ตอนที่แล้วตอนที่ 7 : คืนวิกฤติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 : ผู้ติดตามคนแรก

ตอนที่ 8 : อัญเชิญ


หลังจากการสร้างผับ มีไอคอนสำหรับผับโผล่ขึ้นมาด้วยแสงสีเปล่งประกาย ในแท็บคำสั่งแรก มันแสดงถึงคำแนะนำเกี่ยวกับฟั่งก์ชั่นผับ

เขาเคยสร้างผับในเกมมาก่อน แต่ตอนนี้เขาได้ทำมันในความเป็นจริง ถังหยูเป็นห่วงว่ากฎจะมีการเปลี่ยนไปและเขาจะไม่ทราบเกี่ยวกับความแตกต่างที่สำคัญเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงดีใจที่เขาได้พบการแนะนำของฟังก์ชั่นผับ

ถังหยูคลิกที่การแนะนำฟังก์ชั่นผับโดยไม่ลังเล

[ในผับ ลอร์ดมีสิทธิ์ที่จะอัญเชิญนักพจญภัยฟรีหนึ่งครั้งต่อวัน หลังจากใช้การอัญเชิญฟรีแล้วครั้งต่อไปในการอัญเชิญจะถูกเรียกเก็บ 500 หน่วยคริสตัลต้นกำเนิดเพื่ออัญเชิญนักผจญภัยคนอื่น]

[คลาสของนักผจญภัยที่ถูกอัญเชิญจะถูกแบ่งออกเป็น D C B A และมีเกินคลาส A ยิ่งคลาสสูงเท่าไหร่แล้วคุณสมบัติในการเติมโตจะสูงขึ้นสำหรับนักผจญภัย แต่ตรงกันข้ามยิ่งนักผจญภัยคลาสสูงเท่าไหร่แล้วการอัญเชิญจะมีอัตราต่ำลงเท่านั้น ถ้าผับมีระดับเพิ่มขึ้นก็ยังสามารถปรับปรุงความน่าจะเป็นในการอัญเชิญนักผจญภัยคลาสสูงขึ้นได้]

[มีห้าอาชีพพื้นฐานสำหรับนักผจญภัย นักรบ นักเวท ผู้รักษา นักฆ่า มือปืนและผู้อัญเชิญ – ความแข็งแกร่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาชีพหรือคลาสของนักผจญภัย ผับระดับแรกสามารถอัญเชิญผู้ปลุกพลังถึงขั้น 5 และเป็นขั้นสูงสุดในผับระดับนี้ การปรับระดับผับสามารถเพิ่มขีดจำกัดขั้นสูงขึ้นและความแข่งแกร่งของนักผจญภัยก็จะสูงขึ้น]

[หลังจากอัญเชิญนักผจญภัย ลอร์ดจะสามารถเลือกว่าจะรับสมัครนักผจญภัยหรือไม่รับก็ได้ ถ้าจะรับสมัคร ลอร์ดต้องเซ็นสัญยากับนักผจญภัย ผับระดับแรกจะสามารถรับสมัครเพียงสามผู้ติดตามเท่านั้น การปรับระดับผับจะเพิ่มขีดจำกัดผู้ติดตามเพิ่มขึ้น]

[สำหรับการอัญเชิญครั้งแรก ลอร์ดจะสามารถอัญเชิญนักภจญภัยเหนือคลาส B ได้แน่นอน]

ถังหยูรู้สึกผ่อนคลายเมื่อค้นพบกฎที่ไม่ได้แตกต่างจากกฎที่พบในเกมมากนัก

บางคนอาจสงสัยว่าทำไมเขาถึงเลือกผับสำหรับอาคารหลังแรกของเขา นี่เป็นเพราะผับจะเป็นที่พึ่งของเขามากที่สุดในปัจจุบัน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะผลประโยชน์ของการรับสมัครครั้งแรก การอัญเชิญครั้งแรกจะรับประกันนักผจญภัยที่อยู่เหนือคลาส B แค่คิดเกี่ยวกับมันก็ทำให้เขาตื่นเต้นแล้ว

ถังหยูคุ้นเคยกับเกมสุ่มนี้ แม้ว่ามันจะบอกว่าอยู่เหนือคลาส B แต่โอกาสน้อยมากที่จะได้คลาส A หรือคลาส S แม้ว่าจะเป็นนักผจญภัยคลาส B คนแรกที่ติดตามเขาแต่ก็จะช่วยเหลือเขาได้อย่างมากมายอย่างแน่นอน

คลาส B อาจฟังดูธรรมดา แต่เมื่อเขาเห็นนักผจญภัยคลาส A คนแรกของเขาในเกม เขาได้เรียนรู้ว่ามันยากที่จะอัญเชิญได้สักคน

ยิ่งเป็นกรณีที่เฉพาะที่เกมปรากฏในความเป็นจริง ถังหยูเดาว่าการจัดหมวดหมู่จะคล้ายในโลกโลกาวินาศนี้ นี่จะหมายถึงการตรวจจับคลาสในความเป็นจริงยังค่อนข้างล้าหลัง มันแทบจะไม่สามารถวัดระดับทั่วไปของคลาสผู้ปลุกพลังขั้นหนึ่งได้ การวัดระดับปัจจุบันไม่สามารถแบ่งคลาสอย่างชัดเจนสำหรับผู้ปลุกพลังขั้นหนึ่งใดๆได้

เขาตอนแรกแม้กระทั่งไม่ใช่ผู้ปลุกพลังในระดับต่ำสุด คลาส E ผู้ปลุกพลังส่วนใหญ่จะอยู่ระดับ D บางทีอาจมีเพียงบุตรสวรรค์เท่านั้นที่มีความโปรดปรานของสวรรค์จะมีระดับเกินกว่าระดับ B นอกจากนี้นักผจญภัยยังมีอาชีพ ซึ่งมีทักษะและระบบอาชีพที่สมบรณ์ นักภจญภัยที่ถูกอัญเชิญสามารถกำราบผู้ปลุกพลังซึ่งไม่รู้อะไรเลยได้อย่างสมบูรณ์

ถังหยูขับไล่ความคิดออกจากหัวแล้วมุ่งเน้นไปที่พิธีอัญเชิญ

“มาเลย”

ถังหยูหายใจเข้าลึกๆแล้วเปิดตัวเลือกการอัญเชิญ

ในช่วงกลางของผับ มีอาเรย์วงกลมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นทันทีซึ่งแสดงให้เห็นภาพดูลายตาและรูนจำนวนมาก

อักษรรูนเป็นเหมือนตัวบ่งชี้ หมุนอย่างต่อเนื่องและรวมกันอย่างต่อเนื่อง แสงประกายระยิบระยับรอบๆอาเรย์เหมือนรูรับแสงของจักรวาลที่ค่อยๆหดตัวลง

นักผจญภัยกำลังถูกอัญเชิญ

นักผจญภัยกำลังถูกอัญเชิญในไม่ช้า มันไม่สามารถรู้ได้ว่าจะมีความแข่งแกร่งหรืออาชีพใดในระหว่างการอัญเชิญ

ถังหยูกลั้นหายใจ!

รูรับแสงจะหดตัวจนกระทั่งกลายเป็นคล้ายฝุ่งละอองก่อนที่แสงสีม่วงจะระเบิดออกมา

สีม่วง? แสงสีม่วง

ทันใดนั้นหัวใจของถังหยูเต้นเร็วเป็นสองเท่า เขาภาวนาวิงวอนในหัวใจ

แสงสีขาวหมายถึงคลาส D

แสงสีเขียวหมายถึงคลาส C

แสงสีน้ำเงินหมายถึงคลาส B

แสงสีม่วงหมายถึง....

มันเป็นคลาส A อย่างแน่นอน

แสงสีม่วงกลายเป็นภาพเงาของมนุษย์ทันที นักผจญภัยสวมใส่สิ่งที่ดูเหมือนเสื้อคลุมเก่าๆที่ขาดรุ่งริ่งด้วยร่างที่ยังดูคลุมเครืออยู่ แต่ถังหยูยังสังเกตอย่างระมัดระวังเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะตระหนักว่าร่างนี้ควรเป็นของนักผจญภัยหญิง

[ตริ้งงง! นักภจญผัยอีไลน์ คลาส A อาชีพ: นักเวท  ท่านลอร์ดเต็มใจที่จะเซ็นสัญญากับผู้ติดตามคนนี้หรือไม่?]

ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย....

“ต้องการแน่นอน!!”

………….

ในบ้านไม้เก่าที่ชำรุดทรุดโทรม หญิงสาวสวมเสื้อคลุมกำลังนั่งอยู่บนเตียงไม้ที่ชำรุดทรุดโทรม เธอกำลังถือหนังสือเก่าอยู่ในมือของเธอและซึมซับในการอ่านมันอยู่

นี่คือบ้านของอีไลน์และเธอไม่มีคนในครอบครัวอื่นๆ

วันที่โดดเดี่ยวเหล่านี้ผ่านพ้นไปหลายปีแล้ว ตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันอีไลน์ได้คุ้นเคยกับวันดังกล่าว สำหรับเธอไม่ว่าสภาพแวดล้อมในบ้านจะดีแค่ไหนมันก็จะไม่สำคัญเท่ากับหนังสือในมือของเธอ

นี่คือหนังสือสำหรับคาถาขั้นพื้นฐาน

อีไลน์พบมันใต้เตียงของเธอ นอกเหนือจากข้าวของพ่อแม่ของเธอแล้วสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวในบ้านของครอบครัวที่เป็นของเธอ

ฮู่ววววว—

เสียงโหยหวนดังขึ้นทั่วทั้งเมือง อีไลน์ตกตะลึงจากนั้นก็มีสีหน้าเศร้าๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

เสียงเตือนนี้จะดังขึ้นเมื่อคลื่นดำโจมตี เธอคุ้นเคยกับเสียงราวกับว่ามันติดอยู่ในจิตวิญญาณของเธอแล้ว

สามปีที่ผ่านมา เสียงปลุกเดียวกันดังขึ้นเมื่อคลื่นสีดำพุ่งเข้าชน ในช่วงเวลานั้นพ่อแม่ของเธอต่างก็ทำงานนอกเมืองแล้วก็เป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้กลับมาอีกเลย

ในปีนั้นเธอกลายเป็นเด็กกำพร้าและบ้านเดิมที่มีความสุขของเธอก็ทรุดโทรมมากขึ้นเรื่อยๆนับจากนั้น

ในช่วงที่เธอเศร้าโศก อีไลน์ได้ถูกปลุกพลังและตระหนักว่าเธอมีพลังธาตุ ด้วยความประหลาดใจของเธอ เธอพบว่าเธอสามารถใช้ความสามารถด้านธาตุน้ำแข็ง นี่คือพลังของนักเวท นักเวทมีพลังอำนาจสูงส่งและมีสถานะสูงกว่านักรบทั่วไป

อย่างไรก็ตามความสามารถในการใช้ธาตุน้ำแข็งเป็นเพียงข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับนักเวท ในขณะที่อีไลน์ไม่มีวิธีที่จะเรียนรู้คาถาใดๆที่เกี่ยวข้องกับคาถาเลย

ในเมืองนี้สิ่งที่เธอรู้ก็คือมีเพียงเจ้าเมืองเท่านั้นที่เป็นเจ้าของหนังสือคาถา อีไลน์รู้ว่าหนังสือเหล่านี้มีค่าเพียงใดและรู้ว่าเธอไม่สามารถได้นับหนังสือเหล่านี้ได้ เว้นแต่ว่าเธอจะสาบานจงรักภักดีต่อเจ้าเมือง อย่างไรก็ตามเจ้าเมืองเป็นขุงนางผู้มีความเชื่อในยศถาบรรดาศักดิ์ เขาเชื่อเสมอว่ามีเพียงขุนนางที่มีเลือดอันสูงส่งที่ไหลผ่านเส้นเลือดของพวกเขาที่จะสามารถควบคุมพลังแห่งคาถาได้

อีไลน์ส่ายหัวของเธอในความเชื่อนี้และทำได้เพียงยอมรับตัวเองต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในสลัม

อีไลน์มีชีวิตอย่างยากลำบากในสลัมโดยที่ไม่มีแหล่งรายได้ที่มั่นคงในขณะที่ยังเป็นเด็กและอยู่คนเดียว สถานที่แห่งนี้ผู้คนจะกัดกินชีวิตของคนอื่น โชคดีที่เธอได้ปลุกพลังและความสามารถในการรับรู้ของเธอนั้นสูงกว่าคนทั่วไปส่วนใหญ่ ดังนั้นเธอจึงค่อยๆปรับตัวเข้ากับสถานที่เช่นสลัม

จนกระทั่งวันหนึ่งเธอพบหนังสือเวทมนตร์ที่ชำรุดอยู่ใต้พื้นเตียงที่ทรุดโทรมของเธอ

เนื้อหาของหนังสือเวทมนตร์มีความไม่ต่อเนื่องและอีไลน์ไม่มีพื้นฐานในเวทย์มนตร์ แต่ความเข้าใจเรื่องเวทมนตร์ของเธอยังคงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดขณะที่อ่าน ตอนนี้เธอเข้าใจวิธีการร่ายคาถาลำดับแรก

“เฮ้อออ!”

อีไลน์ถอนหายใจและเดินออกจากบ้าน

เธอสวมเสื้อคลุมขนาดใหญ่ปกปิดร่างกายของเธอพร้อมหมวกคลุมทั้งใบหน้า หลังจากอยู่ในสลัมเป็นเวลาหลายปีสิ่งนี้กลายเป็นนิสัยที่ฝังแน่นของเธอ มีคนดีและคนไม่ดีผสมอยู่ในสถานที่นี้ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงที่อยู่คนเดียวในการรอดชีวิตในสถานที่แห่งนี้คือการซ่อนร่างกายของพวกเขา

พื้นที่สลัมตั้งอยู่ที่ส่วนนอกสุดของเมือง เมื่อมองไปรอบๆมันจะเต็มไปด้วยบ้านเรือนมากมาย ไกลออกไปมีกำแพงเมืองสูงตระหง่าน อีไลน์สามารถเห็นทหารจำนวนมากวิ่งพล่านไปยังจุดสัญาณ

ด้านนอกกำแพงเมืองมีท้องฟ้าสีเทา ตราบใดที่เธอยังจำได้โลกภายนอกเป็นสีเทาเข้มนี้เสมอ อีไลน์เก็บของที่มีค่าที่สุดของเธอคือหนังสือเก่าไว้กับตัวเธอ โดยไม่เหลืออะไรมีค่าไว้ในบ้านเลย หลังจากคิดไปครู่หนึ่งเธอตัดสินใจที่จะดูสถานการณ์ก่อน

ในเวลานี้เนื่องจากการเตือนภัย สภาพแวดล้อมรอบข้างทำให้ผู้คนมากมายวิ่งไปรอบๆอย่างไร้จุดหมาย

ทัดใดนั้น

บูมมม!!!

ไฟที่ลุกโชติช่วงโผล่ออกมาในระยะไกล และก้อนควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับเสียงดังก้อง กำแพงเมืองสูงตระหง่านถูกทำลาย!

ในดวงตาของอีไลน์มีความตกใจอย่างมาก ในความประทับใจของเธอ กำแพงอยู่ยงคงกระพันและทำลายไม่ได้ แม้ในช่วงสงครามการต่อสู้ป้องกันอย่างขมขื่นสามปีที่ผ่านมา กำแพงเมืองไม่เคยถูกทำลาย แต่ในเวลานี้เมื่อคลื่นสีดำพุ่งชนกำแพงเมืองแล้วมันก็พังทลายลงในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด