SM:บทที่ 19 บุรุษหน้าเหล็กปะทะเยียนลั่วและราชาผีดิบหนามมังกร
SM:บทที่ 19 บุรุษหน้าเหล็กปะทะเยียนลั่วและราชาผีดิบหนามมังกร
“พวกเราถูกส่งมาจากกองทัพเพื่อช่วยชีวิตผู้ร่วมการประเมินวัดระดับ ตอนนี้ คุณกลับไปกับพวกเราได้”
เล้งหานซวงกล่าวกับผู้รอดชีวิตทุกคนโดยไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของพวกเขา จากนั้น จึงเดินนำหน้าหญิงสาวออกมาจากจตุรัสแห่งนั้น คล้ายกับตอนที่เซี่ยเย่ทิ้งพวกเขาไว้ ผู้รอดชีวิตในจัตุรัสเดินตามพวกเธอไปตลอดทาง
ด้วยการคุ้มกันของเหล่ายอดฝีมือจากศาลาน้ำแข็งและหิมะตลอดทาง ทำให้ทุกคนกลับไปยังที่ตั้งของขบวนรถทหารโดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ในเวลานี้มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากกลับมาที่นี่
"ดูเหมือนว่าตอนนี้ผู้ร่วมการประเมินระดับวรยุทธจะหายไปมาก" เซี่ยเย่คิดเช่นนั้นในใจ จากผู้ร่วมการประเมินราวหมื่นคน ซึ่งเหลือไม่ถึง 1 ใน 10 อาจกล่าวได้ว่าเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากที่สุดในช่วงการประเมินไม่กี่ปีที่ผ่านมา สีหน้าของผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่มีความกลัวปรากฏอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างมาก
พวกเขาจะสามารถชนะใจตนเองและความกลัวได้หรือไม่ พวกเขาจะกลายเป็นนักรบที่แท้จริงในอนาคตได้หรือไม่ นี่คือบททดสอบครั้งยิ่งใหญ่อันหนึ่ง
รถยังไม่เคลื่อนขบวน เพราะวันนี้คลื่นศพเพิ่มจำนวนขึ้นและไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าขบวนรถจะถูกฝูงผีดิบโจมตีระหว่างทางกลับหรือไม่และคนเหล่านี้กำลังรออะไรอยู่
ท่ามกลางฝูงชน เซี่ยเย่รู้สึกว่ามีหลายคนกำลังมองเขาอยู่ เซี่ยเย่จึงหันไปมอง
นั้นคือเซว่อู๋ฉาง จางเซียนจือ ทั้งสองมองกันและกันอย่างเย็นชา แน่นอนว่า เซว่อู๋ฉางยังคงมีรอยยิ้มร้ายปรากฏบนหน้าของเขา ซึ่งเป็นรอยยิ้มสังหารเมื่อมีโอกาส ขณะที่จางเซียนจือนั้นยังคงแสดงจิตสังหารออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่งแม้แต่คนอื่นยังสามารถรับรู้ได้จากการมอง
เซี่ยเย่ก็ได้พบจางเทียนเฉิงที่อยู่ข้างๆกับจางเทียนจือ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาเป็นผู้ที่พ่ายแพ้ให้กับเซี่ยเย่ และพลังวรยุทธของเขานั้นอ่อนแอมาก เมื่อพบว่าเซี่ยเย่มองมาที่เขา ร่างของเขาไม่สามารถหยุดสั่นไหวและหันไปรอบๆได้ และเขาเองก็ไม่กล้าพอที่จะมองเซี่ยเย่
เมื่อจางเซียนจือเห็นความอ่อนแอในแววตาหลานชาย เขาจึงส่งเสียงพึมพำออกมา ซึ่งมีพลังมหาศาลที่จะฆ่าเซี่ยเย่
ที่นี่ เซี่ยเย่คิดว่าทั้งเซว่อู๋ฉางและจางเซียนจือจะไม่กล้าต่อสู้ เซี่ยเย่เลือกที่จะไม่สนใจจิตสังหารของพวกเขาด้วยเช่นกันและเดินทางไปยังสถานที่ที่หญิงสาวจากศาลาน้ำแข็งและหิมะอยู่ เซี่ยเย่พูดกับซินเซียวเหลียนว่า “เซียวเหลียน คุณรู้หรือเปล่าว่าพวกเขากำลังรออะไรอยู่”
เมื่อเซียวเหลียนเห็นเซี่ยเย่ ความกังวลที่เธอซ่อนอยู่ก็หายไปทันทีและพูดพร้อมกับยิ้มว่า: "ฉันได้ยินมาว่ากองทัพค่อนข้างไม่พอใจกับการทำลายการประเมินระดับวรยุทธของราชาผีดิบ กองทัพจึงส่งพี่ใหญ่ไปเก็บกวาดคลื่นผีดิบที่นี่ "
"พี่ใหญ่หรอ คุณรู้หรือว่าเขาคือใคร" เซี่ยเย่ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น หลังจากเขาเข้าสู่ยุทธจักรในเวลาไม่นาน เขารู้เรื่องราวต่างๆในยุทธจักรน้อยมาก ซึ่งค่อนส่งผลเสียกับการกระทำของเขาในอนาคต
"ฮ่า ฮ่า ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องนี้หรอกนะ แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นนักล่าที่มีค่าพลังมากกว่าระดับ 100" ซินเซียวเหลียนกระซิบกับเซี่ยเย่
"นักล่าหรอ" ในความคิดของเซี่ยเย่นั้น ตำแหน่งนักล่าไม่ได้เป็นกันง่ายๆ มีเพียงนักล่าจากสมาคมนักล่าแห่งแรกเท่านั้นที่จะได้รับตำแหน่งนี้ การจะเป็นนักล่านั้น ไม่เพียงแค่มีค่าพลังขั้นต่ำเกินกว่าระดับ 100 ยังต้องฆ่าอสูรและผีดิบที่มีความแข็งแกร่งเป็นจำนวนมากได้อีกด้วย
นักล่าที่แท้จริงนั้น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักล่าระดับหนึ่งดาว ก็ยังมีความสามารถที่มากกว่านักรบทั่วไป ความสามารถในการฆ่าของนักล่านั้นแข็งแกร่งมาก ซึ่งอยู่ในระดับราชาผีดิบและอสูรระดับที่สร้างหายนะได้
บูมบูม!
ทันใดนั้น มีเสียงคำรามดังมาจากระยะไกล และผู้คนมองไปที่แหล่งกำเนิดเสียง ซึ่งปรากฏเพียงเงาสีดำที่เคลื่อนตัวผ่านอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“นั้นคือเครื่องบินรบนิ เครื่องบินรบของกองทัพ!”
เสียงใครสักคนตะโกนขึ้น จากนั้น พวกเราทั้งหมดก็เห็นเงาทีดำแบบชัดเจน ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปค้างคาวที่คล้ายกับเครื่องบินรบ สีดำ มีไฟสีแดงเข้มสองจุดที่ด้านหน้าตัวเครื่องเหมือนตา ความเร็วของเครื่องบินรบนั้นเร็วมาก ซึ่งมากกว่าความเร็วเสียงหลายเท่าหรือหลายสิบเท่า และเครื่องบินรบเหล่านี้ได้ปรากฏขึ้นเหนือขบวนรถในพริบตา
ทันใดนั้น รังสียาวสีแดงเข้มสองเส้นจากจุดสีแดงบนส่วนหัวของเครื่องบิน ได้หันหัวไปยังเมืองหนานยาง
บูม...เมื่อรังสีส่องไปยังทิศใด ดูเหมือนจะมีการระเบิดหลายตันเกิดขึ้นในเวลานั้น เมืองหนานยางถูกพังทลายกลายเป็นซากปรักหักพัง ผีดิบจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นฝุ่นผงในอากาศจากการระเบิดในทันที
โฮก...เสียงคำรามอย่างน่ากลัวมาจากทิศทางของเมืองเล็ก ๆ ทันใดนั้น คลื่นแรงกดดันจากจิตใจทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นวูบและคนที่ทนไม่ไหวถึงกับสั่นสะท้านอยู่บนพื้น
นั้นคือเสียงคำรามของราชาผีดิบ!
ชั่วครู่หนึ่ง ทุกคนรู้ว่าเป็นการโจมตีของเครื่องบินรบนั้นเป็นเหตุทำให้ราชาผีดิบไม่พอใจ และเริ่มเผยร่างขนาดใหญ่โตกับเครื่องบินรบ
ในเวลาเดียวกันนี้ บนเครื่องบินรบ ประตูคลังสินค้าเปิดออกโดยทันที เครื่องบินรบติดอาวุธนับร้อยบินออกมาจากคลัง โดยเครื่องบินรบทั้งหมดนี้ติดตั้งอุปกรณ์การบินขนาดเล็กและสามารถบินบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระ เหนือเครื่องบินรบนับร้อยขึ้นไป มีชายร่างยักษ์เหมือนตึกที่ทำจากเหล็กกำลังรอต้อนรับเหล่าเครื่องบินรบเหมือนดาวและพระจันทร์
“ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเยียนลั่ว”
ไม่ไกลนัก เซี่ยเย่ได้ยินเสียงกระซิบของเล้งหานซวง และชื่อของบุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่ว ซึ่งชื่อนี้ได้ฝังลึกอยู่ในใจของเซี่ยเย่เช่นกัน
บนท้องฟ้า ใบหน้าของบุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วนั้นเย็นชา ตาคู่โตเหมือนระฆังสีบรอนด์จ้องมองไปยังที่ห่างไกลและพูดด้วยน้ำเสียงต่ำว่า: "ราชาผีดิบหนามมังกร แกกำลังทำลายการประเมินระดับวรยุทธของนักรบมนุษย์อย่างเปิดเผย ใครทำให้แกกล้าหาญขนาดนี้ หรือแกอยากจะตายนักหรือ”
"เคี่ยะ เคี่ยะ...”
เสียงของบุรุษหน้าเหล็กลดต่ำลง ทุกคนที่ชมเหตุการณ์อยู่นั้นได้ยินเสียงหัวเราะอันเยือกเย็น เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง พวกเขาเห็นร่างขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ บนท้องฟ้า ซึ่งเผชิญหน้ากับบุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วจากระยะไกล
"เถียเมียน ข้าไม่นึกว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะทำให้แกประหลาดใจ พูดออกมาเถอะ เราเป็นเพื่อนเก่ากันมา ข้าคิดถึงเลือดของแกที่แสนอร่อยและอบอุ่นนั้น”
ร่างของราชาผีดิบหนามมังกรสูงกว่าสิบเมตร ซึ่งเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าแล้วทำให้บุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วมีขนาดเท่ามดเลยก็ว่าได้ แม้ว่าราชาผีดิบหนามมังกรจะมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่ก็มีหางยาว ซึ่งมีลักษณะเหมือนกระดูกหนาม โดยมันสามารถแกว่งในอากาศได้อย่างอิสระ ทุกครั้งที่หางแกว่งสามารถทำให้เกิดอากาศระเบิดได้
“อืม คราวก่อน ถ้าราชันย์ผีดิบไม่ทำให้พื้นสั่นสะเทือน แกคิดว่าจะได้มายืนอยู่ต่อหน้าฉันอีกหรือ” บุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วมองไปที่ราชาผีดิบหนามมังกรอย่างสงบ แต่ใบหน้าของร่างใหญ่นั้นไม่ได้มีความเกรงกลัวแม้แต่น้อย
"อย่าพูดเรื่องไร้สาระเลย ครั้งก่อนเป็นแกไม่ใช่หรือที่ตีวงล้อมข้าไว้ คราวนี้ ข้าจะทำให้แกได้สัมผัสถึงรสชาติของการถูกปิดล้อมบ้าง"
เสียงของราชาผีดิบหนามมังกรลดต่ำลง จากร่างผีดิบขนาดใหญ่มหาศาลถูกสะบัดออกไปและห้อยอยู่ในอากาศ เกล็ดมังกรลอยไปในลมและกลายเป็นร่างของราชาผีดิบหนามมังกรขนาดย่อส่วน
"ฮ่าฮ่า, งั้นมาลองขบวนผีดิบนับหมื่นของข้าหน่อย!"
หวือหวือ
ซากผีดิบในรูปร่างที่มีขนาดเล็กนับหมื่นแห่งก่อให้เกิดมวลกระแสราชาผีดิบขึ้น ซึ่งกำลังจะฆ่าบุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วและจอมยุทธอีกนับร้อยคน
"ฮึม"
เสียงพึมพำเย็นๆดังขึ้น ใบหน้าของบุรุษหน้าเหล็กยังคงนิ่งเหมือนเดิม เพียงเห็นว่าเหล่านักรบซึ่งกำลังบินขึ้นไปบนท้องฟ้านั้นถูกเผาด้วยพลังงานทั้งหมด และทันใดนั้น เขาได้สร้างโล่เหล็กสีดำขนาดใหญ่ในอากาศ
ติ้งๆ
โล่เหล็กนั้นได้ทำลายกรงเล็บของราชาผีดิบขนาดย่อส่วน โดยประกายไฟได้สาดไปทั่วบริเวณ โล่เหล็กสั่นกระเพื่อมแต่ก็ไม่ได้ไหวติงแต่อย่างใด อีกทั้ง ราชาผีดิบขนาดย่อส่วนนั้นยังพลาดในการโจมตีกลับอีกด้วย
"ยังจะหนีอีกหรือ"
เมื่อเห็นร่างผีดิบขนาดเล็กบินกลับไป เยียนลั่วจึงโบกมือของเขาและทันใดนั้นพลัง ได้เปลี่ยนเป็นมือเหล็กสีดำขนาดใหญ่เพื่อจับผีดิบ
คลิกๆ
ภายใต้แรงกดดันอันหนักหน่วงของมือเหล็กยักษ์สีดำ ซึ่งขนาดประมาณหนึ่งในสามของผีดิบขนาดย่อส่วนถูกทำลายในพริบตาซึ่งทำให้ราชาผีดิบหนามมังกรรู้สึกเจ็บปวดมาก
“บ้าเอ้ย แกเตรียมตัวมาดีนิ แต่มันก็ไม่ง่ายหรอกนะที่แกจะฝึกพวกมดนี่ ข้าไม่รู้ว่าแกจะรู้สึกเจ็บไหมถ้าข้าฆ่าคนของแกสักคน” ร่างของราชาผีดิบขนาดย่อส่วนที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่กลายร่างเป็นราชาผีดิบขนาดใหญ่อีกครั้ง
เสียงของราชาผีดิบหนามมังกรดังออกมา และหางด้านหลังของเขาถูกยืดออกไปครู่หนึ่ง พร้อมทั้งกวาดเหล่านักรบผู้แข่งแกร่งนับร้อยคน
ปัง เพียงครู่เดียวเท่านั้น มือสีดำที่เหล่านักรบกว่าร้อยคนช่วยกันจับไว้นั้นถูกพัดออกไปจนกระจัดกระจาย จำนวนกระดูกและหางของราชาผีดิบไม่ลดลงเลย หลังจากการลอบสังหารนี้ ทำให้นักรบที่เก่งกาจหลายร้อยคนตายจากการถูกแทง ณ ที่แห่งนี้
จอมยุทธกว่าพันคนเฝ้าดูการต่อสู่ครั้งนี้บนพื้นดิน แม้ผู้ที่มีระดับทักษะสูงยังรู้สึกพ่ายแพ้ต่อพลังที่แข็งแกร่งนี้ บางคนถึงขั้นสูญเสียความมุ่งมั่นที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้น
เมื่อเห็นว่าราชาผีดิบหนามมังกรได้สังหารวีรบุรุษหลายคนด้วยพลังที่เหมือนการกวาดใบไม้ในสายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง บุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วหยุดรอและรีบพุ่งเข้าหาราชาผีดิบหนามมังกรในทันที
"เคี่ยะ เคี่ยะ สุดท้ายก็ช่วยไม่ได้หรือ"
ราชาผีดิบทำเสียงร้องไห้และยิ้มแปลก ๆ ทันใดนั้นกระดูกหางของเขาก็หมุนและหันไปยิงใส่ด้านหลังของบุรุษหน้าเหล็ก
"ฮึม -"
บุรุษหน้าเหล็กเผชิญถอนหายใจอย่างไร้อารมณ์ เห็นเพียงร่างกายของเขา มือที่หมุนและมือของเขาจับเข้าที่กระดูกส่วนหางซึ่งอยู่ใกล้ดวงตาของเขา
กระดูกหางไม่สามารถขยับได้ แต่ราชาผีดิบกลับส่งยิ้มมา ที่ปลายกระดูกหางมีกระดูกขนาดบางเท่าเข็ม ยิงตรงเข้ามาที่หัวใจของบุรุษหน้าเหล็ก ทันใดนั้น บุรุษหน้าเหล็กยามารู้สึกถึงสัญญาณแห่งความตาย
กระดูกนั้นยังจะพุ่งมาแทงที่หัวของบุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วด้วย และเมื่อพลังลมปราณของเยียนลั่วปะทะกับกระดูก ร่างของบุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วบางส่วนยกมาบังที่หน้าของตนเองทันที
ติ้ง – เสียงกระดูกงอกแตกดังขึ้นตอบ ราชาผีดิบหนามมังกรเห็นว่าการโจมตีเป็นผล จึงเรียกกระดูกหางนั้นกลับมาอย่างไม่รีบร้อนอะไร
ใบหน้าเหล็กของเยียนลั่วนั้นแตกออกและร่วงหล่นลงมา ดวงตาของเขาเย็นชาและจ้องมองไปยังราชาผีดิบ แม้ว่าการซุ่มโจมตีของเหล่าผีดิบในตอนนี้จะเป็นเรื่องที่ไม่ยากที่เขาจะแก้ไขสถานการณ์ แต่หากเขาโต้ตอบกลับช้าแล้วล่ะก็ เขาอาจตายได้ในทันทีเช่นกัน
"เคี่ยะ เคี่ยะ คนหน้าเหล็ก รสชาติความตายเป็นอย่างไรล่ะ แต่ถึงอย่างนั้น เกมของเราเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น...โฮก"
เขาเห็นว่าราชาผีดิบหนามมังกรคว้ากระดูกหางจากด้านหลังของเขาด้วยมือเดียวและดึงมันออกจากร่างกายของเขา
ที่กระดูกหาง ลมปราณในร่างนั้นถูกทำให้เป็นเกลียวและเป็นแสงสีดำสว่างขึ้น ในที่สุด มันก็กลายเป็นมีดกระดูกขนาดใหญ่สุดอันตราย เมื่อราชาผีดิบแกว่งมีดนั้นตามที่ต้องการ จะทำให้ได้ยินเสียงแห่งความหวาดกลัวตามมา ผู้คนรู้สึกเพียงแค่ว่าพื้นที่ถูกตัดด้วยมีดกระดูก
“ฉันไม่คิดว่าแกจะเปลี่ยนก้างปลาให้กลายเป็นมีดกระดูกได้ ดูเหมือนว่าหลังจากบทเรียนที่ผ่านมานายไม่ได้พัฒนาอะไรเลย” ใบหน้าของบุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วนั้นเย็นชา แต่ปากของเขาก็ไร้ความปราณีด้วยเช่นกัน
"แก ตายซะ!"
ครั้งที่แล้วราชาผีดิบถูกนักล่าหลายคนฆ่าและเขาก็เกือบตายด้วยมือของบุรุษหน้าเหล็กเยียนลั่วนี่เอง ครั้งนั้นนับเป็นความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กลายเป็นราชาผีดิบ ตอนนี้ เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวถูกล่าวถึงอีกครั้ง โดยเยียนลั่ว จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร ผีดิบร่างใหญ่พุ่งเข้าหาเยียนลั่วในทันทีพร้อมมีดกระดูก ซึ่งเปรียบเสมือนการตัดภูเขาด้วยแรงปะทะอย่างแรง!