ตอนที่แล้ว329 สุ่มตรวจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป331 น้ำตาลูกผู้ชาย

330 กลับมาเดี๋ยวนี่


330 กลับมาเดี๋ยวนี่

“ถูกแล้ว เขานั่นแหละ!”

“เป็นไม่ได้น่า!” เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้สึกยุ่งยากใจ

เขารู้จักกับหวังเย้า และพวกเขาก็ค่อนข้างจะสนิทกันดี ไม่ว่าเขาจะมองหวังเย้ายังไง หวังเย้าก็ดูไม่เหมือนกับคนที่มีพฤติกรรมรุนแรงและต่อต้านกฎหมายเลย มันอาจจะเป็นไปได้มากว่า การกระทำหรือไม่ก็คำพูดของเจ้าพนักงานกรมสุขภาพจะพูดเกินจริงไป หรือพูดให้ตรงกว่านี้ ก็คือพวกเขาคิดจะกระทำการรุนแรงกับหวังเย้าเสียมากกว่า

ในจุดนี้ ผู้รักษากฎหมายรู้สึกอับอายมาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ในที่สุดก็มาถึง กลับรู้จักกับหวังเย้า หากดูจากสถานการณ์แล้ว พวกเขาดูจะไม่ได้รู้จักกันแค่ผิวเผินด้วย

“มีเรื่องเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นรึเปล่าครับ?”

ดูสิ เขาเริ่มจะไปเข้าข้างฝ่ายหวังเย้าแล้ว

เขาขยับแว่นตาของเขา ตอนนี้มีไฟกำลังสุมอยู่เต็มท้องของเขา

นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันโทรเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้รักษากฎหมาย แต่ดูคุณทำสิ คุณกลับเข้าข้างเขาแทน! คุณรู้ตัวบ้างรึเปล่า? ไม่แปลกใจเลยที่คุณยังเป็นได้แค่ตำรวจยศน้อยอยู่แบบนี้!

ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาได้ ไม่อย่างนั้น มันอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเขาได้

ในชีวิตของฉัน เสน่ห์นั้นคือทะเล กาลเวลาได้ผันผ่าน...

ในตอนนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล ผมเองครับ ครับ ครับ ครับ!”

เขาพูดคำว่า “ครับ” ถึงสามครั้งและโค้งคำนับอีกหลายรอบ จนแว่นตาที่วางอยู่บนจมูกของเขาแทบจะหล่นลงมา

เสียงคำรามสามารถได้ยินออกมาจากโทรศัพท์ และคำพูดสุดท้ายดูเหมือนจะเป็นคำว่า “กลับมาเดี๋ยวนี่!”

“ขอโทษสำหรับการกระทำก่อนหน้านี้ของผมด้วยนะครับ” ชายสวมแว่นได้เป็นฝ่ายพูดขอโทษหวังเย้าก่อน

ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนที่เริ่มทำตัวเสียมารยาทกับหวังเย้าก่อน แต่ตอนนี้มันกลับตาลปัตร มันเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์มาก ที่ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้

“ไม่เป็นไรครับ” หวังเย้ายิ้ม

เขารู้ดีว่า สายที่หญิงชราได้โทรออกไปเมื่อครู่ ได้ส่งผลแล้ว

มารดาของผู้มีอำนาจ ที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง ได้ถูกทำให้ไม่พอใจที่นี่ แน่นอนว่าเธอต้องบอกเรื่องนี้กับลูกชายของเธอ

พวกเขามาและจากไปอย่างรวดเร็ว

“ถ้าอย่างนั้นเราไปก่อนนะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำทีมมาพูด

“โอเค ไว้ผมเลี้ยงข้าวพวกคุณวันหลังนะครับ”

หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว หวังเย้าก็แสดงความขอบคุณต่อหญิงชรา

“มันไม่มีอะไรเลย คุณรักษาโรคให้ฉันและช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ฉันก็ควรจะตอบแทนคุณบ้าง”

หวังเย้าขอให้พวกเขาอยู่ต่ออีกครู่หนึ่ง จากนั้น เขาก็ได้มอบเม็ดยาจิ่วเฉาให้กับพวกเขาแต่ละคน

ศาสตราจารย์ลู่และเหอหว่านนั้นรู้ถึงสรรพคุณของเม็ดยานี้ดีอยู่แล้ว และรีบเอ่ยปากขอบคุณหวังเย้า

“นี่คืออะไรเหรอคะ?” หญิงชราไม่รู้ถึงสรรพคุณของตัวยานี้มาก่อน

“นี่เป็นเม็ดยาจิ่วเฉาครับ เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกไม่สบายขึ้นมา มันจะสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ชั่วคราวครับ”

“โอ้ ขอบคุณมากนะคะ” หญิงชรารีบพูดขอบคุณในทันที

...

ภายในตัวรถ ชายสวมแว่นกำลังใช้ความคิดอยู่

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ข้างๆเขา ถามขึ้นมา

“เมื่อกี้หัวหน้าของเราโทรมา เขายังโกรธมากแล้วก็ตะคอกใส่ฉันด้วย นายคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นยังไงกันแน่?” ชายสวมแว่นตอบคำถาม พร้อมกับถอนหายใจออกมา

“ฉันไม่คิดเลยว่า เขาจะมีเส้นสายที่ใหญ่ได้ขนาดนี้!”

เมื่อต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เขาก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน เห็นได้ชัดว่ามีคนโทรไปหาหัวหน้าแผนกของพวกเขา และคนคนนั้นก็จะต้องเป็นคนที่อยู่ในระดับสูงด้วย อย่างน้อยๆ เขาหรือเธอคนนั้นจะต้องเป็นระดับสูงของเขตนี้ ถ้าไม่อย่างนั้น หัวหน้าแผนกของพวกเขาก็คงจะไม่คลั่งขนาดนี้

“ฉันล่ะโมโหจริงๆ!”

“เอาเถอะน่า อย่าโกรธไปเลย มันไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อยที่เราต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้น่ะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันเลี้ยงเอง ไปดื่มให้นายได้สดชื่นขึ้นกันดีกว่านะ”

เขาเหยียบไปที่คันเร่ง รถได้ออกตัวและออกไปจากหมู่บ้านในหุบเขา

...

“ขอบคุณนะครับ หมอหวัง”

“ยินดีครับ”

คนทั้งสองกลุ่มได้ขอตัวกลับในเวลาไล่เลี่ยกัน

แล้วอยู่ๆ หวังเย้าก็คิดวิธีที่จะโฆษณาเม็ดยาจิ่วเฉาที่เขาเป็นคนทำขึ้นมา

เขายังไม่แน่ใจในสรรพคุณของยาเม็ดนี้มากนัก แต่เมื่อดูจากสีหน้าท่าทางที่ศาสตราจารย์ลู่และเหอหวานแล้ว แสดงว่า พวกเขาจะต้องได้ลองใช้งานมันแล้วอย่างแน่นอน และผลลัพธ์ก็จะต้องดีมากด้วย

ยาที่มีผลลัพธ์ที่ดีสามารถเป็นการโฆษณาที่ดีไปในตัว แต่ถึงแม้ว่า เม็ดยาจิ่วเฉาจะไม่ได้ล้ำค่าเท่ากับยาอายุวัฒนะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะสามารถทำออกมาได้อย่างง่ายดาย และควรจะใช้ในเวลาที่สำคัญ และกับคนที่คู่ควรด้วย

แต่เขาก็เหลือเวลาอยู่แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น

เขายังพอมีเม็ดยาจิ่วเฉาเหลืออยู่บ้าง ซึ่งเขาได้เก็บพวกมันเอาไว้ที่บ้าน และในช่วงเวลานี้ พ่อกับแม่ของเขาก็คงจะยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้

...

“อะไรนะ? คุณถูกขัดขวางเหรอ? เป็นสายจากจังหวัด? ฮ่ะ ฮ่า เยี่ยมไปเลย!”

ในเมืองจี้ ชายที่เพิ่งจะฟื้นตัวได้กดวางสายไป

แกก็พอจะมีเส้นสายอยู่บ้างสินะ หืม? น่าสนใจจริงๆ

...

ในระหว่างทางกลับ หญิงสาวที่มาพร้อมกับศาสตราจารย์ลู่ได้ถามขึ้นมาว่า “ศาสตราจารย์ลู่คะ หมอหวังเขารู้แค่เรื่องการรักษาคน จริงๆนะเหรอคะ?”

“เท่าที่ฉันรู้มา เหมือนเขาจะต่อสู้เป็นด้วยนะ” หลังจากที่คิดอยู่สักพัก  ศาสตราจารยูลู่ก็ตอบออกมา เขารู้เรื่องนี้มาจากเทียนหยวนถู ที่มักจะเอ่ยเล่าเรื่องของหวังเย้าอยู่หลายครั้ง

“เขาต่อสู้เป็นด้วยเหรอคะ?” หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“ใช่ แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเขาจะเก่งแค่ไหน ฉันแค่ได้ยินมาจากเพื่อนอีกทีน่ะ”

“เสี่ยวอี หลานคิดว่า เขายังรู้เรื่องอะไรอีกเหรอ?” เหอหว่านถามด้วยรอยยิ้ม

“การออกแบบสวนค่ะ หนูคิดว่า การจัดสวนเล็กๆในลานบ้านของเขามันสวยมาก” หญิงสาวตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“มันสวยมากจริงๆ ถ้าฉันเป็นคนออกแบบเอง ก็อาจจะไม่สวยเท่าที่เขาทำก็ได้” ศาสตราจารย์ลู่พูด

“อาจารย์ของเขาเป็นใครเหรอคะ?”

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

“เสี่ยวอี ทำไมหลานถึงได้ถามเยอะจริงๆ? หลานสนใจหมอหวังเหรอจ๊ะ?” เหอหว่านถามด้วยรอยยิ้ม

“หนูสนใจในตัวของเขามากเลยล่ะค่ะ เขามีความสามารถในการรักษาทั้งที่อายุยังน้อย นอกจากนี้ เขายังสามารถทำเม็ดยาแบบนั้นออกมาได้ ขนาดอาจารย์ยังชมไม่ขาดปากเลยด้วยนะคะ”

“เธอก็มีความรู้อยู่มากเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

“หนูรู้แค่ผิวเผินเท่านั้นค่ะ”

“ฉันก็ได้แต่หวังว่า เขาจะสามารถรักษาเธอได้นะ” ศาสตราจารย์ลู่พูด

“ค่ะ ขอโทษที่ต้องรบกวนด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไร”

...

รถได้เคลื่อนที่ไปอย่างนุ่มนวล บนถนนที่ใช้สำหรับเดินทางจากตัวเมืองเหลียนชานไปยังหมู่บ้านในหุบเขา คนขับได้ใช้ความระมัดระวังในการขับสูงมาก

มีคนสองคนนั่งอยู่ที่เบาะหลัง หนึ่งคือชายในวัย 40 และอีกหนึ่งคือ หญิงชราที่ดูเหมือนจะอายุประมาณ 60 และดูซูบผอมเล็กน้อย

“แม่รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหมครับ?” ชายวัยกลางคนถามอย่างอ่อนโยน

“ไม่มีจ๊ะ แม่สบายดี” หญิงชราตอบ

ลูกชายของเธอนั้นเป็นลูกที่มีความกตัญญู เธอนั้นมีอาการป่วยมานานหลายปีแล้ว และลูกชายของเธอ ก็ได้พาเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่ง แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ดีขึ้นเลย เธอไม่รู้ว่า ลูกชายของเธอไปรู้เรื่องที่มีหมอที่เก่งในด้านการรักษาอาการปวดหัวมาจากที่ไหน แล้วเขาก็ได้พาเธอไปนั่น

เมื่อคนเราเริ่มแก่ตัวลง พวกเขาก็มักจะไม่ชอบไปไหนมาไหนบ่อยๆ แต่เธอก็ไม่อยากทำลาย ความตั้งใจดีของลูกชาย

เมื่อมองเห็นแนวสันเขาอยู่ตลอดสองข้างทาง หญิงชราก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “หมอคนนั้นอาศัยอยู่ในหุบเขาเหรอจ๊ะ?”

“ใช่ครับ” เฉินฉางเฟิงตอบ

“สภาพแวดล้อมแถวนี้ดีทีเดียว”

แนวสันเขาตลอดสองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ หลังจากนั้นสักพัก รถก็ได้ขับมาถึงจุดที่กำลังทำการซ่อมแซมถนนอยู่ และตัวรถก็เริ่มโคลงเคลงขึ้น ถึงแม้ว่ารถที่ขับอยู่จะเป็นรถราคาแพง แต่มันก็ไม่สามารถเลี่ยงไม่ให้ตัวรถโยกเยกได้

เมื่อรถเริ่มโคลงเคลงไปมา หญิงชราที่นั่งอยู่บนเยาะด้านหลัง ก็มีสภาพที่แย่ลง เธอได้นวดไปที่ขมับ

“หลี่ ขับช้าลงหน่อย”

“ครับ ไดเรคเตอร์เฉิน”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉางเฉิง เขากำลังซ่อมถนนกันอยู่”

โชคดีที่ระยะทางที่ทำการซ่อมแซมถนนนั้นไม่ได้ยาวมาก ในเวลาไม่นาน รถก็กลับมาเรียบนิ่งเหมือนเดิม

ฟู้ว คนขับรถแอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

รถได้ข้ามสะพานเล็กๆและขับเข้าไปภายในหมู่บ้าน  คนขับได้หยุดลงเมื่อขับไปถึงทางใต้สุดของหมู่บ้าน

“เรามาถึงแล้วครับ” เฉินฉางเฟิงพูด

คนขับได้ลงมาจากรถเป็นคนแรก แล้วจึงเดินไปเปิดประตู

“เป็นบ้านที่สวยจริงๆ” หญิงชราพูด

เกือบทุกคนที่มาที่นี่ และได้เห็นตัวบ้านเป็นครั้งแรก ต่างก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

“เข้าไปข้างในกันเถอะครับ”

หวังเย้านั้นอยู่ที่ด้านในศูนย์การแพทย์อยู่ก่อนแล้ว เขาได้รับสายจากเฉินฉางเฟิงตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ดังนั้น เขาจึงได้มารอพวกเขาอยู่ที่นี่

แกร่ก มีเสียงประตูที่ถูกเปิดออกจากด้านนอก

พวกเขามาแล้ว เขาวางหนังสือในมือลง

“หมอหวัง อยู่ไหมครับ?”

“เชิญเข้ามาก่อนสิครับ”

มีคนสามคนได้เดินเข้ามา ซึ่งก็คือ เฉินฉางเฟิง คนขับรถของเขา และแม่ของเขา

หวังเย้าสามารถมองออกได้ว่า คนที่ป่วยนั้นคือใคร หญิงชรานั้นดูมีสภาพที่แน่มาก และเธอมีถุงใต้ตาที่เห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเกิดจากการที่ได้นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ

“สวัสดีครับ หมอหวังนี่คือแม่ของผมครับ”

“สวัสดีครับ คุณป้า”

“สวัสดีค่ะ ขอโทษที่ต้องมารบกวนนะคะ” เมื่อได้เห็นว่าเขาเป็นหมอที่อายุยังน้อย แม่ของเฉินฉางเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจมาก

เขายังเด็กมาก!

“เชิญนั่งก่อนสิครับ”

หวังเย้าได้ใช้สามวิธีการวินิจฉัยโรคไปก่อนแล้ว ซึ่งก็คือ การมอง การฟัง และการถาม เขาพอจะประเมินอาการของหญิงชราได้บ้างแล้ว จากนั้น เขาก็จบชีพจรของหญิงชรา

อาการของเธอไม่ได้ถึงขั้นที่รุนแรงมากนัก

แต่ถ้าเทียบกับภรรยาของเทียนหยวนถูแล้ว เธอยังเป็นหนักกว่าพอสมควร และอาการป่วยแบบนี้ ก็รักษาได้ค่อนข้างยาก

แต่อันเฉินซานสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้

“ผมสามารถรักษาโรคนี้ได้ครับ” หลังจากที่วินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว หวังเย้าก็พูดขึ้นมา

“โปรดช่วยรักษาเธอด้วยนะครับ” เฉินฉางเฟิงรีบพูดขึ้นมา

“คุณเฉินครับ คุณฟังผมพูดให้จบก่อนดีกว่านะครับ ผมสามารถรักษาอาการป่วยของคุณป้าได้ แต่มันมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก”

“ขอแค่คุณรักษาแม่ของผมได้ เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาครับ” เฉินฉางเฟิงตอบกลับไปอย่างไม่อ้อมค้อม

“เอาล่ะครับ ขอให้คุณป้านั่งลงก่อนนะครับ ผมจะนวดให้คุณป้า”

“ได้ค่ะ”

จากนั้น หวังเย้าจึงได้ใช้เทคนิคการนวดเพื่อช่วยให้ร่างกายของเธอผ่อนคลายลง เขาได้เน้นไปที่ส่วนศีรษะและคอของเธอ พร้อมกับควบคุมแรงที่ใช้ได้เป็นอย่างดี

ในตอนเริ่มแรก หญิงชรารู้สึกเพียงว่าศีรษะของเธอตึงและบวมเล็กน้อย จากนั้น เธอก็เริ่มมีเหงื่อผุดออกมา เธอค่อยรู้สึกได้ว่า มีบางอย่างถูกขับออกไปจากศีรษะของเธอ อาการปวดหัวของเธอก็ได้ลดลงไปอย่างมาก และร่างกายของเธอก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน

หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง หวังเย้าก็หยุดมือ

“รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม

“ฉันรู้สึกสบายขึ้นมาเลยค่ะ” หญิงชราตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ” หวังเย้ายิ้ม

สำหรับโรคประเภทนี้ การนวดได้ให้ผลลัพธ์เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

“ผมจะจ่ายยาให้ แล้วเอากลับไปให้แม่ของคุณทานนะครับ”

หวังเย้าจ่ายยาที่ใช้สำหรับฟื้นฟูความแข็งแรงให้กับร่างกาย เขายังได้เพิ่มสมุนไพรเข้าไปอีกสองตัว ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย

ส่วนอันเฉินซานนั้น เขาจำเป็นที่จะต้องทำมันขึ้นภายในค่ายกลที่อยู่บนเนินเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด