บทที่ 130 - ทีมรีไวเวิร์ล (4)
บทที่ 130 - ทีมรีไวเวิร์ล (4)
”
หลังจสกได้อาบน้ำฉันก็แต่ตัวและไปที่ห้องล็อบบี้ซึ่งที่นั่นฉันก็เห็นฮวาหยานั่งอยู่บนเก้าอี้และกำลังดื่มวิสกี้อยู่ เพราะว่าฉันรู้สึกว่าผมยังไม่แห้งฉันก็เลยได้กำลังคิดที่จะถอดหน้ากากออกเพื่อทำให้ผมแห้ง แต่จากนั้นฉันก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเธอ
"อะไรทำให้เธอมาอยู่ที่นี่จนถึงเช้า!?"
"ฉันได้รอใครบางคนตลอดทั้งคืน ดังนั้นฉันก็เลยมาดื่มในตอนเช้าเพื่อชดเชยกับมัน"
"อะไรนะ ฉันได้บอกเธอไปแล้วนะว่าฉันจะออกไปล่า"
"ฉันไม่คิดว่านายจะออกไปล่าตลอดทั้งคืน นายรู้มั้ยมันทำให้ผู้หญิงคนนึงนอนหลับได้ยาก? ฉันก็อยู่ด้วยกับเยอึนเหมือนกัน ฉันไม่คิดว่านายจะออกไปล่าไวเวิร์นทั้งคืน..."
ฮวาหยาได้กำลังโกรธฉัน ฉันได้ขอโทษออกไปด้วยการยักไหล่และนั่งลงไปบนเก้าอี้ตรงข้ามกับฮวาหยาที่ยังคงจ้องเขม็งมาที่ฉัน จากนั้นก็ถามออกมา
"ฉันต้องการที่จะเห็นหน้านาย ฉันอยากจะรู้ว่านายกำลังทำท่าทางอะไร"
"ไม่อะ"
"ด้วยความแข็งแกร่งของนาย นายน่าจะสามารถแสดงตัวได้แล้วนี่... นายจะยังกลัวอะไร?"
ด้วยรอยยิ้มที่ยั่วยุของฮวาหยา ฉันได้ส่งเสียงฮึออกมาและจิบวิสกี้ลงไป ร่างกายที่แข็งแกร่งของฉันแทบจะไม่ได้รับผลจากแอลกอฮอล์เลย ฉันได้วางแก้วลงไปแล้วตอบกลับ
"ฉันไม่ตกหลุมพลางการยั่วยุของเธอหรอกนะ"
ก
-
"หยาบคาย นายขโมยเครื่องดื่มของฉันไป นอกจากนี้นายก็ยังขี้ขลาดอีกด้วย"
"แล้วอะไรทำให้เธอมาดื่มวิสกี้เพียงลำพังในที่ๆทุกๆคนสามารถเห็นเธอได้ล่ะ?"
ฮวาหยาได้ยิ้มกับคำถามของฉันและส่งข้อความมา
[ฉันไม่คิดว่าฉันจะสามารถพูดได้เมื่อฉันอยู่ด้วยกับคนอื่นๆ ฉันต้องการจะบอกเมื่อคืน แต่ว่านายปล่อยให้ฉันต้องคอยนาน]
[โอเค ๆ ฉันขอโทษละกัน แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ? เคียร่า คีเน็กต์หรอ?]
[ไม่ เพลรูเดีย]
"อึก"
ดวงตาของฮวาหยาได้ส่องประกายแปลกๆออกมา
[ผู้หญิงคนนั้นแปลกมา นายไม่ได้อธิบายว่าปัญหาของเธอคืออะไรในเมื่อวานนี้? ทำไมเธอถึงเกาะติดอยู่แต่กับนาย? ฉันเคยเห็นผู้หญิงที่เป็นแบบเธอมาก่อน]
[มีคนที่เป็นเหมือนเธอหรอ?]
[เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน มีอะไรเกิดขึ้นที่โลกที่นายไปเป็นทหารรับจ้างต่างมิติ? เธอได้กลายเป็นแบบนี้เพราะโลกของเธอล่มสลายใช่ไหม? เกิดอะไรขึ้น?]
[อืมม ขอโทษด้วยนะมันเป็นความลับ]
[เฮ้]
[ขอโทษแต่ฉันไม่คิดว่าฉันควรจะบอกเธอหรือใครเกี่ยวกับเรื่องนี้]
"....ฮู่"
ฮวาหยาได้ถอนหายใจออกมา เธอได้ยกแก้วขึ้นเพื่อดื่มวิสกี้แต่แล้วเธอก็ตระหนักได้ว่าแก้วมันว่างป่าว เธอได้เอี้ยมมือไปหยิบขวดวิสกี้ แต่ฉันได้หยิบไปก่อนที่เธอจะเอื้อมถึง
"แต้มความทนทานของเธอไม่แข็งแกร่งพอ ดังนั้นหยุดดื่มก่อนที่เธอจะเมาเถอะ เธอยังต้องการจะดื่มมันแม้ว่าฉันจะดื่มมันผ่านปากของฉันแล้วงั้นหรอ?"
"นั่นมันก็ดี...."
ฮวาหยาได้ถอนหายใจออกมาอีกครั้งและเอามือออกมาจากแก้ว
"ไม่เป็นไร หยุดดื่มกันเถอะ ขอโทษด้วยนะฉันไม่ควรจะถามนายกระทันหันแบบนั้น ฉันเพียงแค่รู้สึกใจร้อนซึ่งมันแตกต่างไปจากตัวฉันเองตามปกติ มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคาดคิดเลย ดังนั้นฉันก็เลยรู้สึกประหลาดใจ"
"ฉันมีเหตุผลดังนั้นพยายามเข้าใจด้วยนะ"
"ใช่ฉันจะพยายามแม้ว่าฉันอาจจะไม่เข้าใจก็ตาม"
"พูดตรงอะไรแบบนี้"
ฉันได้ให้ฮวาหยา และเธอก็ยังยิ้มกับพร้อม
"นั่นพอแล้วใช่ไหม?"
"ใช่"
[เคียร่า คีเน็กต์ก็ด้วย?]
[...ใช่]
ฮวาหยาได้จ้องมาที่ฉันอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่นานเธอก็ลุกขึ้นมาในขณะยิ้ม
[เอาล่ะ ฉันไว้ใจนาย ฉันคงจะลังเลมากเกินไปเพราะมันจะซับซ้อนถ้าหากครอบครัวคีเน็กเข้ามาแทรกแซง นอกจากนี้ถ้ามีศัตรูที่นายไม่สามารถรับมือได้ ฉันก็คิดว่าทุกคนของครอบครัวคีเน็กต์สามารถจะช่วยได้]
[นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการจะพูดจริงๆใช่ไหม?]
"มันก็ทั้งคู่แหละ ทั้งสองอย่างนั้นสำคัญต่อฉันยังไงก็ตามพวกเราไปปลุกคนที่เหลือและออกไปกินข้าวเช้ากันเถอะ ฉันหิวแล้ว"
ฮวาหยาได้ตอบกลับมาอย่างเฉยเมยและจากไป เมื่อมองเห็นหลังของเธอที่กำลังเดินไป ฉันก็ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์ที่ฉันได้รู้จักกับเธอ
ในช่วงเวลาที่รูเดียเปิดตาขึ้น เธอก็ได้กระโดดเข้ามากอดแขนของฉัน ตั้งแต่ที่เธอจะต้องเปลื่ยนเสื้อฉันก็ได้ฮวาหยาและเยอึนช่วย ถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไปฉันก็หวังว่าอาการของเธอจะค่อยๆหายไป เมื่อเธอเปลื่ยนเสื้อเสร็จเธอก็ได้มากอดแขนฉันอีกครั้งทำให้ฉันรู้สึกค่อนข้างจะคาใจ หลังจากที่พวกเราได้กินข้าวเช้าพวกเราก็ตรงไปที่พื้นที่ดันเจี้ยน ฉันไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรแม้แต่นิดเลยกับเรื่องเมื่อวานนี้
"ชิน ฉันไม่สามารถจะบินบนท้องฟ้าได้เหมือนนายดังนั้นฉันควรจะทำยังไง?"
"เธอก็จะรู้เมื่อเราไปถึงที่นั่นแล้ว อย่าลืมนะว่าอย่าเรียกฉันด้วยชื่อของฉัน ถ้าเธอต้องการจะเรียกก็ใช้ผ่านระบบช่องสนทนาของนักสำรวจ"
ฉันสามารถจะล่าไวเวิร์นเพียงลำพังได้ แต่ว่าสายต่อสู้ระยะประชิดส่วนใหญ่จะทำแบบนั้นไม่ได้ ผู้ใช้พลังส่วนใหญ่ที่อยู่รอบๆพื้นที่ดันเจี้ยนก็คือสมาชิกของกลุ่มผู้พิทักษ์ของอเมริกา พวกเราได้เฝ้ามองและรายงานการเปลื่ยนแปลงของดันเจี้ยน เมื่อไวเวิร์นได้คืบคลานเข้ามา พวกเขาก็จะเรียกปาตี้ที่อยู่ใกล้ๆและล่าพวกมันด้วยกัน
เหล่าคนที่มาล่าไวเวิร์นก็ยังคงกระตือรืนร้นส่งกาสรโจมตีทั้งระยะไกลและใกล้ออกไปเสมอ อย่างแรกพวกเขาจะใช้การโจมตีระยะไกลไปก่อนและตามด้วยการโจมตีระยะใกล้ ยังไงก็ตามไวเวิร์นที่นี่ก็ดูเหมือนจะสามารถสื่อสารกับตัวอื่นๆได้ พวกเขาอาจจะต้องต่อสู้้้้้้้้้้้้้้้้้้กไวเวิร์นสองตัวในทันทีถ้าหากว่าพวกเขาโชคร้าย ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่จึงจะไม่ล่าพวกมันเพียงลำพังและให้ความร่วมมือกับผู้ใช้พลังจากประเทศอื่นๆ
ยังงไงก็ตามผู้ใช้พลังบางคนก็ยังยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับไวเวิร์นบนท้องพื้นดิน พวกเราได้ขี่เฮลิคอปเตอร์เพื่อต่อสู้กับพวกมัน
"นั่นมันจะไม่อันตรายมากกว่าอีกหรอ?"
"มันเรียกว่าเป็นการใช้เฮลิคอปเตอร์โจมตี แต่ใช่แล้วมันฟังดูน่าจะอันตรายมากขึ้น"
เมื่อโดนไฟของไวเวิร์นเฮลิคอปเตอร์ก็จะกลายเป็นเพียงแค่เศษโลหะเท่านั้น แม้ว่าเฮริคอปเตอร์จะทำมาจากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์แต่ยังไงมันก็ไม่สามารถที่จะต้านไฟของไวเวิร์นได้นานนัก ถ้าหากว่าไปเวิร์นชน ข่วนหรือกัดมันก็จะทำให้เฮลิคอปเตอร์ล่วงลงอีก
เพราะแบบนั้นเมื่อต่อสู้กับไวเวิร์นบนเฮลิคอปเตอร์สมาชิกในปาตี้จะต้องประกอบไปด้วยสมาชิกในอุดมคติ ผู้โจมตีระยะไกลหนึ่งคน คนป้องกันเวทย์ที่ทำหน้าที่ป้องกันเฮลิคอปเตอร์จากไวเวิร์นหนึ่งคน และคนโจมตีระยะไกลที่มีความคล่องตัวสามารถจะกระโดดไปบนหลังของไวเวิร์นเพื่อจบชีวิตมันได้และก็กลับมาอย่างปลอดภัย และเพราะว่ามันอาจจะใช้เวลามากพอสมควรมันก็จะดีกว่าถ้ามีคนโจมตีระยะใกล้สองคน
"มีทีมแบบนี้ไหม?"
"หนึ่งหรือสองทีมจากที่ฉันสามารถจะบอกได้ คนส่วนใหญ่จะต่อสู้จากบนพื้นด้วยวิธีการที่ฉันบอกกับเธอ"
เพื่อยืนยันคำพูดหรือความเชื่อ บนท้องฟ้าพื้นที่ดันเจี้ยนพวกเราสามารถจะมองขึ้นไปเห็นเฮลิคอปเตอร์บินอยู่สองลำที่กำลังต่อสู้กับไวเวิร์นได้อย่างชัดเจน ฉันไม่สามารถจะบอกได้ว่าพวกเขารวดเร็วไหม แต่อย่างน้อยพวกเราก็เร็วมากกว่าปาตี้บนภาคพื้นที่จะต้องรอให้ไวเวิร์นเข้ามาใกล้ๆก่อน แน่นอนว่าพวกเขาก็ยังล่ากันช้ากว่าในคืนเมื่อว่าที่ฉันทำ นอกจากนี้ถ้าหากพวกเขาทำพลาดเฮลิคอปเตอร์ก็จะตกลงมา ฉันได้ยินมาว่าเฮลิคอปเตอร์ที่ทำมาจากวัสดุของมอนสเตอร์มีค่าใช้จ่ายมากกว่า 150 พันล้านวอน ดังนั้นพวกเราจะต้องฆ่าไวเวิร์นอย่างน้อย 60 ตัวเพื่อที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายเหล่านั้น....แม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องนักเพราะพวกเขาก็อาจจะโชคดีหาหินมานาพบจากไวเวิร์นก็ได้
เพราะว่าแม้แต่ผู้ใช้พลังระดับ S ก็ยังต่อสู้กับพวกมันอย่างลำบากก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารังไวเวิร์นนี้มันจะต้องใช้เวลานานในการเคลียร์ ในตอนแรกพวกเขาใช้วิธีการมากมายในการล่าไวเวิร์นให้ง่ายขึ้น แต่ว่าอุปกรณ์เครื่องกลต่างๆได้ถูกทำลายและอุปกรณ์เวทย์ก็ได้ถูกทำลายไปด้วยความต้านทานมานาที่สูงของไวเวิร์น ในท้ายที่สุดก็มีเพียงแค่ผู้ใช้พลังเท่านั้นที่เหลืออยู่จัดการกับพวกมัน แม้ว่าฉันเองจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้วนตัวเองมาก่อนแต่ว่าเมื่อคิดถึงพวกอันดับสูงๆต่างๆที่ล่าไวเวิร์นอย่างยากลำบากมันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ดีกับพวกเขา
"มันควรจะมีคนอืนๆที่สามารถจะใช้บันไดน้ำแข็งได้ หรือไม่ก็บันไดลมนะ"
"ผู้ใช้พลังน้ำแข็งหรือลมส่วนใหญ่จะเป็นระดับ S หรือไม่ก็สูงกว่านั้นแถมยังเป็นพวกโจมตีระยะไกล มันไม่มีทางที่พวกเขาจะบินไปบนท้องฟ้าและตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
"พวกเราไม่สามารถจะบินไปด้วยกันกับพวกโจมตีระยะประชิดหรอ?"
"พวกเขาก็จะจบลงด้วยความตายหลังจากมานาหมดลง"
ฮวาหยาได้ตะโกนออกมาและได้หยุดความคิดที่หยาบคายของฉัน จากนั้นฉันก็ได้มองคนอื่นๆว่าล่าไวเวิร์นกันยังไงสักพักหนึ่งก่อนที่เธอจะถามออกมา
"พวกเราสามารถจะเช่าเฮลิคอปเธอได้ไหม?"
"นั่นมันไม่ใช่จักรยานนะเธอก็รู้นี่"
"มันเป็นไปได้"
"อุ"
เมื่อฉันหันไปมองฉันก็เห็นจอร์น สมิทยืนอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้มที่สดใสในขณะที่ตอบกลับมา
"ฉันมาเพื่อที่จะพูดคุยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของไวเวิร์นและสิ่งที่นายเลือกจากขาย ถ้าหากนายจะถามอะไรที่ฉันสามารถตอบได้ฉันก็จะตอบ"
"ขะ ขอบคุณ เริ่มจากไวเวิร์นก่อนละกัน"
"โอเค ความจริงแล้วไวเวิร์นมันมีขนาดและคุณภาพ สีผิวที่ต่างกัน ส่วนใหญ่ผิวของพวกมันจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบ แต่ว่าฉันไม่สามารถจะพูดแบบนี้กับหัวของพวกมันได้ นายน่าทึ่งจริงๆเลย เพราะว่าขนาดของมันทำให้ราคาต่างออกไป อัศวินสายฟ้านายจะต้องเลือกไวเวิร์นที่จะขาย"
จากนั้นพวกเราก็ได้ไปที่ๆได้รวมไวเวิร์นเอาไว้ มันมีไวเวิร์นยาวกว่า 20 เมตรนอนเรียงรางทับถมกันอยู่ มันค่อนข้างจะเห็นได้ชัดเลยทีเดียวเนื่องจากว่ามันได้รวมเป็นเทือกเขาซากศพไวเวิร์นทำให้แม้แต่แสงแดดก็ยังส่องไม่ถึงพวกเรา
"นายล่าทั้งหมดนี้ด้วยตัวคนเดียว...!?"
"ฉันคาดหวังมากแล้วนะ แต่ว่า..."
เยอึนได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจและฮวาหยาก็ได้พูดออกมาอย่างตกตะลึง
"พวกเราได้เลือกไวเวิร์นที่มีมูลค่าน้อยที่สุดสำหรับสิบตัวที่นายมอบให้พวกเรา ถ้าหากว่านายอยากรู้พวกเราสามารถจะนำมันกลับมาโชว์ให้นายดูไหม โอเคนะ?"
"ไม่ มันไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการที่จะย้ายพวกมันอีกแล้ว"
"นอกจากนี้หัวของพวกมันก็ได้ถูกทลายไป ถ้าหากนายได้รับมานาสโตนพวกเราก็ต้องการที่จะซื้อมันเหมือนกัน
"ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าฉันต้องการจะใช้เองนะ"
ฉันได้รับเงินมาเพียงพอแล้วจากการขายศพของไวเวิร์น ถ้าพวกเขาเต็มใจที่จะจ่ายเงินให้มากสำหรับศพของไวเวิร์นและหินมานานั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องมีวิธีใช้งานพวกมันอย่างเหมาะสม แถมแบบนี้มันก็มีมูลค่าที่สูงในดันเจี้ยนเหมือนกัน ฉันต้องการจะเก็บหินมานาและศพของไวเวิร์นเอาไว้ก่อน ฉันอาจจะได้ไปเยี่ยมหลินในเร็วๆนี้
ฉันได้ขายไวเวิร์นไป 20 ตัวเป็นมูลค่ากว่า 60 พันล้านวอน เพราะว่าฉันไม่มีบัญชีของผู้ใจพลังนอกเหนือไปจากของยอน ฮวาวู พวกเขาจึงได้สร้างบัญชีใหม่ให้กับฉันด้วยเงิน 60 พันล้านวอน อย่างที่ฉันพูดไปฉันไม่รู้วิธีที่จะใช้เงินทั้งหมดนี้ บางที่ฉันควรจะเติมสระน้ำในสวนมาเรียเน่ก็ได้...
นอกจากนี้พวกเรายังสามารถที่จะเช่าเฮลิคอปเตอร์ได้ฟรี หลังจากได้ยินว่ามันมีค่ามากกว่า 130 ล้านดอลลาร์ฉันก็รู้สึกกังวล
"เอาล่ะ ถ้าหากมีปัญหาใดๆฉันก็สามารถจะจ่ายมันได้"
"อย่าได้ประมาทเพราะบาเรียนะ"
ด้วยการเป่าหูฉันของรูเดียและฮวาหยาทำให้ฉันได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เยอึนผู้ที่คิดว่า 100 ล้านวอรเป็นเงินก้อนโตได้ตัวสั่นและกระพริบตาวุ่นวาย ตอนนี้เธอได้เป็นผู้ใช้พลังระดับสูงแล้ว ฉันรู้ได้เลยว่าความรู้สึกต่อเงินจะต้องเปลื่ยนไปในที่สุด ในทางนี้มันน่าเศร้า
"พวกเราคสรจะสร้างชื่อทีมด้วยนะ!"
เมื่อเฮลิคอปเตอร์ได้ออกตัว เยอึนก็ได้ให้คำแนะนำอย่างตื่นเต้น รูเดียก็ดูเหมือนจะเห็นด้วย ดูเหมือนว่าเธอจะหมกหมุ่นอยู่กับการติดต่อกับผู้คน
น่าแปลกที่ฮวาหยาก็ยังสนับสนุนเหมือนกัน
"ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องดีสำหรับการส่งเสริมความรู้สึกให้สนิทสนมกันและกันเพื่อให้พวกเราได้รู้จักกัน"
"มีปาตี้ที่มีชื่อเสียงอะไรบ้าง?"
"แน่นอนว่าทีมผู้พิทักษ์เป็นชื่อที่ได้ยินเสมอเหมือนกับทีมปีกแห่งเสรี ตามที่กลายมาทีมโจรก็ยังมีชื่อเสียงมากเช่นกัน ไม่ใช่ในด้านการจัดอันดับสมาชิกทีมของพวกเขา"
[ชินนายควรที่จะแสดงความสนใจในคนอื่นๆให้มากขึ้น]
"เธอพูดถูก แต่นั่นเป็นเพราะฉันจะสนใจเฉพาะคนที่มีความสำคัญกับฉัน
ฉันยอมรับในสิ่งที่เยอึนบอกมา ฮวาหยาก็ได้เหวี่ยงคทาของเธอที่จับไว้มาที่หน้าผากของฉัน แน่นอนว่าฉันได้กันมันด้วยมือ
"นายไม่ควรจะภูมิใจนะเจ้าโง่ ถ้าหากนายยังมีชีวิตเหมือนเด็กแบบนี้ นายจะได้ตายก่อนจะรู้สึกตัวอีกนะ"
"ฉันรู้ว่านั่นมันเป็นปัญหา...แต่ว่าฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นนี่"
ปีนดันเจี้ยนทุกวัน ไปมหาวิทยาลัยและฝึก...ฉันก็ได้ยุ่งมากๆแล้ว ฉันมีข้อแก้ตัวอยู่ แต่ว่าฉันก็ควรจะขยายกรอบของฉันให้กว้างขึ้นอย่างที่ฮวาหยาบอก
เมื่อฉันได้แสดงสัญลักษณ์ ฮวาหยาก็ได้ดึงคทากลับมา
"รีไวเวิร์ล"
รูเดียได้พูดออกมา
"มันจะต้องเป็นรีไวเวิร์ล"
"รีไวเวิร์ลหรอ? ทำไมล่ะ ฉันไม่เคยคิดเลยนะ"
[นั่นเป็นกิลด์ที่เขาสร้างเอาไว้]
[กิลด์!?ชินนายสร้างกิลด์งั้นหรอ? ไม่ใช่ว่านายจำเป็นต้องมีคฤหาสน์หรอ!?]
[อ่า ใช่แล้วฉันมีมันอยู่ ดังนั้นฉันก็เลยมีโอกาสในการสร้างกิลด์]
[ฉันอยากจะเข้า ให้ฉันอยู่ในกิลด์ของชิน]
[ฉันคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอจะพูดแบบนั้น เอาเยอะเธอคงจะต้องร้องไห้แน่ๆถ้าฉันปฏิเสธเธอ]
"เย้!"
เยอึนได้กระโดดขึ้นไปอย่างดีใจภายในเฮลิคอปเตอร์ เพราะว่านักบินไม่สามารถจะได้ยินข้อความในหัวของพวกเขาได้จึงแปลกใจกับท่าทางแปลกๆของเธอ ในทางกลับกันฮวาหยาดูไม่มีความสุข
[ถ้าเป็นกิลด์ของดันเจี้ยนที่หนึ่ง ฉันก็ไม่สามารถจะเข้าไปได้ .... ไม่สิ เดี๋วก่อนนะ ฉันก็ควรจะสร้างกิลด์เหมือนกัน... แต่ว่าฉันไม่มีคฤหาสน์]
[อืม...ขอโทษนะฮวาหยา]
[ไม่หรอก ฉันจะต้องกลายเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่งอย่างแน่นอน กึม แต่เพราะว่าฉันไม่มีคฤหาสน์ฉันก็เลยต้องเข้ากิลด์ของนาย....อึก]
"ถ้างั้นก็เอาเป็นริไวเวิร์ลเป็นชื่อทีมละกันนะ"
ฮวาหยาดูจะไม่มีความสุขที่เธอไม่สามารถจะเป็นหัวหน้าได้ แต่เธอก็ยังคงเห็นด้วยกับชื่อทีม 'เธอได้เรียนรู้ที่จะเก็บความภาคภูมิใจของเธอ ฮวาหยาได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว....!'
[พวกเราสามารถทำให้เธอเป็นหัวหน้าทีมได้ฮวาหยา]
[ไม่เป็นไร มันจะดูแปลกถ้าฉันเป็นหัวหน้า นอกจากนี้นายยังเป็นคนรวบรวมสมาชิกดังนั้นนายก็ควรจะเป็นหัวหน้า แต่ถ้านายให้ตำแหน่งหัวหน้ากิลด์กับฉัน ฉันก็จะกลายเป็นหัวหน้าทีมด้วยเหมือนกัน]
'ฉันไม่คิดว่านั่นมันจะเกิดขึ้นได้นะ....' ฉันได้คิดแล้วจากนั้นก็ตระหนักได้ว่านั่นมันเป็นวิธีที่ฮวาหยายอมรับฉันในฐานะผู้นำ เธอคงจะอายสินะ
เพราะแบบนี้พวกเราก็ได้กลายเป็นทีมรีไวเวิร์ล เมื่อเราได้ตะโกนกันออกมาด้วยความรู้สึกที่สนิทกัน ทันใดนั้นคนขับเฮลิคอปเตอร์ก็ได้ตะโกนขึ้น
"มีไวเวิร์นกำลังเข้ามาหาเรา!"
"โอ มิทารัส! โอ โลก!"
รูเดียได้สร้างบาเรียขึ้นรอบๆเฮลิคอปเตอร์อย่างรวดเร็ว ไวเวิร์นที่อยู่ด้านหน้าเฮลิคอปเตอร์ได้เริ่มปล่อยลมหายใจเพลิงออกมา ยังไงก็ตามมันไม่สามารถจะเจาะบาเรียของรูเดียมาได้ มันจึงได้พยายามจะใช้การโจมตีทางกายภาพด้วยความโกรธในขณะที่มันกระพือปีและบินเข้ามาทางเฮลิคอปเตอร์ แม้ว่ารูเดียจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ฉันก็กังวลเล็กน้อยว่าบาเรียของเธอจะไม่สามารถทนต่อการโจมตีของไวเวิร์นได้ ฉันได้เตรียมตัวที่จะกระโดดออกไปจากเฮลิคอปเตอร์ในทันที
ยังไงก็ตามก่อนที่ไวเวิร์นจะเข้ามาถึงเฮลิคอปเตอร์ก็ได้มีเสียงปืนกลดังขึ้นเหมือนกับที่ฉันเคยได้ยินในหนัง พร้อมกันนั้นไวเวิร์นก็ได้กลายเป็นรังผึ้งและร่วงลงไปบนพื้นดินซึ่งทำให้ฉันตกใจ
"...ปืน? กับมอนสเตอร์?"
"ฉันเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน มันควรจะเป็น..."
เมื่อฮวาหยาได้เงยหน้าขึ้นพร้อมพืมพัมด้วยเสียงประหลาดใจ พวกเราก็ได้เห็นเฮลิคอปเตอร์เข้ามาหาพวกเรา มันเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่เหมือนกับของเรา แต่ว่ามันได้มีสีดำมันวาว นอกจากนี้ก็ยังมีปืนกลติดอยู่ใต้เฮลิคอปเตอร์ที่กำลังปล่อยควันออกมาเหมือนมันพึ่งจะถูกใช้งาน ฉันแน่ใจได้เลยว่านั่นมันเป็นปืนกลที่ฆ่าไวเวิร์น
...แต่ว่าได้ยังไงล่ะ? ปืนไม่น่าจะสามารถฆ่าไวเวิร์นหรือมอนเตอร์ที่มีมานาอยู่ได้นี่นา! ในขณะที่ฉันพยายามจะคิดถึงความเป็นไปได้ หน้าต่างของเฮลิคอปเตอร์สีดำก็ได้เปิดขึ้นและเด็กหนุ่มก็เลยยื่นหัวออกมา เขามีผิวสีดำและผมสีดำพร้อมด้วยฟันสีขาวส่องสว่างภายใต้แสงแดด โดยเฉพาะรอยยิ้มของเขามันมีเสน่ห์มาก
"เฮ้นาย! อย่าลืมซื้อเครื่องดื่มให้ฉันเมื่อลงจอดด้วยนะ!"
มันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับผู้ใช้พลังระดับ SS ของอเมริกา ลีออน เป็ปเปอร์
สามารถติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ที่เพจนี้เลยครับ > กดเลย < ในกลุ่มแปลเรื่องนี้จนจบแล้วครับ