ตอนที่แล้วบทที่ 183 - The Chosen Ones (8) [19-06-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 185 - The Chosen Ones (10) [24-06-2020]

บทที่ 184 - The Chosen Ones (9) [22-06-2020]


บทที่ 184 - The Chosen Ones (9)

ซังจินได้มองคนอื่นๆที่กำลังกังวลอยู่ สำหรับการจู่โจม 300 คนนี้คือครั้งแรก มีสิ่งต่างๆที่พวกเขาไม่อาจจะคาดเดาได้เลย

ฮิวเดอร์แบรนได้ยกมือขึ้นมาทันที

"300... คนนี่มันเป็นไปได้หรอ?"

บัลเทรนได้หยักหน้าเห็นดูและพูดออกมา

"นายพูดถูก เราจะต้องเจอกับมอนสเตอร์แบบไหนกันในการต่อสู้ครั้งนี้?"

นาดาก็ยังยกกระดาษข้อมูลขึ้นและตอบกลับมา

"เขาบอกว่าจะเป็นการผสมมอนสเตอร์แบบสุ่มๆจากบทก่อนๆ"

ข้อมูลในกระดาษที่เธอถืออยู่มีข้อความเขียนไว้แค่สองบรรทัดเท่านั้น

'การจู่โจม 300 คน สถานที่: ห้องโถงนักล่า'

'สุ่มศัตรูจาก 20 บทก่อนขึ้นมาเกิด'

"ถึงจะบอกว่าเป็นการสุ่ม... แต่ในเมื่อโอเปอร์เรเตอร์บอกว่าจะปรับเข้ากับ 300 คน มอนสเตอร์พวกนั้นก็น่าจะถูกเพิ่มพลังขึ้นอีกมาก"

ระหว่างนักล่ากำลังคุยกันเองอยู่ ซังจินก็ยังหันไปมองเอ็ดเวิร์ดเป็นครั้งคราว เอ็ดเวิร์ดกำลังนั่งอยู่ในโต๊ะด้านที่อยู่ไกลออกไป เขาได้มองรอบๆด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้เลย ถึงแม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่เขาต้องการก็ตาม เหตุผลที่เอ็ดเวิร์ดโจมตีคนอื่นแบบนั้นบางทีก็อาจจะเพราะว่าเขาหมดหวังหลังจากได้เห็นอนาคตของการจู่โจม 300 คน ตอนที่อยู่ปราสาทราชาปีศาจก็ได้

ไม่ว่า 10 คนสุดท้ายที่รวมตัวกันจะแข็งแกร่งยังไง ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีทางทดแทนคนทั้ง 300 คนได้แน่ เขาก็เลยเลือกซังจินมาแทนเขา

ซังจินรู้สึกผิดต่อเอ็ดเวิร์ดมากที่ซังจินไม่เคยรู้ความคิดพวกนี้เลย

'ขอโทษนะ... ฉันรวบรวมสมาชิก 300 คนได้ล้มเหลวเอ็ดเวิร์ด'

ภายในโรงแรมเก้าสิบเก้าราตรีได้เต็มไปด้วยเสียงถอนหายใจ

"ฮ่าห์... มาหักมุมในตอนท้ายซะนี่"

"โอเปอร์เรเตอร์เวรนั่น เอาแต่เก็บความลับเอาไว้อยู่ได้"

"แต่ว่าโอเปอร์เรเตอร์ก็เป็นแบบนี้มาตลอดนั่นแหละ เขาก็แค่หลงลืมไปเท่านั้นเอง"

"แต่ตอนนี้... จะไม่เป็นไรหรอ?"

ซังจินได้ปรบมือเรียกความสนใจจากทุกๆคนมาที่เขา

"ทุกๆคนฟังหน่อยนะ"

สายตาทั้งเก้าคนได้มองมาที่ซังจินทันที

"ทุกคน... ฉันเข้าใจนะว่านี่เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ว่าเพราะแบบนี้แหละเราถึงต้องมุ่งหน้าไปต่อและรวมพลังกัน"

คำพูดของซังจินดูจะทำให้พวกเขาใจเย็นลง ซังจินได้พูดต่อไป

"ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นแบบนี้ แต่ว่า... ทุกๆคนที่นี่ได้ถูกฉันเป็นคนเลือกเข้ามา ตอนนี้จำนวนของนักล่าที่รอดชีวิตอยู่คือ 256 คน สำหรับการจู่โจม 300 คน เราขาดไปแค่ 44 คนเท่านั้นเอง พวกเราต้องพยายามที่จะเติมเต็มในช่องว่างเหล่านั้นให้ได้"

หลังจากได้ยินแบบนี้มาฮาเดสก็พูดออกมา

"คุณพูดถูกสุดยอดนักล่า สำหรับการจู่โจมสุดท้ายนี้ถ้าเราพยายามกันต้องไปได้ดีแน่"

ฟรานซ์ก็ยังแสดงความเห็นออกมาเช่นกัน

"ใช่แล้ว พวกเราถึงขนาดได้ค่าสถานะจากผู้ถูกเลือกแล้วนะ พวกเราจำเป็นต้องทำงานทดแทนกันแล้ว"

มุสตาฟาได้ลูบหนวดของเขาและเสริมขึ้นอีก

"แค่ 44 คนเอง ถ้าสุดยอดนักล่าทดแทนนักล่า 10 คน... ถ้างั้นเราก็แค่ทำหน้าที่แทนแค่ 3-4 คนเท่านั้นเอง... มันเป็นไปได้อยู่แล้ว"

ฮิโรกิที่อยู่ข้างๆก็โผล่ขึ้นมาเช่นกัน

"ผมไม่กังวลเลยสักนิด ถ้าเป็นอาจารย์ อาจารย์ต้องทำได้มากกว่า 10 คนอีก... น่าจะทำแทนได้ 20 คนเลยล่ะมั้ง"

ท่ามกลางการมองในแง่ดีแบบนี้ซังจินก็ยังรู้สึกได้ว่าเอ็ดเวิร์ดได้มองมาที่เขาด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ เรื่องนี้เขาก็พอจะคาดเอาไว้แล้ว

ซังจินในสายตาของเอ็ดเวิร์ดดูเหมือนพวกฆาตกรเพราะจู่ๆเขาก็เข้าไปโจมตีเอ็ดเวิร์ดอย่างไร้เหตุผล แต่ที่นี่ซังจินกลับได้รับความเชื่อใจจากทุกๆคน ซังจินได้เริ่มพูดอีกครั้งหนึ่งเมื่อรู้ถึงสายตาของเอ็ดเวิร์ด

"ถ้างั้นทุกๆคนก็เตรียมจิตใจกันให้พร้อมให้มากที่สุดนะ ไว้เจอกันในตอนเช้า"

ผู้ถูกเลือกทุกๆคนได้ตอบกลับมาพร้อมๆกัน

"เข้าใจแล้ว"

***

เมื่อทุกๆคนจากไปแล้วซาดาเมียก็ได้เข้ามาหาซังจิน

"เป็นคืนสุดท้ายแล้วสินะนายท่าน"

"นายพูดถูก ขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันมาตลอดนซาดาเมีย ขอบคุณจริงๆ"

"สำหรับข้าแล้ว... การได้รับใช้นายท่านได้ทำให้ข้าได้เห็นเวทมนต์มากมาย แค่นี้ก็มากพอแล้ว"

"ฉันดีใจนะที่นายคิดแบบนั้น"

ซังจินได้พูดขึ้นอีกครั้ง

"แต่ว่าตอนนี้ฉันพึ่งนึกได้นะ... เมื่อการจู่โจมจบลงจะเกิดอะไรขึ้นกับนายกัน?"

"นั่น... น่าจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโอเปอร์รเตอร์ ไม่ข้าได้กลับไปที่ทะเลทรายคูตาลหรือไม่ก็กลายเป็นเศษฝุ่นไป"

ซังจินได้ถามขึ้นกับโอเปอร์เรเตอร์ทันที

"โอเปอร์เรเตอร์ เมื่อการจู่โจมจบลงไปแล้ว... จะเกิดอะไรขึ้นกับซาดาเมีย?"

ซังจินได้พูดออกมาอย่างไม่มั่นใจ เขารู้สึกไม่ค่อยอยากจะได้ยินคำตอบจากโอเปอร์เรเตอร์เลย แต่แล้ว

[สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างการจู่โจมจะถูกส่งกลับไปในมิติเดิมของพวกเขา]

คำตอบของโอเปอร์เรเตอร์เป็นเรื่องน่ายินดี ซาเดาเมียก็ยังตกใจมากๆกับเรื่องนี้

"โอ้... โชคดีมากเลย หากข้าได้เอาประสบการณ์ที่ได้เจอไปค้นคว้าเวทมนต์ต่อ..."

แต่แล้วเสียงของเบสโกโร่ก็ขัดเขาไว้

'โล่งใจมาก! ยังมีอีกหลายอย่างเลยที่ข้าอยากทำให้สำเร็จ!'

ซังจินได้วางมือลงบนหน้าผากและพูดขึ้น

"เบสโกโร่ ซาดาเมียจะได้กลับไปในที่ที่คุ้นเคยกันทั้งนะ แต่สำหรับนายล่ะ... มันไม่ใช่ว่านายจะต้องกลายไปเป็นฝุ่นหรอกหรอ?"

'ท่านกำลังพูดอะไรกัน ชีวิตของข้าเพิ่งจะเริ่มต้นเอง'

ซังจินอยากจะพูดอะไรอีก แต่ว่าเบสโกโร่ก็ได้พูดขึ้นแทน

'จริงสิ แล้วมูนสเปค(ดาบจันทร์กระจ่าง)ล่ะ?'

ซังจินได้เปิดปากออกมา

"อะไรนะ...?"

แล้วจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่ขี้อายของมูนสเปค

'ค่ะ ท่านเบสโกโร่'

'ฉันได้ยินเรื่องการแต่งงานของวิญญาณมานะ? เราจะได้แต่งงานกลายเป็นคู่รักกัน'

"ว่าไงนะ?"

ซังจินได้ตะโกนออกมาอยากตกใจ จากที่เขารู้มาเบสโกโร่คือชายแก่อายุ 50 ส่วนมูนสเปคเป็นแค่เด็กสาวที่อายุน้อยกว่า 18 ปีซะอีก แต่จะแต่งงานกันนี่... ซังจินได้พูดกับมูนสเปคทันที

"เฮ้ มูนสเปค ตาลุงอายุ 50 ปีนี่กำลังหลอกเด็กสาวนะ... ฉันหมายถึง... เธอรู้เพราะได้ยินทุกๆเรื่องมาแล้วใช่ไหม?"

มูนสเปคได้อยู่กับซังจินมาตลอดเวลาตั้งแต่บทที่ 3 ในตอนที่ซังจินเจอเบสโกโร่เธอก็อยู่ด้วยเพราะงั้นเธอก็น่าจะได้ยินทุกๆเรื่อง

'ไม่มีปัญหาค่ะ บางทีอาจจะเพราะความมีอายุของท่านเบสโกโร่... เขาดีกับฉันมาก สำหรับฉันแล้ว... นี่เป็นครั้งแรกเลย... ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากๆ'

ซังจินได้แต่เกาหัวออกมา พอมาลองคิดดูแล้วมูนสเปคคือวิญญาณสาวเวอร์จิ้นที่ตายโดยไม่เคยได้ออกเดทเลยสักครั้งนี่นะ

"แต่ว่า... ฉันได้ถึงข้อห้ามในตอนที่ฉัน..."

เบสโกโร่ได้พูดแทรกขึ้นราวกับนักปรัชญา

'ความรักก็เหมือนน้ำที่มักจะไหลลงมาจากที่สูง นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะห้ามกันได้หรอกนะหนุ่มน้อย'

ซังจินได้กัดฟันแน่น เขาไม่ชอบความบ้านี้ของเบสโกโร่เลย แต่ว่าในเมื่อมันสายเกินไปแล้วที่จะแก้ไขทำให้เขาได้แต่แสดงความยินดีกับทั้งสองคน

"โอเคๆ ขอให้ทั้งสองคน... มีความสุขแล้วกันนะ"

'ขอบคุณค่ะ นายท่าน'

'ฮึ่มๆ เข้าใจแล้ว นายท่านควรจะไปเจอผู้หญิงบ้างนะในตอนที่กลับโลกไปน่ะ จากมุมมองของข้านะ ท่านก็ไม่ได้ดูแย่ แต่ว่าถ้าทำหน้าให้ดีขึ้นหน่อยล่ะก็...'

ซังจินทนไม่ไหวอีกแล้วทำให้เขาถอดหมวกออกมาางทิ้งเอาไว้และเดินออกมา เขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จากนั้นเขาก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะทิ้งมูนสเปคเอาไว้บนโต๊ะด้วย ซังจินได้เดินออกมาจากโรงแรมเก้าสิบเก้าราตรี

เคนที่ตอนนี้สูงกว่าสองเมตรไปแล้วก็ได้มาเดินวนรอบตัวเขา ซังจินได้ลูบหัวแล้วพูดขึ้น

"เคน พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนะ"

"บรูฟ บรูฟฟ"

ซังจินได้พูดต่อออกมา

"ฉันไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นมา... แต่ก็ขอบคุณจริงๆนะเคน"

เคนได้หอนสั้นๆออกมาเป็นการตอบกลับ

"บรู๋วววววว~"

เคนดูจะรู้ว่าไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ยังไงพวกเขาก็จะต้องแยกจากกัน

"แกว๊ก"

กริฟฟินราเจ็นต้าก็ยังเดินเข้ามาถูตัวกับซังจิน

"ราเจ็นต้านายก็ด้วยนะ... ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างนะ"

"แกว๊กก"

จากนั้นซังจินก็กลับเข้าไปในโรงแรมเก้าสิบเก้าราตรี ดารูปินก็ยังคงมองซังจินด้วยดวงตากลมโตทั้งสองข้างเช่นเคย

"ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ ดารูปิน"

"ครับ สุดยอดนักล่า"

ซังจินที่กำลังเดินขึ้นบันไดก็ได้คิดถึงเรื่องหนึ่ง

"ดารูปิน... เมื่อการจู่โจมจบลงจะเกิดอะไรขึ้นกับนายกัน?"

ดารูปินได้เงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ

"กระผมจะรับลูกค้าคนอื่นๆ"

"ลูกค้าคนอื่น...?"

"ครับ"

"ฉันคิดว่าหลังการจู่โจมจบลง มนุษยชาติทั้งหมดจะกลับสู่โลกแล้วนะ"

แล้วดารูปินก็พูดในสิ่งที่เหมือนแนวคิดออกมา

"ถ้าความเป็นจริงคือความฝัน แล้วความฝันเป็นความจริง ถ้างั้นเรื่องราวก็เป็นสิ่งที่เหลืออยู่สำหรับมนุษยชาติ"

แต่คำพูดพวกนี้ดูคุ้นเคมากๆ

"กระผมจะอยู่ที่นี่ไปตลอดจนกว่าเรื่องราวนี้จะจบลง"

มันดูจะลึกลับไปนิดแต่ก็ชั่งเถอะ ซังจินได้เลือกที่จะกล่าวลา

"...เข้าใจแล้ว ไม่ว่าจะยังไงฉันก็คงจะรบกวนนายจนถึงพรุ่งนี้เช้านะดารูปิน"

ดารูปินได้โค้งให้กับซังจินและตอบกลับมา

"แน่นอนสุดยอดนักล่า"

เมื่อซังจินได้กลับมาในห้อง เขาก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที นี่คือคืนสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้ใช้ภายในโรงแรมเก้าสิบเก้าราตรี มีเรื่องต่างๆมากมายได้เกิดขึ้น ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่การจู่โจมจะจบลง เขาและมนุษยชาติทุกๆคนจะกลับไปที่โลกอย่างปลอดภัย ซังจินได้กำหมัดแน่นและคิดขึ้นมา

'ตอนนี้... ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี... ในคืนวันพรุ่งนี้ฉันก็คงกำลังนอนอยู่ในอพาร์ตเมนต์สินะ?'

แต่จู่ๆซังจินก็คิดเรื่องหนึ่งได้

'ดาวนั่น!'

คิดดูแล้ว เขาน่าจะดูในอนาคตของวันพรุ่งนี้ได้สิ

'ใช่แล้้ว'

ซังจินได้หยิบเอา 'ดวงดาวแห่งการเปิดเผย' ออกมาจากลูกบาศก์ เขายังคงใช้มันได้ในวันพรุ่งนี้เช่นกัน

'ด้วยเจ้านี่... ถ้าฉันใช้มัน... ฉันก็จะได้เห็นผลลัพธ์ของการจู่โจมในวันพรุ่งนี้ได้'

นี่มันได้ทำให้เขาใจเต้นแรง ซังจินได้ถือดาวเอาไว้และนอนลงบนเตียง

'...ถ้า ถ้าฉันใช้มันในทันทีที่คูลดาวน์หมดลงถ้างั้น... ฉันก็จะได้เห็น ถ้าการจู่โจมสุดท้ายสำเร็จด้วยดี ฉันก็จะได้เห็นตัวเองกลับไปที่โลก... แล้วถ้าไม่... ฉันก็น่าจะไม่ได้เห็นอะไรเลย'

หรือไม่เขาก็อาจจะได้เห็นตัวเขาย้อนกลับไปที่บทที่ 1 ของการจู่โจม นี่มันน่าจะเป็นไปได้หากเขาได้กลายเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายอีกครั้ง

"ไม่... ฉันไม่ต้องการแบบนั้น"

ซังจินได้พูดคำเหล่านี้ออกมา เขาไม่อยากที่จะต้องมาเจอกับการจู่โจมอีกแล้ว ซังจินได้กัดริมฝีปากขึ้น

"โอเปอร์เรเตอร์กี่โมงแล้ว"

[2 ทุ่ม 38 นาที]

คูลดาวน์จะถูกรีเซ็ตในแต่ล่ะวัน ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมงถึงจะขึ้นวันใหม่

'ฉันควรจะทำอะไรดี? ฉันควรจะนอนแล้วก็มาดูในตอนเช้าใช่ไหม?'

การคิดอย่างใจเย็นจะดีที่สุด การได้พักอย่างพอดีจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ในวันพรุ่งนี้

'ใช่แล้ว นั่นคงจะดีที่สุด'

ซังจินได้คิดกับตัวเองและวางดาวลงถัดไปจากเขา เขาได้หลับตาลงไป แต่ว่าความกังวลถึงอนาคตข้างหน้าได้ทำให้เขาหลับไม่ลง

'อ๊า... ฉันสงสัยมาก ถ้าฉันรอจนกระทั่งเทียงคืนเพื่อดูเมืองโซลมันก็คงจะดีกว่า...'

ความคิดของเขาได้เริ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก และในท้ายที่สุดซังจินก็ไม่อาจจะนอนหลับลงไปได้จนกระทั่งถึงตอนเที่ยงคน ซังจินได้หยิบเอาเครื่องประดับรูปดาวออกมา และตัดสินใจดูอนาคตของวันพรุ่งนี้หลังจบการจู่โจม

"แสงดาว"

สภาพแวดล้อมรอบตัวเขาได้มืดลงและเริ่มเผยให้เขาได้เห็นถึงบางสิ่ง

ซังจินได้ตั้งสมาธิมากขึ้นกว่าที่แล้วมาเพื่อที่จะมองสิ่งที่จะถูกแสดงออกมา

'จะเป็นชีวิตหรือความตายกันนะ'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด