ตอนที่แล้วChapter 173 – Bakash Island (2) [30-05-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 175 – Black Market Fifteenth Shopping (2) [03-06-2020]

Chapter 174 – Black Market Fifteenth Shopping (1) [01-06-2020]


Chapter 174 – Black Market Fifteenth Shopping (1)

ในขณะที่ซังจินจับมือมุุสตาฟา เขาก็ได้ยืนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่ยมือและถามออกมา

"นายเป็นใคร รู้จักฉันงั้นหรอ?"

ซังจินได้ผงะไป แต่แล้วเขาก็กลับมาสงบลงอย่างรดวเร็ว การตอบสนองของมุสตาฟานั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ ในการจู่โจมเป็นการต่อสู้ที่ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน นักล่าจะต้องตรึงเครียดอยู่เสมอเพราะว่าพรรคพวกของเขาอาจจะกลายเป็นฆาตกรได้ทุกเมื่อ ด้วยความคิดนี้มันก็เป็นธรรมชาติที่จะปฏิเสธนักล่าที่เข้ามาหาในทันทีและเข้ามาจับมือแม้ว่าจะเป็นการพบกันครั้งแรก ซังจินได้เริ่มแนะนำตัวทันที

"อ่า ฉันขอโทษมุสตาฟา ฉัน...."

ในเวลานั้นเองเพื่อร่วมทีมของมุสตาฟาก็ได้กระโดดขึ้นและชี้มาที่ซังจินในขณะพูดขึ้น

"หืม? สุดยอดนักล่า? นายคือสุดยอดนักล่าเคย์?"

ซังจินได้จ้องไปที่เขาด้วยเหตุผลบางอย่างเขาดูจะคุ้นเคยกับเสียงนี้

"นายจำได้ไหม? พวกเราได้พบกันในรังของมังกร"

มันเป็นบาบาเรี่ยนที่เคยเป็นหนึ่งในแท้งที่ต่อสู้กับคาลกัล ชุดและอาวุธของเขาได้เปลื่ยนไปและซังจินยังคงจำเขาได้

"อ่า ฉันจำนายได้"

"ใช่แล้ว ฉันโชคดีมาก หลังจากที่เราแยกกันแล้วฉันก็อยากจะพบนายอีกครั้งและเราก็ได้มาเจอกันแบบนี้ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของนักล่าเคย์จากนักล่าคนอื่นๆ

ตามที่เขาคาดเอาไว้มันดูเหมือนจะมีเรื่องราวของเขาที่ถูกเล่าไปปากต่อปากท่ามกวางเหล่านั้นล่า บาบาเรี่ยนได้ให้ความมั่นใจกับมุสตาฟา

"อ่า มุสตาฟาไม่จำเป็นต้องกังวล ชายคนนี้คือสุดยอดนักล่าเคย์ เขาไม่ใช่ฆาตกร ตรงกันข้ามเขาเป็นนักล่าฆาตกรที่มีชื่อเสียงเลยล่ะ"

ความระแวงในสายตาของมุสตาฟาได้ลดลงไปเมื่อเขาได้ยินคำพูดของบาบารเรี่ยน เขาได้มองมาที่ดาบทั้งสี่เล่มของซังจินก่อนจะพูดออกมา

"หืม....ฉันก็คิดว่าฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเขาเหมือนกับ นักดาบที่ใช้สี่ดาบที่เทเลพอตไปในมิติอื่นๆเพื่อล่าฆาตกร"

ซังจินได้ยิ้มออกมา แบบนี้มันจะทำให้การคุยกันง่ายยิ่งขึ้น

"ยังไงก็ตาม นายมีจุดมุ่งหมายอะไรในการมาที่นี่? มีฆาตกรในหมู่พวกเรางั้นหรอ?"

มุสตาฟาได้มองไปรอบๆตัวทันที ซึ่งทั้งสามคนที่นั่งอยู่ได้สะดุ้งก่อนที่จะพูดขึ้น

"ไม่ใช่ฉันนะมุสตาฟา"

"ฉันก็ไม่ใช่"

"พวกเราได้ร่วมมือกันมาก่อน ไม่ใช่เรามุสตาฟา"

'ตามที่คาด... ความสามารถของเขาจากสมัยก่อนยังคงอยู่'

เพียงแค่มองเห็นแบบนี้ซังจินก็รู้ได้ทันทีว่ามุสตาฟามีอิทธิพลเหนือพรรคพวกอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับคนที่มีอิทธิพลต่อคนที่ได้พบกันครั้งแรกนั่นหมายความว่าเขามีอำนาจมาก ซังจินได้ถามมุสตาฟาและทีมของเขา

"จะเป็นอะไรไหมถ้า...มุสตาฟากับฉันจะไปคุยกันซักเดี๋ยว?"

เพื่อนร่วมทีมของมุสตาฟาได้หยักหน้ารับ ในขณะที่มุสตาฟาเป็นคนเดียวที่ดูทุกข์ใจ

"พวกเราได้วางแผนที่จะพักกันเพียง 5 นาทีก่อนที่จะไปล่ากันต่อ... นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงที่ออกไปพักเองอีกด้วย"

ตอนนั้นเอง นาดาก็ได้ออกมาและพูดขึ้น

"ฉันไม่เป็นไร"ง

เธอได้กลับไปใส่ชุดเกราะหนังของเธออีกครั้ง

"ช่วยไปคุยกับเขาก่อนและค่อยกลับมา"

เมื่อได้รับคำตกลงจากนักล่าคนอื่นๆ ซังจินและมุสตาฟาก็ได้แยกออกไปจากทีมก่อนที่ทั้งสองคนจะเริ่มคุยกัน แม้ว่าปาตี้ปาตี้นี้จะมีทั้งมุสตาฟาและนาดาอยู่ แต่ว่าเนื่องจากว่าพวกเขาบอกว่ากำลังรีบซังจินจึงพูดเข้าเรื่องในทันที

"ฉันกำลังจะรวมทีม เพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งที่สามารถจะจบการจู่โจมสุดท้ายได้ สิบคนสุดท้ายรวมฉันด้วย"

มุสตาฟาได้เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าซังจินกำลังพูดอะไรอยู่

"ดังนั้นสิ่งที่นายกำลังจะพูดคือนายกำลังเลือกสมาชิกที่ยอดเยี่ยมทั้งสิบคนเข้าสู่การจู่โจมครั้งสุดท้ายด้วยกัน"

ซังจินได้หยักหน้ารับ จากนั้นเขาก็ให้ข้อเสนอที่น่าสนใจเพิ่มไป

"ใช่แล้ว หากนายยอมรับการถูกเลือก นายก็จะได้รับฉายา 'ผู้ถูกเลืกอ' ซึ่งมันจะให้แต้มโบนัสสเตตัสที่น่าทึ่งกับนาย นายคิดยังไงล่ะ?"

อย่างไรก็ตามมุสตาฟาได้สนใจในเรื่องอื่นนอกเหนือไปจากข้อมูลที่ซังจินได้เสนอไป

"จากมุมมองของนาย... นายหมายความว่าจะมีเพียงแค่สิบคนที่จะรอดอยู่จากนักล่าทั้งหมด?"

ซังจินได้ไม่ปฏิเสธมัน

"ใช่แล้ว นั่นเรื่องจริง"

"หืมม...."

มุสตาฟาได้ม้วนหนวดของเขาและไม่ได้พูดอยู่พักหนึ่ง เขาได้พึมพัมกับตัวเอง

"ระดับสูง... ระดับสูง... พระประสงค์ของพระเจ้า... เขากำลังพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอ?"

ซังจินได้กังวลอย่างมากว่ามุสตาฟาจะปฏิเสธข้อเสนอนี้

'ถ้าเขาปฏิเสธมัน...'

ก่อนที่ซังจินจะคิดเสร็จมุสตาฟาก็ได้หยักหน้า

"อืมม ฉันจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อเข้าทีมของนาย?"

****

หลังจากเสร็จสิ้นการจู่โจมและกลับมาที่ตลาดมืด ซังจินก็ได้มุ่งหน้าไปที่ร้านกาแฟในทันที เขากระหายน้ำมากหลังจากได้เดินป่ามาหลายชั่วโมง

"กาแฟอเมริกาโน่เย็นหน่อย"

ในตอนนี้หลังจากเขาได้สั่งเขาก็พูดต่อไป

"เอา ใช่แล้ว ฉันจะเอาแบบกลับบ้านนะ"

"เข้าใจแล้วท่านนักล่า"

ซังจินทำแบบนี้เพราะว่าเขาไม่ได้มีที่จะไปอีก ร้านค้าลับก็ได้หายไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีที่ๆจะต้องใช้เหรียญดำอีกแล้ว เขาไม่มีเหตุผลที่จะได้รับมันมาอีกต่อไป

'สำหรับเหรียญดำที่เหลือฉันควรจะให้แก่นักล่าคนอื่นๆถ้าพวกเขาต้องการ...'

นอกจากนี้ในตอนนี้เขาก็จัดการล่าฆาตกรได้เพียงคนเดียวก่อนที่การจู่โจมจะจบลงไป แทนที่เขาจะขาดแคลนเวลาสำหรับการล่า เขากลับไม่สามารถหาฆาตกรได้แทน

[ไม่มีมิติที่สามารถใช้งานได้]

ในความจริงแล้วเขาได้คิดเรื่องนี้เอาไว้นานแล้ว แม้ว่าหินนี้จะสามารถใช้มันหาฆาตกรได้ในทันทีแต่ว่าเมื่อเขาพัฒนาไปเรื่อยๆในที่สุดมันก็จะไม่สามารถใช้งานได้เลย นั่นมันหมายความว่ามีนักล่าเหลืออยู่ไม่มากแล้ว

'เอาล่ะ....มันคงใกล้จะถึงเวลาแล้ว'

นี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีนะ เพราะว่าหมายหนักของเขาคือการรวบรวมพรรคพวก คราวนี้เขาได้เลือกมุสตาฟาผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมา ดังนั้นในการจู่โจมครั้งนี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก

'เยี่ยม'

ซังจินได้ดื่มกาแฟจากแก้วพลาสติกที่มีน้ำหนักเบาในขณะที่มุ่งหน้าไปโรงตีเหล็กของคาร์กอต ถ้ามันเป็นไปตามที่สัญญาเอาไว้อัญมณีก็ควรจะเสร็จแล้วในตอนนี้ ยังไงก็ตามซังจินได้รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้มาถึงโรงตีเหล็ก แม้ว่าเมื่อวานนี้สถานที่นี้มันจะวุ่นวายมาก แต่ว่าในตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย เบสโกโร่ได้ถามออกมา

'นี้มันอะไรกัน? พวกเขาทั้งหมดไปไหน?'

ซังจินได้รีบเดินไปอย่างรวดเร็วทันที เมื่อเขาไปถึงซังจินก็ได้ยินเสียงกรนดังลั่น

"คร่อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

เสียงนั้นมาจากหลังทั่งตีเหล็ก เมื่อเข้าเข้าไปใกล้ ซังจินก็เห็นคาร์กอสหลับอยู่

"คร่อกกกกกกกกกกกกกก"

เสียงกรนของของคาร์กอสมันดังจนทำให้ซังจินรู้สึกไม่ดีถ้าหากเขาไปปลุกคาร์กอสให้ตื่น ซังจินได้มองไปรอบๆโรงตีเหล็ก ได้มมีกล่องเล็กๆอยู่ใกล้ๆกับเขาอยู่ เขาไม่ได้ปลุกคาร์กอสให้ตื่นและเดินเข้าไปหากล่องนั้นแทน มันมีรอยหยักอยู่บนกล่องเหมือนกับกับทำให้คนกดมันลงไป วังจินได้เดินเข้าไปมองใกล้ๆทันที

'นี้มันคืออะไร'

เขาได้ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามันมีขนาดและรูปร่างที่พอดีกับมือของเขา

'...พวกเขาทำมัน...ให้พอดีกับมือของฉัน?'

ซังจินได้คิดถึงความเป็นไปได้สั่นๆ ถ้าเป็นคาร์กรแล้วเขาก็เชื่อว่านั่นมันเป็นไปได้ หลังจากที่ดาบของเขาทั้งหมดได้ผ่านมือของคาร์กอสมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซังจินได้บางมือของเขาลงไปทันที ตามที่คาดไว้มันพอดีกลับมือของเขา จากนั้นกล่องก็ได้ปล่อยอากาศออกมา

"ฟู่ววววว"

แสงสีน้ำเงินได้เริ่มส่องสว่างออกมาจากด้านในของกล่อง ซังจินได้เปิดมันออกมา ภายในกล่องนั้นเป็นอัญมณีสีน้ำเงินที่มีรูปร่างเป็นดวงดาว มันเป็นอัญมณีที่มีรูปร่างเหมือนกับของเอ็ดเวิร์ด ซังจินได้นำมันมาตรวจสอบอย่างละเอียด น้ำหนักมันค่อนข้างจะเบาต่างจากขนาดของมัน ซังจินได้ยกมันขึ้นมาและไม่นานคำอธิบายของไอเทมก็ปรากฏขึ้น

-----

ไอออส - คำพยากรณ์แห่งดวงดาว

อุปกรณ์ระดับโบราณกาล

ทักษะใช้งาน

แสงดาว (I) - คุณสามารถที่จะดูสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต 24 ชม.นับจากตอนนี้ ถ้าหากผู้ใช้ได้แสดงเจตจำนงของตนมันก็เป็นไปได้ที่จะเปลื่ยนอนาคต สามารถใช้ได้วันละครั้ง

ข้าได้ถือวิสัยทัศน์ของพระเจ้า

ในวันนี้ดวงตาคู่ใหม่ได้เปิดขึ้นจากตัวฉัน

-----

'...อะไรนะ?'

คำอธิบายมันไม่ได้ยาวมากนัก แต่ว่าซังจินได้จ้องมันไปอยู่พักนึง ทักษะใช้งานของมันค่อนข้างจะน่าตกตะลึง

'คุณสามารถที่จะดูได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับอนาคตในอีก 24 ชั่วโมง?'

จิตใจของซังจินได้กลายเป็นสับสนวุ่นวาย เขาได้รับผ้าปิดตาของมังกรที่ทำให้เขามองเห็นอดีต แต่ว่านี้มันเป็นไอเทมที่แปลกยิ่งไปกว่านั้นมาก

'นี้มันคือ...'

เขาได้หันหน้าไปและมองไปที่คาร์กอสที่หลับอยู่สั้นๆ

"คร่อกกกกก...."

ซังจินได้คิดว่าคาร์กอสน่าจะได้หลับลงไปครั้งจากได้สร้างเจ้าสิ่งนี้เสร็ว เขาได้หลับสนิทอย่างไม่น่าเชื่อ ซังจินได้มองไปมาระหว่างดาวและคาร์กอสหลายครั้งก่อนที่จะรู้สึกผิดและตัดสินใจไม่ปลุกคาร์กอสขึ้นมา

'...เขาอาจจะเป็นแบบนี้เพราะทำเจ้านี้...'

ซังจินได้เก็บดาวลงไปในเสื้อก่อนจะหันไป หลังจากที่มันเสร็จแล้ว เขาก็เพียงแค่เอามันออกมาจากกล่อง แต่แล้วจากนั้นเขาก็มีความคิดขึ้น

'จริงสิ...ฉันน่าจะเป็นคนเดียวที่เปิดเจ้านี่ได้...เขาอาจจะคิดมอบมันให้ฉัน'

คาร์กอสเป็นคนที่มีความมั่นใจในการทำงานของเขา เขารู้ว่ามีเพียงซังจินที่จะเปิดกล่องได้และเอาอัญมณีไป ยังไงก็ตามสถานที่แห่งนี้ซังจินเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในมิตินี้ ซังจินได้ทิ้งคาร์กอสไว้และกลับไปที่โรงแรม

"วันนี้ก็ดีเหมือนเคยสินะครับ ท่านนักล่า"

ดารูปินได้ทักทายเขา แต่ว่าซังจินทักทายอย่างตื่นเต้นก่อนที่จะกลับไปที่ห้องเหมือนกับลม เขาได้นั่งลงบนเก้าอี้ที่ถัดอยู่จากหน้าต่างก่อนที่จะหยิบอุปกรณ์นั้นออกมาอีกครั้ง อัญมณีที่มีรูปร่างเหมือนดาวได้ส่องแสงสีน้ำเงินออกมา

'นี้มัน...สวยจริงๆ'

ซังจินแทบจะลืมตัวไปกับความสวยงามของแสงสีน้ำเงิน มันก็เหมือนกับช่วงเวลานั้นในการจู่โจมสุดท้ายที่เอ็ดเวิร์ดได้หยิบมันออกมาครู่หนึ่ง ทันใดนั้นความคิดนี้ก็มามาในขณะที่ซังจินกำลังลูบดาว

'เดี๋ยวก่อนนะถ้างั้น... ในระหว่างการจู่โจมสุดท้าย... เขาเป็นคนที่เห็นอนาคตด้วยเจ้านี่? 24 ชั่วโมงในอนาคต?'

มันแน่ชัดแล้วก่อนที่จะต่อสู้กับราชาปีศาจ ในเวลานั้นท่าทางของเอ็ดเวิร์ดได้เปลื่ยนไปหลังจากเห็นสิ่งนี้ หลังจากนั้นเขาก็ได้เป็นฆาตุกรในขณะที่เริ่ม่าทุกๆคนในปาตี้ ยังไม่แน่ชัดว่าเอ็ดเวิร์ดได้ทำเพื่ออะไร แต่ว่าด้วยความตายของเขาเองทำให้ซังจินได้ย้อนกลับมา

'24 ชั่วโมงหลังจากเวลานั้น... เพียงแค่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต... สิ่งที่เอ็ดเวิร์ดเห็น....'

ซังจินไม่รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดเห็นอะไร แต่ว่ามันชัดเจนว่าสิ่งที่เขาได้เห็นมันมีผลกระทบกับเขาเป็นอย่างมาก

'ตั้งแต่ที่ปราสาทราชาปีศาจคือบทที่ 20... นั่นมันก็หมายความว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในบทที่ 21'

ยังไงก็ตามในตอนนี้เขาไม่สามารถจะคิดมันออกไป เขาไม่สามารถจะรู้ในสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดได้

'ไม่ว่ายังไงก็ตามดูเหมือนว่าฉันจะต้องรอให้มันถึงเวลานั้นเอง...'

ซังจินได้ตรวจสอบดาวนี้จากมุมต่างๆก่อนที่จะคิดกับตัวเอง

"แต่ว่า...เมื่อไหร่ที่ฉันจะใช้เจ้าสิ่งนี้ได้?"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด