ตอนที่แล้วบทที่ 140 - นักสำรวจคนที่สาม (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 142 - นักสำรวจคนที่สาม (6)

บทที่ 141 - นักสำรวจคนที่สาม (5)


บทที่ 141 - นักสำรวจคนที่สาม (5)

ฉันได้มุ่งหน้าไปที่บ้านกิลด์ในทันทีหลังจากนั้นพร้อมกับรูเดีย ในห้องโถงฉันได้เจอกับชูนะที่ไม่ได้เจอกันมานา

"อา เจ้าชายรัชทายาท รูเดีย! สะ สวัสดี"

"สวัสดีคุณชูนะ"

"คุณสามารถจะเรียกฉันว่าชูนะเลยก็ได้ ฉันไม่ถือหรอก! แล้ว ฉะ ฉันก็สามารถจะเรียกคุณว่าชินได้ไหม?"

"ตั้งแต่ที่เธอต้องการให้ฉันเลิกเรียกเป็นทางการ แต่ทำไมเธอถึงต้องพูดกับฉันแบบเคารพด้วยล่ะ!?"

ชูนะนั้นยากที่จะเข้าใจ แต่ยังไงก็ตามด้วยความน่ารักของเธอมันทำให้รู้สึกดีที่คุยกัน เธอดูน่ารักมากกว่าคำว่าสวย เธอดูดีและเหมือนกับรูเดียที่มีกลิ่นอายของชนชั้นสูงและความเป็นผู้ใหญ่

"ถ้างั้นก็ชูนะ"

"ใช่แล้วชิน! กรี๊ด ฉันได้เรียกเขาด้วยชื่อ"

ฉันรู้สึกประหลาดใจกับการที่เธอดูจะมีความสุข แต่ว่าฉันก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะสัญชาตญาณของฉันมันเตือนไม่ใช่ฉันถามออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันรู้สึกว่ารูเดียอาจจะฆ่าชูนะ

"เธอคงจะต้องประหลาดใจแน่ๆเพราะว่าอยู่บ้านกิลด์ก็เคลื่อนไหว พวกเราจะยังสามารถไปที่พื้นที่พักอาศัยได้ไหม?"

"ใช่แล้ว! พวกเรายังสามารถจะไปพื้นที่พักอาศัยในดันเจี้ยนที่หนึ่งเหมือนแต่ก่อน! นอกจากนี้..."

"นอกจากนี้?"

ชูนะได้เอื้อมมือไปข้างหน้าและตะโกนออกมา

"พวกเรายังสามารถจะไปยังพื้นที่พักอาศัยของดันเจี้ยนที่สอง สาม และสี่ได้อีกด้วย"

"...อะไรนะ?"

"อ่า แน่นอนว่ามันเป็นเพียงแค่พื้นที่พักอาศัยไม่ใช่ตัวดันเจี้ยนเอง"

ฉันได้สับสนอยู่พักอยู่แต่ไม่นานก็เข้าใจได้ ฉันรู้่ว่าความเกี่ยวข้องของสถานที่แห่งนี้ได้ถูกเปลื่ยนไปเพื่อบียอน แต่ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะสามารถจะไปยังพื้นที่พักอาศัยในดันเจี้ยนอื่นๆได้ เอ๊ะเดี๋ยวก่อนนะ นั่นมันหมายความว่า....

ได้มีความคิดที่ไร้สาระและจากนั้นฉันก็ได้ตกใจเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลยเมื่อฉันคิดอย่างจริงจัง

"ไม่ใช่ว่ากิลด์นี้...ได้เหนือกว่าดันเจี้ยนที่หนึ่ง?"

"มันหมายความว่าอะไรหรอชิน?"

"...มันหมายความว่าเราอาจจะได้สมาชิกใหม่ๆสิ่งนี้ไงชูนะ"

ชูนะได้ปรบมือตอบสนองมา แต่ว่ารูเดียดูจะไม่มีความสุข

"ความฝันเกี่ยวกับบ้านแต่งงานแสนสุข...."

"ฉันได้ยินนะ และมันก็ไม่ใช่แบบนั้น"

พูดตามตรงฉันต้องการจะสำรวจพื้นที่พักอาศัยของบียอน แต่ว่าสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือการยืนยันว่าการคาดเดาของฉันถูกหรือไม่ ฉันได้ดึงรายชื่อเพื่อนออกมาและเริ่มดำเนินการในทันที

ผลลัพธ์ก็คือในเวลาที่ไม่ถึง 20 นาทีได้มีคนหลายคนมารวมตัวกันที่บ้านของฉัน

"โอ้ นี้คือคฤหาสน์ที่ลูกชายของพ่อจะมอบให้พ่องั้นหรอ?"

"ไม่นะพ่อ นี่เป็นคฤหาสน์ของผม ผมไม่ให้พ่อแน่นอนดังนั้นหยุดฝันได้เลย"

"น่าทึ่ง ฉันสามารถเข้ามาได้จริงๆ...."

"ว้าวนี่มันเป็นคฤหาสน์ของชินหรอ? เจ๋งอะไรแบบนี้!"

"คังชิน นายปีนดันเจี้ยนยังไงเพื่อที่ให้ได้คฤหาสน์แบบนี้?"

"มันเยี่ยมมากในตอนนี้พวกเราทุกคนมาที่นี่แล้ว!"

สวนมาเรียน่าได้เริ่มมีเสียงเอะอะดัง ชูนะได้สะดุ้งหลังจากได้เห็นพวกเขาเป็นครั้งแรกและไปหลบอยู่ด้านหลังในขณะที่รูเดียได้คล้องแขนฉันเอาไว้และขมวดคิ้ว

"อย่างที่พวกนายรู้นี่เป็นเพื่อนของฉันรูเดีย ผู้หญิงคนสวยผมชมพูคนนี้คือชูนะเพื่อนของรูเดีย ทั้งสองคนเป็นสมาชิกของกิลด์"

"ยินดีที่ได้พบ ฉันฮวาหยา มัสติฟอร์ด"

"สะ....สวัสดีค่ะ!"

ชูนะได้ตกหลุมเสน่ห์และความเป็นกันเองของฮวาหยา ด้วยการที่ฮวาหยาทำตัวกลางเป็นคนไกล่เกลี่ยความอึดอัดก็ได้หายไปอย่างรวดเร็วและชูนะก็ได้เริ่มที่จะพูดคุยกับคนอื่นๆ ยังไงก็ตามรูเดียดูเหมือนจะไม่มีความสุขด้วยเหตุผลบางอย่างและยังคงอยู่ข้างๆฉัน

แน่นอนว่าเหตุผลที่ฉันไม่เรียกพวกเขามาในก่อนหน้านี้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าในตอนนี้มันได้เป็นไปได้แล้ว มันเป็นการสร้างกิลด์ที่อยู่เหนือกว่าดันเจี้ยนที่หนึ่ง สอง สาม และสี่ ตั้งแต่ที่พวกเขาทุกคนต้องการที่จะเข้ากิลด์สิ่งต่างก็ได้เป็นไปอย่างราบรื่นๆ นอกเหนือจากฉันมีเพียงฮวาหยาเท่านั้นที่มีที่พักเป็นของตัวเอง เนื่องจากว่าเธอก็ได้ยืนกรานที่จะเข้ากิลด์ของฉัน ฉันก็เลยไม่มีปัญหาใดๆ

มันรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเพิ่งจะบอกว่าเธอต้องการจะสร้างองค์กรในเมื่อวานนี้ แต่ว่าในตอนนี้เธอได้ยอมรับที่จะให้ฉันเป็นกิลด์มาสเตอร์ มันเหมือนกับสุมิเระที่ได้เข้ากิลด์ของฉันอย่างมีความสุข อย่างที่มานั้นมันมีการเปลื่ยนแปลงเป็นจากมากจากในตอนแรกที่ช่องสื่อสารของโลกได้เปิดขึ้นมา

แน่นอนว่าฉันก็ได้เปลื่ยนไปเหมือนกัน แม้ว่าฉันจะคิดว่ามันจะไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างกลุ่ม แต่ว่าหลังจากได้เข้าร่วมปาตี้กับฮวาหยาสองถึงสามครั้งฉันก็ได้เปลื่ยนใจ ฉันได้สร้างกิลด์ขึ้นตามความต้องการของตัวเองและชวนคนอื่นๆเข้ามาตั้งแต่ที่ฉันได้กลายเป็นนักสำรวจบียอน แต่ว่าถึงแม้ฮวาหยาจะยืนอยู่ในตำแหน่งของฉันแทน ฉันก็จะเข้าร่วมกิลด์ของเธออย่างมีความสุข

การที่ฉันปฏิเสธข้อเสนอของเธอในตอนนั้นก็คือการที่ฉันไม่ไว้ใจเธอ แต่ว่านับตั้งแต่ตอนนั้นมันได้ผ่านมาแล้วครึ่งปีมีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ฉันได้เชื่่อถือและเชื่อใจฮวาหยา สุมิเระ และวอร์คเกอร์ที่ถูกผูกมัดด้วยสัญญา เราได้แข็งแกร่งขึ้นไปด้วยกันและในฐานะนักสำรวจเราก็สามารถจะไว้ใจกันได้ด้วยกิลด์ที่จะผูกพวกเราไว้ด้วยกัน

[กิลด์ 'รีไวเวิร์ล' กลายเป็นแร้ง D! เมื่อมีการท้าทายเหตุการดันเจี้ยนหรือเหตุการการจู่โจมที่มีสมาชิกกิลด์ 5 คนขึ้นไปจะทำให้มีพลังเพิ่มขึ้น 5%]

[สมาชิกกิลด์: คังชิน (กิลด์มาสเตอร์, ที่หนึ่ง - ทอง & บียอน) คังยังอู (ที่หนึ่ง - ทอง) ซู เยอึน (ที่หนึ่ง - ทอง) เพลรูเดีย เกล็น อีเฮอร์ (ที่หนึ่ง - เงิน) ชูนะ เอเร็น ลิฮีธา (ที่หนึ่ง - เงิน) ฮวาหยา เอเลนี่ มัสติฟอร์ด (สอง - ทอง) มินามิ ไวโอเลท สุมิเระ (สอง - ทอง) เอ็ดเวิร์ด วอร์คเกอร์ (สาม - ทอง) Total: 8]

ในตอนนี้มันได้เหมือนกิลด์มากขึ้น เมื่อได้มองไปที่รายชื่อฉันก็ได้ยิ้มขึ้น วอร์คเกอร์ก็ยังได้ทะลวงผ่านชั้นที่ 50 ไปปแล้ว ด้วยแบบนี้ไม่ใช่ว่าพวกเราสามารถจะเรียกตัวเองว่าเป็นระดับสูงได้งั้นหรอ? นอกจากนี้ฉันยังชอบการที่พลังของพวกเราจะเพิ่มขึ้นเมื่ออยู่รวมกัน 5 คน ดังนั้นโอกาสที่จะรอดชีวิตของพวกเราก็จะเพิ่มขึ้น ฉันหวังว่าโรเล็ตต้าจะได้บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้

"โอ้ เมื่อพลังชีวิตของฉันเหลือศูนย์ที่แห่งนี้คือที่ๆฉันจะกลับมาสินะ?"

"เยี่ยมอะไรแบบนี้ชินนายได้เตรียมห้องให้ฉันไว้ข้างๆห้องนายใช่ไหม...? หุหุ"

"อ่า ฉันได้เตรียมไว้อีกฝากหนึ่งเลย"

"ฮึ่ม ฉันจะไปอยู่ในห้องของชิน"

"ในฐานะที่เป็นกิลด์มาสเตอร์ฉันขออ้างสิทธิ์ในการเข้าห้องฉัน ดังนั้นหยุดฝัน"

ฉันได้เมินขอเรียกร้องของหญิงสาวทั้งสองคน เมื่อฉันได้มอบกุญแจให้กับพวกเธอซึ่งนั้นจะผูกพันกับห้องที่พวกเธอจะไปอยู่ มันเป็นคุณสมบัติของบ้านกิลด์ ตั้งแต่ที่คฤหาสน์นี้มีห้องกว่า 100 ห้อง ดังนั้นการมอบห้องส่วนตัวให้กับสมาชิกกิลด์ทุกคนจึงไม่มีปัญหาใดๆ

"โอ้ คังชิน นั่นมันอะไรนะ?"

"อะไรหรอ อ่อนั่นมันก็คือหมูป่าเหล็กยักษ์และก็เฟรมเดรกไง"

"นายใช้วัตถุดิบที่มีค่าเหล่านี้มาตกแต่ง...? นายนี่มันน่าทึ่งเหมือนเคยเลยนะ"

ในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจกับด้านในของคฤหาสน์ วอร์คเกอร์ก็ได้มองออกไปนอกสวน หมูป่าเหล็กยักษ์ในตอนนี้มีขนาด 7 ถึง 8 เมตรทำให้มันดูน่าอึดอัดใจที่จะเรียกมันว่า หมูป่าเหล็กยักษ์ ศพของเฟรมเดรกก็ยังได้หดตัวลงมาเช่นกัน มันไม่ใช่ว่ามานาได้ไหลออกมาจากศพ แต่ว่าในตอนที่ฉันตรวจสอบดูฉันก็รู้สึกได้ชัดเจนถึงมานาที่ถูกบีบอัดเอาไว้อยู่

ฉันไม่รู้ว่าพวกมันจะยังทำงานอยู่แม้ว่าจะในฐานะซากศพ ฉันรูเพียงแค่ว่าสวนมาเรียน่าไม่ใช่พื้นที่ๆปกติ เนื่องจากนี้เองทำให้ศพพวกนี้มีมูลค่ามากขึ้นดังนั้นฉันก็เลยตัดสินใจให้มันเป็นไปตามนั้น

"เอาล่ะ ก่อนอื่นมีบางอย่างที่เราจะต้องทำ"

แม้ว่าทุกคนจะดูเหมือนต้องการที่จะสำรวจคฤหาสน์ แต่ว่าฉันก็ได้เรียกรวมทุกคนก่อน

"พวกเราจำเป็นจะต้องออกไปค้นหาสิ่งที่อยู่ด้านนอก"

"มอนสเตอร์หรอ?"

"มอนสเตอร์จะไม่ปรากฏในพื้นที่พักอาศัย แต่เนื่องจากว่ารูเดียได้บอกว่าเธอรู้สึกแปลกๆ มันก็อาจจะมีอะไรอย่างอื่น

"อย่าทำให้ฉันกลัวสิ"

ฮวาหยาได้จับแขนของฉันเอาไว้ในขณะที่พูดออกมา เธอในตอนนี้ก็คล้ายๆกับในตอนที่เธอได้เจอกับแม้มุม รูเดียได้มองมาอย่างเคืองเมื่อเห็นฮวาหยา แต่ไม่นานเธอก็ใจเย็นลง เธอปรับปรุงตัวแล้วรูเดีย

ยังไงก็ตามฉันก็รู้สึกว่าร่างกายของฉันหนักขึ้น เมื่อฉันได้มองย้อนกลับไปฉันก็เห็นเยอึนกับชูนะก็ได้มาจับฉันด้วย ฉันได้ยิ้มออกมาอย่างสุภาพและพูดออกมา

"ทุกคนปล่อยฉันก่อน"

พวกเราได้ออกไปจากสวนซึ่งมันมืดมากๆ เพราะว่ามีหมอกหนาอยู่พวกเราจึงไม่สามารถจะมองออกไปไกลๆได้ ยังไงก็ตามเมื่อพวกเราได้เดินไปข้างหน้าหมอกก็จะหายไป

"เราจำเป็นจะต้องแยกกันไหม?"

"ใช่ พวกเราจะแบ่งกันออกเป็นสองทีม และติดต่อกันเป็นระยะหรือไม่ก็เวลาที่พบอะไรก็ตาม"

ฉันได้ไปทางขวาด้วยกันกับมินามิ รูเดีย และวอร์คเกอร์ ฉันได้ขยายมานาของฉันออกไปเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะเพิ่มระยะตรวจจับ ในตอนนั้นเองมินามิก็ถามฉัน

"คุณชิน คุณเพิ่งจะขยายออร่าออกไปใช่ไหม?"

"ใช่แล้ว ฉันได้กระจายมานาของฉันออกไปทำให้ฉันสามารถสัมผัสถึงรอบๆได้"

"ว้าว น่าทึ่งจัง....ถ้ามันไม่เป็นไรคุณช่วยสอนฉันได้ไหม?"

"แน่นอน พวกเราเป็นคนในกิลด์เดียวกัน ดังนั้นฉันจะสอนเธอทีหลังนะ"

"ขอบคุณค่ะ! อ่า แล้วคุณก็ไม่ต้องคุยกับหนูแบบเป็นทางการหรอกค่ะ! คุณชินสามารถเรียกหนูว่าสุมิเระได้เหมือนกัน"

"อะ โอเค"

ในตอนนี้ฉันพึ่งนึกขึ้นได้ ฉันไม่เคยได้คุยกับมินามิ ไม่สิสุมิเระอย่างจริงจังเลย เมื่อพวกเราได้พบกันในเยียงดงพู(เหตุการดันเจี้ยนอันแรกบนโลกที่พวกพระเอกไปเคลียร์) เธอก็รู้สึกประทับใจในพลังของฉันและได้เรียกฉันว่า 'คุณ' ด้วยความเคารพ

ฉันเคยได้เห็นดวงตาที่เป็นประกาบแบบเธอบ่อยๆจากผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่เคารพพ่อมักจะมีสายตาแบบนี้ เมื่อได้พิจารณาถึงพลังและทัศนคติของเธอต่อศิลปะการต่อสู้เธอก็อาจจะเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ก็ได้

"หนูได้ยินมาว่าคุณชินได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาจากคุณลุงยงอู แต่ว่าคุณชินแข็งแกร่งกว่าคุณลุงแล้วใช่ไหมค่ะ?"

"ไม่หรอก ฉันยังคงตามหลังพ่อในแง่ของความลึกซึ้งของศิลปะการต่อสู้ แต่ว่าโดยรวมแล้ว...ฉันน่าจะแข็งแกร่งกว่า"

"หนูรู้ค่ะ...!"

น่าหนักใจนะ ดวงตาของสุมิเระที่ส่องประกายและรูเดียที่กอดแขนของฉันแบบต้องการที่จะทำลายความน่าหนักใจนี้

เดี๋ยวก่อนนะ เดี๋ยว

"วอร์คเกอร์ นายรู้สึกไหม?"

"ฉันก็รู้สึก มันเหมือนว่าจะเป็นบาเรียอะไรบางอย่าง"

ฉันได้ขยายสัมผัสของฉันออกไป แต่ว่าสัมผัสของฉันก็ได้ถูกตัดออกไปเหมือนกับชนเข้ากับอะไรบางอย่าง ฉันได้กระจายมานาของฉันออกไปทุกทิศทางและตรวจสอบว่าความรู้สึกของฉันถูกตัดขาดตอนไหนและไปไกลได้แค่ไหน หมอกในพื้นที่ๆสัมผัสของฉันไปถึงก็ยังหายไป พื้นได้เผยให้เห็นชั้นหินในขณะที่กำแพงยักษ์ตั้งตระหง่านไกลออกไป นอกเหลือจากมันฉันก็ยังเห็นปราสาทยุคกลางที่คล้ายๆกับคฤหาสน์ของฉันเอง หลังจากไปถึงต้องนั้นสัมผัสของฉันก็ได้ถูกตัดออกไปอย่างสมบูรณ์

"น่างทึ่ง...! คุณนี่น่าทึ่งจริงๆเลย คุณชิน"

"หุหุ"

สุมิเระได้ชื่นชมฉันและรู้เดียก็ได้มีความสุขขึ้นมาโดยที่ฉันไม่รู้ว่าทำไม

"พวกเธอคิดว่านั่นมันคืออะไร? ดันเจี้ยนใหม่หรอ?"

"มันมีเหตุการดันเจี้ยนในพื้นที่พักอาศัยเช่นกัน"

"ฉันไม่รู้ ฉันรู้สึกเหมือนว่านั่น..."

สุมิเระและรูเดียคิดว่าปราสาทแห่งนี้เป็นเหตุการดันเจี้ยน ยังไงก็ตามหลังจากที่ได้สังเกตุกำแพงปราสาทอย่างใกล้ชิด วอร์คเกอร์ก็ได้พูดขึ้น

"โอ้คังชิน นั่นมันไม่ใช่ว่าเป็นคฤหาสน์แบบนายหรอ?"

ราวกับจะพิสูจน์ว่าความคิดของเขาถูกต้องได้มีเสียงดังขึ้นในหูของฉัน มันเป็นเสียงของชายหนุ่มที่สง่างาม ฉันตระหนักได้หลังจากที่ได้ยินเสียงนี้ว่ามันมาจากช่องทางการสื่อสารของบียอน

[กลับไป นักสำรวจที่สาม ฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะติดต่ออะไรกับนาย]

[นายคือ... ขอโทษนะ ฉันเพิ่งจะมาที่นี่ ดังนั้นฉันก็เลยออกมาสำรวจพื้นที่พักอาศัยกับเพื่อนของฉัน]

บางทีเขาอาจจะสนใจในสิ่งที่ฉันพูด เขาได้เงียบลงไปพักหนึ่ง เพียงเมื่อฉันได้คิดว่าเขาจะไม่ต้องการพูดอะไรยาวอีกแล้วเสียงของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง

[....กิลด์มาสเตอร์ ฉันเข้าใจแล้ว เมื่อครั้งหนึ่งฉันก็เคยมีความสนใจในเกมเด็กเล่นแบบนี้เหมือนกัน ยังไงก็ตามกลับไปซะ สิ่งที่นายต้องการไม่ได้อยู่ที่นี่ ไปทางทิศตะวันตกซะนายจะได้พบกับสมบัติบางอย่างที่นั่น]

[ขอบคุณที่บอกฉันนะ ถ้างั้นพวกเราจะไปแล้ว]

[เดี๋ยวก่อน นายจะต้องได้รับการยอมรับจากกิลด์มาสเตอร์ผู้บริหารระดับสูง....เขาคือใคร?]

[เป็นเจ้าของๆสวนแฟรี่ โรเล็ตต้า]

[...อย่างนั้นหรอ...]

ความเงียบได้ดำเนินต่อไป ฉันได้รู้สึกถึงบางอย่างจากความเงียบของเขา เป็นไปได้ไหมที่เขาจะเป็น...?

[เธอเป็น...ไม่สิ]

ด้วยแบบนั้นฉันจึงได้มั่นใจ

[ไม่ มันไม่มีอะไร นักสำรวจที่สองยังคงฟังอยู่ มันไม่เป็นไรกลับไปเถอะ]

ฉันได้หันกลับไปโดยที่ยังรู้สึกแปลกๆ เขาเป็นคนที่เข้ามาในบียอนก่อนหน้าฉัน แม้ว่าเสียงของเขาจะยังดเด็ก แต่ว่าเขาก็คงจะมีชีวิตอยู่มายาวนานซะยิ่งกว่าฉัน บางทีเขาอาจจะเกี่ยวข้องกับโรเล็ตต้า...

"ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงรู้สึกแปลกๆ..."

"มีอะไรหรอ? นายฉันมานาของนายมากเกินไปหรอ? นายโอเคนะ?"

"คุณชิน?"

"มะ ไม่ ฉันสบายดี ไปกันเถอะที่นั่นเป็นบ้านพักของนักสำรวจคนอื่น เขาได้บอกว่ามีบางอย่างอยู่ในทิศตะวันตก ดังนั้นพวกเราจะไปที่นั่น"

"โอเค!"

สุมิเระ รูเดีย และวอร์คเกอร์ได้เดินตามฉันมา ฉันก็ยังคงรู้สึกแปลกๆ โรเล็ตต้าจะต้องรู้ใช่ไหม? ถ้างั้นทำไมเธอถึงไม่บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้? ไม่สิ มันอาจจะเป็นฉันที่รู้สึกไปเอง มันไม่มีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความรักครั้งแรกของโรเล็ตต้าจะอยู่ที่นี่หรือไม่ก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับฉัน

หลังจาก 5 นาทีได้ผ่านไป พวกเราก็ได้รับรายงานจากทีมที่ไปอีกทางว่าพบบางอย่าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด