GE403 อานุภาพของธนู [ฟรี]
บนเกาะที่หนิงฝานเหล่าสตรีอยู่ จู่ๆก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาด ท้องนภาถูกอาบย้อมไปด้วยสีขาว ดาวตก 99 ดวงพาดผ่านอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่บนเกาะไม่เคยเห็นปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน
ยามนี้เป็นยามดึก หนิงฝานกลับออกมาจากโลกหยิน กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวเขาเปลี่ยนไป ให้ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายราวกับตัวเขาคือหมู่ดารา
“แตงกวาน้อย ที่ท้องนภากลายเป็นสีขาว เกี่ยวข้องกับเจ้าหรือเปล่า? ถ้าไม่เป็นอะไรเจ้าก็พักฟื้นร่างกายเถอะ ใกล้จะถึงเวลาที่เราต้องเดินทางต่อแล้ว” แม้น้ำเสียงของหลิงคงจะฟังดูเรียบเฉย แต่ก็แฝงไปด้วยความห่วงใย
“เจ้าเป็นห่วงข้าเหรอ?” หนิงฝานยิ้ม
“ข้าเป็นห่วงแตงกว่าน้อยของเจ้า ทั้งเล็กทั้งบอบบาง เดี๋ยวจะไม่พอให้ข้ากิน!”
“อืม...” หนิงฝานส่ายหน้า เขาจำไม่ได้ว่าแตงกวาน้อยของเขาเล็กขนาดนั้น
“เจ้าไม่ต้องกังวล ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับข้าก็จริง แต่เป็นเรื่องดี… ส่วนดวงจิตที่ 2 ของเจ้า ข้าจะเป็นคนช่วยเจ้าชิงมาเอง”
“อืม… แต่ก็ต้องระวังตัวด้วย หากเจ้าช่วยข้าแล้วเกิดตายขึ้นมา ข้าคงเสียใจมาก” นางไม่สบายใจ แต่นางก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดหนิงฝานถึงมั่นใจขนาดนั้น
ศพนางสวรรค์ยังคงยืนนิ่งไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย แต่ด้วยพลังระดับขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง รวมกับร่างกายที่เป็นศพปีศาจของนาง ย่อมต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงสุดได้ และยิ่งทะเลสติของนางฟื้นฟูมากขึ้นเท่าไหร่ ประสบการณ์การต่อสู้ก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเท่านั้น
ยามนี้เยว่หลิงคงเป็นกังวล เพราะการชิงดวงจิตที่ 2 ของนาง หมายถึงต้องต่อสู้และเอาชนะดวงจิตของนาง
แต่ในขณะที่นางกังวลอยู่นั้น หนิงฝานกุมมือนางเบาๆ จ้องมองด้วยสายตาที่มั่นใจ พลางพานางและศพนางสวรรค์เข้าประตูจันทรา
ผ่านไปชั่วธูปไหม้หมดดอก ทั้งสามก็ปรากฏตัวยังบริเวณที่ปกคลุมไปด้วยหมอก แสงจันทราขาวนวลสาดส่อง รบกวนสัมผัสเทพของผู้ที่มา
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา หมอกขาวเหล่านี้ทรงพลังยิ่งกว่าพลังแม่เหล็กของเกาะปีศาจสำราญ
ต่อให้เป็นสัมผัสเทพของหนิงฝาน ก็ไม่อาจแผ่ออกไปไกลได้นัก อย่างมากก็ไม่เกิน 200 จ้าง หากผู้ไม่รู้ทางย่อมหลงอยู่ภายในนี้และออกไปไม่ได้อีก
“‘หมอกจันทรา’ เหล่านี้ข้าเป็นคนสร้างเอง หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง จะไม่อาจแผ่สัมผัสเทพออกสำรวจเส้นทางได้...”
ยามนี้สัมผัสเทพของนางแผ่ออกไปไกลนับแสนลี้ หมอกจันทราเหล่านี้เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่ครอบครองพลังจันทราอย่างนาง
เดิมทีนางไม่ยอมให้หนิงฝานสัมผัสกายมากนัก แต่ยามนี้นางจับมือหนิงฝานไม่ปล่อย เพราะกลัวว่าหนิงฝานจะหลง
แม้จะกล่าวว่าหมอกเหล่านี้เอื้อประโยชน์ให้นาง แต่เมื่อนางแผ่สัมผัสไปไกลเกินกว่าที่ขอบเขตของนางควรจะเป็น ปราณภายในร่างนางก็ถูกผลาญอย่างรวดเร็ว
หนิงฝานที่สังเกตุเห็นจึงเร่งถ่ายปราณให้นางผ่านมือที่สัมผัส นางตกใจเพราะสัมผัสได้ถึงปราณที่ทรงพลังของเขา
“อย่าใช้ปราณโดยสูญเปล่าเพราะข้าเลย… ดวงจิตที่ 2 ของข้าทรงพลังมาก เจ้าควรออมแรงไว้”
“เจ้าไม่ต้องกังวล”
“ที่ข้ากล่าวไม่ใช่เพราะใช้เป็นห่วงเจ้าหรอก… เรื่องนี้ข้าเป็นต้นเหตุ แต่ถ้าเกิดเจ้าช่วยข้าได้ ข้าจะตอบแทน...”
“ตอบแทนอะไร?” หนิงฝานขมวดคิ้ว
“หยกสวรรค์… สมุนไพร… กระถางขัดเกลา… ผลไม้แห่งเต๋า...”
“ยังไม่พอ” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย
“นี่ข้าก็ทุ่มเต็มที่แล้วนะ!” นางแค่นเสียง
“เต็มที่แล้ว?” หนิงฝานยิ้มอย่างมีนัย ร่างกายของนางเทียบเท่าเด็กอายุ 8 ขวบ แน่นมากยามร่วมรัก เหตุใดถึงจะพอ?
“วางใจเถอะ หากเจ้าช่วยข้าผสานกับดวงจิตที่ 2 ของข้า ช่วยให้ข้าฟื้นคืนพลังและกลับมายิ่งใหญ่เหมือนก่อน เจ้าต้องพอใจกับสิ่งที่ข้าจะตอบแทนเจ้าแน่” นางกล่าวด้วยความมั่นใจ
แม้หนิงฝานจะหน้าหนาและมีความมั่นใจเป็นของตน แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะด้อยกว่านางแล้ว
“น่าสนใจ… ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะตอบแทนข้ายังไง” หนิงฝานยิ้ม
“อืม เจ้ารักษาชีวิตให้ดีเถอะ ข้าจะทำให้เจ้าพอใจอย่างแน่นอน”
“จริงเหรอ?”
“แน่นอน!”
“ดี ข้าจะรอ!”
หนิงฝานจ้องมองนางอย่างคาดหวัง หากนางทำให้เขาพอใจไม่ได้ เขาไม่ปล่อยนางไปแน่
เมื่อคุยกันจบ นางก็พาหนิงฝานข้ามผ่านม่านหมอก
พ้นจากม่านหมอกไปคือพื้นที่ของเกาะมิติเทพ มีภูเขาและสายน้ำทอดยาว
นางผละมือออกจากหนิงฝาน หนิงฝานเองก็นำทาสไร้ดัดแปลง 3 ตน ทาสตัดวิญญาณอีก 5 ตน และมังกรทมิฬออกมา
หนิงฝานฟื้นฟูให้กับทาสของตนทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ เขายังนำดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง 4 คนออกมา ขยับมือเป็นท่าทางโคจรวิชาลับ
“กลืนกิน!”
ทันทีที่กล่าวจบ เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ดวงจิตทั้ง 4 ดวงคือดวงจิตของ 4 ผู้อาวุโส 5 ธาตุแห่งวิหารพิรุณ และยามนี้พวกมันก็กลายเป็นอาหารให้กับทาสของเขา
“นี่เจ้า… ใช้ดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงยกระดับพลังให้กับทาส? เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง!” หลิงคงตกตะลึง
ในขณะที่นางพักรักษาตัว หนิงฝานสังหารพวกมันและเก็บดวงจิตเอาไว้
“ข้าบ้าแบบนี้มานานมากแล้ว… เข้าไปในเกาะกันเถอะ!”
หนิงฝานนำสตรีทั้งสองนางมุ่งเข้าสู่เกาะ
ทิวทัศน์ภายในเกาะงดงามราวกับเป็นสรวงสวรรค์ สายลมเย็นพัดพาให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง
รอบเกาะมีข่ายอาคมจันทราปกคลุมราวกับผนึกเกาะเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้น ข่ายอาคมยังมีประโยชน์อีกอย่างคือช่วยรวบรวมปราณจันทรา ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในเกาะยกระดับพลังได้เร็วขึ้น
ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์ยามนี้สมควรเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากดวงจิตอีกดวงของเยว่หลิงคง
“ข้าจะจัดการดวงจิตของเจ้าเอง ส่วนคนอื่นๆฝากเจ้าจัดการด้วย!” หนิงฝานกล่าวพลางจู่โจมทำลายข่ายอาคม
เมื่อข่ายอาคมถูกทำลาย เสียงของสตรีที่เย็นชาและแฝงด้วยกลิ่นอายของขอบเขตไร้ดัดแปลงดังออกมาจากเกาะ
“เจ้าเป็นใคร? กล้าบุกรุกเกาะมิติเทพของข้า รนหาที่ตาย!”
ทันทีที่สิ้นเสียง แสงจันทราฉายส่อง ปรากฏร่างของสตรีที่งดงามไม่แพ้เยว่หลิงคง ใบหน้าปิดบังด้วยผ้าสีเหลือง แต่แววตาเย็นชา สิ่งที่ปรากฏในแววตานางมีเพียงสิ่งเดียว คือสังหาร!
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ… ดวงจิตที่ 2 ของข้า!” หลิงคงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยโทสะ
“โอ้! ที่แท้เป็นนายท่าน คาดไม่ถึงว่าท่านจะยังไม่ตาย แต่ข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้!”
กลิ่นอายพลังของนางเพิ่มพูน มุ่งจู่โจมเข้าใส่หลิงคงเพื่อหวังสังหาร
“ข้าจัดการเอง!” หนิงฝานเคลื่อนกายบังร่าง ชกหมัดเข้าปะทะการจู่โจม แม้จะสลายการจู่โจมของอีกฝ่ายได้ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกชาที่หมัดเช่นกัน
เหล่าทาสไร้ดัดแปลงกระจายตัวล้อมสตรีนางนั้น
ในเกาะมิติเทพ มีนางเพียงคนเดียวที่อยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลง ส่วนคนอื่นๆเป็นสตรีอีก 7 คน… มี 4 คนอยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณนั้นต้น... 2 คนขั้นกลาง… และอีก 1 คนขั้นสูง
หลิงคงจ้องมองพวกนางแล้วรู้สึกสงสาร หนึ่งในสตรีเหล่านั้นครั้งหนึ่งเคยช่วยนางไว้ หนึ่งในพวกนางครั้งหนึ่งเคยทรยศ แต่ยามนี้ดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงลบดวงจิตของพวกนางและเปลี่ยนให้พวกนางกลายเป็นเพียงทาส
นอกจากสตรีทั้ง 7 คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณแล้ว ยังมีศิษย์สตรีที่ระดับพลังไม่สูงนัก ถูกเปลี่ยนให้เป็นกึ่งทาสโดยยังเหลือดวงจิตไว้ส่วนหนึ่ง แต่หากใครที่ขัดขืนจะถูกสังหารทันที
หลิงคงไม่ลังเลที่จะสังหารศัตรู แต่ยามนี้ ศัตรูของนางมีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือดวงจิตที่ 2 ของนาง
“สตรีเจ้าแตงกวา อย่างสังหารพวกนางนะ แค่ทำให้พวกนางขยับไม่ได้ก็พอ...” หลิงคงกล่าวศพนางสวรรค์
“อืม...” ศพนางสวรรค์รับคำ แม้นางจะไม่เข้าใจว่าสตรีเจ้าแตงกวาหมายถึงอะไร นางรู้แค่ว่าห้ามสังหาร แค่ทำให้ขยับไม่ได้ก็พอ
ทั้งนาง หลิงคง และทาสอีก 5 ตนของหนิงฝานล้วนอยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงเป็นอย่างน้อย ดังนั้นย่อมสกัดการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้
ดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงสีหน้าแปรเปลี่ยน เมื่อครู่หนิงฝานรับมือนางได้ ทำให้นางโกรธแค้นไม่น้อย
“เจ้าเป็นใคร? ทำไมต้องช่วยนาง!” นางกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หนิงฝานไม่ตอบ แม้ดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงจะอยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลง แต่นางก็เกรงหนิงฝานและทาสไร้ดัดแปลงทั้ง 3
นอกจากพลังที่แข็งแกร่งกว่าหลิงคงแล้ว นางยังได้นิสัยของหลิงคงมา แม้ต้องเผชิญหน้าศัตรูถึง 4 คน นางก็ไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้ หากนางสังหารผู้ควบคุมทาสอย่างหนิงฝานได้ ทาสเหล่านั้นก็ไม่เป็นภัยคุกคามให้นาง
“ข้าจะสังหารเจ้าในพริบตา! วิชาจันทราสาดแสง!”
นางชูมือสูง แสงจันทร์สาดส่องกระทบร่างทาสไร้ดัดแปลงทั้ง 3 ทำให้พวกมันหยุดชงัก ไม่นานแสงจันทราได้ก่อตัวเป็นกระบี่เล่มยักษ์ที่ดูทรงอานุภาพ ราวกับสามารถผ่าสวรรค์ได้
“เป็นกระบี่ที่ทรงพลังมาก!” หนิงฝานกล่าว
กระบี่ยักษ์แหวกท้องนภา ผ่าเข้าหนิงฝานจนขาดเป็นสองท่อน ตำแหน่งที่กระบี่เคลื่อนผ่าน ท้องนภาถูกคมกระบี่เฉือนจนเห็นมิติภายใน
นางยกยิ้มด้วยความพอใจ เพราะคิดว่าสังหารหนิงฝานได้สำเร็จ แต่แล้วนางกลับต้องตกตะลึง รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าแข็งค้าง เพราะสิ่งที่นางเห็นเป็นเพียงภาพลวง
เงาร่างของผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของนางอย่างช้าๆ ปีกสีม่วงกระพือพัด พร้อมกับดรรชนีที่ทะลวงใส่ร่างนางอย่างจัง
“ความเร็วเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลง… วิชาราคะที่น่าสะพรึงกลัว”
นางขมวดคิ้วแน่น นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดหนิงฝานจึงหลบคมกระบี่ของนางได้
แววตานางแปรเปลี่ยนเย็นชา เงาร่างแปรเปลี่ยนเป็นแสงจันทรา เคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่งกว่าหนิงฝาน ทั้งยังขับพลังดรรชนีออกจากร่างได้อย่างง่ายดาย
หนิงฝานขมวดคิ้ว นางรวดเร็ว ทรงพลัง และดรรชนีคลายหยินของเขายังไม่ได้ผล
นางตวัดมือที่คมราวกับกระบี่เข้าใส่ หนิงฝานเร่งความเร็วสูงสุดเพื่อหลบ แต่ที่กลางอกก็ยังมีรอยแผล
นางตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เคลื่อนไหวได้ราวกับอัสนี หนิงฝานจะประมาทนางไม่ได้
ขนาดเป็นเพียงดวงจิตที่ 2... นางยังทรงพลังขนาดนี้ หากผสานกับร่างจริง นางจะทรงพลังขนาดไหน
“ล้อมนางไว้!” แม้นางจะงดงามและทรงพลัง แต่นั่นไม่ได้ทำให้หนิงฝานเมตตานางแม้แต่น้อย
ทาสทั้งสามระดมจู่โจมอย่างเต็มกำลัง อานุภาพที่พวกมันเปล่งออกมา ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงที่โด่ดเด่น แต่ถึงอย่างนั้น ดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงกลับยังรับมือพวกมันได้โดยไม่เสียเปรียบ
ในระหว่างที่ต้องสู้กันอย่างดุเดือดนั้น นางจุดเปลวเพลิงสีฟ้าขึ้น อานุภาพของเพลิงทำให้ทาสทั้ง 3 เสียการทรงตัวและถูกกระแทกปลิวไป
“เพลิงจันทรา!” นางแผ่เจตนาสังหารที่ทรงพลัง กระบี่ที่ก่อตัวจากพลังจันทราปรากฏในมือ ทะยานทิ่มแทงใส่หนิงฝาน
กระบี่ของนางก่อตัวขึ้นจากเพลิงฟ้าเมื่อครู่แต่ทรงพลังขึ้นมาก หากปล่อยให้มันสัมผัสร่างได้แม้เพียงนิด หนิงฝานจะถูกเพลิงนั่นแผดเผาทั้งร่าง
“ดูเหมือนจะขโมยวิชามาจากเยว่เอ๋อร์ไม่น้อย!”
หนิงฝานนำกระบี่แยกสวรรค์ออกมา เงากระบี่จำนวนมหาศาลปรากฏ กวัดแกว่งต้านรับการจู่โจมของอีกฝ่าย
“เพลงกระบี่อนันต์!”
ปราณกระบี่มหาศาลเข้าจู่โจม สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง แม้นางจะทรงพลัง แต่ต้องตั้งใจต้านรับเพลงกระบี่ของหนิงฝานอย่างเต็มที่
“วิชาจันทรากลบฝัง!”
แสงจันทราสาดส่งลงจากท้องนภา ปกคลุมรัศมีนับแสนลี้
เมื่อครั้งที่หลิงคงอยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง นางเคยใช้วิชานี้ทำลายทะเลสติของสองผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงมาแล้ว
ยิ่งยามนี้ดวงจิตที่ 2 ของนางเป็นคนใช้ อานุภาพของมันยิ่งทรงพลัง
สีหน้าหนิงฝานแปรเปลี่ยน ปราณกระบี่ 10 ล้านเล่มถูกทำลาย แต่นั่นก็ทำให้วิชาของอีกฝ่ายถูกหักล้างไปด้วย นับว่าการจู่โจมของทั้งสองมีพลังทัดเทียมกัน
“เป็นวิชากระบี่ที่ทรงพลังมาก แต่แค่นั้นยังไม่พอ!”
นางขบกัดปลายลิ้น มือขยับเป็นท่าทาง แสงจันทร์ที่ถูกเพลงกระบี่หนิงฝานลบไปปรากฏใหม่อีกครั้ง แต่อานุภาพทรงพลังยิ่งขึ้น
“พิธีกลบฝังที่ 2!”
หนิงฝานกระตุ้นปีกฟู่ลี่มุ่งเข้าหาทาสทั้ง 3 อ้าปากแล้วกลืนเพลิงที่ตรึงร่างทาสทั้งสามเข้าไปในร่าง โดยที่ไม่เป็นอันตรายแม้แต่น้อย!
นางตกตะลึง นางคิดว่าหนิงฝานคงมีสมบัติบางอย่างที่ต้านเพลิงได้
เมื่อทาสทั้งสามกลับมาขยับตัวได้ หนิงฝานกวัดแกว่งกระบี่ ผสานการจู่โจมกับเหล่าทาส ต้านรับแสงจันทราของนาง!
*ตูม ตูม ตูม*
แสงจันทราเลือนหาย การปะทะกันที่รุนแรงเป็นผลให้นางได้รับบาดเจ็บ มุมปากปรากฏโลหิตไหลริน ดวงตาคู่งามปรากฏเจตนาสังหารที่รุนแรงขึ้น
กระบี่เพลิงในมือสลายไป มือปากเช็ดโลหิตที่มุมปาก ขยับมือเป็นท่าทาง ปากขมุบขมิบราวกับกำลังท่องเคล็ดความ
“วิชาจันทราแยกวิญญาณ!”
แสงจันทราที่หนาแน่นเปล่งออกจากร่างนาง เงาร่างที่เหมือนกันกับนางปรากฏขึ้น 3 เงา!
แต่ละเงาแผ่กลิ่นอายของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น ราวกับพวกมันทั้งหมดคือดวงจิตที่ 2 ของหลิงคง
แม้จะมีกลิ่นอายพลังที่คล้ายกันกับร่างต้น แต่ร่างแยกเหล่านั้นด้อยพลังกว่า ถึงอย่างนั้นก็เพียงพอให้รับมือกับทาสไร้ดัดแปลงทั้ง 3 ได้
แม้จะต้องเผชิญกับความเสี่ยง แต่นางไม่มีทางเลือก เพราะแม้จะใช้วิชาที่ทรงพลังของตนมากมายเท่าใด แต่ยังไม่อาจล้มหนิงฝานได้
ร่างแยก 3 ตนของนางทะยานเข้าปะทะกับทาสไร้ดัดแปลง ส่วนตัวนางตรงดิ่งเข้าหาหนิงฝาน
“ไม่มีใครช่วยเจ้าได้อีกแล้ว… วิชาจันทรากลบฝัง… พิธีกลบฝังที่ 2 และ 3!”
แสงจันทราที่ทรงพลังปรากฏอีกครั้ง แต่ยามนี้มันกลับทรงพลังขึ้นกว่าครั้งก่อนมาก
แสงจันทราระดับนี้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลางต้านรับ ยังได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
หนิงฝานขบคิดหาวิธีรับมือ แม้เขาจะมีวิชามากมาย แต่ใช่ว่าจะรับมือวิชาของนางได้
หนิงฝานยังไม่บรรลุขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง ต่อให้ใช้วิชาดรรชนีขยี้สวรรค์ หรือดรรชนีหมอกเมฆาม่วง ก็ไม่อาจต้านรับการจู่โจมได้
แต่ถึงอย่างนั้น เขามีตัวเลือกอยู่ 2 ทางที่สามารถรับมือนางได้ หนึ่งคือปราณกษัตริย์ที่เขาไม่คิดจะใช้ ส่วนอีกหนึ่งก็คือ...
ดวงตาหนิงฝานเปล่งแสงราวกับดาราสุกใส มือยื่นไปเบื้องหน้าคว้าจับ พลังจำนวนมหาศาลจากภูเขาและสายน้ำผสานเข้าสู่ร่าง
พลังที่เพิ่มพูนอย่างฉับพลัน ทำให้ระดับพลังของหนิงฝานเพิ่มพูนจนถึงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง ร่นระยะห่างของพลังของทั้งสองลง
ดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงขยับมือ แสงจันทราที่น่าสะพรึงสาดส่องเข้าใส่หนิงฝาน
แต่ในชั่วพริบตานั้นเอง ดาราสีดำสนิท 99 ดวงปรากฏล้อมรอบตัวหนิงฝาน แสงดาราทมิฬสาดส่องคลุมร่าง ต้านรับแสงจันทราที่จู่โจม
ชั่วลมหายใจแรกที่แสงจันทากระทบร่าง หนิงฝานได้รับบาดเจ็บ แต่ชั่วลมหายใจถัดมา แสงดาราทมิฬได้รักษาให้หายเป็นปลิดทิ้ง
ดังนั้นต่อให้เผชิญหน้ากับการจู่โจมตรงๆ ก็ไม่มีทางสังหารเขาได้!
“วิชาดึงวิญญาณ! วิชาดารา! ดาราทมิฬ 99 ดวง!” ดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงแตกตื่น
หนิงฝานมีวิชาที่ทรงพลังจนเกือบจะต้านรับการจู่โจมของนางได้อย่างสมบูรณ์
หนิงฝานยื่นมือไปเบื้องหน้า แสงดาราทมิฬก่อตัวเป็นรูปร่างของคันธนู มืออีกข้างทำท่ารั้งสายธนู ลูกธนูและสายธนูปรากฏ พื้นที่รอบข้างรัศมีแสนลี้สั่นสะเทือนราวกับจะพังทะลาย
“วิชาเทพปีศาจที่สาบสูญ… ธนูดับดารา! เป็นไปไม่ได้! ทำไมวิชานี้ถึงอยู่ในมือเจ้า!”
หนิงฝานจ้องมองนางไม่วางตา ในใจคิดเพียงอย่างเดียวคือต้องสังหารนางให้ได้
นางเร่งโคจรพลังทั้งหมด สร้างเป็นเกราะคุ้มกันสวมร่าง พร้อมกับกำแพงแสงอีก 99 ชั้นเบื้องหน้า แต่ละชั้นแข็งแกร่งพอที่จะต้านรับการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง!
แต่ถึงอย่างนั้น นางยังสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงจากลูกธนูของหนิงฝาน โลหิตในกายเดือดพร่านราวกับถูกแผดเผา
สัญชาติญานของนางบอกว่า ต่อให้นางหนีไปเป็นล้านลี้ ก็ไม่อาจหลบพ้นลูกธนูนั้นได้... โดยทั่วไปรัศมีการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้นคือแสนลี้ แต่ลูกธนูของหนิงฝานไปได้ไกลกว่านั้นมาก
นางไม่อาจหลบหนี ทำได้แค่เพียงต้านรับเท่านั้น!
หากนางรับลูกธนูของหนิงฝานได้ หนิงฝานจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที เพราะปราณที่เขาใช้ไปกับลูกศรนี้ เป็นจำนวนมหาศาล
หนิงฝานเองก็สัมผัสได้ว่าปราณในร่างตนถูกเผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว แต่ถึงจะทำเช่นนั้นเขากลับไม่ได้วิตกแม้แต่น้อย
“ธนูดับดารา… สังหาร!”
หนิงฝานปล่อยสายธนู ลูกธนูถูกดีดออกมาจากคัน พลังงานธรรมชาติโดยถูกดึงดูดเข้าสู่ลูกธนู มุ่งตรงเข้าหาดวงจิตที่ 2 ของหลิงคง
ลูกธนูกระทบกำแพงจันทราชั้นแรก ทะลวงผ่านมันไปในพริบตา
เมื่อลูกธนูผ่านชั้นแรก มันพุ่งทะลวงกำแพงชั้นอื่นๆทั้งหมด กระทั่งทะลวงร่างของนาง ทะลุออกทางแผ่นหลังไปไกลนับล้านลี้!
นางตกตะลึง ปราณในร่างทั้งหมดราวกับถูกแผดเผาจนไม่เหลือ ผืนสมุทรที่ลูกธนูวิ่งผ่านแยกตัวออกจากกัน เผยให้เห็นก้นสมุทรที่อยู่ลึกลงไป!
ร่างของนางไร้เรี่ยวแรงพยุงตัว ร่วงหล่นลงจากท้องนภาโดยไม่อาจควบคุม
นางขบฟันเค้นพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อหวังจะหลบหนี แต่ก่อนที่นางจะได้ใช้พลัง หนิงฝานกลับชิงลงมือก่อน
“ตรึงสวรรค์!”
เส้นแสงสีแดงโลหิตพันธะนาการร่างกายที่แทบจะไร้กำลังของนางจนไม่อาจเคลื่อนไหว ปีกฟู่ลี่กระพือพัดส่งร่างหนิงฝานเข้าประชิด แล้วใช้ดรรชนีคลายหยินใส่นาง
“เจ้าแพ้แล้ว...” หนิงฝานไม่ได้คิดจะสังหารนางจริงๆ เพราะนางคือส่วนหนึ่งของเยว่หลิงคง เขาต้องให้นางดูดกลืนและผสานวิญญาณตนเองแทน
“ปล่อยข้า… ข้าดีกว่านางล้านเท่า หากเจ้ายอมปล่อยข้า ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใดข้าก็จะให้ แม้เจ้าต้องการร่างกายข้า ข้าก็ยอม!”
ร่างที่ถูกพันธะนาการด้วยวิชาตรึงสวรรค์ไม่อาจเคลื่อนไหว นางจึงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อโน้มน้าวหนิงฝาน
แต่ไม่ว่านางจะงดงามเพียงใด สำหรับนางแล้วย่อมไม่มีวันเทียบหลิงคงตัวจริงได้
“เจ้าไม่มีค่าพอที่จะเทียบกับนางได้!”
หนิงฝานใช้ดรรชนีคลายหยินซ้ำจนนางหมดสติ
ร่างแยกทั้ง 3 ตนของนางก็หายไป...
หนิงฝานใช้เวลาเพียงชั่วธูปไหม้หมดดอกก็สามารถเอาชนะดวงจิตที่ 2 ของหลิงคงได้ ความเร็วระดับนี้ทำให้นางเองก็ตกตะลึง เพราะตอนนี้นางยังทำให้ศิษย์ของเกาะมิติหมดสติไม่ครบทุกคน
นางเฝ้าสังเกตุการต่อสู้ของหนิงฝานทั้งหมด นางขบคิดว่าหากเปลี่ยนนางไปที่แข็งแกร่งเหมือนในอดีตไปแทนดวงจิตที่ 2… นางก็ไม่สามารถรับธนูของหนิงฝานได้เหมือนกัน
อานุภาพของธนูดับดาราน่าสะพรึงกลัวมาก
ดาราแก่นชีวิตทั้ง 99 ดวงก็ทรงพลังมากพอที่จะต้านรับการจู่โจมเต็มกำลังของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้น
“คาดไม่ถึงว่าเจ้าแตงกวาน้อยจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
นางรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก นางผสานมือเป็นท่าทาง สร้างแสงจันทราอาบร่างเหล่าศิษย์ของเกาะมิติเทพ ปลดพันธะนาการให้
นางหวนนึกถึงคำที่หนิงฝานกล่าวเมื่อครู่ แม้หนิงฝานจะถูกดวงจิตที่ 2 ของนางยั่วยวน แต่กลับไม่หวั่นไหว
คำว่า “เจ้าไม่มีค่าพอที่จะเทียบกับนางได้” ตลอดอายุ 4 พันปีของนาง นี่เป็นครั้งแรกที่บุรุษกับกล่าวให้กับนางเช่นนี้
นางขบคิดว่า สมแล้วที่บุรุษผู้นี้เป็นบุรุษของนาง!