21 4%
21 4%
ในหัวของเขาสามารถคิดคำนวณได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ในตอนที่เขาถูกจู่โจมเข้าที่หน้าอกด้วยความแรงที่พอๆกับรถไฟคริสตัลความเร็วสูง และในวินาทีต่อมา เขาก็ปลิวไปไกลกว่า 8 เมตร เขากระแทกเข้ากับกำแพงจนเกิดเสียงดัง “ปัง!” จนทำให้ฟางที่บุติดกับผนังปลิวหลุดไปกว่าแปดก้อน และแตกกระจายปลิวไปบนอากาศ!
หลี่เย้าตกลงไปบนพื้น ทั้งตา จมูก และปากต่างมีน้ำไหลออกมา ทั่วทั้งบริเวณหน้าอกของเขาได้สูญเสียความรู้สึกไป ความรู้สึกชาราวกับถูกสายฟ้าฟาดได้กระจายไปทั่วร่างกายของเขา เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งทื่อไปแล้ว!
“เร็ว เร็วมาก ฉันมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ ว่ามันเป็นมือหรือเท้าของเขากันแน่ ไอ้บ้านี่มันเป็นคนประเภทไหนกัน? แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่กลับมาออกกำลังกายในยิมโทรมๆแบบนี้ เป็นเพราะแบบนี้ ถ้าฉันทนได้ถึงสามนาที ฉันถึงจะได้เงิน 10,000 เหรียญงั้นสินะ!” ในหัวสมองของหลี่เย้ามีแต่ความว่างเปล่า เขาสามารถสูดลมหายใจเข้าไปได้เพียงครึ่งปอดเท่านั้น เขาแทบจะลุกไม่ขึ้น และต้องใช้กำแพงในการพยุงตัวลุกขึ้น
ขาทั้งสองข้างของหลี่เย้าสั่นสะท้าน เมื่อเขามองไปที่นาฬิกาที่ติดอยู่บนกำแพงฝั่งตรงข้าม...เขาเห็นว่า เวลาเพิ่งจะผ่านไปได้แค่ห้าวินาทีเท่านั้น ทำไมมันถึงได้รู้สึกเหมือนกับผ่านไปห้านาทีกันนะ?
ชายหน้ากากตัวตลกยืนอยู่ห่างจากเขาไป 10 เมตร เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และขมวดคิ้ว พร้อมกับถามออกมาว่า “พลังการป้องกันของนายดูเหมือนจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่นะ ถ้านายไปต่อไม่ไหว ก็หยุดตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่านะ มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดื้อดึงต่อไปหรอก”
“ใครบอกว่าฉันไปต่อไม่ไหว!? เมื่อกี้ฉันก็แค่ยังไม่พร้อม อีกครั้ง มาอีกครั้ง!” หลี่เย้าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขากล้ำกลืนเอาความเจ็บปวดลงท้องไป ดวงตาของเขาค่อยๆเปล่งแสงสีแดงออกมา ในหัวสมองของเขาเต็มไปด้วยความคิดที่ว่า “สามนาที 10,000 เหรียญ!”
10,000 เหรียญสามารถใช้ซื้อยาเสริมความแข็งแกร่งได้หลายสิบเม็ด หรือเนื้ออัดกระป๋อง 3,500 กระป๋อง หรือเซตอักขระผู้ฝึกตนที่ทำจากวัตถุดิบพิเศษ หรือ 10 มื้ออาหารบุพเฟ่ที่ร้านเขตแดนทะเลสาบเร้นลับ!
ภายในสุสานอาร์ติเฟ็กซ์ คนอื่นๆเรียกเขาว่า “อีแร้งที่เห็นคุณค่าของเงินมากกว่าชีวิต” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเงินจำนวนมาก เขาจะยอมทิ้งมันไปง่ายๆได้ยังไง? ล้อเล่นกันแล้วล่ะ!
“มา! มาได้เลย!” หลี่เย้ายืนอย่างมั่นคง แล้วตั้งท่ารับการโจมตี เขาจ้องเขม็งไปที่เท้าของฝ่ายตรงกันข้าม เขาใช้นิ้วมือกวักเรียกชายหน้ากากตัวตลกให้เข้ามา แล้วฝ่ายตรงข้ามก็พยักหน้าโดยไร้ซึ่งความเมตตา
“วูซซซซ!” ชายหน้ากากตัวตลกหายตัวไปอีกครั้งหนึ่ง!
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้!? มันไม่ใช่การหายตัว! ฉันไม่สามารถมองเห็นวิถีการเคลื่อนไหวของเขาได้เลย!” หลี่เย้าเบิกตากว้าง เขาพอจะจับเส้นทางการเคลื่อนไหวของชายหน้ากาตัวตลกได้ แต่เขาก็จบลงด้วยการไม่ได้อะไรเลย ลูกตาของเขาไม่สามารถตามความเร็วของฝ่ายตรงข้ามได้เลย เขาจึงทำได้เพียงพึ่งพาสัญชาตญาณ เพื่อรับรู้ถึงอันตรายและรับแรงการโจมตี
“ปัง!” มันราวกับมีงูยักษ์ได้ฉกเข้าที่ด้านขวาของหลี่เย้า เขาทำการป้องกันตัวเองและขยับหนีด้วยความยากลำบาก แผ่นป้องกันที่ใส่เอาไว้บนไหล่ขวาของเขา แตกออกเป็นเสี่ยงๆ แม้แต่แท่งเหล็กที่ถูกใส่เอาไว้ ก็ถูกแรงกระแทกจนเกิดเสียงดัง “แกร็ง แกร็ง”
“ความแข็งแกร่งนี้ มันน่ากลัวมากจริงๆ!” หัวของหลี่เย้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เพียงการเคลื่อนไหวแค่ครั้งเดียว ฝ่ายตรงข้ามก็สามารถทำลายแผ่นป้องกันที่ไหลขวาของเขาได้แล้ว แต่เขาก็ยังไม่มีท่าทีที่จะหยุดมือเลย เขาโจมตีเข้าใส่ด้วยมุมไปที่ไม่อาจคาดเดาได้เลย มันเป็นเหมือนกับลมพายุ ที่พัดเข้าใส่เขาในพริบตาเดียว!
อยู่ๆก็เกิดเสียง “ผัวะ ผัวะ ผัวะ ผัวะ ผัวะ” ดังออกมาจากร่างกายของเขา ราวกับแผ่นป้องกันได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ และเสียง “แป็ง แป็ง แป็ง แป็ง แป็ง” ของแท่งเหล็กดังให้ได้ยิน
“มองไม่เห็น มองไม่เห็น ฉันมองไม่เห็นเขาเลย! ถ้าการโจมตีนี้ยังมาต่ออีกเรื่อยๆ มันคงจะไม่ถึงหนึ่งนาที ที่เครื่องป้องกันพวกนี้จะแหลกละเอียด ฉันไม่มีอุปกรณ์ป้องกันอะไรเลย เจ้าสัตย์ประหลาดตัวนี้คงจะใช่เวลาไม่ถึงครึ่งนาที เพื่อส่งฉันให้ลงไปนอนกองกับพื้น!” ราวกับมีภาพของเงิน 10,000 เหรียญติดปีกและบินจากเขาไป และส่งเสียงดัง “แควก แควก” อยู่ภายในหัวของเขา บนใบหน้าของหลี่เย้า ค่อยๆปรากฏความมุ่งร้ายออกมา
“ฉันต้องรีบคิดหาวิธีให้เร็วที่สุด ฉันต้องมองการเคลื่อนไหวนี้ให้ออกให้ได้!”
หลี่เย้ารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขา ได้ถูกรถไฟคริสตัลความเร็วสูงทับไปมาๆ เขาเจ็บปวดทรมานจนอยากจะร้องขอความตาย
ภายใต้ความประหลาดใจของเขา เขารู้สึกว่าเขารู้จักความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ดี และค่อนข้างที่จะคุ้นเคยกับมัน ความทรงจำได้แตกกระจายออกมา กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย แล้วรวมเข้ากับจิตใจของเขาที่อยู่ลึกลงไป
ภายในทะเลจิตใจของเขา ความทรงจำมากมายได้กระจายตัวออก แล้วรวมตัวกันกลายเป็นภาพเหตุการณ์หนึ่ง
อยู่ๆ เขาก็สามารถคิดย้อนกลับไปถึงความฝันที่ยิ่งใหญ่นั้นได้ มันเป็นตอนที่เขายังคงเป็นเพียงชนชั้นระดับล่างของนิกายป่ายเลี่ยน ในช่วงเวลาที่เขา ต้องถูกผู้คุมไททันทำร้ายด้วยค้อนเหล็กอันใหญ่อยู่ทุกคืนวัน มันเป็นตอนที่เขาไม่อาจจะมองเห็นการโจมตีแต่ละครั้งได้เลย แล้วเพื่อนเก่าที่เดินทางไปทั่วโลกด้วยกัน บอกกับเขาว่า:
“โอเย่หมิง นายรู้สึกว่าค้อนเหล็กของไททันโจมตีนายเร็วเกินไป แล้วนายก็ไม่สามารถมองเห็นมันได้ชัดเจนใช่ไหมล่ะ? มาสิ เอาปลาสำหรับมื้ออาหารหนึ่งเดือนของนายมาให้ลุงคนนี้ซะ ลุงคนนี้จะสอนเทคนิคพิเศษให้กับนายเอง! นายจะถามว่า มันคือเทคนิคพิเศษอะไรอย่างนั้นเหรอ? มันง่ายมาก...ถ้านายมองตรงไปด้วยตาของนาย แล้วยังเห็นได้ไม่ชัด นายก็ต้องหรี่ตาให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้แทน ใช้การมองแบบหรี่ตาของนาย ก็จะสามารถมองเห็นได้ชักเจนกว่า การมองตรงๆ!”
ใช้การมองแบบหรี่ตาแทน?
หลี่เย้าคิดถึงเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เขาไม่มีเวลาให้คิดมากกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้น เขาจึงหรี่ตาลงและชำเลืองมองไปรอบๆ
หลี่เย้ามองเห็นเขาแล้ว!
ชายหน้ากากตัวตลกม้วนตัวจนกลายเป็นลูกบอล จนดูไม่ต่างไปจากแมวบ้านตัวหนึ่งเลย ในเวลานี้ เขาได้โผล่มาที่ด้านหลังฝั่งขวาของหลี่เย้า แล้วจากแมวบ้านตัวหนึ่ง ได้กลายมาเป็นงูยักษ์ที่ดุร้ายภายในพริบตาเดียว เขากวาดขาเตะเข้าใส่หน้าแข้งขวาของหลี่เย้า!
การเตะของเขาไม่ต่างอะไรไปจากเครื่องบินเจ็ตที่กำลังออกตัว ไม่เพียงแต่มันจะทำให้แผ่นป้องกันที่หน้าแข้งของเขาแตกละเอียด แม้แต่กระดูกหน้าแข้งของเขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บหนักไปด้วย และทำให้ความเร็วของหลี่เย้าลดลงไปถึงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะสูญเสียการควบคุมขาข้างนี้ไปเลย!
“เงิน 10,000 นั่น ต้องเป็นของฉันอย่างแน่นอน!” หลี่เย้ากัดริมฝีปากของเขา เขารวบรวมกำลังจากทุกเซลล์ในร่างกาย เขางอขาแล้วกระโดด “วูซซซ” ด้วยแรงทั้งหมดที่ใส่ลงไปที่ต้นขาและน่องของเขา!
การโจมตีของชายหน้ากากตัวตลกพลาดเป้า ทำให้เขาเสียการทรงตัว ชายหน้ากากตัวตลกพุ่งตัวไปด้านหน้าอีกครึ่งก้าว นี่เป็นครั้งแรก ที่ชายหน้ากากตัวตลกเปิดช่องว่างของเขา
การจู่โจมที่รุนแรงได้เสียกระบวน ราวกับเพลงจังหวะร้อนแรงที่ถูกบังคับให้หยุดเล่น
หลี่เย้าหมุนตัว เขาตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากช่องว่างนี้และแอบเตะเข้าใส่ฝ่ายตรงกันข้าม
ชายหน้ากากตัวตลกดูเหมือนจะเดาเรื่องนี้ได้ ลูกเตะที่หลี่เย้าส่งมาจึงไม่เกิดขึ้น เพราะชายหน้ากากตัวตลกได้กระโดดหนีไปไกลเจ็ดถึงแปดเมตรแล้ว ชายหน้ากากตัวตลกมองดูหลี่เย้าด้วยรอยยิ้ม ที่ไม่ค่อยเหมือนจะยิ้มสักเท่าไร ชายหน้ากากตัวตลกพูดออกมาด้วยความประหลาดใจและเหมือนจะชื่นชมว่า “ภายในเวลาสั้นๆแค่ 57 วินาที นายก็สามารถมองเห็นวิถีการโจมตีของฉันได้แล้วเหรอ? เหมือนกับเสือหมอบมังกรซ่อน ตลาดมืดมีผู้มีพรสวรรค์อยู่เยอะจริงๆ!”
“นั่น..นั่นยังน้อยไป นายไม่อยากจะรู้เหรอ ว่าตอนสุดท้ายฉันใช้วิธีอะไร ถึงสามารถมองเห็นการโจมตีของนายได้น่ะ? มันเป็นสิ่งที่อาจารย์ของฉันพูดเอาไว้ เมื่อยี่สิบปีก่อน ในคืนที่มีพายุฝน...” หลี่เย้าหายใจหอบราวกับวัว เขาพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะยื้อเวลาเอาไว้
“ฉันไม่อยากรู้!”
ชายหน้ากากตัวตลกพูดตัดบทสนทนาอย่างไม่อ้อมค้อม แล้วเขาก็ได้หายตัวไปจากจุดที่เขายืนอยู่อีกครั้ง ในครั้งนี้ หลี่เย้าได้ใช้วิธีเดิมในการมองหาวิถีการโจมตีของเขา แต่สิ่งที่แปลกก็คือ ชายหน้ากากตัวตลกได้ปรากฏออกมาถึงสองคนด้วยกัน และพวกเขาทั้งสองก็ได้พุ่งเข้าหาหลี่เย้า จากทางด้านซ้ายและขวาพร้อมๆกัน!
......
ภายในห้องชา ชายหัวล้านได้ดื่มด่ำกับเหล้าหมัก กัดปีกไก่ และฮัมเพลงของกองทัพอย่างสบายอารมณ์
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น และชายที่สวมหน้ากากลายใยแมงมุมก็ได้โผล่เข้ามาในห้อง
เขาไม่ได้สูงมากนัก และมีร่างกายบึกบึนล้ำสัน ซึ่งเหมาะที่จะเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งอย่างมาก
“นายคือใคร?” ชายหัวล้านจ้องมองไปที่ชายร่างกายบึกบึน พร้อมกับถือปีกไก่ค้างไว้ และมีกระดูกไก่อยู่ในปากที่ขยับไปตามการพูดของเขา
......
......
ภายในห้องว่าง เวลาได้ผ่านไปแล้ว 2.30 วินาที!
หลี่เย้าเป็นเหมือนกับเรือตกปลาลำเล็ก ที่โยกซ้ายโยกขวาด้วยคลื่นพายุอยู่กลางท้องทะเล เขาถูกชกอย่างรุนแรงด้วยความแรงที่ราวกับจะสั่นสะเทือนโลก และทำให้นรกแตกออกเป็นเสี่ยงๆได้ แต่เขาก็ยังคงลอยตัวอยู่บนผืนน้ำได้ หลังจากที่ผ่านไปชั่ววินาทีเดียวของแต่ละครั้ง!
ร่างกายของหลี่เย้าได้รับพลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของโอเย่หมิงและประสบการณ์มากมายของเขา ทุกมัดกล้าม ทุกเซลล์ในร่างกายนั้นแข็งแกร่งและทนทานอย่างหาใครเทียบยาก ถึงแม้การชกแต่ละครั้งที่เขาได้รับ จะให้ความรู้สึกเจ็บปวดจนลึกลงไปถึงกระดูก แต่เขาก็ยังพยายามอดทนจนถึงที่สุด มันเป็นความพยายามที่บ้าคลั่ง และทั้งหมดก็เพียงเพราะ...
“พระเจ้า ผมถูกไอ้บ้านี่ต่อยมาสองนาทีครึ่ง กับอีก624 หมัดแล้ว! ถ้าผมยอมแพ้ตอนนี้ ทั้งหมดที่ยอมทำมามันจะไม่สูญเปล่าหรอกเหรอ?”
สองนาทีสามสิบเอ็ดวินาที สองนาทีสามสิบสองวินาที...
แต่ละวินาทีที่ผ่านไป แสดงให้เห็นถึงความพยายามของหลี่เย้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งที่บ้ายิ่งกว่านั้นก็คือ หลี่เย้ารู้สึกว่า ความเร็วที่สุดยอดของฝ่ายตรงข้ามนั้นดูเหมือนจะลดลง และความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป บางที อีกไม่นานชายหน้ากากตัวตลกอาจจะเผลอเปิดช่องว่างออกมา
ในช่วงเวลาสองนาทีครึ่งนี้ เขาไม่ได้ทำเพียงแค่เป็นกระสอบทรายให้ชกต่อยเฉยๆเท่านั้น แต่เขายังได้ให้ความสนใจไปที่การสังเกตฝ่ายตรงข้ามด้วย ถึงแม้ว่า ความเร็วของชายหน้ากากตัวตลกจะรวดเร็วมาก แต่หลี่เย้าก็ได้พบว่า ในรูปแบบการเคลื่อนไหวของเขานั้นมันมีความเคยชินเล็กๆปรากฏให้เห็นด้วย ทุกๆครั้งที่ชายหน้ากากตัวตลกโจมตีเข้ามาทางด้านขวา เขามักจะงอขาซ้ายของเขาเล็กน้อยอยู่เสมอ
การเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นนี้ ได้ทำให้ความเร็วของชายหน้ากากตัวตลกช้าลงไป 0.1 วินาที
หลี่เย้ากำลังช่องว่างจากจุดนั้นอยู่!
เขาไม่ใช้พระสงฆ์ ที่ไม่มีวันสู้กลับและทำเพียงแค่รับการโจมตีเท่านั้น ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามนั้นสูงกว่าเขามากอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่ลมที่ปล่อยจากหมัดของเขาก็แรงมากพอแล้ว!
แต่ถึงยังไง ตอนนี้มันก็ยังไม่ถึงเวลา ในเวลานี้ ฝ่ายตรงข้ามยังคงมีแรงอยู่ เขายังคงระมัดระวัง และยังคงยิ้มอยู่
ไม่เป็นไร หลี่เย้ารอได้ เขาเป็นเหมือนกับอีแร้ง ที่กำลังรอโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการล่า การอาศัยอยู่ในสุสานอาร์ติเฟ็กซ์มานานหลายปี ได้สอนให้เขาได้เรียนรู้วิธีการเก็บคมเล็บ และความอดทนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ในตอนที่เขากำลังถูกซัด ในตอนที่เขากำลังหมุดหัวหลบราวกับหนูตัวหนึ่ง ในตอนที่เขาร้องไห้คร่ำครวญเหมือนภูตผี และในตอนที่เขาร้องโหยหวนไม่ต่างไปจากหมาป่า ภายในสมองของหลี่เย้านั้นกลับเงียบสงบ ความทรงจำได้ผุดออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ ภาพของไททันใช้ค้อนตีกระหน่ำลงมาด้วยเทคนิค 108ฝ่ามือพัวพัน ได้ปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขาอีกครั้ง จากภาพที่เลอะเลือน กลับกลายเป็นชัดเจน
เคลื่อนไหวครั้งที่หนึ่ง...เคลื่อนไหวครั้งที่สอง...
หลี่เย้าใช้ความเร็วสูงสุด ในการค้นหาความทรงจำในห้องสรรพาวุธ ที่เหมาะที่จะนำออกมาใช้เป็น “อาวุธ” ในสถานการณ์นี้ได้
......
ภายในห้องชา
ชายหัวล้านได้ผุดลุกขึ้นยืน และพ่นเหล้าหมักออกมาจนเลอะร่างกายตนเอง “นายคือ ‘เต่าเหล็ก’ เหรอ?”
“ถูกต้องแล้ว ฉันก็คือเต่าเหล็ก ไม่ใช่ว่าเราเคยติดต่อกันมาก่อนหน้านั้นแล้วเหรอ? ก็นายเป็นคนบอกเอง ว่าให้ฉันใส่หน้ากากลายแมงมุมมา มีปัญหาอะไรรึเปล่า?” ชายร่างบึกบึนขมวดคิ้ว และรู้สึกไม่เข้าใจ
“ถ้านายเป็นเต่าเหล็ก แล้วไอ้คนที่มันอยู่ในห้องว่างนั้น มันเป็นไอ้บ้าที่ไหนกัน?” ชายหัวล้านแสดงสีหน้ายุ่งยากใจ เขาสับสนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น เขาก็ผลักเต่าเหล็กไปด้านข้าง เขาก้าวยาวๆไปสองสามก้าว ก็ไปถึงที่หน้าห้องว่างและบิดลูกบิดประตู
“เฮ้ อาห่าย! หยุดมือซะ!”
“หมดเวลาสามนาทีแล้ว!” และในเวลาเดียวกันนั้น หลี่เย้าที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ได้กรีดร้องเสียงแหลมสูงขึ้นมา
ทั้งชายหัวล้านและหลี่เย้าได้ตะโกนออกมาพร้อมๆกัน ทำให้ชายหน้ากากตัวตลกที่กำลังเคลื่อนไหวโจมตีหลี่เย้าอยู่นั้น ถูกขัดจังหวะ ชายหน้ากากตัวตลกเผลอหันไปมองดูเวลาที่กำแพง และพบว่า ความจริงแล้ว...
เวลาเพิ่งจะผ่านไปสองนาทีห้าสิบเก้าวินาทีต่างหาก!
“เวลานี้แหละ!”
หลี่เย้าส่งเสียงคำราม เขาปลดการป้องกันออก มือขวาของเขาเหวี่ยงออกไป ส่วนมือซ้ายก็ถูกเหวี่ยงไปด้านหลัง หมัดที่กำแน่นของเขา ทำให้กระดูกลั่นจนเกิดเสียงดัง “แกร็บ แกร็บ” หมัดของเขา เป็นภาพราวกับกระบองที่ถูกฟาดออกไป เขาได้ใช้เท้าซ้ายเป็นแกนหมุน แล้วเหวี่ยงร่างกายตัวเองให้หมุนไป 90 องศาด้วยความเร็วสูง เขาใช้แรงเหวี่ยงร่างกายให้เป็นประโยชน์ และเหวี่ยงมือซ้ายออกไปอย่างดุร้าย!
“ผ่ะ ผ่ะ ผ่ะ ผ่ะ ผ่ะ ผ่ะ!” หมัดที่พุ่งผ่านอากาศออกไปจนเกิดเสียงระเบิดขึ้นในอากาศ! กำปั้นของเขาเหมือนกับค้อนเหล็กที่พุ่งตรงเข้าสู่ใบหน้าของชายหน้ากากตัวตลก!
“เทคนิคค้อนพายุโกลาหน ฝ่ามือที่ 94 ค้อนพายุหมุนพิฆาต!”
“ได้โปรด ปล่อยเขาไปเถอะ!”
ชายหัวล้านที่ผลุนผลันเข้ามาในห้อง ได้ตะโกนร้องออกไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ แต่หลี่เย้าก็หยุดมือของเขาไม่ได้แล้ว กำปั้นของเขาได้พุ่งเข้าใส่จมูกของชายหน้ากากตัวตลก ระยะห่างระหว่างกำปั้นและใบหน้าของชายหน้ากากตัวตลกบางเท่าเส้นผมเท่านั้น
จากนั้น ชายหน้ากากตัวตลกเหมือนจะเปลี่ยนไป
เขายังคงเป็นชายคนเดิม ขนตาของเขาแทบจะไม่กระพริบ รูขุมขนทั้ง 36,000 รูได้ปลดปล่อยอากาศขุ่นมัวออกมา พลังที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายเขาราวกับสามารถจับต้องได้ และดูเหมือนกับเกราะใส ภาพของเขาได้เปลี่ยนไปจากนักสู้ธรรมดา กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดยอด!
ในเวลานี้ หลี่เย้าถึงได้เข้าใจคำพูดที่ว่า “ได้โปรด ปล่อยเขาไปเถอะ” ว่ามันไม่ได้มีไว้สำหรับเขา
0.01วินาทีต่อมา เขาไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้ยังไง แต่กำปั้นที่เขาส่งออกไปได้ย้อนคืนกลับมา และพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของตัวเองอย่างแรง จนเขาลอยไปไกลหลายสิบเมตร เขาหมดสติไปกลางอากาศ โดยที่ยังไม่ทันจะได้กรีดร้องออกมาแม้แต่ครึ่งคำ!
สายลมที่หมุนวนอยู่ในอากาศของชายหน้ากากตัวตลก ถูกปล่อยออกมาเพียงครึ่งวินาทีเท่านั้น แล้วจากนั้น มันก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาได้กลับมาเป็นคนธรรมดา ที่ดูไร้พิษสงเหมือนเช่นก่อนหน้านี้
เขาไปตรงไปหาหลี่เย้าด้วยท่าทีสบายๆ จากนั้นก็นั่งยองๆ และตรวจดูการหายใจของหลี่เย้า
“เขาเป็นยังไงบ้าง? ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” ชายหัวล้านวิ่งตรงไปหาอย่างไม่รอช้า และถามออกมาด้วยความกังวล
“เขาหมดสติไปน่ะ มันก็อันตรายอยู่บ้าง เพราะเขาใช้พลังที่มากจนเกินไป แต่ถ้าเราให้ยาเสริมความแข็งแกร่งกับเขา มันก็จะไม่มีปัญหาอะไร” ดาบปีศาจเผิงห่ายอังมือไปที่จมูกของหลี่เย้า เขาพูดออกมาอย่างประหลาดใจว่า “คนคนนี้ค่อนข้างน่าประหลาดใจมากเลยนะ เขาถึงขนาดทำให้ผมข้ามขีดจำกัดที่วางเอาไว้ แล้วระเบิดพลังออกมา 4%”