ตอนที่แล้ว14 ทะเลสาบเร้นลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป16 ปลิงทะเลหนึ่งตัว

15 ไร้ความเกรงกลัว


15 ไร้ความเกรงกลัว

ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่าง กลุ่มวัยรุ่นที่ที่ดูไม่ธรรมดาและโดดเด่น ได้เดินมุ่งหน้าเข้ามาห่างจากหลี่เย้าเพียงแค่ 20 เมตร โดยมีสระบัวกั้นกลางระหว่างพวกเขาเอาไว้ พวกเขาก็คือเทพและเทพธิดาแห่งโรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สอง เฮ่อเหลียนเลี่ยและซือเจียเสวี่ย

เฮ่อเหลียนเลี่ยแสดงสีหน้าอบอุ่นจริงใจ และพูดออกมาในตอนที่ลุกจากที่นั่งว่า “เสี่ยวเสวี่ย ฉันขอโทษนะ ที่เมื่อวานฉันหุนหันพลันแล่นเกินไป ฉันไม่ควรจะไปหาไอ้ขยะจากคลาสสามัญนั้นเลย ฉันไม่คิดว่า ข่าวลือมันจะไปเร็วขนาดนี้ เลยทำให้เธอต้องถูกพ่อของเธอตั้งคำถาม มันเป็นความผิดของฉันเอง ยกโทษให้ฉันด้วยนะ”

สีหน้าท่าทางของซือเจียเสวี่ย ยังคงเย็นชาและไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย เธอเป็นเหมือนกับภูเขาน้ำแข็งที่ไม่เคยละลายมานานกว่า 10,000 ปี เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ฉันยกโทษให้นาย แต่จำเอาไว้ด้วยว่า ฉันมีอิสระที่จะพูดคุยกับใครก็ได้ที่ฉันอยากจะคุย เจ้าบ้านั่นก็เป็นแค่พวกหิวกระหายที่ไม่มีวันอิ่ม แล้วมันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของนาย ที่จะต้องไปหาเรื่องเขา!”

“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันเข้าใจแล้ว มาเถอะ เข้าไปข้างในกัน แล้วไปดื่มกับคุณชายเจิ้งสักแก้ว วันนี้เป็นวันเกิดของเขา อย่ามัวแต่โมโหเพราะขยะแค่คนเดียวเลยนะ” เฮ่อเหลียนเลี่ยพูดอย่างใจเย็น และพยายามอดทนกับอารมณ์ของเธอ

“ฉันรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ขอตัวกลับก่อนนะ ฝากทักทายคุณชายเจิ้งให้ฉันด้วยแล้วกัน” ซือเจียเสวี่ยได้รับคริสตัลโพรเซสเซอร์มาแล้ว เธอได้หันตัวเดินจากไป โดยไม่เห็นแก่หน้าเฮ่อเหลียนเลี่ยแม้แต่น้อย

แววตาของเฮ่อเหลียนเลี่ยเต็มไปด้วยความขุ่นมัว เขาจับจ้องไปที่ร่างของสาวงามจนกระทั่งเธอหายลับไป จากนั้น เขาก็เดินกลับเข้าไปตามทางเดิน มีเสียงแกร็กดังขึ้น ซึ่งเกิดจากการที่พื้นหินปูนที่ใต้เท้าของเขาเกิดรอยร้าว

“จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ พลังขาของนายแข็งแกร่งมากเลยนะ คุณชายเฮ่อเหลียน” น้ำเสียงเหน็บแนมและกล่าวเกินจริงดังมาจากด้านหลัง เขาเป็นชายวัยรุ่นขี้เมา ในชุดสีม่วงและดวงตาที่คล้ายกับตาแมว

“คุณชายเจิ้ง” เฮ่อเหลียนเลี่ยเก็บสายตาของเขากลับ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง

“ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว การที่ตระกูลของซือเจียเสวี่ยมีอำนาจในเมืองฝูเกออยู่บ้าง มันถึงกับทำให้นายต้องลดตัวและว่าง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” คุณชายเจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ มือขวาของเขาวางอยู่บนไหลของเฮ่อเหลียนเลี่ย อย่างเหิมเกริม

คนในโรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สอง ที่พูดว่าเฮ่อเหลียนเลี่ยลดตัวและว่าง่าย ต่างก็ถูกเฮ่อเหลียนเลี่ยซัด จนแม้แต่พ่อแม่ของพวกเขาก็จำหน้าไม่ได้

แต่กับคุณชายผู้ร่ำรวย เจิ้งตงหมิง คนนี้ เขาคือหลานชายคนโต ทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเจิ้งที่ยิ่งใหญ่ในเมืองฝูเกอ ตระกูลของเขามีเบื้องหลังและได้รับการสนับสนุนจากผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวจำนวนมาก เขาเป็นหนึ่งในนักเรียนชั้นยอด ของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งที่สองของนิกายเฟิ่งชานเหมิน การตื่นของรากวิญญาณของเขาอยู่ที่ 74% เขาคือคู่แข่งคนสำคัญในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใน “ผู้เข้าสอบที่ได้คะแนนสูงสุดของเมืองฝูเกอ” และความแข็งแกร่งของเขาก็สูงกว่าเฮ่อเหลียนเลี่ยเล็กน้อย

และเพราะแบบนั้น เฮ่อเหลียนเลี่ยจึงทำได้เพียง ต้องควบคุมความดุร้ายและความโกรธของเขาเอาไว้ เขาพูดออกมาด้วยความยากเย็น “นายไม่เข้าใจความรู้สึกที่ฉันมีต่อซือเจียเสวี่ยหรอก”

เจิ้งตงหมิงยักไหล่ และพูดเสียงสูง “แน่นอนอยู่แล้วววว คนธรรมดาอย่างเราจะไปเข้าใจความรู้สึกละเอียดอ่อนของนายได้ยังไงล่ะ เฮ่อเหลียน? ในเมื่อฉันไม่เข้าใจมัน เราก็ไปดื่มไวน์กันดีกว่านะ วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน นายจะเอาแต่ทำหน้าบึ้งแบบนี้เหรอ?”

เฮ่อเหลียนเลี่ยถอนหายใจ และปรับสีหน้าให้ดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ทั้งสองกำลังจะเดินเข้าไปในห้อง ก็ได้บังเอิญเจอเข้ากับกลุ่มคุณชายหลายคนที่เดินออกมาจากห้อง ด้วยสีหน้าที่ดูแปลกประหลาด พวกเขาแต่ละคน ต่างหัวเราะจนตัวโยนและหายใจหอบ

“มีเรื่องตลกอะไรขึ้นเหรอ? บอกพวกเราด้วยสิ เราจะได้สนุกไปด้วยกัน” เจิ้งตงหมิงถามด้วยรอยยิ้ม

“คุณชายเจิ้ง มีเจ้าบ้านนอกอยู่ตรงนั้นคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไปโผล่มาจากที่ไหน ทำตัวอย่างกับภูตผีที่หิวโหยที่ไม่ได้กินอะไรมาสามปี แล้วท่าทางการกินของเขาก็ดูไม่ได้เลยล่ะ” คุณชายคนหนึ่งกุมท้องของเขา เขาแทบจะเป็นตะคริว เพราะการหัวเราะมากเกินไป

ในสถานที่อย่างร้านอาหารเขตแดนทะเลสาบเร้นลับนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ต่างก็เป็นคนในสังคมชั้นสูง พวกเขาต่างก็ให้ความสำคัญกับรสนิยมและบรรยากาศ และใช้ร้านอาหารเป็นสถานที่สำหรับการเข้าสังคม และการกินอาหารก็ไม่ใช่เรื่องหลัก พวกเขาพยายามที่จะไม่ทำอะไรที่ดูเกินงาม เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่สง่างามของพวกเขาเอาไว้

และหากพวกเขาต้องการกินอาหารปริมาณมากอย่างมูมมาม พวกเขาก็จะเลือกไปที่อื่นที่ดีกว่านี้แทน

เจิ้งตงหมิงพูดอย่างเกียจคร้านว่า “ในตอนนี้ คุณภาพของร้านเขตแดนทะเลสาบเร้นลับจะต่ำไปหน่อย มันคงจะไม่เหมาะให้คนพิเศษอย่างพวกเรามากินที่นี่แล้วสินะ? ดูเหมือนว่า ครั้งหน้าเราคงจะต้องหาร้านใหม่ที่เงียบๆกินแทน แต่ถึงยังไง มันก็แค่การกินอาหารอย่างไร้มารยาทเท่านั้น มันจะน่าตลก ถึงขนาดที่พวกนายต้องหัวเราะกันขนาดนี้เลยเหรอ?”

“ไม่ใช่นะ คุณชายเจิ้ง ผู้ชายคนนั้นเขาทำตัวพิลึกจริงๆนะ!”

คุณชายอีกคนหนึ่งหุบยิ้ม แล้วใช้มือออกท่าออกทาง “มันยาวขนาดนี้เลยล่ะ ขาแกะย่างมันยาวขนาดนี้เลยนะ! แต่เขากัดไปแค่สามคำ จนกระดูกถูกบดละเอียดกลายเป็นผง! แล้วเขาก็กลืนมันลงไป จนไม่เหลือแม้แต่เศษเนื้อ!”

คุณชายที่พูดคนแรกสนับสนุนคำพูดของเขา “ยังมีมากกว่านี้อีกนะ ปูยักษ์จานใหญ่ก็ยังถูกกินหมดภายในสามคำ เขาจ้วงเอา! จ้วงเอา! เจ้าบ้านนอกนั่นกวาดจนสะอาดเอี่ยมเลยล่ะ! นายไม่เห็นจานตอนที่เขากินหมดแล้ว จุ๊จุ๊จุ๊จุ๊ พวกมันสะอาดซะยิ่งกว่าล้างด้วยน้ำยาล้างจานด้วยซ้ำ!”

คุณชายอีกคนพูดต่อ “ใช่ ฉันก็เห็นเหมือนกัน แค่พริบตาเดียว เขากลืนหอยเม่น 20 ตัวลงไปภายในเวลาไม่ถึงนาทีเลยนะ!”

“สรุปแล้ว มันพิลึกมากเลยล่ะ! คุณชายเจิ้ง นายอยากจะไปดูสักหน่อยไหมล่ะ?” คุณชายสองคนพูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

“ช่างมันเถอะ ฉันสนใจดูสาวๆระบำเปลื้องผ้ามากกว่า ไม่ใช่มาดูคนกินอาหาร เฮ่อเหลียน นายสนใจอยากจะไปดูหน่อยไหม?” เจิ้งตงหมิงหาวออกมา

“ไม่สนใจ” เฮ่อเหลียนเลี่ยพูดอย่างไม่ใส่ใจ

คุณชายคนแรกพูดขึ้นมาว่า “จริงด้วย! คุณชายเฮ่อเหลียน ฉันคิดว่าเจ้าบ้านนอกนั่นเหมือนจะใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนมัธยมซื่อเซียวด้วยนะ”

“หืม?” เฮ่อเหลียนเลี่ยถลึงตาและสีหน้าของเขาก็เริ่มน่าเกลียด

เจิ้งตงหมิงเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว เขาพูดอย่างเหน็บแนมว่า “เฮ่อเหลียน ถึงแม้ว่าโรงเรียนของนายจะเทียบกับโรงเรียนของฉันไม่ได้ แต่โรงเรียนของนายก็ถือว่าเป็นหนึ่งในโรงเรียนระดับท๊อปของเมืองฝูเกอ มันน่าประหลาดใจจริงๆ ที่โรงเรียนของนายมีคนประเภทนี้อยู่ด้วย? เราคงต้องไปดูกันสักหน่อยแล้วล่ะ!”

“โรงเรียนมัธยมซื่อเซียวถือว่าเป็นโรงเรียนระดับสูง ทำไมถึงได้มีจอมตะกละแบบนี้อยู่ได้!” เฮ่อเหลียนเลี่ยพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว เขาจ้องมองคุณชายอีกสองคนนั้น แล้วก้าวยาวๆไปยังทางเดินที่พวกเขาเพิ่งจะออกมา

เจิ้งตงหมิงขยิบตาให้กับคุณชายทั้งสอง และพูดด้วยเสียงอันเบาว่า “ถ้ามันกลายเป็นว่า พวกนายเข้าใจผิด เฮ่อเหลียนเลี่ยจะต้องอาละวาดแน่ พวกนายภาวนาให้ตัวเองโชคดีไว้ละกันนะ!”

หลังจากที่พูดจบ เขาก็เดินตามเฮ่อเหลียนเลี่ยเข้าไป พร้อมกับหัวเราะเบาๆ

พวกเขายังเดินไปไม่ถึงห้องอาหาร ก็ได้ยินเสียงกัดกินและเสียงเคี้ยวดังออกมาแล้ว เสียงขบเคี้ยวที่ดังออกมานั้นราวกับเสียงของดาบที่กำลงฟาดฟันกันอยู่

“นี่...นี่ป่าเถื่อนมากจริงๆ” เจิ้งตงหมิงพึมพำออกมา ในขณะที่มองดูหลี่เย้านั่งกินอาหารที่โต๊ะด้วยเสียงอันดัง เขาตกตะลึงกับภาพที่เห็นไปชั่วขณะ

เขาเหลือบมองคนที่อยู่ด้านข้างของเขา เจิ้งตงหมิงรู้สึกได้ว่า ตัวของเฮ่อเหลียนเลี่ยกำลังจะระเบิดออกมา เขาฝืนยิ้มออกมา และกระทุ้งเอวของคนที่ยืนอยู่ข้างเขา

“คุณชายเฮ่อเหลียน ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่า...นักรบคนนี้เป็นนักเรียนขั้นยอดของโรงเรียนนายรึเปล่า?”

คุณชายทั้งสองที่เดินตามพวกเขามา และหลบอยู่ด้านหลังของเจิ้งตงหมิง อดไม่ได้ที่จะปล่อยเสียงหัวเราะออกมา “ฮี่ ฮี่”

เฮ่อเหลียนเลี่ยดูเหมือนจะกลายเป็นรูปปั้นไปแล้ว สีหน้าของเขามืดครึ้มและเย็นเยียบ เขาเงียบไปสามวิ

สายตาของเขาหรี่ลงราวกับดาบที่คมกริบสองด้าม จู่ๆ เพียงแค่ก้าวขาออกไป เขาก็ไปโผล่อยู่ตรงหน้าของหลี่เย้าแล้ว เขาถามขึ้นมาด้วยเสียงข่มขู่ “แกมาทำอะไรที่นี่?”

เมืองฝูเกอนั้นเป็นเมืองที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ และมีจำนวนประชากรหลายล้านคน เฮ่อเหลียนเลี่ยไม่เชื่อว่าเรื่องบังเอิญแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ไอ้ขยะคลาสสามัญ จะต้องมาที่ร้านอาหารแห่งนี้เพื่อสร้างความอับอายให้กับเขาอย่างแน่นอน

เขาจะต้องแอบตามซือเจียเสวี่ยมา และทำให้เขามาอยู่ที่นี่ได้!

หลี่เย้ากินอาหารเข้าไปอย่างสุขสำราญ แต่อยู่ๆก็มีเสียงคำรามของใครบางคนดังขึ้นที่ข้างหูของเขา เขาจึงหันหน้าไปมองตามเสียงที่ดังขึ้น เขาจ้องเขม็งและขมวดคิ้ว เขาเคี้ยวอาหารไปด้วยและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “ฉันก็มาอาบน้ำที่นี่ไง อย่าบอกนะว่านายไม่เห็นน่ะ?”

ในตอนที่หลี่เย้าอยู่ภายในความฝันอันยิ่งใหญ่นั้น เขาได้พบเจอกับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งจำนวนมาก ตัวละครตัวเล็กๆแบบเฮ่อเหลียนเลี่ย ก็ไม่ต่างอะไรกับกุ้งตัวหนึ่ง หลี่เย้าส่งสายตาเหยียมหยามให้เขาไปโดยอัตโนมัติ

เฮ่อเหลียนเลี่ยแห่งโรงเรียนมัธยมซื่อเซียว เป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น แม้แต่นักเรียนคลาสพิเศษต่างก็ไม่มีใครกล้าที่จะไม่เชื่อฟังเขา มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า ขยะจากคลาสสามัญที่นอกจากจะไม่สนใจคำเตือนของเขาแล้ว ยังส่งสายตาเหยียดหยามมาให้เขาอีก เฮ่อเหลียนเลี่ยแสดงความเดือดดาลออกมา “แกมันไอ้ขยะ! แกมันรนหาที่ตาย!” เฮ่อเหลียนเลี่ยพุ่งเข้าไป พร้อมกับมือที่ราวกับหอก เขากางนิ้วออกและฟาดมันลงไปที่ใบหน้าของหลี่เย้า!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด