บทที่ 185 - The Chosen Ones (10) [24-06-2020]
บทที่ 185 - The Chosen Ones (10)
ซังจินสามารถจะได้ยินเสียงรถไฟที่อยู่ไกลออกไปได้เลย ไม่นานนักเขาก็ได้มองเห็นกำแพงห้องอพาร์ตเมนท์ชำรุดที่เขาเคยอยู่ ไม่ว่าใครมาเห็นที่นี่ก็คงจะไม่คิดว่าที่นี่ดีแน่ แต่สำหรับซังจินที่ได้มาเห็นทำให้เขาถึงกลับตะโกนขึ้นภายในใจ
'ใช่แล้ว! ฉันยังมีชีวิตอยู่!'
นี่คืออพาร์ตเมนท์ที่อยู่ในย่านของโซล ที่นี่คือที่ที่ซังจินได้ใช้ชีวิตอยู่ก่อนที่จะถูกดึงไปที่การจู่โจม การที่เขาได้มาอยู่ที่นี่อีกครั้งมันหมายความว่านักล่า 256 คนสุดท้ายได้ประสบความสำเร็จในการเอาชนะการจู่โจมสุดท้าย
'จบแล้วสินะ!'
ซังจินรู้สึกได้ถึงกำลังใจในตัวเขา ในที่สุดแล้วเกมแห่งความตายก็ได้จบลง
'แต่... ตัวฉัน... อยู่ไหนกันล่ะ?'
ซังจินได้มองหาตัวเขาในอนาคต ห้องนี้มันมืดเกินไปแถมไฟก็ยังไม่ถูกเปิดอีกด้วย
'ฉัน... กำลังหลับงั้นหรอ?'
แต่จากนั้นเอง
'ตื๊ดดดด'
เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นมา โทรศัพท์ได้สว่างขึ้นมาบนเตียงเก่าๆที่กินเนื้อที่หนึ่งในสามของห้อง ตัวเขาที่นอนอยู่บนเตียงได้มองมาที่โทรศัพท์ ซังจินในอดีตอยากที่จะตะโกนกับตัวเขาเองว่า 'ทำได้เยี่ยมมาซังจิน นายได้กลายเป็นผู้กอบกู้มนุษยชาติแล้ว'
แต่ในตอนนี้เอง
"เฮ้อ..."
ตัวเขาในอนาคตได้ถอนหายใจออกมา ซังจินรู้สึกตกใจมากๆ
'หืมมม?'
เขาได้กลับมาหลังจากเอาชนะการจู่โจมสำเร็จนะ ทำไมเขาถึงถอนหานใจออกมาล่ะ? มีบางอย่างแปลกๆแล้ว ซังจินได้ชะโงกหน้ามองไปที่โทรศัพท์ที่ตัวเขาถืออยู่ ในนั้นมีข้อความถูกเปิดเอาไว้อยู่
'เฮ้ เจ้าหนุ่มชั้นดาดฟ้า ฉันก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่ว่านายยังไม่ได้จ่ายเงินค่าเช่าห้องเดินนี้เลย ฉันจะรออีกแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นนะ ฉันหวังว่านายจะหาเงินมาจ่ายได้นะ ไม่งั้นนายก็ต้องย้ายออกไป'
ซังจินในอนาคตได้อ่านข้อความนี้และถอนหายใจออกมาอีกครั้งหนึ่ง
"เฮ้อ..."
เขาได้ถอนหายใจออกมา แล้วจากนั้นก็ลุกขึ้นมาด้วยการใช้ไม้ค้ำอย่างยากลำบาก จากนั้นซังจินก็ได้เห็นขาขวาที่บาดเจ็บของเขา
'โอ้... ใช่แล้ว เป็นแบบนี้สินะ'
ย้อนกลับไปเมื่อก่อนซังจินแทบจะไม่มีเงินมาจ่ายค่าเช่าเดือนต่อเดือนจากเงินที่ได้จากงานพาร์ทไทม์ของเขา แล้วก็ยิ่งเมื่อไม่นานนักเขาก็ยังเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บที่ขาอีกด้วย เพราะแบบนี้ก็เลยทำให้เขาไม่อาจจะทำงานพาร์ทไทม์ได้อีก เขาได้แต่นอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา เงินเก็บทั้งหมดของเขาก็ยังถูกนำไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล เพราะแบบนี้เองทำให้เขาได้ค้างค่าเช่าอยู่ พอขาของเขาเริ่มหายดีในตอนนั้นเขาก็ถูกอัญเชิญตัวไปที่การจู่โจมจนเขาลืมเรื่องนี้ไป
'...ถ้าฉันได้กลับมา... ฉันก็จะกลับมาเจอกับสภาพแวดล้อมแบบนี้...'
ซังจินได้คิดกับตัวเองในขณะที่จ้องไปที่ตัวเขาในวันพรุ่งนี้
'แต่ว่า... ทุกๆคนได้สูญเสียความทรงจำทั้งหมดในการจู่โจมไปงั้นหรอ...?'
นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆสำหรับสมาชิกสิบคนสุดท้ายในชีวิตก่อนหรือแม้แต่ผู้ถูกเลือก
'เมื่อการจู่โจมจบลงเราจะกลายเป็นฮีโร่'
'มันจะไม่แปลกเลยที่บริษัทจะร้องขอให้เขาเป็นปรากฏตัวโฆษณาให้กับพวกเขา'
'เมื่อมันจบลงเราจะรวยจนไม่น่าเชื่อเลยล่ะ อาจจะถึงจุดที่เราไม่ต้องการเงินไปอีกทั้งชีวิตเลย'
นี่เป็นความฝันที่งดงาม นักล่ามักจะคุยกันเรื่องแบบนี้เพื่อที่จะช่วยลดความกลัวในการจู่โจม ซังจินมักจะปลีกตัวจากการสนทนาแบบนี้เสมอ แต่ว่านี่มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้มีความคาดหวัง เขาได้เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ทำให้เขาคิดแค่เรื่องง่ายๆว่าขอแค่ชีวิตเขาดีขึ้นเท่านั้นเอง แต่ว่าจากสิ่งที่เขาได้เห็นนี้ เขาได้กลับมาใช้ชีวิตที่ต้องกังวลเรื่องค่าเช่าเหมือนเดิม นี่มันต่างไปจากที่เขาคิดเอาไว้มากๆ
'ถ้างั้น... ฉันกำลังกลับ... ไปในจุดที่เริ่ม...'
โอเปอร์เรเตอร์ได้ลบความทรงจำของทุกๆคนก่อนที่จะกลับมาโลกทำให้ไม่มีผู้กอบกู้หรือฮีโร่อะไรทั้งนั้นเลย
'เฮ้อ...'
เมื่อได้เห็นตัวเขาในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าได้ทำให้เขาต้องถอนหายใจออกมาเหมือนที่ตัวเขาในอนาคตได้ทำ ตัวเขาในอนาคตได้ค่อยๆใช้ไม้เท้าค้ำเดินไปเปิดตู้เย็นที่สูงเท่าตัวเขา ภายในนั้นมีแค่เพียงนมรสกล้วยเท่านั้นที่เขากินได้ เขาได้หยิบเอาออกมาดื่มลงไปจนหมด ซังจินที่ดื่มนมดูเต็มไปด้วยความกังวล และซังจินที่เฝ้ามองดูอยู่ก็คิดว่านี่มันไม่ใช่ความสุขเลยสักนิดเดียว
'...มันก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากจะยอมรับหรอกนะ แต่ว่า...'
พอเขามานึกดูแล้วเรื่องค่าเช่านี่มันน่ากลัวจริงๆ
'หลังจากผ่านนรกมาก็เจอกับนรกอีกแห่ง...'
จากนั้นเขาก็นึกไปถึงคำพูดของอิกอร์
'นี่มันคือที่ที่คล้ายกับความเป็นจริง'
การคิดถึงเรื่องพวกนี้ได้ทำให้เขาหมดหวัง ซังจินในตอนนี้มีดาบที่ต่างกันถึงสี่เล่มแล้วก็บนตัวก้ยังมีอุปกรณ์ระดับตำนานทั้งตัว แต่ว่าเมื่อกลับไปในความเป็นจริงตัวเขากลับใส่แค่เสื้อสี่ขาวเก่าๆ
'สุดยอดนักล่าเค'
'คุณเค'
'อาจารย์เค'
ที่นี่เขาได้รับการปฏิบัติเหมือนกับเป็นฮีโร่แต่ว่าหากเขากลับมาสู่โลก เขาก็จะกลับไปในชีวิตที่ว่างงานและยากจน ซังจินได้คิดกับตัวเองในขณะที่มองดูตัวเขาในอนาคต
'...เดี๋ยวนะ... แล้วตัวฉันล่ะ... ฉันได้กลับมาที่โลกโดยที่ไม่มีความทรงจำด้วยงั้นหรอ?'
ในการจู่โจมมีความทรงจำที่น่าหวาดกลัวมากมาย แต่ว่าก็ยังมีความทรงจำที่ดีอยู่มากเช่นเดียวกัน เขาไม่อยากที่จะกลับไปเจอทั้งหมดนั่นอีกครั้ง แต่ว่าเขาก็ไม่อยากจะเสียความทรงจำที่ได้ผ่านการจู่โจมไปเช่นกัน
'แต่... ถ้านั่นเป็นโอเปอร์เรเตอร์ทำ... ถ้างั้นฉันคิดว่า'
เมื่อซังจินคิดได้แบบนี้ ตัวเขาในอนาคตก็ได้ลูบไปที่โต๊ะและเปิดลิ้นชักอกมา ในตอนนี้ดวงตาของซังจินได้เบิกกว้างขึ้นมา ภายในนั้นมีหนังสือ กรรไกร แบตเตอรี่ แล้วก็ไอเทมที่เป็นลูกบาศก์ขนาดเล็กที่มังกรมอบให้กับเขา
'นั่นมัน...?'
ซังจินไม่มีไอเทมจากการจู่โจมอย่างอื่นอีกเลยนอกไปจากลูกบาศก์นี้ ตัวเขาในอนาคตได้หยิบมันขึ้นมาแล้วก็ลูบพร้อมพูดขึ้น
"อาเชอรัด..."
นี่คือชื่อของมังกรที่มอบลูกบาศก์อันนี้ให้กับเขา ตัวเขายังคงมีความทรงจำของการจู่โจมอยู่ เขาไม่ได้สูญเสียความทรงจำไป ซังจินในอนาคตได้เปิดฝาลูกบาศก์ออกมา แต่ภายในนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย ซังจินในอนาคตได้มองมันอยู่ก่อนที่จะถอนหายใจออกมามากยิ่งกว่าเดิม
"เฮ้อ..."
'นี่เป็นการรักษาธรรมเนียม'
'ธรรมเนียม?'
'ใช่แลว ธรรมเนียม'
'นายจะบอกอะไรกันแน่?'
'นายก็น่าจะรู้นี่ มนุษย์ที่เอาชนะมังกรจอมโลภมาได้... มนุษย์คนนั้นก็มักจะช่วยเจ้าหญิงที่ถูกลักพาตัวมา... หรือไม่ก็เอาสมบัจติในรังมังกรไป... เรื่องราวก็เป็นแบบนี้นั่นแหละ มนุษย์ ในเมื่อฉันแพ้แล้ว ฉันก็จะให้สิ่งนี้เป็นรางวัลกับนาย'
'ฉันมีลูกบาศก์ที่ใหญ่กว่านี้อยู่แล้วนะ ฉันจะเอาเจ้าสิ่งนี้ไปใช้ทำอะไรตอนไหนได้กันล่ะ?'
ดวงตาของมังกรได้เป็นประกายขึ้นมาจากคำถามของซังจิน เขาได้ชี้ไปที่ลูกบาศก์และพูดออกมา
'ลูกบาศก์เป็นสิ่งที่นายใช้ แต่ว่ามันไม่ใช่ของนายถูกไหมล่ะ? ยังไงก็ตามลูกบาศก์ที่นายถือไว้อยู่คือของของนาย นายเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดไหมล่ะ?'
'ห๊ะ?'
'เมื่อเวลานั้นมาถึงนายจะเข้าใจเอง'
ซังจินได้มองไปที่ลูกบาศก์พร้อมคิดขึ้นมา
'เดี๋ยวนะ'
ในเวลาเดียวกันซังจินในอนาคตก็ได้โยนลูกบาศก์กลับเข้าไปในลิ้นชักแล้วกลับไปนอน และเมื่อเขาทำแบบนี้ภาพทั้งหมดก็ถูกตัดไป ซังจินได้กลับมาสู่ปัจจุบันแล้ว
***
"ฮ่าห์!"
ซังจินได้ดีดตัวลุกขึ้นมาจากเตียงในทันที ความคิดทั้งหมดของเขาได้คิดถึงเรื่องหนึ่ง
'สิ่งที่เหลืออยู่... มีแค่ลูกบาศก์...'
"โอเปอร์เรเตอร์"
[คะ?]
"...ส่งลูกบาศก์ขนาดเล็กมาให้ฉัน"
ไม่นานนักลูกบาศก์ขนาดเล็กที่มังกรส่งมาให้เขาก็โผล่ออกมาจากลูกบาศก์ของโอเปอร์เรเตอร์ ลูกบาศขนาดเล็กนี้มีรอยสลักมังกรน้ำเงินอยู่ ซังจินได้เปิดมันออกมา ภายในนั้นไม่มีอะไรอยู่เหมือนกับที่เขาเห็นในอนาคต ในระหว่างเขาถือมันอยู่จู่ๆเขาก็คิดได้บางอย่างได้ทำให้เขายกเครื่องประดับรูปดวงดาวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
[ออส - ดวงดาวแห่งการเปิดเผย
เครื่องประดับระดับบรรพกาล
สกิลใช้งาน
แสงดาว(I) - คุณสามารถจะดูสิ่งที่เกิดขึ้นในอีก 24 ชั่วโมงนับจากตอนนี้ได้ หากผู้ใช้ต้องการ การจะเปลื่ยนอนาคตก็จะเป็นไปได้
สามารถใช้งานได้วันล่ะครั้ง
ข้าได้ครอบครองมุมของของเทพ ในทุกๆวันข้าจะสามารถเบิกตาคู่นี้ได้]
ซังจินได้อ่านในข้อความเหล่านี้อีกครั้ง
'หากผู้ใช้ต้องการ การจะเปลื่ยนอนาคตกเป็นไปได้'
"การเปลื่ยนอนาคต..."
ซังจินได้เริ่มมองไปที่ลูกบาศก์และพึมพัมกับตัวเอง ลูกบาศก์ขนาดเล็กที่เขาถือเอาไว้อยู่มีขนาดที่พอดีมือข้างหนึ่งของเขาถือได้อย่างสบาย ซึ่งมันมีขนาดที่ใหญ่พอที่จะใส่ไอเทมอย่างหนึ่ง
'เดี๋ยวสิ... ไม่มีทางน่า'
ถ้าเป็นไปตามที่เขาคิด เขาก็อาจจะเปลืยนอนาคตของตัวเขาเองได้ แต่ว่าลูกบาศก์นี่มีขนาดที่พอดีกับไอเทมขนาดเล็กเท่านั้นเอง ซังจินได้มองดูนิ้วมือของเขา บนมือของเขามีแหวนที่มีคุณภาพมากมายถูกเก็บสะสมไว้อยู่ แต่ว่าในแหวนทั้งหมดที่เขามี มีอยู่วงหนึ่งที่เขาสนใจที่สุดนั่นก็คือ 'แหวนจอมปราชญ์' นี่คือแหวนที่จะทำให้เขาใช้เวทมนต์ได้อย่างอิสระ
'ถ้าฉันใช้เวทย์ได้ในตอนที่กลับไปที่โลกล่ะ?'
ซังจินได้เริ่มใจเต้นแรงอีกครั้งหนึ่ง เขาได้วางมือลงบนแหวนและ
'ถอดการสวมใส'
นี่คือสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกมา
'โอ้... จริงด้วย'
เขานึกขึ้นได้ว่าเขาจะต้องใช้แหวนนี่ในวันพรุ่งนี้ด้วย หากเขามีแหวนวงนี้อยูเขาจะสามารถย้อนเวลาได้
'หากผู้ใช้ต้องการ การจะเปลื่ยนอนาคตกเป็นไปได้'
นั่นหมายความว่าอนาคตก็อาจจะเปลื่ยนไปเป็นแย่ลงได้เช่นเดียวกัน หากเขาทำการจู่โจมล่มเหลวเพราะเขาถอดแหวนออกถ้างั้นเขาก็จะไม่มีทางได้กลับไปที่ห้องบนดาดฟ้าได้อีก
'นี่มัน... ไม่ดีแน่...'
ซังจินได้ปล่อยมือออกมา จากนั้นเขาก็ไปตรวจดูแหวนวงอื่นๆ แต่ในตอนนี้พอเขามองดูแล้ว แหวนทุกๆวงต่างก็จำเป็นสำหรับการต่อสู้ หากเขาถอดแหวนออกไปเก็บไว้ในลูกบาศก์ก็จะส่งผลให้เขาเสียพลังในการต่อสู้ไป
'แหวนพวกนี้... ฉันถอดออกไปไม่ได้เลย... ยังมีอย่างอื่นอีกไหมนะ...'
จากนั้นซังจินก็ได้นึกย้อนไปถึงบทสนทนาที่เขาได้พูดกับพ่อค้าในตลาดมืด
'เมื่อคุณมีตัวเลือกอยู่หนึ่งอย่าง ก็จงเลือกสิ่งนี้ซะ ความจริงคือสิ่งที่มีคุณค่าอยู่เสมอ'
ซังจินได้ยกมือขึ้นไปจับที่หูของเขา 'ดวงตาแห่งเจเรมิส' ต่างหูนี้จะทำให้เขาอ่านความคิดของคนอื่นได้
'ถ้าแบบนี้...'
นี่เป็นของที่ไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้เลย แล้วนี่ก็เป็นการจู่โจมสุดท้ายแล้วทำให้เขาไม่จำเป็นต้องไปอ่านความคิดคนอื่นอีก
"ยกเลิกการสวมใส่"
ซังจินได้ถอดต่างหูออกมาเก็บลงไปในลูกบาศก์ทันที
'ด้วยต่างหูนี่... ฉันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกหลอกอีก... อืมม... แต่ฉันก็ไม่ได้มีเงินให้ใครมาหลอกนี่...'
ระหว่างเขากำลังจะปิดลูกบาศก์เขาก็ได้คิดแบบนี้ขึ้น แต่จากนั้นเองเขาก็มองเห็นถึงเครื่องประดับรูปร่างดวงดาวที่เขายังถืออยู่
'...เอ๋?'
ซังจินได้เอาเครื่องประดับรูปดวงดาวมาวัดขนาดกับลูกบาศก์ ซึ่งมันดูจะพอดีกัน แต่ถ้าแบบนั้นเขาก็ต้องเอาต่างหูออกมา อย่างแรกเลยซังจินได้เอาต่างหูออกมาและวางดวงดาวลงไปภายใน มันไม่ได้พอดีกันนะ แต่หลังจากลองพยายามหลายๆครั้ง เขาก็วางเครื่องประดับรูปดาวยัดลงไปได้สำเร็จ
"ได้ผล!"
ซังจินได้ตะโกนออกมาอย่างยินดี จากนั้นเขาก็พยายามจะชัดต่างหูลงไปในช่องหว่างระหว่างดาวห้าแฉก แล้วก็โชคดีที่ต่างหูมีขนาดพอดีที่จะใส่ไปได้ ซังจินได้ตะโกนขึ้นอีกครั้งทันที
"นั่นแหละ!"