ตอนที่แล้วGE404 ทะลวงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE406 สตรีลึกลับ [ฟรี]

GE405 เกาะไผ่อัสนี [ฟรี]


ตามที่ได้ตกลงกับเฉวียนยี่ไว้ อีกไม่นานจะถึงเวลาที่หนิงฝานต้องไปเยือนเผ่าหกปีก

ยามนี้เยว่หลิงคงบาดเจ็บสาหัสจากการทะลวงระดับล้มเหลว นางจึงต้องพักรักษา

หากนางหายจากอาการบาดเจ็บ นางกล่าวว่าสามารถสร้างประตูจันทราให้หนิงฝานเดินทางไปยังเผ่าหกปีได้

การที่นางฟื้นฟูพลังกลับคืน ทำให้นางมีความมั่นใจมากขึ้น หากนางหายจากอาการบาดเจ็บ นางมั่นใจว่าสามารถทำลายเผ่าหกปีกได้ด้วยตัวคนเดียว

ดวงจิตที่ 2 ของนางสามารถรับมือทาสไร้ดัดแปลง 3 ตนของหนิงฝานได้ ตัวนางในยามนี้ที่ผสานกับดวงจิตที่สอง ย่อมทรงพลังกว่าดวงจิตของนางมาก ต่อให้เป็นเฉวียนยี่ก็คงสู้นางไม่ได้เช่นกัน

ดังนั้นยามนี้การพักรักษาตัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนาง

ยามนี้นางนั่งขัดสมาธิอยู่ในสถานที่ลับแห่งหนึ่งในร่างเปลือยเปล่า แสงดาราทมิฬฉายอาบร่างนาง หนิงฝานเป็นผู้โคจรวิชาดาราทมิฬเร่งการรักษานางอย่างเต็มกำลัง

ดาราทั้ง 99 ดวงของหนิงฝานทำให้ความเข้าใจในวิชาดาราทมิฬเพิ่มพูน แต่ถึงแม้จะรักษาอาการบาดเจ็บได้ แต่เขายังไม่บรรลุขั้นที่จะสามารถฟื้นฟูแก่นโลหิตที่เสียไปได้ในทันที

อีกอย่างตอนนี้ ดวงจิตของหลิงคงมีรอยร้าว วิชาดาราทมิฬของหนิงฝานก็ยังรักษาไม่ได้

“แสง...อันตราย” ศพนางสวรรค์ชี้นิ้วไปยังบริเวณตันเถียนของหลิงคง นางรู้ว่าดวงจิตของหลิงคงอยู่ในอันตราย หนิงฝานเองก็ทราบ จึงทำให้เขาตั้งใจรักษา ทั้งยังตำหนิหลิงคงยกใหญ่

“ดวงจิตเกิดรอยร้าว… หลิงเอ๋อร์ ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าจะมุทะลุขนาดนี้! เจ้าไม่รู้เหรอว่าหากดวงจิตเกิดรอยร้าวจะเป็นอันตรายขนาดไหน!”

“เจ้าเองก็ช่วยข้าไว้ตั้งหลายครั้ง เจ้ายังไม่รู้นิสัยข้าและยังตำหนิข้าอีกเหรอ? โอ้ย!!” ในขณะที่นางเถียง หนิงฝานก็หวดเข้าที่ก้นของนางอย่างแรง

นางไม่พอใจที่ถูกเขาลงโทษ ที่สำคัญเขายังตีแรงจนก้นนางเป็นรอย

ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครกล้าตีก้นนางแบบนี้ หากเป็นเมื่อก่อนนางคงโกรธหนิงฝานเป็นฟืนเป็นไฟ

แต่ยามนี้นางไม่โกรธ และนางก็เข้าใจด้วยว่าทำไมหนิงฝานถึงโกรธ

เพราะการที่นางเพิ่งผสานกับดวงจิตสำเร็จ แล้วฝืนทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป หากทะลวงระดับล้มเหลว จะก่อให้เกิดผลร้ายกับร่างกายและดวงจิตเป็นอย่างมาก

หากดวงจิตเกิดรอยร้าว มันจะยิ่งเปราะบางและแตกสลายได้ง่าย ที่สำคัญรอยร้าวของดวงจิตนางก็ไม่ธรรมดา แม้เป็นแสงดาราทมิฬก็ไม่อาจรักษาให้หายได้

การผสานดวงจิตเทียบได้กับการผสานร่างของผู้เชี่ยวชาญ 2 คน แต่ละคนมีพลังเป็นของตน มีจิตสำนึกเป็นของตน ดังนั้นพลังจำนวนมหาศาลของอีกคนที่เข้ามาในร่างอีกคน ย่อมรุนแรงจนอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต

ในอดีตดวงจิตที่ 2 และศิษย์ของนางทรยศนาง ดังนั้นยามนี้ นางจึงไม่เลือกที่จะดูดกลืนดวงจิตตน แต่เลือกที่จะผสานเพราะจะได้พลังที่มากขึ้น

ความสำเร็จในการผสานกันของสองดวงจิตมีน้อยมาก ที่สำคัญ การผสานแม้จะสำเร็จแต่ก็ต้องเกิดรอยร้าวในส่วนที่ไม่อาจเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์

ดังนั้นสำหรับหนิงฝานแล้ว การที่ดวงจิตมีรอยร้าวเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก

หากรักษานางไม่หาย หนิงฝานก็ไม่มีใครเปิดประตูจันทราไปยังเผ่าหกปีก

“นี่เจ้ากล้าตีก้นข้าเหรอ? ฮึ่ม! เห็นแก่แตงกวาน้อยของเจ้า ข้าจะไม่เฉือนมันทิ้ง!” นางกล่าวด้วยท่าทีขุ่นเคือง

การปรากฏขึ้นของรอยร้าวบนดวงจิตนาง ส่งผลอีกอย่างคือทำให้นางใช้ปราณไม่ได้

“แตงกวาน้อย… อย่าโกรธข้าเลย ครั้งหน้าข้าจะถามเจ้าก่อนหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ยกโทษให้ข้าเถอะ!” นางรู้ว่านางทำผิด และทำให้เขาเป็นห่วงมาก

“จำคำเจ้าไว้ให้ดี อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก! ตอนนี้เจ้าพักเถอะ ข้าจะเร่งหาวิธีไปยังเผ่าหกปีกให้ได้ภายใน 1 เดือน ศิลาฟื้นฟูน่าจะช่วยรักษาดวงจิตของเจ้าได้” หนิงฝานกล่าว

“ไม่จำเป็นหรอก ข้ารู้จักที่หนึ่งที่จะช่วยรักษาดวงจิตของข้า ที่นั่นไกลจากที่นี่แค่พันล้านลี้... ด้วยความเร็วของเจ้าน่าจะไปถึงที่นั่นได้ภายใน 10 วัน หากข้าฟื้นฟูจนสมบูรณ์ ข้าก็สามารถเปิดประตูจันทราพาเจ้าไปเผ่าหกปีกได้ในพริบตา… ศิลาฟื้นฟูควรเก็บไว้รักษาสตรีของเจ้า อาการของนางน่าเป็นห่วงกว่าข้ามาก”

หลิงคงหันมองศพนางสวรรค์ด้วยแววตาโศกเศร้า นางได้อยู่ร่วมกับศพนางสวรรค์มานาน ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน จึงมีความผูกพันธ์ให้แก่กัน

หลิงคงไม่ได้เบาปัญญา นางมั่นใจว่าจะผสานกับดวงจิตที่ 2 ได้สมบูรณ์ ซึ่งนางก็ทำได้จริง แต่ข้อผิดพลาดของนางอยู่ที่การฝืนทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง

แม้จะผิดพลาด แต่มันก็ทำให้นางได้เข้าใจในความรู้สึกของตน เพราะยามนี้ นางยอมสยบให้หนิงฝานแล้ว

“สถานที่ที่เจ้าว่าคือที่ไหน? แล้วที่นั่นช่วยรักษาดวงจิตของเจ้าได้จริงหรือเปล่า?” หนิงฝานกล่าวถาม

“เกาะไผ่อัสนี… หนึ่งในขุมกำลังที่อยู่ในปกครองของตระกูลซัว ที่นั่นมีไผ่อัสนีที่มีผลในการรักษาดวงจิต ที่นั่นจะรักษาดวงจิตของข้าได้”

“ไผ่อัสนี...” หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาเคยได้ยินเรื่องราวของไผ่อัสนี แต่คาดไม่ถึงว่ามันจะรักษาดวงจิตของหลิงคงได้

ก่อนจะเข้าสู่ทะเลส่วนใน หนิงฝานเคยหาข้อมูลของเกาะไผ่อัสนี

สถานที่แห่งนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของไผ่อัสนี มีอัสนีที่ทรงพลังคอยหล่อเลี้ยงพวกมัน

เท่าที่เขารู้ ไผ่อัสนีส่วนใหญ่ของที่นั่นจะเป็นไผ่อัสนีเงิน ซึ่งจะรักษาได้เฉพาะดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ นั่นหมายความว่าไผ่เงินเหล่านั้นไม่อาจใช้รักษาดวงจิตของหลิงคงได้

นั่นทำให้หนิงฝานเข้าใจว่าไผ่อัสนีเหล่านั้นไม่อาจรักษาหลิงคงได้ อีกอย่างตระกูลซัวยังเป็นขุมกำลังที่ทรงพลังจนยากจะหยั่งถึง หนิงฝานจึงเป็นกังวล

แม้กษัตริย์อัสนีจจะตายไปแล้ว แต่ยังสร้างความกังวลให้วิหารพิรุณได้

ผู้อาวุโส 3 ที่ทรงพลังของตระกูลซัวเองยังไม่ปรากฏตัว คนผู้นั้นทำให้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงของวิหารพิรุณหวั่นเกรงได้เช่นกัน

เผ่าเนตรพรายก็เป็นอีกหนึ่งขุมกำลังที่หนิงฝานไม่ทราบความแข็งแกร่งของมัน ดังนั้นเขาจะไม่ยั่วยุมันเด็ดขาด

“แต่ไผ่อัสนีเงินไม่อาจรักษาดวงจิตเจ้าได้...” หนิงฝานขบคิดอยู่นานก่อนส่ายหน้าพลางกล่าว

“ใครบอกว่าข้าจะใช้ไผ่อัสนีเงินรักษา? ข้าคือหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งในทะเลส่วนใน มีสิทธิ์เข้าไปยังส่วนที่เป็นไผ่อัสนีทองคำ เจ้ารู้หรือเปล่าว่าผู้ติดตามของกษัตริย์อัสนีจะได้ใบของไผ่อัสนีทองคำ 1 ใบทุกๆ 10 ปี แต่หากเรามีหยกสวรรค์มากพอ เราก็ขอซื้อใบไผ่อัสนีทองคำได้เช่นกัน”

หนิงฝานไม่รู้จักไผ่อัสนีทองคำ แต่นั่นก็ไม่แปลกเพราะไผ่อัสนีทองถือเป็นความลับที่ไม่อนุญาติให้แพร่งพราย อีกอย่าง มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงของตระกูลซัวเท่านั้นที่มีสิทธิ์รับได้มัน

นั่นเป็นเพราะ ไผ่อัสนีทองคำสามารถรักษาดวงจิตได้ จึงถือเป็นสมบัติล้ำค่าของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง

หนิงฝานเองก็เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังอันดับต้นๆของทะเลส่วนใน เขาน่าจะต่อรองกับตระกูลซัวได้

“ไผ่อัสนีทองคำ...” หนิงฝานพยักหน้า หากที่นั่นมีไผ่อัสนีทองคำจริง เขาก็จะพาหลิงคงไป

ระยะห่างพันล้านลี้ 10 วันก็น่าจะถึง

ผ่านไป 10 วัน… หนิงฝานมาถึงเกาะไผ่อัสนี เขาต้องนำไผ่อัสนีทองคำมาให้หลิงคง เพื่อให้นางเปิดประตูจันทรา พาเขาไปยังเผ่าหกปีก

เขาจะผิดนัดไม่ได้ เพราะมันคือโอกาสที่ศพนางสวรรค์จะได้ฟื้นฟูทะเลสติ

ก่อนจะออกมาจากเกาะมิติเทพ หนิงฝานได้นำน้ำเต้าโลหิตไปซ่อนไว้ยังส่วนที่ลึกที่สุดของเกาะ และวางข่ายอาคมเอาไว้ ซึ่งข่ายอาคมนั้นจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับต่ำกว่าขอบเขตตัดวิญญาณสัมผัสถึงกลิ่นอายของน้ำเต้าโลหิตได้ ที่ทำเช่นนั้นก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่บังเอิญผ่านมาได้กลิ่นเข้า

ดังนั้นนอกจากผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเพียงไม่กี่คนของวิหารพิรุณแล้ว ก็ไม่มีใครเข้าที่นี่ได้อีก

อีก 9 ปีข้างหน้า หนิงฝานก็จะมีสุราที่ล้ำค่าดื่ม มันจะช่วยให้เขาได้ปราณจำนวนมหาศาล แต่กว่าจะถึงยามนั้น หนิงฝานจะไม่กลับไปยังเกาะมิติเทพอีก

ในขณะที่หนิงฝานขบคิด เยว่หลิงคงและศพนางสวรรค์นิ่งเงียบในอ้อมกอด หนิงฝานประหลาดใจ เพราะโดยปกติแล้วเยว่หลิงคงจะไม่สงบขนาดนี้ สงบจนอาจจะกล่าวได้ว่านางยอมเชื่อฟังเขา

ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา หนิงฝานมุ่งมายังเกาะไผ่อัสนีด้วยความเร็วสูง จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่พบระหว่างทางหวาดกลัว

เมื่อเข้ามาถึงขอบนอกของเกาะ หนิงฝานปล่อยศพนางสวรรค์และหลิงคง

ยามนี้ เกาะไผ่อัสนีเปิดข่ายอาคมคุ้มกัน เพียงแต่ข่ายอาคมไม่ได้ทรงพลังมากนัก ราวกับแค่เตือนไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญผ่านเข้าไป

แต่หนิงฝานไม่ได้สนใจ เขาทำลายข่ายอาคมแล้วเข้าสู่เกาะ

ในระหว่างที่เข้าไปนั้น ยามอารักขาเกาะกว่า 10 คนก็ปรากฏตัว

“ช้าก่อน! เกาะไผ่อัสนีเราขายไผ่อัสนีเงินไปหมดแล้ว หากพวกท่านมาเพราะต้องการมัน เราคงตอบสนองความต้องการของท่านไม่ได้! เชิญท่านกลับเถอะ”

หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาเพิ่งมาถึงแต่อีกฝ่ายกลับไล่ให้เขากลับ

ถึงพวกมันจะเห็นไม่ชัดว่าหนิงฝานเป็นใคร แต่มันรู้ว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ

การที่พวกมันรู้ว่าหนิงฝานเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณแต่ยังกล้าขับไล่ แสดงว่าพวกมันมีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังหนุนหลัง

ผู้ที่พวกมันขับไล่ออกจากเกาะไม่ได้มีแค่หนิงฝาน ยังมีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ดวงจิตแรกเริ่ม และตัดวิญญาณอีกหลายคน ซึ่งคนเหล่านั้นเองก็ไม่กล้าขัดขืน

“ที่ข้ามาไม่ได้มาเพราะไผ่อัสนีเงิน แต่มาเพราะไผ่อัสนีทองคำ...” หนิงฝานยืนมือไพล่หลังพลางกล่าวอย่างเรียบเฉย

“ไผ่อัสนีทองคำ!?” สีหน้าคนเหล่านั้นแปรเปลี่ยน พวกมันเพ่งมองหน้าหนิงฝานและหลิงคง

“ท่านซัวหมิง! ท่านเยว่หลิงคง! ผู้เยาว์มีตาหามีแววไม่! ผู้อาวุโสให้อภัยด้วย!”

พวกมันทั้งหมดจดจำหนิงฝานได้อย่างชัดเจน จึงเร่งป้องมือกล่าวด้วยความหวาดกลัว

“รายงานท่านเยว่ ท่านหมิง ยามนี้เกาะไผ่อัสนีของเรากำลังมีงานสำคัญ แม้พวกท่านจะมีสิทธิ์ครอบครองไผ่อัสนีทองคำ แต่เหตุการณ์ของเกาะเรายามนี้ยังไม่เอื้อให้ท่านทำเช่นนั้นได้… แต่หากเป็นอีก 1 ปีข้างหน้าท่านกลับมาใหม่ พวกข้าจะเตรียมไผ่อัสนีทองคำไว้ให้พวกท่านอย่างแน่นอน!”

หนิงฝานประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าแม้คนเหล่านี้จะรู้จักเขาและหลิงคง แต่พวกมันยังไม่ยอมให้เข้าเกาะ

การที่ตระกูลซัวยอมทำเช่นนี้ แสดงว่าพวกมันมีเรื่องสำคัญจริงๆ

แต่หากให้รอไปอีก 1 ปี ยามนั้นดวงจิตของหลิงคงอาจแตกสลายไปก่อน

“ทำยังไงดี?” หลิงคงขมวดคิ้ว นางคิดว่าจะได้ใบไผ่อัสนีทองคำมารักษาดวงจิต แต่ดูเหมือนยามนี้จะพลาดเสียแล้ว

“จะเข้าเกาะก็ไม่ได้… จะถอยกลับก็ไม่ได้... ก็คงต้องใช้วิธีการบางอย่าง” หนิงฝานหันหลังกลับ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีสัมผัสเทพของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 4 คนกำลังเพ่งเล็งเขาอยู่ และหนึ่งในนั้นคือขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง!

คนเหล่านั้นสมควรเป็นคนของตระกูลซัว พวกมันรู้ว่าหนิงฝานมีทาสไร้ดัดแปลง 3 ตน จึงเกรงว่าหนิงฝานจะบุกเข้าเกาะ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น พวกมันจะลงมือทันที

หนิงฝานไม่ได้บุกฝ่าเข้าไปอย่างที่คนเหล่านั้นกังวล เพราะเขาไม่อยากยั่วยุตระกูลซัว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็มีวิธีที่จะแอบเข้าไปภายในนั้นได้

ผ้าคลุมลวงสวรรค์!

เขาสามารถพาพวกนางเข้าสู่เกาะไผ่อัสนีได้โดยที่ไม่มีผู้ใดทราบ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกก็ตาม

เมื่อเห็นหนิงฝานหันกายจากไป ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงของตระกูลซัวก็โล่งใจ เพราะพวกมันก็ไม่อยากหาเรื่องหนิงฝานเหมือนกัน

ศพนางสวรรค์สีหน้าเรียบเฉย แต่หลิงคงผิดหวัง

นางเห็นหนิงฝานทำสิ่งต่างๆเพื่อสตรีของตน แต่เมื่อถึงคราวนาง หนิงฝานกลับเลือกที่จะยอมถอย ราวกับไม่ได้เป็นห่วงนางจริงๆ

“ทำไมข้าต้องผิดหวังด้วย? ตระกูลซัวทรงพลัง เจ้าแตงกวาน้อยไม่อยากยั่วยุตระกูลซัว ผลที่ได้เป็นเช่นนี้ก็ถูกแล้ว ข้าก็แค่คนที่หวังพึ่งเขา ไม่ใช่สตรีของเขาเสียหน่อย ข้าจะมีสิทธิ์อะไรไปผิดหวัง...” นางกล่าวกับตนเอง นางคิดว่าคงถึงคราวที่นางจะต้องไป

เมื่อหนิงฝานพานางออกมาจากเกาะไผ่อัสนีได้ล้านลี้ นางก็กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องเกาะมิติเทพข้าขอบคุณเจ้ามาก ข้าจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ไปชั่วชีวิต ถึงคราวที่ข้าต้องไปแล้ว ไว้เราค่อยพบกันใหม่”

นางผละออกจากอ้อมกอดหนิงฝานแล้วเตรียมจากไป หนิงฝานมองการกระทำของนางด้วยความสงสัย จับมือรั้งนางไว้แล้วกล่าวถาม “เจ้าจะไปไหน?”

“ไปที่ไหนก็ได้...เพราะยังไงข้าก็ไม่ใช่สตรีของเจ้า!” นางกล่าวด้วยโทสะ ระบายสิ่งที่คับข้องอยู่ภายใน

“ทำไมเจ้าจะไม่ใช่สตรีของข้า ข้ากำลังจะพาเจ้าลอบเข้าเกาะไผ่อัสนี หรือว่า...เจ้าไม่อยากรักษาดวงจิตแล้ว?”

หนิงฝานพูดไม่ออกกับนิสัยคิดเองเออเองของนาง

“ลอบเข้าเกาะไผ่อัสนี? ข้าไม่เข้าใจ...” นางตกตะลึง นางไม่รู้ว่าหนิงฝานคิดจะพานางกลับเข้าไป

ผ้าคลุมผืนหนึ่งปรากฏห่มคลุมกายหนิงฝาน เขาโอบกอดหลิงคงและศพนางสวรรค์ไว้แนบกาย ทำให้ตัวตนของทั้ง 3 ราวกับหายไปจากโลกนี้

“นี่...นี่มัน… สมบัติระดับไร้แบ่งแยก ที่มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเท่านั้นที่ทำพันธะสัญญาได้! เจ้าทำได้ยังไง? แล้วนี่คือวิธีลอบเข้าเกาะไผ่อัสนีเหรอ? เจ้าจะบ้าหรือเปล่า? ถ้าเกิดตระกูลซัวรู้เข้า...” นางตกตะลึง

ถึงตระกูลซัวรู้แล้วจะเป็นอะไร? หนิงฝานไม่ได้หวาดกลัวพวกมันอยู่แล้ว

“เจ้าเลิกกังวลได้แล้ว เจ้าเป็นสตรีของข้า อย่าได้อิจฉาคนอื่นๆไปเลย” หนิงฝานกล่าวพลางพาพวกนางมุ่งไปยังเกาะไผ่อัสนี

“อิจฉา? ใครอิจฉาเจ้า? อย่าหลงตัวเองนักเลย! เจ้ามันก็แค่แตงกวาน้อยเท่านั้นแหละ!” หลิงคงบ่นกล่าว แม้นางจะดีใจ แต่นางก็เริ่มกังวล เพราะหากถูกจับได้ ต่อให้หนิงฝานมีทาสไร้ดัดแปลง 3 ตนก็ไม่อาจต้านรับผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงทั้ง 4 คนของตระกูลซัวได้

แต่อย่างน้อยก็ทำให้นางก็เข้าใจว่าตนเองสำคัญสำหรับหนิงฝาน ถึงขนาดที่ยอมเสี่ยงพานางลอบเข้าเกาะไผ่อัสนี...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด