Chapter 179 – The Chosen Ones (4) [11-06-2020]
Chapter 179 – The Chosen Ones (4)
”
ฟรานซ์ได้ขยับปากและขมวดคิ้ว นี้เป็นเพราะว่าเขามอนสเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าของเขามันดูคล้ายกับปลาหมึกที่กึ่งจะโปร่งแสงและสามารถจะหมุนหัวได้ 360 องศาขยับไปมาแบบกระเพื่อมๆราวกับมันกำลังคลาน จริงๆแล้วคำว่าคลานก็ไม่ได้ถูกนัก การเคลื่อนไหวของมันสามารถจะอธิบายให้ชัดขึ้นก็คือมันกำลังแบ่งร่างออกมาครึ่งหนึ่งและย้ายมวลร่างกายจากใหญ่ไปเล็ก เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดแบบนี้ทำให้ความอยากจะสู้ของฟรานซ์ต้องหมดไป
"อึก... นี้มันอะไรเนี้ย"
แต่แล้วคนที่อยู่ข้างๆเขาได้ก้าวขึ้นมาและตอบกลับ
"มันไม่สำคัญหรอกว่านี่คืออะไร พวกเราก็แค่ฆ่ามันซะ"
ฟรานซ์ได้เหลือบไปมองคนที่พูดอย่างนี้ คนๆนั้นยืนอยู่ในที่ๆมีแสงสลัวๆ คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่นนอกไปเสียจากเซริน บางทีเป็นเพราะว่าการที่จำนวนนักล่าที่รอดชีวิตเหลืออยู่น้อยแล้วทำให้ฟรานซ์กับเซรินได้มาอยู่ในทีมเดียวกัน ในขณะที่ฟรานซ์ไม่สามารถจะใช้แรงชักดาบได้ เซรินได้ง้างสายธนูแล้ว ฟรานซ์ได้มองไปที่เธอพร้อมคิดขึ้น
'โอ้ ผู้หญิงคนนี้....เธอดูเข้มแข็งกว่าที่เห็นอีก'
เขาได้พบกับเธอแค่ในระหว่างกินอาหารค่ำเท่านั้น ดังนั้นจนกระทั่งตอนนี้เขาได้คิดเสมอว่าเธอมักจะมีภาพลักษณ์เป็นคนชอบเก็บตัว แต่ในตอนนี้เมื่อยืนอยู่ในสนามรบบรรยากาศรอบตัวของเธอแตกต่างไปจากเดิมสิ้นเชิง
"มาเริ่มกันเธอ"
เธอได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่คมชัด นักล่าคนอื่นๆก็ได้เริ่มต่อสู้ตามคำพูดของเธอ
"ฟู่วว....."
ฟรานว์ได้สูดหายใจเข้าลึกๆและยกดาบขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้นลูกธนูของเซรินก็ได้พุ่งออกไปแล้ว
'ฉึก'
'กี๊ดดดดดด'
มอนสเตอร์ที่ถูกลูกธนูปักได้ส่งเสียงร้องออกมาเหมือนกับเสียงของโลหะที่ขึ้นสนิมและพุ่งเข้ามาหานักล่
'พิสดาร'
ฟรานซ์ได้คิดกับตัวเองและหยิบดาบใหญ่วิ่งเข้าไปหามอนสเตอร์
*****
นาดาที่กำลังเดินไปพร้อมๆกับนักล่าในทางเดินที่แคบได้หยุดเดินลงเมื่อเธอได้สังเกตุเห็นอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายๆกับเสาสีขาวที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของปลายทาง
"นั่นมันคืออะไร...."
เมื่อมองดูดีๆมันเป็นคนที่สูงมากๆ ลักษณะภายนอกไม่มีอะไรที่เหมือนมนุษย์เลย มันเป็นเพียงแค่ลำตัวยาวๆและใบหน้ายาวๆ ไม่มีตา หูหรือจมูกเลย มีเพียงก็แต่ปากที่เปิดๆปิดๆ ในท้ายที่สุดแล้วก็คือผมที่ยาวลงมาจนถึงเท้า นาดาผู้ที่รู้ตัวถึงสิ่งมีชีวิตกลายพันธ์นี้ได้แต่ตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
"โว้.... นี้มันคืออะไร"
นาดาเคยได้ต่อสู้กับมอนสเตอร์มานับไม่ถ้วนจนถึงตอนนี้ แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่น่าเกียจแบบนี้ และเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเธอฮิโรกิก็ได้ก้าวมาข้างหน้าและพูดขึ้น
"สิ่งนี้มัน... มันดูเหมือนกับเป็นผีในตำนานจากญี่ปุ่นเลย"
นาดาได้หันมามองเขา โชคดีมากที่เธอได้มาเจอกันกับ 'ผู้ถูกเลือก' อีกคนหนึ่ง นาดาได้ขมวดคิ้วในขณะตอบกลับไป
"ผีญี่ปุ่มหรอ"
ฮิโรกินได้ยิ้มและสะบัดดาบอย่างมั่นใจ
"ทำไมหรอ พี่สาวกลัวหรอ ถ้างั้นก็รอนี่แปปนะครับ เดี๋ยวผมจะไปจัดการเอง"
พูดตามตรงนาดาก็อย่าจะอยู่ตรงนี้เฉยๆเหมือนกัน แต่ว่ามันก็จะขัดกับอีโก้ของเธอเมื่อได้ยินคำๆนี้จากเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าตัวเอง
"อะไร ใครกันที่บอกว่าพวกนั้นน่ากลัว"
เธอได้ดึงมีดสั้นออกมา แต่ว่าเท้าของเธอกลับไม่ขยับตามปกติ คิ้วของนาดาได้ขมวดเป็นปมในขณะที่คิดกับตัวเอง
'ให้ตายสิ ฉันอยากให้บทนี้มันจบไวๆจังเลย'
*****
ในขณะที่นักล่าคนอื่นๆกำลังอยู่ในช่วงการเริ่มผ่านบทที่น่าสะพรึงนี้ ซังจินก็ได้ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและได้เผชิญกับบอสแล้ว นี้เป็นเพราะว่าซังจินนั้นเคยมาที่นี่ก่อนทำให้เขาสามารถจะทำเวลาในการเคลียร์การจู่โจมได้เป็นอย่างดี แต่ว่านี้ก็ไม่ใช่ว่าปาตี้นี้จะไร้ซึ่งปัญหาไปซะหมด
"เฮ้ผู้ก่อการร้าย ไปกันไอตัวที่บินทางขวามือที"
"แกเรียกใครว่าผู้ก่อการร้ายกัน!? ไอ้แยงกีจมูกโตเอ้ย"
นี้มันเป็นเพราะว่าทั้งสองคนมั่วแต่ทะเลาะกันเหมือนกับเด็ก บอสมอนสเตอร์เทเซอบูรันดาบาสนั้นสามารถจะเปลื่ยนรูปร่างได้อย่างอิสระและเคลื่อนได้ไปมาได้อย่างไร้ขีดจำกัดดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าจุดไหนเป็นจุดอ่อนของมัน
"อั๊ก"
หมัดที่กำแน่นได้ต่อยเข้าไปที่ 'แยงกีจมูกโต' ส่งให้เขาต้องลอยกระเด็นไปไกลและ
"อ๊าาา"
'ผู้ก่อการร้าย' ได้ถูกกัดโดยเขี้ยวที่โผล่ขึ้นมาจากท้องของมอนสเตอร์ ซังจินได้ขมวดคิ้วขึ้นเมื่อมองออกไปและยกดาบขึ้น
'คนพวกนี้ไม่ได้ดีอย่างที่ฉันคิดเลย มาจบมันกันดีกว่ามูน สเปค เบสโกโร่'
'ค่ะนายท่าน'
'เอาเลย'
เหมือนอย่างที่เขาชอบทำในบทก่อนๆซังจินจะเฝ้ามองนักล่าคนอื่นๆสู้อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะตัดสสินใจเริ่มเข้าไปต่อสู้จริงๆ และในสิบวินาทีต่อมาเทเซอร์บูรันดาบาสที่ถูกหันเป็นชิ้นๆก็ได้ส่งเสียง 'กี๊ดดดดดดด' ออกมาก่อนที่จะล้มลงไปแน่นิ่งกับพื้นและหายตัวไปเหมือนกับควัน
[บอสมอนสเตอร์เทเซอร์บูรันดาบาสถูกเคลียร์]
ซังจินได้เก็บดาบลงไปในตอนที่เขาได้ยินเสียงของโอเปอเรเตอร์ ยกเว้นมาฮาเดสที่รู้อยู่แล้ว นักล่าคนอื่นๆต่างก็ยืนอ้าปากค้าง เนื่องจากนี้้มันไม่ใช่ครั้งแรกที่คนอื่นๆเป็นกันแบบนี้ซังจินได้ตอบกลับไปอย่างสบายๆ
"ฉันไปทำการจัดการล่าทั้งหมดที่อยู่ข้างหน้านี้ ส่วนพวกนายที่เหลือก็ช่วยดูแล เข้าใจไหม?"
แม้ว่านักล่าจะต่างมีบุคลิกที่หยาบกระด้าง แต่ตอนนี้พวกเขาก็เหมือนกับลูกแกะเชื่องๆเมื่ออยู่ต่อหน้าความเหนือกว่าของซังจินทำให้พวกเขานั้นได้แต่หยักหน้ารับอย่างว่างาย ซังจินได้เริ่มคิดถึงสิ่งต่อไปที่เขาจะต้องทำทันที ในบทนี้เขาไม่มีพรรคพวกให้หาแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้มันคงจะดีกว่าหากเขาไปจัดการฆ่าบอสลับเร็วๆและออกหาไอเทมระดับตำนวนหรือแม้แต่เหรียญดำซักเล็กน้อย
'หืมม... ฟรานซ์บอกว่าเขาอยากจะได้ผ้าคลุม.. แล้วก็เซรินอยากจะเปลื่ยนรองเท้าของเธอ... ถ้าหากว่าฉันได้รับไอเทมระดับตำนวนดีๆฉันก็น่าจะเอาไปให้พวกเขา แล้วก็ถ้าหากว่าในวันนี้มันไม่มีไอเทมอะไรดีๆฉันก็ไปหาซื้อที่ตลาดมืดได้ตลอด'
อุปกรณ์สวมใส่ของซังจินส่วนใหญ่ถูกรวบรวมมาครบแล้วและเขาก็ไม่มีที่ให้ใช้เหรียญดำที่ไหนอีกแล้วในเมื่ออิลิกเซอร์ไม่มีมาขายแล้ว นี้มันเป็นเรื่องดีกว่าที่เขาจะใช้ของเหล่านี้ไปให้กับนักล่าคนอื่นๆ แม้ว่าจำนวนไอเทมที่มีอยู่และราคาจะน้อยลงเนื่องจากจำนวนนักล่าที่ลดลง แต่มันก็ยังเป็นไปได้ที่จะหาซื้อไอเทมระดับตำนานด้วยเหรียญดำอยู่
'ปัญหาก็คือฉันไม่รู้ว่าบอสลับอยู่ที่ไหน'
ซังจินได้หันไปมองมาฮาเดส
'เอาเถอะยังไงมาฮาเดสก็อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน... มันไม่น่าจะมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นหรอก'
ซังจินได้คำนวนข้อสรุปในใจและพูดกับโอเปอเรเตอร์ในทันที
"โอเปอเรเตอร์ ฉันขอใช้ทักษะนักล่าสมบัติ"
*****
"ย่าห์"
ฟรานซ์ได้เหวี่ยงดาบใหญ่ลงไปใส่ร่างของเทเซอร์บูรันดาบาสซึ่งลูกธนูได้ตามมาไม่นานหลังจากนั้นและปักลงไปบนร่างของมัน
'ฉึก ฉึก ฉึก'
ก่อนที่ฟรานซ์จะได้ทันเหวี่ยงดาบอีกครั้งหนึ่งร่างของมันก็หดและหายไป
[บอสมอนสเตอร์เทเซอบูรันดาบาสได้ถูกเคลียร์]
"ฟู่วววว"
ฟรานซ์ได้มองย้อนกลับไปตามทิศทางที่ลูกธนูพุ่งออกมา เซรินได้เก็บธนูกลับลงไปบนหลังแล้ว
'ว้าว เธอน่ากลัวจริงๆซึ่งต่างไปจากรูปลักษณ์ภายนอก...'
"ทุกคนทำได้ดีมาก"
"เยี่ยมไปเลย"
ในขณะที่นักล่าคนอื่นๆกำลังแสดงความยินดีกัน ฟรานซ์ก็ได้ยกเรื่องบอสลับขึ้นมาพูด
"เอายังไงล่ะ พวกเราดูเหมือนจะทำงานร่วมกันได้ดีเลยนะ พวกนายอยากจะไปฆ่าบอสลับกันไหม"
นักล่าต่างก็ลังเลใจ
"เอาล่ะ.... อย่างที่คุณพูดแหละว่าเราร่วมมือกันได้ดีจริงๆ แต่ว่า... พวกเราจะทำได้จริงๆหรอ"
"เขาพูดถูก... ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้พยายามไปฆ่าบอสลับเหมือนกัน ฉันได้เสียพรคพวกไปถึงสามคน หลังจากนั้นฉันก็...."
"หืมม... แม้ว่ารางวัลมันจะดีก็เถอะ...."
การตอบสนองกลับมาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลย นี้มันเป็นเพราะว่าหากคุณฆ่ามันได้ก็เป็นเรื่องดีไป แต่ฆ่าคุณทำไม่ได้มันก็เหมือนกับเป็นไกด์นำทางไปสู่ความตาย ยังไงก็ตามฟรานซ์ก็ยังคงต้องการจะฆ่าบอสลับที่นี่
'ฉันจะบอกให้ฟังนะ ฉันได้เรียนรู้มากกว่านายอีก'
'เป็นแบบนี้ได้ยังไงอะ อาจารย์ผมด้วยสิ ช่วยประลองกับผมด้วย ผมแข็งแกร่งขึ้นมามากแล้วนะหลังจากที่ได้ผ่านการจู่โจมหลายวันมานี้'
นับตั้งแต่ที่เขาได้ผมนักดาบชาวญี่ปุ่นฮิโรกิ ความปรารถนาในการแข็งแกร่งขึ้นของเขาก็ได้พุ่งขึ้นมา
'หืม แต่ว่าก็ยังมีอีกคนที่ได้รับการยอมรับจากเคย์อยู่กับฉันด้วยนี่'
ฟรานซ์ได้มองไปทางเซรินและถามออกมา
"คุณคิดว่าไงบ้างคุณเซริน ไปฆ่ามันกันดีกว่า พวกเราจะได้แข็งแกร่งมากพอที่จะช่วยเคย์ได้ถูกไหม"
ยังไงก็ตามแม้แต่เซรินก็ยังไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้
"ยังไงก็เถอะ... โอปป้า... ไม่สิ เคย์บอกว่าเราไม่ควรที่จะเสี่ยงกับเรื่องนี้โดยประมาท"
"สมาชิกทั้งห้าคนก็ยังมีชีวิตอยู่... แล้วก็มีถึงสองคนถึงเป็นผู้ถูกเลือกอยู่ที่นี่คือคุณเซรินกับผม ทำไมเราจะต้องกังวลอีกล่ะ"
เซรินได้จ้องมาที่เราอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็หยักหน้า
"ก็จริงนะ ถ้าเป็นพวกเราสองคน... มันก็ไม่น่าจะอันตรายจนเกินไป"
"เยี่ยม ถ้าคุณเซรินยอมรับ...."
ฟรานซ์ได้หันหน้าไปหาอีกสามคนและถามขึ้น
"เอาไงล่ะ ไปฆ่าบอสลับกันดีกว่า คุณผู้หญิงนักธนูคนนี้กับฉัน... พวกเราทั้งสองคนจะรับผิดชอบไว้เอง ดังนั้นเรื่องการไป...."
ในก่อนหน้านี้พวกเขายังคงลังเลกันอยู่ แต่ว่าในท้ายที่สุดพวกเขาก็ยอมนับเนื่องจากได้เห็นในความสามารถของเซรินกับฟรานซ์แล้ว
"โอเค"
"ไปลองดูกัน"
"แล้วที่นี่มีใครที่มีฉายานักล่าสมบัติมั้งล่ะ...?"
ตามปกติแล้วจะมีนักล่าอย่างน้อยหนึ่งคนที่จะมีฉายานักล่าสมบัติอยู่ และก็เป็นไปตามที่คิดเอาไว้มีนักล่าคนหนึ่งยกมือขึ้น
"ผมมี"
"ถ้างั้นเรามาฟังคำใบ้กัน"
เขาได้หยักหน้าและหันไปพูดกับลูกบาศก์
"โอเปอเรเตอร์ ฉันขอใช้ทักษะของนักล่าสมบัติ ช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับบอสลับด้วย"
ไม่นานนักโอเปอเรเตอร์ก็ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบอสลับออกมา
[ภายในสถานที่ๆยุคสมัยกาลเวลายากหยั่งถึง]
[มีปีศาจที่หลับไหลมาทั้งอายุขัย]
[มันจะต้องฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า]
[ถ้าหากเธอได้พบและจ้าวแห่งความฝันได้ถูกปลุกให้ตื่น]
[จากนั้นแสงก็จะมา]
[และฝันร้ายทั้งหมดก็จะดับลง]
[แต่จงระวัง]
[ไม่ว่าจะฝันร้ายหรือฝันหวาน]
[อันตรายก็ซ่อนอยู่ทุกหนแห่ง]
"หืม"
อย่างที่คิดเขาไว้เลยเขาไม่สามารถจะจับใจความได้จากการที่ฟังเพียงแค่ครั้งเดียว นักล่าทั้งห้าคนได้ย้อนฟังอีกครั้งหนึ่ง
"ช่วยพูดอีกครั้งได้ไหม"