ตอนที่ 10 ต้นไม้ที่เบ่งบาน
หลี่ชางอวี๋เคลียร์ดันเจี้ยนกับไป๋เซวียนและกู่สือหมิงหลายรอบจนกระทั่งตัวละครของพวกเขาถึงเลเวล20 ตอนนี้เป็นเวลาตี 1แล้วในประเทศจีน
หลี่ชางอวี๋ถามขึ้น “เสี่ยวกู่ นายยังไม่ไปนอนอีกเหรอ?”
กู่สือหมิงยิ้มเลิ่กลั่ก “ผมจะเปลี่ยนอาชีพก่อนแล้วค่อยนอน”
หลี่ชางอวี๋พูดอย่างจริงจังต่อว่า “อย่าหาข้ออ้างอีกแล้วกัน ถ้านายเปลี่ยนอาชีพเสร็จต้องไปนอนทันทีเลยนะ เข้าใจไหม?”
กู่สือหมิงไม่มีทางเลือกจำต้องพยักหน้ารับอย่างเดียว “ครับ เข้าใจแล้ว!”
เด็กน้อยเชื่อฟังมาก หลี่ชางอวี๋ยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะเดินกลับไปยังอาคารที่อยู่ใจกลางเมืองอี๋ซือด้วยกันกับไป๋เซวียนและกู่สือหมิง
พวกเขาเคลียร์ดันเจี้ยนด้วยความเร็วสูงทำให้ระดับเลเวลของทั้งสามคนในตอนนี้อยู่แนวหน้าของเขตเซิฟเวอร์ใหม่ ผู้แนะนำสกิลที่รับผิดชอบในการเปลี่ยนอาชีพอยู่ชั้นสองของอาคารซึ่งมีผู้เล่นไม่มากนัก หลี่ชางอวี๋เดินไปหาผู้แนะนำสกิลก่อนจะกดปุ่มพูดคุย
“สวัสดี ซัมมอนเนอร์เป็นอาชีพที่อาศัยการต่อสู้ร่วมกันของเจ้านายและสัตว์เลี้ยง คุณสามารถใช้งานสัตว์เลี้ยงต่างชนิดกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ความยากในการเล่นอาชีพนี้คือเจ็ดดาว คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะเปลี่ยนเป็นซัมมอนเนอร์? คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกในภายหลัง!”
หลี่ชางอวี๋กดปุ่มยืนยันโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ยินดีด้วย ตอนนี้คุณกลายเป็นซัมมอนเนอร์แล้ว! นี่คือชุดที่สมาคมซัมมอนเนอร์มอบให้กับคุณ ได้โปรดตรวจสอบด้วย”
แสงสีเขียวสว่างวาบรอบตัวเขา ก่อนที่สัญลักษณ์รูปซัมมอนเนอร์จะปรากฏขึ้นข้างๆชื่อ “ชอบกินปลาตุ๋น” เหนือหัวของตัวละคร ทันทีที่เขาลากเม้าส์ผ่านสัญลักษณ์นี้ ข้อมูลตัวละครของเขาจะปรากฏออกมาข้างๆกัน
ไอดี - ชอบกินปลาตุ๋น
เผ่าพันธุ์ - เอลฟ์
อาชีพ - ซัมมอนเนอร์
เลเวล – 20
ซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์ของเขากลับมาแล้ว!
หลี่ชางอวี๋พูดกับผู้แนะนำสกิลต่อเพื่อเรียนรู้สกิลที่สาม
สกิลอัญเชิญภูติสายฟ้า
ภูติสายฟ้าเป็นภูติตัวที่สามสำหรับซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์ และเป็นภูติที่โจมตีหมู่แรงที่สุด
ซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์ในตอนเริ่มต้นจะมีสัตว์เลี้ยงทั้งสามตัวโดยที่มีสกิลควบคุมของภูติน้ำ สกิลโจมตีแบบเดี่ยวที่รุนแรงและรวดเร็วของภูติไฟ และสกิลโจมตีแบบหมู่ของภูติสายฟ้าเป็นตัวตั้งต้น แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงทั้งสามตัวสามารถรับมือได้กับแค่การต่อสู้ที่เรียบง่ายเท่านั้น ภายหลังจะมีสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งกว่านี้ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ฝีมือในการบังคับมากขึ้นเช่น การปลดปล่อยสถานะ และการควบคุมการเคลื่อนที่ เป็นต้น
หลี่ชางอวี๋อัญเชิญภูติน้ำ ไฟ และสายฟ้าของตัวเองออกมาอย่างมีความสุข เขาปล่อยให้ตัวเองล้อมรอบไปด้วยสัตว์เลี้ยงที่น่ารักทั้งสามตัว ก่อนที่จะเดินไปหาสมาชิกทีมตัวเอง
ไป๋เซวียนและกู่สือหมิงเองก็เปลี่ยนอาชีพเสร็จเรียบร้อยแล้ว รายชื่อทีมแสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์อาชีพที่ด้านข้างชื่อของทั้งสามคน
ไป๋เซวียนเปลี่ยนเป็นพรีส ตัวละครผู้ชายรูปร่างเพรียวบางสวมใส่เสื้อคลุมของพรีส และยังมีปีกสีขาวซึ่งเป็นของเผ่าพันธุ์เทวดาติดมาอีกด้วย เขาดูศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับเทพเทวดา แต่ชื่อไอดี “ชอบกินหมูสองไฟ” เหนือหัวของตัวละครกลับทำลายความสง่างามของพรีสเผ่าเทวดาลงจนหมดสิ้น
สำหรับเสี่ยวกู่นั้น เผ่าพันธุ์สัตว์ป่าทั้งสูงแล้วก็แข็งแกร่ง ในตอนที่เขาใส่เกราะไนท์ก็ยิ่งทำให้เขาดูยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม แต่เมื่อหลี่ช่างอวี๋นึกถึงเด็กวัย17ปีนั่งหน้าคอมพิวเตอร์แล้ว เขากลับรู้สึกขัดแย้งแปลกๆ
เสี่ยวกู่เปลี่ยนอาชีพเสร็จแล้ว และกระโดดโลดเต้นไปมาเบื้องหน้าทั้งสองคน เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “กัปตัน ผมจะได้เล่นไนท์อีกรอบแล้ว!”
หลี่ชางอวี๋พูดออกไปดื้อๆว่า “ไปนอนได้แล้ว”
“...ครับ” เสี่ยวกู่ปิดคอมไปนอนอย่างจำยอม
หลังจากที่เด็กหนุ่มจากไปแล้ว หลี่ชางอวี๋ถึงได้หยิบชุดซัมมอนเนอร์ออกมาจากในกล่อง และสวมใส่ลงไปบนตัวละคร
เสื้อผ้าที่สวมใส่ภายนอกเช่นนี้ไม่มีคุณสมบัติใดๆทั้งนั้น มันแค่เปลี่ยนแปลงรูปร่างภายนอกของตัวละคร การสวมใส่ก็เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของอาชีพก็เท่านั้น
ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายของเกมมิราเคิลตั้งใจเป็นอย่างมาก ซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์มักพุ่งความสนใจไปที่ความว่องไว ดังนั้นเสื้อผ้าจึงได้เบาบางอย่างมาก เสื้อผ้ามีสีขาวเงินของป่าแสงจันทร์ และถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายและกระชับทำให้เหล่าเอลฟ์เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ไป๋เซวียนมองดูเอลฟ์ตรงหน้าสวมใส่เสื้อผ้าของอาชีพตนเองแล้วก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมา ก่อนหน้าที่ซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์ของหลี่ชางอวี๋โด่งดังไปทั่วมิราเคิล มีผู้เล่นมากมายที่ต่อสู้กับเขาบนอารีน่าและรู้สึกปวดหัวกับชายหนุ่ม คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้กลับปฏิเสธคำเชื้อเชิญของคลับขนาดใหญ่มากมายเพียงเพราะคำว่าความซื่อสัตย์ต่อเพื่อนพี่น้อง จากนั้นก็ย้ายไปเล่นอู๋หลินกับลูกทีมของตัวเอง
มันไม่ง่ายเลยที่จะตัดสินใจทำแบบนั้น
ในตอนนั้น ชายหนุ่มยอมทิ้งซัมมอนเนอร์ของตัวเองเพื่อเพื่อนที่ดีไม่กี่คน ในตอนนี้ในที่สุดเขาก็กลับมามิราเคิล และควบคุมซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์ที่เขาชื่นชอบได้อีกครั้ง แม้ว่ามันจะช้าไปหลายปี แต่ไป๋เสวียนเชื่อมั่นว่าหลี่ชางอวี๋จะต้องเปล่งประกายในลีกมืออาชีพอย่างแน่นอน
โชคไม่ดีที่เขาอาจจะไม่สามารถเดินเคียงข้างชายหนุ่มได้ ไป๋เซวียนคิดในใจอย่างเจ็บปวด
หลี่ชางอวี๋หันกลับมาเห็นสีหน้าของไป๋เซวียนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาเอ่ยถามออกมา “เป็นอะไรไป รู้สึกไม่ค่อยดีงั้นเหรอ?”
“เปล่า” ไป๋เซวียนตอบเสียงแผ่ว “ฉันแค่เห็นนายใส่ชุดซัมมอนเนอร์แล้วก็รู้สึกสะเทือนใจนิดหน่อยน่ะ”
ครั้งแรกทีไป๋เซวียนเห็นชายหนุ่มใส่ชุดนี้ก็คือตอนที่พวกเขาอายุ17 เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว...
หลี่ชางอวี๋เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายความว่าอะไร และได้แต่ยิ้มอย่างร่าเริง เขาตบบ่าไป๋เซวียน และพูดปลอบชายหนุ่ม “ไม่เป็นไรน่า ฉันได้เจอเพื่อนเยอะแยะที่อู๋หลิน แล้วก็ได้รับประสบการณ์มากมาย ครั้งนี้มันจะต้องไม่เสียเปล่า และไม่มีคำว่าสายไปหรอกนะ”
ไป๋เซวียนหัวเราะ “มันสายเกินกว่าที่จะกลับไปแล้วต่างหาก”
“เอาเถอะ ตอนที่นายไปส่องกล้องตรวจกระเพาะ ฉันถามอะไรบางอย่างส่วนตัวกับพ่อมา เขาแนะนำให้เราลองกินยาจีนดู พอมาเป็นเรื่องโรคกระเพาะแล้วเนี่ย ยาจีนมันดีกว่ายาตะวันตกอีกนะ หลังจากที่เรากลับจีนแล้ว ฉันจะพานายไปตรวจกับแพทย์แผนจีนเอง พ่อฉันแนะนำหมอเยาจีนที่น่าเชื่อถือเอาไว้แล้ว” หลี่ชางอวี๋หยุดพูด พร้อมกับมองไป๋เซวียนอย่างซื่อตรง “ถ้านายหายดีแล้ว นายอยากจะกลับไปเล่นกับฉันปีหน้าไหม?”
“...” ไป๋เซวียนไม่ตอบ สีหน้าของเขาค่อนข้างซับซ้อน
หลี่ชางอวี๋จึงพูดต่อไปว่า “นายมักจะรู้สึกเสียใจเรื่องของฉันเสมอ แต่เรื่องของนายก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ด้วยระดับฝีมือของนายแล้ว นายจะต้องเป็นฮีลเลอร์มือหนึ่งของมิราเคิลแน่ๆ นายตามฉันตามตั้งหลายปีแต่กลับไม่เคยชนะรางวัลอะไรเลย ฉันเองก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน ยังไงซะ เราสะสมประสบการณ์มานานหลายปีแล้ว มันคงจะดีกว่าถ้าพวกเราร่วมมือกันต่อสู้กับมิราเคิลเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งนี้เราอาจจะได้ถ้วยรางวัลก็ได้”
ไป๋เซวียนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดอย่างนั้น “ได้ถ้วยรางวัล? นายพูดออกมาง่ายจังเลยนะ”
หลี่ชางอวี๋อธิบายอย่างเคร่งเครียด “ฉันไม่ได้คุยโม้น่า คลับดราก้อนซองจัดหาสิ่งที่ดีที่สุดในกับเรา ในเรื่องของสมาชิกทีมตอนนี้เรามีเสี่ยวกู่แล้ว เด็กน้อยคนนี้เป็นผู้เล่นที่มีความสามารถจริงๆ เขาลงมือไปก่อนที่ฉันจะได้สั่งเสียอีก และแน่นอนว่าเขาคงฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอด้วย เราแค่หาสมาชิกทีมที่มีฝีมือสูงๆ ชัยชนะก็ใช่ว่าจะหมดหวังเสียทีเดียว”
“...” ไป๋เซวียนรู้สึกเหมือนถูกล่อลวงด้วยคำพูด
หากลองวางเรื่องมิตรภาพ และคำพูดสวยหรูลง ใครบ้างที่จะไม่อยากชนะ? ใครบ้างที่จะไม่อยากได้ถ้วยรางวัล? ใครบ้างจะรับได้กับการแข่งขันหลายปีแต่กลับไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย?
หลี่ชางอวี๋ไม่มีข้อจำกัดใดๆหลังจากที่ทีมชางหลันถูกยุบไป ครั้งนี้เขาสามารถรวบรวมลูกทีมตามเทคนิคการเล่นของชายหนุ่มได้ทั้งหมด และด้วยการสนับสนุนของบอสหลิวฉวน มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะในมิราเคิล และนำถ้วยรางวัลกลับมา
“แบบนี้เป็นไง? นายลองคิดดูแล้วรึยัง?” หลี่ชางอวี๋พยายามโน้มน้าวไป๋เซวียน
ไป๋เซวียนใจอ่อน และอึดอัดเกินกว่าจะปฏิเสธคู่หูของตนเอง เขาได้แต่ยิ้ม และพูดว่า “ฉัน...จะลองคิดดู”
เขาพูดแบบนี้ แต่หลี่ชางอวี๋รู้ดีว่าชายหนุ่มต้องตกลงแน่ๆ
ในตอนแรก หลี่ชางอวี๋ไม่กล้าพูดกับไป๋เซวียนเพราะเขากลัวว่าโรคของไป๋เซวียนจะแย่ลง แต่พอปรึกษากับพ่อแล้วถึงได้พบว่าไป๋เซวียนสามารถหายดีได้ภายในครึ่งปี ดังนั้นหลี่ชางอวี๋ถึงไม่อยากปล่อยมือจากชายหนุ่มไป เขาจะพยายามสนใจเรื่องของลูกทีมให้มากขึ้นเพื่อให้ไป๋เซวียนได้พักผ่อนและสนใจเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น ตราบใดที่จิตใจของไป๋เซวียนยังมีอยู่ ก็ไม่มีปัญหาหากเขาจะเล่นเกมอีกครั้ง
“นายอยากจะเก็บเลเวลอีกไหม?” ไป๋เซวียนเปลี่ยนหัวเรื่อง “เราเปลี่ยนดันเจี้ยนดีไหม? หรือว่าจะไปทำภารกิจดี?”
“ไปทำภารกิจรับเงินรางวัลกันเถอะ” หลี่ชางอวี๋ตอบ
ภารกิจรับเงินรางวัลเป็นทางที่ดีที่สุดในการหาเงินช่วงต้นเกม ภารกิจจะสามารถรับได้เมื่อผู้เล่นเปลี่ยนอาชีพด้วยเลเวล20 และจะจบลงเมื่อผู้เล่นถึงเลเวล25แล้ว ภารกิจนี้ให้ทั้งเงินและค่าประสบการณ์
โดยส่วนใหญ่แล้วภารกิจนี้จะเป็นการเดินทางคุ้มครองเอ็นพีซีให้ไปยังจุดหมายปลายทาง หลังจากที่ภารกิจสิ้นสุด ผู้เล่นก็จะได้รับค่าประสบการณ์และเงินรางวัล นำไปสู่การเก็บค่าประสบการณ์และเก็บเงินที่ดี อย่างไรก็ตาม ภารกิจรับเงินรางวัลสามารถถูกก่อกวนได้ ไม่เพียงแค่เฉพาะกลุ่มมอนสเตอร์ที่ระบบจัดวางเอาไว้ แต่ยังรวมไปถึงผู้เล่นคนอื่นที่ผ่านไปผ่านมาก็สามารถก่อกวนได้เช่นกัน หากเอ็นพีซีที่ต้องคุ้มครองถูกก่อกวน และถูกฆ่า ก็จะไม่มีของรางวัลภารกิจ แถมผู้เล่นยังต้องเสียค่าประสบการณ์และเงินอีกด้วย
-เราจำเป็นต้องเสี่ยงเพื่อผลตอบรับที่ดี
ความเสี่ยงของภารกิจสูงมาก หากล้มเหลวก็จะกลายเป็นเข้าเนื้อตัวเองไปแทน ผู้เล่นส่วนมากมักจะกลัวว่าจะถูกปล้น และโดยทั่วไปแล้วมักจะไม่ทำภารกิจนี้ มีเฉพาะกิลด์ใหญ่ๆเท่านั้นที่จะทำภารกิจนี้กัน
ไป๋เซวียนถาม “เราควรรวบรวมมคนมากกว่านี้ไหม ถ้าจะทำภารกิจนี้น่ะ?”
“ไม่ต้อง” หลี่ชางอว่ตอบ “แค่เราสองคนก็สามารถจัดการกับหัวขโมยได้แล้วไม่ใช่หรือไง?”
“ฉันกลัวว่าผู้เล่นจะเข้ามาวุ่นวายเรา” ไป๋เซวียนทำภารกิจรับเงินรางวัลบ่อยๆ ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าผู้เล่นที่สามารถฆ่าเอ็นพีซีได้จะได้รับเงิน และค่าประสบการณ์ทันที ดังนั้นถึงได้มีทีมที่จัดตั้งขึ้นพิเศษเพื่อก่อกวนภารกิจนี้ ไป๋เซวียนรู้สึกกังวลขึ้นมา “พวกเรามีกันแค่สองคนเอง ถ้าหากกิลด์ใหญ่มาก่อกวนเราล่ะ?”
สีหน้าของหลี่ชางอวี๋ไม่เปลี่ยนแปลง “นายจะกลัวอะไร? ฉันจะกวาดให้หมดเอง”
ไป๋เซวียน “...”
นั่นมันก็จริง!
ดูจากระดับฝีมือของแคทก็อดแล้ว เขาจะกลัวผู้เล่นมาปล้นได้ยังไง? ไม่ต้องพูดถึงพวกกิลด์ใหญ่ๆเลย ถึงชายหนุ่มจะถูกนักกีฬามืออาชีพรุมสามคน เขายังสามารถดึงถ่วงเวลาได้ตั้งหลายวินาที
พวกเขาเล่นเกมออนไลน์ด้วยกัน แต่ไป๋เซวียนกลับลืมไปแล้วว่าหลี่ชางอวี๋เคยเป็นนักกีฬาระดับเทพในวงการมืออาชีพ
เขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “งั้นก็ไปทำภารกิจกันเถอะ”
พวกเขาเดินมาถึงเอ็นพีซีที่ทำหน้าที่มอบภารกิจ ในระหว่างที่กำลังจะกดรับภารกิจ จู่ๆหน้าจอของหลี่ชางอวี๋ก็มีข้อความเด้งขึ้นมา
[ผู้เล่น “ต้นไม้ที่เบ่งบาน” เลเวล20 เผ่าพันธุ์มนุษย์ อาชีพซอร์ดแมน ได้ส่งคำขอร้องเข้าร่วมทีมกับคุณ]
ต้นไม้ที่เบ่งบานพิมพ์ลงในแชทช่องในพื้นที่อีกด้วย [ภารกิจรับเงินรางวัล? มาร่วมทีมกันเถอะ]
ไป๋เซวียนพูดออกมา “รับเขาเถอะ จะได้คนช่วยเพิ่มอีกคน เผื่อมีขโมย นายจะได้เอาเขาเป็นตัวล่อ”
“เข้าท่าดีนี่” หลี่ชางอวี๋กดยินยอมให้คนคนนี้เข้าทีมมา
[เฮ้ย ซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์! หายากจริงๆ!] ต้นไม้ที่เบ่งบานเข้าทีมมาพร้อมกับพิมพ์ต่อว่า [สายว่องไวล้วน?]
ชายผู้นี้ไม่ใช่มือใหม่ เพราะเขารู้เกี่ยวกับรูปแบบการเล่นสายว่องไวล้วนของซัมมอนเนอร์เผ่าเอลฟ์
หลี่ชางอวี๋พิมพ์ตอบไป [ใช่]
[ต้นไม้ที่เบ่งบานท้าทายคุณ คุณต้องการจะรับคำท้าทายหรือไม่?]
หลี่ชางอวี๋ประหลาดใจ [ทำไม?]
ต้นไม้ที่เบ่งบานส่งไอค่อนหน้ายิ้มมาให้ [เพื่อเรียนรู้แล้วก็เปรีบบเทียบ]
เนื่องจากอีกฝ่ายท้าพีเคมาอย่างกระตือรือร้น หลี่ชางอวี๋จึงไม่อาจถ่อมตัวได้ หลังจากที่ตอบรับคำท้าทาย เขาก็อัญเชิญภูติน้ำออกมา และยิงบอลน้ำใส่อีกฝ่ายทันที
ไป๋เซวียนคิดว่าคนคนนี้จะต้องถูกแคทก็อดน็อคภายในสองท่าแน่ๆ แต่กลับผิดคาด อีกฝ่ายม้วนตัวอย่างรวดเร็วเพื่อหลบออกจากการควบคุมของหลี่ชางอวี๋ เขารีบวิ่งเข้าหาซัมมอนเนอร์พร้อมกับเงื้อดาบในมือขึ้น ล็อกเป้าหมายก่อนจะแทงลงไปที่หน้าอก
วิธีนี้เรียบง่าย และชาญฉลาดที่สุด
หลี่ชางอวี๋รู้สึกประหลาดใจ แต่นิ้วของเขายังคงมั่นคง เขารีบใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางมือซ้ายกดคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว ซัมมอนเนอร์ใช้ก้าวเท้าดุจนกเพื่อทำการหลบท่าโจมตี และในขณะเดียวกันก็เรียกภูติไฟออกมาในตำแหน่งเดียวกัน ไฟร์บอลถูกใช้ออกไป และลดเลือดของนักดาบไปถึง 20% ภายในครั้งเดียว
โจมตีไปด้วยพร้อมกับหลบหลีกไปด้วยอย่างง่ายดายเช่นนี้ การรับรู้สถานการณ์ของชายหนุ่มถือว่าชั้นหนึ่งเลยทีเดียว!
นักดาบเผ่ามนุษย์หรี่ตาลงเมื่อรู้ว่ากำลังปะทะอยู่กับคนมีฝีมือ เขาไม่ได้รีบร้อน หลังจากที่เขารับดาเมจจากภูติไฟในการปะทะกันท่าแรกจบลง เขาก็รีบกระโดดออกห่าง และเร่งการโจมตีของตัวเอง ชายหนุ่มประชิดเข้าด้านหลังของหลี่ชางอวี๋ พร้อมกับใช้ท่าโจมตีที่รุนแรงที่สุดที่มีอยู่ในขณะนี้ของซอร์ดแมน นั่นก็คือสกิลดาบหักกระดูก
พลังป้องกันของซัมมอนเนอร์ต่ำมาก หากโดนโจมตี เขาต้องเสียเลือดเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน หลี่ชางอวี๋รีบเรียกภูติไฟให้กลับมาหาตัวเอง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมารับดาเมจแทน
ภูติไฟถูกฆ่า ส่วนต้นไม้ที่เบ่งบานก็ส่งนิ้วโป้งมาให้รัวๆ [เยี่ยมมาก!]
หลี่ชางอวี๋ยิ้ม [นายเองก็เยี่ยมมากเหมือนกัน]
ต้นไม้ที่เบ่งบานเก็บดาบกลับเข้ามือตัวเอง และไม่ดึงดันจะสู้ต่อ เขาพูดว่า [มาทำภารกิจกันเถอะ]
หลี่ชางอวี๋และไป๋เซวียนมองหน้ากันอย่างรู้สึกงงงวย
“คนคนนี้เป็นใครกันแน่?” ไป๋เซวียนถามตรงๆ
“ฉันก็ไม่แน่ใจนัก แต่ฉันรู้อยู่อย่างนึง คนคนนี้ออมมือตอนที่สู้กับฉัน” ระดับการรับรู้ของหลี่ชางอวี๋ถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ เขาตัดสินเกี่ยวกับชายอีกคนทันที “นักดาบคนนี้เร็วมากในระยะประชิด และเทคนิคของเขาในตอนที่หลบ และเข้าข้างหลังก็สมบูรณ์แบบ คนคนนี้จะต้องเป็นผู้เล่นฝีมือดีระดับแนวหน้าแน่ๆ ในเมื่อเขายังไม่ปล่อยฝีมือออกมาอย่างเต็มที่แบบนี้ ฉันเดาว่าเขาต้องไม่ใช่แค่นักเล่นเกมฝีมือดีในเกมออนไลน์แน่ๆ”
ไป๋เสวียนมองดูอีกคนอย่างประหลาดใจ “หรือว่าเขาจะเป็นนักกีฬามืออาชีพ?”
หลี่ชางอวี๋พูดความใช้ความคิด “ลีกมืออาชีพของมิราเคิลยังอยู่ในระหว่างช่วงกลางฤดูกาลปกติ นักกีฬามืออาชีพจะว่างมากขนาดที่มาปรากฎตัวในเกมออนไลน์เลยงั้นเหรอ?”