บทที่ 82 หนีเสือปะจระเข้
ในบรรดาทั้งสิบสามคน หนึ่งในพวกมันเป็นถึงจอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่ขั้นแรก มีห้าคนที่บรรลุขั้นที่เก้าของขอบเขตฉูติ่งและคนที่เหลือต่างก็อยู่ในขั้นที่แปด
เจียงอี้ไม่หวั่นเกรงหากต้องรับมือสองถึงสามคนในเวลาเดียวกัน แต่เนื่องจากมีระดับการบ่มเพาะพลังที่ต่ำเกินไป มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือพวกมันทุกคนพร้อมกัน
หากเจียงอี้ฝืนใช้ฝ่ามือระเบิดแก่นแท้อย่างต่อเนื่อง มันจะทำให้ร่างกายของเขาต้องรับภาระหนักเกินไปและจะอ่อนแอลงจนทำได้เพียงนอนรอความตายเท่านั้น
เขาโคจรแก่นแท้พลังสีดำไปที่ส่วนขาจากนั้นก็ออกวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดซึ่งสามารถเทียบได้กับความเร็วของจอมยุทธขอบเขตฉูติ่งขั้นสูงสุดเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลบหนีจากคนเหล่านั้น
ทำยังไงดี?
สีหน้าของเจียงอี้ดูมืดมนและร้อนใจ เขาพยายามขบคิดถึงหนทางที่จะหลบหนี แต่ท้ายที่สุดก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสู้ตายกับพวกมันเท่านั้น!
อีกฝ่ายมีความสามารถมากพอในการล่อลวงเฉียนว่านก้วนและอาจารย์จ้าว การที่พวกมันกล้าที่จะสังหารคนในเขตของสำนักจิตอสูรก็หมายความว่าเจียงอี้ไม่มีที่ให้หลบภัยอีกต่อไป สิ่งที่เขาทำได้ก็คือการถ่วงเวลาและรอความช่วยเหลือจากสำนัก
เจียงอี้มั่นใจแล้วว่าการต่อสู้นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขากวาดสายตาไปทั่วเพื่อมองหาสถานที่ที่จะทำให้เขาได้เปรียบ สถานการณ์ในตอนนี้บังคับให้เขาต้องใช้ประโยชน์จากปัจจัยภายนอกเพราะหากต้องพึ่งพาพลังของตัวเอง เขาคงต้องตายภายในเวลาไม่ถึงสิบห้านาทีแน่นอน
มีถ้ำอยู่ด้านหน้า!
หลังจากหลบหนีมาได้ไม่นาน เจียงอี้ก็มองเห็นถ้ำที่อยู่ด้านหน้าห่างออกไปไม่ไกล ภายในถ้ำนั้นมืดสนิทและไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันลึกขนาดไหน รวมไปถึงไม่อาจรู้ว่ามีสัตว์อสูรที่ดุร้ายอยู่หรือไม่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกและมุ่งตรงเข้าไปในถ้ำอย่างไม่ลังเล
ฟึ่บ!
มือสังหารทั้งสิบสามคนที่ไล่ตามเจียงอี้เข้าไปในถ้ำด้วยเช่นกัน แม้ว่าใบหน้าของพวกมันจะถูกปกคลุมด้วยหน้ากาก แต่ดวงตาของพวกมันก็เผยให้เห็นถึงความเย้ยหยัน พวกมันคิดว่าเจียงอี้คงจะเป็นเพียงแค่คนโง่เขลาที่หนีเข้ามาในถ้ำซึ่งไม่รู้ว่ามีทางออกอยู่หรือไม่ การกระทำของเขาแทบจะดูคล้ายกับการฆ่าตัวตาย!
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ในขณะที่พวกมันทั้งสิบสามคนวิ่งเข้ามาในถ้ำ ก็มีวัตถุหลายสิบชิ้นพุ่งผ่านอากาศมาด้วยความเร็วสูงจากมุมมืด จอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่ขั้นแรกที่เป็นผู้นำกลุ่มก็ร้องอุทานขึ้นมา “มันคือกับดัก! ถอย!”
มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนพวกนี้ที่เลือกการหลบหนี เพราะในถ้ำนั้นมีแสงสว่างน้อยเกินไปและเป็นเรื่องยากที่จะหลบอาวุธที่ถูกปล่อยออกมาจากมุมมืด แต่ก็น่าเสียดายที่ถ้ำนี้มีความกว้างแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้นซึ่งทำให้สามารถวิ่งขนาบกันได้แค่สามคน มีเพียงคนที่อยู่แนวหน้าที่รับรู้ได้ถึงอาวุธที่กำลังพุ่งเข้ามาและกำลังถอยร่น ส่วนผู้ที่อยู่ด้านหลังซึ่งไม่รู้เรื่องก็ยังคงวิ่งตามมาด้วยความเร็วสูงสุด พริบตาเดียวพวกมันก็ชนกันเองจนทำให้เกิดความโกลาหล
ปัก! ปัก! ปัก!
อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ยังมีปฏิกิริยาเร็วพอที่จะสามารถหลบเลี่ยงอาวุธลับที่โจมตีเข้ามาได้ จอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่ผู้นั้นใช้แสงอันริบหรี่จากปากถ้ำเพื่อส่องดูรูปร่างของอาวุธ สิ่งที่เห็นทำให้เขาโกรธแค้นมากเพราะพวกมันไม่ใช่อาวุธลับเหมือนที่คิดแต่เป็นเพียงแค่ก้อนหินธรรมดาเท่านั้น!
“ตามไป!”
ชายผู้นี้นำกลุ่มมือสังหารและตามล่าเจียงอี้อีกครั้ง แต่หลังจากที่วิ่งไปได้ไม่นาน พวกมันก็ได้ยินเสียงที่คล้ายกับ ‘อาวุธลับ’ เหมือนก่อนหน้านี้กำลังพุ่งเข้ามา
มาไม้นี้อีกแล้ว?
จอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่ขั้นแรกยิ้มด้วยความดูถูก ตัวเขาและอีกสามคนปล่อยหมัดไปข้างหน้าในเวลาเดียวกัน
ปั้ง! ปั้ง!
น่าแปลกใจที่ ‘อาวุธลับ’ ยังคงเป็นเพียงแค่หินธรรมดา ด้วยระดับการบ่มเพาะของคนเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะปัดป้องพวกมัน
ถ้ำแห่งนี้มีลักษณะ ยาว, แคบและคดเคี้ยว หลังจากที่วิ่งตามมาได้สักระยะหนึ่ง พวกมันก็สามารถมองเห็นเงาร่างของเจียงอี้ได้อย่างเลือนราง
ฟิ้วว!
แต่ในขณะที่กำลังจะเร่งความเร็วนั้น ก็ได้มีวัตถุบางอย่างพุ่งมาจากความมืด
มันไม่มีลูกไม้อื่นแล้วหรือยังไง?
สายตาของจอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่เผยให้เห็นความเย้ยหยัน แต่ก่อนที่จะได้กล่าวอันใดออกมา เขาก็หยุดชะงักเพราะตระหนักได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่แฝงมากับกลุ่มก้อนหิน มันเป็นดาบสั้นที่มีสีเขียวอ่อน!
ดาบเล่นนี้ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ด้วยแก่นแท้พลังใดๆ แต่พริบตาเดียวมันก็มาปรากฏอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่หนึ่งเมตรเท่านั้นและในเวลานั้นเอง มันก็เปล่งแสงสีออกมาและเปลี่ยนเป็นเงาดาบซึ่งตรงไปยังนักฆ่าสามคนที่อยู่แนวหน้า
“เพลงดาบพิรุณโปรยปราย!”
เสียงคำรามดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำ แสดงสว่างจากดาบสั้นสีนวลทำให้ร่างของเจียงอี้ที่อยู่ในความมืดเผยออกมา ดวงตาของเขามีเพียงความเย็นชาและไร้อารมณ์
“เหอะ! ฝ่ามือซ่อนพยัคฆ์!”
แม้ว่าจอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่จะตกใจแต่ก็ไม่ได้ถอยหนี ประกายแสงสีแดงถูกปลดปล่อยออกมาจากฝ่ามือของเขาพร้อมกับแก่นแท้พลังอันน่าสะพรึงกลัวและตรงไปยังไหล่ซ้ายของเจียงอี้ ชายผู้นี้คิดว่าเขาสามารถส่งเจียงอี้ให้ลอยกระเด็นออกไปก่อนที่ดาบของอีกฝ่ายจะเข้ามาถึงตัวเขา
“ฝ่ามือระเบิดแก่นแท้!”
มุมปากของเจียงอี้ยกขึ้นเล็กน้อย แสงสีเขียวจากตัวดาบวูบหายไป ในเวลาเดียวกันฝ่ามือของเขาก็กวาดออกไปและปะทะกับฝ่ามือของศัตรู
ตู้มมม!
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นและทำให้ตัวถ้ำสั่นไหว เศษหินนับไม่ถ้วนถล่มลงมาจากแรงปะทะ ผลของคลื่นกระแทกทำให้มือสังหารที่อยู่ในแนวหน้าลอยกระเด็นออกไป เนื่องจากมันเป็นทางแคบจึงทำให้คนพวกที่ตามมาด้านหลังถูกกระแทกจนล้มลงเช่นกัน
อัก!
ร่างของเจียงอี้โซเซไปด้านหลังเนื่องจากแรงกระแทกและกระอักเลือดออกมา มือซ้ายของเขาสั่นไม่หยุดและมีโลหิตไหลออกมาจากจุดหู่โข่วตลอดเวลา หากเจียงอี้ไม่ใช้ฝ่ามือระเบิดแก่นแท้เพื่อต้านทานการโจมตีของจอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่ ป่านนี้แขนของเขาคงจะถูกทำลายไปแล้ว
ครื้นนนนน!
ถ้ำยังคงสั่นสะเทือนไม่หยุด ก้อนหินที่ตกลงมาแทบจะปิดเส้นทางภายในถ้ำเอาไว้ เจียงอี้ไม่กล้าที่จะประมาท เขารีบมองไปยังฝ่ายศัตรูเพื่อตรวจสอบสภาพของพวกมัน แขนของจอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่ถูกระเบิดจนเละ มือสังหารสองคนที่อยู่ใกล้เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเห็นดังนั้น เจียงอี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา มันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะหลบหนีจากความตายหากจอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่ยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์
“ฝ่ามือระเบิดแก่นแท้!”
เจียงอี้ปลดปล่อยฝ่ามือระเบิดแก่นแท้ออกมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้เล็งไปที่ฝ่ายศัตรูแต่เป็นที่ผนังถ้ำ ถึงเขาไม่ได้ใช้พลังออกไปทั้งหมดแต่มันก็เพียงพอที่ทำให้ก้อนหินถล่มลงมาปิดเส้นทางภายในถ้ำอย่างสมบูรณ์
โดยไม่ให้เสียเวลา เจียงอี้รีบหยิบเม็ดยาฟื้นฟูขึ้นมาและกลืนลงไป จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ แม้ว่าเส้นทางจะถูกปิดผนึกไว้แล้ว แต่อย่าลืมว่าพวกที่ไล่ตามมาต่างก็เป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่ง การทำลายสิ่งกีดขวางสำหรับพวกมันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร ในตอนนี้เจียงอี้ต้องรีบหาทางออกให้เร็วที่สุดมิฉะนั้นเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
เวรแล้วไง!
อย่างไรก็ตาม เมื่อวิ่งเข้ามาได้ไม่ไกล เจียงอี้ก็รู้สึกราวกับว่าตกสู่ความสิ้นหวังอีกครั้ง เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นเหม็นเน่าของเลือดที่ลอยเข้ามาซึ่งทำให้เขาแทบจะอาเจียน
สัตว์อสูร!
เจียงอี้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสัตว์อสูร นอกจากนี้มันยังทรงพลังมากซึ่งเทียบได้กับปีศาจปลาหมึกที่เขาเคยเจอก่อนหน้านี้เลยทีเดียว!
นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ!
เจียงอี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อแท้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสังหารสัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเหล่ามือสังหารตามมาทัน จุดจบของเขาจะต้องน่าอนาถมากอย่างแน่นอน
เอาวะ… เป็นไงเป็นกัน!
เจียงอี้เลือกที่จะวิ่งต่อไปโดยไม่ลังเล เขาโคจรแก่นแท้พลังไปที่ดวงตาและยกระดับการมองเห็น พริบตาเดียวเขาก็สามารถมองเห็นบริเวณรอบตัวได้อย่างชัดเจน
ตู้มมม!
เกิดเสียงระเบิดที่ไล่หลังมา เห็นได้ชัดว่าพวกมือสังหารได้ทำลายสิ่งกีดขวางแล้ว
เจียงอี้มุ่งตรงไปยังกองหินและไหลเวียนแก่นแท้พลังสีดำไปยังดาบสั้นสีนวล จากนั้นก็ใช้มันเป็นสว่านเจาะไปยังหินเพื่อสร้างเป็นช่องก่อนที่จะมุดเข้าไป แรงสั่นสะเทือนจากการโจมตีทำให้หินรอบๆร่วงลงมาและฝังเขาไว้
การถูกศัตรูประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลังทำให้เจียงอี้รู้ว่าเขาไม่มีทางที่จะเอาชนะได้เลย เขาจำเป็นต้องเดิมพันว่ามือสังหารเหล่านี้จะสามารถดึงดูดความสนใจจากสัตว์อสูรได้หรือไม่ หากสัตว์อสูรยังคงเล็งเป้ามาที่เขา เช่นนั้นเขาก็เตรียมบอกลาชีวิตน้อยๆของเขาได้เลย