้งเฟเธอร์ เหลียงซานพูดด้วยเสียงนิ่งๆว่า “ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์พาผู้เล่นฝีมือดีไปหลายคนขนาดนั้นยังถูกฆ่า นายคิดว่าทีมสามคนของชอบกินปลาตุ๋นมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? ยิ่งพวกเขากล้าทำภารกิจด้วยจำนวนคนแค่สามคนแบบนี้ แสดงว่าเขาไม่กลัวถูกปล้นเลยไงล่ะ พวกเขามีความมั่นใจแล้วก็ฝีมือมากพอที่จะไม่ถูกปล้นแน่นอน”
ฟลายอิ้งเฟเธอร์เอเรสใช้เวลาสักพักก่อนจะพิมพ์ตอบ [มีเหตุผลๆ!]
ฟลายอิ้งเฟเธอร์เหลียงซานพูดต่อว่า “พวกเราถอยไปตั้งหลักก่อน แล้วค่อยจับตาดูกันต่อไป”
หลัวเซียวลั่วพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้นในกลุ่มสมาชิกกิลด์ไทม์ที่กำลังจับตาดูอยู่ “ผมบอกแล้วว่าปลาตุ๋นคนนี้เป็นคนมีฝีมือ! ทีมวินคัลเลอร์โดนจัดการเรียบเลย ฮ่าๆๆๆ!”
ไทม์แมชชีนส่งอีโมติค่อนรูปตบหน้าไปให้ชายหนุ่ม [ฉันจะให้นายจัดการดึงตัวเขามาเข้ากิลด์เราให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหวังจะได้ลายเซ็นของรองกัปตันเลย]
หลัวเซียวลั่วตอบรับอย่างยินดี [ครับ!]
มีเพียงแค่กิลด์วินคัลเลอร์เท่านั้นที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย
ทีมหัวกระทิที่นำโดยรองหัวหน้ากิลด์ถูกจัดการเละก็เรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียแล้ว แต่ทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นมีฝีมือพร้อมทั้งรองหัวหน้ากิลด์อีกสามคน แถมหัวหน้ากิลด์ยังนำทีมด้วยตนเองก็ยังคงโดนจัดการกลับมาแบบนี้ เรียกได้ว่าสูญเสียอย่างมหาศาล
ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์ขมวดคิ้ว “สามคนนี้เป็นใครกันแน่?”
รองหัวหน้ากิลด์เรือลำเดียวกันใต้ลมฝนลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “พวกเขาเป็นผู้เล่นมืออาชีพที่มาจากค่ายฝึกฝนหรือเปล่า? ผมรู้สึกว่าทั้งสามคนแข็งแกร่งมาก มาตรฐานของพวกเขาอยู่สูงกว่าผู้เล่นเกมออนไลน์ธรรมดาๆ”
ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์รีบปฏิเสธความคิดนี้ทันที “เป็นไปไม่ได้! ผู้เล่นจากฝึกฝนไม่ออนไลน์ดึกๆดื่นๆแบบนี้หรอก นี่มันเกือบจะตี2แล้วนะ!”
ตอนนี้เป็นเวลาตีสองในประเทศจีนจริงๆ สมาชิกกิลด์อยู่ดึกกันวันนี้ก็เพราะว่าเซิฟเวอร์ใหม่เพิ่งเปิด และพวกเขาอยากติดอันดับของเซิฟเวอร์นี้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นมืออาชีพมีเวลาการฝึกฝนที่เข้มงวดมาก ไม่มีคนไหนกล้าเข้ามาออนไลน์ในช่วงดึกขนาดนี้หรอก
เรือลำเดียวกันใต้ลมฝนคิดบางอย่างก่อนจะแนะนำออกมา “นายอยากไปคุยกับฉินโม่พรุ่งนี้ไหม? เอาให้เขาดู”
ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์ขมวดคิ้วหนักเดิม “จะดีเหรอ...เราไปรบกวนเขากับเรื่องพวกนี้น่ะ?”
เรือลำเดียวกันใต้ลมฝนพูดต่อว่า “ฉันอัดวิดิโอเอาไว้แล้ว ถ้าแค่ดูวิดิโอไม่กี่นาที ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก”
ที่ดินหนาแน่นใต้สวรรค์พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ฉันจะไปหาเขาวันพรุ่งนี้หลังจากกินข้าวเสร็จ”
***
ภารกิจคุ้มกันเอ็นพีซีรอบสองเริ่มขึ้นแล้ว ครั้งนี้กิลด์ใหญ่ๆต่างเรียนรู้ และไม่เข้ามาก่อกวนอีกต่อไป มีเพียงแค่ทีมของผู้เล่นธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องผ่านเข้ามาก่อกวนพวกเขาสองครั้ง ทำให้ภารกิจครั้งนี้ได้ของรางวัลแย่กว่าครั้งแรก
แต่การทำภารกิจรับของรางวัลก็ยังคงเร็วกว่าการตีมอนสเตอร์หรือลงดันเจี้ยน
หลังจากนั้น แม้แต่ผู้เล่นธรรมดาก็ไม่มายุ่งเกี่ยวกับพวกเขา เดาว่าหลายคนคงจะพยายามหลีกเลี่ยงผู้เล่นที่ชื่อว่า ชอบกินปลาตุ๋น ชอบกินหมูสองไฟ และต้นไม้ที่เบ่งบาน ปฏิบัติตัวราวกับว่าสามคนนี้เป็นบอสใหญ่
หลี่ชางอวี๋ทำภารกิจไปเรื่อยๆ พวกเขาได้รับค่าประสบการณ์อย่างรวดเร็วจนกระทั่งเลเวล30 ตอน5โมงเย็น
ตอนนี้ที่ประเทศจีนเป็นเวลาตี 5 แล้ว หัวหน้ากิลด์ของกิลด์ใหญ่ๆตกตะลึงที่เห็นชื่อ ชอบกินปลาตุ๋น ชอบกินหมูสองไฟ และต้นไม้ที่เบ่งบานอยู่บนรายชื่อท็อป30 ของเซิฟเวอร์
“พวกเขามาจากสตูดิโอรับจ้างเลเวลรึเปล่าเนี่ย?”
“ไม่นอนกันรึไง?”
“พวกเขาโต้รุ่งกันได้ไง?”
ไม่มีใครคิดว่าสามคนนี้จะเป็นกลุ่มคนที่อยู่ต่างประเทศ และนี่เพิ่งจะเป็นตอนเย็นของนิวยอร์คเท่านั้นเอง
พวกเขาทำภารกิจกันอีกหลายรอบ พอถึงเวลา5โมงครึ่ง ตัวละครทั้งสามก็เข้าสู่เลเวล31เป็นที่เรียบร้อย หลี่ชางอวี๋ปล่อยมือจากคีย์บอร์ด เขาหันไปมองไป๋เซวียน “5โมงครึ่งแล้ว เราควรทำอาหารเย็นได้รึยังนะ?”
ไป๋เซวียนรีบพูดแก้ทันที “ฉันต่างหาก ไม่ใช่เรา! เจ้าคนทำอาหารไม่เป็นนี่ อย่ากวนฉันก็แล้วกัน”
หลี่ชางอวี๋พยักหน้า “ถ้างั้นฉันฝากนายด้วยแล้วกัน ขอปลานึ่งนะ”
ไป๋เซวียนหัวเราะ “รู้แล้วน่า นายแมวเอ้ย”
ไป๋เซวียนปิดเกมของตัวเองลง และเดินไปทำอาหารเย็น จากนั้นไม่นานอาหารผัดและทอดกลิ่นหอมถูกวางจนเต็มโต๊ะไปหมด
กริ่งตรงประตูดังขึ้นตอน 6 โมงเย็น เซี่ยซูหรงน่าจะมาถึงแล้ว ไป๋เซวียนเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนก่อนจะเดินไปเปิดประตู
พอเปิดประตู ไป๋เซวียนรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที
ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าประตูใส่เสื้อเชิ้ตเรียบๆสีขาวกับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม เขาตัวสูง รูปร่างสมส่วน และหล่อเหลาโดยเฉพาะดวงตาลึกและสดใสนั่น เมื่อเขาเห็นไป๋เซวียนดวงตาก็ฉายรอยยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “รองกัปตันไป๋ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”
“...”
ในความทรงจำของไป๋เซวียน เซี่ยซูหรงตัวเล็กกว่าเขานี่นา! แค่3ปี แต่ทำไมเขาโตไวแบบนี้กัน?
ยิ่งไปกว่านั้น เสียงเขาทุ้มต่ำ ชายหนุ่มตรงหน้าโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่กลิ่นอายความเป็นเด็กยังคงหลงเหลืออยู่บนคิ้วของเจ้าตัว
ไป๋เซวียนมองดูหนุ่มหล่อที่สูงกว่าตัวเองไปประมาณครึ่งช่วงหัว หลังจากที่ทำใจได้แล้วเขาจึงพูดขึ้น “นายทำไมตัวสูงแบบนี้?”
เซี่ยซูหรงยิ้มให้กับชายหน้าประตู พร้อมกับพูดว่า “รองกัปตันไป๋ยังเหมือนเดิมเลย”
***
เด็กหนุ่มที่เพิ่งเข้าวงการทำให้รองกัปตันที่ทั้งสงบนิ่งและอ่อนโยนโกรธ...นี่คือสิ่งที่ทุกคนในลีกรับรู้ว่าเซี่ยซูหรงเผลอทำให้ไป๋เซวียนโมโห แต่ตัวเซี่ยซูหรงเองเชื่อว่าไป๋เซวียนไม่ได้เกลียดเขา
ในปีนั้น หนึ่งคนเป็นผู้เล่นหน้าใหม่จากทีมฟลายอิ้งเฟเธอร์ ส่วนอีกหนึ่งคนเป็นรองกัปตันทีมเอฟทีดี ตำแหน่งของทั้งสองต่างกัน แต่ใครก็ตามที่ยืนอยู่ในสนามประลองย่อมต้องเตรียมใจว่าจะต้องตายอยู่แล้ว กีฬาเป็นสิ่งที่โหดร้าย และไม่มีใครแสดงความเห็นใจกัน
คนที่คิดว่าไป๋เซวียนโกรธเพราะถูกฆ่าในสนามประลองถือว่าดูถูกไป๋เซวียน ส่วนตัวเขานั้น เขาก็แค่แกล้งหยอกอีกฝ่าย
วันเวลาผ่านไป ชั่วพริบตาก็สามปีแล้ว ตอนนี้เซี่ยซูหรงมาเจอหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง และพบว่าอีกฝ่ายยังคงเหมือนกับคนในความทรงจำของตัวเองอยู่ ผิวขาว ใบหน้าอ่อนนุ่ม และรอยยิ้มของชายหนุ่มก็สุภาพมาก...
คนตรงหน้าเป็นคนดีมาก
***
เซี่ยซูหรงยิ้มให้กับสายตาหมดจดของไป๋เซวียน และส่งบางอย่างให้ “ผมเอาอันนี้ให้คุณ จะได้หายโกรธ”
ไป๋เซวียนรับของขวัญมา พร้อมกับถามว่า “มันคืออะไร?”
“มันเป็นที่คั่นหนังสือแบบลิมิตเต็ดอิดิชั่นของมิราเคิลต่างประเทศ” เซี่ยซูหรงอธิบาย “อันนี้เป็นเผ่าเทวดา เหมือนกับตัวละครของคุณ”
เมื่อกล่องไม้ที่สวยงามถูกเปิดออก ที่คั่นหนังสือโลหะใหม่เอี่ยมก็เผยโฉมออกมาให้เห็น ภายในมีพรีสหนุ่มเผ่าเทวดาสวมใส่ชุดคลุมสีขาวลายจุดสีเงิน พร้อมกับปีกสีขาวหนึ่งคู่ที่กลางหลัง เหมือนกับตัวละครของไป๋เซวียนในเกม
ที่คั่นหนังสือโลหะสมจริงอันนี้เป็นสิ่งของที่มีจำนวนจำกัด มันถูกปล่อยออกมาในตอนที่มิราเคิลครบรอบสามปี บนโลกนี้มีแค่1,000ชิ้นเท่านั้น และเป็นที่นิยมมากในช่วงปีที่ผ่านมา มีของปลอมที่ทำเลียนแบบอยู่เต็มไปหมด แต่อันนี้เป็นของจริง นอกจากมันจะสามารถเปลี่ยนสีภายใต้แสงอาทิตย์แล้ว มันยังมีโค้ด และร่องรอยการันตีจากมิราเคิลอีกด้วย
ไป๋เซวียนไม่คิดว่าเซี่ยซูหรงจะใส่ใจ และนำของขวัญพิเศษนี้มาให้
เขาอดรู้สึกดีใจไม่ได้ “ฉันอยากซื้อมันมาตลอดเลย แต่โชคร้ายที่มันขายจำนวนจำกัดแถมยังมีเฉพาะต่างประเทศ ฉันก็เลยซื้อในจีนไม่ได้”
“ผมบังเอิญมาที่สหรัฐฯเมื่อสามปีที่แล้วพอดี ก็เลยซื้อมา” เซี่ยซูหรงพูด “ผมจำได้ว่าคุณชอบสะสมสิ่งของ ก็เลยเอามันมาด้วย”
“ขอบใจมาก!” ไป๋เซวียนชอบของขวัญชิ้นนี้ และก้มลงไปดูอย่างพินิจพิเคราะห์
“อาซูมาแล้วเหรอ?” หลี่ชางอวี๋ได้ยินเสียงจากประตู ก็เลยโผล่หัวออกมา “นายเอาของขวัญมาให้ไป๋เซวียน แต่ไม่มีให้ฉันเนี่ยนะ?”
“แน่นอนว่าผมก็มีของขวัญให้แคทก็อดเหมือนกัน” เซี่ยซูหรงหยิบหนังสือสัญญาออกมาจากกระเป๋าตัวเอง ก่อนจะส่งมันให้กับหลี่ชางอวี๋
หลี่ชางอวี๋มึนงง “นายหมายความว่ายังไง?”
“ผมตัดสินใจเข้าทีมคุณไง” เซี่ยซูหรงมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นของขวัญที่ดีนะ ใช่ไหม?”