ตอนที่ 9 : ผู้ติดตามคนแรก
“ไม่!”
“ช่วยด้วย!”
สลัมเป็นที่ๆมีจำนวนผู้อยู่อาศัยจำนวนมากและมีถนนที่ค่อนข้างแคบ
นับตั้งแต่กำแพงเมืองได้พังลง ทุกคนก็วิ่งหนีกันชุลมุนเหมือนกับมดแตกรัง เหล่าปิศาจถาโถมเข้ามาเหมือนคลื่นสีดำเกาะติดผู้คนราวกับเป็นโคลนเหนียวๆที่สลัดไม่ออก เพียงชั่วพริบตาเดียว ผู้คนก็เริ่มล้มตายจากกรงเล็บของพวกปิศาจร้าย
ด้านนอกของเมืองไม่ปลอดภัยอีกต่อไป บางคนพอจะคิดได้จึงวางแผนหนีเข้าไปด้านในเมือง ในตอนนี้มีเพียงกำแพงเมืองด้านในเท่านั้นที่ยังได้รับการป้องกันจากผู้เชี่ยวชาญ นั่นหมายความว่าพื้นที่ด้านในของเมืองมันปลอดภัยกว่าเป็นไหนๆ แต่ถึงอย่างนั้น อีไลน์ก็ไม่ได้วางแผนที่จะเข้ามาที่พื้นที่ด้านในเมือง โดยทั่วไปแล้ว จะมีเพียงชนชั้นสูงและนักธุรกิจที่ร่ำรวยเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเขตพื้นที่ด้านในเมือง ในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ มันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกขุนนางจะยอมให้เหล่าคนชั้นล่างเข้ามา
แผนที่ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้คือการหาที่มั่นและรอดจากฝูงปิศาจนี้
อีไลน์คุ้นเคยกับพื้นที่ในสลัมดี ไม่นานเขาก็เจอที่ๆเหมาะสมที่จะใช้เป็นที่มั่น ด้านหลังติดกับกำแพงเมืองและบ้านรอบๆก็ค่อนข้างจะแข็งแรงอีกทั้งยังอยู่ค่อนข้างไกลจากบริเวณที่กำแพงพังทลายอีกด้วย มันเป็นที่ๆดีที่สุดที่เธอสามารถหาได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ในขณะที่ปิศาจได้เข้ามาในระยะที่พอจะมองเห็นได้
อีไลน์นึกถึงตอนที่เธอแอบฟังพ่อแม่คุยกันเกี่ยวกับปิศาจเมื่อตอนที่เธอยังเด็กๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นมันเองกับตา รูปลักษณ์ของเหล่าปิศาจมันช่างแตกต่างจากสิ่งที่เธอเคยจินตนาการเอาไว้ มีเพียงบางสิ่งที่เหมือนกันคือพวกมันดุร้าย น่าเกลียดและมีออร่าที่น่ากลัวแผ่ออกมา มีคนเคยพูดเอาไว้ว่าพวกมันเป็นปิศาจด้านมืดที่ถูกส่งมาโดยพระเจ้าที่ชั่วร้ายเพื่อมาทำลายล้างโลก
กลุ่มแมงมุมโผเข้ามา พวกมันมีขนาดพอๆกับเด็กทารก มีสีม่วงผสมดำ และมีของเหลวหยดลงมาจากกรามของพวกมัน
พวกมันเป็นปิศาจแมงมุมที่อยู่ระดับต่ำสุด แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นปิศาจที่น่าสะพรึงกลัวต่อผู้คนธรรมดาทั่วไป พิษของมันรุนแรง เป็นกรดที่สามารถกัดกร่อนสิ่งที่พิษสัมผัส เหล่าหทารอาจจะถูกฆ่าด้วยพิษเหล่านี้ถ้าหากพวกเขาไม่ระวังให้ดี
มีข้อมูลส่วนนึงแว๊บเข้ามาในหัวของอีไลน์เกี่ยวกับลักษณะของพวกปิศาจด้านมืดนี้ ระหว่างนั้น เธอยื่นมือออกไป รวบรวมธาตุน้ำแข็งจากพื้นที่รอบๆ มันเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอได้ปลุกพลัง เธอเริ่มร่ายเวทย์อย่างจริงจัง
อุณหภูมิรอบๆตัวเธอลดลงทันที หอกน้ำแข็งที่แหลมคมรวมตัวกันอยู่บนฝ่ามือ
ปั้งง! ตู้มม!
หอกน้ำแข็งพุ่งทะลุพวกปิศาจแมงมุมและแตกกลายเป็นสะเก็ด แช่แข็งพวกแมงมุมตัวที่อยู่รอบๆ
นักเวทย์แบบอีไลน์มักได้เปรียบถ้าได้ต่อสู้กับพวกที่อ่อนแอแต่มีจำนวนมากกว่า
ถึงอย่างนั้น จำนวนของปิศาจแมงมุมก็มีมากเกินไป เสียงของผู้คนที่กรีดร้องดูเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้น
หนึ่งนาที
สองนาที
ห้านาที…
ด้านหลังที่ติดกำแพงเมือง พื้นที่นี้จึงค่อนข้างปลอดภัยและไม่ต้องเผชิญหน้ากับพวกปิศาจที่น่ากลัวจากคลื่นสีดำ ถึงอย่างนั้นหน้าของอีไลน์ก็ซีดเซียวจากการต่อสู้กับเหล่าปิศาจแมงมุม พลังของเธอแทบจะหมดเกลี้ยงแต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เธอยังเห็นเหล่าทหารกำแพงเมืองล้มตายกันเกือบทั้งหมด
มันเป็นโศกนาฏกรรม
สามปีที่แล้ว เธอรู้แค่ว่าผูงปิศาจมันน่ากลัว แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกของการไม่มีพลังมันเป็นอย่างไร
การต่อสู้ดำเนินต่อไป ความบ้าคลั่งคลืบคลานเข้าไปถึงตัวเมืองด้านใน พื้นที่นอกเมืองไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว อีไลน์ไม่รู้ว่าจะมีผู้รอดชีวิตกี่คนที่ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ส่วนนอก แต่สิ่งที่เธอรู้คือเธอไม่สามารถร่ายเวทย์ได้อีกในตอนนี้ ชะตาของเธอคงจะจบลงที่นี่เหมือนกันกับผู้คนเหล่านั้น แค่รอให้ถูกกลืนกินจากพวกปิศาจ
เธออยากจะตายแบบนี้เหรอ … ?
ถ้าเธอไม่ได้ปลุกพลังเมื่อสามปีก่อน เธอก็คงจะตายไปนานแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น…
ปิศาจแมงมุมกระโจนเข้าใส่เธอ พิษค่อนๆกัดกร่อนเสื้อคลุมของเธอ ของเหลวค่อยๆไหลลงมาที่ผิวหนัง ความเจ็บปวดที่เกินทนนี้กระตุ้นความกลัวของเธอ
แทนที่จะร้องออกมา อีไลน์กลับใจเย็นลง
ติ๊งง…
มันมีเสียงเล็กๆดังขึ้นก่อนที่เธอจะหลับตาลง
“...คุณต้องการที่จะเป็นผู้ติดตามของลอร์ดหรือไม่? ต้องการ/ไม่ต้องการ?”
คัมภีร์สีทองอร่ามปรากฎลอยอยู่ด้านหน้าของเธอ ทำให้ความมืดที่ดูไม่มีสิ้นสุดได้หายไป แสงสีทองจากคัมภีร์ส่องไปทั่วทิศทาง สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ มันคือผับ
“ฉัน..”
เธอแปลกใจมากที่เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆอีกเลย แม้ว่าเสื้อผ้าของเธอจะขาดลิ่ว ผิวหนังของเธอไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แผลที่เธอได้รับถูกรักษาไปแล้ว เธอยังรู้สึกว่าพลังเวทย์ของเธอได้ถูกเติมเต็มเพียงเวลาชั่วครู่เดียวอีกด้วย
นี่ฉันฝันไปเหรอ..?
อีไลน์หยิกตัวเองเบาๆ เธอจึงรู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่ความฝัน มันไม่ใช่นรกหรือสวรรค์ ดังเช่นที่พันธสัญญาบอกเอาไว้ นี่คืออีกโลกหนึ่ง
เธอถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่เหมือนเริ่มต้นชีวิตใหม่เพื่อเป็นผู้ติดตามของลอร์ด
รอบๆตัวเธอมีแสงสีส้มที่เปล่งประกายอยู่อ่อนๆ รอบตัวเธอเงียบงัน อีไลน์เหลือบมองขึ้นไปข้างบน สายตาเธอไปสะดุดอยู่ที่คนๆหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มกับร้อยยิ้มอันอบอุ่น
เธองุนงงไปชั่วครู่ จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปหาพร้อมกับคุกเข่าลงหนึ่งข้าง
……
ภาพลวงตาของคนๆนั้นเปลี่ยนเป็นความจริง เด็กสาวที่แต่งตัวเหมือนนุ่งผ้าขี้ริ้ว ผ้าคลุมที่ขาดรุ่ยและเนื้อตัวที่มีแต่คราบเลือด
ถังหยูรู้ได้ว่าเด็กสาวคนนี้ยังคงมึนงง ทันทีที่เขาจะก้าวเดินไปข้างหน้า เท้าของเขาหยุดชะงักอยู่กลางอากาศ…
ลอร์ดที่ได้เจอกับผู้ติดตามคนแรกของเขา อีกทั้งยังเป็นเด็กผู้หญิง เวลาแบบนี้เขาควรจะพูดอะไร?
ถังหยูหงุดหงิดเล็กน้อยที่เขาไม่ได้เตรียมบทพูดมาล่วงหน้า เขาไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเพียงแค่หญิงสาว… หรือบางทีน่าจะพูดทักทายหรือถามว่าเป็นยังไงบ้างสหาย?
มันไม่น่าจะดีเท่าไหร่
ปลายตาของเขาเหลือบไปเห็นเครื่องดื่มที่ส่องแสงประกายอยู่บนตู้ไวน์ สายตาของถังหยูเปล่งประกาย เขาเดินตรงเข้าไปหยิบขวดเครื่องดื่มนั้นมายื่นให้เธอ
“เธอต้องการดื่มน้ำไหม?”
เพียงแค่นั้น อีไลน์ก็ก้าวเข้ามาหาเขาแล้วคุกเข่าลงหนึ่งข้าง
บรรยากาศรอบๆกลับมาดูอึดอัดอีกครั้ง…
หลายนาทีผ่านไป
อีไลน์เดินตามลอร์ดออกไปพร้อมกับความรู้สึกที่มันดูเหมือนเป็นความฝัน
อย่างแรก เธอรอดพ้นจากความตายเพียงฉิวเฉียด แล้วก็ถูกเคลื่อนย้ายมาที่โลกนี้ด้วยพิธีการเรียกตัว และยังมีข้อมูลต่างๆที่ถูกใส่เข้ามาในหัวของเธอจากพลังของพันธสัญญา แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจแต่อย่างใด ภาษาและสามัญสำนึกของโลกนี้ดูเหมือนจะฝังลึกลงไปในความเคยชิน
ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้เธอแปลกใจ ในตอนนี้ ภายใต้การเป็นผู้นำของลอร์ดท่านนี้ เธอจึงถูกพามาที่ปราสาทแห่งนี้
แค่เพียงเด็กน้อยที่เกิดและเติบโตอยู่ในพื้นที่สลัม อีไลน์ไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อน ปราสาทแห่งนี้ดูงดงามและสุกสกาว แต่เนื้อตัวของเธอยังคงเปราะเปื้อนไปทั้งตัว การที่ได้เดินเข้าไปในสถานที่แบบนี้ มันดูเหมือนเธอกำลังทำให้รูปภาพที่สวยงามดูมัวหมอง
เธอไม่กล้าที่จะเข้ามาในสถานที่นี้ด้วยตัวเองแต่ถูกบังคับให้เข้ามาด้วยลอร์ด ทางที่เดินผ่านได้ถูกทิ้งรอยเท้าดำๆเอาไว้บนพื้นตลอดทางไปจนถึงห้องโถง จนกระทั่งมาถึงห้องหนึ่งที่มีขนาดกว้างขวาง
“นี่คือห้องอาบน้ำ… เสื้อผ้าอยู่บนชั้นทางนั้นนะ มันอาจะไม่พอดีกับเธอสักเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงเธอก็ต้องใส่มันไปก่อน… ตอนนี้อาหารยังไม่พร้อม เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมบางส่วนเอาไว้ มันน่าจะเกือบเสร็จพอดีตอนที่เธอออกมา…”
ประตูปิดลงเบาๆ ในหัวของอีไลน์มีแต่เสียงสะท้อนจากคำพูดของลอร์ด สายตาของเธอถูกดึงดูดไปด้วยห้องที่ดูสวยงาม
หน้าตาเธอยังดูงุนงงเพราะเธอนึกคิดไปถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมา ตั้งแต่การตายของพ่อแม่เธอ ชีวิตของเธอก็เหมือนถูกดูดเข้าไปอยู่ในความมืดมิด ถูกตอกย้ำซ้ำเติม ถูกริดรอนสิทธิอยู่เสมอจากพวกผู้คนที่โหดร้าย แต่วันนี้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นอีกครั้ง
อีไลน์กระพริบตา เธอไม่สามารถหยุดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากตาของเธอได้ เธอค่อยๆถอดเสื้อผ้าที่ขาดริ่วและเดินไปที่อ่างอาบน้ำอุ่น สายน้ำไหลผ่านตัวของเธอ สิ่งที่เข้ามาในหัวคือรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นของลอร์ด
อีไลน์ค่อยๆนั่งลงปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านไหล่ของเธอ ชำระล้างสิ่งสกปรกออกไป
เธอหลับตาลงและได้พบเจอกับความหวังใหม่ในหัวใจของเธอ
…..
ถังหยูยังคงวุ่นวายอยู่ในครัวฮัมเพลงไปพลางๆ
เขาไม่รู้วิธีทำอาหาร อย่างมากก็ทำได้แค่บะหมี่สำเร็จรูป ยังดีที่เขามีเครื่องครัวคุณภาพดีอยู่ในปราสาท… แม้ว่าเขาจะทำเละเทะเป็นบางครั้ง เขาก็ยังสามารถทำอาหารที่ยังพอกินได้
กลับไปที่ชั้นสอง เขาจ้องมองไปที่ประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่ ฟังเสียงของน้ำที่ดังออกมาจากข้างใน ถังหยูนั่งใจลอย
แม้ว่าผ้าคลุมของอีไลน์จะขาดวิ่นและเนื้อตัวของเธอจากถูกอาบไปด้วยโคลน ร่างกายของเธอดูเหมือนจะเพิ่งหลบหนีออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอนาถ เขาจึงไม่ได้มองเรือนร่างของเธออย่างตั้งใจ เขาเพียงฟังเสียงของเธอ มันสดใสและไพเราะ
เขาคิดว่าอีไลน์จะใช้เวลาอีกสักพักอยู่ในห้องน้ำ แต่ไม่นาน เสียงดังคลิก! ประตูห้องน้ำก็เปิดออกมาพร้อมกับหมอกที่กระจายตัวไปตามอากาศ
ทันใดนั้น ถังหยูรู้สึกถึงความหวัง
เท้าที่ขาวสะอาดปรากฏขึ้นในภาพที่เขามองมันเหมือนงาช้างที่ถูกแกะสลักอย่างประณีต ดูจากมุมมองของเขา มันชี้มาทางที่เขาอยู่
ถังหยูกลืนน้ำลายอึกใหญ่โดยไม่รู้ตัว
อีไลน์ในตอนนี้เหมือนกับเอลฟ์ที่กำลังเดินออกมาจากรูปภาพในคัมภีร์ เธอมีผมสีเหมือนท้องฟ้ายาวลงมาเกือบถึงเอว ปลายผมของเธอยังไม่แห้งดี หยดน้ำหยดลงมาจากปลายผม ใบหน้าเล็กๆของเธอดูอมชมพูและผิวของเธอขาวและเนียนนุ่ม ส่องประกายเหมือนกับคริสตัลน้ำแข็ง
อีไลน์ใส่เสื้อคลุมขนาดใหญ่ของผู้ชาย มันปกคลุมร่างกายที่ละเอียดอ่อนของเธอ อย่างไรก็ตาม ต้นขาที่วาววับของเธอเกือบจะมองเห็นได้ทั้งหมด ดูน่าอึดอัด
ตอนนี้เลือดของถังหยูวิ่งพล่าน เขารู้สึกว่าเขาต้องการอาหารเสริมที่มีโภชนาการมากกว่าเดิม