บทที่ 114 - ความโลภที่เขมือบทุกสิ่ง (1)
บทที่ 114 - ความโลภที่เขมือบทุกสิ่ง (1)
”
ด้วยการใช้แต้มทักษะฉันก็สามารถจะเพิ่มเลเวลของทักษะได้ ตามที่โรเล็ตต้าได้บอกไว้ทุกๆครั้งที่ฉันใช้แต้มทักษะในการเพิ่มเลเวลทักษะ ฉันก็จะต้องใช้มันเพิ่มเป็นสองเท่าในการเพิ่มเลเวลทักษะครั้งต่อไปถ้าต้องการจะเพิ่มเลเวลทักษะ
มันอาจจะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ว่ามันในกรณีครั้งแรกที่จะใช้ 1 แต้ม แต่ว่าจากนั้นมันจะใช้ 2 4 8 และมากขึ้นไปอีก เพื่อที่จะเพิ่ม 5 เลเวลก็จะต้องใช้แต้มทักษะถึง 31 แต้ม ดังนั้นฉันก็เลยได้ว่างแผนที่จะตัดสินใจเก็บแต้มพวกนี้เอาไว้เมื่อฉันรู้สึกถึงทางตันของทักษะ
แน่นอนว่าในตอนนี้มันเป็นยกเว้น ในปัจจุุบัน แม้ว่าฉันจะไม่อยากใช้มัน แต่ฉันจำเป็นจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
"อย่างแรกก็คือเทคนิคหอก"
เมื่อเร็วๆนี้เทคนิคหอกของฉันได้กลายมาเป็นระดับสูงเลเวล 6 ด้วยอีก 1 แต้มดังนั้นมันจึงกลายเป็นระดับสูงเลเวล 7
[เทคนิคหอกได้กลายเป็นระดับสูงเลเวล 7! มานาจากภายนอกจะไหลเข้าไปในหอกของคุณอย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้มานาในการโจมตี โอกาสที่จะติดคริติคอลเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อแทงหอก]
[ในฐานะที่คุณเพิ่มเลเวลทักษะด้วยแต้มทักษะ มันจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อปรับตัวให้เข้ากับเลเวลทักษะ]
ฉันรู้สึกเหมือนกับร่างกายได้ถูกบีบอัดอย่างแรง เหมือนกับมีใครบางคนใช้กำลังบีบฉัน นี่มันรู้สึกไม่ดีเลย ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากที่จะพึ่งพาพลังของตัวเองในการเพิ่มเลเวลเทคนิคหอกของฉัน
"ไม่สิ ฉันเพียงแคต่จะต้องเรียนรู้มันอย่างสมบูรณ์ด้วยร่างกาย"
บางทีนี่มันก็อาจจะเป็นข้อบกพร้องของการใช้แต้มทักษะ ฉันรู้สึกว่าฉันไม่สามารถจะใช้พลังของเทคนิคหอกเลเวล 7 ได้อย่างเต็มที่ เหมือนอยากที่ระบบบอกดูเหมือนว่าฉันจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับมันซักหน่อย ฉันได้ก้มหน้าลงคิด ตอนแรกฉันต้องการจะเป็นจ้าวแห่งหอก แต่ว่าถ้ามันเป็นแบบนี้มันก็ไม่มีความหมายอะไรถ้าเป็นจ้าวแห่งหอกผ่านแต้มทักษะนี้
ด้วยความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยและจะมีเพียงแต่ระยะห่างมันจะเพิ่มขึ้นถ้าฉันเพิ่มเลเวลเทคนิคหอกต่อไป และมันก็อาจจะเป็นถึงขนาดที่ต้องใช้เวลานานมากๆในการปรับตัวให้เข้ากับเทคนิคจ้าวหอกที่แท้จริง อย่างน้อยฉันก็จะไม่สามารถใช้เทคนิคจ้าวแห่งหอกได้ในการทำภารกิจนี้
ในกรณีนี้ฉันก็จะต้องเพิ่มเลเวลทักษะอื่นดีกว่า ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ก็อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าการโยนแต้มทักษะทิ้งซะอีก
ฉันต้องการที่จะเพิ่มทักษะพันธะสัญญาภูติธาตุเพื่อที่จะทำพันธะสัญญากับภูติธาตุอีกหนึ่งตน แต่ว่าทักษะนี้ของฉันอยู่ในระดับกลางเลเวล 4 แม้ว่าฉันจะใช้แต้มทักษะทั้งหมดของฉันแล้ว แต่ฉันก็ไม่สามารถจะเพิ่มมันไปจนถึงเลเวล 9 ได้ดังนั้นนี่ก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด
ฉันจะต้องคิดหาวิธีอื่น ทักษะที่จะมีผลในทันทีที่เลเวลทักษะเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องปรับตัว.... จากนั้นก็มีความคิดหนึ่งจุดประกายขึ้นในหัวของฉัน
ความเร็วศักดิ์สิทธิ์
"เอานี้ล่ะ"
[ทักษะความเร็วศักดิ์สิทธิ์ของคุณได้กลายเป็นเลเวล 7 เมื่อคุณใช้งานจะใช้มานา 14% ของคุณเพื่อที่จะเพิ่มความเร็วขึ้น 750% เป็นเวลา 1.5 วินาที]
"อึก"
บ้าน่า ในเลเวล 6 มันเพิ่มความเร็ว 700% เป็นเวลา 1 วินาที การเพิ่มขึ้นมานี้มันมากเกินไป นอกจากนี้มันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดมันไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับมัน! นี่มันราวกับว่าฉันได้ถูกครอบงำโดยบางสิ่งบางอย่างถ้าฉันยังใช้แต้มทักษะ
[ทักษะความเร็วศักดิ์สิทธิ์ของคุณได้กลายเป็นเลเวล 8 เมื่อคุณใช้งานจะใช้มานา 14% ของคุณเพื่อที่จะเพิ่มความเร็วขึ้น 800% เป็นเวลา 2 วินาที]
[ทักษะความเร็วศักดิ์สิทธิ์ของคุณได้กลายเป็นเลเวล 8 เมื่อคุณใช้งานจะใช้มานา 14% ของคุณเพื่อที่จะเพิ่มความเร็วขึ้น 900% เป็นเวลา 2.5 วินาที]
ด้วยแต้มทักษะทั้งหมดที่ฉันได้ใช้ไปในตอนนี้ก็ 8 แต้มแล้ว ฉันยังเหลืออยู่อีก 12 แต้ม ฉันจะต้องใช้ 8 แต้มในการทำให้ฉันเชี่ยวชาญทักษะความเร็วศักดิ์สิทธิ์ มันไม่จำเป็นจะต้องลังเลเลย มันเห็นได้ชัดว่าฉันตกใจในทุกๆครั้งที่ทักษะเลเวลเพิ่มขึ้น จากนั้นฉันก็ได้อัพทักษะนี้
[คุณได้เชี่ยวชาญความเร็วศักดิ์สิทธิ์ เมื่อคุณใช้จะใช้มานา 10% เพื่อเพิ่มความเร็ว 1,000% เป็นเวลา 3 วินาที ความสัมพันธ์ของคุณกับธาตุลมเพิ่มขึ้นอย่างมาก!]
ฉันได้ถอนหายใจยาวออกมา ใช้มานา 10% เพื่อเพิ่มความเร็ว 1000% เป็นเวลา 3 วินาที มันคุ้มค่ามากกับแต้มทักษะที่ฉันใช้ไป นอกจากนี้มันก็ยังเพิ่มความสัมพันธ์ของฉันกับธาตุลมอีกอย่างมาก!
"นี้....นี้มันอาจจะแข็งแกร่งกว่าทักษะทั้งหมดของฉันรวมกันอีก"
ฉันมีพื้นฐานความเร็วที่เพิ่มขึ้น 145% ในตอนนี้ซึ่งมันจะกลายเป็น 1450% เมื่อทำการคูณ 10 ลงไปด้วยทักษะความเร็วศักดิ์สิทธิ์ พลังทำลายของฉัน... พลังโจมตีของฉันมันจะเพิ่มขึ้นไปตามความเร็วอีกด้วย แน่นอนว่ามันยากที่จะปรับตัวเข้ากับความเร็ว 14.5 เท่า ฝ่ายตรงข้ามของฉันก็อาจจะมีทักษะป้องกันหรือไม่ก็ทักษะเพิ่มความเร็วเช่นกัน ดังนั้นฉันก็ไม่สามารถที่จะพูดได้ว่าทักษะนี้มันคงกระพัน
ถึงอย่างนั้นก็เห็นได้ชัดเลยว่าทักษะนี้จะกลายเป็นหนึ่งในทักษะหลักของฉัน มันจะดึงเอาพลังที่มหาศาลออกมาได้และมันก็ใช้มานาเพียงแค่ 10% ฉันสามารถจะต้องใช้งานมันได้โดยที่ไม่ต้องรับภาระมากมาย
เอาล่ะในตอนนี้ฉันเหลือแต้มอยู่ 4 แต้ม อย่างแรกฉันได้เพิ่มแต้มนี้ไปที่วงจรเพรูต้า ฉันสงสัยยว่ามันจะคล้ายกับเทคนิคหอกหรือไม่
[วงจรเพรูต้าได้กลายเป็นเลเวล 6! คุณจะสามารถรักษาวงจรเพรูต้าได้ง่ายขึ้นในระหว่างการต่อสู้ ตวามเร็วในการโคจรวงจรนี้ก็จะเพิ่มขึ้นและสร้างมานามากขึ้น ในขณะที่วงจรเพรูต้าทำงาน พลังในการหมุนวนก็จะเพิ่มขึ้นในทุกๆการเคลื่อนไหวของคุณซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังทำลายให้กับคุณอย่างมาก]
[ในฐานะที่คุณเพิ่มเลเวลทักษะด้วยแต้มทักษะ มันจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อปรับตัวให้เข้ากับเลเวลทักษะ]
ตามที่คาดเอาไว้เลย มันพูดได้ยากว่าทักษะวงจรเพรูต้าได้เติบโตไปอย่างสมบูรณ์ ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันกำลังใส่เกราะที่ไม่พอดีกับฉัน
อย่างที่พูดว่ามันชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างเลเวล 5 และเลเวล 6 มันกลายเป็นว่าฉันสามารถรวบรวมมานาในระหว่างต่อสู้และจะมีพลังหมุนเวียนเพิ่มขึ้นมาในทุกๆการเคลื่อนไหวของฉัน ฉันได้ตระหนักเลยว่าทำไมเพรูต้าถึงได้ภาคภูมิใจในเทคนี้นี้ มันแม้แต่ทำให้ฉันคิดที่จะเพิ่มระดับทักษะขึ้นอีกครั้ง
แต่ฉันก็หยุดตัวเองเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นวงจรเพรูต้าหรือเทคนิคหอก ไม่ว่าอันไหนมันก็เป็นการยากที่จะควบคุมการเปลื่ยนแปลงพวกนี้ ฉันได้กลัวว่ามันจะเป็นอันตรายต่อเทคนิคของฉัน
ที่สำคัญที่สุดก็คือมีทักษะที่ฉันต้องการจะเพิ่มระดับด้วยแต้มที่เหลืออยู่
[การป้องกันวิญญาณกลายเป็นเลเวล 4 วิญญาณของคุณได้เติบโตขึ้นทำให้คุณไม่สะทกสะท้านกับการโจมตีทางจิตใจธรรมดาๆ]
[การป้องกันวิญญาณกลายเป็นเลเวล 5 วิญญาณของคุณได้เติบโตขึ้นทำให้คุณเหนือกว่าธรรมชาติและทำให้คุณมีความต่อต้านการโจมตีทางจิตใจเล็กๆและแม้แต่เวทมนตร์ มีโอกาสที่การโดนโจมตีแบบคริติคอลจะลดลงอย่างมาก]
"หุหุ มันเป็นทักษะที่น่าทึ่งจริงๆ"
ฉันยังคงไม่มันใจกับการป้องกันทางจิตใจ สิ่งที่ฉันจะต้องระวังให้มากที่สุดในทวีปลูก้าไม่ใช่สิ่งที่ฉันไม่สามารถจัดการได้ทางกายภาพแต่เป็นการโจมตีทางจิตใจ แน่นอนว่าถ้าฉันสามารถจะปรับตัวเข้ากับเทคนิคหอกและวงจรเพรูต้าได้อย่างสมบูรณ์ ฉันก็จะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อเพิ่มแต้มทักษะทั้งหมดลงไป แต่ว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นดังนั้นฉันก็เลยตัดสินใจที่จะเพิ่มการป้องกันทางจิตใจแทน
ผลลัพธ์ของมันก็มากกว่าพอใจซะอีก ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้ระแม้แต่การต้านทานเวทมนตร์ ตามที่ฉันคิดเอาไว้รางวัลลับมันแน่นอนว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ผิดพลาด ฉันได้ตรวจสอบสเตตัสทั้งหมดของฉันที่เปลื่ยนไป
[ชื่อ: คัง ชิน เผ่าพันธุ์: มนุษย์ เพศ: ชาย
คลาส: ผู้ใช้ธาตุ(ย่อย - นักสะสมทักษะ,ผู้ฝึกมอนสเตอร์) ฉายา: ซุส ระดับ: ทอง 9
เลเวล: 51
Hp - 27,650/27,650 Mp - 21,860/21,860
ความแข็งแรง - 149(+81) ความคล่องแคล่ว - 140(+49) ทนทาน - 129(+51)
สติปัญญา - 32(+44) พลังเวทย์ - 131(+69) เสน่ห์ - 87(+84) โชค - 39(+34)
ทักษะธรรมดา - ศิลปะการต่อสู้ระดับสูงเลเวล 4 เทคนิคหอกระดับสูงเลเวล 7 ความเชี่ยวชาญหน้าไม้ระดับต่ำเลเวล 9 เส้นทางวายุระดับต่ำเลเวล 2 สายฟ้าขาวจู่โจมต่อเนื่องระดับกลางเลเวล 3 ฮีโร่อิคสไตรค์ระดับกลางเลเวล 8 ยั่วยุระดับกลางเลเวล 6 ความเร็วศักดิ์สิทธิ์เชี่ยวชาญ ย้อนกลับเลเวล 4 ความเชี่ยวชาญเกราะหนักเลเวล 3 พุ่งระดับกลางเลเวล 4 วงจรเพรูต้าเลเวล 6 การป้องกันวิญญาณเลเวล 5 ท่องมิติเลเวล 1 การพิสูจน์แห่งไดฟิค สวนกลับความตาย ขี่
ทักษะประจำคลาส - ความเชี่ยวชาญสปิริตระดับกลางเลเวล 7 สปิริตออร่าระดับกลางเลเวล 4 ควบคุมธาตุระดับกลางเลเวล 4 พันธะสัญญาระดับกลางเลเวล 4 ใบมีดธาตุระดับกลางเลเวล 2 พายุธาตุระดับกลางเลเวล 4 สายฟ้าคลั่งระดับ 2
ทักษะประจำคลาสรอง - แบ่งปันทักษะ ฝึกเลเวล 1 จิตวิญญาณนักสะสม จิตวิญญาณผู้ฝึกมอนสเตอร์]
[อุปกรณ์สวมใส่:
น้ำตาทองคำ (สติปัญญา +5 พลังเวทย์ +5 เสน่ห์ +15 สามาใช้ทักษะ นัยตาซัคคิวบัสได้)
นิ้วกลางของโกเลมเนื้อ (ความแข็งแรง +7 ความทนทาน +7)
เซ็ตเกราะเกล็ดมังกรสีชาด (สเตตัสทั้งหมด +1 ความแข็งแรง +10 ความคล่องแคบ่ส +10 ผลทักษะประเภทพุ่ง +60% สามารถใช้เสียงคำรามสีชาดได้)
ผ้าคลุมมังกรแดงเฟลิกซ์ (ความคล่องแคล่ว +15 พลังเวทย์ +15 เสน่ห์ +15 ทนต่อทุกสภาพภูมิอากาศ สามารถป้องกันการโจมตีที่ไม่คาดคิดได้สามครั้งต่อวัน)
หอกกลืนกินสีชาด (ความแข็งแรง +30การโจมตีพื้นฐานทั้งหมดจะทำให้เกิดความเสียหายเป็นไฟและสร้างสถานะเผาไหม้)]
[รอยสัก: รอยสักหมาป่ายักษ์ (ความเร็ว +30% พลังโจมตีทักษะประเภทพุ่ง +50%)]
[นาฬิกาพกพาของนักสะสม:
1 นาฬิกา: วอร์คลายของออร์คลอร์ด
2 นาฬิกา: เสียงกรีดร้องของวิญญาณร้าย
3 นาฬิกา: ระเบิดสายฟ้าทมิฬ
4 นาฬิกา: ผิวมังกร
5 นาฬิกา: ไม่ยอมตาย
6 นาฟิกา: อันเดตคำราม
7 นาฟิกา: เอ้าเบิร์ส
8 นาฟิกา: ชาโดวบิ้ง
9 นาฟิกา: ขยายยักษ์]
[เคลียร์ 3 เหตุการณ์ดันเจี่้ยน เคลียร์ 2 เหตุการการจู่โจม โบนัสสเตตัสสะสม 7]
[แต้มทักษะในปัจจุบัน: 0]
[ผลของฉายาทั้งหกอย่าง : (ผู้พิฆาตออร์คลอร์ด ผู้พิฆาตราชินีวิญญาณ ผู้พิฆาตมนุษย์หนูทมิฬ ผู้พิฆาตกูลยักษ์ เจ้านายแห่งอัศวินลิซาร์ดแมน เฮอร์มีส) ผลสะสมทั้งหมด: สเตตัสทั้งหมด +11 เพิ่มความเร็ว 15% เพิ่มความสัมพันธ์กับธาตุทั้งหมด เพิ่มความสัมพันธ์กับธาตุลใอย่างมาก สามารถเรียกใช้ธาเลเรียได้วันละครั้ง]
[13 ผลฉายา: สเตตัสทั้งหมด +24 ความเร็ว +15% ความแข็งแรง +15% เสน่ห์ +15% โอกาสคริติคอล x2 เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ประเภทกระดูก ดาเมจคริติคอลเพิ่มขึ้น +50% เมื่อศัตรูมีกระดูก เพิ่มความสัมพันธ์กับธาตุทั้งหมด x2 ความสัมพันธ์ธาตุสายฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ความสัมพันธ์ธาตุลมเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล สามารถอัญเชิญธาเลเลียได้วันละครั้ง สามารถอัญเชิญคะดูเซียสได้เดือนละครั้ง สามารถใช้ทักษะการละเล่นของเทพเแห่งท้องฟ้าได้วันละครั้ง สามารถใช้ทักาะความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้าได้เดือนละครั้ง]
[ธาตุที่ทำพันธสัญญา
1.ไพก้า (ภูติธาตุสายฟ้า)
2.ริยู (ภูติธาตุน้ำแข็ง)]
[ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับการฝึก
1.พลีน (ไซเรน)]
เมื่อมองไปที่ลิสต์ที่ยาวเหยีดฉันได้รู้สึกแปลกๆ ผลของการกระทำใน 5 ปีของฉันได้แสดงออกมาผ่านสเตตัสของฉัน ยังไงตามพวกนี้มันค่อนข้างจะน้อยเมื่อเทียบกับทหารรับจ้างต่างมิติคนอื่นๆที่ได้ใชเวลานานกว่ามากในการเก็บสะสมแต้มทักษะและสเตตัส
ฉันจะต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นนั้นฉันฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนทักษะเมื่อฉันได้พยายามที่จะไปช่วยเพื่อน ฉันต้องการที่จะแข็งแกร่งเมื่อที่จะได้ทำตามใจตัวเองได้อย่างอิสระ ฉันต้องการความแข็งแกร่งที่ฉันสามารถจะเตะก้นเจ้าพวกคนที่พยายามจะฆ่าฉันเพียงแค่เพราะฉันเป็นฮีโร่
จากนั้นเมื่อฉันกำลังจะใช้ทักษะท่องมิติ โรเล็ตต้าก็ได้จับฉันเอาไว้
"ชิน ชินไม่ได้บอกฉันว่าจะไปทันทีไม่ใช่หรอ?"
"ฉัน ฉันจะทิ้งพลีนไว้ที่นี่เหมือนกัน ฉันไม่คิดว่าการโจมตีทางจิตใจของเธอจะดีพอที่จะต่อต้านปีศาจได้และฉันก็ไม่สามารถจะปล่อยให้เธอตาย"
"นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการจะบอก ชินอาจจะไม่สามารถจะไม่กลับมาได้อีกหลายวันดังนั้นชินก็ควรจะไปพูดอะไรกับครอบครัวบ้างไม่ใช่หรอ?"
"อ่า...."
ฉันไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยเพราะในหัวของฉันมันเต็มไปด้วยเรื่องของรูเดียและชินะ แต่ว่าในตอนนี้ฉันคิดออกแล้ว ฉันยังมีคลาสเรียนในวันนี้อีกด้วย! หลังจากที่ได้รับการติดต่อมาจากรูเดียเมื่อวานฉันก็ได้ทะลวงมาจนถึงชั้นที่ 50 โดยที่ไม่ได้หยุดพักเลยและได้กลายเป็นทหารรับจ้างต่างมิติ โว้วแม่และยุยได้โทรเรียกฉันหลายครั้งและส่งข้อความมานับไม่ถ้วนน...
"ฉันจะ...ไปบอกลาก่อน"
"ใช่แล้ว ชินควรจะทำมัน แล้วก็อย่าได้ลืมพูดสิ่งดีๆเกี่ยวกับฉันให้แม่ฟังด้วยนะ"
"ไม่ ฉันจะไม่ทำแน่"
"ทำไม!?"
ในทันทีที่ฉันถึงบ้านและบอกกับครอบครัวว่าฉันจะไปที่อื่น แม่และยุยได้มองมาที่ฉันด้วยสายตาที่สับสนและวอร์คเกอร์ก็ได้โผงผางออกมาว่าฉันโกหก ยังไงก็ตามฉันก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะว่าฉันไม่่สามารถจะให้พวกเขามากังวลกับฉันได้ ฉันก็ได้บอกเพียวแค่ว่าฉันมีเรื่องสำคัญที่จะต้องไปทำ
จากนั้นฉันก็บอกความจริงเพียงกับแค่พ่อ
"ฉันได้ยินเรื่องนี้เหมือนกันที่ว่าทวีปลูก้ามีปัญหานะ"
"ใช่แล้วพ่อ ผมได้กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าทหารรับจ้างต่างมิติ ผมกำลังจะไปช่วยเพื่อน"
พ่อได้เงียบไปครู่หนึ่งแล้วจากนั้นก็เอื้อมมือออกมาและลูบหัวฉัน
"ใช่ไปไปช่วยเพื่อนของแกซะ ฉันภูมิใจในตัวแก"
"ผมจะกลับมา"
"อย่ากลับมาแบบหมดสภาพล่ะ"
"แน่นอนก็ผมเป็นลูกชายของพ่อนี่"
ฉันควรจะบอกเยอึนกับฮวาหยาด้วยดีไหมนะ? ไม่จำเป็นหรอกที่จะบอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันทำแค่ส่งข้อความไปว่าฉันจะยุ่งกับการเคลียร์ดันเจี้ยนซักสองสามวัน จากนั้นฉันก็กลับเข้าไปในดันเจี้ยน โรเล็ตต้าที่กลับมาอยู่ในร้านขายของได้กระพริบตาสีทองของโตและถามออกมา
"โอ้? ชินกลับมาแล้ว ฉันคิดว่าชินจะตรงไปที่ทวีปลูก้าเลยซะอีก
"ใช่ ฉันคิดว่าฉันก็ควรจะมาบอกลาโรเล็ตต้าด้วย"
"คำพูดที่หายากแบบนี้มันน่าชื่นชม....ฮ่าห์ ฉันจะไปเพื่อนมัน!"
โรเล็ตต้าได้ลอยตัวออกมาจากเคาน์เตอร์และมาที่ฉัน ตามที่คิดเลยว่าเธอเร็วสมกับเป็นเอลฟ์ แม้ว่าในขณะที่ฉันทึ่ง ฉันก็ได้จับเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อฉันได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหน้าของโรเล็ตต้าก็อยูตรงหน้าของฉัน
"ตกใจ?"
"ใช่สิ! ฮึบ"
ครู่ต่อมาฉันก็ตกใจมากยิ่งขึ้นเพราะทันใดนั้นโรเล็ตต้าก็มาจูฐฉัน ฉันได้มองตรงไปในสายตาโรเล็ตต้า ฉันไม่สามารถจะเข้าใจว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นไปได้ ริมฝีปากของโรเล็ตต้ากับของฉันสัมผัสกัน.....เอ๋!!!!!!!?
[คุณได้รับพรระดับสูงของราชินีเอลฟ์ จะแสดงผลอย่างน้อยสี่วัน คุณจะได้รับการป้องกันจากสถานะระดับต่ำและระดับกลางทั้งหมด คุณสามารถที่จะรักษาสติของคุณได้นานถึง 5 นาทีหลังจากตกอยู่ในสภาวะกึ่งตาย โชคของคุณเพิ่มขึ้น 100 สมาชิกทั้งหมดของเผ่าพันธ์แฟรี่จะมองคุณในเกณดี พลังชีวิตและพลังเวทย์จะเพิ่มอัตราการฟื้นฟูอย่างมาก และคุณก็จะไม่เหนื่อยง่ายๆ การโจมตีของคุณมีโอกาสติดคริติคอลมากยิ่งขึ้น]
ได้มีข้อความดังขึ้นในหูของฉัน แต่ว่าฉันก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่ฟังมันอย่างใจเย็นได้ ในขณะที่ฉันกำลังยืนงงอยู่ โรเล็ตต้าก็ได้เอาหัวออกเธอออกมาและทำเสียง 'อืมมม' ใบหน้าของเธอได้แดงราวกับว่ามันจะระเบิดออกมา เมื่อคิดถึงการสัมผัสที่ริมฝีปากของเธอและฉันมันทำให้ฉันไม่สามารถจะพูดหรือทำอะไรได้อีก โรเล็ตต้าได้พูดอย่างเงียบๆ
"อย่างเข้าใจผิดนะชิน"
"อะ อะไรหรอ?"
"ฉันไม่ได้จูบชินเพราะต้องการให้พรแก่ชิน แต่ว่าฉันทำเพราะฉันรักชินเข้าใจนะ?"
มันมีหลายสิ่งที่ฉันต้องการจะพูดออกไป ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกเราถึงมีความสัมพันธ์แบบนี้ นั่นมันเป็นจูบแรกของฉัน ฯลฯ ฯลฯ
ยังไงก็ตามนี่ก็คือสิ่งที่ฉันเลือกที่จะพูดคือ
"อะ...โอเคร"
"เยี่ยม ถ้างั้นตอนนี้ชินก็ไปได้แล้ว"
....ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันรู้สึกเหมือนฉันถึงโรเล็ต้าชักจูง ไม่สิ ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น! ยังไงก็ตามเนื่องจากก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้โกรธมาก การพูดถึงเรื่องนั้นตอนนี้มันจะเป็นการอึดอัดใจ ในตอนท้ายฉันก็ทำได้เพียงใช้ทักษะท่องมิติในขณะที่ยังคงคิดเกี่ยวกับความอุ่นที่อยู่บนริมฝีปาก
ปลายทางของฉันก็คือทวีปลูก้า พวกเราได้นัดพบกันที่พระราชวังจักวรรดิอีเฮอ
ในตอนที่ฉันใช้ทักษะท่องมิติ ฉันได้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับร่างกายถูกบิดกระชาก โลกได้กลายเป็นมืดไปและจากนั้นก็กลับมาสว่างอีกครั้ง ร่างกายของันได้ถูกชีดขาดเป็นชิ้นๆ และจากนั้นชิ้นส่วนก็มารวมเข้าด้วยกัน
"อืม..."
"เอ๊ะ? นั่นมันหน้าใหม่"
"อย่าบอกฉันนะว่ามีทหารรับจ้างต่างมิติหน้าใหม่? ฮ่าห์ ฉันไม่ได้สังเกตุเห็นเลย"
"เขาหล่อ...."
หลังจากฉันได้สติ ฉันก็เปิดตาขึ้นจากนั้นก็ได้ยินเสียงคนรอบตัวฉัน น่าจะมีหลายคนอยู่ด้วยกัน
ฉันได้ตระหนักว่าฉันได้นอนอยู่บนพื้นและลุกขึ้นมา มีอัศวินและจอมเวทย์ยืนเรียงรายกันอยู่ในห้องโถงที่กว้างใหญ่ ฉันเห็นแม้แต่รูเดียที่กำลังขมวดคิ้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ก็คือทวีปลูก้า
ภารกิจแรกของฉันในฐานะทหารรับจ้างต่างมิติได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว