ตอนที่แล้วบทที่ 147 - สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (5)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 149 - สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (7)

บทที่ 148 - สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (6)


บทที่ 148 - สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (6)

หลังจากที่ฉันกล่าวคำประกาศจบลง พวกเราก็ได้ออกมาจากคาเฟ่และกระโดดขึ้นบนหลังของล็อทเต้ ในตอนแรกที่ฉันทำให้เธอเชื่อง เธอก็ได้ปฏิเสธที่จะให้คนอื่นมาขี่เธอ แต่ว่าหลังจากที่ได้รู้จักกับสมาชิกกิลด์และทำความคุ้นเคยกับฉันมากขึ้นเลื่อยๆ เธอก็ได้อนุญาติ

"ฉันจะไปด้วย มันดูเหมือนว่าทางสมาคมผู้พิทักษ์จะไม่ชอบใจนาย แต่ว่าฉันต้องการจะเห็นกับตาของตัวเองถึงทักษะของนายที่นายมั่นใจนักหนา"

เด็กสาวคนหนึ่งได้โผล่ออกมาจากฝูงชนและขอไปกับพวกเรา เธอก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้พลังระดับ S ในเกาหลี... แต่ว่าแน่นอนฉันไม่สามารถจะจำชื่อของเธอได้ เมื่อได้เข้าใจถึงความรู้สึกเธอฉันก็หยักหน้า

"แน่นอน เธอสามารถจะตามเรามาถ้าเธอทำได้นะ"

"หือ?"

"ล็อทเต้ของเราจะไม่ยอมให้คนอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกกิลด์มานั่งบนหลังของเธอ"

[ถ้านายขอให้ฉันปล่อยให้ผู้หญิงนั่นมาขี่ฉัน ฉันก็จะกินเธอทั้งเป็นซะ]

ล็อทเต้ได้พึมพัมออกมา ฉันได้เกาคอของเธอเพื่อให้เธอใจเย็นลงและตะโกนออกไป

"ไปกันเธอ"

"ระ รอเดี๋ยว คุณยอน ฮวาวู"

ล็อทเต้ได้กระพือปีกของเธอ แม้แต่ผู้ใช้พลังระดับ S ก็ไม่สามารถจะต้านทานแรงลมนี้ได้ ลอทเต้ไปบินขึ้นไปจากพื้นในทันทีซึ่งมันทำให้พื้นคอนกรีตยุบลงไปมันที

"เดี๋ยวก่อน คุณยอน ฮวาวู! ฉันบอกให้คุณพาฉันไปด้วย"

"พระเจ้า"

เธอเป็นผู้ใช้พลังลม!? เธอเป็นผู้ใช้พลังระดับ S ที่บินช้ากว่าล็อทเต้เล็กน้อยในขณะที่เธอตะโกนออกมาสุดเสียง พลีนที่ยังเกาะติดอยู่กับหลังของฉันก็บ่นออกมา

"ฉันไม่ชอบเสียงผู้หญิงคนนั้น"

"ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังตามหลังเจาแม้ว่าเขาจะใส่หน้ากากก็ตาม พวกเราจะทำยังไงกับชายคนนี้ดีล่ะ? พวกเราควรจะพันรอบหัวเขาด้วยเทปดีปะ?"

"นั่นแหละๆ"

"อย่ามาทำให้ฉันเป็นมัมมี่สิ"

[ฉันจะเร่งความเร็วมากกว่านี้]

"แน่นอนล็อทเต้"

[อืมมม]

เมื่อล็อทเต้ได้เร่งความเร็วขึ้น ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่ไม่นานนักเธอก็เร่งความเร็วขึ้นและตามพวกเราต่อไป เมื่อมองไปที่เธอ ฉันก็ได้ตระหนักว่าเธอก็ได้จับมือของผู้ใช้พลังระดับ S อีกสองคนอยู่ ฉันสามารถจะเห็นใบหน้าที่ซีดของวู หยงฉาได้อย่างชัดเจน เธอได้คว้าที่คอของเขาเอาไว้เหมือนกับเขาเป็นแมว เมื่อฉันมองไปอย่างสนใจในพวกเขา ฮวาหยาก็แนะนำขึ้น

"พวกเขาทั้งหมดอยู่ในกลุ่มผู้พิทักษ์ ซึ่งกลุ่มปีกแห่งเสรีจะมีสูงที่สุดเพียงผู้ใช้พลังระดับ A+ เท่านั้น"

"เธอนี้รู้ทุกอย่างจริงๆเลยนะฮวาหยา"

"มะ ไม่ใช่ทุกอย่างซะหน่อย ฉันเพียงแค่รู้ในสิ่งที่ฉันต้องรู้... นายก็จำเป็นจะต้องรู้จักเกี่ยวกับศัตรูของนายนะเพื่อที่จะเตรียมตัวรับมือ"

"ศัตรู หือ...."

มนุษย์คือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนายนะคังชิน นายควรจะรู้ตัวตั้งแต่อยู่อังกฤษแล้วนะ ถ้านายคิดว่าทุกคนจะมาอยู่ข้างนายหลังจากฟังที่นายพูด นายจะมีแต่ได้รับบาดเจ็บเอานะ"

วอร์คเกอร์ได้พูดออกมาแบบประชดประชัด เมื่อมองเห็นเขาที่กอดอกมองไปบนก้อนเมฆ ฉันรู้สึกว่าเขาดูจะเหงาๆเล็กน้อย จากนั้นฉันก็คิดว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น หรือว่าเขา...เป็นห่วงฉันงั้นหรอ?

ฉันได้พึมพัมออกไป

"...นายเป็นคนดีจริงๆสินะ?"

"มันน่าขยะแขยงนะ เงียบไปเถอะ"

ฉันมั่นใจได้เลยว่าวอร์คเกอร์กำลังเปลื่ยนไป บางที่สักวันหนึ่งมันอาจจะเร็วกว่าที่ฉันคิดสัญญาณที่ไว้มันก็อาจจะไม่จำเป็น

"สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องเจ้าลูกชาย อย่างน้อยจะต้องระวังเหตุการการจู่โจมที่จะโผล่ออกมา และพื้นที่ดันเจี้ยนที่จะถูกรีเซ็ตใหม่หลังสองสามเดือนที่ถูกเคลียร์ ไม่ใช่ว่าแกได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเองแล้วงั้นหรอ? เหตุการดันเจี้ยนนั้นมันอันตรายมากเกินไป ไม่ว่ามันจะให้ประโยชน์ที่มากแค่ไหน พวกเราก็จะต้องดำเนินมันต่อไป...."

"แน่นอนพ่อ ผมจะไม่ลังเล ผมได้คิดเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้ว นอกจากนี้นผมก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นถูกต้อง"

ฉันได้ยิ้มออกมาบางๆและตอบกลับไป ฉันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ซักนิด สิ่งที่ฉันทำในวันนี้...แม้ว่าฉันจะไม่แน่ใจนัก แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันเป็นไปตามที่ฉันต้องการ

เป้าหมายแรกของพวกเราคือเหตุการดันเจี้ยนระดับ S+ บังเอิญมากที่มันในยงดงพู ฉันประหลาดใจมากที่ฮวาหยาได้ปล่อยันเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยแบบนี้เธอจะต้องเครียดกับมันมากแน่ๆ

"จริงๆแล้วฉันจะบอกให้แม่ของฉันย้ายบ้าน ชินมีบ้านที่อยู่ใกล้ๆนายขายอยู่ไหม?"

"ขอโทษนะ แต่ว่าแม่ของฉันจะต้องกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดีแน่ๆ ดังนั้นอย่างทำแบบนั้น"

ในคราวนี้เหตุการดันเจี้ยนมันได้ปรากฏขึ้นที่กลางสวนสาธารณะ แน่นอนว่ามีเหล่าผู้พิทักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังป้องกันมันอยู่ เพื่อที่จะป้องกันการตายไปโดยที่ไม่มีค่า

"นั่นมันอัศวินมังกร"

"ไวเวิร์นของเขามันใหญ่จริงๆ"

"ขะ เขาพยายามที่จะเข้าไปในเกตจริงๆหรอ? ไม่ใช่ว่าเขาบ้าไปแล้วหรอ?"

ล็อทเต้ได้กระพือปักของเธอกลางอากาศและมองไปที่เกต พวกเขาได้ตื่นตระหนกขึ้นทันทีที่เห็นล็อทเต้มองไป

"ห้ามเข้ามานะ! สถานนี้อยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมของผู้พิทักษ์และไม่เปิดเป็นสาธารณะ! ถ้าหากนายต้องการจะเข้าไป นายจะต้องสร้างปาตี้และได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล"

"เข้าใจแล้ว"

ฉันได้ตอบกลับไปอย่างสุภาพให้กับเสียงที่ดังมาจากด้านล่าง

"แต่ว่าฉันไม่สน!"

ล็อทเต้ได้พุ่งเข้าใส่เกตในทันที

[คุณได้เข้าสู่เหตุการดันเจี้ยนระดับ S+ ความพิโรธของป่า]

"ป่าอีกแล้วหรอ"

"อย่าบอกนะว่ามันจะมีแมงมุมอีกแล้ว...?"

"ถ้างั้นที่นี่คือ..."

"พวกเราเข้ามาใน..."

เอ๊ะ? ฉันได้หันไปมองที่เสียงที่ไม่คุ้นเคย เมื่อมองไปตรงนั้นมีผู้ใช้พลังระดับ S ทั้งสามคนยืนอยู่ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะตามพวกเราเข้ามาในเกตจริงๆ

"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะไปโดยไม่สนใจพวกเราเลย... มันยากนะที่จะตามนายทัน"

"อ่า... เยี่ยมเลย แต่เธอรู้สินะว่านี้เป็นดันเจี้ยนระดับ S+ ใช่ไหม?"

"อ่า นายพึ่งพูดมันตอนนี้"

ไม่มีผู้ใช้พลังระดับ S+ ในเกาหลี ทั้งสามคนนี้เป็นเพียงผู้ใช้พลังระดับ S เท่านั้น ฉันกำลังสงสัยว่าอะไรกันที่ทำให้เขามีความมั่นใจในการเข้ามาในนี้ ในเวลาเดียวกันนั้นเสียงคำรามก็ได้ดังขึ้นทั่วทั้งดันเจี้ยน

[ก๊าซซซซซซซ]

ผู้ใช้พลังระดับ S ได้กลายเป็นตัวแข็งไป เอาตามจริงเอ็ดเวิร์ดก็ยังตัวแข็งทื่อไปด้วย

"เวรเอ้ย ถ้าฉันตายที่นี่ ฉันจะเปิดเผยยความชั่วร้ายของนายด้วยตัวฉันเอง กึก"

"นายไม่ตายหรอกน่าไม่ต้องห่วงวอร์คเกอร์"

ฉันได้ยิ้มและหยิบหอกออกมา แม้ว่ายอน ฮวาวูจะเป็นที่รู้จักว่าเขาได้ใช้หมัด แต่ว่าเขาก็ถูกเปิดเผยแล้วว่าเป็นคนๆเดียวกับอัศวินมังกรผู้ที่ใช้หอกต่อสู้กับเดรก ดังนั้นมันก็ไม่สำคัญอะไรถึงแม้ว่าฉันจะใช้หอกก็ตาม

ฉันได้ส่งหมุนหอกในมือและกระจายมานาออกไปรอบๆ หลังจากนั้นไม่นานหลังจากนั้นฉันก็หยุดลง

"เจอแล้ว"

ในเวลาเดียวกันเสียงนั้นก็ดังออกมาจากป่า

[ฮีโร่! ข้าสามารถจะรู้สึกได้ถึงตัวตนของฮีโร่!]

"ทุกคนเตรียมตัวให้ดี ทางทิศ 11 นาฬิกา สูง 5 เมตร มันกำลังพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเรา มันดูเหมือนจะเป็นพวกระยะประชิด แต่ว่าส่วนใดส่วนหนึงของมันมีมานารวมกันอยู่ดังนั้นมันอาจเป็นไปได้ที่มันจะซ่อนไพ่ตายเอาไว้อยู่"

ฉันได้อธิบายข้อมูลที่ฉันได้รวบรวมมาจากการกระจายมานาออกไปของฉัน จากนั้นฉันก็ได้เริ่มหมุนวนวงจรเพรูต้า รูเดียได้กางแขนขึ้นและร่ายพรให้กับสมาชิกทุกคนในปาตี้ ทันใดนั้นวังวนวายุที่อยู่รอบๆหอกของฉันก็ทรงพลังขึ้น

จากนั้นต้นไม้ด้านหน้าของพวกเราก็ได้ล้มลงพร้อมเสียงดัง มันได้ปรากฏตัวออกมา ตามที่ฉันได้พูดออกมามันมีขนาดที่สูงถึง 5 เมตร แม้ว่ามันจะมีรูปร่างที่คล้ายกับมนุษย์ แต่ผิวของมันเป็นสีเขียวและมีกล้ามเนื้อที่ผิดปกติในขณะที่มีตาเพียงข้างเดียว

"ไซครอป"

[ฮีโร่ ข้าจะเป็นฮีโร่ ฮ่าๆ]

ฉันได้ปาหอกของฉันออกไปอย่างง่ายๆซึ่งมันได้เปลื่ยนให้หัวของไซครอปกลายเป็นฝุ่นไปทันที ฉันไม่แม้แต่จะใช้ฮีโร่อิค สไตรค์ มันตายไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิด จากนั้นฉันก็เรียกหอกของฉันกลับมาผ่านมานาและะพูดกับพรรคพวกของฉัน

"ฉันจะสนับสนุนพวกนายจากด้านบน พวกมันไม่น่าจะยากอะไรจากที่ฉันเห็นนะ"

"ไม่ยากงั้นหรอ!? พวกมันได้ทำให้คนอื่นอ่อนแอด้วยเวทย์สถานะความกลัว"

"พูดตามตรงนะนายควรจะปิดกั้้นอะไรที่มันเรียกว่าความกลัว"

"นะ นาย...!"

ฉันได้ปล่อยให้วอร์คเกอร์โกรธ และสั่งพลีน

"เมื่อไซครอปโผล่ออกมา เธอช่วยร้องเพลงที่ทำให้มันอ่อนแอลงทีนะ โอเค?"

"อือ โอเค! เพลงที่พวกเราทุกคนจะสนุกไปด้วยกันใช่ไหม!?"

"ชะ ใช่แล้ว"

"เดี๋ยวก่อนสิอัศวินมังกร! พวกเราควรทำอะไร?"

เธอถามฉันหรอ? เป็นคนที่กล้าอะไรแบบนี้

"ฉันจะไม่บอกให้เธอสู้ แต่เพราะว่าเธอได้ตัดสินใจที่จะสังเกตเราถ้างั้นก็ทำมันในขณะที่วิ่งหนีซะ"

"นะ นายต้องการให้พวกเราวิ่งหนี?"

"ล็อทเต้ไปกันเถอะ"

ล็อทเต้ได้บินขึ้นไปซึ่งมีเพียงฉันที่อยู่บนหลังของเธอ แม้ว่าผู้ใช้พลังอาจจะต้องการนั่งบนล็อทเต้แต่ฉันก็ไม่แม้แต่จะหันไปมองในขณะที่บินไปข้างหน้า ถ้าฉันสามารถจะบินได้ในดันเจี้ยน มันก็จะดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดถ้าฉันต่อสู้บนหลังของล็อทเต้ ถ้าฉันต่อสู้อย่างจริงต่อสู้อย่างจริงจังบนหลังของล็อทเต้พวกเขาจะไม่เพียงแต่แค่อ้วกและเวียนหัวเท่านั้น แต่พวกเขาก็ยังจะถูกเหวี่ยงออกไปอีกด้วย

[นายจะทำอะไรฮีโร่?]

"สมาชิกกิลด์ของฉันมีความแข็งแกร่งเพียงงพอที่น่าจะสามารถจัดการมันได้สองตัวในเวลาเดียวนะ"

[ถ้างั้นพวกเราก็จะหากลุ่มที่มีสามตัวขึ้นไปสินะ]

"แน่นอนสิ"

ล็อทเต้ได้เร่งความเร็วของเธอขึ้น ดันเจี้ยนนี้ได้เต็มไปด้วยยักตาเดียวไซครอปสมกับที่เป็นระดับ S+ พวกมันต่างก็ทรงพละกำลัง มีพลังการต่อต้านมานาและทักษะเวทย์ที่ทำให้อ่อนแอพร้อมทั้งออร่า ยังไงก็ตามไต้ฝุ่นคลั่งก็มีประสิทธิภาพมากกับลักษณ์พิเศษแบบนี้

การหมุนของวังวนพายุออร่าจะทำลายความต้านทานนั้นและจัดการระเบิดที่พิเศษขึ้นทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะงอกขึ้นมาใหม่ เพรูต้าผู้ที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาเหมาะสมแล้วที่จะถูกเรียกว่าเทพเจ้า

[ก๊าซซซซซซซซซซ]

"เส้นทางวายุ"

[ก๊าาาา]

ล็อทเต้ได้คำรามและพุ่งออกไป ไม่ว่าไซครอปจะตัวใหญ่แค่ไหน แต่ปีกทมิฬล็อทเต้นั้นก็ใหญ่และแข็งแกร่งยิ่งกว่าไวเวิร์นทั้งหมด แม้กระทั่งไซครอปก็ไม่สามารถจะป้องกันการพุ่งชนของเธอได้ ด้วยเส้นทางวายุนี้หอกของฉันได้เจาะผ่านเหล่าไซครอปในเส้นทางของล็อทเต้ผ่านไปและเส้นทางขึ้น

"ล็อทเต้ไปที่นั่น ที่ๆมีมันรวมกันอยู่ห้าตัว! ฉันจะใช้การโจมตีสุดท้ายที่นั่น"

[เข้าใจแล้วฮีโร่]

หลังจากจัดการส่งไซครอปลอยไปแล้ว 20 ตัว พลังงานลมที่แข็งแกร่งก็ได้ล้อมรอบหอกของฉันซึ่งมันได้เสริมพลังขึ้นมา 140% แม้ในขณะที่ล็อทเต้พุ่งไปข้างหน้าพลังก็ยังไหลเข้ามาจากทุกทิศทางเปลื่ยนไปเป็นวังวนพายุออร่า วังวนพายุนี้เกือบจะเหมือนกับมันได้ห่อหุ้มทั้งล็อทเต้และฉัน

"ไพก้า"

[โอเค]

เมื่อมองไปที่ไซครอปที่ลุกขึ้นมาจากการพักผ่อนของพวกมันและเตรียมตัวที่จะโยนต้นไม้ใส่พวกเรา ฉันได้ตะโกนเรียกชื่อไพก้า เธอได้รวบรวมสายฟ้าสี่ทางที่ปลายหอกของฉันในทันที มันก็คือระเบิดสายฟ้าซึ่งมีพลังทั้งหมดของเธอรวมเอาไว้

"พายุสายฟ้า!"

ฉันได้ตะโกนชื่อทักษะออกไป ในทันทีหลังจากนั้นฉันก็ได้ปะทะเข้ากับกลุ่มของไซครอป แรงของวังวงวายุที่ผสมกับสายฟ้าได้ระเบิดออกมา

[ก๊าซซซซ]

[มัน...คือ...ฮีโร่....]

ไซครอปที่ยืนอยู่หน้าสุดได้ตายลงไปในทันที และพวกตัวด้านหลังก็ได้ถูกกวาดออกไปด้วยแรงระเบิด แม้ว่าพื้นดินจะสั่นขึ้นจากแรงล้มของพวกมัน แต่พวกมันเหมือนกับเสียงเพลงในหูของฉัน

ฉันได้แข็งแกร่งขึ้น แม้แต่ดันเจี้ยนระดับ S ก็เป็นเหมือนกับสนามเด็กเล่นสำหรับฉัน ฉันได้ยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี ทันใดนั้นเอง....

"พวกเราจะทำอะไรล่ะถ้านายฆ่าพวกมันทั้งหมดไป? พวกเราเป็นแค่ผู้ชมงั้นหรอ?"

เสียงฮวาหยาได้ดังออกมาจากที่ไกลๆ เมื่อฉันได้หันไปมองไซครอปในเส้นทางที่ฉันและล็อทเต้ผ่านมาจากการใช้เส้นทางวายุ ฉันได้ฆ่าไซครอปทั้งหมดที่ฉันเห็น ฉันได้ลืมที่จะเหลือมันไว้ให้คนอื่นๆไปเลย

[ทะ โทษที ฉันเพลินไปนิดนึงนะ]

[ไม่ นายทำดีแล้ว มันจะดีกว่าที่นายแสดงพลังที่เหนือกว่าให้พวกเขาเห็น นายเจ๋งสุดๆ]

[น่ากลัว ปีศา... อึก!]

ขัดกับเสียงที่เธอเพียงตะโกนออกมา ฮวาหยาได้ส่งเสียงที่พึงพอใจอย่างมาในช่องทางการสื่อสารกิลด์ แม้ว่าฉันจะไม่ได้วางแผนในเรื่องนี้ ฉัรก็ได้จบลงด้วยการแสดงพลังให้กับผู้ใช้พลังระดับ S อย่างมีประสิทธิภาพ

แน่นอนว่าไซครอปไม่ได้ตายไปทั้ง นอกเหนือไปจากห้าตัวที่โดนระเบิดเข้าไปในการโจมตีสุดท้ายของฉัน ตัวอื่นๆได้ล้มลงไปบนพื้นด้วยการที่แขน ขา หรือชิ้นส่วนของร่างกายของพวกมันขาดหายไป จากนั้นฉันก็พุ่งไปตามเส้นทางวายุและจัดการตัวที่ยังเหลือรอดอยู่

"อะ อัศวินมังกร..."

"เขาฆ่ามอนสเตอร์ขนาดมหีมาเหล่านี้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว..."

"อึก"

หลังจากได้มารวมกับคนอื่นๆแล้ว ฉันก็อดที่จะขำไม่ได้เมื่อเห็นผู้ใช้พลังระดับ S มีท่าทางที่เปลื่ยนไป แม้อย่างนั้นพวกเขาก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จะแสดงท่าทางแบบนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราเคีลยร์ดันเจี้ยนของเกาหลี....

[ก๊าาาาา]

[ฆ่าฮีโร่]

เพราะว่าความสับสนวุ่นวายที่แนสร้างทำให้มีไซครอปมาได้รวมกันมากยิ่งขึ้นไป ฉันได้หมุนหอกอีกครั้งในขณะที่หันไป

"เอาล่ะพวกเราจะจบมันใน 3 ชม. ฉันต้องการจะจัดการอีกสามแห่งก่อนที่จะหมดวัน"

"จัดการดันเจี้ยนของเกาหลีในคืนเดียว... ฟังดูน่าสนุกนี่!"

พ่อได้ยิ้มออกมา

"เวรเอ้ย นายรู้ไหมว่าฉันจะต้องคุ้มครองน้องสาวของนายในวันพรุ่งนี้เหมือนกันนะ...."

"ทำให้ดีที่สุดนะวอร์คเกอร์!"

"แกมันปีศาจ! ว๊ากก!"

วอร์คเกอร์ได้ร้องออกมา น่าตกใจที่ผู้ใช้พลังระดับเอ็ดได้รับการสนับสนุนจากวอร์คเกอร์

ฉันได้เสียใจเล็กน้อยกับวอร์คเกอร์ แต่ว่านั้นก็เพียงแค่เล็กน้อยน่ะนะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด