บทที่ 144 - สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (2)
บทที่ 144 - สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (2)
”
ความสำเร็จของกิลด์รีไวเวิร์ลได้ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว มันเห็นได้อย่างชัดเจนเลย พ่อได้บอกว่าพ่อจะจัดการมันเพียงลำพัง ดังนั้นก็จะมีสองกลุ่มคือกลุ่มสาวสวยที่เคลียร์ดันเจี้ยนและพ่อ ไม่ว่าพวกเธอจะอ่อนแอแค่ไหน พวกเธอก็ยังได้รับความสนใจอย่างมาก สิ่งที่ทำให้มันเป็นอย่างนั้นก็คือความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งของพวกเธอ แม้แต่ชูนะที่มีเลเวลต่ำที่สุดก็ยังมีพลังพิเศษที่สืบทอดมาจากตระกูลทำให้เธอสามารถสร้างการป้องกันที่น่าตกใจขึ้นได้
บงทีอาจจะเป็นเพราะเธออคล้ายๆกับสุมิเระในหลายๆด้านพวกเธอก็เลยเข้ากันได้ดี จากสิ่งที่ฉันได้ยินมามันดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน
ไม่ว่ายังไงก็ตาม 5 สาวก็ไม่ได้ซ่อนตัวตนของพวกเธอเลยและเดินเข้าไปในเกตของแต่ละประเทศที่อนุญาตให้ผู้ใช้พลังเข้าไปอย่างมันใจ แน่นอนว่าฮวาหยาก็ได้ใช้เครื่องบินส่วนตัวของเธอเพื่อขนส่ง
ไม่ว่าเหตุการดันเจี้ยนจะอยู่ในระดับ A หรือ C พวกเธอก็ได้จัดการเคลียร์ได้อย่างเสร็จสมบูร แม้ว่าจะเกิดเหตุการการจู่โจมระเบิดออกมาพวกเธอก็สามารถจะจัดการเก็บกวาดได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากว่าฮวาหยาเป็นที่รู้จักดีในตอนแรกได้มีคนสงสัยว่าเธอเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้พิทักษ์ของอังกฤษ ยังไงก็ตามหลังจากระบุได้ถึงรูเดียและเยอึนผู้ที่ต่อสู้กับอัศวินมังกรในอเมริกา พวกเขาก็ได้เริ่มพูดว่ากลุ่มนี้อยู่ภายใต้คำสั่งของอัศวินมังกร พวกเราพูดได้ถูกเลย
การกระทำที่เด็ดขาดและรวดเร็วได้ลายเหตุการดันเจี้ยนโดยที่ไม่คำถึงถึงระดับเลยได้ทำให้ผู้ใช้พลังและสื่อต่างๆให้ความสนใจ พวกเขาอาจจะต้องการรู้ในจุดประสงค์ของพวกเรา แต่ว่าฮวาหยาก็ได้หลีกเลี่ยงการติดต่อกับสื่อ เพราะถึงแม้ฮวาหยาจะไม่อธิบายทุกคนก็ควรจะรู้อยู่แล้วว่าทำไมเหตุการดันเจี้ยนถึงต้องถูกจัดการ ฮวาหยาจะต้องนำคนอื่นๆไปจัดการเหตุการณ์ดันเจี้ยนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ต้องขอบคุณการกระทำของพวกเธอได้ทำให้ประเทศอื่นๆได้เริ่มเคลียร์ดันเจี้ยนของพวกเขาแล้วเหมือนกัน พวกเขาอาจจะได้คิดอะไรบางอย่างได้ว่า 'ฉันไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น แต่ว่าพวกเขาอาจจะทำเพื่ออะไรที่น่าทึ่ง ดังนั้นเราก็ควรจะทำเช่นกัน'
พวกเขาไม่ได้คิดอะไรผิดเลย ฮวาหยาและคนอื่นๆได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากหลังจากได้เคลียร์เหตุการดันเจี้ยน ยังไงก็ตามประโยชน์เหล่านี้ใช้ได้กับเพียงแค่นักสำรวจดันเจี้ยนเท่านั้น ผู้ใช้พลังตามปกติไม่สามารถจะใช้ได้ ตามที่กล่าวมานั้นพวกเขาได้ช่วยลดอันตรายที่เกิดจากการที่รัฐบาลได้พยายามจะปล่อยให้เหตุการดันเจี้ยนกลายเป็นพื้นที่ดันเจี้ยน
เนื่องจากว่าเหตุการณ์ดันเจี้ยนจะให้แต้มสเตตัสอย่างน้อย 1 แต้ม ฮซาหยาและคนอื่นๆก็ได้พัฒนาไปอย่างมากจากการเคลียร์ดันเจี้ยนไป 88 แห่งในช่วงเวลานั้น เพราะว่าพวกเธอก็ยังสามารถจะจัดการเหตุการการจู่โจมได้อย่างสมบูรณ์อีกด้วย ฉันก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาพวกเธอที่ได้แต้มโบนัสสเตตัส แน่นอนว่าฉันไม่โง่มากพอที่จะสั่งให้พวกเธอหยุดและรอคอยฉัน สำหรับฉันแล้วการฝึกในปัจจุบันนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ฉันสามารถที่จะรับมือกับการโม้ของฮวาหยาได้
[หุหุ พ่อพึ่งจะเคลียร์ที่ที่ 30 แล้ว]
[ยินดีด้วยพ่อ]
พ่อก็ยังได้จัดการทำลายดันเจี้ยนมากมายด้วยตัวเอง เมื่อพิจารณาถึงความมั่นใจของพ่อดูเหมือนว่าพ่อจะได้เชี่ยวชาญในเทคนิคหอกระดับสูงนี้ ฉันมันใจได้เลยว่าพ่อจะต้องโม้เกี่ยวกับการขึ้นไปถึงระดับใหม่ของวิถีหอก พ่อจะต้องประกาศตัวว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
[แกกำลังทำอะไรอยู่ล่ะเจ้าลูกชาย การฝึกเทคนิคหอกของแกเป็นไปด้วยดีไหม?]
[มันก็เรื่อยๆแหละ ผมใกล้จะคว้ามันได้แล้ว]
[โฮ่ ถึงอย่างนั้นแกก็ไม่มีทางมาถึงระดับเดียวกับพ่อได้]
[เดี๋ยวเราจะได้เห็นดีกัน]
ฉันได้จดจ่อกับบียอนมากยิ่งขึ้น ในวันนี้มันเป็นวันสุดท้ายแล้วของระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ฉันให้สัญญาไว้
ด้วยความพยายามของกิลด์รีไวเวิร์น ผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรีที่ได้พยายามเคลียร์ดันเจี้ยนระดับ เหตุการดันเจี้ยนจำนวน 222 แห่งได้ถูกจัดการไปแล้ว มันเป็นเพียงแค่ครึ่งเดียวจากทั้งหมดนั้น มันยังคนมีดันเจี้ยนระดับ SS อยู่อีกสองแห่งในรัสเซียและอเมริกา และดันเจี้ยนระดับ S+ หรือสูงกว่านั้นอีก 14 แห่ง ดันเจี้ยนระดับ A และ S อีก 35 แห่งซึ่งพวกระดับสู.ของรัฐบาลได้พยายามที่จะเคลียร์มัน แถมกับอีก 167 แห่งที่เป็นดันเจี้ยนระดับ B หรือต่ำไปกว่านั้นซึ่งรัฐบาลได้พยายามจะเมินมันและให้มันเปลื่ยนเป็นพื้นที่ดันเจี้ยน
ด้วยแบบนี้มันจึงคุ้มค่าที่จะลอง
[ก๊าซซซซซ]
[กรี๊ดดดดด]
ฉันได้ยืนอยู่ตรงกลางของเส้นทางที่ยาวและเป็นเส้นตรง เมื่อมองไปทางดันหน้าและด้านหลังของฉันได้มีราชินีวิญญาณนับร้อยกำลังกรีดร้องและพุ่งเข้ามาหาฉัน
[ป้องกันวิญญาณได้กลายเป็นเลเวล 7 คุณได้พัฒนาพลังการต้านทานพลังจิตให้การเป็นเกือบสมบูรณ์แบบ ระดับการดำรงอยู่ของคุณได้เพิ่มขึ้นอาวุธที่ไม่มีมานาไม่สามารถที่จะสร้างบาดแผลให้กับคุณได้อีกต่อไป]
โอ้ เพียงแค่อยู่ตรงนี้ฉันก็รู้สึกได้เลยถึงค่าประสบการณ์ของป้องกันวิญญาณที่ก้าวกระโดด ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆเพราะว่าราชินีวิญญาณได้เริ่มยิงศรพลังวิญญาณเข้ามาแล้ว
ฉันได้ยิงลูกศรหน้าไม้ออกไปหลายดอกเพื่อที่จะจัดการกับศรพลังวิญญาณที่ฉันไม่สามารถจะหลบได้ จากนั้นฉันก็ได้ตั้งท่า ที่ใต้เท้าของฉันได้มีวังวนเบาๆไหลเวียนอยู่และส่งตัวเองลอยบินขึ้นไป หลังจากที่วงจรเพรูต้าของฉันได้มาถึงเลเวลเจ็ด ฉันก็สามารถที่จะใช้วงจรเพรูต้าได้ในระดับหนึ่ง
"ฮ่าห์"
ฉันได้พุ่งออกไปข้งหน้าอย่างรุนแรงและจัดการตัดราชินีวิญญาณที่อยู่ด้านหน้าของฉัน ทันทีหลังจากที่ฉันได้ก้างลงบนพื้นฉันก็ได้ใช้ทักษะใช้งานต่อในทันทีมันก็คือเส้นทางวายุ
[ก๊าซซซซซซซซซ]
"สาม สี่ ห้า!"
หอกกลืนกินของฉันแผ่ออร่าสีทองออกมาด้วยสปิริตออร่าในขณะที่ทะลวงผ่านศัตรูของฉันที่ขวางทางอยู่ ด้วนเทคนิคหอกของฉันที่พัฒนาขึ้นทำให้ในการโจมตีแต่ละครั้งของฉันได้สร้างความเสียหายที่มากขึ้น ในผลลัพธ์นี้ราชินีวิญญาณที่อยู่ในเส้นทางวายุจึงได้ตายลงไปอย่างง่ายดายและเมื่อฉันได้ฆ่าราชินีวิญญาณไปถึงสิบตัวแล้ว โบนัสพลังโจมตีของฉันได้เพิ่มขึ้น 50% ทำให้ราชินีวิญญาณได้ตายไปในทันทีที่โดนการโจมตี
ฮ่าาาาาาาาาห์"
[กรี๊ดดดดดดดดดด]
[หัว....ใจ....ของข้าาาา]
ไพก้านั้นได้อยู่ในหอกของฉันในขณะที่ริยูจะอยู่ด้านนอกและขัดขวางการเคลื่อนไหวของราชินีวิญญาณเพื่อที่จะทำให้ฉันฆ่าพวกมันได้ง่ายยิ่งขึ้น ความสามารถของไพก้านั้นเน้นไปที่การโจมตีในขณะที่พลังของริยูสามารถใช้ได้หลายรูปแบบ
"เจ้าพวกวิญญาณโสดทุกตน เข้ามาเลย!"
[คุณได้ใช้ทักษะยั่วยุ ศัตรูทุกตัวในพื้นที่จะโจมตีคุณด้วยความเกลียดชังอย่างมาก]
[ฆ่ามนุษย์นั่น]
[อย่าปล่อยให้มันออกไป]
[ทำให้มันมาเป็นพวกเรา]
[ผู้ชาย...เป็นพวก...ราชาวิญญาณ]
[ทำให้มันมาเป็นพวกของเรา]
[สามี...ฉันหมายถึงพวกของเรานะ]
อึก! ดวงตาของราชินีวิญญาณได้ส่องแสงแปลกๆออกมา พวกมันมีสายตาเหมือนกับโรเล็ตต้าในบางครั้ง
ฉันได้พุ่งเข้าไปหาประตูด้วยการใช้เส้นทางวายุฉีกกระฉากเหล่าราชินีวิญญาณที่ขวางทาง เมื่อฉันได้มาอยู่ที่หน้าประตู ฉันก็ได้หันกลับไปด้วยพลังหมุนวนที่มหาศาล พลังงานลมที่ได้รวบรวมอยู่ในปลายหอกของฉันมันดูเหมือนจะพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
ฉันได้ยกหอกขึ้น มันยังคงมีราชินีวิญญาณอีกหลายร้อยตัวที่ยังเหลืออยู่
"พายุธาตุ!"
[งานเทศกาลล่ะ!]
[ลม พัดลมล่ะ]
[ซูเปอร์หมุน หมุนนนน]
ภูติธาตุได้ลอยกันเข้ามาในหอกของฉันที่ซึ่งมีพลังงานลมหมุนอยู่รอบๆ ด้วยการเพิ่มพลังจากธาตุทำให้หอกของฉันเปล่งแสงสีร้องออกมา พลังงานลมและพลังจากภูติธาตุทำให้มือที่ถือหอกอยู่ถึงกับต้องสั่น แต่ว่าฉันก็ได้จับหอกเอาไว้แน่น
และจากนั้นก็แทงมันออกไปด้านหน้า
[กรี๊ดดดดดดดดดด]
ด้วยมานา 50% ของฉันที่หายออกไปฉันได้รู้สึกถึงความเมื่อยล้าที่เข้ามาในทันที ฉันได้ตั้งขาเอาไว้และป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องล้มไป ราชินีวิญญาณที่อยู่ในเส้นทางได้ตายกลายเป็นอนุภาคไปและฉันก็ได้ยินข้อความการได้รับเงิน 3000 ทองมาเรื่อยๆ
"ฟู่ มันจบแล้ว"
มันจบแล้วจริงๆ เมื่อมองเห็นเส้นทางที่ว่างเปล่าโดยสมบูรณ์ ฉันก็ได้เดินลึกเข้าไป ในตอนนี้ฉันไม่สามารถจะล่าอะไรได้อีกแล้วแม้ว่าจะต้องการ
ในปัจจุบันนี้เทคนิคหอกของฉันได้อยู่ที่เลเวล 9 แล้วซึ่งมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าการกำจัดมอนสเตอร์ในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายนี้จะทำให้ฉันเชี่ยวชาญเทคนิคหอกรู้ไม่ ค่าประสบการณ์มันไม่ใช่อะไรที่ฉันสามารถจะคำนวนเอาไว้ ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถจะอยู่อย่างนี้ตลอดไปแน่ๆ
แม้ว่าฉันจะไม่สามารถเชี่ยวชาญเทคนิคหอกระดับสูงได้มันก็ไม่เป็นไร มันไม่ได้หมายความว่าสองเดือนในการฝึกฝนของฉันมันไร้ซึ่งความหมาย ฉันได้รู้จักการใช้วงจรเพรูต้าในการต่อสู้มากขึ้นและฉันก็ยังรู้สึกมั่นใจการไปถึงวิถีหอกที่สูงขึ้นไปอย่างมากของฉัน ทักษะป้องกันวิญญาณก็ยังไปถึงเลเวล 7 แล้ว และนอกจากนี้พลังของผู้ใช้ธาตุก็ยังพัฒนาไปเช่นกัน แค่นั้นมันก็นับว่าพอแล้ว
"เอาล่ะถ้างั้น....ไปกันเถอะ"
ฉันได้ก้าวข้ามประตูไปด้วยความรู้สึกที่ไม่สบายใจ ในขณะนั้นเองก็ได้มีข้อความมากมายดังขึ้นในหูของฉัน
[คุณได้เอาชนะดันเจี้ยนบียอนชั้นที่ 3 คุณสามารถจะท้าทายชั้นที่ 54 ของดันเจี้ยนได้แล้ว]
[พลังชีวิตและมานาสูงสุดของคุณเพิ่มขึ้น 2% คุณได้รับโบนัสสเตตัส 5 แต้ม]
[ค่าประสบการณ์ในทักษะที่คุณใช้บ่อยจะถูกเพิ่มขึ้น]
[ศิลปะการต่อสู้ได้กลายเป็นระดับสูงเลเวล 5! จะเพิ่มพลังให้กับทุกๆการกระทำที่ใช้ร่างกายของคุณ]
[ชำนาญหน้าไม้ระดับกลางได้กลายเป็นเลเวล 8 คุณสามารถจะยิงลูกศรออกไปโดยที่ไม่ต้องเล็กได้แล้ว]
[คุณได้เชี่ยวชาญเส้นทางวายุระดับต่ำแล้ว พลังงานลมที่ถูกรวบรวมในตอนท้ายจะถูกเสริมพลัง]
[คุณได้เรียนรู้เส้นทางวายุระดับกลาง ทุกๆครั้งที่ศัตรูถูกผลักออกไปพลังโจมตีของคุณจะเพิ่มขึ้น 7% ไปจนถึง 200%]
[ทักษะวิ่งระดับกลายได้กลายเป็นเลเวล 6! จะเพิ่มผลบวกให้กับทักษะพุ่งทั้งหมดของคุณ]
[วงจรเพรูต้าได้กลายเป็นเลเวล 8! แม้จะอยู่ในการต่อสู้คุณก็จะสามารถที่จะหมุนวนวงจรเพรูต้าและเพิ่มพลังมานาได้ตามปกติ ในเวลาเดียวกันคุณสามารจะโจมตีและป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพได้โดยการใช้การไหลของมานา]
[ทักษะป้องกันวิญญาณได้กลายเป็นเลเวล 8! ระดับของจิตใจของคุณได้สูงขึ้นอย่างมากทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางจิตใจส่วนใหญ่และจะสะท้อนกลับไปยังผู้ใช้ คุณจะไม่ถูกข่มขู่โดยศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าและการมีอยู่ของคุณได้สมบูรณ์มากขึ้นพลังต้านทานมานาแห่งความมืดได้เพิ่มขึ้นอยากมาง]
[ทักษะครอบงำได้กลายเป็นเลเวล 2! เพียงแค่คุณดำรงอยู่ คุณก็จะสามารถทำให้ศัตรูสั่นกลัวได้ ลดพลังความสามารถทั้งหมดของศัตรูลง 10% โอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถใช้ทักษะได้เพิ่มขึ้น 10%]
[ความเชี่ยวชาญจิตวิญญาณระดับสูงได้กลายเป็นเลเวล 2 วิญญาณทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับคุณจะได้รับความเป็นไปได้ที่จะก้าวข้ามศักยภาพดั้งเดิมของวิญญาณ]
และ
[คุณได้เชี่ยวชาญเทคนิคหอกระดับสูง เมื่อคุณถือหอกอยู่ออร่าจะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ แม้ว่าคุณจะไม่มีหอกคุณก็สามารถจะสร้างหอกขึ้นได้โดยออร่าของคุณ คุณจะข่มขูศัตรูที่มีเลเวลเทคนิคอาวุธต่ำกว่าคุณอย่างมาก]
[ตอนนี้คุณจะต้องสร้างเทคนิคหอกของคุณ นี้เป็นเส้นทางที่ยาวไกลและยากลำบาก มันมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ อย่าได้เร่งร้อน หากคุณมีตัวช่วยขอแนะนำให้ทำมัน เทคนิคหอกที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกินกว่าเทคนิคหอกระดับสูงไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างได้อย่างง่ายดาย]
"ขอบคุณที่เป็นห่วงพี่สาวส่งข้อความ"
[.....]
"แต่แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างแรกเลย....."
เมื่อได้เห็นโรเล็ตต้าที่เบิกต้ากล้าง ฉันได้ยิ้มขึ้นและโบกมือของฉัน จากนั้นฉันก็ตะโกนออกมา
"ฉันได้เชี่ยวชาญเทคนิคหอกแล้ว!"
"ชินในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว!"
"ใช่แล้ว ฉันได้รับในสิ่งที่ต้องการมาแล้ว"
"นั่นคืออะไร"
"เชี่ยวชาญเทคนิคหอกระดับสูง"
กรามของโรเล็ตต้าได้ค้างไป
"ชะ ชินเพิ่งจะบอกว่าเชี่ยวชาญหรอ เทคนิคอาวุธระดับสูงนะหรอ"
"ใช่แล้ว พ่อก็ดูเหมือนจะเชี่ยวชาญแล้วเหมือนกัน ไม่ใช่ว่านักสำรวจระดับทองส่วนใหญ่จะเชี่ยวชาญมันหรอกหรอ?"
"ชินต้องการจะไปพื้นที่พักอาศัยกับฉันและตะโกนมันดังๆไหมล่ะ? ฉันมั่นใจได้เลยว่าผู้คนจะต้องเริ่มโยนหินใส่ชินแน่ๆ"
"ฉันได้พยายามอย่างหนักมาสองเดือน เธอก็รู้นี่"
"อ๊าา ฉันไม่รู้เลยว่าจะพูดยังไงกับชิน แต่ว่า....ฉันดีใจนะที่ชินกลับมาได้อย่างปลอดภัย"
เพราะสายตาของโรเล็ตต้าที่มองมาที่ฉันมันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ฉันเลยได้ก้าวถอยหลังไปซึ่งทำให้ตาของโรเล็ตต้าหรี่ลงอย่างรวดเร็ว
"นี้เป็นการพบกันของเราหลังจากสองเดือน ชินไม่มีความสุขหรอก"
"ฉันก็อยากจะทำน่ะนะ แต่ว่าในตอนนี้ฉันกำลังยุ่งมาก"
"...."
โรเล็ตต้าได้เริ่มจ้องมองมาที่ฉันอย่างตั้งใจ ดวงตาสีทองที่กระจ่างใสและส่องส่องของเธอดูเหมือนจะดูดวิญญาณฉันออกไป
"มะ มีอะไรหรอโรเล็ตต้า?"
"ชินกับฉันแล้ว...."
"กับโรเล็ตต้าแล้วทำไมหรอ?"
ริมฝีปากของโรเล็ตต้าได้ขยับเบาๆเหมือนว่าเธอได้ลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง
"กับฉันแล้ว... ไม่สิ ชั่งมันเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ฉันกำลังจะพูดอะไร....ฟู่ มันไม่มีอะไร ชินทำได้ดีแล้ว ฉันเพียงแค่รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อยนะ"
"เธอสามารถจะพูดให้ฉันเข้าใจได้ไหม?"
"ฉันหมายความว่าชินควรจะบอกให้ฉันรู้เมื่อชินมีปัญหา บอกฉันให้รู้ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยฉันก็สามารถจะช่วยนวดให้ชินได้ แม้ว่าฉันจะต้องการค่าใช้จ่ายชดเชยที่ไม่ใช่เงิน หุหุ...."
"ฉันรู้ว่าเธอพูดแบบนั้นเพราะเป็นห่วงฉัน แต่ว่าฉันไม่ได้ต้องการให้โรเล็ตต้ามานวดหรอกนะ"
"ชิ"
โรเล็ตต้าได้เดาะลิ้นของเธอจากนั้นก็หัวเราะเบาๆ
"ชั่งมันเถอะ แต่ว่าชินก็ไม่ควรที่จะฝืนตัวเองมากเกินไปนะ เมื่อมีสิ่งที่เหนื่อยและยากมากเกินไ ชินจะต้องบอกให้ฉันรู้นะ เรื่องนี้ฉันจริงจังนะเข้าใจไหม?"
"มันไม่ได้เหนื่อยหรือยากอะไรเลยซักนิด แต่แน่ใจได้เลยถ้ามันเป็นแบบนั้นฉันจะบอกเธอ"
เหนื่อยและยากหรอ? ดูเหมือนว่าโรเล็ตต้าจะไม่รู้จักฉันดี ในขณะที่ฉันได้มุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์หลังจากลาเธอ ที่คฤหาสน์นี้ไม่มีใครอยู่เลย ดูเหมือนว่าทุกคนจะยุ่งอยู่กับการเคลียร์ดันเจี้ยน นั่นมันเป็นสิ่งที่ดี ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ไม่ต้องการที่จะรบกวน
ฉันได้มุ่งหน้าไปที่ห้องฝึกที่อยู่ใต้ดิน ยืนอยู่ตรงกลางห้องมืดและหลับตาลงไป
"การพิสูจน์แห่งไดฟิค"
[คุณได้ใช้พลังชีวิตและมานาครึ่งหนึ่งของคุณ คุณได้เรียกจิตวิญญาณวีรชนในดำนาน 'เพรูต้า เรลโล่ วาติโฟล์' เป็นเวลา 37 นาที 21 วินาที]
นี่คือการเรียกผู้ที่จะมาแนะนำช่วยให้ฉันก้าวไปข้างหน้า