ตอนที่แล้ว4 ดาบปีศาจเผิงห่าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป6 ยุคมืด

5 จำลองการสอบ


5 จำลองการสอบ

ในฐานะนักเรียนที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัย พวกเขาต่างก็ได้เรียนทุกคอสที่จำเป็นจนครบไปนานแล้ว ในอีกหนึ่งร้อยวันก่อนการสอบที่เหลืออยู่นี้ ก็คือช่วงเวลาที่พวกเขาจะต้องพยายามเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหาย และฝึกทำข้อสอบอีกเป็นจำนวนมาก และในทุกๆเช้าของแต่ละอาทิตย์ ก็จะมีการจำลองการสอบที่สุดแสนจะสำคัญสำหรับทุกคน

ภายใต้แรงกระตุ้นจากเหล่าคณาจารย์ที่ไร้ความอดทน หลี่เย้าสูดลมหายใจเข้าลึกและเดินเข้าไปใน “เครื่องทำการสอบ” ที่ติดหมายเลขประจำตัวของนักเรียนแต่ละคนเอาไว้ ประตูห้องสอบถูกปิด แล้วโลกทั้งใบก็เงียบสนิท

“ถึงฉันจะไม่ได้รับการสอนจากเผิงห่าย ฉันก็ยังต้องสอบเข้า”9 มหาวิทยาลัยชั้นนำ“อยู่ดี ถ้าฉันทุ่มทุกอย่างลงไปจนหมดแล้ว ยังจะมีอะไรต้องกลัวอีก?” หลี่เย้ากำหมัดแน่น

“ปี๊บ! ปี๊บ! ปี๊บ!” ด้านในเครื่องทำการสอบได้ปรากฏหน้าจอโฮโลแกรมขึ้นมา พร้อมกับเสียงสัญญาณที่ดังขึ้น ในเวลานั้น การนับถอยหลังก็เริ่มขึ้น เมื่อถึงเลขศูนย์ เสียงที่ที่ดูโบราณและไร้อารมณ์ก็พูดขึ้น “เริ่มการสอบ นักเรียน เตรียมตัว!”

ภายใต้การกระตุ้นของอักขระนับพัน ภายในเครื่องทำการสอบก็ได้เกิดแสงวาบขึ้นที่หน้าจอโฮโลแกรม หลี่เย้ามองเห็นแค่เพียงดอกไม้ที่เบ่งบานหมุนเกลียวและดวงดาวที่วาดผ่านสายตาของเขาเท่านั้น และแล้วเขาก็ไปปรากฏอยู่กลางดินแดนทะเลทรายสีน้ำตาลแดงที่ร้อนระอุ

ผืนทรายร้อนราวกับไฟเผา เท้าของเขารู้สึกเหมือนกับถูกเข็มทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา คลื่นความร้อนแผ่ออกมาอย่างหนาแน่นจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า บรรยากาศโดยรอบร้อนอบอ้าวให้ความรู้สึกราวกับมีทิชชู่เปียกพันรอบกายจนขยับไปไหนไม่ได้ สายลมร้อนพัดผ่าน ได้นำพาเอากลิ่นเลือดที่เข้มข้นปะปนมาด้วย พร้อมกับมีเสียงคร่ำครวญของผีร้ายและเสียงคำรามของวูฟฟิชดังมาจากทุกทิศทาง

ประสาทสัมผัสทั้งห้าสามารถรับรู้สิ่งรอบกายได้อย่างชัดเจน ราวกับกำลังยืนอยู่ในโลกแห่งความจริงนี้ โลกแห่งการฆ่าฟันของเหล่าวิญญาณร้าย

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลี่เย้าก็รู้ดีว่านี่คือ “ดินแดนภาพลวงตาขั้นสุดยอด” ที่ถูกสร้างเลียนแบบธรรมชาติโดยเครื่องทำการสอบ เขาจำเป็นต้องทำเวลา หลี่เย้าสงบใจตัวเองลงและวิ่งตรงไปข้างหน้า ตามลูกศรเรืองแสงที่ลอยอยู่ในอากาศ

การวิ่งข้ามเขตแดนในระยะไกล 50 กิโลเมตร คือโปรแกรมที่ถูกออกแบบโดยสหพันธรัฐ  เพื่อใช้สำหรับคัดเลือกเด็กหัวกระทิออกมาจากทั้งหมด ด้วยความหวังว่า สักวันหนึ่งพวกเขาจะกลายมาเป็นผู้ฝึกตน ซึ่งตลอดเส้นทางการวิ่งนั้น เต็มไปด้วยอันตรายและกับดักมากมาย

ใช่แน่แล้ว เมื่อหลี่เย้าวิ่งผ่านเนินทรายไป เนินทรายก็ได้ระเบิดออก จนเศษหินแตกกระจายออกไปทั่วทิศทาง ท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจาย ได้ปรากฏดวงตาสีเหลืองคู่หนึ่งของแซนด์วูลฟ์!

สัตย์อสูรประเภทนี้ มีขนาดที่ใหญ่กว่าหมาป่าทั่วๆไปมาก เนื่องจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ ทำให้กระดูกสันหลังของพวกมันนูนสูงขึ้น พร้อมกับศีรษะที่มีขนาดเล็ก มันคือสัตย์อสูรกลายพันธุ์ระดับต่ำ “แซนด์วูลฟ์” นอกจากความสามารถในด้านการอำพรางตัวใต้ผืนทรายได้แล้ว พวกมันยังเป็นสัตย์อสูรที่สติปัญญาในระดับสูงอีกด้วย และพวกมันก็คือคู่ต่อสู้ที่ทำให้เหล่านักเรียนมัธยมต้องพากันขยาด

แต่สำหรับหลี่เย้า ที่ต้องเอาชีวิตรอดอยู่ในสุสานอาร์ติเฟ็กซ์ในฐานะ “แร้ง” มาถึง 18 ปีนั้น การสำรวจสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวได้กลายมาเป็นสัญชาตญาณติดตัวของเขาไปแล้ว การพรางตัวของแซนด์วูลฟ์สองหัวนั้นค่อนข้างสังเกตได้ง่าย และเขาก็เห็นมันตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว

“ท่าไดเออร์แบร์!”

เมื่อแซนด์วูลฟ์สองหัวได้กระโจนขึ้นไปในอากาศ หลี่เย้าใช้ขาดีดขึ้นไป ร่างกายของเขาม้วนเป็นลูกบอล และเก็บไหล่ ท่าทางของเขาราวกับหมีที่กำลังบ้าคลั่งและพุ่งเข้าใส่อย่างดุร้าย!

เขาเลือกจับจังหวะได้ถูกเวลา ซึ่งเป็นตอนที่แซนด์วูลฟ์สองหัวกำลังกระโดดขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของมันพอดี และเป็นช่วงที่มันไม่สามารถใช้พลัง นอกจากนี้มันก็ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปจุดอื่นได้ด้วย แล้วมันก็ถูกหลี่เย้าพุ่งเข้าใส่จังๆ

“เปรี๊ยง!”

แซนด์วูลฟ์สองหัวนั้นเป็นสัตย์อสูรที่ดุร้ายเจ้าเล่ห์ แต่ร่างกายของมันกลับเปราะบาง ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการซุ่มโจมตี ไม่ใช่สู้กันซึ่งๆหน้ากับฝ่ายตรงข้าม ด้วยท่า “ไดเออร์แบร์” ของหลี่เย้า จึงทำให้กระดูกสันหลังของมันแตกหัก และต้องกระโดดกลับไปที่จุดเดิม

หลี่เย้ายิ้มเยาะ แล้วพุ่งเข้าใส่ เขากางกรงเล็บที่คมกริบ แล้วคว้าจับไปที่ด้านหลังหัวเล็กๆของมัน

“กรงเล็บสตีลฮอว์ค!”

หัวทั้งสองของแซนด์วูลฟ์ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆในทันที พวกมันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและตายลงไป

มีเสียง “ติ๊ง ติ๊ง” ดังออกมาจากความว่างเปล่า ซึ่งเป็นเสียงของเครื่องทำการสอบที่กำลังทำการคำนวนคะแนนสำหรับการฆ่าของหลี่เย้าอยู่

หลี่เย้ารู้สึกยินดีอยู่ภายในจิตใจของเขา ชุดทักษะที่เขาใช้ออกไปนั้น ได้มาจากศิลปะการต่อสู้พื้นฐาน <13 ท่าสงครามสัตย์อสูร> ซึ่งอย่างน้อยๆ เขาก็ควรจะ 10 คะแนนสำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้

เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะจากไปอย่างร้อนรน แต่เขากลับลากร่างของแซนด์วูลฟ์สองหัวออกมาจากหลุมทราย หลี่เย้ามองไปรอบๆ แล้วเจอเข้าไปหินก้อนหนึ่งที่ค่อนข้างคม เขาหยิบมันขึ้นมา แล้วกรีดมันลงไปที่หน้าท้องของสัตย์ร้าย

หลังจากนั้นไม่นาน กระดูกซี่โครงสี่ท่อนก็ถูกทำให้กลายมาเป็นดาบกระดูกสี่ด้าม ได้อย่างไม่ยากเย็น ผวหนังด้านนอกของมันถูกทำให้กลายเป็นถุงใส่น้ำ ซึ่งเต็มไปด้วยเลือดของมันเอง

ถุงที่เต็มไปด้วยเลือดของแซนด์วูลฟ์สองหัว สามารถช่วยให้รอดชีวิตในดินแดนที่ร้อนระอุนี้ได้

หลังจากที่จัดการตัวเอง, พักผ่อน, วางกลยุทธ์, และจัดหาอาวุธได้เรียบร้อยแล้ว หลี่เย้าก็มุ่งหน้าต่อไป ผ่านไปได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เขาฝ่าวิกฤตและฆ่าสัตย์อสูรระดับต่ำไปแล้วสี่ตัว ถึงแม้ว่าการสอบจะเริ่มไปได้สักพักแล้ว แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่การวอร์มเท่านั้น รอบต่อไปที่กำลังจะมาถึง คือสิ่งที่ผู้เข้าสอบทุกคนในสหพันธรัฐต้องพบเจอกับความโหดร้าย จนต้องรองขอความตาย

กลางท้องฟ้า ได้ปรากฏเป็นอักขระสีเขียวที่คล้ายกับพายุฝน แล้วรวมตัวกลายเป็นคำถาม

“เซี่ยวหมิงเป็นผู้ฝึกตนในระดับกลั่นวิญญาณ ร่างกายของเขามีค่าพลังจิตวิญญาณอยู่ที่ 5,500 คริสตัล เมื่อเขากำลังทำการบ่มเพาะ ได้บังเอิญถูก”แมลงกัดกินหัวใจ“กัดเข้า ในทุกๆวินาที เขาจะถูกกลืนกินพลังจิตวิญญาณไป 48 คริสตัล อาจารย์ของเซี่ยวหมิงค้นพบแมลงหลังผ่านไปได้ 1 นาที 13 วินาที เพื่อที่จะช่วยเขา อาจารย์ของเขาได้มอบพลังจิตวิญญาณให้กับร่างกายของเขา 55 คริสตัลต่อวินาที หลังจากนั้น เมื่อเวลาผ่านไป 2 นาที พลังจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้น 59 คริสตัลต่อวินาที คำถาม...”

“ข้อที่หนึ่ง เซี่ยวหมิงต้องการพลังจิตวิญญาณอีกเท่าไร เพื่อให้กลับไปอยู่ในระดับเดิม?”

“ข้อที่สอง โปรดบอกขั้นตอนการกลั่น”แมลงกัดกินหัวใจ“และขั้นตอนการรักษา หลังจากที่ถูกพิษจากแมลงกัดกินหัวใจ”

“ข้อที่สาม โปรดบอกรายละเอียดของนิกายที่สามารถกลั่น”แมลงกัดกินหัวใจ“ได้เป็นนิกายแรก เขียนรายชื่อผู้นำระดับสูงของนิกายมาอย่างน้อยห้าชื่อ และให้เขียนสาเหตุที่ทำให้นิกายนี้ล้มสลายมาด้วย”

หลี่เย้าตบไปที่แก้มของเขาเบาๆ เขาไม่คิดว่าจะมี “ข้อสอบประเมินความรู้” ที่รวมเอาทั้ง วิชาคณิตศาสตร์, ประวัติศาสตร์ และการแพทย์ มาอยู่ในที่เดียวกันแบบนี้ ความรู้เรื่องการแพทย์ในเขตสงครามและวิชาที่จำเป็นอีกมากมาย ถูกรวมอยู่ใน “จำลองการสอบ” ทั้งหมด สมแล้วที่ถูกเรียกว่า การจำลองที่สมบูรณ์แบบ!

หลี่เย้าจดจ่ออยู่กับคำถาม โดยที่ไม่ได้สนใจสภาพอากาศโดยรอบของเขาเลย เขาพิจารณาคำถามที่อยู่ตรงหน้าอย่างลึกซึ้งและระมัดระวัง ภายใจจิตใจที่สงบเยือกเย็น ความรู้มากมายได้ปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขา เขาค่อยๆแก้คำถามไปทีละข้อๆ เมื่อเขาตอบคำถามขึ้นภายในใจ คำตอบก็กลายเป็นแสงสีฟ้าปรากฏอยู่ใต้คำถามสีเขียวที่อยู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว

การตอบเสร็จสิ้น คำถามต่อไป!

“ผู้ฝึกตนฝ่ายธรรมะของ”นิกายหลิงชาน“ได้เหยียบขึ้นไปบนดาบบิน เขาบินไปยังหุบเขาลึกทางทิศตะวันออก ด้วยความเร็ว 247 เมตรต่อวินาที และผู้ฝึกตนอีกคน ซึ่งเป็นฝ่ายอธรรมของ”ป้อมปราการโลหิตสังหาร“เหยียบลงไปบนเมฆทมิฬ เขาบินมาจากฝั่งตรงกันข้ามทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็ว 239 เมตรต่อวินาที ปัจจุบัน ทั้งสองมีห่างจากกันด้วยระยะทาง 122.5 กิโลเมตร คำถามคือ ต้องใช้เวลานานเท่าไร ที่ทั้งสองจะมาเผชิญหน้ากัน?”

“ด้วยการสมมติว่า ระดับการบ่มเพาะ, ทักษะ และอาร์ติเฟ็กซ์ของทั้งสองนั้นมีเท่าๆกัน ให้สรุปลักษณะพิเศษของนิกายหลิงชานและป้อมปราการโลหิตสังหาร พร้อมกับลำดับเหตุการณ์การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายออกมา ให้เขียนการปะทะกันอย่างน้อยเจ็ดกระบวนท่า จำนวนคำต้องไม่ต่ำกว่า 500 คำ”

คำถามข้อนี้เห็นได้ชัดว่า ง่ายกว่าข้อก่อนหน้านี้มาก แต่เมื่อถึงเวลาที่หลี่เย้ากำลังจะตอบคำถามอยู่นั้น กลิ่นสาบของสัตย์อสูรได้ฟุ้งกระจายมาจากด้านหน้า พร้อมกับที่มันได้ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างฉุนเฉียว และพุ่งตัวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ถูกคุกคาม เขาได้คิดคำนวณและตอบคำถาม ความแข็งแกร่ง, ทักษะการต่อสู้, ความตั้งใจ, ความสามารถในการคิดคำนวณ, และการใช้ความคิดที่รวดเร็ว ของผู้เข้าสอบถูกรวมอยู่ในข้อสอบข้อนี้ ความสามารถทั้งหมดถูกใช้พร้อมๆกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ก้าวข้ามความสามารถของคนธรรมดาไปไกล มีเพียงการตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้เท่านั้น ที่จะทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมาในการทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยของสหพันธรัฐได้ แล้วก้าวเข้าสู่เส้นทางของผู้ฝึกตน!

หลี่เย้าไคว้มือไปจับดาบกระดูกสีขาวที่อยู่ด้านหลังของเขาออกมาสองด้าม เขาเลียริมฝีปาก และใช้ความคิดอย่างไม่หยุดหย่อน พร้อมกับคิดคำนวณด้วยความเร็วสูงสุด...

ภายในโรงเรียนที่กว้างใหญ่แห่งนี้กลับเงียบสนิท ด้วยเครื่องจำลองการสอบที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในห้องเรียน ห้องละ 90 เครื่อง ภายในดินแดนแห่งภาพลวงตาขั้นสุดยอด นักเรียนในชั้นปีที่สามต่างก็กำลังมุ่งมั่นพยายามอย่างหนัก และดิ้นรนต่อสู้ เพื่อจัดการกับสัตย์อสูรและข้อสอบ

สำหรับผู้เข้าสอบ เวลาในดินแดนแห่งภาพลวงตาขั้นสุดยอดได้ผ่านไปแล้วกว่าสี่ชั่วโมง โดยที่พวกเขาไม่ทันได้รู้ตัว และการสอบก็ใกล้เข้าสู่บทสรุปมากขึ้นทุกที

ตามร่างกายของหลี่เย้า เต็มไปด้วยรอยแผล 70-87 จุดด้วยกัน และแผลหลายแห่งเลือดก็ได้หยุดไหลไปแล้ว จุดที่ร้ายแรงที่สุดคือส่วนหน้าท้องของเขา ที่ถูกคมเขี้ยวของสัตย์อสูรแทงฝังเอาไว้อยู่ และเขาก็ไม่กล้าที่จะดึงมันออก ดาบกระดูกที่เขาถือเอาไว้ในมือ ก็ถูกใช้งานจนไม่เหลือความคมอยู่เลย

ดวงตาของเขายังคงใสกระจ่างราวกับแสงจันทร์ พวกมันยังคงกระจ่างใส และไม่อาจจะลบความเจิดจ้านั้นให้หายไปได้

“นี่ควรจะเป็นคำถามข้อสุดท้ายแล้ว...”

ในเวลานี้ อักขระเรืองแสงเป็นประกายสีทอง ได้ปรากฏขึ้นอยู่กลางอากาศ จากประสบการณ์การทำข้อสอบที่ผ่านมาของหลี่เย้าแล้ว คำถามข้อสุดท้ายนี้คือคำถามที่ยากที่สุดและมีคะแนนถึง 100 คะแนน “คำถามสรุป”

และอย่างที่เขาคาดไว้ ตัวคำถามนั้นไม่ได้ยาว และมีเพียงแค่หนึ่งประโยคเท่านั้น “โปรดสรุป ‘ยุคมืด’”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด