GE404 ทะลวงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง [ฟรี]
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเอาชนะดวงจิตที่ 2 ของข้าได้… เจ้าแตงกวาน้อย เจ้ามันปีศาจชัดๆ!”
นางพาหนิงฝานไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ผ่านประตูที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ยามนี้นางยังคงหวนคิดถึงวิชาธนูดับดาราของหนิงฝานไม่หาย
ธนูดอกนั้นทรงพลังมากจนกระทั่งสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงได้ในพริบตา
ดาราทมิฬ 99 ดวง… ธนูดับดารา… หนิงฝานในยามนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้นที่โดดเด่น
“แสง… ต้อง… ชนะ...” ศพนางสวรรค์หันมองเยว่หลิงคงพลางกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ
สำหรับนางแล้ว หากหนิงฝานไม่ชนะจึงจะถือว่าเป็นเรื่องแปลก
หนิงฝานยิ้มพลางลูบศีรษะนาง ดูเหมือนนางจะมีความรู้สึกมากขึ้นหลังจากทะเลสติฟื้นฟู
บางทีศิลาฟื้นฟูของตระกูลหกปีกอาจช่วยให้ทะเลสติของนางฟื้นฟูเร็วยิ่งขึ้น
หนิงฝานผนึกดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงเอาไว้และมอบคืนให้นาง ส่วนศิษย์ของเกาะมิติเทพนั้น ยามนี้เหลือเพียง 3 ใน 10 ส่วนที่ยังมีชีวิตจริงๆ เพราะผู้ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นทาสโดยสมบูรณ์นั้นก็เท่ากับตายไปแล้ว
ส่วนสตรีทั้ง 7 คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ นางส่งให้หนิงฝานจัดการต่อ แม้พวกนางจะถูกเปลี่ยนเป็นทาสจันทรา แม้พวกนางจะตายไปแล้ว แต่ปราณในร่างยังคงอยู่
หลิงคงเข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง นำผลไม้แห่งเต๋าตัดวิญญาณให้หนิงฝาน 4 ผล… สมุนไพร… และหยกสวรรค์
ต่อให้เขานำสิ่งเหล่านั้นไปทั้งหมด นางก็ไม่เสียดาย
ยามนี้ นางจ้องมองเกาะมิติเทพของตนที่พังทะลายไปหลายส่วนพลางถอนหายใจ
ในอดีตเกาะมิติเทพของนางทรงพลังมาก แต่คนทรยศที่แฝงตัวอยู่ก็มากเช่นกัน ยิ่งได้ประสบพบเห็นคนเหล่านั้น นางยิ่งอยากสังหารพวกมัน
แต่เมื่อกาลเวลาผันผ่านมาจนถึงปัจจุบัน นางกลับไม่รู้สึกผูกพันธ์กับสถานที่แห่งนี้แล้ว
“4 พันปีแห่งการฝึกฝนที่นี่จบสิ้นแล้ว… ข้าไม่รู้จะทำยังไงต่อไป...”
“ถ้าเจ้าไร้จุดหมายก็อยู่ข้างกายข้าเถอะ อีกอย่าง เจ้ายังไม่ได้ตอบแทนข้า คงให้เจ้าไปที่ไหนไม่ได้”
“อืม...” นางพยักหน้า ดูเหมือนนางคงต้องติดตามอยู่ข้างกายหนิงฝานไปอีกนาน นางไม่มีความปรารถนาที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว
หนิงฝานเองแม้จะได้ผลไม้แห่งเต๋าตัดวิญญาณมา แต่ก็ไม่ได้ดีใจแม้แต่น้อย เพราะผลไม้แห่งเต๋าตัดวิญญาณ 4 ผล อย่างมากก็มีปราณไม่เกิน 4000 เกราะ ต่อให้กินเข้าไปก็ไม่เป็นประโยชน์นัก ดังนั้นเขาจึงจะเก็บไว้ให้ฉุ่ยหลิง จื่อเฮ่อ และคนอื่นๆเมื่อถึงยามที่เขาต้องกลับบ้าน
สตรีตัดวิญญาณ 7 คนที่เยว่หลิงคงมอบให้ หนิงฝานดูดซับพลังของพวกนางจนหมด ได้ปราณมาเพิ่ม 7 พันเกราะ จากนั้นช่วยพวกนางปลดผนึกทาสจันทรา คืนพวกนางกลับสู่ธุลี
เยว่หลิงอยากให้สิ่งต่างๆที่นางประสบมาสิ้นสุดลงที่นี่ ส่วนศิษย์เกาะมิติที่เหลือรอด 2 พันคน นางให้หนิงฝานประทับตราอสู และให้พวกนางเข้าร่วมเป็นกองทัพของเขา โดยมีเป่ยหลิงและชุ่ยหลิงคอยฝึกฝนพวกนาง
เยว่หลิงคงเก็บตัวเพื่อผสานกับดวงจิต บนเกาะมิติเทพจึงเหลือเพียงหนิงฝานและศพนางสวรรค์ทำหน้าที่คุ้มกัน
การคุ้มกันดำเนินไปถึง 2 เดือน เยว่หลิงคงผสานกับดวงจิตล้มเหลว นางจึงยัวไม่ฝืนต่อ นางแยกปราณเยือกแข็งสวรรค์ 2 ชนิดออกมาจากดวงจิต แล้วมอบให้หนิงฝาน
ปราณเยือกแข็งที่ได้มา หนึ่งคือปราณอันดับ 5 ‘หมอกจันทราหิมะ’ และอีกหนึ่งคือปราณอันดับ 7 ‘ปราณสุสานบุบผา’
หลังจากผสานกับปราณเยือกแข็งสวรรค์ทั้งสองชนิด หนิงฝานได้ปราณเพิ่ม 2000 เกราะ ยามนี้เขาเหลือปราณเยือกแข็งสวรรค์อีกเพียง 3 ชนิดก็จะครอบครองครบ 12
ส่วนเพลิงชีพจรพิภพ เขามีกับตัวแล้ว 7 ชนิด อีก 3 ชนิดอยู่ในวิหารพิรุณ ดังนั้น เขาต้องหาให้พบอีก 2 ชนิด
หากหนิงฝานรวบรวมพวกมันได้ทั้งหมด ผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเพลิงหยินหยาง เขาจะได้เพลิงระดับสูงยิ่งขึ้น ความเร็วในการปรุงโอสถก็จะยกระดับจนหาตัวจับได้ยาก
หลังจากพักการผสานกับดวงจิต เยว่หลิงคงก็พยายามผสานกับดวงจิตของนางต่อ หนิงฝานเองก็ทำหน้าที่คุ้มกันและปรุงโอสถไปด้วย
หนิงฝานปรุงโอสถฟื้นฟูทะเลสติ และโอสถอัสนี ทำให้ระดับการปรุงโอสถของเขาเพิ่มพูนไปมาก
โอสถอัสนีหนึ่งเม็ดช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นได้ปราณ 100 เกราะ แต่หากหนิงฝานกินเข้าไป เขาจะได้ปราณเพียง 50 เกราะต่อเม็ด
แต่นั่นไม่ได้สำคัญกับเขา เพราะเขามีโลกหยินช่วยให้ปรุงโอสถได้มากขึ้นเป็นเท่าทวี
ดังนั้นในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา หนิงฝานจึงปรุงโอสถได้เท่ากับนักปรุงโอสถ 750 คนปรุง!
อัตราความสำเร็จในการปรุงโอสถอัสนียามนี้คือ 9 ใน 10 ส่วน โอสถที่ปรุงได้ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาได้ทั้งหมด 240 เม็ด
หลังจากดูดซับพวกมันทั้งหมด หนิงฝานได้ปราณเพิ่มมาอีก 8000 เกราะ ยิ่งหนิงฝานทรงพลังขึ้น โอสถอัสนีที่กินเข้าไปก็ยิ่งไร้ผล
ปราณของหนิงฝานยามนี้นับรวมได้ทั้งหมด 419,500 เกราะ
โอสถฟื้นฟูทะเลสติที่ปรุงได้มีมากกว่า 100 เม็ด ซึ่งช่วยศพนางสวรรค์ฟื้นฟูทะเลสติได้ไม่น้อย
ยามนี้เยว่หลิงคงเสร็จสิ้นการผสานกับดวงจิตแล้ว ส่วนหนิงฝานเองก็กำลังจะทะลวงระดับของจิตวิญญาณสมุนไพร
หากจิตวิญญาณสมุนไพรของเขายกระดับ เขาจะกลายเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ระดับสูง ซึ่งยามนี้เหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น
ยามนี้เกาะมิติเทพไร้ซึ่งผู้คน หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก ก็ไม่มีใครผ่านม่านหมอกจันทราเข้ามาได้
หนิงฝานจะเก็บซ่อนน้ำเต้าโลหิตไว้ที่นี่ อีก 10 ปีข้างหน้าโลหิตมังกรในนั้นจึงจะกลายเป็นสุรา เขาไม่อยากนำมันติดตัวเพราะเกรงว่าสมบัติที่อยู่อาศัยของเขาจะส่งผลเสียกับการสร้างสุรา
หนิงฝานคำนวณปราณของตน อีกเพียง 80,500 เกราะเขาก็จะบรรลุขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง
หนิงฝานมีผลไม้แห่งเต๋าไร้ดัดแปลงอยู่ 3 ผล ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้ากินเพราะระดับพลังยังด้อยเกินไป แต่ยามนี้เขาสมควรดูดซับปราณของมันได้ 2 ใน 3 ส่วน ยิ่งมีดาราแก่นชีวิตอีก 99 ดวง ต่อให้ร่างกายไม่อาจทนต่อพลังของผลไม้แห่งเต๋าได้ พวกมันก็จะช่วยฟื้นฟู
หนิงฝานมั่นใจว่าตนเองจะดูดซับปราณจากผลไม้แห่งเต๋าไร้ดัดแปลงได้ เพราะขนาดการจู่โจมของดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงเขายังรับได้ เหตุใดจะดูดซับผลไม้แห่งเต๋าไร้ดัดแปลงไม่ได้
“ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องทะลวงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงให้ได้!”
หนิงฝานที่อยู่ภายในโลกหยิน โคจรดาราทั้ง 99 ดวงคุ้มกาย จากนั้นกินผลไม้แห่งเต๋าไร้ดัดแปลงเข้าไป 1 ผล ปราณที่ทรงพลังราวกับจะระเบิดร่างของเขาแล่นไปทั่วร่าง
แต่ชั่วพริบตาที่ร่างกายได้รับความเสียหาย ดาราทั้ง 99 ดวงเปล่งพลังรักษา ทำให้หนิงฝานต้านอานุภาพของผลไม้แห่งเต๋าได้
เมื่อดูดซับผลไม้แห่งเต๋าไร้ดัดแปลงเข้าไปจนครบ 3 ผล ปราณของหนิงฝานเพิ่มพูนมหาศาล จนยามนี้มีมากถึง 600,000 เกราะ!
แรงกดดันในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงแผ่ไปทั่วโลกหยิน บนท้องนภาปรากฏเพลิงทัณฑ์สวรรค์นับหมื่นดวง แต่ละดวงทรงพลังพอที่จะแผดเผาผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นได้ในพริบตา
เพลิงทัณฑ์สวรรค์จำนวนนี้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงก็ต้านรับได้อย่างยากลำบาก ซึ่งส่วนใหญ่จะอาศัยสมบัติของตนช่วยเหลือ
แต่หนิงฝานกลับไม่ทำเช่นนั้น เมื่อเพลิงนับหมื่นดวงตรงเข้าหา เขาอ้าปากดูดกลืนมันเข้ามาในร่าง โคจรนำไปหล่อเลี้ยงอนุสรณ์ตะวันจันทรา
ยามนี้อนุสรณ์ฟื้นพลังได้ 9 ใน 10 แล้ว หากมันฟื้นฟูเต็มที่ เขาจะสามารถใช้การจู่โจมในระดับไร้แบ่งแยกได้อีกครั้ง
เมื่อปราณยกระดับ ก็ถึงคราวที่จิตวิญญาณสมุนไพรยกระดับเช่นกัน
หนิงฝานสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอุ่นๆไหลเวียนไปทั่วร่าง จิตวิญญาณสมุนไพรมีสีที่เข้มขึ้น หนาแน่นขึ้น
ยามนี้หนิงฝานบรรลุทั้งขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง และยังบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ชั้นสูง
แม้ความสำเร็จนี้จะทำให้เขามีความสุข แต่เขาก็ไม่ลำพองใจ เพราะการจะก้าวไปยังขอบเขตไร้ดัดแปลงนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย อย่างเร็วก็คงอีก 10 ปีข้างหน้า ปราณที่ได้จากสุราจะช่วยทำให้ปราณของเขาถึงขอบเขตไร้ดัดแปลง แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ต้องเก็บตัวฝึกฝนเพื่อทะลวงขอบเขต ซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานขนาดไหน
ทักษะปรุงโอสถเองก็จะยกระดับได้ยากขึ้น ไม่รู้ว่าอีกนานขนาดไหนทักษะปรุงโอสถของเขาถึงจะทะลวงระดับอีกครั้ง
เมื่อหนิงฝานทำให้ระดับพลังเสถียรแล้ว เขาก็กลับออกจากโลกหยิน แต่เมื่อออกมา เขากลับต้องขมวดคิ้ว
บนท้องนภาเหนือเกาะมิติเทพปรากฏกลุ่มเพลิงทัณฑ์สวรรค์ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณว่าหลิงคงผสานกับดวงจิตได้สำเร็จ พลังของนางฟื้นฟูเทียบเท่าในอดีต คือขอบเขตไร้ดัดแปลง!
“แตงกวาน้อยช่วยข้าต้านรับทัณฑ์สวรรค์ด้วย ข้าคนเดียวไม่ไหว!”
เสียงของนางดังมา สีหน้าหนิงฝานแปรเปลี่ยน เขาไม่มีเวลาให้ขบคิด เร่งมุ่งหน้าไปยังเพลิงทัณฑ์สวรรค์ทันที
เพลิงทัณฑ์สวรรค์อัดแน่นไปด้วยเพลิงนับแสนดวง ซึ่งเทียบเท่าการจู่โจมเต็มกำลังของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลาง หากหนิงฝานไม่ช่วย นางจะถูกเพลิงเหล่านี้สังหาร
“ดูดกลืน!”
หนิงฝานอ้าปากดูดกลืนเอาเพลิงทั้งหมดเข้าไปในร่าง และถ่ายพวกมันไปยังอนุสรณ์ตะวันจันทรา
แต่หนิงฝานดูแคลนเพลิงทัณฑ์สวรรค์เกินไป แม้จะมีอนุสรณ์ตะวันจันทราช่วย แต่ยังไม่อาจลบล้างอานุภาพของเพลิงได้หมด
เพลิงทัณฑ์สวรรค์ทวีความรุนแรง จนอนุสรณ์ไม่อาจหักล้างได้ทั้งหมด หนิงฝานขมวดคิ้ว เร่งโคจรดาราทั้ง 99 ดวง เสริมการรักษาร่างกาย
แม้ตนเองจะไม่ตาย ทั้งยังต้องทนต่อความเจ็บปวดร้ายแรง แต่หนิงฝานไม่สนใจ
ผ่านไปหนึ่งชั่วยามเพลิงทัณฑ์สวรรค์ก็มอดดับ
ทัณฑ์สวรรค์ระดับนี้ทรงพลังกว่าที่หนิงฝานพบ 10 เท่า เหตุที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะหลิงคงทะลวงหลายขั้นในคราวเดียว ทัณฑ์สวรรค์จึงผสานเพิ่มพูน ทรงพลังกว่าทัณฑ์สวรรค์ทั่วไป
เมื่อทุกอย่างคืนสู่สภาพปกติ หนิงฝานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยามนี้อนุสรณ์ตะวันจันทราฟื้นคืนพลังโดยสมบูรณ์แล้ว
หนิงฝานเร่งตรงไปยังสถานที่ที่หลิงคงเก็บตัวพลางกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง
“เยว่เอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ข้าไม่เป็นไร… แต่...”
เรือนร่างที่เปลือยเปล่าเดินออกมาห้องลับ ตัวนางในยามนี้แตกต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ผมดำขลับยาวสลวย ดวงตากระจ่างใสราวกับจันทรา ใบหน้างดงามไร้ที่ติ หน้าอกอวบอิ่มสมบูรณ์ เอวขาวนวลคอดกิ่ว แผ่กลิ่นอายของขอบเขตไร้ดัดแปลงที่ทรงพลัง
นางในยามนี้ดูราวกับนางสวรรค์ผู้ไร้ซึ่งมลทิน ทั้งยังงดงามยิ่งกว่าดวงจิตที่ 2 ของนางมาก
“นั่นเจ้าเหรอ?” หนิงฝานขมวดคิ้ว นางดูต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
ร่างกายของนางในยามนี้เติบโตสมเป็นสตรี
“เจ้าแตงกวาน้อย… ข้าเอง… ประครองข้าหน่อย...”
ใบหน้าที่งดงามของนางซีดขาว ร่างกายสั่นเทาจนยากที่จะทรงตัว หนิงฝานเร่งเข้าโอบประครองนาง เมื่อสัมผัสได้ถึงร่างกายที่อ่อนกำลังจนคาดไม่ถึง หนิงฝานถึงกับขมวดคิ้วแน่น
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?”
“ไม่ใชเรื่องสำคัญอะไรหรอก… หลังจากข้าผสานกับดวงจิตที่สองสำเร็จ ปราณของข้าก็เกือบจะทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง ข้าก็เลยลองพยายามทะลวงระดับ แต่ก็ล้มเหลว”
“เจ้าประมาทเกินไป!” หนิงฝานตำหนินาง
ขอบเขตตัดวิญญาณและไร้ดัดแปลงแตกต่างราวกับนรกและสวรรค์ ต่อให้ปราณมากพอที่จะทะลวงระดับ แต่หากความเข้าใจในพลังมิติไม่ถึงขั้น ก็ไม่อาจทะลวงระดับได้
ในอดีตนางยังไม่อาจบรรลุพลังมิติขั้นกลาง แม้ปราณของนางจะมีมาก แต่การฝืนทะลวงระดับก็ไม่เป็นผลดีแม้แต่น้อย
พลังมิติขั้นต้น… ขั้นกลาง… ขั้นสูง… และขั้นสูงสุด หากบรรลุทั้งหมดนี้แล้ว จึงจะทะลวงขอบเขตไร้แบ่งแยกได้
ซึ่งการจะบรรลุพลังมิติในแต่ละระดับนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
“อืม… ข้าประมาทเอง” นางไม่กล้าสู้หน้าหนิงฝาน นางคิดว่าหากนางฟื้นคืนพลังแล้วนางจะทำได้
ที่หนิงฝานตำหนิงนางเมื่อครู่ นางไม่กล้าโต้เถียง สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นแปลกสำหรับนางมาก นางไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“ทำข้าถึงกลายเป็นแบบนี้… ทำไมเจ้าแตงกวาน้อยโกรธ ข้าถึงได้มีความสุข… หรือสมองข้าจะเพี้ยนไปแล้ว?”
นางสับสนในความรู้สึก ก้มหน้าไม่กล้าสู้หน้าหนิงฝาน แต่แล้วนางก็เพิ่งสังเกตุว่าตนเองไม่ได้สวมอาภรณ์
เมื่อร่างกายของนางฟื้นคืนสภาพเดิม อาภรณ์ทั้งหมดก็ขาด
แต่ที่น่าแปลกคือเหตุใดนางถึงไม่ตระหนก ไม่อาย แม้มือของหนิงฝานจะสัมผัสถูกหน้าอกของนาง นางกลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“เป็นยังไง หน้าอกข้าใหญ่หรือเปล่า? ข้าไม่ได้หลอกเจ้า ร่างกายของข้าทำให้เจ้าพอใจได้แน่!”
หนิงฝานไม่กล่าว เขารู้แค่ว่านางแตกต่างจากสตรีทั่วไป ไม่อาจใช้สามัญสำนึกตัดสินได้
อย่างน้อยๆหนิงฝานก็ยอมรับว่าเรือนร่างของนางทำให้เขาพึงพอใจมาก ความรู้สึกที่ได้สัมผัสหน้าอกนางก็ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“เจ้าอยากให้ข้าตอบแทนหรือยัง?” นางกล่าวอย่างภาคภูมิ
“ยังก่อน ตอนนี้เจ้าพักเถอะ… เจ้าควรฟื้นฟูพลังและรักษาอาการบาดเจ็บ หลังจากนั้นข้าจะพาเจ้าไปเผ่าหกปีก”
หนิงฝานส่ายหน้า เขาไม่อยากทำร้ายนาง เขาเป็นห่วงนางมาก...