ตอนที่แล้วSPH:บทที่ 18 นักสู้ระดับ 2 กลั่นโลหิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSPH:บทที่ 20 สำนักถัง

SPH:บทที่ 19 ทดสอบ


SPH:บทที่ 19 ทดสอบ

"ฉันอยากให้นายสู้กับฉัน!"

หยานเฟิงวูมองเย่หยูอย่างจริงจังในขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว หัวเย่หยูรู้สึกว่างเปล่า การต่อสู้กระทันหันนี้มันทำให้เขาประหลาดใจอย่างที่สุด

"ทำไม?"

หยานเฟิงวูมองไปยังเย่หยูขณะยิ้มให้เขา

"เพราะไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ความเร็วหรือการทำงานของร่างกายประสานกัน นายอยู่เหนือฉันหมด และฉันไม่ชอบคนที่อยู่เหนือฉัน! "

"งั้นเธออยากจะให้ฉันแพ้การแข่งสินะ?"

เย่หยูมองไปยังหยานเฟิงวูอย่างไม่เชื่อ

"ถูกต้อง!"

รอยยิ้มบนใบหน้าของหยานเฟิงวูกว้างขึ้น

เย่หยูกุมหน้า เริ่มรู้สึกปวดหัว เธอเสียสติไปแล้วแน่ๆ!

"ฉันปฏิเสธได้ไหม?"

หยานเฟิงวูส่ายหน้า

"ไม่!"

หน้าของเย่หยูเริ่มซีด เขารู้แค่ว่ากระบวนท่าออกกำลังกายของเขาจะต้องแข่งกับคนอื่น เขาก็รู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาทันที

เมื่อหยานเฟิงวูเห็นสีหน้าของเย่หยู เธอก็หัวเราะและตบไหล่เย่หยู

"อย่ากังวลไป ยังไม่ใช่ตอนนี้ที่เราจะเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้!"

"ทำไมเธอถึงแน่ใจว่าฉันจะเป็นนักสู้ได้?"

หยานเฟิงวูหันหน้าไปด้านข้างแล้วมองไปยังเย่หยู ผมหางม้าของเธอวางอยู่บนบ่าของเย่หยู

"ได้ไหมละ?"

ผู้เชี่ยวชาญการศิลปะการต่อสู้อย่างนั้นหรอ?

เย่หยูยืนขึ้น มองไปยังหยานเฟิงวูอย่างจริงจัง และยื่นมือไปข้างหน้าเธอ

"โอเค ฉันให้สัญญา!"

หยานเฟิงวูตบมือของเธอกับมือของเย่หยู

"ตกลง!"

ห้องเรียนหนึ่ง ชั้นปีที่ 3 เย่หยูนั่งอยู่ข้างๆฮันเสวี่ย

ฮันเสวี่ยกำลังอ่านหนังสือด้วยความงุนงง อย่างไรก็ตาม เธอเหมือนจะไม่รู้ว่าสายตาของเธอกำลังดูสับสน เย่หยูยื่นมือไปจับไหล่ฮันเสวี่ย

"ฮันเสวี่ยดีขึ้นแล้วยัง?"

ฮันเสวี่ยสะดุ้ง

"อ่า โอ้ ดีขึ้นมากแล้วหละ"

มองไปยังเย่หยู ฮันเสวี่ยทำปากจู๋ หลังจากลังเลสักพัก เธอก็กระซิบ

"เย่หยู ถ้าหาก…"

"ถ้าฉันหายไปหนึ่งวัน นายยังจะจำฉันได้ไหม?"

เย่หยูหันมาและมองไปยังฮันเสวี่ยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธอ

"เธอจะหายไป?"

"หลังจากที่ฉันจบมัธยมหรอ? งั้นเราติดต่อกันได้ไหม?"

"ไม่!"

ฮันเสวี่ยกัดปาก

"ต่อให้เป็นไปได้ที่นายจะไม่ได้พบฉันเป็นเวลานานและไม่สามารถติดต่อฉันได้ นายจะยังจำฉันได้ไหม?"

เย่หยูมองไปยังฮันเสวี่ยด้วยสายตาที่มีความหวังและรู้สึกเจ็บปวดใจเกินกว่าบรรยาย

"แน่นอน! ฉันจำได้ ทั้งชีวิตนี้!"

"อืม งั้นดิล!"

ฮันเสวี่ยพยักหน้าอย่างแรง เธอเผยให้เห็นรอยยิ้มอีกครั้ง ราวกับดอกบัวหิมะที่มารวมกันใหม่กับสายฝนและดวงอาทิตย์

หลังเลิกเรียน เย่หยูกำลังจะกลับไป เสียงตะโกนจากข้างหลังทำให้เขาหยุดเดิน

"อาจารย์ซิง?"

เย่หยูหันหลังกลับไปมองซิงเหมิงที่กำลังยืนพิงกำแพง และกำลังกวักมือเรียกเขา

"มีอะไรผิดปกติรึเปล่าครับอาจารย์?"

เย่หยูมองไปนักสู้ที่ปิดบังตัวตน แล้วถามอย่างงงๆ

"ตามฉันมา!"

ซิงเหมิงไม่ได้ตอบคำถาม เขาหันกลับแล้วเดินตรงไปยังสนามโรงเรียนอย่างง่ายดาย เย่หยูลังเลสักพัก จากนั้นเขาก็ตามาอาจารย์ไปเพราะซิงเหมิงน่าจะไม่ทำร้ายเขา

ในไม่ช้า เย่หยูก็ตามหลังซิงเหมิงไปจนมาถึงสนาม

"อาจารย์ เขาเป็นยังไง?"

หยานเฟิงวูเข้ามาหาซิงเหมิงและถามถึง

ซิงเหมิงพยักหน้า

"ไม่เลว เรายังคงต้องทดสอบรายละเอียด"

เย่หยูสับสันกับการกระทำของทั้งสอง

"เกิดอะไรขึ้น?"

"ฉันไปให้อาจารย์ซิงเหมิงเรียกนายมาที่นี่เอง!"

หยานเฟิงวูมองไปยังเย่หยูแล้วพูด

"ไม่อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้แล้วหรอ?"

เย่หยูพยักหน้า

"อยากสิ นี่เธออยากให้อาจารย์ซิงมาสอนฉันหรอ? "

"อาจารย์ซิงเหมิงคือนักสู้ระดับ 2 กลั่นโลหิต ด้วยการแนะนำของอาจารย์ นายจะกลายเป็นผู้ฝึกหัดศิลปะการต่อสู้"

หยานเฟิงวูพูดด้วยรอยยิ้ม

เย่หยูพยักหน้า ซิงเหมิงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นผู้ฝึกสอน

"งั้นผมต้องทำยังไง?"

เย่หยูมองไปยังซิงเหมิงและถามเขา

ซิงเหมิงไม่ตอบ แววตาของเขาเหมือนกับสายฟ้าขณะมองเย่หยูและพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ

"การที่จะกลายเป็นนักสู้นั้นมันไม่ง่าย! เพียงสามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้อย่างแท้จริงจะทำให้สามารถปลดปล่อยศักยภาพของตัวเอง และกลายมาเป็นผู้ชำนาญศิลปะการต่อสู้! "

"และถ้าผมอยากจะควบคุมร่างกายของตัวเองได้จริงๆ งั้นผมต้องฝึกศิลปะการต่อสู้งั้นหรอ!"

ช่วงเวลาที่ซิงเหมิงพูดจบ ออร่าอันสง่างามก็พุ่งออกมาจากตัวเขา เป็นเหตุให้บรรยากาศรอบตัวเขาก็เริ่มดูอึดอัด

เย่หยูพนักหน้าอย่างตื่นเต้น ออกจะอยากรู้อยากลอง

"งั้น เรามาเริ่มกันเลยไหม??"

ซิงเหมิงโบกมือในขณะที่มองยังเย่หยูที่กำลังตื่นเต้นและยิ้ม

"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวอาจารย์ขอดูพื้นฐานของนายก่อน"

เย่หยูค่อนข้างงง

"พื้นฐาน?"

"งั้นผมขอต่อยมวยก่อน เมื่อตอนผมฝึกศิลปะป้องกันตัวกับอาจารย์ ผมฝึกพวกท่าต่อยมาก่อน"

หยานเฟิงวูยืนอยู่ห่างจากด้านข้างและนึกย้อนกลับไปถึงครั้งแรกที่เธอฝึกศิลปะการต่อสู้กับ

ซิงเหมิง

เย่หยูเกาหัว

"ทุกอย่างโอเคใช่ไหม?"

ซิงเหมิงพยักหน้า

"ไม่มีอะไร หลักสำคัญก็คือมองเห็นว่าร่างกายของตัวเองประสานงานกันยังไง"

"เอาแล้วหลังจากนั้น"

ขาของเย่หยูแยกออกระยะเท่ากับไหล่ เขายกแขนทั้งสองขึ้นมาช้าๆ

ออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ

เคลื่อนไหวด้วยการกระโดด

ขยายทรวงอก

ออกกำลังด้วยการเตะ

แม้ซิงเหมิงและหยานเฟิงวูจะตะลึงกับกระบวนท่าการออกกำลังกายของเขา

ถึงแม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะยากนิดหน่อย แต่มันก็ชัดเจนว่านั้นคือท่าออกกำลังกาย!

"พอแล้ว!"

"พอได้แล้ว! พอได้แล้ว!"

ซิงเหมิงรีบยับยั้งเย่หยูอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และจะกระโดดไปกับเย่หยู

"อาจารย์ซิง ร่างกายของผมประสานกันแล้วหรอ? "

ความจริง เย่หยูรู้สึกค่อนข้างเสียใจ ขั้นต่อไปคือการปฏิบัติอย่างจริงจังของความยากยิ่งขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงมันออกมา

มุมปากของซิงหมิงหยักขึ้น

"แม้การเคลื่อนไหวของนายจะค่อนข้าง…อะแฮ่ม… ประสานเข้ากันเป็นอย่างดี"

ซิงเหมิงไม่ได้สนใจที่เขาชมเย่หยูมากนัก เขาสำนึกได้ว่าเขาประเมิณเย่หยูต่ำเกินไป ด้วยร่างกายของเย่หยูที่ประสานกันแม้ผู้ฝึกศิลปะป้องกันตัวก็ไม่ทรงพลังเท่าเขา

"ต่อไป ฉันจะทดสอบความแข็งแกร่งและความเร็วของนาย"

ซิงเหมิงพูดต่อ

"แล้วผมจะทดสอบยังไง?"

สิ่งที่เย่หยูสนใจมันทำให้เขารู้สึกเร้าใจ ดูเหมือนว่าอาจารย์พละคนนี้จะเป็นมืออาชีพ

ซิงเหมิงงอนิ้วแล้วยิ้ม

"โจมตี!"

"โจมตีด้วยแรงทั้งหมดที่นายมี!"

เมื่อเห็นเย่หยูลังเล ซิงเหมิงพูดต่อ

"อย่าลังเล นายทำฉันเจ็บได้!"

เมื่อเห็นเช่นนั้น เย่หยูก็เหยียดข้อมืออกไป กำหมัดแน่นแล้วพุ่งไปยังหน้าของซิงเหมิง

ปัง!ปัง!ปัง!

เย่หยูวนไปรอบๆซิงเหมิงปล่อยการโจมตีที่รุนแรงใส่ซิงเหมิง อีกทางหนึ่งก็ยืนบล็อกการโจมตี

ของเย่หยูด้วยฝ่ามือสองข้าง

แม้การโจมตีของเย่หยูจะสะเปะสะปะ แต่ร่างกายที่ยืดหยุ่นและการประสานงานที่ดีของเขาทำให้ศอกและเข่าของเขากลายเป็นอาวุธราวกับจะต่อยซิงเหมิงอย่างบ้าคลั่ง

ตอนแรก ซิงเหมิงยังคงดูสบายๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การโจมตีของเย่หยูไม่ลดลงเลย แต่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าระห่ำ!

หยานเฟิงวูที่อยู่ด้านข้าง ก็รู้สึกประหลาดใจไปด้วย เธอไม่เคยคิดว่าเย่หยูที่ไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาก่อนกลับสามารถปล่อยการโจมตีที่รุนแรงได้ขนาดนี้

สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่านั้นคือซิงเหมิงที่บล็อกการโจมตีของเย่หยู ในขณะที่การโจมตีของเย่หยูถี่เพิ่มขึ้นและระลอกความเจ็บปวดที่ฝ่ามือของซิงเหมิง เขารู้สึกราวกับว่ากำลังเห็นปีศาจ!

โดยเฉพาะความอดทนและความแข็งแกร่งที่ระเบิดออกมา มันไม่ด้อยไปกว่าของหยานเฟิงวูที่มีสายเลือดพิเศษเลย มันดูน่ากลัวมาก!

สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือการโจมตีของเย่หยูมีร่องรอยของออร่าที่คมชัด เขาเหมือนกับดาบที่ออกจากฟักที่กำลังปะทะกับแสงที่มองไม่เห็น