ตอนที่ 24 หมวกแดงไม่จำเป็นต้องเป็นหนูน้อย อาจจะหมายถึงมาริโอก็ได้
ท่าทางอีกฝ่ายจริงใจมาก เขาไม่ได้เข้ามาใกล้อีก ยืนรักษาระยะปลอดภัยอยู่ที่ 2 เมตรอย่างนั้น เหมือนเขากลัวถังโม่จะเข้าใจผิดเลยรีบเสริม “ผมหมายถึง สี่คนนั้นดูเหมือนจะฆ่ากันเอง แถมแถวนี้ก็มีเกมส่วนตัวรูปแบบที่สองอยู่ใกล้ๆ แล้วคุณก็ยืนอยู่ที่ทางเข้าเลย ผมก็เลยอยากจะถามให้แน่ว่าพวกคุณเพิ่งออกมาจากเกมส่วนลำดับที่สองใช่ไหม?” ดูเหมือนเขาจะกังวลว่าคนสามคนตรงหน้าเขาเป็นมนุษย์ หรือเป็นสัตว์ประหลาดของหอคอย
ชายร่างท้วมที่นอนหมอบอยู่บนพื้นไม่กล้าพูดอะไร
ชายชราพยักหน้า “ใช่ เราเพิ่งออกมาจากเกมจริงๆ แต่ไม่เข้าใจว่าเกมส่วนตัวลำดับที่สองของคุณหมายถึงอะไร”
“ถ้าอย่างนั้นศพทั้งสี่นั่นก็คือคนที่ตายในเกมที่คุณ…ออกมา?” เขาชี้ไปที่ร่างบนพื้น
ชายชราพยักหน้ายืนยัน “ใช่ มีแค่เราสามคนที่รอดออกมา”
อีกฝ่ายเบิกตากว้าง หยิบนกหวีดสีเงินขึ้นมาเป่า นาทีถัดมาก็มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินมาจากที่ไกลๆ พอพวกเขาเห็นศพที่อยู่บนพื้นแล้วก็ทำสีหน้าเหมือนเพื่อนตัวเองไม่มีผิด ก่อนที่เขาจะเห็นพวกถังโม่ถัดมาจากศพพวกนั้น
ฝ่ายหญิงตกตะลึง “หรือว่านั่น…”
“ใช่ พวกเขาเพิ่งออกมาจากเกมส่วนตัวลำดับที่สอง พวกเขาเคลียร์มันแล้ว”
ทั้งสามมองชายร่างท้วม ชายชราแล้วก็ถังโม่
ชายหนุ่มที่ถือนกหวีดก้าวมาข้างหน้า ถังโม่จ้องเขา มือกดที่รอยสักรูปไม้ขีดไฟเงียบๆ “ผมชื่อเนี่ยเฟย ทางนี้คือเพื่อนร่วมทีมของผม ถังเฉียวกับเยว่หยวนจื๋อ เราสามคนได้ยินว่ามีศพโผล่ออกมาแถวนี้เลยมาดูว่ามันเกี่ยวข้องกับทางเข้าเกมส่วนตัวแบบที่ส่วนตัวลำดับที่สองหรือเปล่า”
“เกมส่วนตัวลำดับที่สองนั่นหมายถึงอะไร?” ชายร่างท้วมอดถามไม่ได้
“นั่นคือโค้ดที่เราใช้เรียกเกมที่พวกคุณเพิ่งเล่นไป เราสามคนมาจากองค์กรเล็กๆ เรามีกันอยู่17คน แล้วก็รวบรวมแค่คนที่มีความสามารถในระดับหนึ่งเท่านั้น หลังจากหอคอยดำประกาศเริ่มเกมอย่างเป็นทางการ พวกเราเจอเกมส่วนตัวเจ็ดอัน อันที่พวกคุณเพิ่งเจอคืออันที่2”
ฝ่ายหญิงพยักหน้า “เกมของหอคอยดำเริ่มมาสี่วันแล้ว พวกคุณน่าจะรู้แล้วว่ามันไม่ได้มีแค่เกมโจมตีหอคอย มีเกมส่วนตัวที่คล้ายๆ เกมนี้อีกหลายอัน วิธีทริกเกอร์ของแต่ละเกมก็ต่างไป ตัวอย่างเช่นทางเข้าที่เจ็ดของเกมนี้คือร้านเล็กๆ ที่ฝั่งนั้นของถนน หยิบของอะไรก็ตามในร้านค้าจะเป็นการทริกเกอร์เกมส่วนตัวนี้”
ถังโม่เริ่มคิด
เขาไม่ได้สนใจตัวตนของสามคนนี้หรือคิดว่าอีกฝ่ายโกหกอะไร พวกเขาไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องปั้นเรื่อง สร้างองค์กรที่ไม่มีอยู่จริงขึ้นมาเลย พวกเขาเพิ่งพบกัน โดยที่ถังโม่ยังไม่ได้เปิดเผยอะไรมาก แต่อีกฝ่ายเลือกจะพูดเกี่ยวกับอะไรหลายๆ อย่างที่ถังโม่ไม่เคยได้ยิน
ในโลกทุกวันนี้ ข้อมูลมีค่ามากกว่าเงินตราใดๆ
ถ้าคิดว่าเกมส่วนตัวลำดับที่สองคือ ‘เกมโมโนโพลีของมาริโอ’ ก็ไม่น่าแปลกที่ทางเข้าเกมจะเป็นร้านค้าเล็กๆ เพราะถังโม่เองก็เข้าเกมไปเพราะแตะแปลงดอกไม้ข้างถนนเหมือนกัน
ถังโม่ยืนอยู่ข้างหลังชายชรากับชายร่างท้วม ห่างจากสามคนนั้นไปสักสามเมตรได้
ชายชราถาม “ทำไมถึงบอกเรื่องนี้กับเรา?”
ทั้งสามคนมองหน้ากันเอง “เราอยากขอให้คุณตามเรากลับฐานของเราแล้วบอกรายละเอียดของเกมส่วนตัวลำดับที่สองนั่น ลักษณะหนึ่งของเกมส่วนตัวลำดับที่สองคือจะมีศพอยู่โดยรอย จำนวนศพจะอยู่ที่ประมาณห้าถึงเจ็ดคน มีร่องรอยชัดเจนว่าทุกคนฆ่ากันเอง พอพบเกมส่วนตัวนี้ เราก็เจอผู้เสียชีวิตมาแล้ว391คน ไม่มีผู้รอดชีวิต พวกคุณเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่เอาชนะมันได้”
ชายชราขมวดคิ้ว “บอกพวกคุณไปแล้วเราจะได้อะไร?”
ชายชราถามคำถามที่ถังโม่กำลังสงสัยอยู่พอดี ถังโม่ไม่ได้สนใจจะเข้าร่วมองค์กรอะไรทั้งนั้น ในโลกแบบนี้ เข้าร่วมทีมเล็กๆ ที่เข้าใจกันและกันจะช่วยให้อัตราการรอดชีวิตพุ่งขึ้นสูง แต่กลุ่มที่มีคน17คนนั้นมากเกินไป กลุ่มใหญ่ขนาดนั้นจะทำให้ตกเป็นเป้ามากกว่า
เนี่ยเฟยตอบ “จากการที่คุณเอาชนะเกมนี้ได้ นั่นหมายความว่าพวกคุณต้องมีแข็งแกร่งไม่น้อย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเราจะเชิญพวกคุณเข้าร่วมองค์กร”
ที่แท้ก็เพื่อแบบนี้
ถังโม่โยนแจ็คเก็ตของชายร่างท้วมใส่ถังขยะข้างถนน แล้วเดินจากไป
เนี่ยเฟยมองถังโม่แต่ไม่ได้พยายามจะหยุดเขา จะคนไหนในสามคนก็เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นในเกมนั้นอยู่แล้ว ขอแค่มีใครสักคนที่ไป พวกเขาก็จะได้รู้เรื่องอยู่ดี ต่อให้มีคนกลับไปที่ฐานแค่สองคนก็ตาม
ชายชรากล่าว “ฉันไม่ใช่คนที่แข็งแรงอะไร ขอผ่านแล้วกัน” ขอเสนอนี้ไม่ได้น่าดึงดูดขนาดนั้น
เนี่ยเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่สำคัญว่าคุณจะเข้าร่วมองค์กรของเราไหมเพราะเราเองก็มีเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง ไม่ใช่ว่าใครก็จะเข้าร่วมได้ แต่เราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้นะ แค่บอกเรื่องของเกมนี้ให้เรา แล้วเราจะให้ข้อมูลที่มูลค่าเท่าเทียมกันเป็นการตอบแทน”
ถังโม่ชะงักเท้า เขาค่อยๆหันหลังแล้วเดินกลับมา ยืนอยู่ข้างๆ ชายร่างท้วม
ชายร่างท้วมตื่นตระหนก “จะไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลับมา?”
ถังโม่ต้องเขาแล้วถามกลับ "ผมเดินไม่ได้?”
“โอเค…” ชายร่างท้วมโกรธ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
กลุ่มของเนี่ยเฟยเห็นดังนั้นก็เข้าใจทันที พวกเขามองถังโม่และรับรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือกระดูกสันหลังของทีมที่เคลียร์เกมนี้มาได้
ฐานขององค์กรอยู่ที่ผู่ตง พวกเขาเดินเท้าครึ่งชั่วโมงก็เริ่มเห็นห้างห้างหนึ่ง ขาของชายร่างท้วมบาดเจ็บเพราะถังโม่ เขาเดินรั้งท้ายกลุ่ม ระหว่างทางกลับชายชราคิดว่าสามคนนั้นจะแนะนำองค์กรของตัวเอง แต่พวกเขากลับไม่พูดอะไรเลย
ห้างนั้นตั้งอยู่ที่ใจกลางย่านพักอาศัยถูกแบ่งเป็นห้าอาคาร กินบริเวณค่อนข้างกว้าง ส่วนห้างสรรพสินค้าที่ถูกล้อมด้วยอาคารมากมายมีคนหลายคนเดินเข้าๆ ออกๆ พอพวกเขาเห็นคนมาใหม่ก็เริ่มระแวง และเบิกตากว้างเมื่อเห็นกลุ่มของเนี่ยเฟย
ห้างสรรสินค้าขนาดใหญ่มีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านเสื้อผ้า แล้วก็ร้านข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ตั้งแต่โลกออนไลน์ การผลิตสินค้าของมนุษย์ก็หยุดชะงัก ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่พวกเขาก็ต้องตามหาที่ที่เหมาะสม ห้างสรรสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นที่ที่เหมาะที่จะใช้ชีวิตอยู่ ถ้าไปตามสถานที่เหล่านี้ก็จะพบผู้เล่นมากมายรวมตัวกันอยู่
องค์กรณ์นี้มีฐานที่มั่นอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของชั้นห้า ผู้เล่นบางตากว่าส่วนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ตอนพวกเขาเดินผ่านซูเปอร์มาร์เก็ตก็เห็นชายชาวต่างชาติคนหนึ่งเดินเข้ามาถามด้วยภาษาจีนสำเนียงประหลาด “เนี่ยเฟย นี่ใครน่ะ? ทำไมพาพวกเขามาด้วย?”
เนี่ยเฟยตอบกลับไป “แจ็ค พวกนี้คือคนที่เคลียร์เกมส่วนตัวลำดับที่สองได้”
ชายชาวต่างชาติตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาเบิกตามองกลุ่มของถังโม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ตอนที่เขามองถังโม่ ถังโม่เองก็มองเขากลับ
ชายชาวต่างชาติคนนี้สูงเกือบสองเมตร ดูแข็งแรงมากๆ แขนเขาหนาแทบจะเท่าเอวของผู้หญิงปกติได้
บางคนมีพลังที่ซ่อนอยู่ลึกและยากที่จะตรวจจับ ตัวอย่างก็เช่นถังโม่ ถ้าเขาไม่หยิบไม้ขีดไฟขึ้นมาก็จะไม่มีใครรู้ว่าเขามีความสามารถและไม่รู้สึกว่าเขาอันตราย แต่คู่ต่อสู้บางคนก็เปิดเผยตัวตนออกมาอย่างเช่นชายหุ่นล่ำคนนี้ ถังโม่ไม่สงสัยเลยว่าอีกฝ่ายจะมีพลังมาพอจะยกเขาแล้วทุ่มให้กระเด็นไปเป็นสิบๆ เมตรได้
ชายชาวต่างชาติชื่อแจ็คเข้ามาร่วมกลุ่มด้วย พวกเขาเดินลงบันไดไปที่ชั้นลานจอดรถใต้ดิน เขาพูดว่า “เนี่ยเฟย อย่าลืมบอกฉันล่ะว่าพวกเขารอดมาจากเกมส่วนตัวลำดับที่สองได้ยังไง ฉันผ่านเกมS3ยังไม่ได้เลย บ้าไปแล้วที่จะมีมนุษย์เอาชนะไอ้เกมนั้นได้น่ะ”
เนี่ยเฟยพยักหน้า “เดี๋ยวจะมาบอกนายหลังจากไปคุยกับด็อกเตอร์หลัวนะ”
“ดี อย่าลืมเด็ดขาดเลยนะ เผื่อฉันจะได้แรงบันดาลใจหาวิธีเคลียร์ S3ได้”
ชายคนนั้นมาส่งพวกเขาที่ชั้นใต้ดินแล้วก็กลับไป ถังฉีกับเยว่หยวนจื๋อขอแยกตัวไปก่อน เนี่ยเฟยกับกลุ่มของถังโม่ลงไปที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สอง เปิดประตูห้องหนึ่งเข้าไป
“ด็อกเตอร์หลัว ผมพาคนที่เคลียร์เกมส่วนตัวลำดับที่สองมา บางทีคุณน่าจะได้ข้อมูลของหอคอยดำเพิ่มนะ”
ใต้แสงสว่างนั้น ชายหนุ่มที่สวมเสื้อแลปถอดแว่นตาออกแล้วส่งยิ้มให้ถังโม่
ถังโม่ประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งถึงได้พยักหน้ารับ “หลัวเฟิงเฉิง”
เนี่ยเฟยประหลาดใจกว่า “คุณรู้จักด็อกเตอร์หลังเหรอ?”
หลัวเฟิงเฉิงลุกจากเก้าอี้เดินมาหาถังโม่ เชาหันไปมองเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง “แสดงว่ายังไม่ได้ถามชื่อเขาใช่ไหมล่ะ เนี่ยเฟย นี่คือถังโม่ เขาคือผู้เล่นอย่างเป็นทางการที่รอดจากชั้นหนึ่งของหอคอยมาพร้อมกับผม”
เนี่ยเฟยเข้าใจทันที “คุณคือถังโม่นี่เอง!”
ถังโม่ไม่ได้ตอบอะไร
หลัวเฟิงเฉิงยื่นมือมาให้ถังโม่จับไว้ เขายิ้มสดใสเหมือนเจอเพื่อนเก่า ถังโม่เลิกคิ้ว รอว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
“ไม่ต้องสงสัยเลย คุณคือคนที่เคลียร์เกมส่วนตัวลำดับที่สองจริงๆ” หลัวเฟิงเฉิงปล่อยมือถังโม่แล้วสรุป “ถ้าเป็นคุณก็คงเป็นไปได้อยู่แล้วที่จะผ่านเกมที่ยากระดับนั้นได้ เอาล่ะ เนี่ยเฟย พาแขกของเราสองคนนั้นออกไปก่อนที ผู้ชายคนนั้นเหมือนจะยังบาดเจ็บจากเกมมา พาเขาไปร้านขายยาที่ชั้นสอง หาอะไรสักอย่างมาจัดการแผลเขาที”
เนี่ยเฟยพยักหน้า
ชายร่างท้วมมองสลับไปมาระหว่างถังโม่กับหลัวเฟิงเฉิง สุดท้ายก็กัดฟัน แล้วเดินลากขาข้างที่ถูกถังโม่หักตามเนี่ยเฟยไป
เหลือแค่ถังโม่กับหลัวเฟิงเฉิงในห้อง
“ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก” หลังเฟิงเฉิงกลับไปที่นั่งเก้าอี้ แล้วผายมือให้ถังโม่นั่ง “เราอาจจะไม่ได้นับเป็นเพื่อนกัน แต่ก็เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันนะ” หลัวเฟิงเฉิงเสริม “ผมไม่หลอกอะไรคุณแน่ ไม่ต้องห่วง”
ถังโม่ดึงเก้าอี้มานั่ง วางกระเป๋าไว้ที่พื้นแล้วมองหลัวเฟิงเฉิง “ผมคิดว่าจะมีแค่คนที่มีพลังที่จะเข้าร่วมองค์กรได้ พวกนั้นก็เป็นนักวิจัยเหมือนกันเหรอ?”
หลัวเฟิงเฉิงถามกลับ “หมายถึงเนี่ยเฟยกับถังเฉียวเหรอ? ไม่ใช่หรอก ที่จริงตั้งแต่เกมเริ่มคือนักวิจัยคนสุดท้ายที่รอดมาได้ พวกหัวหน้าส่วนใหญ่ก็หายไปเกือบหมดแล้ว เนี่ยเฟยยังเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ ส่วนถังเฉียวเรียนเต้นด้วยซ้ำ ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องมีความสามารถอะไรหรอก ขอแค่แข็งแกร่งพอและสมาชิกคนอื่นๆ ยอมรับก็เข้าร่วมได้ทั้งนั้น ว่าแต่คุณรู้วืธีล็อคอินเข้าหอคอยหรือยังล่ะ?”
ถังโม่ไม่คิดจะปิด “ในสามวันแห่งการกำจัด ผู้เล่นอย่างเป็นทางการเข้าร่วมเกมของหอคอยแล้วชนะมาได้ ผู้ลักลอบต้องฆ่าใครสักคนหนึ่งในสามวันนั้น ส่วนผู้เล่นสำรอง พวกเขาต้องชนะเกมรูปแบบอื่นๆ”
“เกือบถูก” หลัวเฟิงเฉิงเทน้ำแก้วหนึ่งให้ถังโม่ “เราเรียกสามวันนั้นว่าช่วง ‘คัดเลือกผู้ท้าชิง’ ผู้เล่นสำรองจะต้องกำจัดผู้เล่นสักคนโดยไม่จำกัดรูปแบบเกม ทางแรกคือขอแค่คู่ต่อสู้สักคนพูดว่าตัวเองถูกกำจัดแล้ว”
ถังโม่สูดลมหายใจลึก รู้แล้วว่าหลัวเฟิงเฉิงกำลังจะพูดอะไรต่อ
หลัวเฟิงเฉิงยิ้ม “ทางที่สองคือเล่นเกมสำรองที่หอคอยรับรอง หรือไม่ก็แสดงพฤติกรรมพิเศษที่หอคอยดำยอมรับ จากนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นผู้เล่นสำรอง มีผู้เล่นอย่างเป็นทางการ52คน กับผู้เล่นสำรองอีก823คนอยู่ที่ห้างนี้ ง่ายต่อการเก็บข้อมูลของผมมากเลยล่ะ”
“ถ้าผมเข้าร่วมกับคุณผม ก็จะได้ข้อมูลนั้น?”
หลังเฟิงเฉิงพยักหน้า “ใช่”
ทั้งสองมองหน้ากันโดยไม่ได้พูดอะไร
ผ่านไปสักพักถังโม่ก็เปิดปาก “มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเถอะ บอกผมหน่อยว่าเกมส่วนตัวคืออะไร ทั้งลำดับที่สองและS3 แล้วจากนั้นผมก็จะบอกคุณว่าเกมส่วนตัวลำดับที่สองนั้นเป็นยังไงกันแน่”
“ดีล”
หลัวเฟิงเฉิงยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้เล่นสำรองก่อน ถึงจะมีส่วนที่ถังโม่รู้อยู่แล้ว แต่การที่อีกฝ่ายเลือกแสดงความจริงใจออกมาก่อนก็ทำให้ถังโม่ไม่ได้ขี้เหนียวอะไรนัก “เกมส่วนตัวลำดับที่สองคือเกมที่มีชื่อว่าเกมโมโนโพลีของมาริโอ Bossของเกมคือมาริโอ เขาแข็งแกร่งกว่าเจ้าตุ่นที่เราเจอในถ้ำใต้ดิน”
หลัวเฟิงเฉิงตั้งใจฟัง
“เกมมีทั้งหมด150ช่อง แบ่งเป็นช่องของรางวัล30ช่อง…”
ถังโม่อธิบายเกมโมโนโพลีอย่างง่าย พอพูดถึงเอ็ฟเฟกต์ ‘ใครกันที่แบ่งทุกข์และสุข?’ ที่ถูกทริกเกอร์ในรอบที่ห้าของการทอยเต๋าหลัวเฟิงเฉิงก็ขมวดคิ้ว “ก็เลยมีคนตายเยอะขนาดนั้นสินะ”
ต้องยอมรับว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ที่ตายในเกมโมโนโพลีของมาริโอนั้น ส่วนใหญ่ก็ตายด้วยน้ำมือของผู้เล่นด้วยกันเองทั้งนั้น แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้มีโอกาสไปถึงตอนจบ และต้องตายเพราะช่องคุกที่ติดกันหกช่องนั้น จากการทอยลูกเต่าปกติ ผู้เล่นอย่างน้อยหกจากแปดคนจะเดินทับช่องเดียวกัน แล้วทริกเกอร์ ‘ใครกันที่แบ่งปันทุกข์และสุข?’ และมีหนึ่งในสองคนนั้นตาย
พอถังโม่พูดถึงวิธีการที่เขาเอาชนะเกมมาได้ หลัวเฟิงเฉิงก็พยักหน้า “คุณโชคดีมากจริงๆ นะเนี่ย”
โอกาสที่ช่องแรกจะเป็นช่องคุกมีไม่น้อย แต่ถังโม่ก็ยังทายถูก แบบนี้ก็นับว่าเป็นโชคดีไม่ใช่เหรอ
ถังโม่พูดเบาๆ “โชคเองก็เป็นความแข็งแกร่งรูปแบบเหมือนกัน”
หลังเฟิงเฉิงมองเขาแวบหนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไร
ถังโม่พูดต่อ “ผมเล่าจบแล้ว ต่อไปก็ตาคุณแล้ว”
หลัวเฟิงเฉิงเปิดปาก “องค์กรของเราชื่อว่า Attack พอออกจากหอคอยดำตอนวันที่19 ผมก็บังเอิญได้เข้าร่วมกับพวกเขา ช่วงวันที่15ที่โลกออนไลน์ สมาชิกของแอทแทค 11 คนเล่นเกมของหอคอยและได้รับสถานะผู้เล่นอย่างเป็นทางการมา ตอนนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นผู้เล่นอย่างเป็นทางการ อยากจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องเกม แต่ก็พบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง เลยมีบางคนลองโพสท์ข้อความลับในฟอรัมใหญ่ๆ ของเซี่ยงไฮ้เพื่อหาคนที่เป็นแบบเดียวกัน ในสามวันนั้นพวกเขารวมกันได้11คน แล้วพอเกมเริ่มอย่างเป็นทางการ แอทแทคก็ถูกจัดตั้งขึ้น
ถังโม่ทวน “Attack ที่ว่านี่หมายถึงโจมตีหอคอยเหรอ?”
“พอวันที่18 Attackเจอกับเกมส่วนตัวลำดับแรกแล้วตั้งชื่อมันว่า S1 ตอนนี้เราเจอเกมส่วนตัวแบบSทั้งหมดหกอัน กับรูปแบบอื่นอีกสามอัน เกมโมโนโพลีของมาริโอที่คุณเพิ่งเล่นเป็นเกมส่วนตัวรูปแบบอื่นลำดับที่สอง”
“ความแตกต่างระหว่างรูปแบบ S กับแบบอื่นๆคืออะไรน่ะ?”
“S คือsafe เกมส่วนตัวแบบSทั้งหกอันที่เราเจอนั้นปลอดภัยสำหรับผู้เล่นปกติ ต่อให้เอาชนะไม่ได้ก็มีทางที่จะออกจากเกมนั้นอย่างปลอดภัย” หลัวเฟิงเฉิงเปิดลิ้นชัก ดึงเอกสารออกมายื่นให้ถังโม่ “ส่วนรูปแบบอื่นๆ นั้นถูกเรียงลำดับหนึ่งถึงสามตามความยาก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการพบผู้รอดชีวิตจากเกมรูปแบบอื่นๆ ลำดับที่หนึ่งเลย อาใช่ เกมส่วนตัวลำดับที่สองเปิดไปแล้ว ทันทีที่มีคนผ่านมันก็จะถูกปิดทันที”
ถังโม่รับเอกสารไปเปิดดูหน้าแรก
[ประเภทเกมส่วนตัว : อื่นๆ]
[หมายเลข: 1 ]
[จำนวนผู้เสียชีวิตที่พบ: 623]
[จำนวนทางเข้าที่พบ: 42]
[ลักษณะ : พบการเสียชีวิตเนื่องจากการถูกอสูรกินที่ช่วงอก และพบว่าหัวใจหายไป พบร่างผู้เสียชีวิตประมาณ6-10ร่างที่รอบทางเข้า]
[ข้อสรุป: จำนวนผู้เล่นในแต่ละรอบอยู่ที่ประมาณ10คน ไม่มีข้อมูลชัดเจนอื่นๆ อันตรายมาก ห้ามเข้าไปเด็ดขาด]
เปิดไปที่หน้าสอง
[ประเภทเกมส่วนตัว: อื่นๆ]
[หมายเลข : 2]
[จำนวนผู้เสีชีวิตที่พบ: 391]
[จำนวนทางเข้าที่พบ: 30]
[ลักษณะ: ศพของผู้เล่นมีลักษณะที่เกิดจากการฆ่ากันเอง พบผู้เสียชีวิต 5-7คนที่รอบทางเข้า]
[ข้อสรุป: จำนวนผู้เล่นน้อยกว่า10คน น่าจะเป็นการเอาชนะกันเอง อันตรายมาก ห้ามเข้าไป]
หน้าที่สาม:
[ประเภทเกมส่วนตัว:อื่นๆ]
[หมายเลข: 3]
[จำนวนผู้เสียชีสิตที่พบ: 156]
[จำนสนทางเข้าที่พบ : 19]
[ลักษณะ: ขาดอากาศหายใจจนถึงแก่ชีวิต พบผู้เสียชีสิต3-5คนรอบทางเข้า]
[ข้อสรุป: น่าจะเป็นเกมส่วนตัวแบบที่ให้เอาชีวิตรอดภายใต้สภาวะสุดโต่ง อันตราย ห้ามเข้าร่วม]
หลังจากหน้าที่สามเป็นต้นไปเป็นแผนที่เขตผู่ตงและมีพื้นที่ที่ถูกวงด้วยปากกาดำ ถังโม่จ้องมัน จำทางเข้าเหล่านั้น แล้วปิดแฟ้ม
“คุณบอกว่าเกมส่วนตัวลำดับที่สองปิดไปแล้ว ถ้ามันปิดแล้วแบบนี้ข้อมูลที่ผมให้คุณไปก็คงไม่ได้มีค่าเท่าไหร่”
หลัวเฟิงเฉิงเก็บแฟ้มนั้น “ถ้าคุณผ่านดันเจี้ยนลำดับที่สองไปแล้ว ลำดับที่หนึ่งและสามก็คงไม่ได้ยากอะไรแล้ว”
ถังโม่เห็นทางเข้าของเกมส่วนตัวพวกนั้นแล้ว ข้อมูลพวกนั้นมีค่ามากเกินไป
ถังโม่มองเขาอยู่นาน “องค์กรนี้ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อโจมตีหอคอยเหรอ?”
“การป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดคือการโจมตี” หลังเฟิงเฉิงยิ้ม “ที่จริงแล้วชื่อเก่าขององค์กรคือ Exist พวกเขาก็แค่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่เมื่อสามวันก่อน ฟู่เหวินตั๋วเปิดหอคอยแล้วผู้เล่นชาวจีนทุกคนก็ถูกดึงเข้าไปโจมตีด้วย สองในสิบเอ็ดคนนั้นตาย ถ้าพวกเขาแข็งแกร่งมากกว่านี้พวกเขาก็คงจะรอดมาได้”
การโจมตีคือการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด
ถังโม่ไม่ได้ปฏิเสธมุมมองนี้
เกมส่วนตัวลำดับที่สองปิดไปแล้วหลังจากถูกเคลียร์ ทุกคนในองค์กรรู้เรื่องนี้ดี แต่สามคนที่นำโดยเนี่ยเฟยก็ยังอยากได้ข้อมูลเกี่ยวเกมนั้นจากถังโม่ ยอมแม้กระทั่งแลกเปลี่ยนข้อมูลของตัวเอง
เรื่องนี้มีสองเหตุผล อย่างแรกคือเพื่อให้ได้เคล็ดลับในการเคลียร์เกม บางทีเกมอื่นๆ อาจจะได้แรงบันดาลใจจากเกมนี้ก็ได้ ข้อสองคือเพื่อใช้ระดับความยากและรายละเอียดของเกมเพื่อกะระดับความยากและแนวทางของลำดับที่หนึ่งและสาม ถ้าต้องเผชิญหน้ากับเกมส่วนตัวที่อันตรายในอยาคต พวกเขาก็จะมีข้อมูลมากพอก่อนตัดสินใจทำอะไร
ถังโม่ได้ทับทิมจากมาริโอกับความสามารถจากชายร่างท้วมคนนั้นมา ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอีกแล้ว เกมส่วนตัวอื่นๆ เองก็น่าจะมีรางวัลให้เหมือนกัน ถ้าอยากจะเพิ่มความแข็งแกร้ง การเคลียร์เกมส่วนตัวน่าจะเป็นทางที่เร็วที่สุด
การเข้าใจเกมลำดับที่สองหมายถึงการพัฒนาการวางแผนสำหรับเกมส่วนตัวลำดับอื่นๆ
องค์กรAttack ดูจะหัวรุนแรงอยู่สักหน่อย พวกเขาอาจจะได้ข้อมูลมาเพิ่ม แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นกัน พวกเขาไม่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง และมองหาทางที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองจากเกมอันตรายต่างๆ
ถังโม่เงียบไปครู่หนึ่ง “ผมขอลองไปคิดดูก่อนว่าจะเข้าร่วมไหม”
หลัวเฟิงเฉิงหยักหน้า “ดี”
ถังโม่ออกจากห้องไปเจอร้านค้าที่ไม่มีคนที่ชั้นบนสุดของห้าง เขาล็อคประตูร้าน แล้วกางเสื้อผ้ากับพื้น เตรียมจะนอนพัก
เขานอนหลบอยู่หลังเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ตู้ไม้บังทั้งร่างเอาไว้ ถังโม่ตั้งใจฟังทุกการเคลื่อนไหวและเห็นกล้องอยู่ที่มุมร้าน เขาหยิบเหรียญจากแคชเชียร์แล้วสะบัดข้อมือ เหรียญทองปลิวไปพังเลนส์ของกล้องวงจรปิด
ถึงกล้องวงจรปิดจะใช้ไม่ได้แล้วแต่ถังโม่ก็เลือกจะไม่ประมาท
ถังโม่มองไปรอบๆ แล้วยัดมือเข้าไปในกระเป๋า ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็เหมือนกับเขาดึงหนังสือความสามารถออกจากกระเป๋า ไม่ใช่อากาศ พอหนังสือถูกดึงออกมาถังโม่ก็เปิดไปที่หน้าสุดท้าย
[ความสามารถ : กลืนสายลมจากที่ไกลออกไปอย่างเสือ]
[เจ้าของ: หลิวเฟยเฮา (ผู้เล่นอย่างเป็นทางการ)]
[ประเภท: อะตอมมิค]
[ฟังก์ชัน: พายุรุนแรงจะพรั่งพรูออกมา อยู่ได้สามนาที ความแรงลมอยู่ที่ระดับ10]
[ระดับ:เลเวล2]
[ข้อจำกัด: ต้องเริ่มจากการสูดลมหายใจเข้าเท่านั้น เวลาคูลดาวน์อยู่ที่10นาที]
[Note: กลืนสายลมจากที่ไกลออกไปอย่างเสือ? หลิวเฟยเฮา: เหมียว~]
[คู่มือการใช้งานเวอร์ชันถังโม่: สายลมรุนแรงจะอยู่ได้ 1 นาที แรงลมสูงสุดอยู่ที่ระดับ8 และใช้ได้แค่สองครั้งต่อวัน ความสามารถนี้มันเผ็ดร้อนสุดๆ เจ้าของต้องกังวลแล้ว ว่าแต่ คิดว่าถังโม่หน่าตาเหมือน hello kittyไหม?]
ถังโม่ทำหน้าhello kittyใส่หนังสือความสามารถอย่างเย็นชา
เขาทิ้งตัวบนพื้นเย็นๆ เปิดกลับไปที่หน้าแรก แล้วเริ่มอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น
เพิ่มเติมจาก ‘กินแล้วไม่จ่าย’ ถังโม่ได้ความสามารถเพิ่มมาอีก6อย่างแล้ว อันแรกเอาไว้ใช้เก็บของ ที่ถังโม่เลือกใช้เก็บไม้ขีดไฟ อันที่สองคือคำสาปของหลี่ปิน ความสามารถนี้ถังโม่ใช้บ่อยกว่าที่คาด ถึงจะไม่ได้เป็นตัวหลักในทุกๆ รอบ แต่ก็ไม่มีปัญหาในการเอามันไปใช้กับคู่ต่อสู้ที่น่าขยะแขยง
ความสามารถที่สามคือการระบุตัวตนของผู้เล่นที่แทบไม่มีโอกาสได้ใช้ จากนั้นก็เป็นความสามารถของเฉินชานชาน ความสามารถนี้ค่อนข้างลึกลับ ถังโม่ไม่เคยรู้สึกว่ามันทำงาน แต่ก็รู้สึกเหมือนจะได้ผลจากมันอยู่ตลอดเวลา
ความสามารถที่ใช้โจมตีของเขาคือ ‘คืนปู่ของฉันมานะ’ กับ ‘กลืนสายลมจากที่ไกลออกไปอย่างเสือ’
ถังโม่เคาะหน้ากระดาษด้วยนิ้วมือ นัยน์ตาเขาล้ำลึกเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เขายัดหนังสือเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบทับทิมออกมาแทน
ค่ำแล้ว ห้างสรรพสินค้าเงียบสนิท แสงจันทร์จางๆ ฉายผ่ายกระจกบานใหญ่ที่ชั้นบนสุดของห้างให้แสงจางๆ ในร้านค้า
ในความมืดแบบนี้ สีของทับทิมเข้มเหมือนไวน์แดง
ถังโม่บีบทับทิมนั้นด้วยนิ้วมือแล้วค่อยๆ ขยับ พอขยับมัน ส่วนสีแดงข้างในก็คล้อยไหวเหมือนข้างในมีเลือดสีแดงสดบรรจุอยู่ ถังโม่ที่เรียนรู้แล้วจากการสำรวจไข่ไก่งวงแตะทับทิมเม็ดนั้นสามครั้ง
ไม่มีอะไนเกิดขึ้น
ถังโม่ถอนหายใจแล้วบีบมันด้วยมือข้างหนึ่ง
ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาถือเม็ดทับทิมไว้ตรงหน้าแล้วตั้งใจสำรวจ แต่พอยกทับทิมเม็ดนั้นขึ้นมาใกล้ผม ก็มีแสงสีดำเข้มฉาย แล้วหมวกเหม็นๆ ก็หล่นลงมาจากท้องฟ้าใส่หน้าถังโม่
ถังโม่ “…”
ถังโม่แทบเป็นลมเพราะกลิ่นนั้น รีบดึงหมวกที่ปิดหน้าเขาออก เขาไม่มีเวลามาสงสัยว่าหมวกนั้นมาจากไหนตอนที่ทับทิมในมือเขาหายไป พอเขาลองดูใกล้ “…”
หมวกแดงนี้ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันดีจากความทรงจำในวัยเด็ก มีตัว M สีขาวอยู่เหนือปีกหมวก ใครๆ ก็เคยเล่นเกมนี้ เกมที่ผู้เล่นที่ใส่หมวกนี้จะกระโดดไปบนบล็อค เตะสัตว์ประหลาด เอาชนะมังกร แล้วก็ช่วยเจ้าหญิง
ถังโม่เจอเจ้าของมันมาเมื่อสองชั่วโมงก่อน ครั้งสุดท้ายที่เจอกันเจ้าของหมวกยังนอนร้องไห้อยู่บนเวที ก่อนจะจากมาเขาได้รับคำอวยพรให้มีชีวิตยืนยาวจากถังโม่ แล้วก็ทำตัวเองหัวกระแทกพื้นเลือดอาบ
ตอนนั้นแสงสีแดงก็สาดขึ้นอีกรอบ หมวกสีแดงกลายเป็นทับทิมเหมือนเดิม แล้วก็มีตัวอักษรเล็กๆ เขียนอยู่บนอัญมณี
[อุปกรณ์: หมวกของมาริโอ]
[เจ้าของ: ถังโม่]
[คุณภาพ: ยอดเยี่ยม]
[เลเวล: 3]
[โจมตี: ไม่มี]
[ฟังก์ชัน: เมื่อใส่หมวกวิเศษนี้ มีโอกาสที่คุณจะสามารถใช้หัวของคุณในการได้ขุมทรัพย์เวทมนตร์มา]
[ข้อจำกัด: ต้องใช้กลางหัวด้านบนเท่านั้นในการทริกเกอร์ขุมทรัพย์ โอกาสทริกเกอร์สำเร็จอยู่ที่10% ใส่หมวกนี้จะทำให้คุณงอกหนวดพิเศษของมาริโอ แมนมากเลยล่ะ]
[Note: หมวกแดงไม่จำเป็นต้องเป็นหนูน้อย อาจจะหมายถึงมาริโอก็ได้]
หนวดแมนๆ ของมาริโอ…
ถังโม่แทบตาเหลือกตอนอ่านบรรทัดนั้นจบ เขาลองยกทับทิมขึ้นไปใกล้หัว แล้วอัญมณีนั้นก็ส่องแสงแล้วกลายเป็นหมวกเหม็นๆ ทันที แต่พอเขาเลือนมือลง มันก็กลับไปอัญมณีแวววาวอีกรอบ
นี่มันหลอกขายตรงทางทีวีชัดๆ!
ถ้าเป็นหมวกเหม็นๆ นี่ที่ซ่อนอยู่ในกองทอง ไม่มีทางที่ถังโม่จะยอมหยิบมันขึ้นมาแน่ อย่างน้อยก็ต้องลังเลสักสามวินาทีแหล่ะ!
ถังโม่รู้สึกเสียใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่น่าหยิบไอ้นี่มาเลย อย่างน้อยถ้าหยิบเหรียญทองมาก็ยังใช้เป็นอาวุธได้ ดีกว่าหมวกเหม็นๆ นี่!
ถังโม่สาปแช่งหมวกเหม็นๆ ของมาริโอในใจอยู่ร้อยครั้งได้ แต่สุดท้ายเขาก็ยัดทับทิมเข้าไปในกระเป๋าส่วนในของแจ็คเก็ตแล้วรูดซิบปิด หลับตาพักอยู่ชั่วโมงหนึ่ง จากนั้นก็อาศัยความมืดของตอนกลางคืน เก็บข้าวของแล้วออกจากห้างไป
ทุกที่เงียบสนิท และเสียงฝีเท้าของถังโม่ก็เบามาก แทบจะไม่มีเสียดังบนพื้นเลย แต่วินาทีที่ถังโม่จากไป เงาดำร่างหนึ่งก็พุ่งไปที่ลานจอดรถใต้ดินแล้วเคาะห้องของหลัวเฟิงเฉิง
“ด็อกเตอร์หลัว เขาไปแล้ว ให้เราไล่ตามเขาไปไหม?”
หลัวเฟิงเฉิงถือปากกาอยู่ในมือแล้วคุกเข่าศึกษาบางอย่างอยู่บนพื้น พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็จะเห็นว่าที่กลางกระดาษเป็นเวทีเล็กๆ ที่มีช่อง150ช่องเชื่อมต่อกันไปถึงเวที หลัวเฟิงเฉิงถือลูกเต๋าในมือซ้ายและปากกาในมือขวา
พอได้ยินดังนั้นเขาก็หยุดปากกา “แอทแทคไม่ใช่พวกผู้ร้ายสักหน่อย”
อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วจากไป
หลัวเฟิงเฉิงยืนขึ้นแล้วเกินไปที่โต๊ะ เขาเปิดลิ้นชัก หยิบแฟ้มออกมา เปิดไปที่หน้าที่สอง แล้วมองช่อง ‘จำนวนผู้เสียชีวิต’ มีใครบางคนใช้ปากกาขีดฆ่า391ออก แล้วเขียน6461เข้าไปแทน
“ตอนที่เขียนไอ้นี่ คุณก็ไม่ได้คิดจะอยู่ต่ออยู่แล้วนี่…”
ถังโม่เดินผ่านความมืดมิดและออกจากผู่ตงไป
เขาออกจากห้างในช่วงค่ำเพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนองค์กรนั้น เขาตัดสินใจจากผู่ตงไป แล้วเจอร้านค้าที่ข้างถนน หลบอยู่ที่นั่นจนเช้า ครั้งนี้เขาเดินเร็วๆ ไปถึงประตูรั้วโรงเรียนชีเปยในสองชั่วโมง เข้าไปในโรงยิมที่คุ้นตาและพบว่ามันว่างเปล่า
ถังโม่เจอเศษขนมปังที่ใครบางคนกินทิ้งไว้ในห้องอุปกรณ์ เศษขนมปังหล่นอยู่ข้างๆ รอยน้ำที่มีราขึ้น
เหมือนเด็กๆ จะจากไปในวันถัดมาหลังจากเขาไป
ถังโม่ออกจากโรงยิม เขากำลังจะออกจากโรงเรียนแล้วตอนที่เห็นเศษไม้ขีดไฟหล่นอยู่ที่หัวมุม เขาหรี่ตามองกองไม้ขีดไฟกับกำแพงสีขาวตรงหน้า พอสำรวจอยู่ครู่หนึ่งถังโม่ก็ก้าวไปปัดฝุ่นสีขาวบนกำแพงด้วยฝ่ามือ
ถึงพี่ถัง:
พวกเราไปก่อนนะ เล่นเกมคราวหน้าก็รอดมาให้ได้นะ
เฉินชานชาน
จ้าวเจียง!
คำสุดท้ายดูจะเบี้ยวๆ อยู่สักหน่อย ลายมือน่าเกลียดถ้าเทียบกับคำก่อนหน้า มองแวบแรกก็รู้ว่าเด็กชายตัวอ้วนคนนั้นเป็นคนเขียน
ถังโม่ยิ้มแล้วกลบตัวอักษรที่ฝังอยู่บนกำแพงทิ้ง จากนั้นก็หยิบกระเป๋า จากโรงเรียนไป
ตอนที่เขากำลังจะเดินออกจากรั้วโรงเรียน เสียงเด็กก็ประกาศดังไปทั่วเผวี่ยงไฮ้
“ดิ๊งด่อง! ยุโรปเขต 3 ผู้ลักลอบ ฟรานซ์ ลิซท์ เคลียร์ชั้นแรกของหอคอยสำเร็จแล้ว”
ฝีเท้าของถังโม่หยุดลง
มีคนในยุโรปเคลียร์หอคอยดำ? ผู้เล่นชาวยุโรปเข้าเกมโจมตีหอคอยตั้งแต่เมื่อไหร่?
ถ้าอ้างอิงจากเวลา ฟู่เหวินตั๋วใช้เวลาไปสามชั่วโมง แมรี่ ฟัน เดอซาร์จากอเมริกาใช้เวลาไปห้าชั่วโมง ผู้โจมตีในยุโรปน่าจะอ่อนแอกว่าของจีนและอเมริกา เวลาที่ใช้น่าจะนานกว่าห้าชั่วโมง
พอลองคำนวณดูก็พบว่าถ้าเกมโจมตีนี้ใช้เวลาเจ็ดชั่วโมงเกมโจมตีของผู้เล่นชาวยุโรปก็จะเริ่มตอนที่ถังโม่ยังอยู่ในเกมโมโนโพลีของมาริโอ
พอถึงจุดนี้ถังโม่ก็เดินหน้าต่ออย่างไม่ลังเลอีก
พระอาทิตย์กำลังขึ้น คนก็เริ่มทยอยกันออกมา ถังโม่ไม่มีธุระอะไรอีกแล้วในเซี่ยงไฮ้ เขาวางแผนจะกลับไปที่ซูโจวแล้วหาทางตามหาว่าเพื่อนคนอื่นของเขายังมีชีวิตอยู่ไหม เขาเดินไปตามถนนหนานจิง เห็นผู้คนอยู่ทั่วไปหมด ถึงจะไม่ได้มากมายแต่ไม่ว่าเขาจะไปทางไหนก็จะมีคนอย่างน้อยสองหรือสามคน
ถังโม่แบกกระเป๋าใบใหญ่แล้วมุ่งไปข้างหน้า เขาเดินผ่านแปลงดอกไม้แล้วก็ต้องหยุดชะงัก ไม่มีใครสังเกตถึงความผิดปกติของเขา สีหน้าถังโม่มืดดำ เขากำมือแน่น สีหน้าก็บูดเบี้ยว
เพราะเสียงสดใสร่าเริงที่เขาเพิ่งจะได้ยินเมื่อกี้นี้
ถังโม่มองไปรอบๆ ว่าคนที่เดินผ่านไปมามีใครได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ ไหม น่าเสียดายที่สามคนแถวนั้นไม่ได้มีท่าทีจะได้ยินอะไร ถังโม่จ้องจนพวกเขาสะดุ้ง มีคนงึมงำว่า ‘โรคจิต’ แล้วก็พุ่งหายไป
ในหัวของถังโม่มีเสียงดังก้อง มันประกาศทั้งสิ้นสามครั้งอย่างร่าเริง
“ดิ๊งด่อง! จีนเขต2 ผู้เล่นอย่างเป็นทางการ ถังโม่ ถึงระดับของหอคอยชั้นแรกแล้ว ในอีก10วัน ได้โปรดเตรียมตัวโจมตีหอคอย”
ในแสงอาทิตย์แรงกล้า หอคอยดำที่ลอยค้ำเมืองอยู่ช่างส่องประกายเหลือเกิน