GE407 บุตรสาวกษัตริย์อัสนีปู้ซัว [ฟรี]
สตรีนางนั้นสัมผัสได้ถึงใบไผ่ที่กำลังหายไปทีละใบ นางสงสัยในตัวตนของผู้ที่ลอบเข้ามาเป็นอย่างมาก
“ถ้าหากคนผู้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณหรือไร้ดัดแปลง ข้าต้องเห็น! แต่ถ้าเป็นขอบเขตไร้แบ่งแยก… ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกล้วนเป็นคนของวิหารพิรุณทั้งสิ้น จะลอบเข้ามาขโมยใบไผ่ไปทำอะไร? ดูไม่สมเหตุสมผลเลย...”
“หรือคนผู้นั้นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง? แต่ไม่มีผู้ใดในขอบเขตไร้ดัดแปลงที่รอดพ้นสัมผัสเทพข้าได้… มันเป็นใครกัน”
“ไม่รู้เพราะอะไร ข้ารู้สึกอยู่ลึกๆว่ากลิ่นอายของมันคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าข้าจะสัมผัสถึงกลิ่นอายของมันไม่ได้ก็ตาม...”
“ในอดีตยามที่ข้าตาย ดวงจิตของข้าแตกกระจายเป็นหมื่นส่วน ยามนี้ข้าฟื้นฟูดวงจิตแล้ว 9999 ส่วน เหลืออีกเพียง 1 ส่วนที่แปรสภาพไปเป็นภูติพราย...”
“หนิงหงหง… ตัวตนที่ข้าต้องลบไปจากความทรงจำ หากไม่ลบแล้ว การผสานดวงจิตของข้าจะล้มเหลว ทะเลสติของข้าอาจแตกสลาย”
นางยกมือขึ้นเล็กน้อย เส้นแสงอัสนีสีเงินฟาดฝ่าเข้าไปยังทะเลสติของนางเพื่อลบความทรงจำ
นางไม่อยากได้ความทรงจำนั่น ไม่อยากจดจำว่าตัวตนของนางอีกคนคือหนิงหงหง
“ถ้าเกิดคนผู้นั้นเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง แสดงว่ามันต้องมีวิชาอำพรางกายที่ยอดเยี่ยม การที่มันลอบเข้ามาขโมยใบไผ่ได้ แสดงว่ามันสนใจใบไผ่มาก!”
นางเริ่มเคลื่อนไหว มุ่งเข้าหาหนิงฝานอย่างรวดเร็ว
“ถ้าเกิดมันไม่หยุด ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดมัน”
วิชาอำพรางกายของนางไม่ธรรมดา แม้นางไม่อาจสัมผัสได้ถึงตัวตนของหนิงฝาน แต่หนิงฝานก็ไม่อาจสัมผัสได้ถึงตัวตนของนางเช่นกัน
แม้ทั้งสองจะมองไม่เห็นซึ่งกันและกัน แต่สามารถสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ที่นี่… และหนิงฝานก็รู้ว่านางกำลังใกล้เข้ามา
หนิงฝานพอจะเดาได้ว่าผู้ที่มาสมควรเป็นสตรีนางนั้น... แม้เขาจะผ้าคลุมลวงสวรรค์ แต่นางยังสัมผัสได้ ที่สำคัญการอำพรางกายของนางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา
นางใช้วิชาอำพรางกายอะไร?
หนิงฝานขบคิดและหาวิธีเลี่ยงนาง เพียงแต่นางนั้นรวดเร็วมาก นางปรากฏกายไม่ห่างจากเขามากนัก แผ่แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวแล้วกล่าวอย่างเย็นชา
“ไสหัวออกมาซะ! ไม่อย่างนั้นข้าจะผนึกที่นี่ เจ้าจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้อีก!”
นางชูมือสูง อัสนีที่ทรงพลังฟาดผ่า ราวกับนางเป็นนายของสถานที่แห่งนี้
นางควบคุมให้อัสนีสีทองผนึกทางออก
เขาไม่รู้ว่านางเป็นใคร และไม่ได้คิดที่จะสู้กับนาง ยามนี้เขาได้ใบไผ่เพียงพอที่จะรักษาหลิงคงและหลั่วโยว่แล้ว สมควรได้เวลาที่จะต้องออกไป
อัสนีทองคำเหล่านั้นแม้จะทรงพลัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัว อีกอย่างเขายังมีวิชาหมอกเมฆาม่วงที่สามารถทะลวงฝ่าออกจากที่นี่ได้
หนิงฝานเร่งทะยานออกห่างนาง หมอกเมฆาม่วงปกคลุมกาย ทะลวงผ่านม่านอัสนีแล้วมุ่งออกจากต้นไผ่ยักษ์อย่างรวดเร็ว
พลังแห่งชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวทำลายทุกสิ่ง อัสนีทองคำสลายภายในพริบตาที่สัมผัส ต้นไผ่ยักษ์ถูกทะลวงจนเป็นรู
นางตกตะลึง ฝุ่นทรายสีม่วงให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ทั้งยังให้ความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัว นางคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมีวิชาที่ทำให้หนีไปได้ในพริบตาเช่นนี้
นางไม่ได้สนใจที่ใบไผ่อัสนีทองคำจำนวนหนึ่งจะถูกขโมย แต่นางกลัวว่าจะหาตัวหนิงฝานไม่พบ และนั่นอาจทำให้นางพลาดโอกาสที่จะได้ใบไผ่อัสนีทองคำดำ!
หากจะรั้งให้หนิงฝานอยู่ นางต้องหาอะไรข่มขู่เขา!
นางรู้ว่าหนิงฝานไม่อยากยั่วยุตระกูลซัว จึงแอบเข้ามาในนี้เงียบๆ การที่เขายอมเสี่ยงถึงขนาดนี้แสดงว่าต้องมีเรื่องจำเป็นอย่างที่สุดที่ต้องใช้ใบ่ไผ่อัสนีทองคำ และะเรื่องนั้นก็กลายเป็นจุดอ่อนที่นางจะใช้เล่นงานหนิงฝาน!
“ถ้าเจ้าไม่หยุดหนี ข้าจะทำลายใบไผ่อัสนีพวกนี้ให้หมด ข้าสลักบางสิ่งลงไปในใบไผ่ทุกใบแล้ว แค่ข้ากระตุ้นสัมผัสเทพ พวกมันก็จะถูกทำลาย… เผยตัวออกมาซะ!”
“ว่าไงนะ!” หนิงฝานตกตะลึง เขาเร่งกระตุ้นเนตรฟู่ลี่ดูใบไผ่ที่เก็บมาได้ และเขาก็เห็นสัญลักษณ์บางอย่างที่สลักไว้ด้วยสัมผัสเทพอยู่จริง
ที่สำคัญ ใบไผ่เงินที่อยู่ภายนอกก็ถูกสลักด้วยอักษรในลักษณะเดียวกัน… นางไม่ได้โกหก
ชั่วพริบตาถัดมา นางกระตุ้นสัมผัสเทพ ใบไผ่ในมือหนิงฝานสั่นไหวก่อนสลายเป็นธุลี!
แม้ใบไผ่เหล่านี้จะสำคัญกับนาง แต่หากให้ทำลายใบไผ่ร้อยใบที่หนิงฝานเอาไป นางย่อมไม่เสียดาย
หากหนิงฝานไม่ปรากฏตัว นางจะทำลายใบไผ่ของเขาทั้งหมด สั่งสอนให้เขารู้ว่าไม่อาจช่วยเหลือใครได้
หากหนิงฝานเลือกที่จะหนี เขาจะไม่สามารถช่วยหลิงคงได้!
“ไปกันเถอะ นางไม่ธรรมดา นางกำลังพยายามควบคุมเจ้า...”
หลิงคงขมวดคิ้วพลางกล่าวด้วยสัมผัสเทพ หากเทียบกับอาการบาดเจ็บของตนแล้ว นางไม่อยากให้หนิงฝานถูกสตรีนางนั้นควบคุมมากกว่า เพราะนางรู้ว่าสตรีนางนั้นต้องการตัวหนิงฝานมาก
“ถ้าหนี...แล้วเจ้าหล่ะ?” หนิงฝานขมวดคิ้ว แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่หนี เขาลงพื้น ถอดผ้าคลุมออก และนำทาสไร้ดัดแปลง 3 ตนออกมา
“เจ้าชนะแล้ว” หนิงฝานกล่าวด้วยสีหน้าสงบ เขาไม่อยากยั่วยุสตรีนางนี้เพราะเป็นกลัวว่านางจะทำลายใบไผ่อัสนีทั้งหมด
“ทาสไร้ดัดแปลง 3 ตน! สร้างขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญโลกอสูร แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่สมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครในโลกพิรุณที่ต่อต้านเจ้าได้” นางจ้องมองทาสทั้ง 3 ด้วยสายตาเย็นชาและพยักหน้าเล็กน้อย
นางหันมองหลิงคงและศพนางสวรรค์ นางสังเกตุเห็นว่าดวงจิตของหลิงคงมีรอยร้าว นี่คงเป็นเหตุผลให้หนิงฝานเข้ามาเอาใบไผ่อัสนีทองคำที่นี่
แต่เมื่อจ้องมองศพนางสวรรค์ นางกลับตกตะลึง นางรู้สึกคุ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูก แต่นางเพิ่งจะลบความทรงจำตนเองไปเมื่อครู่ จึงจำไม่ได้ว่าศพนางสวรรค์เป็นใคร
สุดท้ายนางก็จ้องมองหนิงฝาน
“ขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง… ยังไม่บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงด้วยซ้ำ!” นางนึกไม่ออกว่าหนิงฝานหลบพ้นสัมผัสเทพของนางได้ยังไง เดิมทีนางคิดว่าอีกฝ่ายอย่างน้อยก็อยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงสุด
“ที่ข้ามาก็เพราะต้องใบไผ่อัสนีทองคำเท่านั้น… เจ้ามีอะไรก็พูดมา” หนิงฝานขมวดคิ้ว เขารู้ว่านางต้องการบางอย่างถึงได้พยายามรั้งเขาไว้
แต่หากนางไม่ได้คิดจะให้ใบไผ่กับเขา เขาจะใช้พลังจากอนุสรณ์ตะวันจันทราสังหารนางทันที เพราะไม่ว่ายังไง การรักษาหลิงคงย่อมสำคัญที่สุด
เดิมทีหนิงฝานไม่ได้คิดอยากสังหารนาง หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะจับนานงแล้วถามว่าเกี่ยวพันธ์กับหนิงหงหงยังไง
หลิงคงขบริมฝีปากแน่น นางพยายามรบเร้าให้หนิงฝานหนี นางไม่อยากให้หนิงฝานต้องตกอยู่ใต้อาณัติคนอื่นเพื่อนาง
เมื่อยามที่อยู่วังดารา หนิงฝานาก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากของให้พ่อตาของม่านฉานมอบบุบผาดอกหนึ่งให้
และวันนี้หนิงฝานก็ต้องยอมอยู่ใต้อาณัติคนอื่นอีกครั้งเพื่อช่วยหลิงคง!
นางไม่พอใจและเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุให้หนิงฝานต้องทำแบบนี้
หากเทียบกับก้มหัว สู้ลงดาบสังหารแล้วชิงมายังจะดีซะกว่า
“ไม่เป็นไร” หนิงฝานปลอบประโลมหลิงคงและจ้องมองสตรีนางนั้นด้วยสายตาเย็นชา
เขาไม่ได้ตั้งใจจะขอร้องนาง แต่ตั้งใจจะข่มขู่นาง
“ข้ามีนามว่าซัวหมิง… ส่วนนางเยว่เอ๋อร์ พวกข้าเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของทะเลส่วนใน มีคุณสมบัติได้ครอบครองใบไผ่อัสนีทองคำ แต่เมื่อพวกข้ามาขอดีๆกลับถูกขับไล่ จึงเข้ามาที่นี่โดยพละการ… หากเจ้าขวางข้า ข้าจะทำให้เจ้าต้องเสียใจ” หนิงฝานพร้อมจะลงมือตลอดเวลา
แม้นางจะคิดควบคุมเขา แต่เขาไม่กลัว
“เจ้ากล้าขู่ข้าเหรอ?” นางขมวดคิ้ว แววตาเย็นชา
นางไม่เคยถูกใครข่มขู่มาก่อน หนิงฝานเป็นคนแรก… นับเป็นเรื่องที่น่าขันที่สุดที่นางเคยเจอมา
สำหรับนางแล้ว การถูกข่มขู่ก็เหมือนการถูกตบหน้า ผู้ใดก็ตามที่ทำกับนางเช่นนั้น นางจะใช้อัสนีสังหารมันทันที แต่นางกลับสังหารหนิงฝานไม่ลง
แม้จะลบความทรงจำในส่วนของหนิงหงหงไปแล้ว แต่นางยังรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าเคยเจอหนิงฝานที่ไหนมาก่อน แต่น่าเสียดายที่นางนึกไม่ออก เพราะนางปฏิเสธความทรงจำเหล่านั้น
“ผู้ที่แข็งแกร่งอันดับต้นๆ...”
“เอาเถอะ... ยังไงซะก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยชาญของทะเลส่วนในเหมือนกัน ข้าจะละเว้นเรื่องที่เจ้าขโมยใบไผ่อัสนีทองคำให้ แต่ข้ามีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง! ถ้าเจ้ารับปาก ใบไผ่อัสนีทองคำทั้งหมดจะเป็นของเจ้า หรือกระทั่งใบไผ่อัสนีทองคำดำที่ล้ำค่ายิ่งกว่า ข้าก็จะมอบให้”
“เงื่อนไขอะไร?” หากแลกเปลี่ยนกับการที่ได้ใบไผ่อัสนีทองคำ หนิงฝานก็จะทำ
เห็นแก่ที่นางคล้ายหนิงหงหง ซึ่งนางอาจจะเกี่ยวพันกับหนิงหงหงจริง หนิงฝานจะยังไม่สังหารนาง อีกอย่าง หากเขาใจร้อนจู่โจมนาง คงเลี่ยงการต่อสู้กับตระกูลซัวไม่ได้
กษัตริย์อัสนีปู้ซัวยังไม่ตาย หากทำร้ายนางคงทำให้ถูกตระกูลซัวตามล่า นั่นหมายความว่าสิ่งที่ได้ย่อมไม่คุ้มเสีย
ปู้ซัวทำให้กษัตริย์พิรุณหวั่นเกรง ปู้ซัวต่อสู้กับสามกษัตริย์กระบี่แห่งโลกกระบี่เพียงลำพัง
“วางใจเถอะ ข้าแค่อยากให้เจ้าช่วยเอาบางอย่างมาให้… ข้าต้องการใบไผ่อัสนีทองคำดำ ถึงมันล้ำค่าแต่ก็ยากจะชิงมา ตัวข้าตอนนี้ไม่อยากเสี่ยงชิงมันมา”
“ทำไมเจ้าไม่ขอให้คนของตระกูลซัวนำมาให้… ทำไมต้องใช้ข้า...” หนิงฝานไม่เข้าใจ
“ที่จริงแล้วสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างพิเศษ… ถ้าหากไม่มีวิชาอำพรางที่ทรงพลังมากพบ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงก็จะถูกสังหารทันที… ถ้าเจ้าช่วยข้าได้ นอกจากข้าจะไม่ตำหนิที่เจ้าขโมยใบไผ่ แต่เจ้ายังจะได้รับความดีความชอบ ข้าสามารถสั่งให้ตระกูลซัวเป็นผู้หนุนหลังเจ้าได้”
“เป็นผู้หนุนหลัง? เจ้าเป็นใคร ทำไมตระกูลซัวถึงต้องเชื่อฟังเจ้า?” หนิงฝานพอจะเข้าใจว่านางคือคนที่สำคัญต่อตระกูลซัวมาก
การที่นางจะสั่งการตระกูลซัวได้ อย่างน้อยๆนางต้องมีความเกี่ยวพันธ์กับกษัตริย์อัสนีปู้ซัว
หากเขาได้ตระกูลซัวหนุนหลัง ในทะเลไร้สิ้นสุดแห่งนี้ก็ไม่มีใครกล้ายั่วยุเขาอีก
หากทำตามคำขอของนางได้ อย่าว่าแต่ทะเลไร้สิ้นสุดที่ไม่กล้ายั่วยุ บางทีเขาอาจขอให้กษัตริย์อัสนีปู้ซัวจัดการกับหานเนี่ยเทียนก็ได้!
แม้หยุนเทียนเฉวจะเอาชนะกษัตร์ย์กระบี่ได้ แต่ยังไม่ทรงพลังเท่าหานเนี่ยเทียน
แต่กษัตริย์อัสนีปู้ซัวที่ต่อสู้กับสามกษัตริย์กระบี่โดยที่ยังไม่ตาย อย่างน้อยๆก็น่าจะรับมือหานเนี่ยเทียนได้
สงครามที่จะเกิดขึ้นในลานสวรรค์โบราณ หนิงฝานต้องการผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกช่วย หากมีโอกาส เขาก็อยากสร้างความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเอาไว้
แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิด เพราะปู้ซัวตายไปแล้ว เหลือเพียงดวงจิตที่อยู่ในสุสานอัสนี แต่ต่อให้มันฟื้นคืนกลับมาได้ ก็ใช่ว่ามันจะยอมช่วยผู้เยาว์อย่างหนิงฝาน
หากจะให้ปู้ซัวช่วย การสร้างบุญคุณให้กับตระกูลซัวอาจยังไม่พอ
คำขอของสตรีเบื้องหน้าคือให้ช่วยเก็บใบไผ่อัสนีดำมาให้ แม้สิ่งที่นางกล่าวจะฟังดูอันตราย แต่หนิงฝานก็พร้อมรับ แค่นี้ทำได้เพื่อหลิงคง
“ข้ารับปากว่าจะช่วยเจ้า แต่ก่อนอื่น เจ้าต้องบอกสิ่งที่รู้มาก่อน อย่างเช่นวิธีเก็บหรืออันตรายที่อาจจะพบ แล้วที่สำคัญ… เจ้าต้องบอกข้าว่าเจ้าเป็นใคร!”
“ข้าเป็นใครมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า?” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาแค่อยากรู้ว่านางเป็นอะไรกับหนิงหงหง
“ก็ได้… ถ้าอยากจะรู้นัก ข้าบอกให้ก็ได้… ข้าคือบุตรสาวของกษัตริย์อัสนีปู้ซัว นาม ‘หงยี่’ พอใจหรือยัง?”
“บุตรสาวของกษัตริย์อัสนีปู้ซัว! แม่นางหงยี่ ข้าขอถามว่าเจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับสตรีที่ชื่อว่า หนิงหงหง หรือเปล่า?”
“ข้าไม่รู้จัก” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา นางเพิ่งลบความทรงจำของตัวเองไป จึงไม่รู้ว่าหนิงหงหงเป็นใคร
แต่ต่อให้นางรู้จักแล้วจะทำไม? หนิงหงหงก็แค่เศษเสี้ยวของจิตวิญญาณของนางเท่านั้น… หรือหนิงหงหงจะเกี่ยวข้องกับหนิงฝาน... เป็นไปไม่ได้ ด้วยสถานะของนางในอดีต นางไม่มีทางได้ข้องแวะกับบุรุษ...