ตอนที่แล้วGE388 เพลงกระบี่อนันต์ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE390 ตามหาหยูฉงเอ๋อร์ [ฟรี]

GE389 เปิดฉากสังหาร [ฟรี]


เมื่อฉูฉางเอ๋อร์ให้สัญญาเปิดบ่อโลหิตมังกร เหล่าผู้เยาว์ต่างทะยานเข้าสู่บ่อโลหิตมังกรอย่างรวดเร็ว

ผู้ที่เข้าสู่บ่อโลหิตมังกรจะมีเกร็ดมังกรติดตัว เมื่อผ่านประตูเข้าไปแล้ว แต่ละคนจะถูกไปยังพื้นที่ที่ต่างกัน หนิงฝานถูกส่งไปยังตำแหน่งที่ 17 ของส่วนที่ 1

หนิงฝานถูกส่งตัวไปยังใต้ก้นบ่อโลหิต บริเวณนี้เป็นบริเวณที่ไม่มีน้ำ ดูคล้ายกับมิติที่ถูกแบ่งแยกเป็นเอกเทศน์ เหนือศีรษะมีม่านพลังบางอย่างอุ้มโลหิตจำนวนมหาศาลเอาไว้ ใต้ฝ่าเท้ามีทรายสีแดงฉาน รอบกายปกคลุมด้วยหมอกสีแดง

สถานที่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

ส่วนแรกคือ ‘บึงหมอกโลหิต’ เป็นส่วนที่มีอสูรโลหิตมากที่สุด อสูรส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตแก่นทองคำ แต่ถึงอย่างนั้น การจะได้โลหิตมังกรมาครอง ต้องสังหารอสูรในขอบเขตตัดวิญญาณขึ้นไปเท่านั้น

[** ตอนที่แล้วแปลผิดนะครับ มังกรโลหิต (อสูรตัดวิญญาณ) ให้โลหิตมังกรได้ 10 หยด]

ส่วนที่ 2 คือส่วนที่มีอสูรไร้ดัดแปลงอยู่ ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณไม่อาจเข้าไปในส่วนนี้ได้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงยังเป็นอันตราย มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเท่านั้นที่กล้าเข้าไปในส่วนนี้

ส่วนที่ 3 มีข่าวลือว่ากษัตริย์พิรุณรุ่นก่อนๆเคยเข้ามาเก็บตัวฝึกฝน แต่เมื่อมาถึงรุ่นของกษัตริย์พิรุณเมฆาแดง สถานที่แห่งนั้นกลับถูกผนึกโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงไม่มีผู้ใดเข้าในส่วนนั้นได้

ก่อนจะเข้ามายังบ่อโลหิตมังกร หนิงฝานได้พูดคุยกับอาวุโสของวังสวรรค์เกี่ยวกับข้อมูลของบ่อโลหิตมังกร ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้ข้อมูลแผนที่ภายในมา สิ่งที่เขาได้คือสถานที่ทั้ง 24 แห่งของส่วนที่ 1

หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพเข้าไปในแผ่นหยก จดจำแผนที่เอาไว้

บริเวณที่หนิงฝานอยู่มีหมอกโลหิตอยู่หนามาก หมอกเหล่านี้มีผลในการปิดกั้นสัมผสเทพ เหล่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่เข้ามาไม่กล้าแผ่สัมผัสเทพไปไกลนัก เพราะกลัวจะได้รับผลกระทบจากหมอกโลหิต

แต่หนิงฝานไม่ได้หวาดกลัว เขาผ่านสงคราม ผ่านการเข่นฆ่าสังหารมามากมายนับไม่ถ้วน หมอกโลหิตเหล่านี้จึงไม่นับเป็นอันใด

เมื่อแผ่สัมผัสเทพปกคลุมรัศมีแสนลี้ไปสักระยะ เขาสัมผัสไม่พบผู้เชี่ยวชาญ สัมผัสพบแต่เพียงอสูร

นอกจากนี้ ในตำแหน่งที่ 17 ของส่วนที่ 1 ยังมีเส้นทางที่นำไปสู่ส่วนที่ 2

หนิงฝานส่ายหน้า เขายังไปส่วนที่ 2 ไม่ได้ เพราะมันเสี่ยงอันตรายมากเกินไป

ความแข็งแกร่งของหนิงฝานยามนี้ แม้จะต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ก็จริง แต่หากจะให้เอาชีวิตอีกฝ่าย ยังเป็นไปได้ยาก

แม้เขาจะมีทาสไร้ดัดแปลงอยู่ 3 ตน แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย

เป้าหมายของเขาคือหาโลหิตมังกรให้ได้ 50 หม้อ ซึ่งต้องสังหารอสูรตัดวิญญาณให้ได้ 500 ตน และในส่วนที่ 1 นี้ ก็มีอสูรจำนวนมากพอให้เขาสังหารโดยไม่ต้องเสี่ยงไปส่วนที่ 2

*โฮก!*

เสียงมังกรคำรามดังสนั่น เป็นการคำรามผสานของมังกรโลหิตนับพันที่กำลังตรงออกมาจากป่า ร่างกายแดงฉาน อาบโชกไปด้วยโลหิต พวกมันสัมผัสถึงตัวตนของหนิงฝานได้ จึงเร่งทะยานเข้าหาหมายสังหาร

มังกรโลหิตเหล่านี้ไม่มีสติปัญญามากนัก เทียบชั้นได้กับทาส ร่างกายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งมังกร

ในหมู่พวกมันมีมังกรโลหิต 1 ตนที่อยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น มี 11 ตนอยู่ในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น ที่เหลืออยู่ขอบเขตแก่นทองคำ

แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ หากถูกอสูรจำนวนมากขนาดนี้รุมล้อม ก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน

แต่สำหรับหนิงฝานแล้ว อสูรเหล่านี้ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง แม้พวกมันจะมีอสูรตัดวิญญาณขั้นต้นอยู่ด้วยก็ตาม

หนิงฝานหันมองพวกมัน สัมผัสกระบี่ที่ทรงพลังปรากฏ ปราณกระบี่สีดำกระจายออกแปดทิศ กวาดผ่านร่างอสูรทั้งหมดในพริบตา

พวกมันเผยสีหน้าหวาดกลัวและตกตะลึง คมกระบี่ปลิดชีพในพริบตาโดยพวกมันไม่มีโอกาสได้ร้อง เศษซากร่าง...โลหิตสาดกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง

ยามนี้สัมผัสกระบี่ของหนิงฝานแทบจะสังหารอสูรตัดวิญญาณขั้นต้นได้ในพริบตา

อสูรตัดวิญญาณตนนั้นถูกสัมผัสกระบี่ของหนิงฝานตัดแขนทั้งสองข้าง จนเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเร่งหนีไปสุดชีวิต แต่น่าเสียดายที่มันไม่อาจรอดมือหนิงฝานได้

กระบี่แยกสวรรค์ปรากฏ พุ่งติดตามอสูรตนนั้นและผ่าร่างของมันจนขาดเป็นของส่วน

เมื่อสังหารมังกรโลหิตทั้งหมด โลหิตสีแดงฉาน 11 หยดลอยขึ้นมา เขาจึงผนึกมันเอาไว้ในหม้อ

“11 หยด… อสูรตัดวิญญาณขั้นต้น 1 ตนให้โลหิตมังกรได้ 10 หยด เหตุที่ได้ 11 หยดอาจเป็นเพราะมันกำลังจะทะลวงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง หมายความว่ายิ่งระดับพลังของมันสูง ก็จะยิ่งได้โลหิตมังกรมากขึ้น”

หนิงฝานกล่าวกับตนเองก่อนสยายปีกฟู่ลี่ที่แผ่นหลัง มุ่งหายไปในหมอกโลหิตอย่างไร้ร่องรอย

หนิงฝานยามนี้อยู่ในตำแหน่งที่ 17 ภายในส่วนที่ 1 เขาทะยานไปทั่ว เสียงอสูรกรีดร้องอย่างน่าเวทนาดังระงม... ผ่านไปครึ่งวัน เสียงเหล่านั้นหายไป หนิงฝานสังหารอสูรทั้งหมด ในจำนวนพวกมันมีอสูรตัดวิญญาณ 31 ตน… 3 ใน 31 ตนนั้นอยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด

หนิงฝานกลับออกมายังขอบนอกของส่วนที่ 17 พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

หนิงฝานสังหารอสูรตัดวิญญาณไปหมดทุกตัวแล้ว แต่เขายังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอสูรตัดวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ไม่ต่ำกว่า 10 ตน

ในหมู่พวกมัน ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง

ชั่วพริบตานั้น อสูรนับแสนปรากฏตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ พวกมันหมดอยู่ในขอบเขตแก่นทองคำ นอกเหนือจากพวกมัน ยังมีกลุ่มของอสูรดวงจิตแรกเริ่ม 500 ตนตามหลัง และอสูรตัดวิญญาณอีก 11 ตามติดตามมา

อสูรในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงมีร่างกายสูงใหญ่กว่า 4 พันจ้าง ทั่วร่างเน่าเปื่อย โลหิตอาบโชก แรงกดดันน่าสะพรึงกลัว ลักษณะคล้ายกับมันเป็นผู้นำทัพ

“ราชาอสูร?” หนิงฝานคาดไม่ถึงว่าในหมู่อสูรไร้สติปัญญา จะมีราชาอสูรอยู่ด้วย

หากผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณทั่วไปเผชิญหน้ากับพวกมัน อาจถูกพวกมันฉีกร่างเป็นชิ้นๆ

ราชาอสูรคำรามลั่น กองทัพอสูรทั้งหมดคำรามขานรับ เริ่มแปรกระบวนทัพเตรียมรับมือ แต่เมื่อพวกมันต้องเผชิญหน้าหนิงฝานที่ครอบครองสัมผัสกระบี่ พวกมันย่อมไม่ใช่คู่มือ

“ตาย!”

สัมผัสกระบี่แผ่ตรงไปยังกองทัพอสูร สังหารอสูรแก่นทองคำนับหมื่นในพริบตา

สัมผัสกระบี่แผ่ออกไปครั้งที่สอง อสูรแก่นทองคำทั้งหมดถูกสังหาร

สัมผัสกระบี่แผ่ออกไปครั้งที่ 3 อสูรดวงจิตแรกเริ่มทั้ง 500 ตนถูกสังหารจนหมด นอกจากนี้ อสูรตัดวิญญาณขั้นต้นยังบาดเจ็บสาหัส

ราชาอสูรโกรธแค้นอย่างที่สุด มันเร่งวิ่งตะบึงเข้าหาหนิงฝาน

ภูเขาและสายน้ำที่มันวิ่งผ่านถูกทำลาย แรงกดดันทำให้พื้นดินโดยรอบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

หนิงฝานชูมือขึ้นบนฟ้า กระบี่แยกสวรรค์แยกตัวเป็นเงากระบี่ 11 สายเข้าจู่โจมอสูรตัดวิญญาณที่ติดตามราชาอสูร

หลังจากผ่านการจู่โจมรอบแรก กระบี่บินหนิงฝานเข้าซ้ำอสูรที่บาดเจ็บและสังหารพวกมัน อสูรที่ไม่ได้บาดเจ็บพยายามต้านรับสุดความสามารถ แต่ก็ยังบาดเจ็บสาหัส เหลือเพียงอสูรตัดวิญญาณขั้นสูงสุด 2 ตน และราชาอสูรอีก 1

ราชาอสูรเปล่งเสียงคำรามลั่น ง้างอุ้งเท้าหน้าหวดฟาดต้านรับกระบี่บินของหนิงฝาน

ยามนี้เหลืออสูรตัดวิญญาณอยู่ 7 ตน พวกมันเปล่งเสียงผสานจู่โจม จนเกือบทำให้แก้วหูหนิงฝานฉีก เลือดลมปั่นป่วน

หากเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณทั่วไป คงตายเพราะคลื่นเสียงเมื่อครู่

“สลาย!” หนิงฝานกำทรายสีแดงไว้ในมือแล้วหว่านมันออกไป คลื่นเสียงที่ปะทะถูกลดทอนความรุนแรง และสลายไปในเวลาไม่นาน

ทรายแดงเหล่านี้มีสามารถใช้ทำลายอาวุธ สมบัติ กระทั่งใช้หักล้างการจู่โจมได้

เมื่อทำลายการจู่โจมของพวกมันสำเร็จ หนิงฝานฉกฉวยโอกาส สลายร่างเป็นปราณกระบี่สีดำ ตรงเข้าทะลวงร่างของอสูรกึ่งไร้ดัดแปลงจนไม่เหลือซากในชั่วพริบตา

เมื่อราชาอสูรถูกสังหาร อสูรตัดวิญญาณที่เหลือก็กลายเป็นเพียงมดปลวก

โลหิตมังกรจำนวน 150 หยดลอยขึ้นมา หนิงฝานเร่งผนึกพวกมันไว้ในหม้อ

ยามนี้ในตำแหน่งที่ 17 ไร้ซึ่งกลิ่นอายของอสูรตัดวิญญาณแล้ว… หนิงฝานสังหารอสูรตัดวิญญาณไปทั้งหมด 42 ตน ได้โลหิตมังกรมาทั้งหมด 540 หยด ซึ่งเท่ากับโลหิตมังกร 5 หม้อ

“ต่อไปคือตำแหน่งที่ 18...”

เงาร่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย มุ่งหน้าสู่ตำแหน่งที่ 18 อย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นครึ่งวัน อสูรตัดวิญญาณในเขตที่ 18 ก็ถูกสังหารจนหมด

ผ่านไปอีก 3 วัน หนิงฝานก็ไล่สังหารอสูรจากเขตที่ 19 ไปจนถึง 24

แต่ละตำแหน่งในส่วนที่ 1 จะถูกจัดเรียงในลักษณะที่เหมือนวงกลม เมื่อไปถึงตำแหน่งที่ 24 ตำแหน่งต่อไปจะวกกลับมายังตำแหน่งที่ 1

เมื่อสังหารอสูรตัดวิญญาณในตำแหน่งที่ 24 จนหมด หนิงฝานก็ใช้เวลาอีก 6 วัน ไล่ล่าสังหารอสูรมาจนถึงตำแหน่งที่ 13 เขาสังหารอสูรตัดวิญญาณไปมากกว่า 800 ตน เก็บโลหิตมังกรได้ 80 หม้อ… ทั้งหมดนี้หนิงฝานใช้เวลาไปเพียง 10 วันเท่านั้น

หากนำโลหิตมังกรทั้ง 80 หม้อใส่ลงไปในน้ำเต้าโลหิต เมื่อผ่านไปอีก 10 ปี มันจะกลายเป็นสุราที่ให้ปราณได้มากถึง 4 แสนเกราะ!

เมื่อถึงยามนั้น หนิงฝานย่อมทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงได้ไม่ยาก

ในตำแหน่งที่ 13 ตามระบุไว้ในแผนที่นั้น หนิงฝานยังไม่ได้เปิดฉากสังหารอสูร เพราะเขาสัมผัสพบร่องรอยการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก

จากร่องรอยและกลิ่นอายที่เหลือ ดูราวกับคนของวังสวรรค์ทั้งหมดจะถูกส่งมาที่นี่

คนของวังสวรรค์ส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นและกลาง หากพวกมันอยู่กันเพียงลำพัง นับว่าอันตรายอย่างยิ่งยวด

ดังนั้นฉูฉางเอ๋อร์จึงจงใจส่งคนเหล่านี้มาด้วยกัน และแยกหนิงฝานไปเพียงลำพัง

*โฮก~*

เสียงคำรามของราชาอสูรดังมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงร้องของผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก

แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา ดูเหมือนคนของวังสวรรค์จะถูกกองทัพอสูรจู่โจม

หนิงฝานขบคิดเล็กน้อย ฉูฉางเอ๋อร์ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับเขา ผู้เชี่ยวชาญของวังสวรรค์เองก็ไม่ได้มองเขาเป็นศัตรู อีกอย่าง หยูเป่ยก็เป็นสหายคนหนึ่งของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่อาจทนมองคนเหล่านั้นตายได้

ปีกฟู่ลี่กระพือพัด ส่งร่างหนิงฝานข้ามผ่านไปยัง 1 แสนลี้เบื้องหน้าในพริบตา...

ภายนอกบ่อโลหิตมังกร ชายวัยกลางคนสวมอาภรณ์ขาวนั่งขัดสมาธิ ดวงตาปิดสนิทอย่างสงบ ข้างกายมีฉูฉางเอ๋อร์ที่ถือป้ายหยกนั่งขมวดคิ้ว

บนป้ายหยกทองมีเกร็ดมังกรติดอยู่ทั้งหมด 24 ชิ้น แต่มีเพียงชิ้นที่ 13 14 15 และ 16 ที่ยังเปล่งแสงอยู่ ที่เหลือหม่นแสง

เกร็ดมังกรแต่ละเกร็ดเป็นตัวแทนของราชาอสูร

การที่เกร็ดจำนวน 20 ชิ้นหม่นแสง แสดงว่าราชาอสูร 20 ตนถูกสังหาร!

ชายชรารู้ดีว่าราชาอสูรนั้นแตกต่างจากอสูรทั่วไป แม้พวกมันทรงพลังจนเกือบจะทัดเทียมผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง แต่ก็ยังถูกสังหารไปไม่น้อย

ราชาอสูรตนแรกที่ถูกสังหารอยู่ในตำแหน่งที่ 17 ของส่วนที่ 1 ซึ่งที่นั่นคือตำแหน่งที่หนิงฝานอยู่

“แค่ 10 วันเด็กนั่นสังหารราชาอสูรไปถึง 20 ตน… เด็กนั่นน่าจะแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง… ราชาอสูรเหล่านั้นข้าเป็นคนสร้าง ถึงจะอยู่แค่ขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงแต่ก็ใช่ว่าจะจัดการง่ายๆ… แค่ 10 วันสังหารราชาอสูรได้ถึง 20 ตน ความเร็วระดับนี้ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงยังทำไม่ได้!”

ชายชราถอนหายใจ คาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะทรงพลังขนาดนี้

“ซัวหมิง… เด็กนี่มันปีศาจชัดๆ! 10 วันที่ผ่านมานี้ น่าจะได้โลหิตมังกรครบ 50 หม้อแล้ว… องค์ชายใหญ่ ท่านชนะ...”

ชายชราถอนหายใจ ราชาอสูรเหล่านั้นชายชราต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสร้างพวกมันขึ้นมาได้ใหม่ บางทีอาจจะ 10 ปี หรือ 100 ปี ดูเหมือนชายชราจะต้องเหนื่อยไม่น้อย

หยุนเทียนเฉวรับฟังคำกล่าวของชายชรา แต่ไม่นานนัก สีหน้าที่สงบนิ่งกลับเริ่มเคร่งเครียด

หยุนเทียนเฉวกำลังเป็นกังวล กังวลในความปลอดภัยของหนิงฝาน

“เป็นไปไม่ได้! นี่มัน...” ผ่านไปชั่วธูปไหม้หมดดอก จู่ๆชายชราก็อุทานขึ้น เพราะเกร็ดมังกรเกร็ดที่ 13 ได้หม่นแสงไป

แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้น คือเกร็ดมังกรชิ้นอื่นๆก็เริ่มหมดแสงอย่างต่อเนื่อง... กระทั่งเกร็ดมังกรที่อยู่ป้ายหยกทองหม่นแสงทั้งหมด!

ไม่นาน ป้ายหยกเงินที่มีเกร็ดมังกร 108 เกร็ดได้เปล่งแสง ป้ายหยกเงินคือป้ายแสดงถึงอสูรที่อยู่ในส่วนที่ 2 ของบ่อโลหิตมังกร ดินแดนของอสูรไร้ดัดแปลง!

“ซัวหมิงเข้าไปยังส่วนที่ 2 และสังหาร… อสูรไร้ดัดแปลงขั้นต้นไปแล้ว 3 ตน!”

ชายชราตกตะลึง เป็นไปไม่ได้ที่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคนเดียวจะสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 3 คน

ชายชราสงสัยว่าหนิงฝานทำได้ยังไง อย่างน้อยๆเมื่อยามที่ชายชราอยู่ขอบเขตตัดวิญญาณ ชายชราก็ไม่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 3 คนได้เพียงลำพัง

ต่อให้ชายชราทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลง ชายชราก็ยังไม่อาจสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 3 คนเพียงลำพังได้อยู่ดี

ชายชรารู้ตัวแล้วว่าตนเองดูแคลนหนิงฝานเกินไป

การที่เขาสังหารหยุนหยานได้ ย่อมไม่ได้มีแค่ร่างต้านเพลิงเท่านั้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด