ตอนที่ 11 ภารกิจรับเงินรางวัล
การเคลื่อนไหวเรียบง่ายสามท่าทำให้หลี่ชางอวี๋รู้สึกสงสัยฝีมือที่แท้จริงของนักดาบเผ่ามนุษย์คนนี้ เขาไม่แน่ใจว่าคนคนนี้คือนักกีฬามืออาชีพหรือไม่ มีคนจำนวนมากในจีนที่ไม่อยากลงเล่นในลีกมืออาชีพ
เอาเถอะ เขาคงหาอะไรบางอย่างเพิ่มเติมได้บ้างในตอนที่พวกเขาร่วมทีมกัน ไม่จำเป็นจะต้องเคร่งเครียดในการหาตัวตนของนักดาบคนนี้เลย
หลี่ชางอวี๋คิดขณะที่พูดคุยกับเอ็นพีซีเพื่อรับภารกิจ
เป้าหมายของภารกิจคือการคุ้มกันนักธุรกิจที่ชื่อว่าเออร์ดอสไปยังตลาดมืดที่ไม่ไกลจากเมืองอี๋ซือเท่าไหร่นัก หากทำภารกิจสำเร็จจะได้รับค่าประสบการณ์10,000แต้ม และเงินอีกทั้งหมด1,000เหรียญ
ภารกิจนี้จะให้ค่าประสบการณ์กับทุกคนในขณะที่เงินจะถูกแบ่งเท่าๆกัน หากผู้เล่นมีฝีมือพอ ก็สามารถทำภารกิจนี้คนเดียวได้และของรางวัลย่อมได้รับไปเต็มๆคนเดียว แต่เพื่อไม่ให้ถูกปล้น ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะทำภารกิจด้วยทีมครบหกคน มีส่วนน้อยที่จะทำแบบหลี่ชางอวี๋ซึ่งทำภารกิจนี้ด้วยจำนวนแค่สามคนเท่านั้น
หลังจากที่พวกเขารับภารกิจ เอ็นพีซีชื่อ เออร์ดอส ก็มีสัญลักษณ์ “คุ้มครอง” ติดอยู่ สัญลักษณ์ขนาดใหญ่อันนี้เป็นเหมือนสัญญาณบอกให้ผู้เล่นรับรู้ว่า “เข้ามาปล้นฉันสิ! ฉันมีทั้งค่าประสบการณ์แล้วก็เงินให้ขโมยนะ!”
ทั้งสามเดินคุ้มกันเออร์ดอสไปที่สถานที่เป้าหมาย ทันทีที่ออกจากเมือง มอนสเตอร์สามกลุ่มของระบบก็เริ่มเข้ามาก่อกวนทันที และถูกต้นไม้ที่เบ่งบานฆ่าอย่างรวดเร็ว
นักดาบเป็นอาชีพที่ดุดันมากที่สุดในหมู่อาชีพโจมตีระยะประชิดด้วยกัน ในช่วงเลเวล20 พวกเขาสามารถเรียนรู้สกิลโจมตีหมู่ระดับต่ำได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใดสำหรับต้นไม้ที่เบ่งบานในการจัดการมอนสเตอร์ภายในเวลาไม่กี่วินาที หลี่ชางอวี๋ไม่ได้พูดอะไรมาก แค่คุ้มกันให้เอ็นพีซีเดินต่อไปก็เท่านั้น
พวกเขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้นหลังจากที่จัดการกับมอนสเตอร์ของระบบเสร็จก็พบเจอกับทีมที่มีชื่อไอดีคล้ายๆกัน
หัวหน้าทีมเห็นว่ามีสัญลักษณ์ “คุ้มกัน” อยู่เหนือหัวของเอ็นพีซีถึงได้รีบเดินเข้ามาก่อกวนตรงๆ
เพื่อไม่ให้เอ็นพีซีถูกฆ่าจากหลายๆทีมในเวลาเดียวกัน ภารกิจจึงถูกโอนย้ายไปในอีกมิติหนึ่ง ทั้งสองปาร์ตี้พร้อมทั้งเอ็นพีซีถูกย้ายไปอีกมิติหนึ่งเพื่อให้พวกเขาได้ต่อสู้กันโดยที่ไม่มีคนนอกเข้ามาก่อกวน
ภายในมิตินี้ คนคุ้มกันจะต้องปกป้องเอ็นพีซีให้ได้ ผู้ก่อกวนขอเพียงแค่ฆ่าเอ็นพีซีได้ ก็จะได้รับรางวัล แต่ถ้าพวกเขาล้มเหลว ทั้งค่าประสบการณ์และเงินของพวกเขาจะถูกเพิ่มเข้าไปในเงินรางวัลภารกิจตอนสุดท้าย
ภารกิจรับเงินรางวัลนี้เสี่ยงมาก แต่ก็น่าตื่นเต้นด้วยเช่นกัน มันเป็นรูปแบบการเล่นที่ผู้เล่นมีฝีมือของกิลด์ใหญ่ๆชื่นชอบ
หลี่ชางอวี๋มองดูรอบๆหลังจากที่ถูกส่งมายังมิติแยกนี้ พร้อมกับค้นหาว่าใครเป็นคนก่อกวน
-สายลมและก้อนเมฆบางเบา, สายลมเอื่อยๆ, สายลมโบกพัก, สายลมเล็กๆที่เชื่อฟัง, สายลมที่ไร้รูปแบบ, สายลมดอกไม้หิมะและพระจันทร์
ไอดีของทุกคนเริ่มต้นด้วยคำว่า “สายลม” และไอค่อนกิลด์ที่ปรากฎอยู่เหนือหัวตัวละครทั้งหกก็ดูชัดเจนมาก!
ไป๋เซวียนเองก็จำเรื่องเล็กๆนี้ได้ พร้อมกับอุทานออกมา [กิลด์วินคัลเลอร์นี่นา!]
หลี่ชางอวี๋พูดอย่างสงบนิ่ง “นายเพิ่มเลือดให้เอ็นพีซี เดี๋ยวฉันจะจัดการพวกเขาเอง”
หลังจากที่เข้าสู่อีกห้วงมิติหนึ่ง ทั้งสองฝั่งของหน้าจอจะปรากฎรายชื่อของผู้เล่นที่จะทำการต่อสู้กัน อีกฝ่ายเป็นทีมที่มีทั้งหมดหกคน ในขณะที่หลี่ชางอวี๋มีแค่ ชอบกินปลาตุ๋น, ชอบกินหมูสองไฟ และต้นไม้ที่เบ่งบาน...สามคนเท่านั้น!
รองกัปตันกิลด์วินคัลเลอร์ที่ชื่อว่า สายลมและก้อนเมฆบางเบารู้สึกประหลาดใจจนอดพูดขึ้นในช่องแชทแบบเสียงไม่ได้ “สามคนมาทำภารกิจงั้นเหรอ ชักจะกล้าเกินไปหน่อยนะ!”
จากนั้นเขาก็พิมพ์ลงในแชทพื้นที่ [ชอบกินปลาตุ๋น ตอนนี้สามต่อหกเลยนา นายยอมแพ้ภารกิจ แล้วมอบเอ็นพีซีมาให้เราจะดีกว่า!]
หลี่ชางอวี๋อ่านแชทแล้วยิ้มออกมาเบาๆ [ขอโทษที ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก]
สายลมและก้อนเมฆบางเบาพิมพ์ต่อ [ถ้ายังโง่อยู่แบบนี้ ก็อย่าโทษว่าเราแกล้งนายมากเกินไปละกัน!]
หลี่ชางอวี๋พิมพ์อย่างระมัดระวัง [ฉันไม่โทษหรอก เข้ามาเลย]
ไป๋เซวียน “...”
ทำไมเขาถึงรู้สึกสงสารพวกทีมวินคัลเลอร์แบบนี้ล่ะเนี่ย?
***
ผู้เล่นทั้งหกคนของทีมวินคัลเลอร์ปรากฎขึ้นในระยะการมองเห็น หลี่ชางอวี๋รีบใช้นิ้วชี้มือซ้ายกดคีย์บอร์ดและเจอฮีลเลอร์ของทีมที่ชื่อว่าสายลมเล็กๆที่เชื่อฟัง ลูกบอลน้ำถูกขว้างออกไปอย่างแม่นยำ และมันตรงเข้าแช่แข็งสายลมเล็กๆที่เชื่อฟังทันที!
ทั้งหกคนตั้งตัวไม่ติด พอรู้สึกตัวอีกทีฮีลเลอร์ของพวกเขาก็ติดสถานแช่แข็งไปแล้ว ทั้งห้าคนพุ่งเข้าไปด้านหน้า
หลี่ชางอวี๋ใช้สกิลก้าวเท้าดุจนกเพื่อเคลื่อนที่ไปรอบๆทั้งห้าคน สกิลไฟร์บอลถูกกดทันที ทำให้ลูกไฟดวงเล็กๆกระทบเข้าที่หัวหน้าทีมของอีกฝ่ายที่ชื่อว่าสายลมและก้อนเมฆบางเบา ภูติไฟของซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์มีค่าพลังโจมตีที่สูงมาก พอโจมตีโดนครั้งหนึ่ง เลือดของสายลมและก้อนเมฆบางเบาก็ลดลงไปจนต่ำกว่า40%แล้ว!
“ฮีลเลอร์เพิ่มเลือดฉันที!” สายลมและก้อนเมฆบางเบาคำรามผ่านช่องแชทเสียง “ฝ่ายโจมตีระยะประชิด ขัดจังหวะเขา! อย่าให้เขาใช้ไฟร์บอลได้!”
[เราตามไม่ทันครับ] ผู้เล่นที่โจมตีระยะประชิดสองคนพิมพ์กลับมาอย่างขมขื่น
ใช่แล้วล่ะ พวกเขาตามไม่ทัน!
เอลฟ์เคลื่อนที่ว่องไวแค่ไหนกันเชียวเหรอ? การเคลื่อนไหวของเอลฟ์สามารถใช้คำพูดอธิบายได้ว่า ว่องไวดั่งสายลม ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ชางอวี๋ยังเป็นสายว่องไวล้วน และอาชีพซัมมอนเนอร์ของเขาเป็นอาชีพที่โจมตีระยะไกล ไนท์กับเบอร์เซิกเกอร์ทีมนู้นเป็นเผ่าสัตว์ป่าที่ขาสั้น พวกเขาจะตามเอลฟ์ทันได้ยังไงกัน?
หลี่ชางอวี๋ยิงไฟร์บอลไปอีกสองลูก และมันจัดการสายลมและก้อนเมฆบางเบาที่เลือดถึงขั้นวิกฤตไปในทันที
[ผู้เล่นชอบกินปลาตุ๋นได้สังหารผู้เล่นสายลมและก้อนเมฆบางเบา]
ข้อความปรากฎขึ้นมากลางหน้าจอในขณะที่สายลมและก้อนเมฆบางเบาล้มลงกับพื้น
-พยายามฆ่าผู้เล่นก่อน เพราะมีเพียงหัวขโมยเท่านั้นที่จะยึดอำนาจพระราชาได้ (**น่าจะประมาณว่าคนที่ลอบลงมือก่อนได้เปรียบ)
ภูติน้ำของเขาตรงเข้าปิดผนึกฮีลเลอร์ของทีมวินคัลเลอร์ ในขณะที่ภูติไฟฆ่าตัวหัวหน้าทีมได้ หลี่ชางอวี๋ช่างร้ายกาจจริงๆ!
หลังจากที่หัวหน้าทีมตาย กลุ่มวินคัลเลอร์ก็เริมระสับระส่าย สายลมและก้อนเมฆบางเบาโกรธมากหลังจากที่ตัวละครล้มลงกับพื้น เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว “แบล็กเมจิกเชี่ยน! ทำอะไรกันอยู่น่ะ?”
ผู้เล่นอาชีพแบล็กเมจิกเชี่ยนทั้งสองรีบกลับสู่สภาวะปกติ และรีบเดินไปทำการเสกเดธสเปลใส่หลี่ชางอวี๋ทันที
แบล็กเมจิกเชี่ยนเผ่าปีศาจเป็นอาชีพโจมตีด้วยเวทมนตร์ระยะไกล ความว่องไวในการเคลื่อนที่ของพวกเขาอาจจะช้ากว่าเอลฟ์ แต่พลังโจมตีเวทมนตร์ของพวกเขารุนแรงมาก หากเป้าหมายถูกสถานะจากสกิลเวทแห่งความตายเข้า จะทำให้ดาเมจของแบล็กเมจิกเชี่ยนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
โชคร้ายที่เดธสเปลจะต้องร่ายติดต่อกันเพื่อทำการเพิ่มจำนวนชั้นของดีบัพ หลี่ชางอวี๋มองดูสถานะเวทแห่งความตายบนตัวละครของเขาและภายใน5วินาทีถัดมา เขาก็ใช้สกิลก้าวเท้าดุจนกเพื่อฉีกตัวออกจากระยะการโจมตีของแบล็กเมจิกเชี่ยน!
[บ้าเอ้ย มันไม่ต่อเนื่อง!] สายลมที่ไร้รูปแบบได้รับข้อความจากระบบว่า “เป้าหมายไม่อยู่ในระยะ” และถึงกับสบถออกมา
[นี่มันบ้าอะไรกัน! ทำไมพวกนายสองคนฆ่าเอลฟ์กากๆตัวนี้ไม่ได้!] สายลมและก้อนเมฆบางเบาโมโห
หลี่ชางอวี๋เสียเลือดจากเวทมนตร์ของแบล็กเมจิกเชี่ยนไป40% เขาออกจากระยะการโจมตีของศัตรู และเข้าอยู่ในระยะการฮีลของไป๋เซวียนแทน ชายหนุ่มอ่านระยะทางได้แม่นราวจับวาง
ไป๋เซวียนเห็นว่าชายหนุ่มเข้ามาใกล้แล้ว ก็รีบใช้สกิลรักษาระดับต่ำให้ทันที ทำให้เลือดของหลี่ชางอวี๋เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้สั่งการของอีกทีมถึงได้รู้ตัวว่าเขาเจอเข้ากับมือดีเสียแล้ว!
สายลมและก้อนเมฆบางเบาสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อลดอาการโกรธลง ก่อนจะพูดว่า “ไม่ต้องห่วงเรื่องซัมมอนเนอร์ ไปฆ่าฮีลเลอร์ก่อน!”
พวกเขาอาจจะเจอกับสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้เลยทำให้ความคิดปั่นป่วน แต่รองกัปตันทีมของกิลด์วินคัลเลอร์ก็ไม่ใช่มือใหม่ สายลมและก้อนเมฆบางเบารีบวิเคราะห์ปัญหาหลักทันที พวกเขาจำเป็นต้องจัดการฮีลเลอร์ก่อนเพื่อที่จะได้ฆ่าเอ็นพีซี ไม่อย่างนั้นฮีลเลอร์ก็จะคอยเพิ่มเลือดให้กับเอ็นพีซีอยู่เรื่อยๆ และพวกเขาก็จะไม่สามารถฆ่าเอ็นพีซีได้
ยังไงซะในตอนนี้พวกเขาก็เป็นต่อในด้านจำนวนคน ถึงแม้ว่าสายลมและก้อนเมฆบางเบาจะตายไปกะทันหัน แต่ก็ยังเหลืออีกห้าคน การฆ่าฮีลเลอร์หนึ่งคน และตัวดาเมจอีกสองคนไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย!
“ฆ่าฮีลเลอร์! ไนท์กับวอริเออร์วิ่งเข้าใกล้ฮีลเลอร์เร็ว แบล็กเมจิกเชี่ยนร่วมมือกัน เสี่ยวเหยียนรีบร่ายวงเวทรักษาเร็วเข้า!” สายลมและก้อนเมฆบางเบาสั่งด้วยเสียงเรียบ
แต่เมื่อผู้เล่นสายโจมตีระยะประชิดพุ่งไปหาฮีลเลอร์อย่างไป๋เซวียน พวกเขากลับถูกโจมตีกลางทางเสียก่อน
ต้นไม้ที่เบ่งบาน! นักดาบเผ่ามนุษย์คนนี้ที่ทำตัวเป็นคนดูโชว์สนุกๆมาตลอดเริ่มลงมือแล้ว
หากเทียบกับอาชีพโจมตีระยะประชิดอาชีพอื่นๆ พลังป้องกันของนักดาบด้อยกว่าพาลาดิน และดาเมจต่อหนึ่งการโจมตีก็ไม่ได้มากเหมือนกับเบอร์เซิกเกอร์ แต่ความสามารถของนักดาบนั้นครอบคลุมกว่ามาก สกิลของพวกเขาทั้งคล่องแคล่ว แล้วก็รวดเร็วมาก!
ต้นไม้ที่เบ่งบางชูดาบในมือขึ้น พร้อมกับใช้สกิลล็อกจิตวิญญาณเพื่อตรึงให้ไนท์อยู่กับที่ พร้อมกับส่งสกิลดาบหักกระดูกแทงเข้าที่หน้าอกของเบอร์เซิกเกอร์ จากนั้นเขาก็ใช้ท่าเท้าที่ยืดหยุดตรงเข้าประชิดตัวแบล็กเมจิกเชี่ยนทั้งสองคน และใช้สกิลโจมตีหมู่อย่างสกิลแสงและเงาหมุนวนในทันที
ดาบสีขาวเงินเต้นระบำในอากาศ และทำให้เลือดของแบล็กเมจิกเชี่ยนทั้งสองคนลดฮวบ!
สกิลแสงและเงาหมุนวนเป็นสกิลทำดาเมจระยะไกลของนักดาบ สกิลนี้ใช้มานาเยอะมาก แต่ดาเมจก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน!
หากสกิลนี้ถูกนำมาใช้กับอาชีพสายเวทมนตร์ สกิลแสงและเงาหมุนวนจากผู้เล่นฝีมือดีอาจทำให้เกิดศพของคู่ต่อสู้ได้มากมาย
หลี่ชางอวี๋เห็นว่าชายหนุ่มใช้สกิลโจมตีหมู่ลดเลือดศัตรู เขาก็เข้าใจความตั้งใจของอีกฝ่ายได้ในทันที หลี่ชางอวี๋อัญเชิญภูติสายฟ้าออกมาโดยไม่ลังเลเลย เขาวางสัตว์เลี้ยงไว้ตรงกลาง และกดปุ่มคีย์บอร์ดอย่างหนักแน่น
-ความโกรธของสายฟ้า!
สายฟ้าสีม่วงร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า เสียงระเบิดดังขึ้นในรัศมี5เมตร พร้อมกับฆ่าเบอร์เซิกเกอร์และแบล็กเมจิกเชี่ยนที่อยู่ในระยะทันที
[ผู้เล่นชอบกินปลาตุ๋นได้สังหารผู้เล่นสายลมเอื่อยๆ]
[ผู้เล่นชอบกินปลาตุ๋นได้สังหารผู้เล่นสายลมที่ไร้รูปแบบ]
[ผู้เล่นชอบกินปลาตุ๋นได้สังหารผู้เล่นสายลมดอกไม้หิมะและพระจันทร์]
ผู้เล่น4คนตายไปอย่างรวดเร็วทำให้รองกัปตันหายจากท่าทีเชื่องช้า
“เกิดอะไรขึ้น?” รองกัปตันถาม
[ผมไม่รู้...สติผมยังไม่กลับมาเลย! มันกะทันหันมาก!] เบอร์เซิกเกอร์ที่ถูกฆ่าพิมพ์ตอบ
[โดนตีติดคริติคอลหรือเปล่านะ?] แบล็กเมจิกเชี่ยนพูดด้วยความสงสัย
หลี่ชางอวี๋รีบพิมพ์ในช่องแชทของทีมอย่างเรียบง่ายว่า [นายฆ่าฮีลเลอร์ เหลือไนท์ไว้ให้ฉัน]
ต้นไม้ที่เบ่งบานตอบกลับ [ได้เลย]
ทั้งสองตกลงกันเรียบร้อย นักดาบระยะประชิดพุ่งไปที่ฮีลเลอร์เพื่อทำให้ฮีลเลอร์ไม่สามารถร่ายสกิลฮีลได้ ซัมมอนเนอร์ที่โจมตีระยะไกลมุ่งไปหาไนท์ ในขณะที่ไนท์ยังคงงุ่มง่าม และโต้กลับไม่ได้...
ไม่นานนัก ทีมวินคัลเลอร์ทั้งหกคนก็ร่วงลงบนพื้น
[ทีมของสายลมและก้อนเมฆบางเบาล้มเหลวในการก่อกวนภารกิจ เงิน300เหรียญและค่าประสบการณ์3,000แต้มของแต่ละคนจะถูกหักลบออก และเพิ่มเข้าไปในรางวัลสำเร็จภารกิจ]
[รางวัลของภารกิจเพิ่มขึ้นเป็น 2,800เหรียญ และค่าประสบการณ์ 28,000แต้ม]
[ทีมชอบกินปลาตุ๋นดำเนินภารกิจต่อไป]
ระบบส่งออกมาสามข้อความ
พอไป๋เซวียนเห็นข้อความเหล่านี้ถึงได้เข้าใจความตั้งใจของหลี่ชางอวี๋ “อย่าบอกฉันนะว่านายจงใจทำภารกิจแค่สามคนเพื่อล่อให้กิลด์อื่นๆคิดว่าเราอ่อน แล้วก็เข้ามาโจมตีเราน่ะ? แน่นอนว่าการปล้นต้องไม่สำเร็จอยู่แล้ว และเราก็จะได้รางวัลเพิ่มด้วย!”
หลี่ชางอวี๋พยักหน้านิ่งๆ “ใช่ พวกเขาเป็นคนเอาค่าประสบการณ์มาให้เราเองด้วย ดีแท้ๆ”
ไป๋เซวียน “...”
เขาน่าจะชินกับความคิดของหลี่ชางอวี๋แล้วสิ!
มันก็เหมือนกับคำสั่งก่อนๆหน้านี้ของชายหนุ่มนั่นแหล่ะ หลี่ชางอวี๋มักจะวางกับดักเอาไว้ในสนาม แม้ว่าทีมชางหลันจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่มีกัปตันคนไหนกล้าดูถูกแคทก็อด
ไป๋เซวียนยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง แล้วพูดต่อว่า “จู่ๆฉันก็รู้สึกว่าทีมวินคัลเลอร์กลุ่มนั้นถูกนายแกล้งหนักเกินไปหน่อยนะ หกคนเผชิญหน้ากับสามคน แล้วยังกลายมาเป็นแบบนี้อีก พวกเขาน่าจะทำใจยอมรับกันได้ยากนะ ฉันเดาว่ากัปตันฝั่งนู้นยังน่าจะสติหลุดไม่ฟื้นแหงๆ”
“พวกเขาเดินเข้ามาปล้นเราเองนะ จะมาโทษฉันได้ไง” หลี่ชางอวี๋พูดนิ่งๆก่อนจะถามเพิ่มเติม “จริงสิ นายได้ดูการเคลื่อนไหวของนักดาบนั่นไหม?”
“ดูสิ การเคลื่อนไหวของเขาในการกดดันเลือดศัตรูแยบยลมาก แถมพอบวกกับภูติสายฟ้าของนายแล้วถึงกับฆ่าคนพร้อมกันได้ตั้งสามคนเลย” ไป๋เซวียนวิเคราะห์อย่างระมัดระวัง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม “สกิลหมู่อย่างแสงและเงาหมุนวนก็สวยงามมาก ระยะห่างก็พอดีที่การโจมตีจะโดนทั้งสี่คน นักดาบคนนี้จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแน่ๆ ด้วยฝีมือขนาดนี้ เขาคงไม่แพ้นักกีฬามืออาชีพด้วยซ้ำ”
“พอดูชื่อเขาแล้วนายไม่คิดถึงคนคนนึงเลยเหรอ?” หลี่ชางอวี๋ถาม
“ชื่อ?” ไป๋เซวียนอ่านชื่อ “ต้นไม้ที่เบ่งบาน” เงียบๆ ชื่อไอดีไม่ได้พิเศษอะไรแต่พอรวมกับการออกสกิลแสงและเงาหมุนวนที่เฉียบแหลมแล้ว มันก็ง่ายที่จะเชื่อมโยงกับคนบางคน!
“นายหมายถึง...เซี่ยซูหรง?” (ชื่อแปลตรงตัวว่าต้นไม้แห้งเหี่ยว) ไป๋เซวียนชะงักไปทันที “มันจะไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ?”
“บังเอิญจริงๆงั้นเหรอ?” หลี่ชางอวี๋ถามกลับ
“...” ไป๋เซวียนทำสีหน้าหดหู่
หลี่ชางอวี๋พูดด้วยรอยยิ้ม “เขาเคยเป็นศัตรูตัวร้ายของนายในตอนนั้นนี่นะ แต่เขาออกจากทีมฟลายอิ้ง เฟเธอร์แล้ว นายไม่ควรเก็บเรื่องเก่าๆมาใส่ใจสิ”
ไป๋เซวียนตอบกลับ “ฉันจะไม่ใส่ใจได้ยังไงในเมื่อฉันถูกเขาไล่ฆ่าตั้งสิบครั้งน่ะ?”
“...” หลี่ชางอวี๋ตบบ่าชายหนุ่มเบาๆอย่างปลอบใจ “ก็มันเป็นเทคนิคที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งของเขานี่นา”
ไป๋เซวียนสูดลมหายใจเข้า และถามต่อว่า “ถ้าตัวละครนี้เป็นเขาจริงๆ ทำไมเขาถึงมาเล่นที่เซิฟเวอร์ใหม่ล่ะ?”
หลี่ชางอวี๋แนะนำว่า “ทำไมนายไม่ลองคุยแล้วถามเขาดูล่ะ?”
ไป๋เซวียนพยักหน้า และส่งข้อความส่วนตัวหาอีกฝ่ายทันที [เซี่ยซูหรง นายมาเล่นที่เซิฟเวอร์ใหม่ทำไม?]
มือที่วางบนคีย์บอร์ดของใครบางคนสั่นอย่างแรง ขณะที่นักดาบเผ่ามนุษย์ในหน้าจอลื่นสะดุดจนตกลงไปในทะเลสาบ!