ตอนที่แล้วตอนที่ 11: ปัญหามากมาย [ฟรี 04 เม.ย. 63]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13: กองกำลังภายนอก คำเตือน และคนช่างจ้อ [ฟรี 11 เม.ย. 63]

ตอนที่ 12: คำขู่! [ฟรี 05 เม.ย. 63]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

สารบัญ จอมเวทอหังการ

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 12: คำขู่!

“สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตก็คือการใช้เหตุผลกับผู้หญิง ถ้าเจ้าใช้เหตุผลกับผู้หญิงและพยายามโน้มน้าวนางว่าเจ้ามีเหตุผล เจ้าย่อมหมดหวังในฐานะผู้ชาย”

“ยวินหยาง”

จี้หลิงยืนกรานว่าจะไม่ไปจนกว่าจะได้พูดอย่างสงบ แม้กระทั่งลิงที่เป็นสัตว์เลี้ยงของนางคล้ายกับมองที่นี่ว่าเป็นบ้าน ดูท่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไล่คู่นี้ออกไปได้

“แม่นาง มันจะทำให้สถานะดีงามของเจ้าเสียหายนะหากยังอยู่ที่นี่” ยวินหยางไม่อ่อนข้อ “ยังไงเสีย ที่นี่ คือบ้านของผู้ชาย”

“อ้อ ข้ารับได้อยู่แล้ว!” จี้หลิงยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างสบายใจ “เจ้าต้องยอมให้พวกเราคุยกันเร็ว ๆ ข้าอาจจะรีบไปได้ ยังไงเสีย ถ้าข้ายังดื้อดึงจนชื่อเสียงด่างพร้อย คำครหาจะกระจายออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งต่อมาที่เจ้าต้องรู้ไว้คือครอบครัวของข้าจะมารอหน้าประตูของเจ้าเพื่อรอเด็ดหัว!”

ยวินหยางสำลักน้ำให้กับความอาจหาญของผู้หญิงคนนี้ ขณะชี้ไปยังจิ้งจอกที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขาพูดไม่ออกชั่วขณะเพราะความโกรธ ด้วยทักษะอันโดดเด่น เขาควรจะเป็นฝ่ายขู่สิ กลับกัน เขาพบว่าตัวเองถูกขู่กระโชกโดยวายร้ายคนนี้

“ลืมที่ข้าบอกไปแล้วหรือ? ครอบครัวของข้าใหญ่… ใหญ่กว่าแปดสัญลักษณ์อีก…” มารตัวน้อยขยิบตา

เป็นอีกครั้งที่ยวินหยางพูดอะไรไม่ออก

เหล่าเหมยผู้กำลังยืนอยู่ข้างเจ้านายถามด้วยความสับสนว่า “แม่นาง เจ้าพูดเกินจริงหรือเปล่า? แปดครอบครัวที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกตอนนี้คือแปดสัญลักษณ์ จะมีครอบครัวอื่นที่สามารถทรงพลังกว่าพวกเขาได้ด้วยหรือ?”

จี้หลิงเม้มริมฝีปาก “ดินแดนหลักนี้กว้างใหญ่ ยิ่งมีคนมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ ยิ่งมีคนรู้เกี่ยวกับพวกเขาน้อยตามเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ชายผู้อ้างว่าตัวเองเป็นคนที่มั่งคั่งที่สุดในเมือง แต่ไม่ว่าอย่างไร ย่อมมีคนอีกมากมายที่มั่งคั่งยิ่งกว่า เพียงแต่พวกเขาไม่อยากป่าวประกาศว่าตนร่ำรวย เจ้าไม่รู้เรื่องนี้หรือ?”

แม้จะหงุดหงิด ยวินหยางต้องยอมรับว่าปัญหาส่วนนี้เป็นของจริงที่ปฏิเสธไม่ได้

“ข้าเชื่อเจ้า” ยวินหยางพึมพำ

“เจ้าเชื่อหรือ?” เป็นฝ่ายจี้หลิงที่ประหลาดใจ ยวินหยางเชื่อคำพูดนางหรือ? เขาไม่กลัวว่านางอาจจะแค่พูดไปเรื่อยหรือแสร้งเป็นใครบางคนที่ไม่ใช่ตัวเองเลยหรือ?

“เจ้ามีบรรยากาศสง่างาม อีกทั้งยังเจ้ากี้เจ้าการและหยิ่งทะนง ความไม่ใส่ใจของเจ้าที่มีต่อแปดครอบครัวที่มีอิทธิพลมากที่สุดมาจากตัวเจ้าจริง ๆ” ยวินหยางกล่าวต่อช้า ๆ “ขณะที่ลิงพันมายาไม่ใช่สัตว์ร้ายวิเศษของชั้นสูงสุด อนาคตของมันไร้ขีดจำกัด ศักยภาพเติบใหญ่กว้างขวาง ถึงแม้มันจะเป็นของเจ้า เจ้าก็ยังคงเก็บไว้เป็นสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่ในฐานะพวกพ้องร่วมต่อสู้ นี่เห็นได้ชัดแล่วว่าภูมิหลังครอบครัวของเจ้าเทียบกับคนอื่นไม่ได้ สมาชิกของแปดครอบครัวแรกสามารถได้รับสิ่งมีชีวิตคล้ายกันที่มีระดับเดียวกับลิงตัวนี้ได้ แต่จุดประสงค์ของพวกเขาที่ได้รับและฝึกพวกมันย่อมแตกต่างกันมาก พ่อแม่ของพวกเขาจะไม่ยอมให้นายน้อยและนายหญิงเก็บพวกมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยงแน่นอน”

ยวินหยางอารมณ์เสียมากขึ้นอย่างเห็นได้ขณะกล่าวว่า “ดูท่าข้าจะรนหาเรื่องใส่ตัวเสียแล้วทั้งที่ไม่ใช่คนแก่ด้วยซ้ำ” หลังจากระบายโทสะมากพอ เขาสัมผัสได้ว่านางมีปัญหาตอนที่เผชิญหน้ากันคราวก่อน แต่เขาไม่คล้ายกับหนีได้เร็วพอ

“แม่นาง เจ้าจะถามอะไรข้า?” ยวินหยางสอบถาม “พูดมาให้ชัด ข้าจะไม่บิดพลิ้วหากไม่เกินกำลังจนเกินไป”

พูดง่าย ๆ คือเจ้าอย่ากดดันให้ทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ จี้หลิงกลอกตากับคำปรามาศ “นี่เป็นสิ่งที่คนอย่างเจ้าทำได้ง่าย”

“ข้าจะเป็นคนตัดสินเอง” ยวินหยางแย้ง

“การแข่งขันสัตว์ร้ายวิเศษประจำปีจะจัดขึ้นที่เมืองเทียนถังในปีนี้” จี้หลิงกล่าวต่อ “ครอบครัวจำนวนมาก รวมถึงแปดอันดับแรกจะเข้าร่วมด้วย นี่คืองานใหญ่ท่ามกลางรุ่นที่สองของครอบครัวใหญ่ทั้งหมด แน่นอน พวกข้าผู้หญิงจะต้องแข่งกันเองด้วย”

“มีผู้หญิงเข้าร่วมทั้งหมดกี่คน?” ยวินหยางเริ่มประจบประแจงด้วยความคาดหวังในคำตอบ

“รวมข้าด้วยแล้ว… อาจจะประมาณสามสิบคนมั้ง?” จี้หลิงไม่มั่นใจ..

เมื่อได้ยินคำตอบ ใบหน้าของยวินหยางย่ำแย่ เขารู้สึกเหมือนกับกำลังจะร้องไห้

ผู้หญิงประมาณสามสิบคน!

เขาคิดว่าจะมีแค่ผู้หญิงน่าสงสารคนนี้เท่านั้น แต่ตอนนี้ เขากำลังเจอกับพวกนางทั้งคณะ

“ฟังนะ เรื่องนี้ทำให้ไม่ได้” ยวินหยางกล่าว “ด้วยหน้าตาดูดีหล่อเหลาของข้า เพื่อนของเจ้าจะตกหลุมข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้ามีหวังได้ถูกประหารชีวิตแน่ ๆ!”

“อุ๊บ!”

จี้หลิงแทบสำลักน้ำดีที่พุ่งขึ้นคอ

นางจ้องมองยวินหยาง จากนั้นพยักหน้าช้า ๆ “มันก็จริง เจ้าหน้าตาดีทีเดียว อย่ากลัวไปเลย เจ้าไม่ต้องห่วงอะไรหากมีข้าอยู่เคียงข้าง! ถ้าเจ้าพบใครบางคนที่ต้องตาเข้า ข้าจะช่วยพูดจาส่งเสริมให้ด้วยหากเจ้ายอมช่วยข้าล่ะก็นะ”

ยวินหยางยกมือขึ้น “ช้าก่อน! ข้ายังไม่ได้จะตกลงอะไรเลย เจ้ายังไม่ได้พูดด้วยซ้ำว่าให้ไปทำอะไร”

“ง่ายมาก” จี้หลิงกล่าวอย่างมีความสุข “ข้าเข้าใจแล้วว่าหลิงหลิงเป็นเพื่อนกับเจ้าจริง นั่นหมายความว่าเจ้าต้องมีความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตวิเศษ นี่คือสันดาน ของขวัญจากเทพ เจ้าควรประยุกต์ใช้เพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า”

น้ำเสียงและคำพูดของนางคล้ายกับแม่มดกำลังวางแผนบางอย่าง

ยวินหยางพ่นลมออกจมูก “มีแต่ลิงเจ้าที่คิดแบบนั้น อีกฝ่ายอาจจะไม่รู้สึกแบบเดียวกันก็ได้”

จิ้หลิงยิ้มเยาะ “กระบวนการป้องกันของลิงพันมายาเหนือกว่าสัตว์ร้ายวิเศษทั้งหมดเสมอ ทำไมน่ะหรือ เพราะแม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับที่เก้ายังไม่สามารถเทียบได้ยังไงล่ะ! ในเมื่อมันเป็นเพื่อนกับเจ้า สัตว์ร้ายตนอื่นอาจจะไม่ต่างกัน”

นางกล่าวต่อว่า “สำหรับการแข่งครั้งนี้ พวกเราแต่ละคนต้องจับคู่กับสัตว์ร้ายวิเศษที่ต่ำกว่าระดับที่ห้า การเดิมพันในการแข่งครั้งนี้สูง แน่นอน มีของแถมอื่นด้วย”

จี้หลิงส่งเสียงฮึดฮัด “ข้าแพ้มาห้าปีติดแล้ว ครั้งนี้ ข้าต้องชนะ!”

“แพ้มาห้าปีติด ยังไม่ชินชาอีกหรือไง” ยวินหยางครุ่นคิดอย่างขบขัน

“การแข่งเป็นแบบไหนล่ะ?” ยวินหยางถามขณะแสร้งทำเป็นไม่สนใจถึงแม้จะพลันรู้สึกถึงอุบายตื้นเขินอยู่แล้วก็ตาม

“ก็เรียบง่ายเหมือนเดิม พวกเราไม่สามารถโกงได้ ผู้เข้าแข่งทุกคนต้องซื้อสัตว์ร้ายในตลาดสัตว์ร้ายวิเศษหลังจากมาถึงเมืองเทียนถัง สิบวันต่อมา พวกเราจะแข่งกันเรื่องความเชื่อฟัง ความเข้าใจระหว่างสิ่งมีชีวิตและเจ้าของ รวมถึงความสามารถ ไม่ใช่ความสามารถตามธรรมชาติ แต่เป็นสิ่งใหม่ที่ถูกฝึกโดยเจ้าของ นี่จะเป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งมีชีวิตต้องพึ่งพาเจ้าของ”

จี้หลิงกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “ข้อสุดท้ายนี่แหละที่ยาก…”

“ยากจริง ๆ” ยวินหยางเห็นด้วย

“…เพราะเหตุนั้นแหละข้าถึงมาหาเจ้า” จี้หลิงกล่าวจบขณะมองยวินหยางด้วยดวงตาทอประกาย

“…” ยวินหยางรู้สึกเหมือนผู้ชายกำลังจมน้ำขณะโบกมือประท้วง “ฟังนะ ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้ ไปหาคนอื่นเถอะ นักฝึกสัตว์ร้ายวิเศษมีหลายสิบคนในดินแดนหลัก ทำไมเจ้าไม่จ้างสักคนล่ะ?”

“เชื่อข้าเถอะ ถ้าพวกเขาทำได้ ข้าคงไม่มาที่นี่หรอก” จี้หลิงกล่าวอย่างขมขื่น

“ข้าไม่ช่วย”

ยวินหยางยืนขึ้น จิตใจแน่วแน่ เขาปฏิเสธที่จะขุดหลุมฝังตัวเอง ต่อให้เก้าใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เขาจะยังไม่ลากตัวเองเข้าจุดเสี่ยง มีผู้หญิงประมาณสามสิบคนจากครอบครัวมีอิทธิพลรวมตัวกัน เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากไม่ว่าจะเจอกับใครก็ตาม ยวินหยางมีหลายสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ แต่การเข้าร่วมการแข่งขันสัตว์ร้ายวิเศษไม่ใช่หนึ่งในนั้น

เป็นอีกครั้งที่ยวินหยางอ้าแขนไปตรงทางออก “ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้ เชิญกลับไปโดยไวด้วยหรือข้าต้องให้ใครมาช่วยคุ้มกันเจ้าออกไป”

“เจ้าจะไม่ช่วยข้าจริง ๆ หรือ?” จี้หลิงหลิ่วตาอย่างชั่วร้าย

“ไม่!” ยวินหยางส่ายหน้าหนักแน่น

“สุดยอด สุดยอดไปเลย” จี้หลิงกระทืบเท้าก่อนหันหลังแล้วกล่าวว่า “นายน้อยยวิน คิดเรื่องนี้ให้ดี ถ้าเจ้าช่วยตอนนี้ เจ้าก็แค่ช่วยข้า มีเพียงเจ้าและข้าที่รู้เรื่องนี้ ถ้าเจ้าปฏิเสธ ข้าสามารถเดินออกไปตามถนนแล้วกระจายข่าวได้ ก่อนจะทันรู้ตัว ไม่ใช่แค่ข้าหรอก แต่พวกสาว ๆ อีกสามสิบคนจะแห่แหนมาทางเจ้า นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เจ้าเป็นนายน้อยด้วยนะ ข้าหวังจริง ๆ ว่าเจ้าจะหาทางรับมือกับความสนใจทั้งหมดนั่นได้”

“พวกนางอาจจะไม่เชื่อข้า แต่ไม่มีทางปล่อยโอกาสในการตามหาความจริงแน่ เมื่อวันนั้นมาถึง เจ้าจะทำให้ทุกคนขุ่นเคืองหากช่วยเพียงคนเดียวแต่ไม่ช่วยทุกคน ยังไงมันก็เหมือนเดิม ฮึม ขอให้เป็นวันที่ดีนะ” จี้หลิงหันหลังราวกับจะจากไป

“อ่ะ…” ยวินหยางรู้สึกได้ว่าศีรษะกำลังปวดตุบ “แม่นางจี้ โปรดรอก่อน”

จี้หลิงหมุนตัวกลับมามองราวจิ้งจอกน้อยเจ้าเล่ห์ “ว่าไง นายน้อยยวิน?”

ขณะฝืนยิ้มอย่างเจ็บปวดบนใบหน้า ยวินหยางกวักมือเรียกข้ารับใช้ “เหล่าเหมย เอาชามา เอาแบบดีที่สุดที่พวกเรามี แม่นางจี้ คิดดูดี ๆ แล้ว ข้ายังมีพื้นที่เหลือสำหรับสนทนาเรื่องนี้”

จี้หลิงหันมาอย่างหยิ่งทะนง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขที่ได้รับชัยชนะ “เจ้าจะยอมช่วยแล้วหรือ?”

ยวินหยางพยักหน้าอย่างยอมแพ้ “ใช่ แต่ข้าอยากถามก่อน การเดิมพันเกี่ยวกับอะไร? เจ้าจะให้รางวัลกับเรื่องนี้อย่างไร? เจ้าคงไม่ยอมให้ข้าช่วยโดยไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยนใช่หรือไม่?”

“ผู้ชายคือพวกที่สร้างการเดิมพันใหญ่ ๆ มันเป็นแค่การละเล่นสำหรับพวกข้าผู้หญิงเท่านั้นแหละ” จี้หลิงยิ้ม “พวกข้าบางคนเดิมพันยาเม็ดวิญญาณ หินวิเศษ วิธีการฝึกฝน ยาเม็ดวิเศษระดับที่เจ็ดถึงแปดและอื่น ๆ อีก ไม่ใช่ของพิเศษอะไร แต่ท่ามกลางพี่น้องร่วมสาบานเจ็ดคน พวกเราจะตัดสินกันว่า ระหว่างคนโตสุดและน้องเล็กสุด ฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะการแข่ง”

จี้หลิงขมขื่น “ข้าเป็นน้องเล็กสุดมาห้าปีแล้ว”

สีหน้าของยวินหยางมืดมนมากขึ้น

ยาเม็ดวิญญาณ… หินวิเศษ… วิธีการฝึกฝน… ยาเม็ดวิเศษระดับที่เจ็ดถึงแปดและอื่น ๆ อีก… ไม่ใช่ของพิเศษอะไร… นางบอกว่าเป็นแค่การละเล่น!

การละเล่น!

เจ้ารู้หรือเปล่าว่ามีกี่คนในเมืองเทียนถังที่ต่อสู้เพื่อยาเม็ดวิญญาณ? เจ้าเคยเห็นการจลาจลที่เกิดขึ้นเพราะหินวิเศษหรือไม่? เจ้ารู้หรือเปล่าว่าโลกวิชายุทธใต้ดินจะกลายเป็นโรงพยาบาลบ้าเพราะวิธีการฝึกฝน? เจ้ารู้หรือไม่ว่ายาเม็ดวิเศษระดับที่เจ็ดถึงแปด…

ช่างเถอะ ช่างมันเถอะ

ยวินหยางโกรธ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถึงกับรู้สึกว่าอยู่ในฐานะคนจน ในฐานะชาวบ้านผู้ไม่เคยได้โลก การเดิมพันของผู้หญิงเสื่อมทรามจนน่าตกตะลึง เขาสงสัยว่านายน้อยจะเดิมพันด้วยอะไร

หลังจากก่นด่าในใจจมพอแล้ว ยวินหยางยังคงนิ่งเงียบ “แล้วค่าตอบแทนของข้าล่ะ?”

“ถ้าข้าชนะ เจ้าจะได้ครึ่งหนึ่ง แค่นั้น ถ้าข้าชนะล่ะก็นะ” จี้หลิงขออย่างใจกว้าง “เจ้าคิดว่าไง?”

ยวินหยางอยากบอกว่ามันไม่เพียงพอ แต่ก็ยอมรับอย่างไม่เต็มใจว่านี่เกินกว่าที่คาดหวังเอาไว้มาก

“ได้” ยวินหยางกล่าว “แต่ในเมื่อข้าช่วยเจ้าในการแข่งขันครั้งนี้ เจ้าจะต้องช่วยบอกข้อมูลให้ข้าบ้าง ตกลงหรือไม่?” โลกอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับหอคอยสี่ฤดู แต่น่าจะเป็นความรู้ทั่วไปสำหรับครอบครัวที่มีอิทธิพลขนาดใหญ่เหล่านี้

“ข้อมูลแบบไหนที่เจ้าต้องการล่ะ?” จี้หลิงถาม

“ข้าจะบอกให้เจ้าทราบหลังจบการแข่งขัน ถ้าข้าไม่สามารถทำให้เจ้าชนะได้ พวกเราลืมเรื่องตลกพวกนี้ไปได้เลย” ยวินหยางกล่าวต่อ “แต่ถ้าชนะ ข้าไม่คิดมากเรื่องส่วนแบ่งจากการเดิมพัน แค่สัญญาว่าจะช่วยข้าตามหาข้อมูลให้สักหน่อย ตกลงหรือไม่?”

“ได้ ตกลง!” จี้หลิงพยักหน้าอย่างง่ายดาย

มือทั้งสองข้างของพวกเขาประสานเสียงดัง ถือเป็นการทำสัญญา

“ข้าเพิ่งสังเกตเห็นว่ามือของเจ้าขาวกว่าผู้หญิงเสียอีก แถมยังดูดีกว่าด้วย” จี้หลิงสังเกตขณะมองมือของยวินหยางใกล้ ๆ “ขอข้าดูใกล้ ๆ หน่อย เจ้าเป็นผู้หญิงปลอมเป็นผู้ชายใช่หรือไม่”

ยวินหยางที่ตื่นเต้นจากการถูกผู้หญิงจับเนื้อต้องตัวตอบลอดไรฟันว่า “แม่นางที่รัก เจ้าอยากให้ข้าถอดกางเกงเพื่อตอบคำถามนั้นไหมล่ะ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด