GE408 ยกระดับ แส้อัสนีปลิดชีพ [ฟรี]
เมื่อพูดคุยกันจบ หงยี่ก็พาหนิงฝานไปเก็บใบไผ่อัสนีทองคำ เดิมทีนางคิดจะไว้เป็นข้อต่อรองหนิงฝาน แต่เมื่อนึกถึง ฝุ่นทรายสีม่วงของเขา นางจึงเลิกล้มความคิด เพราะฝุ่นทรายเหล่านั้นลบรอยประทับของนางบนใบไผ่ได้ไม่ยาก
ยามนี้เขาให้หลิงคงและศพนางสวรรค์เข้าไปพักแหวน เก็บทาสไร้ดัดแปลงทั้งสามเข้ากระเป๋า และเดินตามนางเงียบๆ
นางพาหนิงฝานไปตระเวณไปตามส่วนต่างๆที่มีใบไผ่ ระหว่างทางมีสถานที่อันตรายมากมาย... สถานที่ที่นางอยากให้เขาไปนั้นน่าจะอันตรายมาก เขาไม่อยากให้หลิงคงและศพนางสวรรค์ต้องเสี่ยง
หนิงฝานได้โคจรวิชาคารมอย่างลับๆเพื่อหวังล้วงความลับจากนาง แต่ในจิตใจของนางราวกับมีม่านพลังขวางกั้น ทำให้วิชาไม่ได้ผล
“วิชาคารมไม่ได้ผล...” หนิงฝานขมวดคิ้ว ตัวตนของนางดูจะไม่ธรรมดาอย่างที่คิด
“เจ้ากล้าใช้วิชาล้วงความลับข้าเหรอ? ถ้าเจ้ายังกล้าทำแบบนั้นอีกครั้ง ข้าฆ่าเจ้าแน่”
นางปลดปล่อยแรงกดดันที่ทรงพลัง อัสนีทองคำที่แปรบปราบโดยรอบสั่นไหว หนิงฝานรู้สึกราวกับตนเองเล็กจ้อย แต่ก็เร่งปลดปล่อยแรงกดดันเข้าต้านนาง
*ตูม!*
แรงกดดันที่ทรงพลังสองสายเข้าปะทะ เสียงระเบิดดังสนั่น แต่นางกลับไม่ได้ผลกระทบ ผิดกับหนิงฝานที่ถูกผลักให้ถอยเป็นร้อยก้าว แต่ละก้าวต้องถ่ายแรงกระแทกลงพื้น
เมื่อหยัดยืนได้มั่นคง แรงกดดันของนางก็สลายไป
แรงกดดันของนางทรงพลังมาก… แรงกดดันระดับนี้หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกก็คงต้านรับไม่ได้! และนอกจากผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกแล้ว คงไม่มีผู้ใดเปล่งแรงกดดันผลักให้นางถอยได้
แม้นางจะอยู่เพียงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น แต่บางที คงไม่มีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงคนใดที่สู้นางได้
“นางแข็งแกร่ง ทาสไร้ดัดแปลง 3 ตนคงต้านรับการจู่โจมของนางไม่ได้ หากจะเอาชนะนาง คงต้องใช้อนุสรณ์ตะวันจันทราเท่านั้น” เมื่อมั่นใจในวิธีจัดการกับนางแล้ว หนิงฝานจึงสงบใจ
ส่วนนางเคยพบผู้เยาว์มามากมาย แต่ผู้ที่มีแรงกดดันทรงพลังระดับนี้ มีหนิงฝานเป็นคนแรก
นางกล่างอย่างเย็นชา “อย่าให้มีครั้งหน้าอีก!”
“อืม” หนิงฝานมั่นใจแล้วว่านางพลังกว่าเขามาก หากเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากยั่วยุนาง
เมื่อวิชาคารมไม่เป็นผลก็ไม่จำเป็นต้องใช้อีก
ทั้งสองเดินทางโดยไม่กล่าวคำ นางเองก็ไม่อยากกล่าวกับหนิงฝาน เพราะกลัวว่าจะพูดบางอย่างที่ไม่สมควรออกไป
ผ่านไปครึ่งวัน นางก็พาหนิงฝานเก็บใบไผ่จนหมด
นางจ้องมองหนิงฝานด้วยสายตาเย็นชาพลางกล่าว “นี่คือใบไผ่อัสนีทองคำที่อยู่ภายในเรือนอัสนีทองคำ มีทั้งหมด 7150 ใบ ถ้าเกิดเจ้าช่วยข้าเก็บใบไผ่อัสนีทองคำดำได้ 7 ใบ ข้าจะยกทั้งหมดนี้ให้”
“อืม”
“สมบัติที่อยู่อาศัยแห่งนี้มีนามว่า เรือนอัสนีทองคำ เป็นสถานที่เอาไว้ปลูกไผ่อัสนีทองคำ แต่ภายในนี้ ยังมีส่วนที่เรียกว่า โลกอัสนีทองคำดำ เป็นสถานที่สำหรับปลูกไผ่อัสนีทองคำดำ ซึ่งผู้ที่เข้าไปได้มีเพียงบิดาของข้าเท่านั้น”
“อืม” หนิงฝานไม่กล่าวมากความ
นางพยักหน้าแล้วพาหนิงฝานไปยังยอดเขาทองคำแห่งหนึ่ง ยอดเขาแห่งนี้มีอัสนีทองคำจำนวนมหาศาลฟาดผ่า แม้อานุภาพของมันจะด้อยกว่าอัสนีทัณฑ์สวรรค์ แต่อานุาภาพของพวกมันก็ไม่ธรรมดา
ดวงตาหนิงฝานเป็นประกาย เขาคิดว่าอัสนีเหล่านี้น่าจะช่วยเขายกระดับแส้อัสนีได้
“เจ้าอยากได้อัสนีทองคำพวกนี้เหรอ?” นางกล่าวราวกับรู้ความคิดของหนิงฝาน
“ข้าไม่กล้าหรอก”
“อยากได้ก็บอกมา พวกมันไม่เป็นประโยชน์กับข้า ข้าให้เจ้าได้ แล้วเจ้ามีสมบัติที่รับอัสนีพวกนี้ได้หรือเปล่า?” นางกล่าวออกมาตรงๆ นางไม่ชอบคนพูดอ้อมค้อม
หนิงฝานประหลาดใจ อัสนีทองคำที่ทรงพลังเหล่านี้ นางกล่าวว่าจะมอบให้
หากหนิงฝานเอาอัสนีเหล่านี้ไป นั่นหมายความว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่มีอัสนีทองคำอีก ไม่มีไผ่อัสนีทองคำอีก
แต่เมื่อขบคิด หนิงฝานก็เข้าใจในความคิดของนาง
นางอยากให้หนิงฝานช่วย เขาเองก็ต้องการใบไผ่อัสนีทองคำจากนางเช่นกัน นับว่าต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์
ก่อนหน้านี้นางข่มขู่บังคับหนิงฝาน แต่ยามนี้กลับจะให้สิ่งที่ต้องการเพื่อให้เขาวางใจ
แม้ใบไผ่อัสนีทองคำเหล่านี้จะล้ำค่ามาก แต่สำหรับนางไม่นับเป็นอันใด ราวกับมันเป็นใบไผ่อัสนีเงินทั่วไปเท่านั้น ต่อให้หนิงฝานเอาอัสนีทองคำเหล่านี้ไป จนทำให้ที่นี่ปลูกไผ่อัสนีทองคำไม่ได้อีก นางก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน
การจะรับอัสนีได้นั้น สิ่งที่ใช้บรรจุต้องเป็นสมบัติธาตุอัสนี
หนิงฝานนำแส้อัสนีโลหิตออกมา นางขมวดคิ้วเมื่อสัมผัสได้ถึงอัสนีที่อยู่ภายในแส้
“อัสนีโลหิต?” นางคาดไม่ถึงว่าเขาจะมีสมบัติที่บรรจุทัณฑ์สวรรค์อัสนีโลหิตเอาไว้
อัสนีโลหิตที่หนิงฝานครอบครองคือทัณฑ์สวรรค์ชนิดหนึ่ง แตกต่างจากอัสนีทั่วไปซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ควบคุมได้
น่าแปลก… ในโลกพิรุณแห่งนี้ นอกจากกษัตริย์อัสนีปู้ซัว ไม่น่าจะมีใครควบคุมอัสนีโลหิตได้อีก
นางยื่นมือคว้าเอาแส้มาจากมือหนิงฝาน โดยที่เขาไม่รู้ตัว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกฉวยอาวุธไปจากมือ
นางยิ้มพลางกล่าว “วางใจเถอะ… ข้าไม่สนใจ ‘ขยะ’ ของเจ้าหรอก”
“ขยะ?” หนิงฝานขมวดคิ้ว เป็นครั้งแรกที่มีคนดูแคลนอาวุธของเขา
แม้วิธีการสร้างอาวุธของเขาไม่ได้เป็นหนึ่งในโลกพิรุณ แต่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงก็ไม่อาจเทียบเขาได้ ดังนั้น แส้อัสนีโลหิตของเขาจึงถือเป็นของล้ำค่า และมันก็ยังช่วยเขาจัดการศัตรูมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
“ดึงเอาดวงจิตผ่านสมบัติแล้วทำลาย… หากศัตรูเจ้าไม่ได้ใช้อาวุธหรือสมบัติ… แส้ของเจ้าจะมีประโยชน์อะไร?” นางกล่าวพลางชี้ให้เห็นจุดด้อยของแส้อัสนี
หนิงฝานขมวดคิ้ว สายตาของนางดีไม่น้อย นางเป็นคนแรกที่มองถึงความสามารถของแส้อัสนีโลหิตออก หรือนางจะเป็นผู้เชี่ยชาญในการสร้างอาวุธ?
“ทาสไร้ดัดแปลงของเจ้าเองก็ไม่ธรรมดา แม้มันจะยังไม่สมบูรณ์ แต่วิธีการสร้างนั้น อย่างน้อยๆก็จัดอยู่ในระดับพื้นฐานของแดนสวรรค์ เดิมข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนสร้างพวกมัน แต่ดูเหมือนจะเป็นคนอื่นที่สร้างให้... เพราะทักษะการสร้างของเจ้ายังไม่ถึงขั้น”
แม้จะถูกเย้ยหยัน แต่หนิงฝานไม่โต้เถียง เพราะดูเหมือนนางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการหลอมสร้างอาวุธที่เก่งกาจคนหนึ่ง
“แส้ของเจ้ามีชื่อว่าอะไร?” นางกล่าวถามอย่างเย็นชา
“แส้สังหารเทพ!”
“แส้สังหารเทพ...เป็นชื่อที่ดี แต่แค่นี้ยังไม่พอ ถ้าเกิดผสานอัสนีทองคำหมื่นสายในนี้เข้าไป ชื่อของมันก็ควรจะเปลี่ยนเป็น ‘แส้อัสนีปลิดชีพ’!”
ดวงตานางเป็นประกาย เงยหน้ามองท้องนภาเบื้องบน อัสนีทองคำนับหมื่นสั่นไหวราวกับหวาดกลัว
นางหวดเฆี่ยนแส้ไปบนท้องนภา แส้สลายตัวกลายเป็นอัสนีโลหิตสายหนึ่งที่ขดพันรอบดาราโบราณ
นางขยับมือเป็นท่าทาง กลุ่มก้อนอัสนีโลหิตเปล่งแสงสีแดงฉาน อานุภาพเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปชั่วธูปไหม่หมดครึ่งดอก ดาราโบราณและอัสนีโลหิตได้คืนสภาพเป็นแส้ดังเดิม แต่มันกลับเปล่งประกายราวกับดารากระจ่างใส
ระดับมันเพิ่มพูนไปจนถึงสมบัติระดับไร้ดัดแปลง!
หนิงฝานตกตะลึง นางช่วยยกระดับแส้ให้เขา นั่นหมายความว่านางคือผู้เชี่ยวชาญในการสร้างอาวุธจริงๆ และทักษะของนางก็เหนือกว่าเขามาก
“แส้นี้ยกระดับด้วยอัสนีของข้า จากนี้ไป หากเจ้าจะสังหารผู้ใด ก็จงหวดแส้นี้โดยไม่ต้องลังเล!”
*เปรี้ยง!*
นางหวดแส้ในมืออย่างแรง อัสนีทองคำที่แปรบปราบบนท้องนภาแตกสลาย
เมื่อหวดแส้ครั้งที่สอง อัสนีทองที่กระจัดกระจายมารวมตัว
เมื่อหวดแส้ครั้งที่สาม อัสนีเหล่านั้นผสานเข้าไปในแส้ยกระดับให้มันทรงพลังขึ้นไปอีกขั้น
บนท้องนภาปรากฏรอยแยกมิติที่ไม่อาจผสาน อำนาจที่ทรงพลังของแส้อัสนีนี้ ทรงพลังมากพอที่จะปลิดชีพผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงได้ในครั้งเดียว
ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงยังต้องบาดเจ็บ
“เอาคืนไป” นางโยนแส้คือให้หนิงฝาน
เมื่อเขาคว้าจับแส้ เขาสัมผัสได้ถึงอัสนีทองที่ทรงพลัง สัมผัสได้ถึงอานุภาพของแส้ที่เพิ่มพูนมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า
เหตุที่ก่อนหน้านี้มันอ่อนแอเพราะอัสนีที่เสริมเข้าไปในนั้นอ่อนเกินไป ทำให้มันไม่ทรงพลังมากนัก
แต่นับจากวันนี้ไป มันจะทรงพลังยิ่งขึ้น และใช้จู่โจมศัตรูได้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น
“ขอบคุณแม่นางหงยี่ที่ช่วยยกระดับแส้ให้ข้า วิชาการหลอมสร้างเจ้าทำให้ข้าอายยิ่งนัก” หนิงฝานยอมรับว่านางมีวิชาหลอมสร้างที่เหนือชั้นกว่า
“แม่นาง?” นางหัวเราะ
“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ที่ข้ายกระดับแส้ให้เจ้าก็เพื่อให้เจ้าใช้มันป้องกันตัว เพราะในโลกอัสนีทองคำดำนั้น มีดวงจิตอัสนีอยู่เป็นจำนวนมาก! เตรียมตัวให้ดี ข้าจะเปิดทางเข้าให้แล้ว!” นางกล่าว
ทันทีที่สิ้นคำกล่าว อัสนีสีดำสายหนึ่งปรากฏบนยอดเขา ก่อร่างเป็นประตู
นางไม่กลัวว่าหนิงฝานจะลอบจู่โจม เพราะนางมั่นใจว่าเขาทำไม่ได้
ความมั่นใจระดับนี้จะมีอยู่ในผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเท่านั้น แต่นางกลับมี
เมื่อลองขบคิดถึงนิสัยของนาง แม้นางจะปากร้าย แต่นางก็กล่าวความจริงไม่เสแสร้ง แม้สายตานางจะเย็นชา แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ความรู้สึก
ยามนี้ราวกับเรื่องที่ทั้งสองเคยบาดหมางมาก่อนได้ถูกลบไปจนสิ้น เหลือเพียงแค่การถ้อยทีถ้อยอาศัย
“อีกไม่นานประตูของโลกอัสนีทองคำดำจะเปิดแล้ว อำพรางกายให้ดี อย่าให้ ‘ดวงจิตอัสนีไร้ดัดแปลงขั้นสูง’ หาเจ้าพบ”
“ดวงจิตอัสนีไร้ดัดแปลงขั้นสูง!” หนิงฝานขมวดคิ้ว ดวงจิตอัสนีไร้ดัดแปลงขั้นสูงทรงพลังกว่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นสูงมาก
ในแต่ละขั้นของเขตเขตไร้ดัดแปลงนั้น แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นสามารถควบคุมพลังมิติได้ แต่ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงสามารถใช้พลังมิติได้ราวกับใช้ปราณของตน
ดูเหมือนโลกอัสนีทองคำดำจะอันตรายเป็นอย่างมาก
หนิงฝานสวมผ้าคลุมลวงสวรรค์อีกครั้ง เงาร่างและกลิ่นอายของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ นางเองก็ใช้วิชาอำพรางกาย แต่ทั้งสองยังคงพูดคุยด้วยสัมผัสเทพเพื่อให้รู้ตำแหน่งของกันและกัน
“เข้าไปได้!” หนิงฝานเข้าสู่โลกอัสนีทองคำดำพร้อมกับนาง
แต่ชั่วพริบตาที่เขาเข้าไปนั้น สัมผัสเทพกว่า 10 สายในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงกวาดผ่านมา พร้อมกับแรงกดดันที่ทรงพลัง
“ใคร! ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้”
แรงกดดันที่ทรงพลังแปรเปลี่ยนเป็นอัสนีฟาดผ่า จนทำให้หนิงฝานรู้สึกราวกับทะเลสติของตนกำลังจะแตกสลาย!