GE385 สังหารเจ้าเยี่ยงสุนัข [ฟรี]
เพียงแค่แรงกดดันก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม ตัดวิญญาณ และไร้ดัดแปลงบาดเจ็บสาหัส
หนิงฝานตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของหยุนเทียนนเฉว มันแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก
หนิงฝานมั่นใจแล้วว่าคนผู้นี้คือหยุนเทียนเฉวจริงๆ เพราะแม้กษัตริย์พิรุณจะออกคำสั่งว่าห้ามเข้าแคว้นหิมะ แต่หยุนเทียนเฉวไม่สนใจ
คนแข็งแกร่งระดับมัน ผู้ใดจะกล้าขวาง!
แววตาหยุนเฉวไม่แปรเปลี่ยน ราวกับการทำร้ายผู้เชี่ยวชาญนับหมื่นเป็นเรื่องธรรมดา
กระบี่ยักษ์นำพาหนิงฝานและหยุนเทียนเฉวมุ่งฝ่าเข้าไปในแคว้นหิมะ ผ่านไปครึ่งวัน ทั้งสองก็เข้ามาไกลกว่าพันล้านลี้
ไกลออกไปเบื้องหน้ามีกลุ่มภูเขายักษ์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ รูปทรงโดยรวมดูคล้ายมังกร
หยุนเทียนเฉวพาหนิงฝานร่อนลงข้างๆภูเขาเหล่านั้นแล้วกล่าวอย่างจริงจัง
“ที่นี่คือหุบเขามังกร... หากเข้าไปในนั้นแล้วต้องตามข้าให้ทัน อย่าได้ห่างแม้เพียงครึ่งก้าว ห้ามกล่าวอะไรด้วย เพราะผู้ปกครองที่นี่อารมณ์ร้าย”
หยุนเทียนเฉวมุ่งเข้าไปในหุบเขา หนิงฝานเร่งตามมันไปติดๆ
หนิงฝานขบคิด ผู้ปกครองหุบเขามังกรแห่งนี้เป็นใคร เหตุใดถึงทำให้หยุนเทียนเฉวกังวล?
บรรยากาศภายในหุบเขาดูสงบ สายลมพัดผ่านส่งเสียงหวีดหวิว
แต่ถึงแม้ภายในจะงดงาม แต่บรรยากาศกลับดูแปลกพิกล เพราะตลอดเส้นทาง มีหลุมอยู่หลายแห่ง บางครั้งจะได้ยินเสียงอสูรคำรามพาดผ่านหุบเขา ตามด้วยเสียงคำรามของเหล่าอสูรจำนวนมากที่อยู่ภายในหลุม ราวกับพวกมันกำลังตรงเข้ามา
จากแรงกดดันของพวกมัน ส่วนใหญ่เป็นอสูรตัดวิญญาณ แต่ในบรรดาอสูรเหล่านั้น มีอสูรกว่า 10 ตนที่แผ่แรงกดดันในขอบเขตไร้ดัดแปลงออกมา
“ห้ามผลีผลามลงมือ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่รอดออกไปจากที่นี่ จะยั่วยุหมอนั้นไม่ได้” หยุนเทียนเฉวกล่าวเตือน
แต่ทันทีที่กล่าวจบ มันกลับแผ่เจตจำนงค์กระบี่ปกคลุมรัศมีหมื่นลี้ ปราณกระบี่กวาดผ่านร่างอสูรนับหมื่น เฉือนบริเวณลำคอของพวกมันครึ่งฉื่อ แล้วดูดซับโลหิตของพวกมันทั้งหมดเข้ามาในน้ำเต้าโลหิต
หยุนเทียนเฉวเพิ่งบอกตนเองว่าอย่าทำร้ายอสูรเหล่านั้น แต่ตนเองกลับลงมือเสียเอง
“ไสหัวไป!”
หยุนเทียนเฉวขมวดคิ้ว แรงกดดันและปราณกระบี่ที่รุนแรงทำให้เหล่าอสูรหวาดกลัว แตกตื่นหลบหนี
“เข้าไปในหุบเขา” หยุนเทียนเฉวสั่งพลางเดินตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หนิงฝานหันมองรอบๆ แม้จะมีอสูรหลายตนที่หวาดกลัว แต่ยังมีอสูรในขอบเขตไร้ดัดแปลงซ่อนตัว จ้องมองเขาพลางกลืนน้ำลาย
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาเร่งตามหลังหยุนเทียนเฉวไปอย่างรวดเร็ว เพราะหากแยกจากมัน อสูรไร้ดัดแปลงอาจรุมจู่โจม
“ฮึ่ม!”
น้ำเสียงที่เย็นชาดังลอดออกมาตามตามเส้นทางของหุบเขา เป็นเสียงของชายชราผู้หนึ่ง
เสียงของชายชราแฝงด้วยอำนาจในขอบเขตไร้แบ่งแยก อานุภาพของเสียงก่อเกิดเมฆดำที่ทรงพลังมากพอที่จะสังหารผู้ที่มีระดับต่ำกว่าขอบเขตไร้แบ่งแยก
ถึงแม้เสียงจะทรงพลัง แต่เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่หนิงฝาน แต่อยู่ที่หยุนเทียนเฉว
ชายชรารู้ว่าหนิงฝานไม่ได้ทำร้ายเหล่าอสูร จึงไม่จู่โจม
“แรงกดดันทรงพลัง… แต่เจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ข้า”
สีหน้าหยุนเทียนเฉยเรียบเฉย แววตาสงบนิ่งไม่สั่นไหว นิ้วชี้ไปเบื้องหน้า ปราณกระบี่ที่ทรงพลังเข้าสลายแรงกดดัน
*ตูม!*
การปะทะของพลังทั้งสองสายรุนแรงจนเกือบทำให้หิมะถล่ม พื้นดินรัศมีล้านลี้สั่นสะเทือน
หนิงฝานตกตะลึง ดรรชนีกระบี่ของหยุนเทียนเฉวเมื่อครู่ทรงพลังยิ่งกว่าจารึกตะวันจันทราที่จู่โจมเต็มกำลัง
หยุนเทียนเฉวผู้นี้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกธรรมดา อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกอันดับต้นๆของโลกพิรุณ
หากเทียบกับหานเนี่ยเทียนแล้ว ไม่รู้ว่าใครจะทรงพลังกว่ากัน
“ฮึ่ม! ที่แท้เป็นเทพกระบี่อาภรณ์ขาว เก่งกาจสมคำร่ำลือ… เข้ามาได้!”
เสียงของชายชราค่อยๆเลือนหายไปกับสายลม
หยุนเทียนเฉวมุ่งตรงเข้าสู่ส่วนลึกของหุบเขา หนิงฝานเร่งติดตามไป
หลังจากผ่านกลุ่มหมอกหนา ทิวทัศน์เบื้องหน้าคือลานหิมะกว้างนับหมื่นลี้
แต่เมื่อก้าวเข้าไปยังลานหิมะกว้าง ทิวทัศน์เบื้องหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นเป็นทะเลโลหิตทอดยาวราวกับไร้ที่สิ้นสุด
หนิงฝานรู้สึกสะอิดสะเอียน สถานที่แห่งนี้สมควรเป็นอีกมิติ
“ฝ่ามือพลิกมิติ...” หนิงฝานรู้ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากวิชาของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก แต่เหตุใดหยุนเทียนเฉวถึงพาเขามาที่นี่
โลหิตเหล่านี้ไม่ใช่โลหิตของอสูรที่อยู่ข้างนอก หรือโลหิตเหล่านี้จะเป็นโลหิตของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก?
หนิงฝานจ้องมองหยุนเทียนเฉว ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกทุกคนน่าจะเข้าร่วมวิหารพิรุณ หยุนเทียนเฉวเองก็เป็นคนของวิหารพิรุณ หรือการที่มันมาที่นี่เพราะหวังจะสังหารและช่วงชิงโลหิตของชายชราที่นี่
“ตาเฒ่าฉู ข้ามาเอาโลหิต”
“ยังไม่ครบกำหนด 10 ปี ข้ายังไม่ได้เตรียมโลหิตมังกรให้เจ้า” เสียงของชายชราดังมาพร้อมกับการปรากฏตัวของเงาร่าง 6 สาย
ในกลุ่มผู้ที่ปรากฏตัวนั้น มีชายชราผมแดงที่แผ่กลิ่นอายอันทรงพลังเป็นผู้นำ ด้านหลังมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 4 คนติดตาม
ชายชราผู้นั้นคือผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก
แต่ยังมีอีกผู้หนึ่งเป็นชายวัยกลางคน หันมองหนิงฝาน แต่การมองของชายคนนั้น ทำให้ดวงจิตของหนิงฝานสั่นไหว ชายผู้นี้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเช่นกัน!
สถานที่แห่งนี้มีผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกรวมตัวถึง 3 คน!
“หยุนเทียนเฉวไม่ได้เจอกันนาน เจ้ายังไม่ตายอีกเหรอ… ได้ข่าวว่าเจ้าถูกผนึกพลังเอาไว้ รู้สึกเป็นไงบ้าง?”
ชายวัยกลางคนจ้องมองหยุนเทียนเฉวด้วยสายตาเย็นชา
หยุนเทียนเฉวไม่ได้สนใจมัน สายตาของหยุนเทียนเฉวจับจ้องไปยังชายชราผมแดง
“ตาเฒ่าฉู ข้ามาเอาโลหิต”
“ข้าก็บอกไปแล้วไงว่ายังไม่ครบกำหนดเวลา 10 ปี! ที่นี่ไม่มีโลหิตให้เจ้าหรอก!”
“ข้าไม่ได้มาโลหิตของข้า ข้ามาเอาให้เด็กนี้ มันคือผู้อาวุโสคนใหม่ของวิหารพิรุณนามซัวหมิง… หากจะเป็นผู้อาวุโสของวิหารพิรุณโดยสมบูรณ์ อย่างน้อยๆก็ต้องได้โลหิตมังกร 1 หม้อ”
“ซัวหมิง?” ตาเฒ่าฉูขมวดคิ้ว ชายวัยกลางคนก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
“เจ้าคือซัวหมิง! คนที่สังหารผู้อาวุโสหยานหน่ะหรอ?” ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ดูเหมือนผู้อาวุโสหยานผู้นั้นจะรู้จักกับชายวัยกลางคนผู้นี้ หรือบางทีอาจเป็นผู้เยาว์ของมันก็ได้
ชายวัยกลางคนโกรธเคือง แผ่แรงกดดันเข้าใส่หนิงฝาน แต่กลับถูกหยุนเทียนเฉวสลายไป
หยุนเทียนเฉวยังคงไม่สนใจชายวัยกลางคน สายตายังคงจับจ้องชายชรา
“ไปเอาโลหิตมังกรของเจ้ามาได้แล้ว!” หยุนเทียนเฉวหันกล่าวกับหนิงฝาน
หนิงฝานขบคิดพลางมองผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ชายวัยกลางคนและผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 4 คนมองหนิงฝานด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่ชายชราผมแดงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อขบคิดได้แล้ว หนิงฝานก็ไม่สนใจคนอื่นๆ สายตาจับจ้องเพียงชายชราผมแดง
แม้คนเหล่านั้นไม่พอใจ แต่เมื่อมีหยุนเทียนเฉวคุ้มครอง เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัว ดังนั้น เขาจึงป้องมือกล่าวกับชายชราผมแดง
“ผู้เยาว์ซัวหมิง คารวะผู้อาวุโสฉู” ทันทีที่หนิงฝานกล่าวจบ สีหน้ากลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
ชายชราผมแดงยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย และชี้นิ้วมาที่หนิงฝาน
แต่ชั่วพริบตานั้น เปลวเพลิงที่รุนแรงในระดับไร้แบ่งแยกลุกโหม
“หากเจ้ารับเพลิงนี่ได้ ข้าจะให้โลหิตมังกร 3 หม้อ” คำกล่าวของชายชราทำให้คนอื่นไม่พอใจ
“สามหม้อ!” สำหรับระดับพลังอย่างหนิงฝาน โลหิตมังกร 3 หม้อนับเป็นสมบัติที่ล้ำค่า
ดวงตาหนิงฝานเป็นประกาย เพลิงเบื้องหน้าทรงพลัง แต่ถึงหนิงฝานจะรับมันไม่ได้ เขาก็ไม่บาดเจ็บ… ดูเหมือนการทดสอบที่ว่าคือต้องเอาโลหิตมังกรมาให้ได้
หากหนิงฝานกลัวเพลิงเหล่านี้ เตาเฒ่าฉูและหยุนเทียนเฉวคงจะดูถูกเอา
ดังนั้นหนิงฝานจึงเดินเข้าหาเปลวเพลิงที่ชายชราผมแดงจุดไว้ ยื่นมือไปเบื้องหน้า โคจรวิชาจากสร้อยหยินหยาง เปลวเพลิงที่ทรงพลังเบื้องหน้าถูกดูดกลืนเข้าสู่จารึกตะวันจันทราในพริบตา
ตาเฒ่าฉูตกตะลึง แต่แล้วกลับเผยสีหน้ามีความสุข
“ดี! ดีมาก! สมแล้วที่สามารถต้านเพลิงได้… คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะต้านรับเพลิงระดับไร้แบ่งแยกได้ ยอดเยี่ยม!”
ชายชราเดินเข้ามาหาหนิงฝานพลางนำหม้อหยกที่ใส่โลหิตออกมา 3 ใบ
แม้หนิงฝานไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าโลหิตมังกรคืออะไร แต่จากกลิ่นของมัน ปราณที่อัดแน่นอยู่ภายในสมควรใกล้เคียงกับสุราของหยุนเทียนเฉว
“ขอบคุณผู้อาวุโสฉูที่เมตตา!” หนิงฝานป้องมือกล่าว
“ไม่เป็นไร! เมื่อเจ้าผ่านการทดสอบ เจ้าก็ได้โลหิตมังกรไป… หยุนเทียนเฉว เจ้าไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า!”
ในขณะที่ตาเฒ่าฉูกำลังจะโบกมือไล่ จู่ๆกลับมีกระบี่มาจ่อที่ลำคอของตน
“นี่มันหมายความว่ายังไง?” ชายชราตกตะลึง เมื่อมันตามการเคลื่อนไหวของหยุนเทียนเฉวไม่ทัน
ชายชราคือผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ 2 แต่ยังไม่อาจตามความเร็วของหยุนเทียนเฉวได้ทัน!
ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก จะรู้ว่าหยุนเทียนเฉวถูกผนึกพลังให้อยู่ในขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 1 แต่ดูเหมือนว่าข่าวที่แผ่ไปยังไม่จริง
“ให้มันลงไปเอาโลหิตในสระโลหิตมังกรตัวเอง” หยุนเทียนเฉวกล่าวอย่างเรียบเฉย
“เป็นไปไม่ได้! เขาแค่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด หากลงไปก็มีแต่ตายเท่านั้น”
“ไมต้องพูดมาก!”
หยุนเทียนเฉวกล่าวโดยไม่รอให้ชายชราปฏิเสธ หากชายชรายังปฏิเสธ กระบี่จะบั่นศีรษะของมันทันที
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยน แม้จะสับสนแต่เขาก็ไม่ขัด เขาไม่รู้ว่าหยุนเทียนเฉวตั้งใจจะทำอะไร
ปากบอกว่าจะพามาทดสอบ แต่กลับใช้กระบี่บังคับผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก เพื่อให้เขาได้ลงสระโลหิตมังกร
“ก็ได้… ให้เขาลงสระโลหิตมังกร แต่หากเด็กของเจ้าตาย ก็อย่าได้ตำหนิข้า!”
ชายชราทั้งโกรธและสงสัย ชายชราได้ยินมาว่าหยุนเทียนเฉวเป็นเหมือนคนเสียสติ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมันพาคนมารับโลหิตมังกร ชายชราเดาว่าหนิงฝานอาจเป็นคำสำคัญของหยุนเทียนเฉว
“มันไม่ตายหรอก ขนาดดื่มสุราข้า 3 จิบรวดยังไม่ตายเลย… สระโลหิตมังกรทำอะไรไม่ได้หรอก” คำกล่าวของหยุนเทียนเฉวทำให้สีหน้าชายชราแปรเปลี่ยน
“3 จิบรวด? ยังไม่บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง แต่ดื่มสุราของเจ้าได้ 3 จิบซ้อนเนี่ยนะ!”
ชายชราหันมองหนิงฝานอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เห็นบางสิ่งที่ไม่เข้าใจในตัวหนิงฝาน
หลังจากขบคิดต่างๆนาๆ สุดท้ายชายชราก็ยอมทำตามคำกล่าวของหยุนเทียนเฉว
“ดี! งั้นข้าจะไปเตรียมสระโลหิตรอ พรุ่งนี้ย่อมใช้งานได้ พวกเจ้าไปพักกันก่อน ส่วนเจ้า...”
ชายชราหันมองชายวัยกลางคนพลางกล่าว “หยุนจิงหง… เด็กที่เจ้าพามาก็ให้ลงแช่สระมังกรโลหิตด้วยกันเลย”
ชายวัยกลางคนแท้จริงแล้วคือองค์ชายเจ็ดแห่งวิหารพิรุณ!
เมื่อได้ยินว่าจะได้ลงแช่สระมังกร ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 4 คนนั้นหวาดกลัว มีเพียงหยิงจิงหงเท่านั้นที่พึงพอใจ
“เด็กพวกนั้นจะได้ลงสระโลหิมังกรด้วยเหรอ? ต้องขอบคุณผู้อาวุโสมาก โอกาสเช่นนี้หาได้ยาก… ส่วนตอนนี้ ข้าว่าเรามาสะสางปัญหาคาใจเพื่อฆ่าเวลาดีกว่า!”
หยุนจิงหงก้าวเดินเข้าหา ทั่วร่างแผ่ปราณน้ำแข็งที่รุนแรง มิติรอบข้างสั่นไหว
“เทพกระบี่อาภรณ์ขาว… ก็แค่ขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 1... ตัวเจ้าแค่โชคดีที่ได้สืบทอดเทพกระบี่ปีศาจมา ไม่อย่างนั้นเจ้าก็คงไม่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ แต่ข้าไม่ยอมรับ! เจ้าสังหารพี่สี่เพียงเพราะสตรีนางเดียว แค้นนี้ต้องชำระ!”
หยุนเทียนเฉวไม่กล่าว แต่แววตาแปรเปลี่ยนเย็นชา
“เจ้าและข้าต่างอยู่ในขอบเขตไร้แบ่งแยก แต่ตอนนี้ข้าเกือบจะทะลวงระดับ 2 แล้ว หากข้าทะลวงระดับได้เมื่อไหร่ เจ้าไม่มีทางชนะข้าแน่! ฮึ่ม! ตัดความรู้สึกเพียงเพราะกระบี่ จดไม่ได้แม้แต่สตรีของตน เจ้ามันไม่คู่ควร!” หยุนจิงหงเย้ยหยัน
“สตรีของข้า...” หยุนเทียนเฉวรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
“เจ้ามันไม่คู่ควรกับสมบัติของวิหารพิรุณ ส่งน้ำเต้าโลหิตมาซะ! ไม่อย่างนั้น หากข้าบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงที่ 2 ได้เมื่อไหร่ ข้าจะบอกให้พระบิดาขับไล่เจ้า แล้วตัดแขนอีกข้างของเจ้าทิ้ง!” หยุนจิงหงกล่าว
“คิดว่าทำได้ก็ลองดู” แววตาหยุนเทียนเฉวเย็นชาราวกับน้ำแข็งหมื่นปี มันไม่ได้เป็นอย่างที่หยุนจิงหงกล่าว
ในช่วงพันปีมานี้ ทุกคนต่างคิดว่าหยุนเทียนเฉวเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ 1
ในอดีตหยุนเทียนเฉวเคยทำผิดพลาดร้ายแรง จึงถูกผนึกพลังและตัดแขน
หนิงฝานส่ายหน้า เท่าที่เขาสัมผัสได้ อย่างน้อยๆหยุนเทียนเฉวก็แข็งแกร่งชายชราและชายวัยกลางคน หากเทียบกับหานเนี่ยเทียน ทั้งสองแข็งแกร่งต่างกันไม่มาก
หยุนเทียนเฉวก้าวเท้าไปเบื้องหน้า ปราณกระบี่จำนวนมากปรากฏ ภูเขาโดยรอบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
แรงกดดันที่ทรงพลังตรงเข้าจู่โจมหยุนจิงหง จนร่างกายและดวงจิตเทพของมันแทบรับไม่ไหว ตัวมันไม่ได้อาจต้านรับหยุนเทียนเฉวแม้แต่น้อย
โลหิตไหลรินที่ดวงตาหยุนจิงหง แค่แรงกดดันของหยุนเทียนเฉวมันก็แทบจะต้านไม่อยู่ ยามนี้มันรู้สึกราวกับมีบางสิ่งกระแทบเข้ากลางหน้าอกอย่างจัง จนร่นถอยไป 10 ก้าว แล้วกระอักโลหิต
“ขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 4! เป็นไปไม่ได้! เจ้าแน่จะถูกผนึกอยู่แค่ขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 1! เมื่อยามที่เจ้าสังหารพี่สี่ พระบิดาสมควรลง ‘ผนึกสยบปีศาจกับเจ้า’ เจ้าไม่มีทางทะลวงระดับได้ เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะถอนผนึกเอง!”
หยุนจิงหงหวาดกลัว ขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 4 ไม่ใช่สิ่งที่มันจะต้านทานได้
หากหยุนเทียนเฉวคิดจะสังหารจริง มันคงตายไปแล้ว
“ครั้งนี้ข้าจะเมตตาไว้ชีวิตเจ้า!”
“หากเจ้ายังไม่หยุด ข้าจะสังหารเจ้าเยี่ยงสุนัข!”
หยุนเทียนเฉวไม่สนใจหยุนจิงหง มันนำหนิงฝานตรงไปยังที่พักอย่างรวดเร็ว
หนิงฝานเองก็ตกตะลึงเช่นกัน หยุนจิงหงสู้หยุนเทียนเฉวไม่ได้แม้แต่น้อย
หยุนเทียนเฉวแข็งแกร่ง
“หากมีคนผู้นี้อยู่ ก็ไม่ต้องกลัวหานเนี่ยเทียน!” หนิงฝานขบคิด...