บทที่ 154 - หอกโกลาหลสีชาด (4) [07-04-2020]
บทที่ 154 - หอกโกลาหลสีชาด (4)
”
เป็นเวลา 20 วันแล้วนับตั้งแต่ที่ฉันได้เริ่มกวาดล้างดันเจี้ยน ในตอนนี้มีเหตุการดันเจี้ยนเหลือเพียงแค่ 48 แห่งบนโลกเท่านั้น
"เพีนวแค่แต้มโบนัสสเตตัสขอ.ฉันก็มากว่า 150 แล้วนะ แถมฉันก็ยังมีแต้มทักษะเก็บไว้อีกมากด้วย"
ฉันได้นั่งมองแต้มสเตตัสของฉันอยู่ในโรงแรมของนิวยอร์ค
[ชื่อ: คัง ชิน เผ่าพันธุ์: มนุษย์ เพศ: ชาย
คลาส: ผู้ใช้ธาตุ(ย่อย - นักสะสมทักษะ,ผู้ฝึกมอนสเตอร์) ฉายา: ซุส ระดับ: ทอง 9
เลเวล: 54
Hp - 43,820/43,820 Mp - 35,460/35,460
ความแข็งแรง - 215(+111) ความคล่องแคล่ว - 205(+79) ทนทาน - 194(+66)
สติปัญญา - 32(+59) พลังเวทย์ - 200(+109) เสน่ห์ - 87(+99) โชค - 39(+49)
ทักษะธรรมดา - ศิลปะการต่อสู้ระดับสูงเลเวล 6 เพรูต้า ไต้ฝุ่นคลั่งเลเวล 1 ความเชี่ยวชาญหน้าไม้ระดับกลางเลเวล 9 เส้นทางวายุระดับกลางเลเวล 2 สายฟ้าขาวจู่โจมต่อเนื่องระดับกลางเลเวล 4 ฮีโร่อิคสไตรค์ระดับสูงเลเวล 2 ยั่วยุระดับสูงเลเวล 5 ความเร็วศักดิ์สิทธิ์เชี่ยวชาญ ย้อนกลับเลเวล 4 ความเชี่ยวชาญเกราะหนักเลเวล 5 พุ่งระดับกลางเลเวล 7 วงจรเพรูต้าเลเวล 8 การป้องกันวิญญาณเลเวล 8 ท่องมิติเลเวล 1 การพิสูจน์แห่งไดฟิค สวนกลับความตาย ขี่
ทักษะประจำคลาส - ความเชี่ยวชาญสปิริตระดับสูงเลเวล 2 สปิริตออร่าระดับกลางเลเวล 9 ควบคุมธาตุระดับกลางเลเวล 9 พันธะสัญญาระดับกลางเลเวล 9 พายุสายฟ้าระดับกลางเลเวล 2 ใบมีดธาตุระดับกลางเลเวล 8 พายุธาตุระดับกลางเลเวล 8 สายฟ้าคลั่งระดับ 6
ทักษะประจำคลาสรอง - แบ่งปันทักษะ ฝึกเลเวล 3 จิตวิญญาณนักสะสม จิตวิญญาณผู้ฝึกมอนสเตอร์]
[ความเร็ว +45% ความแข็งแรง +40% เสน่ห์ +15%]
[148 เหตุการดันเจี้ยนที่เคลียร์ไปแล้ว 9 เหตุการการจู่โจมที่เคลียร์ไปแล้ว แต้มโบนัสสเตตัสสะสม: 195]
[แต้มทักษะปัจจุบัน 21]
ไม่ว่าใจกว้างมากแค่ไหนแต่ว่าสเตตัสเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่นักสำรวจเลเวล 54 ควรจะมี วอร์คเกอร์ผู้ที่ได้เคลียร์เหตุการดันเจี้ยนมาด้วยกันกับฉันเป็นเวลา 3 สัปดาห์มีแต้มสเตตัสเพิ่งครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดของฉัน นอกจากนี้ฉันในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถที่จะแสดงศักยภาพของเสตตัสนี้ได้อย่างเต็มที่ หลังจากที่แต้มสเตตัสของฉันได้พเมมากขึ้นไปกว่า 150 ในไม่กี่สัปดาห์ ฉันก็รู้สึกได้ตลอดเวลาว่าร่างกายของฉันแข็งแกร่งขึ้นและปรับตัวเองอยู่ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะหยุดลง
"นายนอนหลับสบายไหม TK"
"ว่าไงเป็ปเปอร์"
ฉันได้สวมหน้ากากของฉันในตอนนี้อยู่และตอบเป็ปเปอร์กลับไปซึ่งเขาได้ถอนหายใจออกมา จากนั้นฉันก็ลุกขึ้นจากเตียง เป็ปเปอร์ที่ยืนอยู่ได้เปิดประตูเข้ามา
"อย่ามาทำเป็นงงนี่เป็นการชุมนุมของพวกเรา จากนี้มันจะมีเวลาอีกไม่นานแล้ว"
"ฉันไม่คิดว่าจะได้พบกับนายอีกในเร็ววันแบบนี้"
ฉันได้ตอบกลับไปอย่างเฉยเมยและดื่มน้ำลงไป เป็ปเปอร์ได้มองไปรอบๆและพลางทำท่าประหลาดใจ
"อะไรนะ คุณผู้หญิงผมสีบลอนด์ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอ?"
"อย่าคิดว่ารูเดียมักจะนอนกับฉันสิ เธอได้ใจเย็นลงไปมากแล้ว นอกจากนี้....มันจะมีปัญหาถ้าหากเธออยู่ที่เธอ?"
"นายพูดถูก ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปสำหรับวันนี้ มันเป็นวันนี้ใช่ไหม?"
"ใช่วันนี้แหละ ฉันไม่รู้ว่าใครแต่ฉันแน่ใจว่ามีคนให้ข้อมูลที่ดีมา"
หลังจากกินน้ำเสร็จฉันก็ได้กระแทกแก้วลงไปกับโต๊ะและบิดมุมปากของฉัน
ใช่แล้ววันนี้เป็นวันที่เราจะเข้าสู่ดันเจี้ยนระดับ SS ในแมนฮัทตัน
"TK อย่างที่นายรู้อยู่แล้วอเมริกาต้องทนทุกข์ทรกับเหตุการในหุบเขาแอนเทลโลปมาก เพราะมันพวกเขาคิดเกี่ยวกับเกตมากกว่าประเทศอื่นๆ ในตอนนี้เมื่อเกตได้ปรากฏออกมาเป็นจำนวนมาก พวกเขาก็ได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะทำลายเกตทั้งหมดแม้ว่าจะเป็นระดับต่ำก็ตาม
เป็ปเปอร์ได้อธิบายออกมาในขณะที่พวกเราเดินไปที่ลิฟต์ของโรงแรม
"ความจริงที่ว่าทีรีไวเวิร์ลกำลังจัดการเคลียร์เกตก็ยังมีอิทธิพลต่อพวกเขา นายรู้อยู่ใช่ไหม? ในวันนี้.... เราได้มีหนี้ใหญ่ที่ค้างชำระนาย"
"หนี้ นายพูด...."
ฉันได้คิดเกี่ยวกับเคียร่า แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญในตอนนี้ ฉันได้ปล่อยให้เป็ปเปอร์พูดต่อไป
"นายรู้ใช่ไหม อเมริกามีผู้ใช้พลังที่น่าทึ่งอยู่ เธอเป็นลูกสาวของครอบครัวที่ยิ่งใหญ่และเธอสามารถจะบอกได้ว่ามอนเตอร์จะปรากฏตัวหรือไม่เมื่อเกตหายไป
เขาได้เริ่มที่จะพูดถึงเธอ
"ด้วยความช่วยเหลือของเธอ พวกเราได้เริ่มทำลายเกตที่ไม่มีมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ปรากฏตัวออกมา ผู้พิทักษ์ ปีกแห่งเสรี พวกอิสระ ทั้งหมดนี้ได้ร่วมมือในเป้าหมายเดียวกัน แน่นอนว่าเราไม่ได้มีเวลาที่จะทำลายพวกมันทั้งหมดนั้น เราจะต้องขอบคุณนายที่ช่วยเราทำลายเกตพวกนั้น"
"สำหรับประเทศขนาดใหญ่ อเมริกาไม่ได้มีเกตที่มากนัก นอกจากนี้มอนสเตอร์ปรากฏแค่ 2 จากทั้งหมดนั้น"
โชคดีทื่ผู้พิทักษ์ในอเมริกาได้บอกพวกเราเกี่ยวกับมันแล้ว เป็นการขอบคุณพวกเราจึงได้ขายศพมอนสเตอร์ออกไปในราคาถูก ด้วยทางนี้มันจะเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
เมื่อพวกเขาบอกพวกเราว่าพวกเขารู้ที่ๆบอสจะปรากฏตัวออกมา ฉันก็ได้ส่งสัยว่าเคียร่ามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะมีส่วนเกี่ยวข้องที่มากขนาดนี้ มันดูเหมือนว่าเธอก็กำลังทำให้ดีที่สุดเพื่อประเทศของเธอ
....ถ้าเพียงเธอจะทำแบบนี้ต่อไป
"สวัสดีตอนเช้า อ่า เป็ปเปอร์ก็อยู่ที่นี่ด้วยหรอ? อย่าบอกฉันนะว่าจริงๆแล้วเขาเป็น..."
"ฉันก็รู้สึกตกใจที่เห็นใบหน้าของเธอในตอนเช้าเหมือนกัน"
"ฉันดีใจนะที่ได้เห็นเธอสุขภาพดีแม่มดเพลิง ยังไงก็ตาม TK เพื่อที่จะตัดปัญหาอเมริกาจะช่วยซับพอทนายให้มากที่สุด พวกเรารู้สึกดีกับสาเหตุของนายและพวกเราก็ต้องการจะช่วยนาย คนอเมริกาจำนวนมากได้ประทับใจในความกล้าหาญของนายที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนระดับ SS ในฐานะที่มันเป็นดันเจี้ยนระดับ SS ฉันจึงไม่สามารถจะพลาดมันได้ ถ้าฉันทำมัน ฉันก็จะสูญเสียเกียรติในฐานะผู้พิทักษ์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่"
"พวกเราก็กำลังจะทำในสิ่งที่ทำได้"
"อู เท่อะไรแบบนี้ TK"
ด้วยการฟังคำยกยอของเป็ปเปอร์ ฉันก็ได้เข้าไปหาคนอื่นๆ ในขณะที่พวกเราไม่ต้องเข้าไปในตอนที่เราเหนื่อย พวกเราแต่ละคนจึงใช้เวลาพักผ่อนครู่หนึ่งและตรวจสอบอุปกรณ์และโพชั่นต่างๆ พวกเรายังใช้แต้มโบนัสสเตตัสที่ได้รับมาก หลังจากวันนี้เราได้อยู่ในสภาพที่สูงที่สุดแล้ว
แม้กระทั่งชูนะที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเราก็ยังสามารถที่จะเทียบได้กับผู้ใช้พลังระดับ SS ในแง่กายภาพ หรือก็คือฮวาหยาและฉันซึ่งเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด อาจ...จะสามารถอธิบายได้เพียงว่าเป็นระดับ SSS
"ทุกคนพร้อมแล้วนะ"
"พร้อม"
"ฉันจะเปลื่ยนมันและฉันก็พร้อมจะไปแล้ว"
"เยี่ยม ฉันรู้สึกเหมือนฉันจะไม่ตายในเร็วๆนี้"
"ฉันกำลังรออยู่เลย"
ทุกๆคนดูเหมือนจะได้บำรุงรักษาอุปกรณ์ของตัวเองซึ่งกำลังส่องแสงออกมา สำหรับฉันแล้วมันดูไม่น่าเชื่อมาด้วยกันกับเลนท์แห่งความลับ กางเกงขาสั้นเธอมดาและเสื้อยืด ยังไงก็ตามฉันมีแหวนอยู่หลายวงบนนิ้วมือและกำไรที่เปลื่ยนเป็นชุดเพราะได้ตลอดเวลาที่ฉันต้องการ บนหูของฉันก็ยังมีต่างหูอยู่หนึ่งอันและสายรัดคอ ในตอนนั้นเองฉันก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง
"...ไม่ใช่ว่าฉันดูเหมือนพวกไร้สาระหรอกหรอ?"
"ไม่ ต้องขอบคุณหน้ากากของนาย นายเพียงแค่ดูเหมือนคนแปลกหน้าเท่านั้น"
"ให้ตายสิ"
"แต่ว่าด้วยใบหน้าที่หล่อและร่างกายที่ดี นายดูโอเคเลย"
"นั่นมันไม่ใช่คำชมนะ"
ดันเจี้ยนระดับ SS นั้นตั้งอยู่ในสวนสาธารณะในพื้นที่แมนฮัทตัน เพราะว่าเกตปรากฏออกมาตรงทางเข้ามันจึงกลายเป็นพื้นที่ๆจำกัดและเหล่าผู้พิทักษ์ระดับสูงได้ปกป้องมันเอาไว้ แม้ว่าผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรีมีแผนที่จะเข้าไปในช่วงแรก แต่ว่าพวกเขาก็ได้ยอมแพ้หลังจากเราก้าวเข้ามาเกี่ยวด้วย
พูดตามตรงแม้ว่าถ้าฉันไม่ได้มา มันก็ไม่อาจจะแน่ใจได้ว่าพวกเขาจะจัดการมันได้หรือไม่ ยังไงก็ตามพวกเราก็ยังมีปัญหากับดันเจี้ยนระดับ S เพียงแค่ดันเจี้ยนระดับ S+ อีกสองแห่งเท่านั้นที่ได้จัดการออกไปโดยทีมรีไวเวิร์ล มันเป็นไปได้ชัดโดยที่ไม่ต้องบอกเลยว่าดันเจี้ยนระดับ SS ในรัสเซียก็ยังถูกปล่อยเอาไว้อีกด้วย
"ความยากของดันเจี้ยนกำลังเพิ่มมากขึ้นกว่าผู้ใช้พลัง"
ฮวาหยาได้พูดออกมาตรงๆ
"ฉันไม่รู้ว่ามันจะมีเหตุการดันเจี้ยนอะไรมาตอนไหนอีก แต่ในตอนนั้นดันเจี้ยนระดับ SS+ ก็อาจจะโผล่ออกมา สักวันหนึ่งแม้แต่ระดับ SSS ยังโผล่ออกมาได้เลย"
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนั้นพวกเราจะต้องทำให้ผู้ใช้พลังพัฒนาขึ้น วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำคือ.... ฉันได้เหลือบไปมองเป็ปเปอร์ ถ้าเป็นเขาฉันรู้สึกว่าฉันสามารถไว้ใจเขาได้
ฉันได้ถามฮวาหยาถึงความเห็นของเธอผ่านทางสายตาและเธอก็หยักไหล่ตอบสนองกลับมา มันหมายความว่ามันไม่เสียอะไรถ้าจะลอง ดังนั้นฉันจึงถามเป็ปเปอร์ในทันที
"เฮ้เป็ปเปอร์นายต้องการจะเข้าร่วมทีมของเราไหม?"
"โอ้ นายกำลังหาพวกอยู่หรอ แต่โทษนะ TK อเมริกาจะตกอยู่ในอันตรายถ้าหากไม่มีฉันอยู่ ฮ่าๆๆ ฉันชอบพวกนายและเพื่อนๆนะ ดังนั้นพวกเราจะได้คุยเรื่องนี้กับอีกครั้งเมื่อผู้ใช้พลังระดับ SS คนอื่นปรากฏตัวในอเมริกา
"โอเค ฉันจะรอเวลานั้นนะ"
ตามที่คิดเอาไว้เป็ปเปอร์ได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้ ฉันไม่ได้โทษเขา เขาควรจะให้ความสำคัญกับประเทศของเขา ยังไงก็ตามถ้าเขาไม่ได้เป็นพรรคพวกเราอย่างสมบูรณ์ฉันก็ไม่สามารถจะตั้งเขาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนได้...อืมม ลำบากอะไรแบบนี้ ในเวลานั้นเองสุมิเระก็ได้ก้าวออกมา
[ถ้าคุฯลังเลที่จะให้เขาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่ง งั้นดันเจี้ยนที่สองเป็นไง?]
[ไม่สุมิเระ นั่นมัน....]
[หนูรู้สึกว่าเขาน่าเชื่อถือ คุณชินก็คิดแบบนั้นเหมือนกันใช่ไหม?]
[ฉันรู้... แต่ว่า....]
มีผู้ใช้พลังไม่มากที่เหมือนกับเป็ปเปอร์ที่ทั้งแข็งแกร่งและมีคุณธรรม เขาเป็นคนที่ดี ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ดูเขาเป็นเวลานาน และถ้าเขาตัดสินใจจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้.....
จากนั้นฮวาหยาก็พูดออกมา
[พันธะสัญญาวิญญาณ]
[อ่าา]
[อึก... นายมันชั่วช้า เวรเอ้ยความจำนั่นมันกลับมาแล้ว เวร]
พันธะสัญญาวิญญาณมันมีมูลค่า 500,000 ทอง แม้ว่ามันจะมีราคาปกติ 1,000,000 ทองมันก็ไม่ใช่ราคาที่ฉันสามารถจะจ่ายได้ ฉันไม่สามารถจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆได้ แต่ด้วยดันเจี้ยนที่หนึ่งและบียอนมันจะทำให้ง่ายขึ้นมา"
"เป็ปเปอร์ฉันต้องการจะให้ข้อเสนออย่างนึง"
"ต้องขอบคุณนายมากนักที่ตีค่าฉันไว้สูงมาก แต่ว่าคนที่ดื้นรั้นมันน่าเกลียด"
"ฉันต้องการที่จะให้นายเป็นสมาชิกชั่วคราว"
"....สมาชิกชั่วคราว?"
"ใช่แล้ว พวกเราสามารถจะคุยเรื่องนี้หลังจากเคลียร์ดันเจี้ยน เอาไงล่ะ"
เป็ปเปอร์ดูเหมือนจะคิดอยู่ ครู่หนึ่งนั้นเขาก็หยักหน้า
"เอาล่ะ เพราะเพื่อนของฉันหวังกับฉันไว้มาก ฉันก็จะทำมัน"
"เยี่ยม ถ้างั้นพวกเราไปเคลียร์ดันเจี้ยนกันเลยเถอะ"
ฉันได้ยิ้มและนำพรรคพวกเข้าไปในดันเจี้ยน ยังไงก็ตามอารมณ์ของฉันก็ได้ลดลงไปอย่างรวดเร็ว มีคนๆหนึ่งต้องการจะพบฉัน แต่คนๆนั้นคือคนที่ฉันไม่อยากจะเจอ
[คุณฮีโร่ ฉันต้องการจะพบคุณ]
คนที่เรียกเขาว่าฮีโร่มีเพียงไม่กี่คน นอกจากนี้เธอก็ยังเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถติดต่อทางจิตใจ เคียร่า คีเน็กต์ เธอกำลังรอคอยพวกเขาอยู่ที่ทางเข้าเกต SS ฉันต้องการจะกลับบ้านในทันทีแต่ว่าฉันจำต้องห้ามตัวเองไว้
"ฉันไม่อยากจะเจอเธอเลยจริงๆ"
[คุณช่วยให้เวลาสักเดี๋ยวได้ไหม? พวกเราสามารถพูดคุยในระหว่างดื่มชาได้]
"ไม่"
[ถ้างั้นฉันจะขอหยาบคายและขโมยเวลาของฮีโร่ที่นี่ โปรดยกโทษให้ฉันด้วย]
"ฉันก็จะไม่"
แม้ว่าฉันจะปฏิเสธไปอย่างฉับพลันก็ตาม แต่เคียร่าก็ไม่ได้กระพริบตาเลย ไม่สิเธอได้ปิดตาของเธออยู่เสมอ เสียงของเธอไม่สั่นสักนิด ไม่สิ มันเป็นโทรจิต อืมม เธอใช้โทรจิตราวกับว่าเธอไม่ได้ผิดหวังเลย
[คุณได้กลายเป็นคนที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ที่ฉันเห็นคุณครั้งล่าสุด คุณยังกลายเป็นแข็งแกร่งมากๆ ในเวลาอันสั้น....แม้ว่าฉันจะไม่สามารถจะเห็นด้วยตา แต่ฉันสามารถจะบอกได้]
"น่าเศร้าอะไรแบบนี้"
[ฉันได้ยินเกี่ยวกับความสำเร็จของคุณฮีโร่ ผลงานพวกนั้นเป็นเหมือนฮีโร่จริงๆ ตาของฉันไม่ได้มองผิดไป คุณสมบูรณ์จริงๆ]
"รู้ไหมว่าสิ่งที่เธอกำลังพูดมันทำให้ฉันปวดท้องนะ"
มันเป็นการยากที่จะลืมในสิ่งที่เธอพูด ฉันจะต้องใช้อิทธิพลที่ชื่อของฉันมีอยู่ในอเมริกา แม้ว่าฉันจะบอกกับเคียร่าว่าฉันจะไม่ทำตามที่เธอต้องการ ฉันก็ได้จบลงด้วยการใช้โอกาสที่เธอช่วยสร้างขึ้น
ยังไงก็ตามฉันก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่านี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อย่างน้อยที่สุดฉันก็มั่นใจว่ามันเป็นวิธีการที่ฉันเลือกไว้ทำให้เกิดการเสียสละน้อยที่สุด
[คุณฮีโร่สร้างความขัดแย้งภายในกลุ่มผู้พิทักษ์และกำลังโด่งดังไปทั่วโลก แม้กระทั่งโดยที่ฉันไม่ช่วยอะไร คุณฮีโร่ก็สามารถที่จะสร้างองค์ก็ที่มีขีดความสามารถทั่วถึงทั้งโลกได้]
"ความขัดแย้งของพวกนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน นอกจากนี้ฉันจะปฏิเสธในทุกๆคนที่ขอให้ฉันทำงานให้"
[ฉันอวดดีเกินไป ฉันทำราวกับว่าคุณฮีโร่ต้องการความช่วยเหนือของฉันในเมื่อคุณฮีโร่โดดเด่นอยู่แล้ว....ในที่สุดฉันก็ได้เข้าใจ ฉันเพียงแค่จะต้องทำในสิ่งที่ฉันทำได้ในข้างของคุณฮีโร่ ฉัรเพียงแค่ต้องการปกป้องโลกจากอันตรายที่เผชิญอยู่และรวมผู้ใช้พลังมาอยู่ในองค์กรเดียว ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ แต่ถ้าคุณฮีโร่จะให้ฉันคลอดลูก ฉันก็จะมีความสุขมากๆ...]
ผู้หญิงคนนี้บ้ามาก เธอบ้าไปแล้ว เธอไม่ได้ฟังฉันเลยซักนิด
"ฉันจะพูดอีกครั้งนะ ฉันไม่มีแผนที่จะยอมรับความรับผิดยอมที่หนักหนาแบบนี้ ฉันจะยังคงทำในสิ่งที่ฉันทำได้ ปกป้องครอบครัวของฉัน เพื่อนของฉัน และตัวฉันเอง ฉันไม่สามารถจะมั่นใจได้ว่าฉันจะทำแบบนั้นได้ตลอดไป แต่ว่าอย่างน้อยในตอนนี้มันคือสิ่งที่ฉันจะทำ"
'แม้ว่าจำนวนเพื่อนที่ฉันจะปกป้องมันจะเพิ่มขึ้นมาเมื่อไม่นานมากนี้ก็ตาม.....'
เมื่อฉันได้พูดจบมันก็ดูเหมือนว่าเคียร่าจะให้ความสนใจฉันแล้วในตอนนี้ เธอได้ยิ้มขึ้น แม้ว่าเธอจะไม่ไม่เห็น เธอก็ยังคงมองตรงมาทางฉัน มันน่ากลัวมากๆ
[หุหุ ฉันไม่สามารถจะรอได้อีกแล้ว โลกจะต้องได้รับการช่วยเหลือจากคุณฮีโร่และความขัดแย้งของมนุษย์ที่โสมมก็จะหายไปภายใต้กฏของคุณฮีโร่และฉัน....ใช่แล้ว ก่อนอื่นฉันจะต้องคิดชื่อเด็ก]
ดูเหมือนว่าโลกจะครอบงำเป้าหมายของเธอจนในหัวมีแต่ฉันไปแล้ว ฉันรู้สึกรักเกียจอย่างจริงจังกับการแสดงออกของเคียร่าและตะโกนออกไป
"ไม่จะไม่เคย ไม่แม้แต่ และไม่ยอมมีความสัมพันธ์กับเธอแม้แต่นิด ไม่แน่นอนแม้ว่าโลกจะสิ้นสุดลงและเหลือพวกเราเพียงสองคนที่เหลืออยู่ ถ้าเธอต้องการให้ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมา ฉันก็จะทำ มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเราแน่นอนแม้ว่าฉันจะต้องตายก็ตาม"
เมื่อฉันได้ตธโกนออกไป คนอื่นๆก็ได้ปรบมือ คนอื่นๆนอกเหนือไปจากเป็ปเปอร์ สมาชิกทั้งหมดของรีไวเวิร์ลได้ปรบมือออกมา
"ใช่แล้ว ฉันจะบันทึกไว้ ฉันจะทำให้รู้เดียได้ฟังในขณะที่เธอหลับอยู่"
"ถ้าเธอหมดธุระแล้วก็ถอยไปซะ"
[ฉะ ฉันสามารถมีข้อมูลติดต่อคุณได้ไหม]
"ไม่มีทาง"
[แต่ว่าในบางครั้งฉันก็ต้องการที่จะได้ยินเสียงของคุณฮีโร่...]
"อย่าพูดเหมือนกับถูกลักพาตัวสิและก็หลีกทางไปด้วย"
[ถะ ถ้างั้นฉันจะโทรหาคุณใหม่ครั้งหน้านะ? ขอบคุณมาก! คุณเป็นคนใจดีจริงๆ]
ในตอนนี้ที่ฉันได้คิดออกเธอนั่นรู้ที่อยู่ของฉันไปแล้ว! ผู้หญิงคนนี้ได้ขอให้ฉันอนุญาตเธอเท่านั้นและเธอก็ได้แกล้งทำว่าฉันไม่ได้ว่าอะไร! เมื่อครู่นี้ฉันอยากจะรู้ว่าเธอจะโทรหาฉันยังไงเพราะเธอไม่สามารถจะใช้โทรจิตผ่านโทรศัพท์ได้ แต่ฉันก็รู้สึกว่าการถามเธอจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ดังนั้นฉันจึงไล่เธอไป
[อ่า ถ้าคุณทำลายเกตมอนสเตอร์ยักษ์ก็จะโผล่ออกมา ระวังด้วยคุณฮีโร่]
"ฉันจะไม่ขอบคุณเธอหรอกนะ"
เพราะแบบนั้นพวกเราทั้งแปดคนรวมเป็ปเปอร์ไปอีกคนหนึ่งเป็นเก้าคนก็ได้เข้าไปท้าทายเหตุการณ์ดันเจี้ยนระดับ SS ถึงแม้ว่าสภาพร่างกายของฉันจะพร้อมถึงขีดสุด แต่สภาพจิตใจของฉันในตอนนี้มัน.... นี้มันเป็นความผิดของเคียร่า