20 ออกกำลังกาย
20 ออกกำลังกาย
“น่าสนใจดี การป้องกันที่แข็งแกร่งของเขา ก็ถือว่าเขาเป็นสุดยอดในหมู่นักต่อสู้ เขาดีกว่าพวกไก่อ่อนในยิมของคุณเยอะเลย” เผิงห่ายลุกขึ้นยืนและขยับแขนขาของเขาเล็กน้อย ทุกมัดกล้ามของเขาเป็ราวกับงูพิษจำนวนมหาศาลที่เลื้อยไปมา อยู่ภายในผิวหนังสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกของเขา พลังวิญญาณของเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
“แน่นอนอยู่แล้ว! คนคนนี้เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเลยนะ! แล้งก็อย่าลืมใส่หน้ากากาอักขระด้วยล่ะ อย่าให้ใครรู้ตัวตนของนายเด็ดขาด” ชายหัวล้านพูด เขาเปิดประตูห้องและเดินออกไปยังห้องออกกำลังกาย
ชายที่ชกกระสอบทรายหันหน้าไปหาชายหัวล้าน แล้วพูดว่า “ผู้ดูแลจ้าว คนคนนี้มาหาคุณครับ”
ชายหัวล้านพยักหน้า เขาหันมองไปใบหน้าที่ติดหน้ากากลายใยแมงมุมของหลี่เย้า และพูดกลั้วหัวเราะออกมาว่า “นายมาแล้วสินะ เราได้ตกลงเรื่องราคากันชัดเจนแล้ว นายไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
“ทุกอย่างชัดเจน ไม่มีปัญหา เรามาทำธุรกิจของเรากันต่อเถอะ” หลี่เย้าพูดอย่างเย็นชา ด้วยที่ทีราวกับนักแสดงที่แก่ประสบการณ์
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ตามฉันมาสิ” ชายหัวล้านเดินนำไปข้างหน้า เขาเดินไปตามทางเดิน และพาหลี่เย้าไปยังห้องว่างที่มีขนาดความกว้างหนึ่งร้อยตารางเมตรห้องหนึ่ง
บรรยากาศภายในห้องว่างนี้ ให้ความรู้สึกดิบเถื่อนมากกว่าห้องด้านนอก รอบๆตัวห้องได้มีการใช้ฟางแห้งบุเอาไว้จนเต็มผนัง เห็นได้ชัดว่ามีไว้สำหรับกันการกระแทก พื้นห้องเป็นเพียงพื้นซีเมนต์ที่เห็นได้ทั่วไป และสามารถมองเห็นรอยแตกร้าวอยู่ทั่ว
ชายหัวล้านได้นำเอาชุดป้องกันออกมาจากมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเป็นชุดที่มีการตัดเย็บด้วยหนังสัตย์ถึงเก้าชั้น เขาได้ส่งมันให้กับหลี่เย้า แสดงท่าทีว่าให้หลี่เย้าใส่มันเข้าไป
“เราอยู่ในวงการเดียวกัน ดังนั้น ฉันจะไม่พูดอะไรให้มากความ แต่ถึงยังไงก็ตาม ขอแค่นายสามารถทนได้ถึงสามนาที นายก็จะได้รับเงิน 10,000 เหรียญทันที แต่ท่านายทนไม่ได้ถึงสามนาที นายก็จะไม่ได้เงินสักแดงเดียว รุ่นพี่ของฉันบอกมาว่า นายเป็นคู่ต่อสู้ชั้นยอดให้กับหลานสถาบัน ของทั้งหมดที่เรามีอยู่ที่นี่ล้วนอยู่ในระดับมาตรฐาน นายไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
“สามนาทีเหรอ? คู่ต่อสู้ชั้นยอด?” หลี่เย้ากระพริบตาและเข้าใจแล้วว่า ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดว่าเขาเป็นอีกคนหนึ่ง
หน้ากากอักขระนั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบ และมีมากถึง 1,300 แบบ ในบางโอกาส มันก็เป็นไปได้ที่จะมีคนสองคนได้หน้ากากแบบเดียวกันมา และทำให้เกิดการจำคนผิดได้ หรือที่เรียกกันว่า “ดอพเพลแกงเกอร์”
เจ้าของยิมคนนี้คงจะกำลังรอใครอีกคนหนึ่งอยู่ และก็คงจะเป็นคู่ต่อสู้ชั้นยอดที่สวมหน้ากากลายแมงมุม และหลี่เย้าจึงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนคนนั้น
“ขอโทษนะ---” หลี่เย้าตั้งใจที่จะอธิบายความเข้าใจผิดนี้ออกไป แต่ต่อมา ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อกี้ผู้ชายหัวล้านคนนี้พูดว่าอะไรนะ? ถ้าฉันทนได้ถึง 3 นาที ฉันก็จะได้เงิน 10,000 เหรียญใช่ไหม? การเป็นคู่ต่อสู้ให้กับคนอื่นก็ได้เงินเหมือนกันเหรอเนี่ย?
หลี่เย้ารู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
เขาต้องใช้ชีวิตผ่านความเป็นความตายอยู่ในสุสานอาร์ติเฟ็กซ์มาตลอด และด้วยความพยายามอย่างแสนสาหัส เขาสามารถทำเงินได้แค่ 10,000 เหรียญต่อเดือนเท่านั้น ถึงแม้ครั้งนี้ เขาจะใช้ความกล้าสู้กับสายตาเชือดเฉือนของซือเจียเสวี่ย แล้วได้เงินมาถึง 100,000 เหรียญ แต่เงินจำนวนนี้ ก็ไม่ใช้สิ่งที่หลี่เย้าจะหาได้ทุกครั้งที่เขาต้องการ ตรงหน้าของเขาในเวลานี้ คือเงินจำนวน 10,000 เหรียญที่เขาจะได้ ขอแค่เขาทนให้ได้ถึง 3 นาทีเท่านั้น และมันก็เป็นจำนวนเงินที่มากพอที่เขาจะใช้ซื้อยาเสริมความแข็งแกร่งได้ แล้วเขากำลังรออะไรอยู่ล่ะ? ทำมันเลยสิ!
ร่างกายของเขาได้เปลี่ยนไปมาก เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว พลังป้องกันของเขาในตอนนั้นไม่สามารถเทียบกับเขาในเวลานี้ได้เลย ผิวหนังของเขากลายเป็นชั้นผิวหนังที่หยาบกระด้าง!
และสมาชิกที่มาออกกำลังกายที่ยิมแห่งนี้ ต่างก็เป็นแค่มือสมัครเล่นกันเท่านั้น บางทีพวกเขาเพิ่งจะเลิกงานและซื้อกับข้าวกลับบ้านเท่านั้น พวกเขาจะไปมีแรงมากมายได้ยังไงกัน?
หลี่เย้ามองดูฝ่ายตรงข้าม พร้อมกับมีความคิดเหล่านี้อยู่ในหัว และแทบจะหลุดหัวเราะออกมา
ชายที่มีรูปร่างผอมสูงได้ยืนอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องว่างนี้ ร่างกายช่วงบนของเขาเปลือยเปล่า แสดงให้เห็นมัดกล้ามที่มีอยู่น้อยนิด ผิวพรรณของเขาดูซีดเซียวราวกับคนตาย บนใบหน้าของผู้ชายคนนี้ได้ใส่หน้ากากอักขระเอาไว้ด้วย ซึ่งเป็นสีแดงและดำคล้ายกับในหน้าของตัวตลก
ความรู้สึกที่ได้จากชายหน้าตัวตลก ก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง คนคนนี้ไม่มีบรรยากาศของผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้อยู่เลย
เมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามา หลี่เย้าก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ชายคนนั้นกำลังวอร์มอัพด้วยท่าทีที่ดูจริงจัง เขาได้วอร์มอัพด้วยท่าพื้นฐานที่สุดของสหพันธรัฐ การออกกำลังลำดับที่ 5!
การออกกำลังกายแบบนี้ ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยผู้ฝึกตนระดับสูงของสหพันธรัฐ เพื่อใช้สำหรับคนธรรมดาในการบริหารร่างกายโดยเฉพาะ ประชาชนทุกคนในสหพันธรัฐต่างก็ได้เรียนการออกกำลังกายนี้ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล และมันไม่ใช่เทคนิคในระดับของกองทัพอย่างแน่นอน มันเป็นการออกกำลังกายเพื่อขยับแขนขา ที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการขยับกระดูก คลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
ในปัจจุบัน หากใครมีทักษะที่สูงขึ้น พวกเขาก็จะสามารถทำท่าที่ซับซ้อนได้มากขึ้น เช่น การออกกำลังกายลำดับที่ 9 ที่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องของการต่อสู่ด้วยเล็กน้อย สำหรับการออกกำลังกายลำดับที่ 5 นั้น ก็เป็นเพียงการออกกำลังกายที่เด็กนักเรียนชั้นประถม ใช้ในการวอร์มอัพร่างกายเท่านั้น
มันเห็นได้ชัดว่า นี่คือการวอร์มอัพที่ใช้กันในหมู่นักเรียนประถม ชายหน้ากากตัวตลกได้ออกท่าทางตามแบบฉบับโดยไม่มีการผิดเพี้ยน ใช้ทุกการเคลื่อนไหวเพื่อยืดกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายของเขา มันคล้ายกับว่า ชายหน้ากากตัวตลกกำลังแสดงมายากลอยู่
“เงิน 10,000 เหรียญ ก็ไม่ต่างอะไรกับเงินที่ตกอยู่บนพื้น! ถ้าฉันไม่ยอมเก็บมันขึ้นมา พระเจ้าคงจะลงโทษฉันแน่!” หลี่เย้าตะโกนอยู่ภายในใจของเขาอย่างบ้าคลั่ง
ชายหัวล้านหยิบชุดป้องกันขึ้นมา และสวมใส่มันให้กับหลี่เย้า เขาขมวดคิ้วและถามขึ้นมาว่า “มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
“เอ่อ...” หลี่เย้าพึมพำกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง และถามออกมาว่า “ผมต้องรับการโจมตีจากเขาได้อย่างเดียวเหรอ? แล้วผมต่อยเขากลับไปได้ไหม?”
ชายหัวล้านอึ้งไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาทั้งยิ้มและไม่ยิ้ม มันคล้ายกับว่า เขาเพิ่งจะได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก เขาไปหยิบส่วนป้องกันไหล่ แท่งเหล็ก และแผ่นเสริมความแข็งแกร่งมาจากมุมห้อง เขาใส่แท่งเหล็กเหล่านั้นลงไปในช่องที่ถูกออกแบบมาสำหรับใส่แท่งเหล็กโดยเฉพาะ
และด้วยเหตุนี้ ร่างกายของหลี่เย้าก็มีการป้องกันถึงสามชั้น แผ่นเสริมความแข็งแกร่ง แท่งเหล็ก และหนังที่เย็บติดกันเก้าชั้น
ชายหัวล้านพูดออกมาว่า “ถ้ามันจะทำให้นายมีความสุข นายก็ต่อยออกไปได้เลย แต่ว่านะ ฉันขอแนะนำนายไว้ก่อนเลยว่า นายควรจะทนรับการโจมตีของเขาให้ได้ก่อนที่นายจะคิดเรื่องนี้ดีกว่านะ โอเค พวกนายค่อยๆเล่นกันไปล่ะ ไว้อีกสามนาทีฉันจะมาใหม่ ฉันหวังว่า...”
เขาหยุดอยู่แค่นั้น แล้วมองหน้าหลี่เย้าด้วยสายตาที่สื่อความหมายออกไปแทนคำพูดของเขา เขาก็ได้ตบไปที่ไหล่ของหลี่เย้าด้วยแรงที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องว่างและปิดประตู
“มันก็แค่ยิมที่ใช้สำหรับออกกำลังกายยามว่างก็เท่านั้น และมันก็เป็นแค่การฝึกแค่สามนาที มันจำเป็นที่ฉันจะต้องใส่เครื่องป้องกันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?” หลี่เย้าพยายามกระโดดขึ้นลงสองครั้ง และชกหมัดออกไปเบาๆ เขารู้สึกได้ถึงเครื่องป้องกันที่หนักอึ้งบนร่างกายของเขา
เขาพบว่า เครื่องป้องกันที่เขาสวมใส่อยู่นี้ ถูกทำขึ้นมาอย่างประณีต ถึงแม้ว่าจะใส่แท่งเหล็กและแผ่นป้องกันเข้าไป จนน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 5 กิโล แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายเขาเลย นอกจากจะลดความเร็วของเขาลงไปเล็กน้อยแล้ว มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อการต่อสู้อย่างอื่นของเขาเลย
และฝ่านตรงข้ามของเขาก็ยังคงวอร์มร่างกายอยู่ เขาทำท่าที่ 4 ด้วยการยืดกล้ามเนื้อ ท่าที่6 ยืดส่วนไหล่ ถ้าหลี่เย้าจำไม่ผิด ยังคงเหลืออีกประมาณ 5 ท่าที่เขาต้องทำให้จบ!
“พี่ชาย คุณวอร์มอัพตั้งแต่ที่เข้ามาในห้อง คุณตั้งใจจะวอร์มให้ครบทุกท่าเลยเหรอ? มันจำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลี่เย้าอดถามขึ้นมาไม่ได้
ชายในหน้ากากตัวตลกนั้นกำลังเปิดไหล่ของเขาอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เย้า เขาก็หยุดการเคลื่อนไหวของเขา และถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเคืองเล็กน้อยว่า “แล้วนายไม่จำเป็นต้องวอร์มอัพเหรอ?”
“ไม่จำเป็นหรอก ในการต่อสู้จริง นายคงไม่มีเวลามากพอที่จะวอร์มอัพหรอก!” หลี่เย้าตอบกลับอย่างใจร้อน เขาต้องต่อสู้อยู่ภายในสุสานอาร์ติเฟ็กซ์มานาน เมื่อเขาบอกว่าเขาจะสู้ ก็หมายความว่าเขาจะสู้ ถ้าเขาบอกว่าเขาจะวิ่ง เขาก็จะวิ่งทันที เจ้าอ้วนหลงกับพวกกลุ่มหมาป่า ใครจะมาให้เวลาเขาวอร์มร่างกายกัน?
ชายหน้ากากตัวตลกผงกหัว และพูด “อ่า” ออกมาเบาๆ มันดูเหมือนว่า เขาไม่คิดว่าคำพูดของหลี่เย้าจะมีเหตุผลแบบนี้อยู่ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้าและพูดออกไปว่า “ที่นายพูดมาก็ถูก ฉันเตรียมตัวจบแล้ว สามนาที...เริ่มได้เลย!”
“วูซซซซ!”
ในตอนที่พูดคำของเขาที่ว่า “เริ่มได้เลย” ส่งไปถึงการรับฟังของเขานั้น เมื่อไม่กี่วินาทีก่อน ชายหน้ากากตัวตลกยังยืนวอร์มอัพอยู่ไกลออกไปหลายสิบเมตร แต่แค่เพียงพริบตาเดียว เขาก็หายไปจากจุดนั้นแล้ว
หลี่เย้าไม่สามารถมองเห็นวิถีการเคลื่อนไหวของชายหน้ากากตัวตลกได้เลย สิ่งที่เขารู้สึกได้ทั้งหมด ก็คือความเจ็บปวดที่แทงทะลุเข้าสู่บริเวณกระดูกตรงหน้าอกของเขา มันคล้ายกับว่า ได้มีมือที่มองไม่เห็นแทงทะลุผ่านชั้นป้องกันทั้งสามชั้นของเขาเข้ามาในฉับพลัน! มันพุ่งตรงเข้าสู่หน้าอกของเขาและแทงทะลุไปถึงหัวใจ!
“—นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!?”