ตอนที่ 100 เรื่องเศร้า
ตอนที่ 100 เรื่องเศร้า
ตอนเริ่มเล่า เจ้าเชี่ยนเชี่ยนยังไม่ได้คิดมาก แต่ตอนนี้มันกลับเริ่มทำให้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกโกรธแค้น
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอจับได้ว่าอาจารย์โจว ขโมยข้าวของส่วนตัวของเธอ
แต่เขาเป็นถึงอาจารย์ที่ปรึกษา เจ้าเชี่ยนเชี่ยนเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงแข็งแรง
ดังนั้นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนจึงได้แต่อดทน พยายามหลบหน้าอย่างสุดชีวิต
แต่เรื่องแบบนี้ถ้าไม่พูดออกมา ยังไงก็หลบไม่พ้นอยู่ดี
แค่เจ้าเชี่ยนเชี่ยนไปที่ห้องซ้อม เธอก็ต้องถูกเอาเปรียบตลอดเวลา
ต่อมา โจวเจี่ยนเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ เขายิ่งทำมากกว่าเดิม
มีอยู่ครั้งหนึ่ง โจวเจี่ยนเห็นว่าห้องซ้อมเต้นไม่มีคนอยู่ บวกกับดื่มเหล้ามาอีกนิดหน่อย ในที่สุดเขาก็ลงมือข่มขืนเจ้าเชี่ยนเชี่ยนในห้องซ้อมเต้น
ผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง จะต่อสู้กับสัตว์ร้ายแบบนั้นได้ยังไง
ผลลัพธ์เจ้าเชี่ยนเชี่ยนโชคร้ายมาก แต่หลังจากเกิดเรื่องนี้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนยังถูกถ่ายรูป ข่มขู่ บอกให้เธอเก็บเป็นความลับ จะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครไม่ได้
ไม่อย่างนั้นจะทำให้เธอเรียนไม่จบ และยังจะเอารูปของเธอไปปล่อยลงอินเตอร์เน็ต แล้วยังบอกว่าจะฆ่าปู่และย่าของเธอ
และยังหลอกล่อ ให้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนเก็บเป็นความลับ บอกว่าต่อไปจะให้เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของมหาลัย
จะได้ไปเรียนเต้นในมหาลัยที่มีชื่อเสียง หลังจากเรียนจบจะได้มีอนาคตดีๆ ยังบอกอีกว่าบางทีเธออาจได้ไปเต้นให้กับดาราก็ได้
เจ้าเชี่ยนเชี่ยนถูกข่มขู่และหลอกล่อในเวลาเดียวกัน สุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะเก็บเงียบเอาไว้
แต่เรื่องนี้เมื่อเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าคนที่โดนเก็บเงียบเอาไว้ ยังไงก็จะต้องมีครั้งที่สองเกิดขึ้น
ผลลัพธ์ระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ถูกทำร้ายอีกหลายต่อหลายครั้ง……
ตอนนั้นเองที่เจ้าเชี่ยนเชี่ยนเริ่มอยากตาย แต่เมื่อคิดถึงคุณปู่คุณย่าที่อายุมากของตัวเอง ว่าต่อไปจะต้องมีคนดูแล และความฝันที่จะเป็นนักเต้นของตัวเอง เธอจึงเลือกที่จะอดทนต่อไป
แต่ว่า ฝันร้ายมันยังไม่จบเพียงเท่านี้
อาจารย์ที่ปรึกษาโจวเจี่ยนผู้โหดเหี้ยมคนนี้ เมื่อเห็นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนยังอดทนกับเรื่องนี้ต่อไปได้ เขาก็ยิ่งได้ใจ
เขาทำสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เจ้าเชี่ยนเชี่ยนเองก็เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ หวาดกลัว ไม่กล้าพูด ไม่กล้าไปแจ้งความ จึงทำได้เพียงอดทนแล้วอดทนเล่าเท่านั้น
แต่บนโลกใบนี้ไม่มีความลับ ผลลัพธ์เรื่องนี้ก็ค่อยๆแพร่ออกไป
มันแพร่กระจายไปในหมู่นักศึกษาอย่างรวดเร็ว พวกเขาต่างรู้เรื่องที่เจ้าเชี่ยนเชี่ยนและอาจารย์ที่ปรึกษา
โจวเจี่ยนมีอะไรกัน
ไม่ใช่เพียงเท่านี้ นักศึกษาจำนวนมากยังต่างด่าทอเจ้าเชี่ยนเชี่ยนเช่น ยัยง่าย หน้าด้านเป็นต้น
บอกว่าเธอเป็นคนอ่อยโจวเจี่ยน และยังบอกว่าผู้ชายวัยกลางคนที่น่าเกลียดขนาดนั้นยังชอบลงได้ คงอยากได้ผู้ชายจนตัวสั่น
เจ้าเชี่ยนเชี่ยนมีปัญหาที่ไม่อาจพูดได้ ตัวเธอเป็นผู้ถูกกระทำ แต่กลับถูกคนด่าทอ
สุดท้ายใจของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็แตกสลาย และในเวลานี้เอง เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ไปคุยกับโจวเจี่ยน ให้เขาเอารูปที่เหลือออกมา
โจวเจี่ยนที่โหดเหี้ยมแบบนี้ แน่นอนว่าเขาต้องปฏิเสธ
บอกว่าคืนนี้ให้เธอไปคุยกับเขาที่อาคารที่กำลังก่อสร้าง และบอกว่าที่นั้นคนน้อย จะได้อยู่ไกลหูไกลตาคนหน่อย
เจ้าเชี่ยนเชี่ยนยอมทำเพื่อพูดกับโจวเจี่ยนให้ชัดเจน และนำรูปของตัวเองกลับคืนมา จึงเป็นธรรมดาที่เธอจะตกลง
ผลลัพธ์เมื่อถึงเวลากลางคืน เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ไปที่อาคารก่อสร้างคนเดียว แต่ตอนนั้นเองก็ต้องรู้สึกเสียใจ
โจวเจี่ยนไม่ได้มีเจตนามาคุยกับเธอ นอกจากเขาแล้ว ยังมีผู้ชายในมหาลัยอีกสองคน พวกเขาต่างมองเจ้าเชี่ยนเชี่ยนด้วยสายตาดูถูก
เจ้าเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกผิดปกติ จึงถามโจวเจี่ยนว่านี่มันหมายความว่ายังไง
แต่โจวเจี่ยนกลับทำหน้าเข้ม ด่าเธอว่า... บอกว่าเธอแกล้งทำเป็นยังบริสุทธิ์อยู่
และยังพูดว่าเพื่อลงโทษที่เธอทำแบบนั้น คืนนี้เขาจะทำให้เธอได้เห็นดี
ผลลัพธ์เจ้าเชี่ยนเชี่ยนกลับถูกทำร้ายอีกครั้ง และมันทรมานมาก
หลังจากเรื่องนี้จบลง เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ได้แต่นั่งโง่ๆอยู่ที่เดิม
เมื่อคิดถึงใบหน้าของผู้ชายชั่วที่หัวเราะเยาะและทำหน้ารังเกลียดใส่เธอ มันก็ทำให้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนไม่มีความหวังในการอยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
ช่วงเวลานั้น เธอเห็นเพียงความมืดมิดที่อยู่ตรงหน้า อนาคตของเธอไม่มีแสงสว่างเลยสักนิด
ทันใดนั้น เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็หัวเราะดังลั่น
แม้ว่าเธอจะหัวเราะ แต่ตาของเธอกลับมีน้ำตาไหลออกมา
เพราะเธอเจ็บปวดและเศร้ามาก ดวงตาของเธอจึงเต็มไปด้วยเลือด ตอนนั้นเธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง พร้อมกับหยดเลือดที่ไหลริน
เธอร้องไห้เป็นสายเลือด และเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าพร้อมๆกัน
เธอมองมหาลัยที่ว่างเปล่า ตอนนี้ไม่มีความคิดอะไรในสมองของเธอเลยสักนิด เธอเดินไปสู่ช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิตอย่างไม่ลังเล
พร้อมกับเสียงกระแทก ชีวิตที่น่าสงสารของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็จบลง……
เมื่อได้ยินถึงจุดนี้ สีหน้าของผมก็น่าเกลียดจนยากจะบรรยาย
หยางเฉ่วและหานเฉ่วเฟิงต่างขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
คนชั่วแบบนี้ สมควรตายจริงๆ เป็นคนทำลายชื่อเสียงของอาจารย์แท้ๆ
ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ผมยังรู้สึกเศร้ากับชีวิตของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนมาก
เป็นเพราะเธออดทนมาโดยตลอด จึงทำให้เกิดฉากสุดท้ายขึ้น
ทำให้ตัวผมอดคิดถึงคำพูดประโยคหนึ่งไม่ได้ คนที่รู้ว่าผิดแต่ยังทำต่อ ก็ต้องตกเป็นเหยื่อของคนชั่วเสมอ
แต่ผมไม่ได้พูดออกไป ยังฟังสิ่งที่เธอพูดต่อ
แต่ตอนนี้เจ้าเชี่ยนเชี่ยน เหมือนกับคนเป็น เธอหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดว่า “ฉันคิดว่าหลังจากตายแล้ว ทุกอย่างจะจบ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น หลังจากที่ฉันตาย ฉันก็พบว่าตัวเองกลับไม่สามารถปล่อยวางได้ ความโกรธแค้นในใจมันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
“ฉันเดินวนไปวนมาอยู่ในตึกสองสามเดือน ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากแก้แค้น สุดท้าย ฉันทนไม่ไหว จึงเริ่มออกไปแก้แค้นพวกเขา”
“ฉันฆ่าคนไปสองคนก่อนหน้านี้ก่อน ฉันทำให้สภาพของเขาเหมือนกับฉัน กระโดดลงมาจากตึกตาย แต่ขณะที่ฉันกำลังจะไปฆ่าโจวเจี่ยน ฉันกลับถูกผนึกวิญญาณไว้ในตุ๊กตา และตั้งแต่นั้นก็ถูกขังเอาไว้ในตึกนี้……”
“คนๆนั้นคือใคร” พวกเราสามคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน เห็นได้ชัดว่ากำลังเครียดมาก
เป้าหมายหลักมาถึงแล้ว ต้องเป็นหมอผีในองค์กรลับนั้นแน่ๆ
แต่เจ้าเชี่ยนเชี่ยนกลับส่ายหัว “ฉันไม่รู้ ฉันจำได้ว่าก่อนคืนที่ฉันจะลงมือหนึ่งวัน โจวเจี่ยนก็พาตาแก่ใส่ชุดสีดำมาที่ตึกนี้ แต่โจวเจี่ยนเรียกเขาว่านักพรตหยวน……”
เมื่อได้ยินคำว่า “นักพรตหยวน” สามคำนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
หรือว่านักพรตหยวนคนนี้ คือกุ่ยซานหยวน นักพรตกุ่ย
เพราะไม่แน่ใจ จึงทำได้เพียงฟังต่อไป
จากนั้น เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ค่อยๆเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นอย่างละเอียด
อาจเป็นเพราะโจวเจี่ยนรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล เมื่อเห็นว่าอาจารย์ที่ทำชั่วกับเขากระโดดตึกตายทั้งคู่ แถมสภาพศพยังเหมือนเจ้าเชี่ยนเชี่ยนเป๊ะ
เขาจึงไปเชิญยอดฝีมือมาปราบเจ้าเชี่ยนเชี่ยน ตอนนั้นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนพึ่งกลายเป็นผีร้ายได้ไม่นาน และไม่ได้ร้ายกาจเหมือนตอนนี้
เมื่อคนๆนั้นและโจวเจี่ยนมาถึงที่นี่ เขาคนนั้นก็ใช้วิชาปราบเจ้าเชี่ยนเชี่ยนได้
แม้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนจะพยายามดิ้นรน แต่ก็ไม่สำเร็จ
สุดท้ายคนๆนั้นก็หยิบตุ๊กตาออกมา มองเจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังร้องไห้อยู่ และบอกว่าจะผนึกวิญญาณของเธอในตุ๊กตาตัวนี้
เขาเลือกที่จะทำแบบนี้ เพราะถ้านำตุ๊กตามาวางไว้ที่นี่ เธอก็จะไม่สามารถออกจากตึกนี้ได้ง่ายๆ
เมื่อทำแบบนี้แล้ว ขอแค่โจวเจี่ยนไม่เข้าไปใกล้ตึกนี้ เขาก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว
หลังจากวิญญาณของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนถูกผนึก คนๆนั้นยังพูดกับเจ้าเชี่ยนเชี่ยนว่า ความแค้นในร่างของเธอ กำลังเป็นสิ่งที่ฉันต้องการ ในเมื่อเธอชอบฆ่าคนขนาดนี้ งั้นเธอก็จงอยู่ที่นี่เพื่อฆ่าคนเถอะ!
หลังจากพูดจบ นักพรตนั้นก็แสยะยิ้มอย่างน่าขนลุก จากนั้นก็หยิบยันต์ออกมา แปะลงที่คอของเจ้าเชี่ยนเชี่ยน
และเมื่อเจ้าเชี่ยนเชี่ยนตื่นมาอีกครั้ง เธอก็ลืมเรื่องตอนมีชีวิตหมดแล้ว และที่คอก็มีสัญลักษณ์ผีสามตาปรากฎอยู่
เธอจำได้เพียงว่าตัวเองต้องฆ่าคน เป็นผู้ชายสามคนที่เธอเกลียด!
แต่เป็นใครนั้น เธอเองก็จำไม่ได้
ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงยืนมองจากตึกร้างหลังนี้อย่างสับสน ทุกๆวันจะมองดูชายหญิงที่อยู่ในมหาลัย
แต่เมื่อเห็นชายหนุ่ม ใจของเธอก็จะถูกกระตุ้น
จากนั้นเธอก็จะทำทุกอย่าง เพื่อให้ชายหนุ่มคนนั้นหลงเข้ามาในตึก และสุดท้ายก็ทำให้เขากระโดดลงมาจากดาดฟ้าตาย
แม้ว่าเธอจะไม่สามารถออกจากตึกนี้ได้ แต่หอพักนักศึกษาและโรงอาหารของมหาลัย ต่างอยู่ขนาบข้างตึกนี้ มีเพียงกำแพงกั้นเท่านั้น
นี่จึงทำให้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนมีโอกาสฆ่าคนอย่างดีเยี่ยม ดังนั้นถึงวันปกติอาคารใหญ่จะถูกปิด แต่เธอก็สามารถยืนอยู่ตรงนี้ และสะกดคนธรรมดาพวกนั้นได้
จากนั้นก็ควบคุมพวกเขาให้เดินมาถึงที่นี่ แล้วนี่ก็คือสาเหตุว่าทำไม ที่นี่จะถูกปิดแล้ว แต่ทุกปีก็ยังมีคนมาตายได้ถึงสามคน
เพราะเรื่องนี้มหาลัย จึงเชิญคนมาทำพิธี แต่พวกเขาเป็นแค่นักพรตที่มีแต่ชื่อ
ห้องเรียนที่ถูกปรับปรุงใหม่ห้องนี้ สาเหตุที่มีตุ๊กตาวางเอาไว้มากมาย ก็เพราะเป็นสิ่งที่นักพรตพวกนั้นเอามาเพื่อดึงดูดความสนใจ
นอกจากจะทำให้ที่นี่มีสิ่งแปลกๆเพิ่มแล้ว ก็ไม่ได้มีประโยชน์อย่างอื่นอีกเลย
เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ เจ้าเชี่ยนเชี่ยนจึงได้อยู่ที่นี่มาเป็นเวลาห้าปี
จนผมและเฟิงเฉ่วหานได้บังเอิญมาเห็นว่าที่นี่มีคนตาย จากนั้นก็เข้ามาที่นี่ จนกระทั่งถึงตอนนี้……