บทที่ 115 เจียงเปี๋ยหลี
ณ อาณาจักรเสินหวู่ เมืองอันดับหนึ่งทางตะวันตก เมืองเจียงอี
รองแม่ทัพเจียงหวยใช้ชีวิตที่ค่อนข้างดี ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสิบของอันดับรองแม่ทัพกองทัพทหารตะวันตกและยังเป็นทายาทของตระกูลเจียง เขามีฐานะอันทรงเกียรติ
นับตั้งแต่เขาสร้างความสัมพันธ์กับเจียงนี่หลิว สถานะของเขาตอนนี้ก็สูงขึ้นไปอีก
เมื่อตอนที่อยู่เมืองเทียนอวี่ เจียงหยุนไฮ่ให้ตำลึงทองแก่เขาห้าแสนตำลึง เขาเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่ค่อนข้างสบาย และเมื่อเร็วๆนี้เขากลับไปที่เมืองเจียงอี เขาได้โสเภณีที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองมาบำเรอเขาและอยู่ในฐานะนางสนมของเขา ในระยะเวลาสั้นๆเขาได้ใช้ชีวิตราวกับอยู่บนสวรรค์จนกระทั่งวันนี้
"มีรายงานขอรับ!"
เสียงที่ต้องการที่จะรายงานดังมาจากข้างนอกทำให้เจียงหวยผู้กำลังดื่มชาในห้องของนางสนมของเขาลุกขึ้น เขาดึงมือออกจากเสื้อคลุมสาวงามแล้วตบไหล่ของนางก่อนที่จะออกไปข้างนอก
ทหารคุกเข่าข้างหน้าประตูขณะยกมือที่ซึ่งถือสารลับไว้ เจียงหวยหยิบมันมาด้วยมือข้างเดียวแล้วก็เหลียวมอง อารมณ์อันน่ารื่นรมย์ของเขาร่วงลงสู่เบื้องล่างทันที
สารลับนี้มาจากหน่วยสอดแนมที่แฝงอยู่ในอาณาจักรโดยคนของกองทัพทหารตะวันตก มันระบุเรื่องของคืนที่เจียงหยุนไฮ่จู่โจมจ่างซุนอู๋จี้
จ่างซุนอู๋จี้เกือบถูกฆ่าตายและหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวของตระกูลจ่างซุนก็ตายเช่นกัน ความโกลาหลครั้งใหญ่เช่นนี้ไม่สามารถถูกเก็บไว้เป็นความลับได้อีกต่อไป นอกจากนี้ เรื่องของเจียงหยุนไฮ่ที่ถูกไล่ล่าโดยตระกูลจ่างซุนก็ถูกพบเจอโดยหน่วยลาดตระเวนของกองทัพทหารตะวันตก
“ทำไมเจียงหยุนไฮ่ต้องการลอบสังหารจ่างซุนอู๋จี้? เขาไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว?”
เจียงหวยบ่นด้วยความสงสัยและนัยน์ตาของเขาก็มีแสงวาบ จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “ไปค้นรายชื่อศิษย์ของสำนักจิตอสูรที่เข้าไปในปีนี้เดี๋ยวนี้!”
ทหารผู้นั้นก้าวออกไปอย่างรวดเร็วและกลับมาอีกครั้งพร้อมสารลับในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา เจียงหวยเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาซีดเซียวทันทีที่เขาเห็นชื่อ 'เจียงอี้!'
จิตใจของเขาหมุนไปมาไวมากและสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างซีดเผือก แม้ร่างกายของเขาเริ่มสั่น เขาก็ตะโกนอีกครั้ง “ทหารองครักษ์เกราะเหล็กโลหิตที่ฝ่าบาทต้องการหกร้อยนายอยู่ที่ไหน?”
ทหารผู้นั้นพึมพำกับตัวเองสักครู่ก่อนที่จะตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ทหารองครักษ์เกราะเหล็กโลหิตหกร้อยนายได้เข้าไปในสุสานของราชันแห่งสวรรค์ขอรับ!”
“ข้าทำมันลงไปแล้ว!”
เจียงหวยกลืนน้ำลายของเขา เขายกคอเสื้อของทหารขึ้นมาและคำราม “ท่านจอมพลอยู่ที่ไหน?! เขากลับมาหรือยัง?”
“ข้าไม่ทราบขอรับ!” ใบหน้าของทหารผู้นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมรองแม่ทัพจึงโกรธแค้นมากเช่นนี้
“ปัง!”
เจียงหวยโยนทหารออกไปขณะที่เขาเดินไปรอบๆตำหนักของเขา เขารู้สึกหงุดหงิดมาก เขาอาจไม่ทราบถึงตัวตนของเจียงอี้ แต่คงไม่เกินไปจากการเดาของเขามากนัก เจียงหยุนไฮ่ขอร้องเขาไม่ให้ถามหรือเซ้าซี้ใดๆ นอกจากนี้เขายังรู้ว่าเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวของจอมพลและได้ลืมเรื่องนี้ไปอย่างรวดเร็วหลังจากเขากลับไปที่เมืองเจียงอี
เมื่อเร็วๆนี้ เจียงนี่หลิวสั่งให้เขานำทหารองครักษ์เกราะเหล็กโลหิตสามร้อยคนตามเจียงนี่หลิวไป เขาไม่ได้พิจารณาใดๆหลังจากที่รู้ว่าเจียงนี่หลิวอยากไปเล่นสนุกภายในสุสานของราชันแห่งสวรรค์
เขายังเป็นชายหนุ่ม…และชายหนุ่มมักชอบไปผจญภัยและค้นหาขุมทรัพย์ เขาอาจจะขัดกับคำสั่งที่นำทหารออกไปโดยไม่ได้รับการอนุมัติ แต่เจียงหวยไม่ได้กลัว แม้ว่าจอมพลแห่งกองทัพทหารตะวันตกจะรู้เรื่องนี้ อย่างมากเขาก็คงแค่ถูกตำหนิ
เมื่อเจียงนี่หลิวส่งคำสั่งให้นำทหารองครักษ์เกราะเหล็กโลหิตไปเพิ่มอีกสามร้อยคน เจียงหวยก็รู้สึกงุนงง เพราะทหารองครักษ์เกราะเหล็กโลหิตสามร้อยคนก็น่าจะเพียงพอที่จะรับประกันความปลอดภัยของเจียงนี่หลิวได้ แต่เขาไม่กล้าขัดคำสั่งของนี่หลิว
สงครามระหว่างองค์ชายทั้งสองเป็นสิ่งที่เจียงหวยไม่ต้องการเข้าไปยุ่ง อีกนัยน์หนึ่งคือเขาไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่ง! เขาเพิ่งยกทหารองครักษ์เกราะเหล็กโลหิตหกร้อยคนให้กับเจียงนี่หลิว ถ้าเจียงอี้เสียชีวิตและจอมพลกองทัพทหารตะวันตกรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หัวของเขาคงจะกลิ้งไปอยู่บนพื้นอย่างแน่นอน
"ฟึ่บบ!"
ในขณะนั้น เสียงลมที่ถูกแหวกแหลมดังมาจากท้องฟ้าทางทิศเหนือ รถม้าสีทองขนาดใหญ่ตรงมาจากฟากฟ้าในขณะที่ทหารและประชาชนนับไม่ถ้วนต่างคุกเข่าลงและตะโกนทันทีว่า "คารวะท่านจอมพล!"
“จอมพลกลับมาแล้ว?”
ร่างกายของเจียงหวยสั่นไหว ดวงตาของเขาสั่นไหวหลายรอบก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่นิ่งเฉย ร่างของเขาพุ่งออกมาจากคฤหาสน์ยักษ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
"คารวะท่านรองแม่ทัพ!"
เจียงหวยมาถึงตำหนักของจอมพลในไม่ช้า ทหารยามจากกองทัพทหารตะวันตกรีบคุกเข่าเมื่อพวกเขาเห็นเขา เจียงหวยไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวในขณะที่เขาวิ่งผ่านพวกนั้นไปและเห็นว่ารถม้ายักษ์เพิ่งจะลงจอด
"ทุกคน ออกไปก่อน!"
มีหลายคนที่กำลังเตรียมรับจอมพลที่หน้าตำหนัก แต่เจียงหวยระเบิดเสียงตะโกนและคุกเข่าต่อหน้าชายผู้แข็งแกร่ง"เจียงหวยคารวะท่านจอมพล ข้าน้อยมีบางสิ่งที่จะต้องรายงานให้ท่านทราบ"
ใบหน้าของเจียงเปี๋ยหลีนั้นไร้ที่ติ เขาสวมเสื้อคลุมสีม่วงบนไหล่ที่กว้างและเอวที่แคบ ดวงตาที่เหมือนเสือของเขาไม่มีนัยยะทางอารมณ์ใดๆ เขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนใดๆออกมา แต่เจียงหวยรู้สึกถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นที่ปกคลุมไปทั่วและทำให้เขาหายใจไม่ออก
เจียงเปี๋ยหลีแสดงท่าทางมือขอให้ทหารทุกคนออกไปก่อน จากนั้นเขาก็มองที่เจียงหวยอย่างเฉยเมยและถามว่า “มีอะไร?”
“ข้าน้อยผู้นี้สมควรตาย!”
เจียงหวยก้มหัวลงต่ำและพูดด้วยเสียงที่ลดลง “ฝ่าบาททรงสั่งให้หม่อมฉันนำทหารองครักษ์เกราะเหล็กโลหิตหกร้อยนายไปยังสุสานของราชันสวรรค์เมื่อเร็วๆนี้ ข้าน้อยผู้โง่เขลาคนนี้ไม่กล้าต่อต้านพระประสงค์ของพระองค์ ข้าน้อยเพิ่งได้รับรายงานเมื่อเช้านี้ว่าเขาสั่งให้ทหารองครักษ์เกราะเหล็กโลหิตเหล่านั้นฆ่าศิษย์คนหนึ่งของสำนักจิตอสูรนามว่าเจียงอี้!”
เจียงเปี๋ยหลีขมวดคิ้วและพูดอย่างงงงวยว่า “ใครคือเจียงอี้? ทำไมนี่เอ๋อร์ถึงต้องการให้เขาตาย?”
เจียงหวยเงยหน้าขึ้นมองเจียงเปี๋ยหลี เขากัดฟันและตอบว่า “ข้าน้อยผู้นี้ไม่ทราบรายละเอียดที่แน่นอนเช่นกันขอรับ แต่ข้าน้อยพบว่ามีคนเรียกเจียงอี้ว่าใต้เท้าน้อย ซึ่งคนผู้นั้นคือเจียงหยุนไฮ่ขอรับ!”
“เจียงหยุนไฮ่?”
ดวงตาของเจียงเปี๋ยหลีจู่ๆก็เผยกลิ่นอายเยือกเย็น กลิ่นอายที่บ้าคลั่งถูกปล่อยออกมาจากร่างของเขาซึ่งปกคลุมไปทั่วตำหนักของจอมพลทันที ผู้คนนับไม่ถ้วนรู้สึกเหมือนว่าท้องฟ้ากำลังจะล่มสลายและเจียงหวยผู้ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าของเจียงเปี๋ยหลีก็หมอบอยู่ภายใต้ความกดดันนี้
“ใต้เท้าน้อย?”
เจียงเปี๋ยหลีพึมพำครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตะโกน “เจียงเหรินถู!”
“ฟึ่บ!”
เงาดำปรากฏขึ้นทันทีจากมุมห้อง ร่างของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเยือกเย็น เขาม้วนกำปั้นของเขาและตอบเสียงดังว่า “ขอรับท่านจอมพล!”
เจียงเปี๋ยหลีตะโกน “จงไปตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับเจียงหยุนไฮ่และเจียงอี้ภายในหนึ่งชั่วโมง ข้าอยากรู้…ตัวตนที่แท้จริงของเจียงอี้!”
“ฟึ่บ!”
เจียงเหรินถูไม่ตอบแม้แต่คำเดียว แต่ร่างกายของเขาหายเข้าไปในความมืด เจียงเปี๋ยหลียับยั้งพลังของเขาในขณะที่เขามองไปที่ท้องฟ้าด้านนอกตำหนักและไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เจียงหวยยังคงคุกเข่าอยู่ที่ตำหนักและไม่กล้าขยับแม้แต่นิ้วเดียว
หนึ่งชั่วโมงต่อมา!
เจียงเหรินถูกลับมาและเขาก็แสดงความเสียใจขณะที่รายงานว่า “ท่านจอมพล จากข้อมูลที่ได้มา เจียงหยุนไฮ่ได้ออกจากตำหนักของท่านจอมพลไปพร้อมกับแม่นางอี สามปีต่อมาเจียงหยุนไฮ่รับเด็กสองคนมาอยู่ที่เมืองเทียนอวี่ หนึ่งในเด็กคนคือเจียงอี้ หากเจียงหยุนไฮ่เรียกเจียงอี้ว่าใต้เท้าน้อยจริงๆ ดังนั้น…เขาอาจเป็นลูกของท่านและแม่นางอีขอรับ”
"บูมมม!"
เจียงเปี๋ยหลียกมือขึ้นแล้วกระแทกฝ่ามือไปที่เจียงหวย พลังที่ไร้ขอบเขตถูกฟาดไปที่เจียงหวยและทำให้เขากระเด็นไปกว่าห้าสิบเมตร เขาสลบอยู่ที่พื้นและไม่มีใครรู้ว่าเขาตายหรือยังมีชีวิตอยู่
เจียงเปี๋ยหลีไม่ได้มองที่เจียงหวยเลยแม้แต่น้อย เขาหันหัวของเขาไปหาเจียงเหรินถูและตะโกนว่า “จงนำองค์รักษ์พิฆาตหมื่นคนไปยังสุสานแห่งราชันสวรรค์ทันที หากเจียงอี้ยังไม่ตาย ให้พาเขากลับมา ถ้าหากเขาตายแล้ว นำศพของเขากลับมา! นอกจากนี้ ... หักขาทั้งสองข้างของเจียงนี่หลิวแล้วพาเขาไปหาแม่ของเขา บอกให้นางฝึกฝนลูกชายของตัวเองซะ ถ้าหากไม่มีวิธีสั่งสอนความเป็นคนให้เขาแล้ว บอกให้ทั้งแม่ทั้งลูกพากันออกจากเมืองไปซะ!”