ตอนที่ 2 เด็กหญิงผมสีทอง
ตอนที่ 2 เด็กหญิงผมสีทอง
"บ้าไปแล้วรึไง? บุกเข้าไปทื่อๆแบบนั้น นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ ถอยกลับมาแล้วรอพวกเรากลับมาก่อ..."
หวังเชียงยังคงโวยวายอยู่แต่ในตอนที่เขามองจออยู่ เขาก็กลืนคำพูดที่เหลือลงคอไปหมด ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น คนอื่นๆก็จ้องจออย่างไม่เชื่อสายตาของตน
ในมือของเสี่ยวเฟิงราวกับว่าออลเรเลียมีชีวิตและจิตวิญญาณจริงๆทั้งๆที่เป็นภาพในจอ พุ่งเข้าหาพวกทีม USTC และแสดงให้เห็นว่าฝีมือนั้นต่างชั้นกันขนาดไหน
ฟาดฟันและหลบหลีกร่ายรำไปรอบๆศัตรู ซึ่งนั่นแหละสิ่งสำคัญออลเรเลียหลบหลีกและกระหน่ำโจมตี ศัตรูค่อยๆร่วงลงไปคนแล้วคนเหล่า
“นี่มันออกจะดุดันไปหน่อยนะ!”
"ดับเบิลคิล! เดี๋ยวๆ ทริปเปิ้ลคิล!"
"พระเจ้าช่วย! ล้มไปได้ 4 คนแล้ว!"
"บ้าไปแล้ว! เขาจัดการไปได้ทั้งหมด! เป็นไปไม่ได้!"
ตอนที่ทิงทิงและอีก 4 คนยังนิ่งอยู่ด้วยความประหลาดใจออลเรเลียจัดการศัตรูทุกคนได้อย่างงดงาม จากนั้นก็วาร์ปไปทำลายฐานของทีม USTC แล้วก็ชนะไปได้อย่างง่ายดาย
ซูทิงทิงมองตัวอักษร “ชนะ” บนหน้าจอด้วยอย่างเหลือเชื่อ ตาของเธอเบิกกว้าง ปากของเธอนั้นขยับเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่มีเสียงใดเอ่ยออกมา
หวังเชียงและคนอื่นที่เหลือยังคงตะลึงอยู่อย่างงั้น เป็นเวลานานมาก ที่พวกเขาพูดอะไรไม่ออก ตอนที่พวกเขารู้ตัวอีกที เฉินฟงก็ลุกออกไปก่อนแล้ว
"โอ้ พระเจ้า! เขาโครตเจ๋งเลย!”
"เพนต้า คิล! พวกเราพลิกล็อคชนะได้แล้ว!"
"ทิงทิง ไปรู้จักกับเขาได้ยังไงเนี่ย? เขาเก่งมากเลย" สาวหน้ากระถามซูทิงทิง
เธอมองไปรอบๆร้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวเฟิงไปอยู่ที่ไหนซะแล้ว
"ฉันก็ไม่รู้... ฉันแค่เคยเล่นกับเขาและเขาก็ชนะฉันได้. ฉันรู้ว่าเขามีความสามารถ แต่ก็ไม่อยากเชื่อว่าจะขนาดนี้!”
ซูทิงทิงยังคงมองหาเสี่ยวเฟิงต่อไป
"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย! แต่ฉันว่าวิธีเล่นของเขามันคุ้นๆนะ?" ไป่เสี่ยวปังพูดเบาๆ ด้วยความสงสัยพร้อมกับดันแว่นขึ้น
"อะไรของนายน่ะ? ก็ปกติของคนที่เล่นออลเรเลียเก่งๆที่จะได้เพนต้าคิลน่ะแหละ ในกลุ่มคนที่เป็นสตรีมเมอร์ก็มีตั้งหลายคน เขาก็แค่ศึกษาเทคนิคพวกนั้นแหละ" หวังเชียงสบถออกมา
"ฉันแค่คิดว่ามันแปลกๆนิดหน่อย มันทำให้ฉันนึกถึงการแข่งขันชิงแชมป์โลกเมื่อ 5 ปีก่อน นายว่าฉันคิดไปเองรึเปล่า?” ไป่เสี่ยวปังกระซิบเบาๆ
หวังเชียงเลิกที่จะสนใจเขา
"ทิงทิง USTC ส่งข้อความมาว่ายอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดีแล้ว หวังว่าพวกเขาจะรักษาสัญญานะ"
"เข้าใจละ ไปกันเถอะ"
ซูทิงทิงหาจนทั่วแล้วแต่ก็ยังไม่พบเฉินฟง จนสุดท้ายเธอก็ล้มเลิกแล้วจากไปพร้อมเพื่อนเธอ
"หายากนะเนี่ยที่จะมาสูบบุหรี่แบบนี้ เสี่ยวเฟิง"
ที่ประตูหลังของร้านอินเตอร์เน็ตโกลเมดัลที่อยู่ติดกับย่านร้านค้าที่มีคนพลุกพล่าน เสี่ยวเฟิงที่ยืนพิงกำแพงกำลังดับก้นบุหรี่ที่ตัวเองสูบ เขายิ้มพร้อมหันไปทางต้นเสียง มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินมาหาเขา
“ไม่เจอกันแค่แป๊ปเดียว ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะครับ เจ้ฮง”
"ไม่ต้องชมหรอก อยากได้บุหรี่อีกไหม?"
เธอหยิบซองบุหรี่ขนาดยาวของเธออกมา เปิดแล้วยื่นให้กับเขา
เธอเป็นผู้หญิงที่สง่างาม ถึงใครจะไม่นิยมชมชอบผู้หญิงที่มีอายุยี่สิบกว่าๆแล้ว ก็ยังคงโดนความงามของเธอดึงดูดอย่างไม่มีข้อยกเว้น
"ไม่ล่ะ ถ้าสูบมากไปคงโดนดุเอาแน่ๆ คุณมาเพื่อเช็คบัญชีใช่ไหม? ผมจะไปเตรียมเอกสารให้"
คุณฮงเป็นเจ้าของร้านอืนเตอร์เน็ตโกลเมดัล
"เปล่าหรอก มาปิดร้านน่ะ วันนี้มันจะถูกเซ้งไปให้คนอื่นแล้ว”
คุณฮงปฏิเสธแล้วก็เปิดประตูแบบสไลด์เข้าไปในร้าน ปากของเธอยังคงคาบบุหรี่อยู่
"ปิดงั้นเหรอ?"
เขามองไปภายในร้าน ซึ่งซูทิงทิงกับคนอื่นๆไปกันหมดแล้ว แล้วก็หันมามองหน้าของคุณฮงด้วยความประหลาดใจก่อนจะพูด "ถึงธุรกิจนี้มันจะดูไม่ค่อยรุ่งเท่าไหร่ แต่ว่าก็ไม่เห็นว่าจะต้อง..."
"นี่ได้ตามข่าวบ้างรึเปล่า? ไม่รู้กระทั่งเรื่องที่ประกาศไปทั่วเนี่ยนะ ไม่ใช่แค่ร้านอินเตอร์เน็ตนะ แม้แต่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเกมก็ทยอยปิดตัวลงไปเรื่อยๆแล้ว ."
คุณฮงมองไปที่เสี่ยวเฟิงพร้อมถือใบลาออกไว้
"นี่ รู้จักเกมที่ชื่อมิทไหม?"
เมื่อคุณฮงเห็นว่าเสี่ยวเฟิงยังสับสนอยู่เธอก็รู้สึกจนปัญญา
"ก็เคยได้ยินมาบ้าง ดูท่าว่าจะเป็นเกมนิ ใช่ไหม? เคยยเห็นโฆษณาบนถนนมานิดหน่อย"
"มิทไม่ใช่เกมธรรมดาๆนะ มันเป็นเหมือนโลกใบที่ 2 ที่กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่หลายกลุ่มร่วมมือกันพัฒนา เป็นเกมแบบเสมือนจริง! หมวกที่ใช้เล่นเกมวางขายมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว จะเปิดอย่างเป็นทางการขึ้นนี้แล้วด้วยซ้ำ! หรือว่านายก็ไม่รู้?"
คุณฮงมองหน้าเสี่ยวเฟิงราวกับกำลังมองบ้านนอกเข้ากรุง
"เกมเสมือนจริง? แต่เขาว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้สำหรับโลกอีกใบที่ใช้เวลาพัฒนาแค่ 2 ปี จริงไหม?"
เสี่ยวเฟิงนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาถามกลับพร้อมกับยิ้ม
"แต่ตอนนี้มันเรียบร้อยแล้ว แล้วผลของมันก็คือเกมเสมือนจริง Myth! ในฐานะโลกที่จะคอยแบ่งเบาปัญหาด้านทรัพยากร และประชากร จะถูกเปิดใช้งานในประเทศต่างๆที่ให้ความร่วมมือ และเพื่อที่จะพัฒนามันประเทศต่างๆต้องลงแรงอย่างมหาศาล ด้วยทัศนียภาพของเกมที่ดีมาก และระบบของเกมที่ดึงดูดผู้เล่น นอกจากนี้ บางประเทศถึงขั้นออกนโยบายเพื่อส่งเสริมหรือบังคับเพื่อให้คนเล่นเกมนี้ด้วยซ้ำ. อย่างเช่นนะ พวกเขาสั่งปิดธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเกมอื่นๆทั้งหมด คนที่เล่นเกมอื่นทุกคนจะได้มาเล่นเกมนี้!" คุณฮงอธิบาย
เสี่ยวเฟิงเข้าใจคำพูดของคุณฮง เขารู้ทันทีเลยว่าเกมนี้มันมีอะไรแปลกๆ
"และเพราะแบบนั้นมิทจึงได้กระจายไปทั่วโลกและส่งผลต่อเราทุกคน ชีวิตต่อจากนี้ของเราเปลี่ยนไปเพราะมัน!"
คุณฮงถอนหายใจ แล้วยัดซองจดหมายกับกระเป๋าใส่มือของเฉินฟง "นี่คือเงินเดือนของเธอ หลังจากปิดร้านนี้แล้วฉันว่าจะไม่ไปเปิดร้านอื่นต่อ ฉันดูแลเธอต่อไปไม่ได้แล้วล่ะนะ"
"เจ้ฮงนี่มากเกินไปรึเปล่าครับ" เสี่ยวเฟิงรับซองไปแล้วขมวดติ้วเล็กน้อย นี่ยังไม่ใกล้สิ้นเดือนเลย แถมซองยังดูอวบมากด้วย เขามันใจว่าคงมีมากกว่า 10000 หยวนแน่ๆ มันมากกว่าเงินเดือน 3 เดือนรวมกันซะอีก!
"ถ้ายังนับฉันเป็นพี่อยู่ล่ะก็รับมันไว้เถอะ ฉันรู้ว่าเธอต้องเลี้ยงน้องสาวของเธอด้วย มันคงจะไม่ง่ายนักหรอก อีกอย่างด้วยสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ เธอคงหางานยากขึ้นด้วยแน่ๆ"
มุมปากของเขาขยับเล็กน้อย เลี้ยงน้องสาวด้วยตัวเอง? ใช่นั่นไม่ใช่ภาระที่ง่ายๆเลย
"ต่อจากนี้ฉันคงดูแลเธอต่อไม่ได้ แต่จากการที่ฉันอยู่ในอุตสาหกรรมเกมมานาน ในมุมมองของฉัน เป็นไปได้สูงมากที่มิทจะกลายเป็นโลกอีกใบสำหรับมนุษยชาติจริงๆ และด้วยความสามารถของเธอ เธอคงจะทำอะไรได้บ้างอย่างแน่นอน"
คุณฮงยังคงพูดต่อไปโดยไม่ได้สนใจสีหน้าแปลกๆของเขาแล้วเธอก็ส่งกระเป๋าอีกใบให้กับเสี่ยวเฟิง
"นี่คือหมวกสำหรับเล่นเกม มันจะเปิดอย่างเป็นทางการในเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ ฉันให้เป็นของขวัญแล้วกัน"
...
ในอพาร์ตเม้นของเมืองเก่า ระหว่างที่เสี่ยวเฟิงเดินกลับบ้านเขาเช็คข้อมูลเกี่ยวกับมิทไปพลางๆ ซึ่งจริงๆแล้วเขาจะไม่ต้องทำก็ได้ก็ตาม ตามตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยโปสเตอร์เกี่ยวกับเกม จอโฆษณาข้างทางกำลังฉายภาพของเกมมิทอยู่ หลังจากหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต เสี่ยวเฟิงยิ่งมั่นใจกว่าเดิมว่าเกมนี้มีอิทธิพลกับโลกจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเงินภายในเกมยังสามารถแลกเป็นเงินสดในโลกแห่งความจริงได้ด้วย ยิ่งดึงดูดเหล่าผู้เล่นให้มาแสวงโชคหรือใช้ชีวิตกันมากขึ้น
"ลงทุนไปมากเลยน่ะเนี่ย! เกมที่มีผลกับโลกขนาดนี้!"
เสี่ยวเฟิงถอนหายใจก่อนจะไขกุญแจเข้าไปในห้อง เขากระพริบตา แล้วถ้าเขาไม่ได้มองผิดไป หลังจากที่เขามั่นใจว่าเห็นร่างเล็กอยู่บนโซฟา เขาก็พูดเสียงเย็น
"เสี่ยวหลิง นี่เพิ่งจะ 5 โมงเย็นเองนะ นี่โดดเรียนอีกแล้วใช่ไหม?"
"เฮ้! เจ้าพี่โง่ก็เลิกงานเร็วเหมือนกันนิ! ฉันไม่แปลกใจเลย!"
เด็กสาวน่ารักร่างเล็กนอนขดอยู่บนโซฟา ผมสีทองนุ่มฟูดูสดใสมีพลัง ดวงตาของเธอดูราวกับเพชรสีฟ้า แต่หน้าตาของเธองดงาม ประณีตแบบชาวเอเชีย
เธออายุแค่ประมาณ 13 -14 ปี มือข้างหนึ่งของเธอถือโหลมันฝรั่งทอด ส่วนอีกข้างเป็นโคล่า ผมสีทองของเธอสยายอยู่บนพนักพิง เธอตัวเล็กมากแต่กลับสวมเสื้อที-เชิร์ตที่ขนาดใหญ่กว่าตัว ทำให้คอเสื้อตกลงไปจนเห็นไฟล่ขาวนวล ชายเสื้อยาวจนทำหน้าที่เหมือนกระโปรงปิดต้นขาไว้ครึ่งนึง และขาเรียวเล็กพาดอยู่บนโซฟา ตาของเธอจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ พอเฉินฟงเข้ามาก็บ่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจเท่าไหร่
"เลิกงานเร็วน่ะไม่มีปัญหาหรอก แล้วทำไมเธอถึงได้โดดเรียน!" เสี่ยวเฟิงพูด
"อย่ามายุ่งกับฉันนะเจ้าพี่โง่! ฉันอยากอยู่คนเดียว!"
เด็กสาวแค่นเสียงก่อนจะขดอยู่บนโซฟาต่อ
"มื้อเย็นอยากกินอะไร?"
เสี่ยวเฟิงส่ายหัวปลงตก พร้อมหยิบผ้ากันเปื้อนเดินเข้าไปในครัว
"ขอแฮมเบอร์เกอร์กับซุปสาหร่าย! ไม่เอาข้าว!" เสียงของเสี่ยวหลิงลอยมาจากห้องนั่งเล่นฟังดูพึงพอใจ
"ถ้าไม่กินข้าว เธอจะไม่โตเอานะ!" เขาว่า เขาเริ่มจะมีน้ำโหแล้ว
"อย่ามากมายน่า!เป็นพี่ชายก็ต้องตามใจน้องสาวสิ ฉันเชื่อว่าถ้านายได้รับคำชมจากชั้นซักนิด นายคงตื่นเต้นจนนอนไม่หลับไปซักสองสามวันได้เลยนะ!"
"อย่ามาพูดเหลวไหลนะ!"
เสี่ยวเฟิงเป็นคนทำอาหารเก่ง แค่ 10 นาทีมื้อเย็นของทั้งสองก็เสร็จ แล้วพวกเขาก็มากินข้าวด้วยกันบนโต๊ะกาแฟในห้องนั่งเล่น
"อย่ากินแต่เนื้อสิ! ถ้าไม่กินผักจะไม่โตนะ!"
เสี่ยวหลิงมองผักด้วยสีหน้าสะอิดสะเอียน แต่เสี่ยวเฟิงก็ยังตักผักใส่จานของเธออยู่ดี เธอกินมันเข้าไปด้วยสีหน้าที่เหมือนกินยาพิษเข้าไป ท่าทางของเธอเหมือนจะตายให้ได้ พอเธอกลืนผักลงไปได้ เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ