ตอนที่แล้วSPH:บทที่ 11 เจ้าหน้าที่สาว ชุยอิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSPH:บทที่ 13 น้ำยาสัตย์จริง

SPH:บทที่ 12 จับรางวัลอีกครั้ง


SPH:บทที่ 12 จับรางวัลอีกครั้ง

"ปู่ ผมกลับมาแล้ว" เมื่อเย่หยูเข้ามาใกล้ประตู เขาเห็นปู่ของเขา เย่เว่ยเกา กำลังนำอาหารจานร้อน

ไปวางไว้ที่โต๊ะ

เมื่อเย่เว่ยเกาได้ยินเสียง

เขาก็เงยหน้าขึ้นมาและเผยรอยยิ้มบนหน้าที่แก่ชราของเขา

"เสี่ยวหยูกลับมาแล้ว ปู่เพิ่งอุ่นอาหารมาให้ รีบมากินสิ!"

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ

เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่ม เย่เว่ยเกาอายุมากแล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้านอนไว เย่หยูนอนลงบนเตียงเขา เขารู้สึกระส่ำระส่ายจนทำให้ไม่สามารถหลับลงได้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่เย่หยูต่อสู้กับอันธพาลที่มีความรู้สึกเจตนาจะฆ่าแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแค่คนอ่อนแอเมื่ออยู่ตรงหน้าเขา

ชายรอยสักงูพูดถูก ถึงแม้สมรรถภาพร่างกายของเขาจะดีมาก

เขาไม่ได้เป็นผู้ศิลปะป้องกันตัว และไม่รู้ว่าจะจู่โจมอย่างไร ไม่เช่นนั้น การต่อสู้คงไม่จบเร็วขนาดนี้

เมื่อนึกถึงท่าออกกำลังกาย​ 36 ท่า เย่หยูคิดอีกครั้งเกี่ยวกับรางวัลล็อตเตอรรี่ แม้ว่าชื่อของมันจะแปลกแต่ผลกระทบกลับดีเกินคาด หากไม่ใช่เพราะท่าออกกำลังกายชุดนี้ เย่หยูอาจจะถูกชายรอยสักงูทุ่มลงบนพื้น

ระบบพูดว่าชุดออกกำลังกายที่ออกมาจะเพิ่มสมรรถภาพร่างกายได้ถึง 5 เท่า

เย่หยูกระโดดลงจากเตียง เขาทำท่าออกกำลังบนพื้นที่ว่างในห้อง

ออกกำลังกายยืดร่างกายการขยายทรวงอก

เคลื่อนไหวด้วยการกระโดด

หลังจากที่อบอุ่นร่างกายเสร็จ ขั้นต่อไปจะจริงจังมากขึ้น นึกถึงการเคลื่อนไหวในความคิด เย่หยูปากกระตุก

นี้มันผิดปกติมากเกินไป ใครเป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้นมา? นี้มันคือสิ่งที่มนุษย์ทำได้จริงๆหรอ?

เพียงดึงการเคลื่อนไหวธรรมดาๆออกมา

การเคลื่อนไหวง่ายๆเป็นขั้นตอนจะทำลายทำลายขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ แม้แต่อาจารย์โยคะยังไม่สามารถทำท่าผิดปกติๆแบบนี้ได้

"บ้าเอ้ย! นี่มันเคล็ดลับแปลกๆประเภทไหนเนี่ย? พวกเขาจะทำให้ผู้คนกลายเป็นบ้า!"

เย่หยูด่าทออย่างเงียบๆ เขาบิดเอวและสะโพกจนเกือบจะเป็นเกลียวแป้งทอด

พื้นที่เย่หยูยืนอยู เปียกเนื่องจากเหงื่อของเขา

ด้วยร่างกายปัจจุบันของเย่หยู

เขาจะไม่มีเหงื่อแม้จะวิ่งด้วยความเร็ว 5000 เมตร อย่างไรก็ตาม ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ท่า เย่หยูกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ

โป๊ะ!

เย่หยูไม่สามารถทรงตัวในท่านี้ได้ จึงทำให้เขาล้มลงบนพื้น เข้าเหนื่อยจนลิ้นห้อยและหอบหายใจอย่างหนัก จนดูเหมือนว่าเขากำลังจะตาย

หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเย่หยูก็ฟืนตัวแล้วนอนบนพื้นแต่ยังไม่ยินดีที่จะเคลื่อนไหว

"ฟิ้ว… เสร็จละ!"

"ดูเหมือนว่าฉันกำลังจะตายไม่ช้า​ ฉันอยากจะรู้จริงว่าจักรวรรดิซิงฮั่นสนับสนุนท่าออกกำลังกายอย่างไร"

เย่หยูนอนลงบนพื้น มองไปยังเพดานที่อยู่เหนือเขาในขณะที่เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง

จริงๆแล้ว เย่หยูผิด​ ในจักรวรรดิซิงฮั่น การทำท่าออกกำลังกายทำขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ด้วยการเคลื่อนไหวทีละขั้น ทีละขั้น

เฉพาะผู้ที่ฝึกฝนทุกวันเป็นเวลา 7 ถึง 8 ปีเท่านั้นที่จะสามารถเคลื่อนไหวได้ครบทุกท่วงท่า ไม่เหมือนเย่หยู คนที่สามารถจบทุกกระบวนท่าภายในครั้งแรก

โชคดีที่มันเป็นพรสวรรค์ที่แฝงไว้

ความเหนื่อยล้ามากๆจะส่งผลให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น

คลื่นความร้อนถูกปล่อยออกมาจากไขกระดูกเย่หยู เขารู้ว่าร่างกายของเขาอุ่นและผ่อนคลาย ราว

กับว่าเขากำลังแช่อยู่ในน้ำพุร้อนซึ่งมันทำให้เขารู้สึกสบายมาก

หลังจากยืนขึ้น เย่หยูบิดเอวเล็กน้อย​ เขารู้สึกว่าเขาคล่องแคล่วกว่าเมื่อก่อน​และเขารู้สึกเจ็บปวดกล้ามเหนื่อย

เย่หยูขมวดคิ้ว เขาไม่น่ารีบร้อนเกินไป ทำแค่วันละหนึ่งครั้งในลิมิทของเขาก็พอ

อย่างไรก็ตาม หากความคิดนี้เป็นทีรู้กันในจักรวรรดิซิงฮั่น พวกเขาอาจจะอ้าปากค้างในเรื่องที่ต้องทำวันละครั้ง? แค่ทรงตัวท่าเดียวก็ใช้พลังงานของคนปกติทั้งหมดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะทำครบเซ็ท

"มนุษย์: เย่หยู(ผู้ผึกตน​ เลเวล 1 )"

"รูปร่าง: ร่างกายแห่งจิตวิญญาณดาบ"

"การขโมย รวม: 0"

"คะแนนเต๋าชั้นสูง: 80/1000"

"ความสามารถ: ทักษะไพ่บิน, สุดยอดการคำนวน"

"ทักษะท่าร่าง: "ท่าออกกำลังกาย​ 36 ท่า(เริ่มต้น)​"

"จับรางวัล: 1 "

เอ่อ?

เย่หยูมองไปยังแผงระบบในความคิด ท่าออกกำลังกายอยู่ในระดับเริ่มต้น

ดูเหมือนว่าเขาจะต้องทำงานหนัก และพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะอยู่ในระดับสูงให้ได้

ตอนนี้ สมรรถภาพร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!

ยิ่งไปกว่านั้น เพราะมันไม่ได้รับรองว่าคุณจะกลายเป็นฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จการช่วยสาวสวยในครั้งต่อไปได้ ยังคงมีโอกาสอีกครั้งที่จำทำเท่

เย่หยูถูมือของเขาเข้าด้วยกัน มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอีกแล้ว จับรางวัล ไปกัน!

ในอาคารโรงเรียนมัธยมเซียงหยู

ชายวัยกลางคนร่างอ้วนเตี้ยกำลังพิงอยู่ที่หน้าต่าง มองไปยังนอกหน้าต่าง

ภายใต้ชุดสูทที่ถูกรีดมาอย่างดีเผยให้เห็นพุง

มันทำให้รู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษ มีผมเส้นบางๆบนหัวที่เงาวาวและดวงตาที่ใหญ่เท่าเม็ดถั่วของเขาเบิกกว้าง พยายามอย่างมากที่จะเผยให้เห็นถึงร่องรอยที่สง่างาม

มืออ้วนๆของเขากำลังถือมือถือแนบไปที่หูของขา

"อย่ากังวลไปเลยหลานชายนายเป็นคนน่าสงสาร! ลุงของนายจะทำให้เขาออกจากโรงเรียนในอีก

ไม่ช้า!"

"ไม่มีปัญหา! เขากล้าทำร้ายลุงงั้นหรอ?"

"ลุงรู้ เขาชื่อเย่หยู ใช่ไหม?"

แม้ว่าชายวัยกลางคนอ้วนเตี้ยคนนี้จะดูน่าขยะแขยงแต่เขาก็เป็นที่รู้จักกันดีในโรงเรียนมัธยม

เซียงหยู

จูเหลียง หัวหน้าสำนักการศึกษา

แน่นอน ความจริงที่เขาได้เลื่อนขั้นไม่ได้หมายถึงว่าเขาโดดเด่นแต่ดีแต่เขามีน้องสาวที่ดี หนึ่งในผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมต้นเซียงหยู หยาน เฟิงอี

จูเหลียงเป็นลุงของโอวหยางหยู

เขาเพิ่งคุยกับโอหยางหยูเสร็จและพยายามหาปัญหาใส่เย่หยูภายใต้คำสั่งโอหยางหยู

จูเหลียงวางมือถือลงมองนักเรียนที่เข้ามาในโรงเรียนทีละคนๆ ปากของเขาโค้งเหมือนกำลังยิ้ม

เยาะ เด็กที่น่าสงสารอย่างเย่หยูคงต้องการพลิกสวรรค์เป็นแน่

เย่หยูเดินเข้าโรงเรียนอย่างช้าๆโดยไม่สนใจนักเรียนสาวที่กำลังมองเขาอย่างชื่นชม เขาเดินตรง

ไปยังอาคารเรียน

"สวัสดี พี่ชายสุดหล่อ ฉันชื่อฉินชิง คลาส 3 ทำไมถึงไม่เคยเห็นนายมาก่อนละ?"

เสียงใสดังเข้ามาในหูของเย่หยู และเมื่อเย่หยูหันหลังกลับไป

เขาย่นคิ้วเล็กน้อย

เธอไม่ใช่คนที่น่าเกลียดอะไร ตรงกันข้าม​ ฉินชิงเป็นคนน่ารัก เธอมีใบหน้าที่เล็กเท่าฝ่ามือ

นิ้วเรียวยาวและขาที่ยาวทั้งคู่ เธอดูขาวมาก!

สิ่งที่ทำให้เย่หยูย่นคิ้วเป็นผลมาจากการคาดคะเนขั้นสูง

"ผู้หญิงอายุ 18 ปี สูง 173 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 90 จิน(45กก.)​ ใบหน้าซีด คิ้วดก

ตาเฉี่ยวขึ้นโหนกแก้มสูงเล็กน้อย ขาใหญ่ 2.5 เซนติเมตร ดูเหมือนนะ… "

โดยรวมแล้ว ฉินชิงเป็นคนใจแคบ ถ่อมตนและเป็นคนยากไร้

"เธอเป็นอะไร?"

เย่หยูมองไปยังฉินชิง

คนที่มีรอยยิ้มที่จริงใจบนหน้าและพูดอย่างไม่สนใจว่า

"อะ แฮ่ม…"

"หืม… นายไม่สนใจอยากจะมีเพื่อนใหม่หรอ?"

หลังจากที่ฉินชิงพูดจบ

เธอก็ก้มหัวลงแล้วเผยให้เห็นแก้มแดงๆบนหน้าหน้า เธอยื่นมืออกมาดึง

กระโปรงเพื่อที่จะพยายามปิดขาที่ยาวเกินไปของเธอ

"ไม่สนใจ!"

หลังจากที่เย่หยู​พูดจบ เขาก็เมินฉินชิงและก็เดินตรงออกไป

"เดี๋ยว!"

ฉินชิงตะโกนข้างหลังเย่หยู

"ทำไม?"

"ขอโทษนะ เธอหน้าอกเล็กไป และฉันไม่ชอบแบบนี้!"

ราวกับสายฟ้าฟาดลงบนฉินชิง ทำให้เหมือนเธอช้าทั้งตัว

เมื่อฉินชิงกลับมาได้สติ เย่หยูก็ได้จากเธอไปแล้ว

ฉินชิงกำมือของเธอแน่นและแววตาของเธอก็ฉายแววแห่งความเกลียดชัง

"ถุย! ทำมาเป็นเสแสร้ง ก็แค่ผีน่าสงสารตัวหนึ่ง หล่อก็ไม่หล่อสักนิด ฉันต้องใช้แผนสำรองแล้วละ น่าเสียดาย "

ในห้องเรียนมัธยม 1 เย่หยูเดินเข้าไปในห้องเสียงดังจากครูทำให้ห้องเงียบทันที หลังจากนั้นใน

ไม่ช้านักเรียนสองสามคนก็เริ่มกระซิบกัน

"ทำไมเย่หยูถึงไม่เป็นอะไรละ?"

"ฉันได้ยินมาว่าโอหยางหยูบอกเขาให้ไปที่ป่า"

"ใช่ โอหยางหยูไม่ง่ายเลยนะที่จะคุยด้วย ดูเหมือนเย่หยูจะไม่ได้รับบาดเจ็บ"

"เฮ้!เสแสร้งว่าเป็นหลานชาย และเราจะทำอะไรได้ "

"บางทีเขาอาจจะเสียเงินไปเยอะ"

สายตาเย่หยูเปล่งประกาย เมินเฉยพวกเขา เขาเพียงนั่งลงบนเก้าอี้

"เย่หยู ได้ยินมาว่าโอหยางหยูบอกให้นายไปที่ป่าเมื่อวานไม่ใช่หรอ?"

ฮันเสวี่ย ถามเย่หยูระหว่างที่เรียนเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา

เย่หยูเผยให้เห็นรอยยิ้มและพูดว่า

"ไม่เป็นไร ฉันคุยกับโอหยางหยูอย่างเป็นมิตร จนถึงตอนนี้เขาไม่ได้มาหาเรื่องฉันแล้ว"

"อ่อ ดีแล้ว ฉันกังวลเรื่องนายอยู่…"

"นี่เธอกังวลว่าฉันจะได้รับบาดเจ็บหรอ? "

"มั่นใจได้เลย ฉันแข็งแรงมาก!"

เย่หยูยกแขนขึ้นมาและเบ่งกล้ามให้ดู

"เอ่อ? เย่หยู นายพันอะไรไว้ที่ข้อมือหนะ? มันสวยมาก "

ฮันเสวี่ยพบว่าเย่หยูสวมโซ่เงินที่พันรอบข้อมือของเขา และมีขวดแก้วเล็กๆห้อยอยู่ เขาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"ของดีหนะ!"

เย่หยูคลายโซ่ออกแล้วถือขวดเล็กๆไว้ในมือ และมองไปที่มัน

นอกเหนือจากโซ่เงินแล้ว ก็มีขวดที่มีขนาดเท่านิ้วโป้งที่ดูน่าสนใจเป็นพิเศษ

ขวดแก้วคริสตัลที่เต็มไปด้วยของเหลวจำนวนมาก

ขณะที่กำลังเคลิ้ม มันประกายเป็นแสงดวงดาว

ดูเหมือนมันจะมีเวทย์มนต์วิเศษอยู่