ตอนที่แล้ว16 ปลิงทะเลหนึ่งตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป18 ยาเสริมความแข็งแกร่ง

17 คุณน้าในตลาดมืด


17 คุณน้าในตลาดมืด

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

หลี่เย้าเดินอยู่เพียงลำพังบนถนนสายหลัก ภายใต้สายลมกลางคืนที่พัดผ่าน เขาคิดกลับไปถึงในตอนที่ เฮ่อเหลียนเลี่ยถูกปกคลุมไปด้วยล็อปสเตอร์, หอย, และปลิงทะเล และภาพของเขาที่วิ่งหนีหางจุกตูดไป และก็เป็นอีกครั้ง ที่เขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้

ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปได้แค่หนึ่งวันหนึ่งคืนเท่านั้น ซึ่งมันยังผ่านไปไม่ถึง 30 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่แล้วเรื่องสุดมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นกับเขาแล้ว!

มันเพิ่งจะผ่านไปได้แค่วันเดียวเท่านั้น ในตอนที่เขาเผชิญหน้ากับเฮ่อเหลียนเลี่ย เหมือนกับหนูเผชิญหน้ากับหมาป่าผู้หิวโหย ที่แม้แต่การหายใจเบาๆก็ยังเป็นไปไม่ได้สำหรับเขา

ผ่านไปอีกวันหนึ่ง เขากลับทำให้เฮ่อเหลียนเลี่ยต้องล้มคะมำและหน้าไถลไปกับพื้นแทน เขาได้ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับเทพบุตรของโรงเรียนมัธยมซื่อเซียว จนเขาต้องเผ่นหนีไป

ถ้าหากแฟนคลับของเฮ่อเหลียนเลี่ยที่โรงเรียน ได้มาเห็นฉากนี้เข้า พวกเขาก็อาจจะอ้าปากจนกลามค้างเพราะความช็อกได้!

บนโลกใบนี้ ยังจะมีเรื่องมหัศจรรย์พันลึกเกิดขึ้นอีกไหมนะ?

ส่วนคำเตือนของเจิ้งตงหมิงนั้น เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนัก

ความมั่นใจได้ค่อยๆซึบซาบลึกลงไปถึงไขกระดูกของหลี่เย้า ถึงแม้เขาจะค่อนข้างมั่นใจว่า เขายังสู้เฮ่อเหลียนเลี่ยไม่ได้ แต่เขารู้ดีว่า เมื่อเขาได้ฝึกฝนช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาก็จะสามารถทะลวงผ่านไปยังโลกใบใหม่ที่ไร้ขอบเขต แล้วเหยียบย่ำเฮ่อเหลียนเลี่ยไว้ใต้ฝ่าเท้าของเขา!

“เฮ่อเหลียนเลี่ย เมื่อวานแกข่มขู่ฉัน เรียกฉันว่าขยะ วันนี้ แกอยากจะตบหน้าฉัน ฉันจะจดจำทั้งสองเรื่องนี้เอาไว้ลึกสุดใจ”

“ฉันจะให้โอกาสแกอีกเป็นครั้งที่สาม ถ้าแกทำตัวดีดี ประพฤติตัวอยู่ในกรอบ เก็บหางของแกไว้ตรงข้าหนีบ และไม่มาหาเรื่องฉัน ฉันก็ไม่คิดที่จะจัดการกับแก เพราะฉันเป็นคนใจกว้างพอ”

“แต่ถ้าแกยังดื้อดึงที่จะมายุ่งกับฉันด้วยวิธีการที่งี่เง่า ทำเรื่องผิดพลาดต่อหน้าอีแร้งหลี่เย้าอีกละก็ ฉากต่อไปของแกจะไม่จบง่ายๆเหมือนกับวันนี้แน่!”

โดยที่หลี่เย้าไม่รู้ตัว อากาศเย็นที่ราวกับโผล่มาจากโลกยุคโบราณเมื่อ 46,000 ปีก่อนได้ปรากฏขึ้นและวนเวียนอยู่รอบกายของเขา

ในเวลานี้ เดิมทีเขาตั้งใจที่จะกลับไปนอนพักผ่อนที่บ้าน และในวันพรุ่งนี้ เขาก็จะไปที่ตลาดมืดเพื่อซื้อยาเสริมความแข็งแกร่ง แต่ในตอนนี้ เขาเปลี่ยนใจแล้ว และได้เดินตรงไปยังลิฟต์ที่ใช้สำหรับเดินทางไปยังชั้นใต้ดิน

เหลือเวลาอีกเพียง 99 วันก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

เขาจำเป็นต้องใช้ทุกนาที ทุกวินาทีบ่มเพาะให้มากที่สุด แล้วเขาก็จะสร้างความตกตะลึงในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย!

“เฮ่อเหลียนเลี่ย ไม่นายหรอกเหรอที่พูดว่า นักเรียนคลาสสามัญเป็นปลาเน่า ทุกคนเป็นได้แค่ขยะน่ะ? แล้วถ้า”ขยะ“คนนี้ ได้คะแนนสอบเหนือกว่านายขึ้นมา นายจะ”ทำ“ยังไง?”

ในทุกเมืองของสหพันธรัฐต่างก็มีตลาดมืดตั้งอยู่ที่ใต้ดิน มันเป็นพื้นที่พิเศษของคนชนชั้นล่าง

ใน 40,000 ปีที่ไร้ความสงบสุขนั้น ทางเดินที่ถูกต้องและประตูของปีศาจ มนุษยชาติและเผ่าพันธุ์ปีศาจ ความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจเป็นสาเหตุของความไม่สงบ สหพันธรัฐแห่งดวงดาวก็อยู่ในช่วงเวลาของสงครามมาอย่างยาวนาน

ทุกจุดยุทธศาสตร์ของสหพันธรัฐ ได้มีการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไปถึง 3,000 เมตร และได้สร้างสิ่งก่อสร้างเอาไว้ภายในนั้น พวกเขาได้สร้างสถานที่หลบภัย เกราะป้องกันการจู่โจม ท่อระบายน้ำ และ ช่องระบายอากาศเอาไว้ภายใน

สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่อยู่ใต้ดินได้เชื่อมต่อกัน กลายเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ และภายในเมืองใต้ดิน ได้มีการสั่งสมเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นทั้งหมดเอาไว้ พวกเขาได้ใช้พลังจิตวิญญาณห่อหุ้มและปิดผนึกเสบียงทั้งหมดเอาไว้ เพื่อคงความสดใหม่เอาไว้ให้นานที่สุด

หากสถานการณ์เลวร้ายจนถึงที่สุด เช่นการที่พื้นที่ด้านบนถูกครอบครองโดยเผ่าพันธุ์ปีศาจ เหล่ามนุษยชาติก็สามารถถอนร่นลงไปในป้อมปราการใต้ดินได้ เสบียงที่มีถูกเก็บเอาไว้ภายใน  นั้นมากพอที่จะเลี้ยงดูคนจำนวนหลายแสนคนให้รอดชีวิตได้อย่างน้อยสิบปี

และคลังแสงในเมืองใต้ดินก็ยังมีอาวุธอาร์ติเฟ็กซ์ลับสุดยอดและดาบบิน สำหรับกองทัพเพื่อใช้ในการต่อสู้กลับ ได้นอนแน่นิ่งอยู่ภายในคลังแสงนั้น

แต่ในเวลานี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองของความสงบสุขและรุ่งโรจน์ของมนุษยชาติ ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาสหพันธรัฐแห่งดวงดาว ได้ทำการบุกเบิกและขยายอาณาเขตอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยกลยุทธการบุก พวกเขาได้ทำลายภูเขาตัดผ่านป้อมปราการ กองทัพที่เคยป้องกันชายแดนได้ค่อยๆหายไป และป้อมปราการใต้ดินเริ่มหมดความสำคัญต่อกองทัพ

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เหล่าชนชั้นล่างได้ค่อยๆพากันมาอยู่ที่เมืองใต้ดินที่ว่างเปล่า พวกเขาใช้ที่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

หรือบางที ในตอนแรกมันอาจจะเป็นเพราะ พวกเขาถูกผลักดันให้ลงมาอยู่ใต้ดินด้วยราคาแพงของบ้านและค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว แต่ไม่นาน พวกเขาก็ค้นพบว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในโลกใต้ดินทั้งหมดยังคงไม่มีการบุบสลาย และมีพื้นที่โล่งกว้าง มันถือเป็นสถานที่ที่ดียิ่งกว่าสลัมที่อยู่ด้านบนด้วยซ้ำ

จำนวนของผู้อยู่อาศัยในโลกใต้ดินจึงเพิ่มมากขึ้น หลังจากผ่านกาลเวลาหลายร้อยปี เมืองใต้ดินก็ได้มีการพัฒนาและเจริญรุ่งเรืองขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะเลวร้ายเล็กน้อย แต่โลกใต้ดินก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายและตื่นตาตื่นใจเสียยิ่งกว่าเมืองด้านบน

สถานที่แห่งนี้อยู่เหนือกฎหมาย เป็นพื้นที่สีเทาๆ มันมีกฎเกณฑ์และข้อตกลงของตัวเอง

พูดให้ง่ายขึ้น สินค้าภายในตลาดมืดแห่งนี้มีที่มาที่ไปไม่แน่ชัด สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยค่อนข้างซอมซ่อ มีทั้งขโมยและนักฉกกระเป๋า และอาหารก็ยังไม่ถูกสุขลักษณะ

แต่หากสามารถมองข้ามเรื่อง “ความยุ่งยาก” เหล่านี้ไปได้ ก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในราคาถูก และอยู่ในโลกที่มีวัฒนธรรมและธรรมเนียมต่างไปจากโลกด้านบนโดยสิ้นเชิงได้อย่างมีความสุข

“ปัง!ปัง!” ลิฟต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจิตวิญญาณรุ่นเก่า เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงดังตึงตัง และมันกำลังเคลื่อนทีลงไปยังชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ตลาดมืดตั้งอยู่

สภาพอากาศเปลี่ยนไป มันเป็นอากาศที่ปนเปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกและกลิ่นของน้ำหอมราคาถูก

หลี่เย้าสูดลมหายใจเข้าลึก เขาเป็นราวกับปลาที่โดดลงน้ำ หลังจากที่เกยตื้นอยู่บนชายฝังเป็นเวลานาน ทั่วทั้งร่างของเขาเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง

เขาชอบตลาดมืด มากเสียยิ่งกว่าเขตชานตงเสียอีก ถ้าหากไม่ใช่เพราะการอยู่ด้านบนนั้นสะดวกต่อการไปสุสานใต้ดินมากกว่า เขาก็คงเลือกที่จะมาอาศัยอยู่ในตลาดมืด ที่ราคาที่พักอาศัยถูกกว่าด้านบนถึง 50%

สามนาทีต่อมา ลิฟต์ก็ได้หยุดลงตรงประตูทางเข้าสู่ตลาดมืด ที่เต็มไปด้วยเสียงตะโกนดังโหวกเหวกของผู้คน หลี่เย้าดึงประตูเหล็กให้เปิดออก จนเกิดเสียงดังแสบแก้วหู กลิ่นเหม็นไหม้ได้ลอยเข้าใส่ใบหน้าของเขา

โครงสร้างภายในตลาดมืดมีการจัดวางที่ไม่ต่างกันมากนัก ในเมื่อโลกใต้ดินแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ของกองทัพมาก่อน ดังนั้น แต่ละป้อมปราการจึงมีหมายเลขติดอยู่ และพวกเขาจึงใช้มันเป็นตัวเลขสำหรับการแบ่งเขต

หลี่เย้าได้เข้าสู่เขตที่ 59

มันเป็นถนนที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหาร วัตถุดิบนั้นมีที่มาที่ไปที่น่าสงสัย พวกมันถูกผ่านกระบวนการมากมายที่ไม่อาจรู้ได้ และได้กลายมาเป็นอาการและเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงในโลกใต้ดินแห่งนี้ ด้วยรสชาติที่อร่อยจนคนกินแทบจะกลืนลิ้นตัวเองไปด้วย จึงทำให้ไม่มีใครสนใจที่จะเสาะหาวิธีการผลิตที่แท้จริงของอาหารเหล่านี้

แป้งข้าวแบบแท่งราดน้ำมันหมูร้อนๆ...เต้าหู้เหม็นทอดจนเหลืองทอง...ไส้กรอกเลือดใส่กระเทียม, เลือดหมู, และเนื้อม้าที่ใช้น้ำมันจากหางแกะในการผัด จากนั้นก็โรยด้วยเกลือคริสตัลสีดำ สินค้าพิเศษจากดินแดนรกร้างทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไส้กรอกเลือดที่ทุกคนต่างก็อยากจะกัดเข้าไปสักคำ ในตอนที่มันยังร้อนและลวกลิ้น วุ้นเลือดที่ผัดเข้ากับน้ำมันหางแกะ ที่ไหล่ลงคอไปก่อนที่จะทันได้เคี้ยว มันให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ ร่างกายโปร่งโล่งสบายไปทั่วทุกรูขุมขน มันเป็นสิ่งที่เอาอะไรในโลกนี้มาแลกก็ไม่ยอม!

มีคนเคยพูดเอาไว้ว่า มีผู้ฝึกตนเพียงน้อยนิด ที่จะสามารถต้านทานอาหารและเครื่องดื่มในตลาดใต้ดินแห่งนี้ได้ พวกเขามักจะปลอมตัวและมาที่นี่เพื่อดื่มกินอาหาร ตามที่หัวใจของพวกเขาเรียกร้องมา

ถึงแม้ว่าเขาเพิ่งจะกินอาหารบุพเฟ่ไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว เขาก็ยังอดที่จะซื้อของกินจากตลาดไม่ได้ เขาซื้อไส้กรอกเลือด 5 ไม้ เขายืนกินอยู่ตรงหน้าร้านและหรี่ตาด้วยความพึงพอใจ

คุณน้าในวัยสามสิบที่กำลังอุ้มเด็กทารกเอาไว้ ได้โผล่มาอยู่ตรงหน้าของหลี่เย้า เธอพูดออกมาด้วยเสียงอันเบาว่า “หนุ่มน้อย เธอสนใจแผ่นหยกไหม?”

เธอเปิดกระเป๋าหนังที่หนีบเอาไว้ข้างใต้ตัวเด็กทารก เธอยื่นมือเข้าไปในกระเป๋า แล้วดึงแผ่นหยกออกมาสามแผ่น และใช้มือแผ่พวกมันออก

ตัวของแผ่นหยกนั้นเป็นประกายและโปร่งใส พวกมันส่องแสงเป็นประกาย พร้อมกับสีสันที่หลากหลาย จนกลายเป็นสีรุ้ง สีสันเหล่านั้นได้ส่องไปตรงหน้าของหลี่เย้า และกลายเป็นชื่อสามชื่อด้วยกัน

<<ผู้ฝึกตนหญิงป่ายเจี่ย>>, <<ดาบอมตะอาปิน>>, <<มาสเตอร์นักปรุงยา>>

“มันเก่าไปแล้ว ผมดูครบหมดแล้วล่ะ” หลี่เย้าเหลือบตามองและไม่ได้แสดงความสนใจใดใดออกมา

“มันไม่เหมือนกันนะ มันเป็นของที่ทำขึ้นมาใหม่โดยผู้ฝึกตนระดับสูง ทั้งความละเอียดก็ยังสูงขึ้นกว่าปกติถึง 10 เท่า เห็นจัดทุกเส้นผมและรูขุมขน ฉันรับรองเลยนะว่า เมื่อเธอได้ดูมันแล้ว เธอจะไม่มีทางลืมได้ลงอย่างแน่นอน ถ้าได้ดูสักครั้งแล้วละก็ เธอจะต้องอยากได้อีกแน่นอน!” คุณน้าที่อุ้มเด็กทารถได้ทำการชักชวนอย่างกระตือรือร้น

“......เอ่อ ช่างมันเถอะ ผมแค่มาเดินเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ไม่ได้เอาเงินมาด้วยหรอก ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าผมกลับมาอีกครั้ง ไว้ผมจะอุดหนุนกิจการของคุณน้าแน่นอน”

เขาพยายามสลัดตัวออกมาจากคุณน้าคนขายแผ่นหยกได้ด้วยความยากลำบาก และจัดการกินไส้หรอกเลือดจนหมด หลี่เย้าเช็ดปากของเขาด้วยความพึงพอใจ เขาเดินตรงไปยังห้องน้ำสาธารณะ ที่ตั้งอยู่บนมุมหนึ่งของถนนอย่างไม่รีบร้อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด