บทที่ 148 - สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (6)
บทที่ 148 - สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (6)
”
หลังจากที่ฉันกล่าวคำประกาศจบลง พวกเราก็ได้ออกมาจากคาเฟ่และกระโดดขึ้นบนหลังของล็อทเต้ ในตอนแรกที่ฉันทำให้เธอเชื่อง เธอก็ได้ปฏิเสธที่จะให้คนอื่นมาขี่เธอ แต่ว่าหลังจากที่ได้รู้จักกับสมาชิกกิลด์และทำความคุ้นเคยกับฉันมากขึ้นเลื่อยๆ เธอก็ได้อนุญาติ
"ฉันจะไปด้วย มันดูเหมือนว่าทางสมาคมผู้พิทักษ์จะไม่ชอบใจนาย แต่ว่าฉันต้องการจะเห็นกับตาของตัวเองถึงทักษะของนายที่นายมั่นใจนักหนา"
เด็กสาวคนหนึ่งได้โผล่ออกมาจากฝูงชนและขอไปกับพวกเรา เธอก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้พลังระดับ S ในเกาหลี... แต่ว่าแน่นอนฉันไม่สามารถจะจำชื่อของเธอได้ เมื่อได้เข้าใจถึงความรู้สึกเธอฉันก็หยักหน้า
"แน่นอน เธอสามารถจะตามเรามาถ้าเธอทำได้นะ"
"หือ?"
"ล็อทเต้ของเราจะไม่ยอมให้คนอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกกิลด์มานั่งบนหลังของเธอ"
[ถ้านายขอให้ฉันปล่อยให้ผู้หญิงนั่นมาขี่ฉัน ฉันก็จะกินเธอทั้งเป็นซะ]
ล็อทเต้ได้พึมพัมออกมา ฉันได้เกาคอของเธอเพื่อให้เธอใจเย็นลงและตะโกนออกไป
"ไปกันเธอ"
"ระ รอเดี๋ยว คุณยอน ฮวาวู"
ล็อทเต้ได้กระพือปีกของเธอ แม้แต่ผู้ใช้พลังระดับ S ก็ไม่สามารถจะต้านทานแรงลมนี้ได้ ลอทเต้ไปบินขึ้นไปจากพื้นในทันทีซึ่งมันทำให้พื้นคอนกรีตยุบลงไปมันที
"เดี๋ยวก่อน คุณยอน ฮวาวู! ฉันบอกให้คุณพาฉันไปด้วย"
"พระเจ้า"
เธอเป็นผู้ใช้พลังลม!? เธอเป็นผู้ใช้พลังระดับ S ที่บินช้ากว่าล็อทเต้เล็กน้อยในขณะที่เธอตะโกนออกมาสุดเสียง พลีนที่ยังเกาะติดอยู่กับหลังของฉันก็บ่นออกมา
"ฉันไม่ชอบเสียงผู้หญิงคนนั้น"
"ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังตามหลังเจาแม้ว่าเขาจะใส่หน้ากากก็ตาม พวกเราจะทำยังไงกับชายคนนี้ดีล่ะ? พวกเราควรจะพันรอบหัวเขาด้วยเทปดีปะ?"
"นั่นแหละๆ"
"อย่ามาทำให้ฉันเป็นมัมมี่สิ"
[ฉันจะเร่งความเร็วมากกว่านี้]
"แน่นอนล็อทเต้"
[อืมมม]
เมื่อล็อทเต้ได้เร่งความเร็วขึ้น ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่ไม่นานนักเธอก็เร่งความเร็วขึ้นและตามพวกเราต่อไป เมื่อมองไปที่เธอ ฉันก็ได้ตระหนักว่าเธอก็ได้จับมือของผู้ใช้พลังระดับ S อีกสองคนอยู่ ฉันสามารถจะเห็นใบหน้าที่ซีดของวู หยงฉาได้อย่างชัดเจน เธอได้คว้าที่คอของเขาเอาไว้เหมือนกับเขาเป็นแมว เมื่อฉันมองไปอย่างสนใจในพวกเขา ฮวาหยาก็แนะนำขึ้น
"พวกเขาทั้งหมดอยู่ในกลุ่มผู้พิทักษ์ ซึ่งกลุ่มปีกแห่งเสรีจะมีสูงที่สุดเพียงผู้ใช้พลังระดับ A+ เท่านั้น"
"เธอนี้รู้ทุกอย่างจริงๆเลยนะฮวาหยา"
"มะ ไม่ใช่ทุกอย่างซะหน่อย ฉันเพียงแค่รู้ในสิ่งที่ฉันต้องรู้... นายก็จำเป็นจะต้องรู้จักเกี่ยวกับศัตรูของนายนะเพื่อที่จะเตรียมตัวรับมือ"
"ศัตรู หือ...."
มนุษย์คือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนายนะคังชิน นายควรจะรู้ตัวตั้งแต่อยู่อังกฤษแล้วนะ ถ้านายคิดว่าทุกคนจะมาอยู่ข้างนายหลังจากฟังที่นายพูด นายจะมีแต่ได้รับบาดเจ็บเอานะ"
วอร์คเกอร์ได้พูดออกมาแบบประชดประชัด เมื่อมองเห็นเขาที่กอดอกมองไปบนก้อนเมฆ ฉันรู้สึกว่าเขาดูจะเหงาๆเล็กน้อย จากนั้นฉันก็คิดว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น หรือว่าเขา...เป็นห่วงฉันงั้นหรอ?
ฉันได้พึมพัมออกไป
"...นายเป็นคนดีจริงๆสินะ?"
"มันน่าขยะแขยงนะ เงียบไปเถอะ"
ฉันมั่นใจได้เลยว่าวอร์คเกอร์กำลังเปลื่ยนไป บางที่สักวันหนึ่งมันอาจจะเร็วกว่าที่ฉันคิดสัญญาณที่ไว้มันก็อาจจะไม่จำเป็น
"สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องเจ้าลูกชาย อย่างน้อยจะต้องระวังเหตุการการจู่โจมที่จะโผล่ออกมา และพื้นที่ดันเจี้ยนที่จะถูกรีเซ็ตใหม่หลังสองสามเดือนที่ถูกเคลียร์ ไม่ใช่ว่าแกได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเองแล้วงั้นหรอ? เหตุการดันเจี้ยนนั้นมันอันตรายมากเกินไป ไม่ว่ามันจะให้ประโยชน์ที่มากแค่ไหน พวกเราก็จะต้องดำเนินมันต่อไป...."
"แน่นอนพ่อ ผมจะไม่ลังเล ผมได้คิดเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้ว นอกจากนี้นผมก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นถูกต้อง"
ฉันได้ยิ้มออกมาบางๆและตอบกลับไป ฉันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ซักนิด สิ่งที่ฉันทำในวันนี้...แม้ว่าฉันจะไม่แน่ใจนัก แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันเป็นไปตามที่ฉันต้องการ
เป้าหมายแรกของพวกเราคือเหตุการดันเจี้ยนระดับ S+ บังเอิญมากที่มันในยงดงพู ฉันประหลาดใจมากที่ฮวาหยาได้ปล่อยันเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยแบบนี้เธอจะต้องเครียดกับมันมากแน่ๆ
"จริงๆแล้วฉันจะบอกให้แม่ของฉันย้ายบ้าน ชินมีบ้านที่อยู่ใกล้ๆนายขายอยู่ไหม?"
"ขอโทษนะ แต่ว่าแม่ของฉันจะต้องกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดีแน่ๆ ดังนั้นอย่างทำแบบนั้น"
ในคราวนี้เหตุการดันเจี้ยนมันได้ปรากฏขึ้นที่กลางสวนสาธารณะ แน่นอนว่ามีเหล่าผู้พิทักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังป้องกันมันอยู่ เพื่อที่จะป้องกันการตายไปโดยที่ไม่มีค่า
"นั่นมันอัศวินมังกร"
"ไวเวิร์นของเขามันใหญ่จริงๆ"
"ขะ เขาพยายามที่จะเข้าไปในเกตจริงๆหรอ? ไม่ใช่ว่าเขาบ้าไปแล้วหรอ?"
ล็อทเต้ได้กระพือปักของเธอกลางอากาศและมองไปที่เกต พวกเขาได้ตื่นตระหนกขึ้นทันทีที่เห็นล็อทเต้มองไป
"ห้ามเข้ามานะ! สถานนี้อยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมของผู้พิทักษ์และไม่เปิดเป็นสาธารณะ! ถ้าหากนายต้องการจะเข้าไป นายจะต้องสร้างปาตี้และได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล"
"เข้าใจแล้ว"
ฉันได้ตอบกลับไปอย่างสุภาพให้กับเสียงที่ดังมาจากด้านล่าง
"แต่ว่าฉันไม่สน!"
ล็อทเต้ได้พุ่งเข้าใส่เกตในทันที
[คุณได้เข้าสู่เหตุการดันเจี้ยนระดับ S+ ความพิโรธของป่า]
"ป่าอีกแล้วหรอ"
"อย่าบอกนะว่ามันจะมีแมงมุมอีกแล้ว...?"
"ถ้างั้นที่นี่คือ..."
"พวกเราเข้ามาใน..."
เอ๊ะ? ฉันได้หันไปมองที่เสียงที่ไม่คุ้นเคย เมื่อมองไปตรงนั้นมีผู้ใช้พลังระดับ S ทั้งสามคนยืนอยู่ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะตามพวกเราเข้ามาในเกตจริงๆ
"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะไปโดยไม่สนใจพวกเราเลย... มันยากนะที่จะตามนายทัน"
"อ่า... เยี่ยมเลย แต่เธอรู้สินะว่านี้เป็นดันเจี้ยนระดับ S+ ใช่ไหม?"
"อ่า นายพึ่งพูดมันตอนนี้"
ไม่มีผู้ใช้พลังระดับ S+ ในเกาหลี ทั้งสามคนนี้เป็นเพียงผู้ใช้พลังระดับ S เท่านั้น ฉันกำลังสงสัยว่าอะไรกันที่ทำให้เขามีความมั่นใจในการเข้ามาในนี้ ในเวลาเดียวกันนั้นเสียงคำรามก็ได้ดังขึ้นทั่วทั้งดันเจี้ยน
[ก๊าซซซซซซซ]
ผู้ใช้พลังระดับ S ได้กลายเป็นตัวแข็งไป เอาตามจริงเอ็ดเวิร์ดก็ยังตัวแข็งทื่อไปด้วย
"เวรเอ้ย ถ้าฉันตายที่นี่ ฉันจะเปิดเผยยความชั่วร้ายของนายด้วยตัวฉันเอง กึก"
"นายไม่ตายหรอกน่าไม่ต้องห่วงวอร์คเกอร์"
ฉันได้ยิ้มและหยิบหอกออกมา แม้ว่ายอน ฮวาวูจะเป็นที่รู้จักว่าเขาได้ใช้หมัด แต่ว่าเขาก็ถูกเปิดเผยแล้วว่าเป็นคนๆเดียวกับอัศวินมังกรผู้ที่ใช้หอกต่อสู้กับเดรก ดังนั้นมันก็ไม่สำคัญอะไรถึงแม้ว่าฉันจะใช้หอกก็ตาม
ฉันได้ส่งหมุนหอกในมือและกระจายมานาออกไปรอบๆ หลังจากนั้นไม่นานหลังจากนั้นฉันก็หยุดลง
"เจอแล้ว"
ในเวลาเดียวกันเสียงนั้นก็ดังออกมาจากป่า
[ฮีโร่! ข้าสามารถจะรู้สึกได้ถึงตัวตนของฮีโร่!]
"ทุกคนเตรียมตัวให้ดี ทางทิศ 11 นาฬิกา สูง 5 เมตร มันกำลังพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเรา มันดูเหมือนจะเป็นพวกระยะประชิด แต่ว่าส่วนใดส่วนหนึงของมันมีมานารวมกันอยู่ดังนั้นมันอาจเป็นไปได้ที่มันจะซ่อนไพ่ตายเอาไว้อยู่"
ฉันได้อธิบายข้อมูลที่ฉันได้รวบรวมมาจากการกระจายมานาออกไปของฉัน จากนั้นฉันก็ได้เริ่มหมุนวนวงจรเพรูต้า รูเดียได้กางแขนขึ้นและร่ายพรให้กับสมาชิกทุกคนในปาตี้ ทันใดนั้นวังวนวายุที่อยู่รอบๆหอกของฉันก็ทรงพลังขึ้น
จากนั้นต้นไม้ด้านหน้าของพวกเราก็ได้ล้มลงพร้อมเสียงดัง มันได้ปรากฏตัวออกมา ตามที่ฉันได้พูดออกมามันมีขนาดที่สูงถึง 5 เมตร แม้ว่ามันจะมีรูปร่างที่คล้ายกับมนุษย์ แต่ผิวของมันเป็นสีเขียวและมีกล้ามเนื้อที่ผิดปกติในขณะที่มีตาเพียงข้างเดียว
"ไซครอป"
[ฮีโร่ ข้าจะเป็นฮีโร่ ฮ่าๆ]
ฉันได้ปาหอกของฉันออกไปอย่างง่ายๆซึ่งมันได้เปลื่ยนให้หัวของไซครอปกลายเป็นฝุ่นไปทันที ฉันไม่แม้แต่จะใช้ฮีโร่อิค สไตรค์ มันตายไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิด จากนั้นฉันก็เรียกหอกของฉันกลับมาผ่านมานาและะพูดกับพรรคพวกของฉัน
"ฉันจะสนับสนุนพวกนายจากด้านบน พวกมันไม่น่าจะยากอะไรจากที่ฉันเห็นนะ"
"ไม่ยากงั้นหรอ!? พวกมันได้ทำให้คนอื่นอ่อนแอด้วยเวทย์สถานะความกลัว"
"พูดตามตรงนะนายควรจะปิดกั้้นอะไรที่มันเรียกว่าความกลัว"
"นะ นาย...!"
ฉันได้ปล่อยให้วอร์คเกอร์โกรธ และสั่งพลีน
"เมื่อไซครอปโผล่ออกมา เธอช่วยร้องเพลงที่ทำให้มันอ่อนแอลงทีนะ โอเค?"
"อือ โอเค! เพลงที่พวกเราทุกคนจะสนุกไปด้วยกันใช่ไหม!?"
"ชะ ใช่แล้ว"
"เดี๋ยวก่อนสิอัศวินมังกร! พวกเราควรทำอะไร?"
เธอถามฉันหรอ? เป็นคนที่กล้าอะไรแบบนี้
"ฉันจะไม่บอกให้เธอสู้ แต่เพราะว่าเธอได้ตัดสินใจที่จะสังเกตเราถ้างั้นก็ทำมันในขณะที่วิ่งหนีซะ"
"นะ นายต้องการให้พวกเราวิ่งหนี?"
"ล็อทเต้ไปกันเถอะ"
ล็อทเต้ได้บินขึ้นไปซึ่งมีเพียงฉันที่อยู่บนหลังของเธอ แม้ว่าผู้ใช้พลังอาจจะต้องการนั่งบนล็อทเต้แต่ฉันก็ไม่แม้แต่จะหันไปมองในขณะที่บินไปข้างหน้า ถ้าฉันสามารถจะบินได้ในดันเจี้ยน มันก็จะดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดถ้าฉันต่อสู้บนหลังของล็อทเต้ ถ้าฉันต่อสู้อย่างจริงต่อสู้อย่างจริงจังบนหลังของล็อทเต้พวกเขาจะไม่เพียงแต่แค่อ้วกและเวียนหัวเท่านั้น แต่พวกเขาก็ยังจะถูกเหวี่ยงออกไปอีกด้วย
[นายจะทำอะไรฮีโร่?]
"สมาชิกกิลด์ของฉันมีความแข็งแกร่งเพียงงพอที่น่าจะสามารถจัดการมันได้สองตัวในเวลาเดียวนะ"
[ถ้างั้นพวกเราก็จะหากลุ่มที่มีสามตัวขึ้นไปสินะ]
"แน่นอนสิ"
ล็อทเต้ได้เร่งความเร็วของเธอขึ้น ดันเจี้ยนนี้ได้เต็มไปด้วยยักตาเดียวไซครอปสมกับที่เป็นระดับ S+ พวกมันต่างก็ทรงพละกำลัง มีพลังการต่อต้านมานาและทักษะเวทย์ที่ทำให้อ่อนแอพร้อมทั้งออร่า ยังไงก็ตามไต้ฝุ่นคลั่งก็มีประสิทธิภาพมากกับลักษณ์พิเศษแบบนี้
การหมุนของวังวนพายุออร่าจะทำลายความต้านทานนั้นและจัดการระเบิดที่พิเศษขึ้นทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะงอกขึ้นมาใหม่ เพรูต้าผู้ที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาเหมาะสมแล้วที่จะถูกเรียกว่าเทพเจ้า
[ก๊าซซซซซซซซซซ]
"เส้นทางวายุ"
[ก๊าาาา]
ล็อทเต้ได้คำรามและพุ่งออกไป ไม่ว่าไซครอปจะตัวใหญ่แค่ไหน แต่ปีกทมิฬล็อทเต้นั้นก็ใหญ่และแข็งแกร่งยิ่งกว่าไวเวิร์นทั้งหมด แม้กระทั่งไซครอปก็ไม่สามารถจะป้องกันการพุ่งชนของเธอได้ ด้วยเส้นทางวายุนี้หอกของฉันได้เจาะผ่านเหล่าไซครอปในเส้นทางของล็อทเต้ผ่านไปและเส้นทางขึ้น
"ล็อทเต้ไปที่นั่น ที่ๆมีมันรวมกันอยู่ห้าตัว! ฉันจะใช้การโจมตีสุดท้ายที่นั่น"
[เข้าใจแล้วฮีโร่]
หลังจากจัดการส่งไซครอปลอยไปแล้ว 20 ตัว พลังงานลมที่แข็งแกร่งก็ได้ล้อมรอบหอกของฉันซึ่งมันได้เสริมพลังขึ้นมา 140% แม้ในขณะที่ล็อทเต้พุ่งไปข้างหน้าพลังก็ยังไหลเข้ามาจากทุกทิศทางเปลื่ยนไปเป็นวังวนพายุออร่า วังวนพายุนี้เกือบจะเหมือนกับมันได้ห่อหุ้มทั้งล็อทเต้และฉัน
"ไพก้า"
[โอเค]
เมื่อมองไปที่ไซครอปที่ลุกขึ้นมาจากการพักผ่อนของพวกมันและเตรียมตัวที่จะโยนต้นไม้ใส่พวกเรา ฉันได้ตะโกนเรียกชื่อไพก้า เธอได้รวบรวมสายฟ้าสี่ทางที่ปลายหอกของฉันในทันที มันก็คือระเบิดสายฟ้าซึ่งมีพลังทั้งหมดของเธอรวมเอาไว้
"พายุสายฟ้า!"
ฉันได้ตะโกนชื่อทักษะออกไป ในทันทีหลังจากนั้นฉันก็ได้ปะทะเข้ากับกลุ่มของไซครอป แรงของวังวงวายุที่ผสมกับสายฟ้าได้ระเบิดออกมา
[ก๊าซซซซ]
[มัน...คือ...ฮีโร่....]
ไซครอปที่ยืนอยู่หน้าสุดได้ตายลงไปในทันที และพวกตัวด้านหลังก็ได้ถูกกวาดออกไปด้วยแรงระเบิด แม้ว่าพื้นดินจะสั่นขึ้นจากแรงล้มของพวกมัน แต่พวกมันเหมือนกับเสียงเพลงในหูของฉัน
ฉันได้แข็งแกร่งขึ้น แม้แต่ดันเจี้ยนระดับ S ก็เป็นเหมือนกับสนามเด็กเล่นสำหรับฉัน ฉันได้ยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี ทันใดนั้นเอง....
"พวกเราจะทำอะไรล่ะถ้านายฆ่าพวกมันทั้งหมดไป? พวกเราเป็นแค่ผู้ชมงั้นหรอ?"
เสียงฮวาหยาได้ดังออกมาจากที่ไกลๆ เมื่อฉันได้หันไปมองไซครอปในเส้นทางที่ฉันและล็อทเต้ผ่านมาจากการใช้เส้นทางวายุ ฉันได้ฆ่าไซครอปทั้งหมดที่ฉันเห็น ฉันได้ลืมที่จะเหลือมันไว้ให้คนอื่นๆไปเลย
[ทะ โทษที ฉันเพลินไปนิดนึงนะ]
[ไม่ นายทำดีแล้ว มันจะดีกว่าที่นายแสดงพลังที่เหนือกว่าให้พวกเขาเห็น นายเจ๋งสุดๆ]
[น่ากลัว ปีศา... อึก!]
ขัดกับเสียงที่เธอเพียงตะโกนออกมา ฮวาหยาได้ส่งเสียงที่พึงพอใจอย่างมาในช่องทางการสื่อสารกิลด์ แม้ว่าฉันจะไม่ได้วางแผนในเรื่องนี้ ฉัรก็ได้จบลงด้วยการแสดงพลังให้กับผู้ใช้พลังระดับ S อย่างมีประสิทธิภาพ
แน่นอนว่าไซครอปไม่ได้ตายไปทั้ง นอกเหนือไปจากห้าตัวที่โดนระเบิดเข้าไปในการโจมตีสุดท้ายของฉัน ตัวอื่นๆได้ล้มลงไปบนพื้นด้วยการที่แขน ขา หรือชิ้นส่วนของร่างกายของพวกมันขาดหายไป จากนั้นฉันก็พุ่งไปตามเส้นทางวายุและจัดการตัวที่ยังเหลือรอดอยู่
"อะ อัศวินมังกร..."
"เขาฆ่ามอนสเตอร์ขนาดมหีมาเหล่านี้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว..."
"อึก"
หลังจากได้มารวมกับคนอื่นๆแล้ว ฉันก็อดที่จะขำไม่ได้เมื่อเห็นผู้ใช้พลังระดับ S มีท่าทางที่เปลื่ยนไป แม้อย่างนั้นพวกเขาก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จะแสดงท่าทางแบบนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราเคีลยร์ดันเจี้ยนของเกาหลี....
[ก๊าาาาา]
[ฆ่าฮีโร่]
เพราะว่าความสับสนวุ่นวายที่แนสร้างทำให้มีไซครอปมาได้รวมกันมากยิ่งขึ้นไป ฉันได้หมุนหอกอีกครั้งในขณะที่หันไป
"เอาล่ะพวกเราจะจบมันใน 3 ชม. ฉันต้องการจะจัดการอีกสามแห่งก่อนที่จะหมดวัน"
"จัดการดันเจี้ยนของเกาหลีในคืนเดียว... ฟังดูน่าสนุกนี่!"
พ่อได้ยิ้มออกมา
"เวรเอ้ย นายรู้ไหมว่าฉันจะต้องคุ้มครองน้องสาวของนายในวันพรุ่งนี้เหมือนกันนะ...."
"ทำให้ดีที่สุดนะวอร์คเกอร์!"
"แกมันปีศาจ! ว๊ากก!"
วอร์คเกอร์ได้ร้องออกมา น่าตกใจที่ผู้ใช้พลังระดับเอ็ดได้รับการสนับสนุนจากวอร์คเกอร์
ฉันได้เสียใจเล็กน้อยกับวอร์คเกอร์ แต่ว่านั้นก็เพียงแค่เล็กน้อยน่ะนะ