ตอนที่แล้วตอนที่ 5 ผู้รอดชีวิต (ตอนสุดท้าย)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 : คืนวิกฤติ

ตอนที่ 6 : สร้างฐานที่มั่น?


เมื่อเขาออกไป มีเพียงหุ่นที่ติดตามไปด้วย แต่เมื่อเขากลับมา กลับมีผู้รอดชีวิตหลายคนติดตามเขามา

คนเหล่านี้แบกกระสอบอาหารจำนวนมาก ซึ่งพบในห้องแช่เย็นและพื้นที่ต่างๆของโรงแรม อาหารเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นส่วนน้อยมากถ้าต้องเทียบกับแต่ก่อนที่มีผู้รอดชีวิตหลายพันคน ถังหยูรู้ว่าอาหารส่วนใหญ่ถูกทำลายในช่วงคลื่นฝูงปีศาจบุก

แน่นอนถังหยูต้องเอาอาหารพวกนี้ ในตอนแรกเขาคิดว่าผู้รอดชีวิตบางคนจะอิจฉาเขาที่อ้างสิทธิในอาหารเหล่านี้ เพราะพวกเขาเป็นคนที่พบอาหารในห้องแช่เย็นก่อน แต่จริงๆแล้วเขากลับคิดมากไปเอง

อาหารทั้งหมดนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เหมือนกับคนที่เข้าไปในป่าและหยิงผลไม้ป่าบางอย่างได้ เหมือนกับคำพูดที่ว่า มาก่อนได้ก่อน โดยไม่ต้องพูดเรื่องเหล่านี้ถ้าถังหยูไม่ได้มาในช่วงนี้ คนเหล่านี้จะกลายเป็นซากศพเย็นๆไปแล้ว แม้ว่าเขาจะปล้นพวกเขาจริงๆ เขาก็กลัวว่าจะไม่มีใครสักคนกล้าพูดอะไรเลย

มันไม่เหมือนก่อนเกิดวันโลกาวินาศหรือเมื่อบางคนยังคิดว่าพวกเขายังมีกฏหมายและศีรธรรมคุ้มครองอยู่ หากพวกเขาเหล่านั้นยังไร้เดียงสาเหมือนเดิมแล้วพวกเขาจะไม่สามารถอยู่รอดได้จนถึงเวลานี้ สิ่งที่สามารถยับยั้งความแข็งแกร่งคือบางคนที่แข็งแกร่งกว่าหรือคนที่แข็งแกร่งกว่ากับไร้ศีรธรรม

ถึงอย่างนั้น...

ถังหยูยังคงมอบอาหารให้กับผู้รอดชีวิตเพื่อเป็นรางวัลในการแบกกระสอบอาหารกลับมาให้ เมื่อผู้รอดชีวิตได้ยิ่งสิ่งนี้ พวกเขาเต็มไปด้วยพลังงานทันที

เขาไม่สามารถช่วยได้ แต่รู้สึกว่านี่เป็นข้อได้เปรียบของการเป็นผู้ออกคำสั่ง

หมายเลข 1 มีความแข็งแกร่งแต่มันไม่สามารถมีบทบาทในการขนส่ง ท้ายที่สุดอาหารไม่ได้บรรจุในกล่องแต่กระจัดกระจายไปทั่วพื้น ไม่ว่าหมายเลข 1 จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถใช้เวลาในการขนส่งของได้มากมายในหนึ่งรอบ ในทางตรงกันข้ามหากผู้รอดชีวิตเหล่านี้ทำงานร่วมกันหรือใช้เครื่องมือบางอย่าง ประสิทธิภาพในการรวบรวมจะเพิ่มขึ้นทันที

ในขณะที่เดินและพูดคุย ถังหยูได้เรียนรู้เกี่ยวกับคนเหล่านี้ในไม่ช้า

ตามความเป็นจริง ที่มาของคนเหล่านี้คล้ายกับเขา พวกเขาทุกคนคือผู้รอดชีวิตหลังจากฐานที่มั่นถูกทำลายโดยคลื่นปีศาจ ในหมู่พวกเขา หัวหน้ากลุ่มคือชายวัยกลางคนที่ชื่อ เฉินไฮปิง ซึ่งเป็นคนเดียวที่ได้ปลุกพลัง ถังหยูจึงถามข่าวเกี่ยวกับการล้มสลายของฐานที่มั่น

เท่าที่เขารู้ เขารู้เพียงฐานที่มั่นถูกทำลายโดยคลื่นปีศาจ ถังหยูไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกระบวนการทั้งหมดในขณะที่เฉินไฮปิงเป็นผู้ปลุกพลัง เขาควรจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับมัน ถังหยูคิดว่าเขาจำเป็นต้องรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาอนาคตของดินแดนของเขา

เฉินไฮปิงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับคำถามของเขาและเริ่มอธิบาย

ในใจของเฉินไฮปิง ถังหยูและเพื่อนของเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดจากพื้นที่อื่น พวกเขาเพิ่งจะช่วยพวกเขาดังนั้นโดยธรรมชาติเขาควรบอกทุกอย่างที่เขารู้

เขายิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “ครั้งหนึ่งที่นี้เคยเป็นฐานที่มั่น แต่มันถูกทำลายโดยคลื่นปีศาจสองวันก่อน ผู้รอดชีวิตเกือบทั้งหมดเสียชีวิต ฉันเกรงว่าจะไม่มีผู้รอดชีวิตเหลืออีกแล้วเว้นแต่พวกเรา”

“คลื่นปีศาจเหรอ? มันน่ากลัวจริงๆ ถึงแม้กระทั่งฐานที่มั่นขนาดใหญ่เช่นนี้ไม่สามารถต้านคลื่นปีศาจได้ แต่ถ้าต้องถอยมันก็ยังได้ไม่ใช่เหรอ?”

ใบหน้าของเฉินไฮปิงดูขมขื่นขณะที่เขาพูดว่า “จะถอย? คุณรู้หรือไม่ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ในการต่อต้านคลื่นปีศาจ?”

เขายกสามนิ่วขึ้นและพูดว่า “สามนาที เพียงแค่สามนาทีเท่านั้น! ไม่ต้องพูดถึงการถอย ผู้รอดชีวิตบางคนถูกฆ่าโดยคลื่นปีศาจอย่างฉับพลันโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น”

ถังหยูแสดงใบหน้าตกใจมาก

การแสดงออกของเขาไม่ผิด แต่เดิมเขาคิดว่าฐานที่มั่นถูกทำลายหลังจากการต่อสู้ที่ขมขื่น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น

“ฉันเคยเป็นผู้นำของทีมเล็กๆในฐานที่มั่น ก้อนที่คลื่นปีศาจจะมา ฉันยังคงพักอยู่ในบ้าน เมื่อฉันได้ยินเสียงเตือนแล้วฉันต้องรีบไปที่แนวหน้าทันที แต่ก่อนที่ฉันจะไปถึง ฉันเห็นปีศาจท่วมท้นจากทุกด้านของฐานที่มั่น”

ขณะที่เฉินไฮปิงเริ่มจำได้ เขาพูดต่อไปว่า “แนวป้องกันของฐานที่มั่นนั้นไม่ได้เลวร้ายนัก แต่มันก็เป็นเพียงฐานที่มั่นขนาดเล็ก ผู้ปลุกพลังที่ทรงพลังที่สุดก็ยังเป็นแค่ผู้ปลุกพลังขั้นสาม นอกจากนี้ชายคงนี้ยังเป็นคนที่โชคดีที่เป็นผู้ปลุกพลังความสามารถพิเศษ ความแข็งแกร่งดังกล่าวถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในบรรดาฐานที่มั่นขนาดใหญ่และแม้กระทั่งฐานที่มั่นขนาดเล็กรอบๆ เขาก็ยังเป็นผู้มีชื่อเสียง”

“ด้วยความจริงเหล่านี้ เมื่อรวมกับปืนกล วัตถุระเบิดและอาวุธอื่นๆที่ติดตั้งในแนวป้องกันของเรา มันทำให้แกร่งขึ้นมาก แม้จะมีจุดดีเหล่านี้บนแนวรับป้องกันของเราแต่พวกเราก็ไม่สามารถต้านคลื่นปีศาจได้ แนวป้องกันของเราถูกทำลายลงในทันที” เฉินไฮปิงหยุดถอนหายใจอย่างหนักและแสดงสีหน้าโกรธบนใบหน้าขณะที่เขาพูดว่า “เหตุผลของความพ่ายแพ้ครั้งนี้คือผู้อำนวยการของฐานที่มั่น หวังใต้  เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆแล้วเขาได้ทำการหลบหนีโดยไม่แจ้งเตือนฐานที่มั่นใดๆเลย”

“ไม่เพียงแค่นั้น ในการหลบหนีของวังใต้ เขาได้นำคนภักดีของเขาไปด้วยหลายคนและยังนำปืนและกระสุนจำนวนมากที่ทิ้งไว้ในแนวป้องกันจากไปด้วย ปืนและกระสุนเหล่านี้เดิมเป็นอาวุธและอุปกรณ์ที่กองทัพหลินตงได้สนับสนุนฐานที่มั่นขนาดเล็กของเรา แต่พวกมันก็ถูกเอาไปโดยหวังใต้ ผลก็คือเมื่อปีศาจโจมตี แนวป้องกันทั้งหมดก็เต็มไปด้วยหลุมเมื่อมันถูกโจมตีทันที”

“แม้แต่ผู้ปลุกพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเราก็ยังตายภายใต้การแอบโจมตีของปีศาจ ฉันโชคดีพอที่จะหลีกเลี่ยงภัยพิบัตินี้ นอกเหนือจากผู้ติดตามหวังใต้ไป ฉันกลัวว่ามีเพียงพวกเราไม่กี่คนเท่านั้นที่เหลือรอดอยู่ในฐานที่มั่นด้วยความโชคดี”

ความเห็นแก่ตัวอาจเป็นส่วนใหญ่ของธรรมชาติมนุษย์โดยเฉพาะในช่วงวันโลกาวินาศ

ในช่วงเวลาก่อนที่เขาจะมาถึงฐานที่มั่น ถังหยูอยู่ในหมู่ผู้รอดชีวิตหลายร้อยที่มุ่งหน้ามาฐานที่มั่นแห่งนี้ อย่างไรก็ตามในที่สุดกลุ่มของผู้รอดชีวิตก็ได้มาถึงที่ฐานที่มั่น ในบรรดาผู้รอดชีวิตกว่าร้อยคนที่ร่วมเดินทางด้วยกันมีเพียงผู้รอดชีวิตน้อยกว่า 100 คน ที่ประสบความสำเร็จในการมีชีวิตรอดมาถึงฐานที่มั่น

ผู้รอดชีวิตหลายคนเสียชีวิตในปากของปีศาจ แต่ก็มีคนที่ตายโดยฝีมือของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดอะไรได้ เมื่อเผชิญกับความอยุติธรรมเหล่านี้เขามักจะไม่ไปยุ่งเกี่ยว ซึ่งทำให้เขารอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้

เขายังไม่มีคุณสมบัติที่จะตำหนิหวังใต้ บางทีในขณะที่หวังใต้กำลังเผชิญหน้ากับการทำลายฐานที่มั่น เขาไม่สามารถพูดได้ว่าทางเลือกของหวังใต้ในสถานการณ์นั้นผิด แต่สำหรับผู้ที่ถูกทอดทิ้ง ความแค้นนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ถังหยูในฐานะสมาชิกที่ถูกทอดทิ้งแล้วค่อนข้างโกรธ แต่ก็ไม่ได้โกรธเท่าที่เขาคาดหวัง

อาจเป็นเพราะเขารอดชีวิตมาได้และประสบความสำเร็จในการเปิดใช้งาน ซิสเต็ม หรือบางความโกรธเป็นเพียงวิธีที่คนอ่อนแอจัดการกับสถานการณ์ของพวกเขา ดังนั้นแทนที่จะโกรธ เขาสนใจที่จะควบคุมชะตากรรมของเขาเอง

เมื่อเฉินไฮปิงพูดทุกอย่างที่เขาได้แบกไว้แล้วเฉินไฮปิงรู้สึกเหมือนว่าน้ำหนักถูกยกออกจากอกของเขา เขาไม่ได้สนใจในอดีตมากเกินไป เขาจะมีชีวิตรอดได้อย่างไรเป็นคำถามที่เขาควรพิจารณา

หลังจากย้ายอาหารครั้งแรกกับถังหยู ผู้รอดชีวิตก็เริ่มการย้ายอาหารที่เหลืออีกหลายครั้งจากโรงแรมไปยังบริเวณวิลล่า

อย่างไรก็ตาม เฉิงไฮปิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติหลังจากเดินกลับไปกลับมาหลายครั้ง

ในตอนแรกเขาเชื่อว่าถังหยูและเพื่อนของเขาแข็งแกร่งมากมาจากฐานที่มั่นขนาดใหญ่ เขาคิดว่าพกวเขาเพิ่งผ่านทางมาและอาจออกจากพื้นที่ในไม่ช้า แต่หลังจากการพูดคุยกันแล้วเขารู้ว่าพวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะออกจากพื้นที่นี้เลย ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าที่สะอาดกำลังวางแผนที่จะก่อสร้างฐานที่มั่น

สร้างฐานที่มั่นอย่างงั้นเหรอ?

ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายล้อเล่นเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากขนย้ายอาหารทั้งหมดไปแล้ว เขาก็เริ่มจ้างผู้รอดชีวิตให้ขนหินและไม้บางส่วน แม้ว่าเฉินไฮปิงไม่เห็นจุดประสงค์หรือทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ เขาสามารถเห็นได้ว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งสองนี้ดูเหมือนจะจริงจังมาก

ก่อนหน้านี้เขาได้อธิบายถึงฐานที่มั่นที่ถูกทำลายโดยพวกปีศาจ แต่...

เขารู้สึกเหมือนทุกสิ่งที่เขาเพิ่งพูดไปไม่มีค่า!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด