บทที่ 167 - วิกฤติซ้ำซ้อน (3) [03-05-2020]
บทที่ 167 - วิกฤติซ้ำซ้อน (3)
”
เพราะว่ามันนานมาแล้วที่ฉันไม่ได้เข้าในดันเจี้ยน ฉันเกือบจะลืมมอนสเตอร์ที่ปรากฏในช่วงชั้นที่ 50 ไปแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันก็ได้พบกับมอนสเตอร์ที่คนยักษ์ในชั้นที่ 50 และผ่านมันในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง
"....เอ๊ะ?
นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ผ่านชั้นดันเจี้ยนในเวลาหนึ่งชม. เมื่อฉันได้มาถึงชั้นขายองและเห็นว่าโรเล็ตต้ายังไมม่กลับมา ฉันก็ตระหนักได้ว่าฉันเพิ่งจะผ่านดันเจี้ยนมาในความเร็วที่มากแค่ไหน ฉันได้มองกลับไปอย่างตื่นเต้น
[หุหุ นี้แหละคือพลังของฉันนายท่าน]
"ใช่แล้ว ไพก้าน่าทึ่งเลยจริงๆ"
[มันเป็นสิ่งที่ดีที่ผลึกของฉันถูกปลด]
ดูเหมือนว่าเหตุผลใหญ่ที่สุดที่ฉันสามารถผ่านชั้นนี้ได้คือการที่ฉันขี่ไพก้าที่อยู่ในรูปธรรม เมื่อไพก้าแสดงพลังในรูปธรรม ฉันก็ไม่ได้แบ่งพลังไปอัญเชิญริยูหรือชาราน่า ฉันเพียงแค่ดื่มมานาโพชั่นเมื่อใดก็ตามที่คูลดาวน์หมดลงและจัดการเผามอนสเตอร์จนเกรียมด้วยเพลิงโกลาหล มันจะไม่มีปัญหาเมื่อริยูใช้พลังของเธอเป็นระยะ แต่ว่าฉันยังขาดมานาที่จะขี่เธอและพุ่งไปข้างหน้าหลายนาที
วิธีนี้จะไม่ทำงานในมียอน เพียงแค่ออร์ครวมกันใช้วอคลายพร้อมกันและพุ่งเข้ามาหาเขามันก็คือทางลัดสู่ความตาย
"ฉันจะต้องเคลียร์ดันเจี้ยนที่หนึ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะว่าบียอนนั้นจะต้องใช้เวลาที่มากขึ้น"
ฉันได้ให้ไพก้ากลับร่างจิตวิญญาณก่อนและโคจรวงจรเพรูต้าเพื่อเพิ่มมานาและลดความเหนื่อยล้า ในตอนนี้การปีนดันเจี้ยนที่หนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถ้ามันจะเป็นปัญหาก็คือฉันมีเวลาเหลือเพียง 2 ปี ดันเจี้ยนที่หนึ่งนั้นใช้เวลาไม่มากนะมันจะดีมาก สิ่งที่ฉันจะต้องเน้นคือเวลาในการพิชิตบียอน
"เอาล่ะ เราจะไปต่อกันเพื่อฉันฟื้นตัวแล้ว เป้าหมายของฉันคือการผ่านมันใน 4 วัน!"
[นายท่านทำได้แน่ถ้านายท่านมีฉัน นายท่านไม่จำเป็นต้องมีคนอื่นอีก]
ฉันได้ยิ้มขึ้นกับคำพูดของไพก้า และลูบหัวเธอ 'โทษนะไพก้า แต่ฉันก็ต้องการพลังของริยูและชาราน่าเหมือนกันในบียอน'
บนชั้นที่ 4 ของบียอนทั้งออร์คลอร์ดและราชินีวิญญาณกำลังรอฉันอยู่ ฉันรู้ในความบ้าคลั่งของออร์คลอร์ดอยู่แล้ว แต่ว่าการโจมตีทางจิตของราชินีวิญญาณนั้นไม่มีผลใดๆต่อฉันเลย มันจะมีเพียงการโจมตีทางการภาพด้วยการยิงศรพลังจิตเท่านั้นที่พวกมันจะทำ ฉันรู้สึกว้่ฉันสามารถจะเมินพวกนั้นได้ แต่แน่นอนมันไม่ได้เป็นไปตามที่ฉันคิดไว้
วอคลายของออร์คลอร์ดนั้นส่งผลกับพันธะมิตรทั้งหมด หรือก็คือมันทำให้ราชีวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นไปเช่นกัน การโจมตีทางจิตของมันไม่ได้ทรงพลังขึ้นมากนัก แต่ว่าศรพลังจิตนั่นเป็นสิ่งที่น่ากลัวขึ้นมา เพียงแค่หนึ่งนัดมันก็สามารถจะเจาะเกราะของฉันและทำให้วิญญาณของฉันสั่นสะเทือน และก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้นพวกมันได้ยิงศรออกมาหลายร้อยอันพร้อมๆกันและเด้งไปตามกำแพงเพื่อเพิ่มพลัง มันเหมือนกับว่าฉันอยู่ในนรกเลยล่ะ
[มนุษย์ วิญญาณมนุษญ์ที่ส่องประกาย]
[ก๊าาาาา กินเขา]
[หนุ่มหล่อทั้งหมดคือศัตรู]
"หา.... เอางั้้เลยหรอ...! ลองลิ้มรสหน้าไม้ของฉันหน่อยเป็นไง
เทคนิคหอกของฉันนั้นไม่สามารถจะทำอะไรได้มากบนบียอนชั้นที่ 4 นี้ ตั้งแต่ที่ราชินีวิญญาณจะยิงศรพลังจิตมาที่ฉันในทันทีที่เห็นฉัน ฉันจึงไม่ได้มีโอกาสวิ่งเข้าไปประชิดตัวพวกนั้นเลย สิ่งที่ฉันจะโต้กลับได้ก็คือหน้าไม้ระดับอีปิค นักล่าสมบูรณ์แบบ
[นักล่าสมบูรณ์แบบ (อีปิค)
ความทนทาน - 351/360
พลังโจมตี - 3750
ความต้องการอุปกรณ์ - ความแข็งแรง ความคล่องแคล่ว พลังเวทย์ 150 ทักษะชำนาญหน้าไม้ระดับกลาง
ผลลัพธ์ไอเทม - ความแข็งแรง +15 ความคล่องแคล่ว +15 พลังเวทย์ +15 เพิ่มพลังลมให้กับการโจมตีปกติด้วยลูกศร ความเร็วโจมตี +20% เติมกระสุนอัตโนมัติ ใช้มานา 10 เพื่อที่จะสร้างลูกศรเมื่อไม่มีลูกศร
ทักษะ - การยิงล่องหน: ทำให้ลูกศรล่องหนและลบเสียงและแรงดันจากลูกศร เพิ่มโบนัสความเร็วและพลังโจมตี 30%]
โชคดีที่หน้าไม้อันนี้มีโบนัสเสริมพลังลมอยู่แล้ว เมื่อชาราน่าได้เข้าไปในนั้นก็ทำให้พลังลมทรงพลังมากขึ้นไออีก ความเร็วและพลังการเจาะก็ได้เพิ่มไปถึงขีดสุด นอกจากนี้ก็ยังไม่สามารถจะมองเห็นลูกศรที่ถูกยิงออกไปด้วยหน้าไม้นี้ได้อีก ผลลัพธ์คือทำให้พวกมันยากที่จะหลบไป และพวกมันหลายคนจะรู้ตัวเมื่อถูกโจมตีแล้ว
[ก๊าซซซซซซซ]
[มนุษย์ขี้ขลาด]
[ก๊าซซซซซซ ฆ่ามนุษย์ให้ได้]
ไม่ว่าพวกมันจะฝ่ามาพยายามฆ่าฉันมากแค่ไหน พวกมันก็ไม่สามารถจะตามความเร็วของฉันทัน สิ่งเดียวที่พวกมันทำได้ก็คือการใช้วอคลายและยิงศรพลังจิตที่ถูกเสริมพลัง แต่ว่าศรพลังจิตเมื่อถูกสัมผัสมันจึงเป็นไปได้ที่จะยิงมันทิ้ง ฉันได้ให้หน้าที่นี้ไว้กับริยู คริสตัลน้ำแข็งที่ริยูสร้างขึ้นนับไม่ถ้วนนั้นเหมาะมากที่จะป้องกันศรพลังจิต
[ภูติธษตุ ฆ่าภูติธาตุ]
[ผู้หญิงทุกคนที่สวยกว่าฉันสมควรตาย!]
[ฆ่าผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบๆคนๆนั้น]
....และที่สำคัญกว่านั้นก็มีศรหลายอันทะลุผ่านเข้ามาหาฉันได้
หลังจากที่ฉันได้หลบพวกมันด้วยทักษะกายกรรมของฉัน พวกมันก็จะเด้งกับกำแพงและฆ่าราชินีวิญญาณหรือออร์คลอร์ด มันคล้ายกับในตอนที่ฉันต่อสู้กับมันก่อนหน้านี้
[ก๊าซซซซซซ]
[วิญญาณของฉันกำลังถูกทำให้บริสุทธิ์....]
"เธอจะถูกทำให้บริสุทธิ์ด้วยศรของตัวเองได้ยังไง.... เธอกำลังถูกขับไล่ออกไปจากกิจการต่างหากเล่า ฮ่าห์!"
ฉันได้ขยับไปรอยๆหยางวุนวายหลบการโจมตีของพวกนั้นและยิงศรกลับไป ด้วยค่าสเตตัสที่เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อเดือนก่อน ฉันรู้สึกว่ามันง่ายมาก นี่จึเป็นเหตุผลให้ฉันเคลียร์ชั้นที่ 4 เร็วกว่าชั้นที่ 2 ถ้าฉันสามารถจะควบคุมศรพลังจิตด้วยริยู ชั้นที่สี่นี่ก็เหมือนกับเรื่องหมูๆเลยล่ะ ตามที่พูดมานั้นฉันก็ไม่สามารถที่จะใช้กลยุทธ์วิ่งยิ่งอย่างนี้ไปได้ตลอด ในขณะที่ฉันก้าวไปข้างหน้าต่อเพื่อหาทางไปต่อ มันก็เป็นไปได้ว่าฉันจะไปถึงทางตัน
[ก๊าซซซซซซซซซ]
ตามที่คาดเอาไว้ เมื่อฉันได้เจอกับทางตันด้วยตัวเอง ออร์คลอร์ดก็ได้ตะโกนออกมาและพุ่งเข้ามาหาฉัน ราวกับว่าพวกมันกำลังรอคอยให้จังหวะนี้ราชินีวิญญาณก็ยังได้ยิงศรพลังจิตจำนวนนับไม่ถ้วนเข้ามาใส่ฉันในขณะที่ลอยมาด้วย ฉันได้สั่งให้ริยูสร้างวังวนน้ำแข็งและใช้มันปัดศรพลังจิตออกไป จากนั้นฉันก็ตะโกนขึ้น
"ไพก้า"
[ธันเดอร์ กราวด์]
มังกรดำได้ปรากฏตัวขึ้นมากลางอากศ ศรสายฟ้าที่หนาแน่นได้พุ่งผ่านฝูงมอนสเตอร์ในพริบตา เมื่อศรสายฟ้าที่ทรงพลังได้เข้าไปรวมกับคริสตัลน้ำแข็งมันก็กลายเป็นแข็งแกร่งขึ้นและกระจายออกไปทุกทิศทาง มอนสเตอร์ได้กรีดร้องออกมาอย่างพร้อมเพรียง
[ก๊าซซซซซซ]
"ต่อไป...!"
ฉันได้แขวนหน้าไม้ไว้บนเอวและหยิบเอาหอกโกาหัลมาจากด้านหลังเพราะว่ามอนสเตอร์พวกนี้อยู่ในสถานะสุดยอดเกราะ พวกมันจึงยังวิ่งเข้ามาต่อแม้ว่าจะร้องออกมาอย่างเจจ็บปวด ถ้าฉันไม่ฆ่าพวกมันในตอนนี้ ฉันก็จะถูกเหยียบจนตาย
"พายุธาตุ"
ภูติธาตุต่างๆได้มารวมตัวกันในหอกของฉันในขณะที่ส่งเสียงกันออกมา วงจรเพรูตาก็ได้หมุนอย่างทรงพลังและปกคลุมร่างกายทั้งหมดของฉันเอาไว้ในวังวนพายุ ฉันได้ควบคุมวังวนธาตุซึ่งมันดูเหมือนจะต้องการระเบิดออกมาไปขังมันไว้ที่ปลายหอกของฉัน เมื่อมีภูติธาตุมารวมกับมากขึ้น หอกของฉันก็ยิ่งส่องแสงออกมา
[ตาย มนุษย์]
"ขอโทษนะ แต่ว่าฉันไม่สามารถจะตายได้แม้แต่ครั้งเดียว...."
ในวินาทีที่พวกมันมาอยู่ข้างหน้าฉัน ฉันก็ได้ปล่อยพายุธาตุอกไป มันเกือบจะเหมือนกับว่าฉันได้ยิงปีนใหญ่ออกไป ซึ่งมันได้ผลักฉันถอยไปข้างหลังและทำให้ฉันชนเข้ากับกำแพงข้างหน้า ฉันได้ครางออกมาและตรวจสอบรอบๆ
ยังไงก็ตามหลังจากพายุได้ผ่านไปทางเดินก็ยังคงอยู่ เหมือนเช่นเคยมอนสเตอร์ทั้งหมดได้หายไปโดยที่ไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้ แม้ว่าพวกมันจะเกิดขึ้นใหม่ในไม่ช้า แต่ในปปัจจุบันนี้ไม่มีมอนสเตอร์ในระยะตรวจจับของฉัน
"...เยี่ยม"
หลังจากยืนยันว่าไม่มีมอนสเตอร์เหลืออยู่ ฉันก็ได้เก็บหอกไปบนหลังของฉัน จากนั้นฉันก็ได้ดื่มมานาโพชั่นลงไปพร้อมกับถอนหายใจ
"ไพก้า ฉันจะเรียกเธออีกนะ"
[แต่ว่าฉันอยากอยู่กับเจ้านายอะ]
"โทษนะ มันจะโอเคในระหว่างต่อสู้ แต่ว่ามันยากที่ฉันจะคงสถานะภูติธาตุทั้งสามเอาไว้"
[เชอะ]
"โทษทีๆ"
ฉันได้ส่งไพก้ากลับไปและไปต่ออย่างรวดเร็ว เมื่อฉันไม่ได้อยู่ในสถานรบฉันก็จะให้ชาราน่าเข้าไปในร่างกายของฉันแทนหน้าไม้ ดังนั้นความเร็วในการเคลื่อนที่ของฉันจึงเพิ่มขึ้นมาก ถ้าฉันใช้มานามากขึ้นฉันก็จะสามารถแม้แต่บินได้เลย ในตอนนี้ประโยชน์ของธาเลเรียได้หายไปแล้วอย่างหนึ่ง แม้อย่างนั้นถ้าฉันอัญเชิญธาเลเรียความเร็วของฉันก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีก
[มันดูเหมือนนายท่านจะใช้การบินบ่อยนะ ผู้ใช้ธาตุส่วนใหญ่จะมีปัญหาเมื่อบินครั้งแรก]
"ฉันมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าธาเลเรีย มันจำทำให้ฉันบินได้ในระยะเวลาที่กหนดนะ มันก็ถูกใช้ด้วยในตอนที่ฉันสู้กับเพซิน่า"
[ว้าว! คุณนี่พิเศษจริงๆเลย ดูเหมือนว่าภูติทั้งสามจะยังไม่พอ...]
ในขณะที่ฟังชาราน่าพูดและบินไปตามทาง ฉันก็ได้ยิงลูกศรลงไปบนพื้น จากนั้นลูกศรก็จะเด้งจากพื้นไปบนเพดานเหมือนกับลูกเด้ง จากนั้นก็ไปชนกับมุมกำแพง ในทันทีหลังจากนั้นก็จะมีเสียงปะทะดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้อง
[ก๊าซซซซซซซ]
"เยี่ยม พื้นที่นี้จัดการแล้ว"
เมื่อใช้มานาตวรจจับ ฉันก็ได้จัดการระเบิดกับดักที่พบและแม้แต่ฆ่าออร์คลอร์ดที่รออยู่ตามมุม มันเป็นความรู้สึกที่น่าพอใจจริงๆ
[ก๊าซซซซซซซซ]
ราชินีวิญญาณที่อยู่ด้านนอกระยะของกับดักได้ออกมาและเริ่มยิงศรพลังจิตยังไงก็ตามถ้าพวกมันไม่ได้รับการเสริมพลังจากออร์คลอร์ค ฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องหลบพวกมัน
"ริยูโล่"
[โล่คริสตัล]
ฉันได้หยิบหอกออกมาและพุ่งเข้าไปใส่ฝูงของราชินีวิญญาณ ในเวลาเดียวกันคริสตัลน้ำแข็งของริยูก็ได้ล้อมรอบฉันเหมือนกับเมฆ ฉันได้โคจรวงจรเพรูต้าและเปิดใช้งานไต้ฝุ่นคลั่ง วังวนพายุของมานาได้รวมเข้ากับคริสตัลน้ำแข็งสลายศรพลังจิตทั้งหมดที่มันสัมผัส
[ก๊าซซซซซซซซซซ]
[ฆ่ามนุษย์นั่น]
"ฮ่าห์ ใบมีดจู่โจม"
ก่อนที่ฉันจะเข้าไปถึงตัวพวกมัน ฉันได้ใช้ใบมีดจู่โจม จากนั้นใบมีดจู่โจมก็ได้ยื่นออกมาจากปากของฉันในทันที ฉันได้กระแทกมันเข้ากับราชินีวิญญาณจนมันกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นก็ยิงใบมีดออกไปและโจมตีพวกที่เหลือ เพลิงโกลาหลก็ได้กวาดผ่านพวกที่ยังรอดอยู่
[ติดคริติคอล]
[ก๊าซซซซซซ]
"ฟู่ ฉันจะต้องฟังเสียงกรีดร้องแบบนี้ไปนานแค่ไหนกันนะ?"
ฉันได้พึมพัมออกมาและลบราชินีวิญญาณทั้งหมดไป ในวินาทีที่มอนสเตอร์หายไปตรงนี้ก็กลับมาเงียบอีกครั้ง ฉันได้เคยชินกับมันแล้วในตอนนี้ ในบียอนนั้นมันอยู่ดีๆก็เกิดเสียงดัง หรือไม่ก็เงียบลงไปในทันที มันเป็นพื้นที่ๆเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจริงๆ
ยังไงก็ตามแม้ว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปอยางราบรื่น ฉันก็ไม่สามารถจะมีความสุขได้ มันได้ผ่านไปสองวันแล้วนับตั้งแต่ที่ฉันเข้ามาในบียอนชั้นที่ 4 ฉันมั่นใจว่าฉันได้ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ว่าฉันก็ยังไม่เคยเจอกับทางตรง แม้อยย่างนั้นฉันก็รู้ว่าฉันกำลังไปต่อด้วยความเร็วที่มากกว่าการสำรวจบียอนเมื่อครั้งก่อนๆ
มันดูเหมือนว่าริยูก็จะเห็นในความร้อนใจของฉัน เธอจึงให้กำลังใจออกมา
[ไม่ต้องห่วงหรอก ชินแข็งแกร่งที่สุด]
ฉันไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ แต่ว่าฉันรู้ว่าเธอกำลังพยายามปลอบใจฉัน ฉันได้ลูบหัวริยูผู้ที่กลายเป็นรูปธรรมและกอดเธอ ชาราน่าที่อยู่ในร่างกายของฉันก็พูดเสริมออกมา
[แม้อย่างนั้นถ้านายท่านไม่เร่งมัน นายท่านก็เร็วมากพอแล้ว!]
คำพูดของเธอมันดูจะเข้าใจมากกว่าริยู ฉันได้ยิ้มขมออกมาในขณะหยักหน้า
"เธอพูดถูก ถ้าฉันเร่งมากเกินไปและตาย มันก็จะเป็นภัยที่แม้จริง ขอบคุณนะ งั้นเราลองไปต่อด้วยความเร็วเท่านี้กัน"
ระยะเวลาจำกัดสองปีนั้นมันกระชั้นชิดมาก ฉันไม่สามารถสามารถจะปีนไปบนดันเจี้ยนเพียงผู้เดียวตามความปรารถนาที่จะพัฒนาตัวเองของฉันได้ ความจริงแล้วฉันจะต้องช่วยเพื่อนและครอบบครัวของฉันยังคงผลักดันฉันต่อไป
บางทีการทำแบบนี้มันก็เป็นเหมือนกับยาพิษ เมื่อถือหอกเพื่อปกป้องเสรีภาพมันก็จะมีน้ำหนักของความรับผิดชอบ มันจะสูญเสียความคมแล้วความเร็วของมัน มันเป็นสิ่งที่โง่จริงๆ
"เอาล่ะ... เลิกคิดและไปกันเถอะ"
ฉันได้ตบแก้มของฉันอย่างกระตือรือร้นและพุ่งออกไปอีกครั้ง ฉันแม้แต่อัญเชิญธาเลเรียออกมา ฉันต้องการที่จะผลักดันความรู้สึกถึงทางตันนี้ออกไป
"ไปกันเถอะ"
[อื้อ]
[ค่ะ นายท่าน]
20 นาทีหลังจากนั้นเส้นทางตรงก็ได้เปิดออกและฉันก็ได้ทำลายทางที่เต็มไปด้วยออร์คและราชินีวิญญาณด้วยทักษะคำรามสีชาดและพายุธาตุ ฉันได้ทำลายบียอนชั้นที่ 4 ในเวลาเพียงสองวัน มันเป็นสิ่งที่น่าตกใจจริงๆ
เวรเอ้ย ฉันน่าจะรออีกหน่อยนะ! ฉันได้เสียธาเลเรียไปอย่างเปล่าประโยชน์!