GE401 หนึ่งกระบวนท่า [ฟรี]

เยว่หลิงคงกลับมา… ซัวหมิงเข้าสู่ทะเลส่วนใน… ทาสไร้ดัดแปลง 3 ตนปรากฏ… เรื่องนี้แพร่ไปทั่วทะเลไร้สิ้นสุดอย่างรวดเร็ว

จนยามนี้หนิงฝานแทบจะกลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลไร้สิ้นสุด เป็นผู้ที่ไม่มีใครอยากยั่วยุ

ชื่อเสียงของเขานับวันยิ่งยิ่งใหญ่ไร้ผู้ต้าน

ผู้ปกครองเกาะเทียนฉีจ้องมองหนิงฝานด้วยความหวาดกลัว ขนาดผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงสุดของเผ่าหกปีกยังไม่อาจรับมือ ซ้ำยังถูกสังหารตายในพริบตา

ไม่มีใครคาดคิดว่าหนิงฝานจะมีทาสไร้ดัดแปลงถึง 3 ตน

หนิงฝานประทับตราอสูรใส่ผู้นำเกาะเทียนฉี ทำให้มันต้องจำยอมเข้าร่วมกับเยว่หลิงคงอีกครั้ง

ยามนี้เผ่าหกปีกยังไม่เคลื่อนไหว

ผู้เชี่ยวชาญบางคนสลักรูปร่างหน้าตาหนิงฝานไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองไปยั่วยุหนิงฝานอีก

เมื่อข่าวลือเรื่องทาสแพร่ออกไป ก็มีข่าวลืออีกอย่างปรากฏตาม ข่าวลือนั้นกล่าวว่าทาสไร้ดัดแปลงทั้งสาม หนิงฝานได้มาจากหยุนเทียนเฉวหลังจากเข้าร่วมเป็นผู้อาวุโสของวิหารพิรุณ

แม้เรื่องนั้นจะเป็นข่าวเท็จ แต่ก็ส่งผลกับขุมกำลังหลายแห่ง แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังของตระกูลซัวยังไม่กล้ายั่วยุหนิงฝาน

กลายเป็นว่าชื่อเสียงของหยุนเทียนเฉวกลายเป็นที่เกราะป้องกันให้หนิงฝาน

แม้ผู้ที่เห็นทาสทั้งสามจะรู้ว่าทาสเหล่านี้เป็นเผ่าพันธุ์อสูร แต่ก็ไม่มีสงสัยว่าหนิงฝานไปได้มายังไง เพราะทุกคนคิดว่าหยุนเทียนเฉวคงเป็นผู้สังหารอสูรทั้ง 3 แล้วนำมาเป็นทาส

หนิงฝานตั้งใจจะหาซื้อสมุนไพรที่ใช้ฟื้นฟูทะเลสติที่นี่ แต่ยามนี้ได้ผู้ปกครองเกาะเทียนฉีเป็นทาส คงไม่จำเป็นต้องเสียผลึกศิลาซื้ออีก

ชายชราพาหนิงฝานไปยังคลังสมุนไพรของตน ทำให้เขาได้สมุนไพรที่ต้องการมากมาย

ดูเหมือนการที่นำทาสไร้ดัดแปลงทั้งสามออกมา นอกจากจะข่มขู่เผ่าหกปีกได้ ยังกลายเป็นการใช้ชื่อเสียงของหยุนเทียนเฉวข่มขู่ได้อีกต่อ

หากไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาตที่หวังจะทำลายเขาให้สิ้น ก็ไม่มีผู้ใดกล้าคิดล่วงเกินเขา

บนยอดเขาแห่งหนึ่งทางใต้ของเกาะ มีหนึ่งบุรุษสองสตรียืนอยู่ ทั้งสามเฝ้ารอให้จันทราปรากฏบนท้องนภา สาดแสงอาบมายังประตูจันทรา

หลิงคงบอกว่า ประตูจันทราจะใช้ได้ในเฉพาะยามราตรีเท่านั้น และต้องเป็นช่วงเวลาที่จันทราเต็มดวงเท่านั้น

“แสงจันทราฉายอาบ… ประตูแห่งจันทราปรากฏ… นำพาข้ามห้วงมิติ...”

เยว่หลิงคงร่ายเคล็ดความ จันทราบนท้องนภาที่ยังไม่เต็มดวงเริ่มค่อยๆเต็มดวงอย่างช้าๆ แสงจันทราที่อาบร่างทำให้นางนึกถึงอดีต

วิชาที่ใช้กระตุ้นประตูจันทรานั้น นางได้รับมาจากสนมอสูรชางเยว่ หากเป็นเมื่อก่อน นางจะใช้วิชาได้ง่ายกว่านี้ และเงื่อนไขที่จะใช้วิชาก็จะน้อยกว่านี้เช่นกัน

“วิชาจันทราของเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ...” หนิงฝานถอนหายใจ เยว่หลิงคงมีเส้นลมปราณเทพที่พิเศษ

“ถึงจะไม่ธรรมดายังไงก็ยังสู้เจ้าไม่ได้อยู่ดี… ตัวเจ้ากล้าแม้กระทั่งสังหารคนของตระกูลหกปีก ที่สำคัญ ทาสทั้งสามของเจ้ายังทำให้คนอื่นๆกลัว”

นางถอนหายใจ แม้นางจะเคยเป็นสตรีที่ทรงพลัง แต่นางก็ไม่กล้าสังหารผู้อาวุโสของเผ่าหกปีก

“เล่าเรื่องเผ่าหกปีกให้ข้าฟังได้หรือเปล่า...” หนิงฝานกล่าว

“เจ้าเคยได้ยินชื่อ 4 ขุมกำลังลับหรือเปล่า?” นางกล่าวถาม เผ่าหกปีกคือขุมกำลังลับที่ไม่เปิดเผยตัวในทะเลส่วนใน น้อยคนจะรู้ถึงการมีอยู่ของพวกมัน

“ไม่เคยได้ยิน...”

“4 ขุมกำลังลับคือขุมกำลังที่มีตัวตนอยู่ก่อนที่กษัตริย์อัสนีปู้ซัวจะเป็นจ้าวครองทะเลไร้สิ้นสุด พวกมันล้วนแต่เป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ!”

“เผ่าพันธุ์ปีศาจ? เหมือนอย่างเผ่าปีศาจยักษหน่ะเหรอ?” หนิงฝานกล่าวถาม

“เผ่าปีศาจยักษ์เองก็เป็น 1 ใน 4 ขุมกำลังลับ แต่ก็ยอมภักดีให้กับกษัตริย์อัสนี ผิดกับอีก 3 ขุมกำลังที่เหลือที่ยังครองอาณาเขตเป็นของตนจนถึงตอนนี้” นางขมวดคิ้วพลางกล่าว

“4 ขุมกำลังลับได้แก่ ‘เผ่าปีศาจยักษ์’ ‘เผ่าหกปีก’ ‘เผ่ามีเขา’ และ ‘เผ่าเนตรพราย’... ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงของเผ่าปีศาจยักษ์ในยามนั้น ตกตายไปพร้อมกับกษัตริย์อัสนี ทำให้ความแข็งแกร่งของเผ่าลดลง ไม่อาจเทียบเคียงกับอีก 3 เผ่าที่เหลือได้อีก… ในบรรดาทั้ง 3 เผ่า เผ่าหกปีกคือเผ่าที่อ่อนแอที่สุด มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 1 คน… เผ่ามีเขาแข็งแกร่งกว่า มีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้น 3 คน และขั้นกลางอีก 1 คน ส่วนเผ่าเนตรพราย...”

เมื่อกล่าวถึงเผ่าเนตรพราย สีหน้านางดูไม่สู้ดี

“เผ่าเนตรพรายมีผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก แม้จะถูกกษัตริย์อัสนีสังหารไปในอดีต แต่พวกมันก็ยังไม่อาจยั่วยุได้!”

จากน้ำเสียงของนาง แม้หนิงฝานจะมีทาสไร้ดัดแปลง 3 ตน แต่นางไม่เห็นด้วยหากเขาจะไปยั่วยุเผ่าเนตรพราย

“แตงกวาน้อย… ถึงเจ้าจะกล้าหาญและแข็งแกร่งขนาดไหน อย่าได้ยั่วยุตระกูลซัวและเผ่าเนตรพราย...” นางกล่าวเตือนหนิงฝาน

“เจ้าเป็นห่วงข้าเหรอ?” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว หนิงฝานไม่ได้ประมาทให้กับความลึกลับของทะเลส่วนใน ยามนี้ ที่เขาวางใจได้คือ เผ่าหกปีกไม่เป็นภัยคุกคาม

“จะไม่ให้ข้าห่วงเจ้าได้ยังไง? เจ้าออกหน้าปกป้องข้า ข้าย่อมเตือนเจ้าเป็นเรื่องธรรมดา” นางขมวดคิ้วพลางกล่าว หนิงฝานสัมผัสแผ่นหลังนางพลางถ่ายปราณดาราจากวิชาดาราทมิฬเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้

เวลาล่วงผ่าน ประตูจันทราเริ่มเปล่งแสงกระจ่าง หากผ่านประตูบานนี้ไป ทั้งหมดจะถูกนำไปยังขุมกำลังถัดไปที่อยู่ห่างออกไป 300 ล้านลี้

“แตงกวาน้อย ไปกันได้แล้ว...” นางก้าวเท้าไปข้างหน้าหวังจะผ่านประตูเข้าไป แต่หนิงฝานกลับรั้งนางไว้และดึงเข้ามาในอ้อมกอด

“เลิกทำให้เสียเวลาได้แล้ว!” ใบหน้านางแดงระเรื่อ

“มีคนกำลังมา...” หนิงฝานปล่อยหลิงคง ยืนบังนางและศพนางสวรรค์ไว้

ไกลออกไป 1 แสนลี้ มีเส้นแสงสีเงินพุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูง ทันทีที่หนิงฝานกล่าวจบ เส้นแสงนั้นก็หยุดอยู่ไม่ไกลจากหนิงฝานนัก ผู้ที่มาคือชายชราในชุดคลุมสีเงิน จากแรงกดดันที่แผ่ออกมา คือผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้น

มันแผ่สัมผัสเทพที่ทรงพลังเข้ากดดันหนิงฝาน ราวกับป้องกันไม่ให้หนิงฝานนำทาสไร้ดัดแปลงออกมา

“ท่านเป็นใคร!” หนิงฝานขมวดคิ้ว แม้อีกฝ่ายจะเร็วกว่าตนเองมาก แต่สัมผัสเทพอยู่ในระดับเดียวกัน

ชายชราฉวยโอกาสจู่โจมหนิงฝานด้วยสัมผัสเทพ แต่สัมผัสกระบี่ของหนิงฝานเข้าต้าน ทำให้มันต้องเร่งถอนสัมผัสเทพกลับ สีหน้าแปรเปลี่ยนตกตะลึง

“สัมผัสเทพของเจ้าทรงพลังมาก ซ้ำยังไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย... มิน่าถึงควบคุมทาสไร้ดัดแปลงได้ถึง 3 ตนได้”

“ปีกของท่านเองก็ไม่ธรรมดา เคลื่อนที่ในระยะ 150,000 ลี้ได้ในพริบตา หากท่านเร่งเต็มกำลังคงเร็วได้มากถึง 3 แสนลี้ ต่อให้ข้ามีทาสไร้ดัดแปลง 3 ตน ท่านคงจะมั่นใจว่าข้าคงจะจับตัวท่านไม่ได้ ท่านคงจะคิดว่าหากข้าไม่นำทาสออกมา คงสู้ท่านไม่ได้...” หนิงฝานจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา ปราณปีศาจที่ทรงพลังแผ่ออกจากร่าง เปลี่ยนมห้จันทรากระจ่างใสกลายเป็นจันทราโลหิต

ชายชราตกตะลึง มันคาดไม่ถึงว่าผู้เยาว์ในขอบเขตตัดวิญญาณจะมีปราณปีศาจทรงพลังกว่ามันนับ 10 เท่า!

ปราณปีศาจระดับนี้ สมควรสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณมาแล้วนับพัน ไม่… ต้องบอกว่าปราณปีศาจระดับนี้สมควรเคยสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงมาแล้ว!

เดิมทีมันคิดจะลอบสังหารหนิงฝานด้วยสัมผัสเทพ แต่ยามนี้มันต้องหยุดความคิดนั้นไป

เดิมทีที่มันได้ยินชื่อเสียงหนิงฝาน มันไม่เชื่อว่าหนิงฝานจะแข็งแกร่งขนาดนั้น บางทีข่าวลือที่มาอาจพูดเกินจริง

แต่จากปราณปีศาจของหนิงฝานยามนี้ ชายชราจึงเลิกสงสัยในตัวหนิงฝานอีก

ผู้เยาว์เบื้องหน้าสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงได้!

“สหายน้อยอย่าเพิ่งโกรธไป ข้าคือผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่าหกปีก นาม ‘เฉวียนยี่’ ที่ข้ามาหาเจ้าไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด!”

“ที่แท้เป็นผู้อาวุโสใหญ่… ข้าเสียมารยาทแล้ว! ไม่รู้ว่าที่ท่านมาในคืนนี้มีธุระอะไรกับข้า?”

หนิงฝานกล่าวถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจเย้ยหยันอีกฝ่าย

ที่มันบอกว่าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพราะมันกลัวปราณปีศาจของเขา

การที่หนิงฝานยอมเผยทาสไร้ดัดแปลง เขาไม่ได้กลัวว่าคนอื่นจะรู้ เขาไม่ได้กลัวผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงลอบจู่โจม เพราะเขาแข็งแกร่งพอที่จะสู้กับพวกมัน แต่หากไม่ใช้ปราณกษัตริย์หนิงฝานก็เอาชนะผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้พ่ายให้เช่นเดียวกัน

“ที่ข้ามาก็เพื่ออยากจะพูดคุยกับสหายน้อย… ข้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นหมดแล้ว สหายน้อยไม่ได้ผิด คนของเผ่าข้าผิดเอง... ในอดีตเยว่หลิงคงหายตัวไป ไม่ว่าผู้ใดก็คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ข้าไม่รู้ว่านางยังไม่ตาย จึงได้ขึ้นปกครองเกาะเทียนฉี… ข้าต้องโทษที่คนของข้าทำร้ายสตรีของเจ้า ส่วนเรื่องที่คนของถูกข้าก็คงโทษได้แค่เป็นเพราะความผิดของข้า...”

“ใครบอกว่าข้าเป็นสตรีของเจ้าแตงกวาน้อย!” นางกล่าวโต้ แต่หนิงฝานก็หยิกเอวนางไว้ไม่ให้พูด

“ผู้อาวุโสมีอะไรก็กล่าวมาตรงๆเถอะ” หนิงฝานกล่าว

เฉวียนยี่ลังเล แต่สุดท้ายมันก็ขบฟัน ป้องมือให้หนิงฝาน

“ที่ข้ามาก็เพราะไม่อยากระหว่างเราต้องผิดใจกัน… คนของข้าทำผิด ข้าเองก็ไม่พอใจ จึงอยากไถ่โทษด้วยการคืนขุมกำลังที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของเกาะมิติให้ อีกอย่าง ถ้าเจ้าจะสังหารคนของข้าไปแล้ว ข้าขอดวงจิตของมันคืนได้หรือเปล่า?”

ศพนางสวรรค์เฝ้ามองอย่านิ่งเฉยราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับนาง เพราะโลกของนางนั้นมีเพียงหนิงฝานเพียงคนเดียว

แต่เยว่หลิงคงที่เฝ้ามองกลับตกตะลึง ผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่าหกปีกกำลังขอโทษหนิงฝาน! แม้มันไม่ได้ขอโทษจากใจจริง แต่มันยังยอมกล่าวขออภัย ยอมป้องมือให้ นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก

แม้ระดับพลังในขอบเขตไร้ดัดแปลงจะไม่ได้สูงส่งมากนัก แต่การที่ทำให้คนระดับนี้ยอมขอโทษได้ นับว่าไม่ธรรมดา

“เผ่าหกปีกชิงขุมกำลังของเกาะมิติเทพไปสมควรต้องคืน… ไม่นับเป็นการชดใช้ ส่วนดวงจิตคนของท่าน ที่ข้ายังไม่ทำลายก็เพราะยังไว้หน้าท่านอยู่”

หนิงฝานไม่ใช่เด็กเหมือนวันวาน การที่อีกฝ่ายอ้างเรื่องขุมกำลังของเกาะมิติเทพเพื่อหวังจะให้ทุกอย่างจบสิ้น นับว่าดูแคลนหนิงฝานเกินไป

หากอีกฝ่ายเสนอสิ่งที่ควรค่า หนิงฝานก็ยอมที่จะปล่อยผ่านเรื่องนี้ แต่หากไม่… เขาย่อมทำลายพวกมันทิ้ง

เฉวียนยี่ราวกับยังไม่เข้าใจถึงจุดยืนของมัน มันคิดว่าแค่กล่าวขอโทษเล็กน้อย จะทำให้เรื่องมันจบ?

ไม่มีทาง!

“ฮึ่ม! ถ้างั้นแล้วเจ้าต้องการอะไร?” เฉวียนยี่ขมวดคิ้ว

“เยว่เอ๋อร์เล่าให้ข้าฟังว่า ที่เผ่าของท่านมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ศิลาฟื้นฟู’ ที่สามารถรักษาฟื้นฟูร่างกายและทะเลสติได้ ข้าอยากจะขอยืมสิ่งนั้น”

“เป็นไปไม่ได้! บรรพบุรุษของพวกข้าสั่งมาว่า ห้ามมอบศิลาฟื้นฟูให้คนนอดเด็ดขาด!” เฉวียนยี่ปฏิเสธเสียงแข็ง

“แต่ข้าจำเป็นต้องใช้!” หนิงฝานกล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่

“1 กระบวนท่า… หากเจ้าทำให้ข้าถอยได้แม้เพียงครึ่งก้าว ข้าจะให้เจ้ายืม!” มันอยากจะสั่งสอนให้หนิงฝานได้รู้ว่ามันแข็งแกร่ง ที่มันยอมมาขอโทษก็เพราะเกรงต่อทาสไร้ดัดแปลง แต่มันคิดว่าหนิงฝานคงไม่แข็งแกร่งขนาดนั้น

“1 กระบวนท่า? ก็ได้!” หนิงฝานนำกระบี่แยกสวรรค์ออกมา เงากระบี่จำนวนมหาศาลปรากฏ เงากระบี่เหล่านั้นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 1 เป็น 10... จาก 10 เป็น 100… เพิ่มพูนเท่าทวี

ปราณกระบี่มหาศาลเหล่านั้นผสานเข้าในร่างหนิงฝานเพื่อเตรียมจู่โจม

“เพลงกระบี่อนันต์!”

แรงกดดันของหนิงฝานเพิ่มพูน จนไม่ด้อยไปกว่าเฉวียนยี่ ยามนี้มันเริ่มไม่มั่นใจว่าจะรับกระบวนท่าหนิงฝานได้

“นี่มัน...ปราณกระบี่ระดับไหนกัน?”...