Chapter 174 – Black Market Fifteenth Shopping (1) [01-06-2020]
Chapter 174 – Black Market Fifteenth Shopping (1)
”
ในขณะที่ซังจินจับมือมุุสตาฟา เขาก็ได้ยืนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่ยมือและถามออกมา
"นายเป็นใคร รู้จักฉันงั้นหรอ?"
ซังจินได้ผงะไป แต่แล้วเขาก็กลับมาสงบลงอย่างรดวเร็ว การตอบสนองของมุสตาฟานั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ ในการจู่โจมเป็นการต่อสู้ที่ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน นักล่าจะต้องตรึงเครียดอยู่เสมอเพราะว่าพรรคพวกของเขาอาจจะกลายเป็นฆาตกรได้ทุกเมื่อ ด้วยความคิดนี้มันก็เป็นธรรมชาติที่จะปฏิเสธนักล่าที่เข้ามาหาในทันทีและเข้ามาจับมือแม้ว่าจะเป็นการพบกันครั้งแรก ซังจินได้เริ่มแนะนำตัวทันที
"อ่า ฉันขอโทษมุสตาฟา ฉัน...."
ในเวลานั้นเองเพื่อร่วมทีมของมุสตาฟาก็ได้กระโดดขึ้นและชี้มาที่ซังจินในขณะพูดขึ้น
"หืม? สุดยอดนักล่า? นายคือสุดยอดนักล่าเคย์?"
ซังจินได้จ้องไปที่เขาด้วยเหตุผลบางอย่างเขาดูจะคุ้นเคยกับเสียงนี้
"นายจำได้ไหม? พวกเราได้พบกันในรังของมังกร"
มันเป็นบาบาเรี่ยนที่เคยเป็นหนึ่งในแท้งที่ต่อสู้กับคาลกัล ชุดและอาวุธของเขาได้เปลื่ยนไปและซังจินยังคงจำเขาได้
"อ่า ฉันจำนายได้"
"ใช่แล้ว ฉันโชคดีมาก หลังจากที่เราแยกกันแล้วฉันก็อยากจะพบนายอีกครั้งและเราก็ได้มาเจอกันแบบนี้ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของนักล่าเคย์จากนักล่าคนอื่นๆ
ตามที่เขาคาดเอาไว้มันดูเหมือนจะมีเรื่องราวของเขาที่ถูกเล่าไปปากต่อปากท่ามกวางเหล่านั้นล่า บาบาเรี่ยนได้ให้ความมั่นใจกับมุสตาฟา
"อ่า มุสตาฟาไม่จำเป็นต้องกังวล ชายคนนี้คือสุดยอดนักล่าเคย์ เขาไม่ใช่ฆาตกร ตรงกันข้ามเขาเป็นนักล่าฆาตกรที่มีชื่อเสียงเลยล่ะ"
ความระแวงในสายตาของมุสตาฟาได้ลดลงไปเมื่อเขาได้ยินคำพูดของบาบารเรี่ยน เขาได้มองมาที่ดาบทั้งสี่เล่มของซังจินก่อนจะพูดออกมา
"หืม....ฉันก็คิดว่าฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเขาเหมือนกับ นักดาบที่ใช้สี่ดาบที่เทเลพอตไปในมิติอื่นๆเพื่อล่าฆาตกร"
ซังจินได้ยิ้มออกมา แบบนี้มันจะทำให้การคุยกันง่ายยิ่งขึ้น
"ยังไงก็ตาม นายมีจุดมุ่งหมายอะไรในการมาที่นี่? มีฆาตกรในหมู่พวกเรางั้นหรอ?"
มุสตาฟาได้มองไปรอบๆตัวทันที ซึ่งทั้งสามคนที่นั่งอยู่ได้สะดุ้งก่อนที่จะพูดขึ้น
"ไม่ใช่ฉันนะมุสตาฟา"
"ฉันก็ไม่ใช่"
"พวกเราได้ร่วมมือกันมาก่อน ไม่ใช่เรามุสตาฟา"
'ตามที่คาด... ความสามารถของเขาจากสมัยก่อนยังคงอยู่'
เพียงแค่มองเห็นแบบนี้ซังจินก็รู้ได้ทันทีว่ามุสตาฟามีอิทธิพลเหนือพรรคพวกอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับคนที่มีอิทธิพลต่อคนที่ได้พบกันครั้งแรกนั่นหมายความว่าเขามีอำนาจมาก ซังจินได้ถามมุสตาฟาและทีมของเขา
"จะเป็นอะไรไหมถ้า...มุสตาฟากับฉันจะไปคุยกันซักเดี๋ยว?"
เพื่อนร่วมทีมของมุสตาฟาได้หยักหน้ารับ ในขณะที่มุสตาฟาเป็นคนเดียวที่ดูทุกข์ใจ
"พวกเราได้วางแผนที่จะพักกันเพียง 5 นาทีก่อนที่จะไปล่ากันต่อ... นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงที่ออกไปพักเองอีกด้วย"
ตอนนั้นเอง นาดาก็ได้ออกมาและพูดขึ้น
"ฉันไม่เป็นไร"ง
เธอได้กลับไปใส่ชุดเกราะหนังของเธออีกครั้ง
"ช่วยไปคุยกับเขาก่อนและค่อยกลับมา"
เมื่อได้รับคำตกลงจากนักล่าคนอื่นๆ ซังจินและมุสตาฟาก็ได้แยกออกไปจากทีมก่อนที่ทั้งสองคนจะเริ่มคุยกัน แม้ว่าปาตี้ปาตี้นี้จะมีทั้งมุสตาฟาและนาดาอยู่ แต่ว่าเนื่องจากว่าพวกเขาบอกว่ากำลังรีบซังจินจึงพูดเข้าเรื่องในทันที
"ฉันกำลังจะรวมทีม เพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งที่สามารถจะจบการจู่โจมสุดท้ายได้ สิบคนสุดท้ายรวมฉันด้วย"
มุสตาฟาได้เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าซังจินกำลังพูดอะไรอยู่
"ดังนั้นสิ่งที่นายกำลังจะพูดคือนายกำลังเลือกสมาชิกที่ยอดเยี่ยมทั้งสิบคนเข้าสู่การจู่โจมครั้งสุดท้ายด้วยกัน"
ซังจินได้หยักหน้ารับ จากนั้นเขาก็ให้ข้อเสนอที่น่าสนใจเพิ่มไป
"ใช่แล้ว หากนายยอมรับการถูกเลือก นายก็จะได้รับฉายา 'ผู้ถูกเลืกอ' ซึ่งมันจะให้แต้มโบนัสสเตตัสที่น่าทึ่งกับนาย นายคิดยังไงล่ะ?"
อย่างไรก็ตามมุสตาฟาได้สนใจในเรื่องอื่นนอกเหนือไปจากข้อมูลที่ซังจินได้เสนอไป
"จากมุมมองของนาย... นายหมายความว่าจะมีเพียงแค่สิบคนที่จะรอดอยู่จากนักล่าทั้งหมด?"
ซังจินได้ไม่ปฏิเสธมัน
"ใช่แล้ว นั่นเรื่องจริง"
"หืมม...."
มุสตาฟาได้ม้วนหนวดของเขาและไม่ได้พูดอยู่พักหนึ่ง เขาได้พึมพัมกับตัวเอง
"ระดับสูง... ระดับสูง... พระประสงค์ของพระเจ้า... เขากำลังพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอ?"
ซังจินได้กังวลอย่างมากว่ามุสตาฟาจะปฏิเสธข้อเสนอนี้
'ถ้าเขาปฏิเสธมัน...'
ก่อนที่ซังจินจะคิดเสร็จมุสตาฟาก็ได้หยักหน้า
"อืมม ฉันจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อเข้าทีมของนาย?"
****
หลังจากเสร็จสิ้นการจู่โจมและกลับมาที่ตลาดมืด ซังจินก็ได้มุ่งหน้าไปที่ร้านกาแฟในทันที เขากระหายน้ำมากหลังจากได้เดินป่ามาหลายชั่วโมง
"กาแฟอเมริกาโน่เย็นหน่อย"
ในตอนนี้หลังจากเขาได้สั่งเขาก็พูดต่อไป
"เอา ใช่แล้ว ฉันจะเอาแบบกลับบ้านนะ"
"เข้าใจแล้วท่านนักล่า"
ซังจินทำแบบนี้เพราะว่าเขาไม่ได้มีที่จะไปอีก ร้านค้าลับก็ได้หายไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีที่ๆจะต้องใช้เหรียญดำอีกแล้ว เขาไม่มีเหตุผลที่จะได้รับมันมาอีกต่อไป
'สำหรับเหรียญดำที่เหลือฉันควรจะให้แก่นักล่าคนอื่นๆถ้าพวกเขาต้องการ...'
นอกจากนี้ในตอนนี้เขาก็จัดการล่าฆาตกรได้เพียงคนเดียวก่อนที่การจู่โจมจะจบลงไป แทนที่เขาจะขาดแคลนเวลาสำหรับการล่า เขากลับไม่สามารถหาฆาตกรได้แทน
[ไม่มีมิติที่สามารถใช้งานได้]
ในความจริงแล้วเขาได้คิดเรื่องนี้เอาไว้นานแล้ว แม้ว่าหินนี้จะสามารถใช้มันหาฆาตกรได้ในทันทีแต่ว่าเมื่อเขาพัฒนาไปเรื่อยๆในที่สุดมันก็จะไม่สามารถใช้งานได้เลย นั่นมันหมายความว่ามีนักล่าเหลืออยู่ไม่มากแล้ว
'เอาล่ะ....มันคงใกล้จะถึงเวลาแล้ว'
นี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีนะ เพราะว่าหมายหนักของเขาคือการรวบรวมพรรคพวก คราวนี้เขาได้เลือกมุสตาฟาผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมา ดังนั้นในการจู่โจมครั้งนี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก
'เยี่ยม'
ซังจินได้ดื่มกาแฟจากแก้วพลาสติกที่มีน้ำหนักเบาในขณะที่มุ่งหน้าไปโรงตีเหล็กของคาร์กอต ถ้ามันเป็นไปตามที่สัญญาเอาไว้อัญมณีก็ควรจะเสร็จแล้วในตอนนี้ ยังไงก็ตามซังจินได้รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้มาถึงโรงตีเหล็ก แม้ว่าเมื่อวานนี้สถานที่นี้มันจะวุ่นวายมาก แต่ว่าในตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย เบสโกโร่ได้ถามออกมา
'นี้มันอะไรกัน? พวกเขาทั้งหมดไปไหน?'
ซังจินได้รีบเดินไปอย่างรวดเร็วทันที เมื่อเขาไปถึงซังจินก็ได้ยินเสียงกรนดังลั่น
"คร่อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
เสียงนั้นมาจากหลังทั่งตีเหล็ก เมื่อเข้าเข้าไปใกล้ ซังจินก็เห็นคาร์กอสหลับอยู่
"คร่อกกกกกกกกกกกกกก"
เสียงกรนของของคาร์กอสมันดังจนทำให้ซังจินรู้สึกไม่ดีถ้าหากเขาไปปลุกคาร์กอสให้ตื่น ซังจินได้มองไปรอบๆโรงตีเหล็ก ได้มมีกล่องเล็กๆอยู่ใกล้ๆกับเขาอยู่ เขาไม่ได้ปลุกคาร์กอสให้ตื่นและเดินเข้าไปหากล่องนั้นแทน มันมีรอยหยักอยู่บนกล่องเหมือนกับกับทำให้คนกดมันลงไป วังจินได้เดินเข้าไปมองใกล้ๆทันที
'นี้มันคืออะไร'
เขาได้ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามันมีขนาดและรูปร่างที่พอดีกับมือของเขา
'...พวกเขาทำมัน...ให้พอดีกับมือของฉัน?'
ซังจินได้คิดถึงความเป็นไปได้สั่นๆ ถ้าเป็นคาร์กรแล้วเขาก็เชื่อว่านั่นมันเป็นไปได้ หลังจากที่ดาบของเขาทั้งหมดได้ผ่านมือของคาร์กอสมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซังจินได้บางมือของเขาลงไปทันที ตามที่คาดไว้มันพอดีกลับมือของเขา จากนั้นกล่องก็ได้ปล่อยอากาศออกมา
"ฟู่ววววว"
แสงสีน้ำเงินได้เริ่มส่องสว่างออกมาจากด้านในของกล่อง ซังจินได้เปิดมันออกมา ภายในกล่องนั้นเป็นอัญมณีสีน้ำเงินที่มีรูปร่างเป็นดวงดาว มันเป็นอัญมณีที่มีรูปร่างเหมือนกับของเอ็ดเวิร์ด ซังจินได้นำมันมาตรวจสอบอย่างละเอียด น้ำหนักมันค่อนข้างจะเบาต่างจากขนาดของมัน ซังจินได้ยกมันขึ้นมาและไม่นานคำอธิบายของไอเทมก็ปรากฏขึ้น
-----
ไอออส - คำพยากรณ์แห่งดวงดาว
อุปกรณ์ระดับโบราณกาล
ทักษะใช้งาน
แสงดาว (I) - คุณสามารถที่จะดูสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต 24 ชม.นับจากตอนนี้ ถ้าหากผู้ใช้ได้แสดงเจตจำนงของตนมันก็เป็นไปได้ที่จะเปลื่ยนอนาคต สามารถใช้ได้วันละครั้ง
ข้าได้ถือวิสัยทัศน์ของพระเจ้า
ในวันนี้ดวงตาคู่ใหม่ได้เปิดขึ้นจากตัวฉัน
-----
'...อะไรนะ?'
คำอธิบายมันไม่ได้ยาวมากนัก แต่ว่าซังจินได้จ้องมันไปอยู่พักนึง ทักษะใช้งานของมันค่อนข้างจะน่าตกตะลึง
'คุณสามารถที่จะดูได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับอนาคตในอีก 24 ชั่วโมง?'
จิตใจของซังจินได้กลายเป็นสับสนวุ่นวาย เขาได้รับผ้าปิดตาของมังกรที่ทำให้เขามองเห็นอดีต แต่ว่านี้มันเป็นไอเทมที่แปลกยิ่งไปกว่านั้นมาก
'นี้มันคือ...'
เขาได้หันหน้าไปและมองไปที่คาร์กอสที่หลับอยู่สั้นๆ
"คร่อกกกกก...."
ซังจินได้คิดว่าคาร์กอสน่าจะได้หลับลงไปครั้งจากได้สร้างเจ้าสิ่งนี้เสร็ว เขาได้หลับสนิทอย่างไม่น่าเชื่อ ซังจินได้มองไปมาระหว่างดาวและคาร์กอสหลายครั้งก่อนที่จะรู้สึกผิดและตัดสินใจไม่ปลุกคาร์กอสขึ้นมา
'...เขาอาจจะเป็นแบบนี้เพราะทำเจ้านี้...'
ซังจินได้เก็บดาวลงไปในเสื้อก่อนจะหันไป หลังจากที่มันเสร็จแล้ว เขาก็เพียงแค่เอามันออกมาจากกล่อง แต่แล้วจากนั้นเขาก็มีความคิดขึ้น
'จริงสิ...ฉันน่าจะเป็นคนเดียวที่เปิดเจ้านี่ได้...เขาอาจจะคิดมอบมันให้ฉัน'
คาร์กอสเป็นคนที่มีความมั่นใจในการทำงานของเขา เขารู้ว่ามีเพียงซังจินที่จะเปิดกล่องได้และเอาอัญมณีไป ยังไงก็ตามสถานที่แห่งนี้ซังจินเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในมิตินี้ ซังจินได้ทิ้งคาร์กอสไว้และกลับไปที่โรงแรม
"วันนี้ก็ดีเหมือนเคยสินะครับ ท่านนักล่า"
ดารูปินได้ทักทายเขา แต่ว่าซังจินทักทายอย่างตื่นเต้นก่อนที่จะกลับไปที่ห้องเหมือนกับลม เขาได้นั่งลงบนเก้าอี้ที่ถัดอยู่จากหน้าต่างก่อนที่จะหยิบอุปกรณ์นั้นออกมาอีกครั้ง อัญมณีที่มีรูปร่างเหมือนดาวได้ส่องแสงสีน้ำเงินออกมา
'นี้มัน...สวยจริงๆ'
ซังจินแทบจะลืมตัวไปกับความสวยงามของแสงสีน้ำเงิน มันก็เหมือนกับช่วงเวลานั้นในการจู่โจมสุดท้ายที่เอ็ดเวิร์ดได้หยิบมันออกมาครู่หนึ่ง ทันใดนั้นความคิดนี้ก็มามาในขณะที่ซังจินกำลังลูบดาว
'เดี๋ยวก่อนนะถ้างั้น... ในระหว่างการจู่โจมสุดท้าย... เขาเป็นคนที่เห็นอนาคตด้วยเจ้านี่? 24 ชั่วโมงในอนาคต?'
มันแน่ชัดแล้วก่อนที่จะต่อสู้กับราชาปีศาจ ในเวลานั้นท่าทางของเอ็ดเวิร์ดได้เปลื่ยนไปหลังจากเห็นสิ่งนี้ หลังจากนั้นเขาก็ได้เป็นฆาตุกรในขณะที่เริ่ม่าทุกๆคนในปาตี้ ยังไม่แน่ชัดว่าเอ็ดเวิร์ดได้ทำเพื่ออะไร แต่ว่าด้วยความตายของเขาเองทำให้ซังจินได้ย้อนกลับมา
'24 ชั่วโมงหลังจากเวลานั้น... เพียงแค่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต... สิ่งที่เอ็ดเวิร์ดเห็น....'
ซังจินไม่รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดเห็นอะไร แต่ว่ามันชัดเจนว่าสิ่งที่เขาได้เห็นมันมีผลกระทบกับเขาเป็นอย่างมาก
'ตั้งแต่ที่ปราสาทราชาปีศาจคือบทที่ 20... นั่นมันก็หมายความว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในบทที่ 21'
ยังไงก็ตามในตอนนี้เขาไม่สามารถจะคิดมันออกไป เขาไม่สามารถจะรู้ในสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดได้
'ไม่ว่ายังไงก็ตามดูเหมือนว่าฉันจะต้องรอให้มันถึงเวลานั้นเอง...'
ซังจินได้ตรวจสอบดาวนี้จากมุมต่างๆก่อนที่จะคิดกับตัวเอง
"แต่ว่า...เมื่อไหร่ที่ฉันจะใช้เจ้าสิ่งนี้ได้?"