ตอนที่ 85 รอยประทับฝ่ามือคุนหลุน
“ฝ่ามือคุนหลุนคือวชายุทธ์โบราณจากยุคโลกโบราณ ต้นกำเนิดมันไม่ชัดเจนแต่ตามชื่อมัน มันควรเป็นสุดยอดวิชาจากเขาคุนหลุนแห่งจีนโบราณ มีบันทึกวิชาไว้ทั้งหมด12เส้นทาง วิชาฝ่ามือ ดัชนี ตะปบ แส้ ดาบ ค้อนและทุกกระบวนท่าที่ทรงพลังล้วนมาจากอาวุธ รวมถึงวิธีเชื่อมผสานพวกมัน ช่วยให้ผู้ใช้ฝึกการผันแปรนับไม่ถ้วน มันดูเหมือนว่าวิชานี้จะเต็มไปด้วยแก่นแท้ของวิชาทั้งหมดภายใต้สวรรค์ ไม่ว่าวิชายุทธ์นี้จะคืออะไร พวกมันก็ต้องเป็นของ1ใน12วิชา ฝ่ามือคุนหลุนนี้ประกอบไปด้วยทุกสิ่งและสามารถโต้ตอบได้ทุกท่า..”
ในภาพ เงาร่างชายร่างโตกำลังออกกระบวนท่าดุดันดั่งเสือ แสดงท่าทางของวิชาโบราณนี้ขณะแสดงให้เห็นถึงสูตรดั้งเดิมของเส้นทางแต่ละเส้น
เฟิงหลินเพ่งสมาธิและพบว่านี่คือวิชายุทธ์โบราณที่สืบทอดมาจากยุคโลกโบราณถึงตอนนี้ มันไม่เหมือนกับที่เขาคิดก่อนหน้า วิชานี้ไม่ใช่วิชายุทธ์ยีน!
พลังของศิลปะการต่อสู้โบราณธรรมดานี้สามารถลึกซึ้งได้ถึงเพียงนั้น มันสามารถร่วมแก่นแท้ของวิชาทุกประเภทในโลกไว้ได้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเติบโต
เขารู้ว่ามันคือของจริง เมื่อเขาแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับชายชุดยาว เทคนิคของชายชุดยาวก็เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง นี่คือศิลปะการต่อสู้โบราณที่ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งนี้ทำให้เฟิงหลินสะดุ้ง ในบรรดากระบวนท่าของฝ่ามือคุนหลุนนี้ มีบางอันที่ฟังดูลึกซึ้งมากอย่าง’แส้กระหน่ำเทพ’ ‘ค้อนพลิกฟ้า’ ‘กระจกหยินหยาง’
ชื่อทั้งหมดเหล่านี้ทำให้เขาเพ้อฝัน
เฟิงหลินเริ่มดำดิ่ง เมื่ออ่านและไตร่ตรอง เขาก็พบว่าวิชานี้อัศจรรย์ยิ่ง แม้จะไม่มีขั้นตอนหรือทฤษฏีทางพันธุกรรมใดๆ มันก็เต็มไปด้วยตรรกะของแก่นแท้ มีรอยประทับฝ่ามือที่แตกต่างกัน12แบบ และแต่ละแบบก็เต็มไปด้วยตรรกะไร้สิ้นสุด รอยประทับแส้ช่วยให้การโจมตีเขาเร็วและดุดันขึ้น รอยประทับค้อนช่วยให้การโจมตีเขารุนแรงขึ้น รอยประทับกระจกช่วยให้หยินและหยางอยู่ร่วมกันและเติมเต็มกัน...
แม้มันจะไม่มีเกรดในการจัดประเภท มันก็ย่อมไม่ใช่วิชาธรรมดา เทคนิคเหล่านี้ได้รับการขัดเกลาครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดหลายล้านปี พลังที่พวกมันสามารถปลดปล่อยได้ไม่ได้ด้อยไปกว่าวิชายีน ในความเป็นจริง มันอาจเหนือซะยิ่งกว่า
มันแค่ว่าเคล็ดวิชาโบราณนี้ไม่อาจรวมความสามารถพิเศษของยีนในตำนานเข้าได้
เขากำลังอ่านเนื้อหาอย่างจริงจังขณะยังกุมสเนคบอยไว้ด้วยมือเดียว อีกมือเริ่มขยับโดยไม่รู้ตัว ไล่ตามการเคลื่อนไหวในภาพ พยายามเข้าใจแก่นสำคัญของวิชาในหนึ่งประทับฝ่ามือ
ทันใดนั้น เงาดำก็พุ่งผ่านตรงหน้าเขา
ความสงบสุขบังเกิดในหัวใจของเฟิงหลิน เขาเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ”ประทับแส้กระหน่ำเทพ’ที่เขาเพิ่งเข้าใจ แขนเขาตวัดออกไปเหมือนแส้ ทั้งดุดันและเร็ว บังคับให้คนที่วิ่งเข้าหาเขาต้องถอยไป ชายชุดยาวหยุดหลังถูกซัดกระเด็นไปกว่าสิบก้าว
“อะไรกัน?เธอสามารถเรียนประทับแส้กระหน่ำเทพได้เร็วขนาดนั้นเลย?!”ฝ่ามือของชายชุดยาวสั่นสะท้าน พลังก่อนหน้ารุนแรงจนเขารู้สึกเหมือนกระดูกแขนกำลังจะแตก เขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“แกคิดทำอะไร?”ดวงตาของเฟิงหลินเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาจับมือแน่น ทำให้สเนคบอยหยุดหายใจ
ชายชุดยาวรีบหยุด เขาระบุว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย ชี้ไปยังสเนคบอยและถอนหายใจ“หากเธอยังไม่ปล่อยเขา เขาคงตาย ฉันแค่อยากรีบไปช่วยเขา”
ดวงตาเขาจ้องเฟิงหลินอย่างไร้ปราณีและเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
เฟิงหลินแปลกใจ เขาเงยหน้าและตระหนักว่าเพราะเขาจดจ่อกับการเรียน เขาจึงไม่ได้สนใจกับอีกมือ คอของสเนคบอยเกือบถูกเขาขยี้จนแหลก สองตานั้นพลิกเป็นสีขาวและเกือบขาดอากาศตาย
งั้นนี่ก็น่าอึดอัด...
เฟิงหลินแสร้งทำเป็นไม่ผิดและคลายข้อมือ
สเนคบอยล้มลวกับพื้นเหมือนกองโคลน นอนนิ่ง เขาไม่อาจคงท่าทางแบบเดิมได้อีก เขาหอบหายใจหนัก มีความกลัวบนหน้า รวมถึงความยินดีที่รอดตาย น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาจระงับได้
“เจ้าหนู!”ชายชุดยาวรีบวิ่งมาตรวจสอบ เมื่อพบว่าลูกน้องเขายังไม่ตาย เขาก็ถอนหายใจโล่งอก
เมื่อจ้องสภาพน่าสังเวชของสเนคบอย สีหน้าของเฟิงหลินก็เปลี่ยนไป เขาเกือบฆ่าคน
เขาไม่ใช่คนที่ไม่รักษาสัญญา เนื่องจากเขาได้รับวิชามาแล้ว เขาย่อมไม่อยากฆ่าตัวประกัน
เมื่อได้รับวิชามา ผลประโยชน์ที่เขาได้รับก็คุ้มกับความเสี่ยง เฟิงหลินไม่โกรธอีก
แม้เขาจะฆ่าผู้บ่มเพาะฝึกหัดได้ง่ายๆ ชายชุดยาวนี้ก็เป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวแก่ประสบการณ์ มันง่ายที่จะได้เปรียบเขา แต่ก็ไม่ง่ายที่จะฆ่า
เหนือสิ่งอื่นใด เฟิงหลินเพิ่งเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวใหม่
แมกระทั่งกระต่ายโกรธก็ยังกัดคน!นับประสาอะไรกับผู้บ่มเพาะดวงดาว
เฟิงหลินแค่มนุษย์คนหนึ่ง เขาไม่จำเป็นต้องก่อความเสียหายให้กองทัพปฏิวัติดาวอังคารเพื่อบริษัทยา มันไม่คุ้มเลย
แต่หากกองทัพปฏิวัติไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดีและยังพยายามล่าเขา เขาย่อมไม่แสดงความเมตตา
“ฉันปล่อยตัวประกันแล้ว และจะปล่อยพวกแกสองคนไป อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไม่งั้นพวกแกจะไม่โชคดีแบบนี้อีก!”เฟิงหลินเตือน จากนั้นก็หมุนตัวออกไป เขาไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร
องค์กรใต้ดินประเภทนี้มักเป็นปัญหา เฟิงหลินไม่เต็มใจคบหาสมาคม
เฟิงหลินปล่อยสเนคบอยไปจริงๆ!
ชายชุดยาวสับสน นี่คือฆาตกรเลือดเย็นจากบริษัทยาจริงๆงั้นหรอ?
เขาจ้องเฟิงหลินด้วยดวงตาเบิกบาน ทันใดนั้น ร่างเขาก็หายวูบและปรากฏตรงหน้าเฟิงหลิน ขวางทางเขาไว้“รอก่อน!”
สีหน้าเฟิงหลินดำมืด“ต้องการอะไร?ฉันไว้ชีวิตแกและศิษย์แกแล้ว นั่นยังไม่พอใจ?”
“ท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ชายชุดยาวรีบสุภาพ“ผมมีเรื่องอยากคุยกับท่าน”
“จะมีเรื่องอะไรที่เราสามารถคุยกันได้?”เฟิงหลินกล่าว
นี่คือการปฏิเสธอย่างชัดเจน แต่ชายชุดยาวกลับไม่โกรธ ในความเป็นจริง เขากลับยิ้ม“หากผมเดาไม่ผิด ท่านควรเป็นเฟิงหลิน พนักงานใหม่ของบริษัทยาสินะ?”
“แกรู้ชื่อฉันได้ยังไง?”สายตาของเฟิงหลินเปลี่ยนไป หากชายคนนี้ไม่ให้คำอธิบายที่สมเหตุ เขาจะลงมือทันทีท
ชื่อเขาเป็นที่รู้จัก?นี่อันตรายเกินไป
สีหน้าของชายชุดยาวกลับเป็นดดั่งเดิม เขารู้สึกว่าได้เป็นผู้ริเริ่มอีก เขายิ้มและกล่าว“ผมไม่ได้รู้แค่ชื่อ แต่ยังรู้ตัวตนและต้นกำเนิด ท่านมาจากตระกูลเล็กๆบนโลก ท่านถูกขับไล่โดยตระกูลและไม่เต็มใจยอมรับชะตากรรม ดังนั้น ท่านจึงมาสัมภาษณ์และสามารถเข้ากับบริษัทยาได้..”
ชายชุดยาวรีบเล่าอย่างใจเย็น
ความคิดของเฟิงหลินหมุน“ฉันไม่เคยเจอกับใครบนดาวอังคารมาก่อน ใครกันที่รู้ต้นกำเนิดฉัน?”
เขาเห็นไมโครชิปของชายชุดยาวกำลังกระพริบ ชายชุดยาวดูเหมือนกำลังอ่านข้อมูลจากมัน
เฟิงหลินพลันเข้าใจ“พวกแกมีสายในบริษัทยาสินะ?”
ชายชุดยาวหัวเราะ ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ
เฟิงหลินเงียบ เขามาจากโลก และพวกเดียวที่เขาติดต่อด้วยก็คือบริษัทยา มีเพียงบริษัทถึงมีข้อมูลเกี่ยวกับเขา
เนื่องจากชายชุดยาวที่มาจากกองทัพปฏิวัติดาวอังคารยังรู้จักเขา สิ่งเดียวที่สมเหตุสมผลก็คืออีกฝ่ายมีสายในบริษัทยา
เมื่อรู้เหตุผลของการรั่วไหล เฟิงหลินก็ไม่ต้องกังวลอีก
ระบบสุริยะคือเขตดาวโกลาหล และสภาพแวดล้อมก็อันรตายมาก มนุษย์ทั่วไปต้องพึ่งพาตระกูลเพื่อรับการปกป้อง
เนื่องจากพ่อแม่เขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของตระกูลเฟิง ไม่ว่าแขนของกองทัพปฏิวัติจะยาวแค่ไหน พวกเขาก็ไม่อาจแตะต้องครอบครัวเขาได้
เฟิงหลินไม่สนใจความขัดแย้งระหว่างสององค์กร เหตุผลที่เขามาดาวอังคารก็เพื่อเรียนรู้และพัฒนาความรู้ ปูทางไปสู่การบ่มเพาะในอนาคต เขาไม่อยากมีส่วนร่วมในข้อพิพาทระหว่างชาวดาวอังคาร
แถม เฟิงหลินยังชัดเจนว่าเขาเป็นแค่ผู้บ่มเพาะดวงดาว หน้าใหม่ที่เพิ่งก้าวสู่เส้นทางบ่มเพาะ พลังเขายังห่างไกลจากการพอจะกวาดล้างทุกอย่าง
เขาไม่อยากเจอกับหายนะ
“ฉันไม่คิดเข้าร่วมเรื่องระหว่างสององค์กร อย่ามาหาฉันอีก ไม่งั้นอย่าตำหนิว่าฉันโหดร้าย!”เฟิงหลินจ้องชายคนนั้นอย่างเย็นชา เต็มไปด้วยการเตือน หลังจากนั้นก็หมุนตัวและจากไป
ความเร็วเขาสูงขึ้น สามารถเดินทางได้กว่าสิบเมตรในก้าวเดียว ในชั่วพริบตา เขาก็ไกลออกไปร้อยเมตร
ครั้งนี้ ชายชุดยาวไม่ไล่ตาม รอยยิ้ไม่เร่งรีบปรากฏบนหน้าเขาขณะพูดไล่ตาม แต่คำพูดเขาก็ทำให้เฟิงหลินชะงักเท้า
“ท่านคิดจริงๆว่าบริษัทยาไจแอนท์ก็แค่ผู้ผลิตน้ำยายีนทั่วไป?การทดลองมนุษย์เหล่านั้นที่พวกมันกำลังทำแค่การทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่?หากท่านยังอยู่ที่นั่น จุดจบของท่านจะแย่ยิ่งกว่ามนุษย์ที่ถูกนำไปทดลองนับร้อยเท่า พันเท่า!”