บทที่ 122 - ความโลภเขมือบทุกสิ่ง (9)
บทที่ 122 - ความโลภเขมือบทุกสิ่ง (9)
”
ไวเวิร์นไม่ได้บินกลับไปที่วัง แต่ว่าได้หยุดกลางทางและปล่อยพวกเราลง นี้ก็คือจุดนัดพบที่เรานัดกันไว้ล่วงหน้า
รูเดียที่ได้หลบไปซ่อนในดันเจี้ยนตามคำขอของฉันก็ได้กลับมาและรออยู่ที่นี่ คนอื่นๆที่ได้หนีออกมาจากแคมป์อย่างปลอดภัยก็ยังได้มารวมตัวกัน ในขณะที่ทีมของฉันหลับหนีพวกเราก็ได้ทำลายบาเรียไปให้เกิดความวุ่นวายทำให้พวกเขาได้หนีไปง่ายขึ้น
"มันมีข้อความอะไรซักอย่างเกี่ยวกับศัตรูของโลกหรอ?"
"นายไม่ได้ไปช่วยเหลือพวกที่ถูกจับหรอ? ทำไมนายถึงกับมาแค่นี้ล่ะ?"
ทหารรับจ้างที่โผล่ออกมาได้ถามคำถามขึ้น ยังไงก็ตามฉันได้ยกมือขึ้นและพยุดพวกเขา
"รูเดียก่อนอื่นถอยออกมาจากอัศวิน"
"อะไรนะ? กรี๊ด!"
ในขณะที่ฉันพูดแบบนั้นอัศวินก็ได้เดินเข้ามาไม่ใช่เพื่อป้องกันรูเดีย แต่เป็นการจับตัวเธอ เอาเข้าไป! อัศวินที่รอดทั้งหมดก็เป็นคนทรยศ!? แม้แต่นักเวทย์...!
"พวกเขาทั้งหมดเป็นพวกคนทรยศ!"
ฉันได้ตะโกนออกมาและใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ ฉันได้แทงหอกเข้าใส่อัศวินที่พยายามจะจับแขนของรูเดีย จากนั้นก็กระโดดถอยกลับไป ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 3 วินาที
"เกิดอะไรขึ้น!?"
"เด็กใหม่นายเร็วจริงๆ...!"
"อึก!"
พวกเขาได้เข้าใจในสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ฉันได้เข้าไปช่วยรูเดีย พวกเขาก็ได้พยายามที่จะหนีเข้าไปในดันจี้ยน เมื่อในตอนที่ฉันจะจับพวกเขาไว้ด้วยพลังของริยู....
[นักสำรวจที่ทรยศต่อโลกของเขาและได้เข้าร่วมกับศัตรูของโลกได้ถูกเตะออกไปจากดันเจี้ยน]
[ความสามารถของพวกเราในฐานะนักสำรวจดันเจี้ยนได้ถูกลืมเลือน]
อะไร? ดวงตาของฉันได้หรีลง ข้อความที่พูดมานี่มันอะไรกัน ทำไมดันเจี้ยนถึงทำแบบนี้?
ทันใดนั้นอัศวินและจอมเวทย์ที่พยายามจะเข้าไปในดันเจี้ยนก็ได้ล้มลง มันเหมือนกับว่าเป็นเพราะพวกเขาสูญเสียความแข็งแกร่งไป ทหารรับจ้างต่างมิติไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ พวกเขาได้โจมตีเข้าไปในจุดสำคัญของคนที่ทรยศและฆ่าพวกเขา
"ทำไมดันเจี้ยนถึงมาคิดได้ในตอนนี้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูของโลก?"
[ระบบของดันเจี้ยนจะคำนวนจากพื้นที่ข้อมูล ช่องเก็บของ และไอเทมที่ดรอปออกมาทั้งหมดโดยอัตโนมัติ แต่ว่าไม่สามารถจะไปสนใจนักสำรวจคนใดได้เป็นพิเศษตลอดเวลา นอกจากนี้การที่จะค้นหานักสำรวจที่เข้าร่วมกับศัตรูของโลกมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นทหารรับจ้างต่างมิตก็จะต้องหานักสำรวจที่ทรยศด้วยตาของตนเอง]
"สุดยอดไปเลยพี่สาวส่งข้อความ"
พี่สาวส่งข้อความได้คลายความสงสัยของฉัน ดูเหมือนว่าทหารรับจ้างคนอื่นๆจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะพวกเขาได้ฆ่าคนทรยศอย่างเฉียบขาด ซึ่งมันจะต้องมีรางวัลสำหรับการฆ่าคนทรยศเช่นกัน...
[คนทรยศทั้งหมดได้ถูกฆ่า รางวัลจะถูกแบ่งตามความเหมาะสม]
[ผู้เป็นที่รักของเดม่อนลอร์ดได้ถูกฆ่า คุณได้รับแต้มสเตตัส 5 แต้มและแต้มทักษะ 2 แต้มเป็นรางวัล ได้รับแต้มสเตตัส 13 แต้ม แต้มทักษะ 2 แต้ม]
ชิ ฉันไม่ต้องการรางวัลที่ขมแบบนี้ เมื่อเห็นสีหน้าของฉันที่มืดมนไปรูเดียที่มองฉันอยู่ก็ตกใจและถอยออกมาจากฉัน จากนั้นเธอก็ถามออกมา
"ชินะ ชินะอยู่ไหนล่ะ?"
"...รูเดีย"
"ชิน ชินะอยู่ไหน?"
ฉันได้ชี้ไปที่ไวเวิร์น บนหลังของมันมีศพของชินะที่ถูกเผาอยู่ เมื่อรูเดียเห็นศพ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
"พวกยืนยันได้เลย ชินะ...เป็นศัตรู"
"นั่นมัน...เรื่องโกหก"
"เด็กใหม่พูดความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพวกเราก็จะตายกันทั้งหมด ดาบปีศาจเล่มนั้นมันทำให้ฉันสั่น"
"ชินะมี...ดาบปีศาจ?"
"ใช่แล้ว"
ฉันได้หยักหน้ารับ รูเดียได้เข้าไปหาไวเวิร์นอย่างช้าๆและดึงศพลงมา เมื่อได้เห็นศพที่ถูกผ่าครึ่งเธอก็กลายเป็นพูดไม่ออก ฉันอดไม่ได้จึงพูดกับเธอ
"....รูเดีย"
"ใคร....ใครเป็นคนฆ่าเธอ?"
"ฉันเอง"
ฉันได้บอกความจริงกับเธอไป เธอได้ปิดตาแน่นและเปิดขึ้นใหม่
"อย่าโกหกและบอกความจริงมา"
"ฉันได้ฆ่าเธอ ชินะได้พยายามจะฆ่าฉันที่ปลอมตัวเป็นเธอ"
"ได้โปรด...อย่าโกหก!"
"...ขอโทษนะ แต่ว่าฉันไม่ได้หลอกเธอ ฉันเป็นคนฆ่าชินะ"
ริมฝีปากของรูเดียได้ฉัน เธอได้อ้าปากและปิดปากราวกับพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง จากนั้นเธอก็จ้องมาที่ฉัน
"นี่มันคืออะไร?"
"รูเดีย"
"นี่มันคืออะไรกัน!?"
รูเดียได้ตะโกนออกมาด้วยเสียงดังที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่่อน
"นี่คือสิ่งที่นายต้องการงั้นหรอ? ทำให้ฉันต้องหนีไปในดันเจี้ยนเพราะอันตราย ปลอมตัวเป็นฉัน เกือบจะถูกชินะฆ่าตาย และจากนั้นก็ฆ่าเธองั้นหรอ? ฉันได้รอนายอยู่ในดันเจี้ยนโดยที่ไม่รู้อะไรเลยเหมือนกับไอโง่! ฉันควรจะทำอะไรหลังจากได้ยินเรื่องนี้? นี้มันคืออะไร!?"
"ฉันไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ ฉันไม่อยากให้มันเป็นเรื่องจริงเลย!"
"ฉันควรจะไปกับนายเหมือนอย่างที่ฉันคิดในตอนแรก ฉันควรจะไปกับนายแม้ว่าฉันจะถูกชินะฆ่า ฉันก็ควรจะไป! ฉันจะได้เห็นด้วยตาและเจอกับสิ่งนั้นด้วยตัวเอง!"
"เธอจะตายนะ!"
"ฉันก็ควรจะตาย! เพราะว่านายปกป้องฉัน ฉันก็เลยกลายเป็นคนที่โง่เขลาที่สุดในโลก! นี้ก็คือสิ่งที่นายต้องการหรอ นายต้องการจะให้ฉันอยู่แต่ในดันเจี้ยนอย่างเชื่อฟังเพียงเพราะว่านายบอกว่ามันอันตราย จากนั้นก็คลานออกมาเมื่อทุกๆสิ่งจบลงไปแล้ว เห็นศพของน้องสาวตัวเองและหยักหน้ารับพร้อมพูดว่ามันช่วยไม่ได้นี่เพราะว่าเธอเป็นคนทรยศงั้นหรอ?"
"ฉันจะทำแบบนั้น!"
ฉันก็ได้ตะโกนออกไปเช่นกัน
"ฉันก็ยังดีกว่าเธอตาย! ฉันไม่ต้องการที่จะเสียเพื่อนของฉันไป นี่มันผิดหรอ?"
"เพราะนายได้พยายามจะปกป้องฉัน ฉันก็เลยสูญเสียอำนาจในฐานะครอบครัวจักรพรรดิ ศักดิ์ศรีของฉันของฉันในฐานะนักสำรวจและแม้กระทั่งคุณสมบัติของฉันที่จะเป็นเพื่อนกับนาย! เพราะว่าฉันกลัวน้องสาวที่เป็นคนทรยศ ฉันเลยได้กลายเป็นคนขี้ขลาดที่ทิ้งเพื่อนที่ไปช่วยน้องสาวของฉันและไปซ่อนตัวในดันเจี้ยน!"
"แล้วนั่นมันผิดอะไรล่ะ!? เธอไม่เข้าใจความสำคัญของเธอ!"
"นายนั่นแหละเป็นคนที่ไม่เข้าใจ! ดูที่ฉันสิ! ทั้งพ่อและแม่ถูกฆ่า แต่ฉันกลับเอาแต่ซ่อนตัวอยู่บ้านหลังเล็กๆในดันเจี้ยน ฉันไมม่สามารถแม้แต่จะเห็นชินะตายได้ด้วยตาของตัวเอง และฉันก็ยังมาได้ยินว่าคนที่ฆ่าน้องสาวฉันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนาย!"
"อะไร...?"
"ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว! ฉันไม่มีอะไรเหลือเลย! ไม่มีอะไรที่จะปกป้องไว้ได้ ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อไป! ฉันน่าจะตายไปเพื่อชินะ ฉันน่าจะปกป้องนายและตายไป! ด้วยวิธีนี้อย่างน้อยฉันก็ได้ปกป้องเพื่อนของฉัน!
จักรพรรดิและจักรพรรดินีตายแล้วหรอ? ฉันต้องการจะพูดอะไรออกไป แต่ฉันก็ไม่สามารถเปล่งคำออกไปได้ ฉันจำได้ว่าชินะพูดว่าปีศาจระดับสูงได้ไปโจมตีที่พระราชวัง
จักรพรรดิและจักพรรดินีได้ทิ้งเจตจำนงไว้เพื่อเธอง้นหรอ? พวกเขาได้พบกับจุดจบที่ทรงเกียรติสินะ? ฉันไม่รู้ว่าจะเศร้าหรือมีความสุขที่ว่าอย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้ถูกทรมานจนตายเหมือนในความฝันของฉัน
รูเดียได้ทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดหวัง จากนั้นเธอก็พึมพัมออกมาด้วยเสียงที่แทยจะไม่ได้ยิน
"ขอโทษชิน ขอโทษ...ขอโทษสำหรับการส่งนายมาที่นี่...ฉันคือคนที่จะทำให้นายฆ่าชินะด้วยมือนายเอง ฉันเป็นคนที่..."
เมื่อฉันเห็นเธอโทษตัวเองฉันก็ได้ผงะขึ้น ในตอนนี้จิตใจของเธอไม่มั่นคงอย่างมาก หลังจากที่ได้คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ฉันก็ต่อกลับไปด้วยเสียงนิ่งๆ
"...นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ"
"ฉันมันแย่ที่สุด ฉันมันไร้ค่า ฉันมันเป็นคนที่โง่เง่าที่ได้รับความกลัวในช่วงเวลาที่สำคัญและปล่อยให้คนอื่นทำหน้าที่ของฉันแทน ฉันมันไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นเชื้อพระวงศ์ นักสำรวจ หรือไม่แม้แต่จะมีชีวิต..."
"รูเดีย อย่าพูดแบบนั้น!"
"ฉันเกลียดนาย ฉันอดไม่ได้ที่จะเกลียดนาย แต่ฉันก๋เกลียดตัวเอง ฉันเกลียดตัวเองที่เกลียดนาย...."
"รูเดีย เธอจะต้องพักผ่อนแล้ว ฉันขอร้องล่ะอย่าได้คิดเรื่องนี้อีกเลยและไปพักเธอ ถ้าเธอเกลียดฉัน ฉันก็จะหายตัวไป ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเกลียดฉัน ดังนั้นฉันจะหายไปไม่ให้เธอเห็นฉันอีก"
"ไม่!"
ทันใดนั้นรูเดียก็ได้ตะโกนออกมา ตาของเธอได้เต็มไปด้วยความกลัว
"นายขโมยน้องสาวไปจากฉันแล้ว และนายก็ยังแม้แต่จะเอาสิ่งที่ฉันมีอยู่ไป?W
"รูเดีย..."
รูเดียพูดถึงฉันหรอ? ฉันได้งงไปกับคำพูดของเธอ ฉันได้นิ่งไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เธอได้ลุกขึ้นและเข้ามาหาฉันพร้อมจับแขนของฉัน
"ไม่ ชิน อย่านะ ขอร้องล่ะ...นายเป็นเพียงคนเดียวที่ฉันเหลืออยู่ ฉันสูญเสียแม่ พ่อและชินะไปแล้ว ฉันไม่ต้องการจะเสียหายไปเหมือนกัน... ขอโทษนะ ฉันจะไม่เกลียดนาย ดังนั้นได้โปรดอย่าทิ้งฉันเลย ขอร้อง..."
รูเดียได้อ่อนแอมาก นั่นคือสิ่งที่แนคิด เธอได้ถูกกดดันไปจนถึงขีดสุด บาดแผลทางจิตใจที่เธอได้รับมามาก
"ไม่นะ อย่าไปนะ อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว...."
"เธอได้รับการโจมตีจากความจิตตกด้วยความคิดที่ว่าโลกจะล่มสลายไปเหลือเธอเพียงคนเดียวหรือไม่ก็คิดว่าเธอในตอนนี้เป็นคนไร้ค่า....มันเป็นเรื่องปกติมากสำหรับนักสำรวจที่สูญเสียโลกไป อย่างน้อยที่สุดเธอก็ยังมีนาย....เด็กใหม่นายควรจะคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะทำอะไรนะ"
ผู้อัญเชิญได้พูดขึ้นมาอย่างขมขืน จากนั้นเขาก็ได้หายตัวไป ทหารรับจ้างแต่ละคนก็ได้ค่อยๆหายไปทีละคน ฉันไม่สามารถจะตำหนิพวกเขาได้ เมื่อปีศาจได้ครอบครองพระราชวังแล้ว พวกมันก็จะเข้ามาหาเราเป็นเป้าหมายต่อไป มันเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องที่กลับไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในตอนท้ายมีเพียงแค่รูเดียและฉันที่เหลืออยู่ในที่แห่งนี้ รอบๆนี้ได้เงียบไปอย่างแปลกๆราวกับว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างโผล่ออกมา
"เอาล่ะ...ถ้าอย่างนั้นฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ แม้ว่าเธอจะเกลียดฉัน ฉันก็จะอยู่กับเธอเพราะว่าฉันไม่เคยเกลียดเธอเลย"
"ฉันเกลียดนาย แต่ว่า...ขอบคุณนะ...ฮิค"
รูเดียวได้กอดฉันเอาไว้และร้องไห้เงียบๆ ฉันได้รู้หลังของเธอเพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจ อะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเราสองคน? ความเป็นพวกของเราจะยังคงอยู่ไหมนะ? ความสัมพันธ์ที่เป็นอันตรายนี้จะสามารถหยุดเอาไว้โดยไม่พังทลายลงไหม?
การกอดเธอเอาไว้นั้นก็คือทั้งหมดที่ฉันสามารถจะทำให้เธอที่ร้องไห้ได้
"ศพของชินะ เผาเธอซะ"
เมื่อเธอได้หยุดร้องไห้นี่ก็คือสิ่งแรกที่เธอทำ เธอยังคงเกาะแขนฉันเอาไว้ ฉันไม่สามารถจะทำเป็นตลกเหมือนอย่างปกติได้เลย
"ได้โปรดลบร่องรอยของชินะ"
"...ฉันจะทำเอง"
เมื่อฉันกำลังเผาศพของชินะก็ได้มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลังของฉัน ในตอนนี้ได้มีคนอยู่ข้างหลังของฉัน นั่นก็คือเบลโลด ฉันได้สงสัยว่าเขาไปอยู่ไหน แต่ว่าเขาได้ล้มลงไปอยู่กับพื้นหลังจากที่ถูกทุบหัวโดยผู้อัญเชิญ เขาเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาและตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น...? ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกเสียใจกับเขา
"ฉันต้องการที่จะส่งเธอไป.... ได้โปรดเธอองค์หญิง"
"เบลโลด... ไม่เป็นไร ทำตามที่นายต้องการเถอะ"
รูเดียได้ทำท่าทางประหลาดใจ แต่ไม่นานนักเธออก็หยักหน้าด้วยท่าทางขมขื่น เบลโลดได้หยักหน้าอย่างสุภาพและชัดดาบออกอย่างช้าๆ ไฟได้ห้อมล้อมดาบของเขาเอาไว้เหมือนกับวงจรเพรูต้าที่จะมีสายลมหมุนล้อมรอบ เขาสามารถจะเปลื่ยนมานาของเขาให้เป็นไฟได้
"ท่านองค์หญิง...ข้าน้อยของให้ท่านพักผ่อนอย่างสงบ"
เปลวเพลิงของเขาได้ลอยไปอยู่บนซากของชินะและกำลังเผาเธอ พวกเราได้มองอย่างเงียบๆในขณะที่เบลโลดร้องไห้ออกมา
เมื่อศพของชินะถูกเผาจนกลายเป็นเถ้า เบลโลดก็ได้หันกับมาและคำนับพวกเราอย่างสุภาพ... ไม่สิ เขาคำนับให้กับรูเดีย
"ผมดีใจที่ท่านปลอดภัยองค์หญิง ผมควรจะถามถึงความปลอดภัยของท่านเป็นอย่างแรก ขออภัยด้วยสำหรับการก้าวล้ำเส้นนี้"
"ฉันให้อภัยนายเบลโลด....แล้วฉันก็ไม่ได้เป็นองค์หญิงอีกต่อไปแล้ว ฉันจะทิ้งสถานะราชวงศ์ของฉันไป"
"องค์หญิง!"
"เบลโลด มันไม่มีเวลาอีกแล้ว....นายก็ควรจะละทิ้งทวีปลูก้า"
เธอได้พูดสั้นๆ
"มันไม่มีความหวังเหลืออยู่ที่นี่อีกแล้ว ถ้านายไม่ต้องการที่จะตาบกับชินะก็จงหนีไปยังดันเจี้ยนในทันที นายจะไปอยู่ในกิลด์"
"แต่ว่าองค์หญิง....!"
"เบลโลดไปศะ ครั้งต่อไปที่เราเจอกันก็อย่าเรียกฉันว่าองค์หญิง ทวีปนี้....จบลงแล้ว"
[สมาชิกปาตี้เพลรูเดีย เกล็น อีเฮอ ได้กลายเป็นนักสำรวจอิสระ ด้วยความยินยอมจากคุณ คุณสามารถจะกับไปที่โลกด้วยกันกับเธอได้]
ด้วยสายตาที่สั่นเทื่อม เบลโลดได้มองไปที่รูเดีย จากนั้นเขาก็หันไปมองเถ้าของชินะซึ่งได้เริ่มปลิวไปตามสายลม เขาได้เม้มปากแน่นและหันกลับมาคำนับรูเดีย จากนั้นเขาก็หายไป เขาได้เข้าไปในดันเจี้ยนแล้ว เมื่อเห็นเขาหายไปรูเดียก็ได้เอนตัวลงมาในอ้อมกอดของฉันอย่างหมดแรง
"ฉันเหนื่อย...ฉันอยากจะพัก"
ฉันรู้สึกได้ถึงน้ำหนักตัวที่เธอเอนลงมา มันทำให้ฉันรู้ได้ว่าเธออ่อนแอมากแค่ไหน
ฉันไม่สามารถจะทิ้งเธอที่มีสภาพแบบนี้ไว้ในพื้นที่พักอาศัยได้
"รูเดียเธอต้องการจะ...ไปที่โลกไหม?"
ด้วยคำถามของฉันรูเดียได้เบิกตากว้างอย่างตกใจ เธอได้หยักหน้าของเธอ ผิวของเธอได้สว่างขึ้นมากกว่าก่อนหน้านี้ ฉันกังวลว่าเธอจะไม่ชอบ แต่แล้วฉันก็โลกใจ แม้ว่าเธอจะกลับไปยังพื้นที่พักอาศัยในตอนนี้มันก็อาจจะไม่ดีสำหรับเธอ
อย่างไงก็ตามพวกเราไม่สามารถจะออกไปจากทวีปลูก้าได้อย่างง่ายดาย
[ฮีโร่ผู้ช่วยชีวิต เหตุผลอะไรกันที่นายมาถึงโลกที่ล่มสลายนี้?]
ฉันรู้ได้ในทันทีว่าเสียงที่มืดมนนี้เป็นของเดม่อนลอร์ด เพียงแค่ได้ยินเสียงนี้รูเดียก็ได้ตัวสั่นและเกาะฉันแน่น ฉันก็ยังรู้สึกตัวสั่นจากการปรากฏตัวที่ฉันรับรู้ตัวร่างกาย
บนท้องฟ้ามีค้างคาวบินอยู่
[ช่วยให้อภัยฉันสำหรับความหยาบคายและไม่มาต้อนรับแขกด้วยร่างจริงของฉัน แต่ว่าตอนนี้่ร่างฉันของฉันอยู่ในการหลับลึกเพื่อรับพลังของโลก]
"นายกำลังพูดถึงพลังที่ได้รับด้วยการฆ่าฮีโร่ของโลกหรอ?"
[ถูกแล้วฮีโร่ นายสนุกกับเกมไหม? ภรรยาน้อยของฉันน่าจะให้ความบันเทิงกับนายนะ]
"แกมันน่ารังเกียจ ฉันไม่ต้องการการต้อนรับจากแกเลยเดม่อนลอร์ด"
[หึหึหึ...นายนี่พูดสิ่งที่น่าสนใจกว่าฮีโร่จากโลกอื่นๆอีกนะ]
จากนั้นค้างคาวก็พูดต่อไป
[เจ้าหญิงที่รอดชีวิตคนสุดท้ายมาหาฉันซะ เธอเป็นคนที่ฉันต้องการมาตั้งแต่เริ่มแล้ว ถ้าเธอมาเป็นของฉันเธอก็จะได้ทุกๆสิ่งที่เธอต้องการ]
"ในนามแห่งมิทารัสขอให้แกตายๆไปซะไ
รูเดียได้ถ่มน้ำลายออกมาและมองไปที่เดม่อนลอร์ดที่คุ้นเคยด้วยดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยคามกลัวและความโกรธ ฉันได้ตัดสินใจว่ามันจะดีที่สุดที่จะหยุดรูเดียจากการเห็นเดม่อนลอร์ด
[โอ้โชคร้ายอะไรแบบนี้ แม้แต่ฮีโร่ที่จับเธอไว้ก็จะต้องตายเร็วๆนี้ ในท้ายที่สุดฮีโร่นั่นก็เป็นเพียงแพะรับบาปเท่านั้น พวกเขาได้ถูกบังคับให้สู้กับพวกเราด้วยพรอันน้อยนิด]
"ย้อนกลับ!"
ฉันได้ใช้ทักษะย้อนกลับ สภาพแวดร้อยโดยรอบได้หลอมละลายกลายเป็นบิดเบี้ยวในทันที
ก่อนที่เราจะตระหนักได้ รูเดียและฉันก็ได้มาอยู่ในบ้านของฉันบนโลกแล้ว ในขณะที่รูเดียได้มองมาที่ฉันอย่างว่างเปล่า ฉันก็ได้ยิ้มบางและพูดออกมา
"เดม่อนลอร์ดมันเป็นลูกสุนัข เธอคิดว่าพวกเราจำให้เขาบ้าเพราะการหนีการสนทนากลางคันไหม?"
"...ใช่"
ในขณะที่ตาของเธอยังมึนงงอยู่รูเดียก็ได้หยักหน้า ทันใดนั้นเธอก็หัวเราขึ้น เมื่อมองไปที่เธอฉันก็ยังหัวเราะออกมา
ฉันได้รับชัยชนะครั้งแรกเหนือเขาแล้ว เดม่อนลอร์ด: 0 คังชิน: 1