ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ผมมีมิติวิเศษที่ห่วยกว่าของตัวเอก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 กลิ่นแกนี่มันน่าขยะแขยงสุดๆ!

ตอนที่ 10 Thank you นะ ฟู่เหวินตั๋ว~!


ถนนจากซูโจวไปเซี่ยงไฮ้แทบจะถูกตัดขาด กว่าจะได้แตะคันเร่ง ถังโม่ต้องลงจากรถมาเข็นรถสองคันที่ขวางทางอยู่ออกไป

ใช่ เขาเข็นรถด้วยตัวเองคนเดียวนี่แหล่ะ...

ตั้งแต่เกิดเรื่องหอคอย ถังโม่ก็พบว่าทั้งร่างกายและจิตใจเขาแข็งแกร่งขึ้นมหาศาล

ในเรื่องของสภาพร่างกายนั้น แรงเขาเยอะขึ้น สายตาก็ดีขึ้น ความสามารถในการฟื้นตัวก็พุ่งขึ้นสูง แถมผิวยังแข็งเหมือนเหล็ก

ตอนที่เฉียนซานคุนยอมให้ถังโม่เปิดกระโปรงรถหยิบของ ถังโม่จงใจทดสอบผิวตัวเองกับที่ล็อคท้ายรถ ฝ่ามือน่าจะเป็นหนึ่งในส่วนที่บอบบางที่สุดในร่างกายมนุษย์ แต่ถึงที่ล็อคจะลากผ่านฝ่ามือเต็มๆ เขาก็ไม่มีแผลใดๆ …ไม่แม้แต่จะเจ็บด้วยซ้ำ เพราะงั้นถังโม่เลยตัดสินใจลองสู้กับเฉียนซานคุน แล้วเขาก็คิดถูก เพราะสมรรถภาพทางกายที่เพิ่มขึ้นทำให้มีดของเฉียนซานคุนตัดทะลุน่องมาถึงกระดูกเขาไม่ได้

แถมยังมีความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจที่เพิ่มขึ้นอีก

ถังโม่ไม่เคยชนะรางวัลนักเรียนดีเด่นอะไรแต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนเลว ทั้งไม่ใช่พวกโจรลักเล็ดขโมยน้อย แล้วก็ขี้เกียจเกินกว่าจะโกงข้อสอบ

นี่คือครั้งแรกที่เขาเคยฆ่าคน มันอาจเป็นการป้องกันตัวเองผสมกับอุบัติเหตุ แต่เขาก็ฆ่าเฉียนซานคุนไปแล้ว

ทว่านอกจากความแตกตื่นและทำตัวไม่ถูกอยู่ครู่เดียวนั้น เขาก็ใจเย็นลงแล้วหันไปคิดถึงเรื่องในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว

เขาไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนเลือดเย็นเพราะความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหรือว่านี่คือตัวตนจริงๆ ของเขากันแน่

ถังโม่มองหนังสือที่เบาะข้างคนขับ แล้วย้ายสายตากลับไปมองทางข้างหน้า

เพราะว่าเขาต้องคอยขยับรถ เส้นทางที่ควรจะใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็ยืดยาวออกไป ฟ้าสว่างแล้วตอนที่ถังโม่เข้าสู่มณฑลเซี่ยงไฮ้ เขาอยู่ห่างไปสองกิโลเมตรจากด่านเก็บเงินตอนที่รถเจ็ดคันจอดขวางทางขึ้นทางด่วน

ถังโม่ลงจากรถไปเตรียมตัวจะเข็น

เอี๊ยด

เสียงดังลั่นไปหมด รถเจ็ดคันชนประสานงากันอย่างรุนแรง รถสี่คันหน้าเหมือนถูกขยี้ กันชนของทางด่วนพังยับ ถังโม่ใช้แรงไปครึ่งหนึ่งในการแทรกตัวจากตรงรถคันหลังสุดไปถึงหน้าสุด

“รถหรู?” ถังโม่หัวเราะออกมาดังๆ

คันแรกเป็นรถสปอร์ตมาเซราติ ตัวรถสีแดงสดพังยับ รถโดนชนจนล้อติด ไม่ยอมหมุนไปไหน

ลมเย็นพัดผ่านหน้าตอนถังโม่ออกแรงดันรถมาเซราติคันนั้น เขาเตรียมจะเปิดประตูรถตัวเอง แต่ก็ต้องหยุดแล้วหันกลับไป “นั่นใคร?”

มีเพียงเสียงลมเป็นคำตอบ

ถังโม่ไม่ได้เปิดประตู เขายืนนิ่ง มือเอื้อมไปแตะข้อมือที่มีรอบสักรูปไม้ขีดไฟ ถามย้ำเสียงเย็น “ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?”

แต่ก็ยังไม่มีใครตอบกลับ

ถังโม่เดินช้าๆ ไปทางรถมาเซราติ วางฝีเท้าให้เบา ร่างกายตึงเครียดจากการตื่นตัวกับทุกความเปลี่ยนแปลงที่อาจะเกิดขึ้น ตอนนั้นที่เขาได้ยินเสียงสั่นๆ “ไม่นะ ผม…ผมจะออกไป ผมจะออกไปเอง ไม่ได้คิดร้ายกับคุณเลยนะ”

ถังโม่เงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่เดินออกมาจากด้านหลังรถมาเซราติ

เป็นเด็กหนุ่มผมดำ สูงสัก180เซนติเมตร สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ รองเท้าเขาขาดแล้วก็เปื้อนเลือด เขาบาดเจ็บหลายที่แต่แผลก็ตกสะเก็ด เลือดไม่ไหลแล้ว

ในสายลมเย็นๆ ริมฝีปากอีกฝ่ายกลายเป็นสีม่วง มือเขาสั่นแล้วชูขึ้นสูง เขาเดินห่างจากรถขณะมองถังโม่อย่างหวาดกลัว

“ผมเป็นเจ้าของรถ ไม่ได้จุดประสงค์แอบแฝงอะไรเลย ผมเห็นคุณก่อน ถ้าอยากจะโจมตีคุณก็คงทำไปตั้งแต่คุณเริ่มดันรถแล้ว”

ถังโม่มองเขาอยู่ครู่หนึ่ง “ทำไมผมไม่เห็นคุณตอนกำลังเข็นรถ?”

เด็กหนุ่มอธิบาย “ผมไปซ่อนอยู่ใต้ทางด่วน ตรงนี้หนาวไป ตรงที่มีหญ้ามันอุ่นกว่านิดหน่อย ผมกำลังจากหนานจิงไปเซี่ยงไฮ้เช้าเมื่อวานนี้ เพิ่งจะมาถึงเซี่ยงไฮ้แต่จู่ๆ รถคันข้างหลังก็พุ่งมาชนผม พอลืมตาขึ้นมาก็เจอตัวเองกระเด็นออกมานอกรถ โชคดีที่ยังไม่ตาย แล้วตอนนั้นผมถึงได้รู้…” สีหน้าเขาหวาดผวา “ผมไม่เห็นคนในรถที่ขับมาชนท้ายเลย ไม่มีกระทั่งเลือดสักหยด!”

ถังโม่ยังมองเขาเหมือนเดิมและไม่ได้ลดความระแวงลง “พวกเขาหายไปแล้ว คุณน่าจะหมดสติไปเพราะอุบัติเหตุ เลยพลาดประกาศเริ่มเกมของหอคอยดำไป ตอนนี้เหลือคนไม่ถึง500ล้านคนแล้วในโลก ที่เหลือ…” ถังโม่เหลือบตามองรถคันที่ชนท้าย “พวกเขาหายไปแล้ว”

เด็กหนุ่มเบิกตากว้างแล้วนิ่งไป เขามองรถคันหลังแล้วย้ายสายตากลับมาหาถังโม่ “ครอบครัวผมอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ คุณเองก็กำลังจะไปเซี่ยงไฮ้ คุณ… ผมขอติดรถคุณไปหน่อยได้ไหม? ผมเห็นคุณแข็งแรงพอจะเข็นรถพวกนั้นได้ผมจะให้เงินเท่าที่คุณต้องการเลยถ้าคุณยอมให้ผมติดรถไป”

ถังโม่ได้ยินแล้วก็ยิ้มอ่อนโยน

เด็กหนุ่มงุนงง

“ผมกำลังจะไปเซี่ยงไฮ้ จะติดรถไปก็ได้ แต่คุณคิดว่าในโลกแบบนี้เงินยังจะมีประโยชน์อยู่เหรอ?”

เด็กหนุ่มหน้าซีด เหมือนจะเพิ่งเข้าใจว่าโลกนี้มันกลายเป็นอะไรไปแล้ว

ถังโม่ขึ้นรถ อีกฝ่ายก็รีบตามมานั่งข้างคนขับ ถังโม่ย้ายหนังสือมาฝั่งตัวเองเงียบๆ แต่พอวางลงไปมันก็หายไปซะเฉยๆ เขาตกใจอยู่หน่อยๆ แต่ก็เรียกสติกลับมาได้อย่างรวดเร็วแล้วออกรถ ขับเข้าเมืองเซี่ยงไฮ้พร้อมกับเด็กหนุ่มข้างๆ

“ผมชื่อหลี่เหวิน” เด็กหนุ่มพันตัวเองด้วยเสื้อโค้ทที่ถังโม่ให้ยืม แล้วพูดเสียงสั่น “ขอบคุณ ผมตื่นมาได้ยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลย แต่พอลองวิ่งไปที่ด่านเก็บเงินก็ไม่มีใครอยู่สีกคน ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยกลับไปที่รถ จากนั้นไม่นานก็เห็นคุณ คุณแข็งแรงมากเลยนะ ผมมีเสื้อกันลมอยู่ในรถแต่รถพังยับขนาดนั้นเลยเอาออกมาไม่ได้ นึกว่าจะหนาวตายแล้ว”

“ผมชื่อถังโม่” แล้วเขาก็ถามแบบสบายๆ “นายไม่แข็งแรงขึ้นเลยเหรอ?”

หลี่เหวินส่ายหน้า “ไม่ได้มากนักหรอก ผมไม่มีแรงเข็นรถพวกนั้นออกไป เอาเสื้อกันลมออกมาก็ไม่ได้”

“แต่นายก็ยังไม่ตาย”

หลี่เหวินจ้องถังโม่ด้วยสายตาว่างเปล่า

ถังโม่จับพวงมาลัยมือเดียว “อุบัติเหตุร้ายแรงขนาดนั้น แต่นายก็ยังรอดมาได้แถมยังไม่ได้เสียแขนขาไปสักข้าง ไม่คิดว่ามันแปลกๆ เหรอ?”

หลี่เหวินรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เง่า

ถังโม่ไม่ได้พูดอะไรอีกตอนที่หลี่เหวินก้มหน้าคิดอะไรไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นความคิดทุกอย่างก็เปิดเผยออกมาทางสีหน้าหมดแล้ว ถังโม่มองอีกฝ่ายแวบหนึ่งก็รู้ว่าชายคนนี้กำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง และทำไมเขาถึงยังรอดมาได้

ถังโม่เหมือนจะขับรถแบบสบายๆ แต่ความจริงแล้วเขาแอบมองหลี่เหวินอยู่ตลอด

ช่วงเวลาแบบนี้อยู่คนเดียวน่าจะปลอดภัยที่สุด แต่การมีเพื่อนร่วมทีมเองก็ดีเหมือนกัน หลี่เหวินอาจจะเข้าร่วมเกมของหอคอยแล้วชนะมาได้เหมือนเขา เขาจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด แต่จากการสังเกต หลี่เหวินดูเหมือนนะเป็นลูกคนรวยที่ดูโง่เง่า ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร

ถ้าเขาปล่อยให้คนโง่แบบนี้ยืนอยู่บนทางด่วนต่อไป… บางทีหมอนี่อาจจะตายก็ได้

หลี่เหวินโพล่งขึ้นมา “บอกหน่อยได้ไหมว่าหอคอยดำประกาศอะไรตอนที่ผมหมดสติไป?”

ถังโม่เล่าเหตุการณ์ให้อีกฝ่ายฟังแบบคร่าวๆ

“คุณจะไปตามหาญาติที่เซี่ยงไฮ้เหรอ? ผมคุ้นที่แถวนี้มากนะ อยากให้ช่วยอะไรไหม?” หลี่เหวินถาม

ถังโม่เคยมาเซี่ยงไฮ้สองสามครั้งแต่เขาก็ไม่ใช่คนท้องที่ คงยากที่จะตามหาใครสักคนเอง “ผมขึ้นเหนือมาตามหานักเรียนคนหนึ่งน่ะ ผมรู้จักแค่ชื่อของเธอ ตั้งใจว่าจะไปลองหาดูที่โรงเรียน ถ้าเธอไม่อยู่ที่นั่นค่อยไปลองหาดูที่บ้าน” แต่ถ้าเธอไม่อยู่ที่ไหนเลยก็คงไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้แล้ว มีแค่สิ่งนี้เท่านั้นที่เขาจะทำให้ร่างทรงได้

ถังโม่ไม่ได้พูดถึงแผนตามหาเพื่อนตัวเอง ทุกคนก็มีเรื่องที่ปิดซ่อนไว้กันทั้งนั้น แล้วเขาก็ไม่อยากเปิดใจกับหลี่เหวินมากขนาดนั้น

“ทางเหนือเหรอ? ถ้าเป็นแถวจิงอัน บ้านผมก็อยู่แถวนั้นพอดีเลย ตอนม.ต้นผมเรียนที่นั่น เดี๋ยวจะไปด้วยแล้วกัน”

ถังโม่มองอีกฝ่ายอย่างสงสัย

หมอนี่โง่จริงๆ หรือฉลาดจนรู้ว่าถังโม่บอกไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่?

แต่ถังโม่ก็คิดว่าน่าจะเป็นข้อแรกมากกว่า

หลี่เหวินที่ตัวอุ่นขึ้นเพราะเสื้อโค้ทเริ่มพูดต่อ

“เดี๋ยวเราลงทางด่วนแล้วผ่านในเมืองกัน พอถึงแล้วผมจะไปช่วยคุณหานะ คุณรู้ไหมว่าเธออยู่ชั้นอะไร? มันคงง่ายกว่าถ้าเรารู้”

“เธออยู่เกรดหนึ่งน่ะ”

หลี่เหวินพยักหน้า “น่าจะหาง่ายขึ้นเยอะ”

หลี่เหวินลังเลอยู่ครู่หนึ่งถึงกล้าถาม “ถังโม่ ผมถามหน่อยได้ไหม คุณรู้ไหมว่า…มันเกิดอะไรขึ้นกับหอคอยน่ะ? ทำไมถึงมีคนที่หายไป แต่บางคนก็ไม่?”

เขาพูดมากเหลือเกินเวลาตั้งใจจะถามคำถาม

หลี่เหวินหมดสติจนถึงตอนนี้เพราะอุบัติเหตุ เขาพลาดข้อมูลของหนึ่งวันเต็มๆ ไป เขาเสนอตัวช่วยเหลือถังโม่ก็เพราะมีเหตุผล ในมุมหนึ่งเขาอยากช่วยเพื่อเป็นการตอบแทนที่พาเขากลับเซี่ยงไฮ้จริงๆ แต่อีกมุมหนึ่งเขาก็ต้องการข้อมูลของสถานการณ์ปัจจุบัน

แต่คำถามของเขาก็บอกชัดเจนว่าเขาไม่ได้เล่นเกมของหอคอย

ถังโม่หน้าบึ้งน้อยๆ

มีคนที่รอดมาได้โดยที่ไม่ได้เล่นเกมเหรอ? เขาเลียริมฝีปาก คิดหาคำตอบให้หลี่เหวิน แต่ตอนที่จะตอบ เสียงร่าเริงแบบเด็กๆ ก็ดังขึ้นทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้

“Thank you, thank you, thank you.

Let’s all say thank you.

We will all say thank you.

On this special day !”

เสียงเด็กประสานเสียงตามเสียงสดใสของผู้หญิง เพลงที่เปี่ยมความพึงพอใจและเพลิดเพลินนี้ไม่เข้ากับเมืองที่เหมือนตายแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงร้องเพลง ถังโม่เหยียบเบรค ขณะที่หลี่เหวินยกมือขึ้นกุมหัวด้วยความหวาดกลัว พวกเขาจ้องมองหอคอยดำที่ลอยอยู่เหนือใจกลางเซี่ยงไฮ้

หลังจากบทเพลง ‘ขอบคุณ’ จบลง แสงหลายสีบนหอคอยดำก็หายไป ถังโม่กลั้นหายใจขณะมองไปที่หอคอยนั้น

แล้วเขาก็ได้ยิน---

“ดิ๊งด่อง! จีนเขต 1 ผู้ลักลอบ ฟู่เหวินตั๋ว ได้เปิดชั้นแรกของหอคอยสำเร็จแล้ว ในสามนาที ผู้เล่นทุกเขตในจีนจะเริ่มต้นโจมตีหอคอย!”

“ดิ๊งด่อง! จีนเขต 1 ผู้ลักลอบ ฟู่เหวินตั๋ว ได้เปิดชั้นแรกของหอคอยสำเร็จแล้ว…”

“ดิ๊งด่อง! จีนเขต 1 ผู้ลักลอบ ฟู่เหวินตั๋ว ได้เปิดชั้นแรกของหอคอยสำเร็จแล้ว…”

หอคอยดำประกาศข้อมูลนี้ออกไปสามครั้ง

ถังโม่เบิกตากว้างตอนที่ประโยค ‘เริ่มต้นโจมตีหอคอย’ ก้องอยู่ในหู แล้ววินาทีถัดมาทัศนวิสัยของเขาก็มืดสนิท แล้วทั้งร่างเขาก็ร่วงลงไป---

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด